มหากาพย์สะพรึงโลก แมนฯ ยูไนเต็ด 1999 บันทึกทริปเปิ้ลแชมป์ >>> บทที่ 2 ปาฏิหาริย์บทที่ 1 <<<
|
 |
หากว่าการสร้างประวัติศาสตร์ “ทริปเปิ้ลแชมป์” ของ แมนฯ ยูไนเต็ด คือ “ปาฏิหาริย์” เกมแรกในนัดเปิดสนามพรีเมียร์ชิพกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในโรงละครแห่งความฝันของตัวเอง สมควรที่จะเรียกว่า ปาฏิหาริย์ บทที่ 1
แมนฯ ยูไนเต็ด มิควรค่าแก่การได้แต้มแม้แต่แต้มเดียวด้วยซ้ำในเกมนี้ แต่หากใครยังพอจำได้จะเห็นว่าพวกเขาแสดงให้เห็นถึงความเป็นเจสันผู้ใส่หน้ากากฮอกกี้ ผีโรคจิตอสูรร้ายจากศุกร์ที่ 13 ที่ตายยากตายเย็น นั่นคือถ้าอยากฆ่าให้ตายสนิทต้องใช้เวลาถึง 8 ภาคด้วยกัน ^^
ผมเสมอออกมากับทีมด้อยศักดินากว่าอย่างเลสเตอร์ในบ้านตัวเอง ถือเป็นการออกสตาร์ทที่น่าผิดหวัง พวกเขาปล่อยคะแนนสามแต้มที่ควรจะได้โดยไม่ต้องลุ้นหลุดลอยไป แต่ในทางกลับกันอสูรร้ายอุตส่าห์กระชากมันคืนมาได้หนึ่งแต้มในวินาทีเกือบจะสุดท้าย
ทั้งนี้ความดีความชอบทั้งหลายทั้งปวง ต้องยกให้สุดหล่อเท้าชั่งทอง เดวิด เบ๊คแฮม ที่เคยหวดบอลจากครึ่งสนามเข้าประตูวิมเบิลดันมาแล้ว
เกมนี้เช่นกันที่เขาช่วยฉุดผีจากนรกด้วยการบรรจงปั่นฟรีคิกสะท้านโลกันต์บนความกดดันที่ถาโถมในนาทีสุดท้ายของการแข่งขัน เป็นประตูตีเสมอให้ แมนฯ ยูไนเต็ด
เบ๊คแฮมพิสูจน์ให้เห็นถึงจิตใจที่กร้าวแกร่งเกินวัย 23 ขวบ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขากลายเป็นที่น่ารังเกียจยิ่งกว่าผู้ร้ายฆ่าคนสำหรับชนผู้ดี (เก่า) ชาวอังกฤษทั้งราชอาณาจักร ยกเว้นแฟนปีศาจแดง ด้วยข้อกล่าวหาที่ทำให้ทีมชาติอังกฤษพ่ายอาร์เจนติน่าตกรอบฟุตบอลโลก ฟร้องช์ 98 จากการโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม (อย่างไง่ๆ)
แฟนบอลทีมชาติอังกฤษทั้งประเทศยกเว้นสาวก แมนู ยูไนเต็ด โยนความผิดให้กับ เดวิด เบ๊คแฮม คนเดียวที่ทำให้ “สิงโตคำราม” ต้องเซิ้งเพลงแข้งกับอาร์เจนตินาด้วยผู้เล่นเพียง 10 คน กว่า 70 นาที ก่อนพ่ายแพ้ในการดวลจุดที่ เดวิด แบ๊ตตี้ กับพอล อินช์ สังหารพลาด (แต่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้)
ทุกความเกลียดชังถาโถมมาใส่เบ๊คแฮมราวกับถูกลมถีบ เขาถูกโจมตีอย่างรุนแรงจากหนังสือพิมพ์และแฟนบอลใจแคบ ทั้งตระกูลเบ๊คถูกคุกคาม พ่อแม่และครอบครัวถูกขู่ทำร้ายต่างๆ นานา ถูกละเมิดสิทธิส่วนบุคคลจนต้องหนีไปพักใจที่เมืองบรู๊คลิน สหรัฐอเมริกา ก่อนจะร่วมเสกไอ้หนู “บลู๊คลิน” กับ วิคตอเรียอดัมส์ ที่นั้น ^^
ถามว่า เจอเข้าแบบนี้เป็นคุณจะทนได้มั๊ย? คงทนไม่ได้... (ตอบ) แต่ เดวิด เบ๊คแฮม ทนได้ครับ ^^
กรณี เดวิด เบ๊คแฮม นี่มีคนชอบพอๆ กับที่มีคนเกