ความคิดเห็นที่ 1 AFC ทำ จากคุณ : spontaneous เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 22:18:14

ความคิดเห็นที่ 2 สมาคมไม่เคยต้องการให้มีการรวมลีกครับ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่ผลงานของสมาคมแน่นอน จากคุณ : KungDekZa เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 22:21:56

ความคิดเห็นที่ 3 ที่แน่ๆต้องยกความดีความชอบให้กับ กกท. ที่รวมลีก, ชลบุรีที่ทำให้ทีมจังหวัดบูม, AFC ที่ออกกฎมาบังคับประเทศสมาชิก และแฟนบอลทุกๆคนที่ติดตามเผยแพร่ ข่าวสารกันมาตั้งแต่ต้น ส่วนสมาคมฯกับสื่อบางแห่งแค่เกาะกระแสครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 22:29:17

ความคิดเห็นที่ 4 -การรวมลีกเป็นรฝีมือของบิ๊กแนท (สามี มาดามมล)เป็นจุดเริ่มต้นครับ ไทยลีกของสมาคม โปรลีกของกกท ซึ่งสมาคมขัดค้านแบบหัวชนฝา สยามกีฬาก็ยังเคยวิจารณ์ว่า "ฝีเท้าไม่เท่ากัน" ระหว่าง2ลีก -ชลบุรี เป็นผู้เริ่มปลุกกระแส"ทีมจังหวัด"ทีมีกองเชียร์ตามเชียร์นับพันในสนาม ซึ่งสมัยนั้นเป็นอะไรที่ฮือฮามาก -ไฟฟ้าไปรวมกับอยุธยาได้ฐานแฟนบอลแล้วช่วยนำทีมให้ได้แชมป์ ทำให้ทีมต่างๆพยายามไปรวมกับจังหวัด หรือ สร้างฐานแฟนบอล สำเร็จหรือล้มเหลวก็ตามแต่ กระแสไทยลีก ผมจำได้ว่ามันเริ่มมาอย่างนี้ สมาคมมาทีหลังสุด มาแอบอ้างความดีความชอบไปเฉย จากคุณ : Longinus เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 22:29:41

ความคิดเห็นที่ 5 -------------------------------------------------------------------------------- http://www.dinofanclub.com/%e0%b8%9f%e0%b8%b8%e0%b8%95%e0%b8%9a%e0%b8%ad%e0%b8%a5%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2/%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%9f%e0%b8%b8%e0%b8%95%e0%b8%9a%e0%b8%ad%e0%b8%a5%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b8%9e%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%84/ ไปเจอในเวปแฟนขอนแก่นเลยคัดลอกเอามาลงดูครับ   คคห.เค้าน่าสนใจดี ******************************************************************************************** โปรลีกจุดกระแสฟุตบอลไทย สู่ฟุตบอลอาชีพ เมื่อปี  2542 กกท ได้ริเริ่มฟุตบอลลีกของคนทั้งประเทศใช้ชื่อว่าโปรวินเชี่ยลลีก โดยใช้ทีมของแต่ละจังหวัดแข่งขันในแบบลีกเย้าเยือนแต่เนื่องจากรัฐบาลยุคถัด มาเป็นคนละพรรคการเมืองทำให้โครงการดังกล่าวถูกดอง และโปรวินเชี่ยล ลีกจึงเป็นแค่ลีกเมียน้อย และเป็นเพียงลีกสมัครเล่นเพราะไม่ได้มีการจัดการอย่างเป็นระบบทำให้ปลุก กระแสบอลลีกไม่ขึ้น ปี 2548-49  เมื่อฟุตบอลไทยลีกที่แฟนบอลไทยเรียกว่า บอล กทม.ลีก ตกต่ำสุดขีด ก็มีแนวคิดปรับปรุงระบบบอลลีกขึ้นมาจากหลายฝ่าย แนวทางที่หลายฝ่ายคิดคือการสร้างฟุตบอลลีกของคนไทยทั้งประเทศไม่ใช่แข่งกัน แค่ในกรุงเทพ และการโจมตีการทำงานของสมาคมเป็นไปอย่างหนักหน่วงแต่ก็ไร้ผล มีเพียงการนำทีมชลบุรี และสุพรรณ จากโปรลีกมาเล่นในไทยลีก แต่แผนการพัฒนาสู่ความเป็นอาชีพยังไม่ชัดเจน และสุดท้าย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจึงทนสมาคมฟุตบอลไม่ไหวจึงจัดปรับฟุตบอลโปรวิ นเชี่ยลลีกไปสู่ลีกอาชีพ เปลี่ยนชื่อเป็นฟุตบอลโปรเฟสชันนัลลีก ในปี 49 โดยมีทีมเข้าแข่งขันจากโปรลีก 14 ทีม+2 ทีมจาก กทม คือ ทีโอที กับการท่าเรือ หลายคนงงว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ผมเข้าใจว่า กระทรวงคงเห็นแล้วว่าแนวทางของสมาคมมันล้มเหลว ซึ่งผมเห็นด้วย แนวทางของสมาคมล้มเหลวโดยสิ้นเชิง สิบปีมีแต่ถอยหลัง และแฟนบอลไทยก็คงเห็นด้วยเพราะกระแสตอบรับฟุตบอลโปรลีกดีมาก ดีจนสมาคมต้องหันมาดู และไม้เด็ดที่สมาคมใช้เพื่อกำจัดฟุตบอลโปรลีกคือ ฟีฟ่าให้การยอมรับฟุตบอลลีกในประเทศไทยเพียงลีกเดียวคือลีกของสมาคมเท่านั้น ดังนั้นฟุตบอลโปรลีกแข่งไปก็โกอินเตอร์ไม่ได้ เมื่อกระแสการตอบรับฟุตบอลโปรลีกดีมาก เกิดกระแสท้องถิ่นนิยม กระแสบอลไทยเริ่มได้รับการสนใจ  เมื่อทั้งสองลีกมีข้อดีข้อเสียคนละอย่างการรวมลีกจึงเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่ สุด และในที่สุด สมาคม และ กกทก็ได้ข้อตกลงเกี่ยวกับการรวมลีก เป็น แนวทางพัฒนาบอลลีกของไทยดังนี้ สำหรับ ผมแล้วฟุตบอลโปรลีก ถือว่าเป็นการปลุกกระแสบอลไทย  และฟุตบอลลีกอาชีพของไทยอย่างแท้จริง ถ้าไม่มีฟุตบอลโปรลีไม่รูสมาคมจะหลงทางอยู่ในวังวนเดิมๆอีกนานแค่ไหน  และนี่คือการเดินทางมาถูกทางแล้วเหลือแค่การสร้างระบบให้เป็ระบบอาชีพเต็ม ตัว มีเพียงสิ่งเดียวที่ผมหวังแต่ไม่สำเร็จคือการยกฐานะของถ้วยฟุตบอลพระราชทาน ก ไปเป็นถ้วยลีกสูงสุดเพราะที่จริงแล้ว ถ้วยพระราชทาน ก คือถ้วยสูงสุดของฟุตบอลไทยที่ได้รับพระราชทานจากในหลวง  แต่เมื่อมันเป็นไปไม่ได้แล้วก็ช่างเถอะ ขอให้สมาคมพัฒนาบอลลีกอาชีพให้เข้มแข็งที่สุดของเอเชียให้ได้เร็วๆก็พอ สิ่งที่น่าเป็นห่วงของฟุตบอลไทยคือ การเมืองมักจะเข้ามาแทรกแซงทั้งทางตรงและทางอ้อม สมาคมต้องป้องกันให้ดี จากคุณ : yassemo เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 22:38:10

ความคิดเห็นที่ 6 แวะมาแปะลิงค์ประวัติบอลไทยลีก โดยพี่เปี๊ยก นิดนึง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ  ( เพิ่งเจอในอากู๋ตะกี้นี้ ) ลีกไทย โดย The Football   http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?topic=16467.0 ประวัติโปรลีกศาสตร์โปรลีก http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?topic=31760.0 จากคุณ : yassemo เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 22:39:08

ความคิดเห็นที่ 7 รวมลีกเป็นฝีมือของหลายคนบิ๊กแนทนั้นก็ด้วย และมีปัญหากับสมาคมมาโดยตลอด พอรวมลีกได้มันก็ยังไม่บูมเหมือนทุกวันนี้นะ สิ่งที่ทำให้ลีกบูม มันก็มาจาก หลายส่วน ชลบุรีเอฟซีพร้อมเหล่ากองเชียร์ เป็นภาพที่หลายๆคนประทับใจจุดกระแสให้เกิดขึ้น AFC กับกฏที่ออกมาบังคับทำให้หลายสโมสรต้องปรับตัว   สื่อในเน็ตเช่นบอร์ดนี้ มีการนำภาพมาเผยแพร่ในแต่ละสนามทำให้ผู้คนเริ่มสนใจมากขึ้น จากคุณ : Raycer_X เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 22:52:14

ความคิดเห็นที่ 8 ตอนที่ แฟนบอลชลบุรี รวมตัวกันมาเชียร์เข้าสนาม ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่เข้าไปดูเงียบๆ ไม่ได้ไปอยู่ในกลุ่มฮาร์ทคอตะโกนร้องเพลง บอกตรงๆว่า ผมไม่เห็น จะมี ใครมาสนใจเลย นอกจาก ช่องสามกับสื่อส้วมที่เข้ามาทำข่าวบ้างง มีรายงานข่าวบอลลีกส์บ้าง แฟนบอลก็เข้าสนามไปเชียร์กันเอง ประชาสัมพันธ์กันเอง บอกต่อๆกัน มีเพื่อนชวนเพื่อน มีญาติชวนญาติ ผมเปิดหนังสือพิมพ์หัวสี หลายสำันัก ไม่เห็นจะเคยสนใจ เล่นข่าวนี้เลย บอลเตะวันไหน เมื่อไหร่ ตอนไหน เปิดเลกตอนไหน ไม่มีใครรู้ ถ้าไม่ใช่แฟนบอลและทีม ประชาสัมพันธ์กันเอง ผมยังจำทีมราชนาวี ตอนที่ยังอยู่ ดิวิชั่น1 ได้เลย ผมเห็นเค้า เช่ารถแบบรถหาเสียง ขับวนรอบๆสัตหีบ ประชาสัมพันธ์ชวน คนเข้าไปดูบอลในสนามอยู่เลย ผมก็แค่แฟนบอลคนนึง ที่เข้าไปดูบอล ผมไม่รู้หรอก ว่า เค้าจะอ้างว่าใคร เป็นคนทำให้บูม ก็เรื่องของเค้าอยากเอาหน้าก็เชิญตามสบาย ผมรู้แต่ว่า ไม่ว่ายังไง ผมก็จะเข้าสนาม ไปดูชลบุีรี เตะในบ้าน ถ้าผมว่าง เพราะผมรักทีมชลบุรี ถึงแม้บอลไทยจะไม่ได้อยู่ในสายเลือด เพราะผมชอบบอลนอกมากกว่า แต่ คุณที่บอกว่าตัวเองบอลไทยอยู่ในสายเลือด เชียร์บอลไทย อยากให้บอลไทยพัฒนา รู้เรื่องบอลไทยดีทุกซอกทุกมุม ผมยังอยากให้ทุกคนสนับสนุนกันต่อไปนะ จากคุณ : โชริแมน เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 23:00:58

ความคิดเห็นที่ 9 สำหรับผม การเปลี่ยนแปลงของฟุตบอลไทยลีก เริ่มต้นขึ้น ในการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกปี 2007 นัดรองสุดท้ายระหว่าง ชลบุรี กับ ธ.กรุงไทย นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นคนมาดูบอลไทยลีกล้นสนาม ผ่านทางการถ่ายทอดสดของ True Sport จากคุณ : ToyZHardy เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 23:25:46

ความคิดเห็นที่ 10 - เริ่มจาก  รมต  คนนึง (จำไม่ได้ว่าใคร  แต่เป็น ปชป มั้ง)  ต้องการสร้างบอลลีกให้แข็งแรง  เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาเป็นอาชีพ  รวมถึงคนที่ทำงานที่เกี่ยวข้อง  การค้าขาย  สร้างอาชีพได้เยอะ     - สมาคมมีบอลลีกอยู่แล้ว  และนักการเมืองไม่สามารถเข้าไปกดดันสมาคมได้  เนื่องจากเป็นกฏของ ฟีฟ่า   ทำให้ มีการโอน การทำฟุตบอลอาชีพไปยัง กกท     - กกท จึง ทำโปรลึกขึ้นมา  หรือเรียกว่า โปรวิเชี่ยนลีก  ก็คือลีกต่างจังหวัด  ครั้งแรกมี 16 หรือ 18 จังหวัด นี่แหละ  แต่ละจังหวัดก็เป็นชื่อทีมตามด้วยฉายา เหมือน ทีมอเมริกันฟุตบอล  เช่น ชลบุรีชาร์ค  สุพรรณบุรีวอร์ริเออร์  อะไรประมาณนั้น     โดย  รัฐ ได้ให้แนวทางในขณะนั้นว่า  ใช้เวลาซัก 5 ปี  ก็ค่อยๆ ไปรวมกับทีมของสมาคมที่จัดไทยลีก กันตอนนั้น   แต่เชื่อหรือไม่  โปรลีก  ที่ทำท่าจะไปไม่รอดใน 2 ปีแรก  มีคนดูส่วนใหญ่ไม่กี่ร้อยคน  มีไม่กี่สนามที่คนดูเต็มสนาม  แต่ก็มากกว่าของสมาคมนิดหน่อย ที่นักเตะ 2 ทีมรวมกับผู้ที่เกี่ยวข้องมากกว่าคนดู        แต่เข้าปีที่ 3 กลับคึกคักมาก  คนดูเข้าหลักพันเกือบทุกสนาม  และอีกหลายๆ สนามคนดูเต็มสนาม   มาในปีนี้  โปรลีก 1 นัดที่คนดูเยอะๆ   น่าจะมีจำนวนคนดูมากกว่าไทยลีก 1 สัปดาห์  และปีนี้เองที่มีโปรลีก 2 ลีกรอง  เป็นทีมท้องถิ่นมากขึ้น  โปรลีกอย่าง  นราธิวาส จันทบุรี  ซึ่งเป็นแค่ลีกรอง  จำนวนคนดูบางนัดนี่เต็มสนามความจุ  ฮือฮากันเป็นอย่างมาก    เรียกว่าเทียบกันไม่ได้เรื่องคนดูกับไทยลีก หรือที่ชาวโปรลีกเรียกว่า กทม.ลีก  ในขณะนั้น ทีนี้กระแสต้องการให้รวมลีกก็เกิดขึ้น  แต่สมาคมเอง  สื่อลิ่วล้อเอง  ออกอาการต่อต้านอย่างชัดเจน  โดยเฉพาะสื่อไม่มีการออกข่าวใดๆ เกี่ยวกับโปรลีกเลย   ส่วนการรวมลีก  เริ่มต้นเจรจา  โดยฝั่ง  รมต. ขณะนั้นก็เป็นคุณสนธยา รมต กีฬาคนแรกของไทย   กับคุณ ชัยภักดิ์   คนในสมาคมเองที่เป็นคนคอยประสานงานกัน  ช่วงแรกๆ นี่คุณชัยภัดิ์ เหมือนจะยืนข้าง  สมาคมเต็มๆ   ผิดกับ คุณสนธยา  ที่ต้องการรวมลีกอย่างชัดเจน   เจรจาเรื่องนี้กันนานประมาณ 2 ปี  ลุ้นกันตลอด   จนปีที่ 3 จึงทำได้สำเร็จ   เรียกว่าบอลท้องถิ่นนิยมนี่  ทำงานร่วมกันตั้งแต่สมัย รัฐบาล ปชป   จนมาจบที่สมัย  รัฐบาล ไทยรักไทย  โดยคุณวิทยา สมัยที่คุณ สนธยา  เข้ามาเป็น รมต.  ก็มีการเข้าไปจัดการดูแลทีมชลบุรี  ทำให้ทีมชลบุรีแข็งแกร่งขึ้น  นักกีฬาเข้าทีมดีๆ    จากเมื่อก่อนเป็นทีมกลางๆ ในโปรลีก  จนสามารถก้าวมาเทียบกับสุพรรณ  นครสวรรค์ และเป็นแชมป์โปรลีกในที่สุด จนเมื่อรวมตัวกันของ 2 ลีกโดยปีแรกได้สิทธิจากโปรลีกแค่ 2 ทีม คือ สุพรรณ กับ ชลบุรี    และโปรลีกเดิม เปลี่ยนชื่อจาก  โปรวิเชี่ยนลีก เป็นโปรเฟสชั่นแนลลีก     ปีแรกที่เข้าสู่ไทยลีก  ชลบุรี มีการเปี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด  มีการดึงโค้ชเฮงมาจากสิงคโปร์เข้ามา (เหมือนจะดึงมาตั้งแต่โปรลีกปีหลังๆ) มีการดึงนักเตะดีๆ เข้ามา  มีการทำทีมอย่างเป็นระบบมากขึ้น   แต่ช่วงปีแรกทีมจากโปรลีก 2 ทีมที่เข้าสู่ไทยลีก ทำได้แค่ประคองตัว   ถึงแม้ชลบุรี กับ สุพรรณบุรี  มีคนเต็มสนามในนัดที่เป็นจ้าวบ้าน  เริ่มเก็บค่าผ่านประตูเห็นเป็นตัวเงินเยอะขึ้น  ขายเสื้อและของที่ระลึก ได้เป็นจำนวนเงินเยอะ  จนทีมในไทยลีกเอง ก็พยายามปรับตัว  แต่ไทยลีกทีมอื่นๆ ก็ยังใช้สนามกลางอย่าง เทพหัสดิน  ที่เคยใช้ร่วมกันมา ทำให้ทำแบบทีมต่างจังหวัดยาก  คนดูก็ยังไม่เยอะ  ยกเว้นนัดที่ 2 ทีมต่างจังหวัดมาเตะ    มาถึงตอนนี้หลายๆ คนมองว่า  ทีมจากต่างจังหวัดไม่น่าจะเข้ามาเทียบชั้นไทยลีกได้   เพราะแข่ง FA cup ปีนั้น ทีมจากโปรลีกอื่นๆ ก็ตกรอบ  และ 2 ทีมที่ได้ไปเล่นไทยลีกก็เข้ารอบได้ไม่ลึกมากนัก  แต่ก็พอเห็นแนวท้องถิ่นนิยม  และกลิ่นฟุตบอลอาชีพมาบ้าง    ปีนี้มีการเลือกนายกสมาคมกันอีกครั้ง  โค้ชเฮง เสนอตัวเข้ามา  แต่ก็สู้เล่ห์เหลี่ยมของลิ่วล้อในสมาคมไม่ได้  โค้ชเฮงเลยไปทำทีมที่ญี่ปุ่น  ส่วนชลบุรีก็ดัน โค้ชจะเด็จ ขึ้นมาทำทีม     ปีที่ 2 ได้ทีมจากโปรลีกขึ้นมาอีก 1 ทีม  น่าจะเป็นนครปฐม    ส่วนอีก 1 ทีมเป็นทีมของสมาคมเดิมในดิวิชั่น 1    แต่เหตุการณ์ที่เป็นที่น่าจดจำของฟุตบอล  ชลบุรี  สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่  คนดูเต็มสนามทุกนัดในบ้าน  มีการขนกองเชียร์ตามไปเชียร์ถึง กทม.   มีรายได้บางนัดเป็นหลักล้านบาท    และมีการซื้อเวลาจากสยามกีฬาทีวี (โดยทีมชลบุรี)  ถ่ายทอดนัดที่ชลบุรีแข่ง   ซึ่งทำให้คนเห็นบ่อยขึ้น  คนทางเคเบิ้ลท้องถิ่นก็ได้ดู  รวมถึงผ่านดาวเทียม      จนในที่สุด    ชลบุรีคว้าแชมป์ไทยลีกได้สำเร็จ  ยิ่งใหญ่มากทั้งในแง่ การทำทีม  การเป็นบอลอาชีพ  กองเชียร์แบบแฟนพันธ์แท้  รายได้จำนวนหลายล้านบาท จากค่าผ่านประตูและของที่ระลึก  เสื้อ      และปีที่ชลบุรีได้แชมป์นี้เอง  ที่มีชื่อ ทีมหนองจอกยูไนเต็ด เข้ามาในสารระบบ  โดยการเข้าไปทำทีมโดยสยามกีฬา   สิทธิ์ในการจัดการซื้อมาจาก คุณวีระ (เสื้อแดง)   ส่วนสิทธิ์ในการทำทีมมาจากบังยี  (มันน่างงไหม)       มาปีที่ 3  มีการยุบโปรลีก ไปรวมกับดิวิชั่น 1  และโปรลีก 2 ไปรวมกับ ดิวิชั่น 2  พร้อมๆ กับวางแผนเรื่องระบบ ขึ้นชั้นเลื่อนชั้นกันใหม่  แต่ปีนี้ยังคง งงๆ กัน เพราะรวมกันจริงๆ แล้วทีมมันเยอะ       และปีนี้ทีมจากไทยลีก เดิม  เริ่มไปหาทีมต่างจังหวัด เพื่อสร้างฐานแฟนบอล  เช่น ไฟฟ้าอยุธยา  Tot เมืองกาญจ์    TTM สมุทรสงคราม  โดยใช้ชลบุรีเป็นแม่แบบ             และทีมที่ได้แชมป์ก็คือ การไฟฟ้า   และ หนองจอก ซึ่งมาสร้างฐานแฟนบอลที่แถวๆ เมืองทองก็ใช้ชื่อทีมว่า  เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด ได้แชมป์ดิวิชั่น 1  เลื่อนชั้นขึ้นไทยลีก หลังจากนั้นก็มีการเข้ามาจัดการของ AFC     , ทำให้เกิดทีมอย่าง   BG   และการหายไปของบางทีม  เช่น แบงค์กรุงไทย กรุงเทพ สรุปได้เลยว่า  ส่วนสำคัญที่ทำให้ไทยลีก บูม  ก็ คือ ชลบุรี โมเดล     ,  กับ AFC    ส่วนเมืองทองเป็นส่วนเสริมขึ้นมา  เพราะเจ้าของทีมเป็นสื่อ  ถึงแม้ไม่มีเมืองทอง ก็คงบูมไม่ได้ต่างกัน    แต่ถ้าไม่มีชลบุรี โมเดล  ก็คงไม่เห็นแนวทางการทำทีมของหลายๆ ทีม   และหากไม่ได้ AFC  ก็คงไม่ได้มีการปรับปรุงมาตรฐานกันมากนัก เรื่องที่เล่ามาผิดถูกยังไง ขออภัย เพราะมาจากความจำ  แต่ก็คงไม่ได้คลาดเคลื่อนไปเท่าไหร่นัก จากคุณ : Control.A เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 23:36:47

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่ได้ตอบมานาน ขอซักนิดละกัน ผมก็เป็นคนนึงที่ดูโปรลีคในช่วงกลางถึงช่วงก่อนยกเลิกไป ขอบอกว่าบอลลีคที่วันนี้รุ่งได้นั้น ไม่ได้มาจากทั้ง กกท. และ สมาคมเลย..  มันมาจากทุกๆ คนที่มีส่วนร่วม แฟนบอลในโปรลีคมันไม่ได้มากมายอะไรหรอกครับ เท่าที่จำได้มีเยอะๆ ก็ที่สุพรรณฯ ชลบุรี นครปฐม แต่ก็ไม่ได้มากมายเท่าสมัยนี้ แฟนบอลหลายกลุ่มพยายามช่วยกันสร้างกระแส แต่เมื่อสื่อกีฬาไม่ให้ความสนใจทำยังไงก็เป็นเรื่องยากในการสร้างกระแส โปรลีคถ้าได้ลงไปสัมผัสจริงๆ จะรู้ว่าการทำทีมเป็นแบบ"ราชการ" คือของบทำทีม ใช้งบให้ได้ในแต่ละปี นักเตะคือเด็กของโค้ช โค้ชคือคนที่ได้งบและจ่ายเงินให้เด็ก(นักบอล) เลี้ยงดู ให้กินข้าว ให้เงินหลังการเตะพร้อมสั่งสอนว่าเงินโค้ชนะ... เพราะฉะนั้นโปรลึคคือสิ่งที่ กกท.ทำตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการสร้างกีฬาอาชีพแต่ กกท.ไม่มีวิสัยทัศน์ขนาดนั้น ก็เลยให้งบไปตามแผนการดำเนินการ ดีที่ทางชลบุรีมีแนวคิดอีกแบบที่ต้องการสร้างทีมอาชีพ ทั้งยังมีผู้ดำเนินการให้สำเร็จทั้งจาก ผจก.ทีม (อรรณพ สิงโตทอง) และโค้ชเฮง หลายคนเสนอให้มีการรวมลีคในช่วงแรกๆ หลายคนคัดค้านซึ่งทั้งจากฝั่งแฟนโปรลีคและแฟนไทยลีค แฟนโปรลีคว่าควรพัฒนาจากรากฐานแฟนบอล แฟนไทยลีคว่าบอลโปรลีคไม่ได้มาตรฐาน ทั้งหมดก็มีเหตุผลของมัน ในช่วงแรกๆ จึงมีความเห็นที่ไม่ลงรอยกันเยอะ แต่มันก็รวมกันจนได้ ด้วยสูตรที่ไม่ค่อยเป็นธรรมสำหรับโปรลีคซักเท่าไหร่เพราะได้มาแค่ 2 ทีม (แชมป์และรองแชมป์)..  สิ่งที่เกิดกระแสคือชลบุรี(แชมป์) ที่ก้าวขึ้นมาสร้างสีสันและกระแสอย่างที่ทุกคนรู้กันหมดแล้วละครับ สื่อกีฬาหลักก็เริ่มลงมาเล่นด้วยเพราะทีมเมืองทองที่มีเจ้าของสื่อเป็นหุ้นใหญ่ ในความเห็นส่วนตัวแล้ว ทั้ง กกท. และ สมาคม ไม่ใช่เป็นคนที่จะได้รับการยกย่องเชิดชูเลย สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เกิดจาก (1) แฟนบอล (2) สื่อ (3) AFC จากคุณ : biggg เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 23:39:40

ความคิดเห็นที่ 12 กกท AFC สโมสรชลบุรี แฟนบอลและสโมสรจังหวัดต่างๆ ตามมาด้วยสื่อ หนังสือพิมพ์ ทีวี (รวมสยามกาลีด้วย) .... ที่ไม่เกี่ยวเลย คือสมาคมฟุตบอล จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 23:40:08

ความคิดเห็นที่ 13 สมาคมฟุตบอล สั่งทำถ้วยรางวัลจากอังกฤษราคา 2ล้านบาท ทำให้กระแสไทยลีค Boom..... จากคุณ : trebley เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 23:47:38

ความคิดเห็นที่ 14 ถามว่าไทยลีกบูมเพราะอะไร มันต้องย้อนกลับไปตั้งแต่แรกจะรวมลีกเลย ขอบอกว่าไม่เกี่ยวกับการเมืองนะครับ เริ่มแรก กกท. โดย คุณประชา มาลีนนท์ และ ท่านรองเฉลิมชัย ที่ดูแลโปรลีกเรียกร้องให้รวมลีกมีการรวมลีก เพราะต้องการให้ทีมจากโปรลีกได้สิทธิ์ในการไปเล่นบอลถ้วยเอเชียด้วย VJ เห็นด้วยกับการรวมลีก กกท. ต้องการให้นวกทั้ง 2 ลีกเข้าด้วยกันไปเลย คือต้องการไม่ให้มีโปรลีกอีกต่อไป กกท. ต้องการให้ใช้สูตร 10+10 คือไทยลีก 10 ทีม โปรลีก 10 ทีม บิ๊กแนต ที่ดูแลไทยลีก ปีแรก ให้ สุพรรณ กับ ชลบุรี เข้าร่วมไทยลีก ผลปรากฎว่าผลงานไม่ดีเท่าที่ควรทั้ง 2 ทีม กกท. ยอมลดเหลือ 16 ทีม แต่ขอเป็นโปรลีก 4-6 ทีม แต่สมาคมจะให้แค่ 2 ทีม ถ้าไม่เอาก็ต่างคนต่างจัด สมาคมไม่ตกลงตามข้อเสนอ แต่กกท. ยังดึงดัน สุดท้ายเกิดกรณีพิพาท โปรลีกจึงได้ดึงดึง TOT ที่ตกชั้นจากไทยลีก กับทีมการท่าเรือไทยชุด 2 มาเตะโปรลีกพร้อมเปลี่ยนชื่อจากโปรวิเชียลลีก เป็นโปรเฟสชันเนลลีก ระหว่างนั้นก้เกิดความพยายามที่จะหารือเรื่องการรวมลีกหลายครั้งแต่ก็ล้มโต๊ะทุกครั้ง ทักษิณ ชิณวัตร นายกรัฐมนตรีสมัยนั้นมีคำสั่งลงมายังบิ๊กแนตผู้ดูแลไทยลีกว่าให้ทำการรวมลีกให้ได้ สุดท้ายก็ตกลงรวมลีกกันได้ แต่สมการรวมลีกยังไม่ลงตัว เสียงแตกเป็น 5 ฝ่าย ทั้ง 12 ทีม (จำไม่ได้) 16 ทีม (ไทยลีก 12 +โปรลีก 2 + D1 2) 16 ทีม (โปรลีก 4 ทีม) 18 ทีม (โปรลีก 8 ทีม) 20 ทีม (โปรลีก 10 ทีม) สุดท้ายเลือกตัวเลือกที่ 2 จากที่กล่าวมา บังยีไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรในการรวมลีกเลย นอกจากตอนลงความเห็นและคะแนนเสียงว่าจะใช้สูตรไหนในการรวมลีก ปีแรกที่ชลบุรี และ สุพรรณมา แข่งไทยลีก ถ้าจำไม่ผิด ยังใช้สูตรเตะสนามเดียวไม่มีเหย้าเยือนอยู่เลย พอรวมลีกได้ ฐานแฟนบอลต่างๆของชลบุรีกลับมา พร้อมๆกับการเล่นเหย้าเยือน กระแสบอลไทยกลับมาอีกครั้ง พร้อมๆกับทีมชาติไทยชุดใหญ่ที่กลับมามีโปรแกรมแข่งหลังจากห่างหายไปกว่า 3 ปี ชลบุรี ได้แชมป์ไทยลีก และทรูวิชั่นได้ลิขสิทธิ์ถ่าย AFC Champions League ชลบุรี โชว์ผลงานได้ดีใน ACL รอบแบ่งกลุ่ม พร้อมภาพบรรยากาศของแฟนบอลที่มากมายจนคนที่ไม่เคยรู้ไม่เคยสัมผัสได้เห็นยังตกใจ และที่สำคัญ การเล่นของนักเตะที่ชื่อ Ney Fabiano และ ลูกยิงผีจับยัดของ Baga จากผลงานและภาพแฟนบอลของชลบุรีในรายการ ACL ที่ออกผ่านจอทีวีเริ่มเป็นที่พุดกันปากต่อปาก และทำให้มีคนจำนวนหนึ่งเริ่มติดตามผลงานของชลบุรีนัดต่อๆไปใน ACL ทรูวิชั่นเริ่มถ่ายไทยลีก และเอฟเฟคที่ได้หลังจากการเล่นของชลบุรีในรายการ ACL คือคนเริ่มมาตามต่อในไทยลีก นันทวัฒน์ แทนโสภา ได้รางวัลดาวซัลโว ACL เป็นอีกจุดเล็กๆที่ทำให้คนเริ่มเข้ามาสนใจบอลไทย สโมสรธ.กรุงไทยอีก 1 ทีมที่โชว์ผลงานได้ดีใน ACL เริ่มได้รับการจับตาบ้าง ด้วยกระแสของทั้ง 2 สโมสร ช่วยให้คนสนใจไทยลีกมากขึ้น แต่ละจังหวัดอยากให้จังหวัดตัวเองมีทีมได้เล่นในไทยลีก กลับกันทีมในไทยลีกก็อยากให้ตัวเองมีฐานแฟนบอลแบบชลบุรี อีกด้านหลายๆคนก็เริ่มกลับมาสนใจไทยลีกและทีมที่ถูกมองหาจากแฟนบอลเป็นอันดับต้นๆก็คือ BEC เพราะเป็นทีมที่มีอดีตที่ยิ่งใหญ่ที่แฟนบอลรู้สึกสัมผัสได้มากที่สุด และยังมีผู้เล่นอันเป็นที่รักของแฟนบอลไทยอย่าง ตะวัน ศรีปาน ด้วย ประกอบกับ AFC มีมาตรการณ์ให้ไทยลีกเร่งปรับตัวให้ได้ตามมาตรฐานของ AFC การไฟฟ้าเป็นทีมหนึ่งที่ย้ายสนามเพื่อหาฐานแฟนบอล และชาวอยุธยาให้การต้อนรับสโมสรการไฟฟ้าเป้นอย่างดี สโมสรฟุตบอลชลบุรีควักเงินส่วนตัวจ้างช่องสยามกีฬาทีวีถ่ายทอดไทยลีกนัดที่ชลบุรีแข่งขัน ซิโก้ อดีตศูนย์หน้าหมายเลข 1 ทีมชาติไทย เข้ามาคุมสโมสรจุฬา และทำผลงานได้เป้นอย่างดี ทำให้มีคนเริ่มสนใจสโมสรนี้พอสมควร ช่วงท้ายฤดูกาล สโมสรในลีกดิวิชั่น 1 เริ่มเป็นที่สนใจของแฟนบอลด้วยผลงานอันโดดเด่น พร้อมนักเตะที่เก่งกินกว่าที่จะเล่นใน D1 ที่มีชื่อว่า Yaya ปีเตอร์ รีด เฮดโค้ชทีมชาติไทยลงไปชมเกมส์ D1 ในนัดที่เมืองทองลงแข่งบ่อยครั้ง จนสมโมสรเมืองทองเริ่มเป็นที่สนใจมากขึ้น พร้อมดันนักเตะที่ชื่อ สลาฮูดิน อาแว ขึ้นมาติดทีมชาติ เป็นโชคดีที่ ชลบุรีที่เป้นทีมที่คนทั่วๆไปที่ไม่ได้สนใจบอลไทยมากนักจะเข้าใจว่าเก่งที่สุดในเวลานั้นไม่ได้แชมป์ไทยลีก ทำให้พอทราบว่าชลบุรีเป็นแค่รองแชมป์ แล้วใครหล่ะที่เป็นแชมป์ การไฟฟ้านั่นเอง นั่นเป็นจุดที่ทำให้ไทยลีกมีทีมที่เป็นจุดสนใจมากขึ้นอีก 1 ทีม สโมสรการไฟฟ้าเป็นที่ถูกจับตา เพราะเป้นตัวแทนเพียงสโมสรเดียวที่ได้เล่น ACL รอบคัดเลือก แถมมีข่าวฮือฮาคือคว้าศูนย์หน้าชาวบราซิลมาจากสโมสรชื่อดังจากบราซิล ริชาร์ด ฟัลเกา แฟนบอลต่างจับตาการเล่นเพลย์ออฟของการไฟฟ้า และการเล่นของฟัลเกาในนัดเพลย์ออฟ แต่ก้ผิดหวังกันเป็นแถบๆ สโมสรฟุตบอลเมืองทองแชมป์ D1 ปีล่าสุดก้าวขึ้นมาเล่นไทยลีกซึ่งมีสื่อที่ชื่อว่าสยามกีฬาอยู่ในมือ ได้โละนักเตะแทบยกทีม และใช้สื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยการขยับตัวเป็นข่าวในทุกวัน สร้างทั้งกระแสและความตื่นตัวของวงการฟุตบอลไทยลีก ด้วยการออกกฎของ AFC ทำให้สโมสรที่ไม่สามารถเป็นอาชีพได้อย่าง ธ.กรุงเทพต้องยุบทีมลง และสโมสร ธ.กรุงไทยต้องยกทีมให้กับบางกอกกล๊าส สโมสรบางกอกกล๊าสเป็นที่จับตามองด้วยผลงานที่โดดเด่น และไฮไลท์สำคัญคือสาวๆกระต่ายแก้ว (และที่แน่ๆน้องพันสำคัญมาก) เป็นจุดเริ่มต้นให้มีพริทตี้บอลไทยไปทั่วทุกสนาม สโมสรฟุตบอลเมืองทอง ที่เป็นมีสื่อสยามกีฬาอยู่ในมือ ได้ทำการถ่ายไทยลีกนัดที่เมืองทองลงแข่ง ชลบุรียังเดินหน้า ควักเงินจ่ายให้สยามกีฬาทีวีถ่ายทอดสดแบบแพคเกจให้ถ่ายทอดนัดที่ ชลบุรี บางพระ และ ศรีราชา เมื่อแข่งในบ้าน ทรูวิชั่นยังคงถ่ายไทยลีกต่อเนื่อง แฟนบอลไทยได้ดูไทยลีกผ่านตากันมากขึ้น นักฟุตบอลต่างชาติฝ่เท้าดีถูกดึงเข้ามาเล่นในไทยลีกมากมาย เช่น Saruta , Michael Byrne สุรัตน์ สุขขะ ถูกดึงตัวไปเล่น A-League การท่าเรือ เป็นอีก 1 ทีมที่มีอดีตที่ยิ่งใหญ่ ที่เริ่มรวมตัวของแฟนบอลได้ กระแสบอลไทยแรงขึ้นจนมีการจัดรายการ FA Cup ขึ้นมา และเป็นการท่าเรือไทยที่ได้แชมป์ กระแสของการท่าเรือแรงขึ้นไปอีก จบฤดูกาลเมืองทองได้แชมป์พร้อมคอนเซปป์ 3 ปี 3 แชมป์ ไปพร้อมๆกับการเป็นข่าวที่เป็นประเด็นตลอดฤดูกาล และที่สำคัญการมีนักเตะอย่าง กวิน , ธีรศิลป์ , Dagno และ Yaya อยุ่ในทีม จบฤดูกาลเมืองทองยังคงเป็นทีมที่ใช้สื่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและบอลไทยได้อีกระลอกด้วยการจัดฟุตบอลชิงแชมป์ 4 เส้าสโมสรบอลไทย มีมาตรการจาก AFC มาอีกครั้งว่าให้เริ่งพัฒนาตามกฎให้ได้ ทุกสโมสรเริ่มตื่นตัวมากขึ้น มีนายทุนเข้ามาลงทุนกับบอลไทยมากขึ้น บอลไทยลีกเริ่มถ่ายทอดมากขึ้น บอร์ดบอลไทยเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น และแฟนบอลที่ให้ความสนใจบอลไทยมากขึ้นมันจึงได้บูมอย่างที่เห็นครับ จากคุณ : ploy16 เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 01:03:20

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่ใช่ทั้งคู่อ่ะ....ไทยลีคบูม มาจาก ปัจจัยภานนอก ...AFC ปัจจัยภายใน......ชลบุรี   เมืองทอง และแฟนบอลไทย จากคุณ : cantare เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 01:17:28

ความคิดเห็นที่ 16 แล้วตกลงสมาคมฯทำอะไรหว่า นอกจากคัดค้านการรวมลีค??? จากคุณ : แอ๊บซัง เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 01:28:32

ความคิดเห็นที่ 17 รับเรื่องตอนงานเสร็จ หรือ มีอะไรดีๆ จากคุณ : Sylphs เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 01:34:34

ความคิดเห็นที่ 18 กระแสที่มันแรงหนักจริงๆ น่าจะมาจากนัด ชลบุรี - เมลเบิน วิคตอรี่ เพราะกองเชียชลบุรีที่เข้ามาที่สนามศุภ+พลังการเชียร์นั้นสุดยอด นอกจากนี้แมทนั้นยังมันโคตรๆ เพราะช่วงที่สมาคมจัดลีกสุงสุดของประเทศอย่าง Clatex Premier league , GSM ThaiLeague , นั้นเน่าเหลือจะเน่า มาตรแย่ การจัดการห่วย ผมยังมีบัตรแข็งของ GSM ไทยลีกเก็บอยุ่เลย คนดูตอนนั้น อย่างมากก็ 300-500 คน บอลจบครึ่งคนเก็บตั๋วหาย รอดูฟรี ชิล !!! จากคุณ : Sylphs เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 01:38:32

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นคุณ ploy16 พูดถึงไฟฟ้าได้แชมป์แล้วนึกถึงแล้วอยากเล่า ปีนั้นชลบุรีได้รองแชมป์ แต่คนเข้าใจผิดว่าได้แชมป์กันเยอะมาก แล้วก็เป็นปีสุดท้าย ที่เตะในสนามเทศบาลชล อันแสนอบอุ่น จำได้เลย ว่าพี่โอ๊ต ณัฐพรขี่มอเตอร์ไซค์มาแข่งบอลซ้อนเมียมา เดินเล่นหน้าสนามก่อนแข่ง ยังไปขอลายเซ็นพี่แก ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกเลย เพราะรู้ว่าพี่แกเล่นให้กับชลเป็นปีสุดท้ายละ พี่แกอยากไปเล่นที่กรุงเทพ แต่ที่อยู่อีกปีก็เพราะด้วยใจจริงๆ จบเกมส์คนก็แห่ลงไปในสนามถ่ายรูป ที่ฮอทสุดก็ไม่พ้นเหมี่ยว เนย์ แล้วก็ไอ้บาส ที่ย้อมผมทองอยู่พักนึง แต่เรื่องไอ้บาส หมดแรงนี่ คนดูบ่นแต่ไหนแต่ไรละ เพราะครึ่งหลังมันหมดแรงทุกนัด ฮ้าๆ ผมจำได้ติดตา ปีนั้น ชลบุรีเล่นกะบีอีซีในบ้าน คนดูเยอะมากเพราะส่วนนึง อยากมาโห่ลีซอ จะจบเกมส์เสมอ 0-0 ละคนดูบางคนก็เดินออกจากสนามไปแล้ว เจ้าตี๋ มันจะล็อกหลบกองหน้าบีอีซีไม่แน่ใจว่าอานนท์รึเปล่า แล้วพลาด โดนแย่ง โดนนักเตะบีอีซี ยิงเข้าไปจบเห่ คนด่ากันตรึม เพราะนัดนั้น มีบอลพรีเมียร์ลีกส์นัดสำคัญ แมนยู เจอ อาร์เซน่อลมั้ง ถ้าจำไม่ผิด ผมเห็นหลายคนเลย ที่ดูบอลไป โทรไปเช็คผลไป แต่ชลบุรีก็อยากดู แล้วมาเจอไอ้พี่ตี๋พลาดอีก เลยเซ็งกันตามๆ แถมพี่แกพลาดแล้ว ทำเนียนโวยวายกรรมการด้วยนะ โถ่พี่ เค้าเห็นกันหมดแล้วว่าพี่นะ เตะวืด จนเมืองทองขึ้นชั้นมา บอลไทยก็บูมขึ้นไปอีก แต่พอบอลลีกส์บูม ปุ๊บ แทนที่อะไรจะดีขึ้น กระแสบอลไทย กลับมีอะไรเหมือนเป็นเวรเป็นกรรม ที่ต้องทำให้มันดำดิ่งลงอีก ทั้งสื่อส้วมที่เริ่มออกลาย เล่นข่าวอวยทีมตัวเอง จนคนอื่นเค้าหมันใส้ ไม่เผาผี ไม่ซื้อสินค้าในเครือสยามกีฬากันหลายคน จนพาลไปเหมารวมถึงสโมสรเมืองทอง รวมทั้งแฟนบอลอีกด้วยซึ่งหนึ่งในนั้น มีผมอยู่ด้วยหนึ่งคนหล่ะ ซึ่งแฟนบอลชลบุรี หลายคน เชือกเส้นสุดท้ายขาด ก็ตอนที่หนังสือพิมพ์ฉบับนั้นโจมตีแฟนบอลชลโดยเสนอข่าวบิดเบือนนั่นแหละ แต่ไม่ขอพูดถึงละกัน คิดว่าทุกคนจำได้และมีวิจารณญานในการตัดสินใจ เพราะมันจบไปแล้ว นายกสมาคม ที่ไม่เอาไหน แถมเอาเท้าราน้ำอีก บริษัทไทยพรีเมียร์ ที่จัดโปรแกรมห่วยแตก นึกอยากย้ายก็ย้าย นึกอยากจะอัดแข่งๆให้มันจบๆ ใครอยากขอเลื่อนก็ขอ มั่วไปหมด ฝนตกน้ำท่วมก็เลื่อน ไฟดับก็เลื่อน อยากจะเพิ่มทีมก็เพิ่มเอาดื้อๆ อยากจะจัดบอลถ้วยปาหี่ ก็ยัดๆมันเข้ามา อะไรนักหนาก็ไม่รู้ แถมยังมีเหตุการณ์บ้านเมือง ทำให้แฟนบอลเซ็งเข้าไปอีก แฟนบอลปลาเน่า ที่พลอยทำให้คนอื่นเค้าเซ็งไปด้วย หาเรื่องตีต่อยชาวบ้านเค้า โยนขวด ขว้างแก้ว จนเป็นวลีเด็ดบอลไทยไปมวยโลก ก็เข้ามาทุกครั้ง ทีบอลไทยบูม ตอนบอลไม่บูม แมทย์ไม่ใหญ่ ไม่รู้มันหายหัวไปไหนหมด ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ก็มาจากเมา เมาแล้วปากเก่ง ไม่พอใจก็พาล พาลแล้วก็โชว์พาว เป็นแบบนี้ตลอดไม่ว่างานไหน แล้วแพะก็ตกมาที่กรรมการ สโมสร และแฟนบอลดีๆ ที่เค้าเข้ามาเชียร์บอลตลอด ส่วนคนอื่นไม่ผิด กรรมการที่ห่วยเสมอต้นเสมอปลาย ดูแย่กว่าเก่าอีกด้วย จำได้ว่าเมื่อก่อน คนดูแทบไม่ตะโกนรวมตัวกันด่ากรรมการขนาดนี้เลย จนบางคนเริ่มอคติ ว่าโกงมั่ง ยัดเงินมั่ง ซึ่่งผมรู้สึกไม่ดีเลย กับทัศนคติตรงนี้ ทรูซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอด ทำให้สโมสรมีรายได้อีกทางนึง แต่มีคนดันอยากดูฟรี แล้วตอนบอลไม่บูม กูไม่ดู กูไม่สน แต่ปากกูบอกรักบอลไทย อยากดูบอลไทยแต่ไม่อยากเสียตังค์ เป็นคนไทย ต้องได้ดูบอลไทยฟรี แต่กูมีปัญญา หาทางดูบอลนอกได้ ยอมเสียตังค์ไปนั่งตามร้านเหล้าเพื่อดูบอลได้ อันนี้ก็เอวัง สุดท้าย นักฟุตบอลบางคน ที่ยังแสดงว่าถ่อย ไร้ความเป็นมืออาชีพ ผลัก เตะ ต่อย ไล่ตีผู้ตัดสินและผู้เล่นด้วยกัน ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ และ ชอบวอร์กเอ้า ผมยอมรับเลยว่า ช่วงนึงที่ชลบุรี ทำการวอร์กเอ้า ผมไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรง เออถ้าเราจะแพ้ เพราะกรรมการ เราก็ยังยืดอกภูมิใจได้นะ ได้แชมป์ไม่เป็นไร ขอให้สู้เต็มที่ทุกนัดก็พอ ไม่ใช่ไม่พอใจ ก็วอร์กเอ้า ยังดีที่ช่วงหลังๆไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ก็ดีใจ หลายคนเริ่มหันกระแส ไปจับตามองบุรีรัมย์ พีอีเอ ทีมที่มีนักการเมืองถูกแบน มาดูแล ด้วยอะไรๆที่มันดูขัดหูขัดตา หรือว่าจ้องจะจับผิด ก็ไม่รู้ บางคนมองไปถึงอนาคตว่า เอ๊ะ บุรีรีมย์อีกทีมขึ้นมา จะมาการฮั้วกันรึเปล่า ผมก็เซ็ง ที่สุดท้ายกีฬากับการเมืองบ้านเราก็แยกไม่ออก จนล่าสุด เรื่องของ การแย่งกันทำทีมของ ทีโอที ราชนาวี แล้วก็ ที่แรงที่สุด ก็ไม่พ้นท่าเรือ ซึ่งตรงนี้ ผมไม่รู้รายละเอียดเท่าไหร่ แต่ผมรู้สึกเห็นใจแฟนท่าเรือมาก ถึงจะไม่ชอบที่สะสมก็เหอะ ข้อหาน่าหมันใส้ ฮ้าๆ ถือว่าเป็นอีกทีมที่เป็นสีสันเลยนะ  ใครจะว่าท่าเรือถ่อย โหด สลัมยังไงผมไม่รู้หรอก เพราะผมสัมผัสเวลาเค้ามาเยือนชลบุรี ก็เป็นมิตรตลอด ไอ้ที่ถ่อยจริงๆมันปลาเน่า ซึ่งมันมีทุกทีมนั่นแหละ บ่นอะไรของผมเนี่ย แต่คิดแบบนี้จริงๆนะ จากคุณ : โชริแมน เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 03:15:16

ความคิดเห็นที่ 20 บริษัทไทยพรีเมียร์ ที่จัดโปรแกรมห่วยแตก นึกอยากย้ายก็ย้าย นึกอยากจะอัดแข่งๆให้มันจบๆ ใครอยากขอเลื่อนก็ขอ มั่วไปหมด ฝนตกน้ำท่วมก็เลื่อน ไฟดับก็เลื่อน ---------------------------------------------------------------------------------------- ถ้าฝนตกน้ำท่วมไม่ให้เลื่อน จะให้แข่งโปโลน้ำแทนหรือครับ ??? แค่นี้เขาก็พยายามลากๆ ถูๆ ให้แข่งกันไปจนได้มากแล้ว บางสนามขนาดน้ำขังจนแทบจะปลูกข้าวได้อยู่แล้ว ยังยอมให้แข่งกันได้เลย ที่เลื่อนนี่ต้องแบบว่าสุดจะทนจริงๆ นั่นแหละ หึ หึ แต่เห็นด้วยกับเรื่อง "ขอ" นี่แหละครับ เพราะบอลไทยลีก "ขอ" กันมั่วจนเลอะจริงๆ เช่นเดียวกับเรื่องสิทธิ์การทำทีม ที่ต้องบอกเลยว่าการตัดสินของสมาคมฯ ที่ให้สิทธิ์เป็นของสมาชิกเดิมที่ลงทะเบียนไว้กับสมาคมฯ เป็นการ "หมกเม็ด" ที่สร้างความปั่นป่วนให้กับวงการฟุตบอลไทยโดยแท้ ส่วนคำถามของ จขกท บอกได้เลยว่า สมาคมฯ กำลังจะทำให้ฟุตบอลลีก "บูม" ครับ หมายถึง "บูม" ที่เป็นเสียงระเบิดอ่ะครับ เพราะผลจากการบริหารงานของสมาคมฯ ที่หามาตรฐานอะไรไม่ได้เลยนี่แหละ ที่อาจจะทำให้ฟุตบอลลีกระเบิดบูมจนเละไม่เหลืออะไรเลยก็เป็นได้ จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 03:56:20

ความคิดเห็นที่ 21 เพราะสโมสรชลบุรีครับ จากคุณ : Teerarod เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 04:30:12

ความคิดเห็นที่ 22 เพราะศรัทธาแฟนๆ ชลบุรีครับ ยกเครดิตให้เต็มๆ ปีไหนจำไม่ได้ ทำรถบัสสองชั้นเปิดประทุนเหมือนเมืองนอก แห่ถ้วยรอบเมือง แล้วมีแฟนๆ ขี่มอไซด์ตามเป็นขบวนยาว โอว สุดยอดจริงๆ ไม่คิดว่าจะมีโอกาสเห็นบรรยากาศเยี่ยงนี้ในเมืองไทยของเรา ผมเลยเทใจให้ฉลามชลไปอีกคน.... ทั้งๆ ที่บ้านอยู่อีสานนะครับ....เห็นไม๊ไม่เกี่ยวกับสมาคมเลย..ฮ่าฮ่า จากคุณ : jpr park เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 07:18:08

ความคิดเห็นที่ 23 เพราะแฟนบอลในสนามทุกคน จากคุณ : G~U~D 2 2 เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 07:43:23

ความคิดเห็นที่ 24 พวกเราเนี่ยแหล่ะ ที่ทำให้มีวันนี้.... จากคุณ : @สนสามใบ@ เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 07:49:48

ความคิดเห็นที่ 25 ใช่ครับ เพราะแฟนบอลนี่แหล่ะ ... ขนาดสมาคมบริหารห่วยๆ ยังบูมได้ขนาดนี้ ... ไม่อยากคิดเลยว่า หากได้คนที่ทำเพื่อฟุตบอลไทยเข้ามทำจริงๆ ประเทศไทยเราก็ไม่แพ้ชาติไหนในโลกแน่ๆ .... จะมีโอกาสได้เห็นไม๊ในชีวิตนี้ ...ฮ่าฮ่า จากคุณ : jpr park เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 08:53:08

ความคิดเห็นที่ 26 เพราะคนไทยทุกคน สามัคคีร่วมกันเชียร์ (แม้จะคนละทีม) จนทำให้ทุกๆ ทีมเติบโตขึ้น มีสปอนเซอร์เยอะขึ้น แม้ในลีกดิวิชั่นสองก็โตตาม ปลุกกระแสให้ตาย โหมสื่อมากยังไง ถ้าไม่มีพวกเราไปดู .... จะเกิดอะไรขึ้น ... จากคุณ : @Love_ที่รัก เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 09:05:09

ความคิดเห็นที่ 27 นัดชลบุรีเตะกับเมลเบิร์นที่สนามศุภครับ นัดนั้นเเหละ เรียกเรทติ้งกระจาย ได้ใจเเฟนบอลรุ่นใหม่ๆเยอะ จากคุณ : ไม่เมาเหล้าเเล้วเรายังเมารัก เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 09:11:07

ความคิดเห็นที่ 28 อ่านจากหลายๆ คห.  สรุป ถ้าจะศึกษาประวัติบอลลีกเมืองไทย  ให้ศึกษาประวัติทีมชลบุรี  ใช่ป่ะคับ จากคุณ : vacuum_car เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 16:24:57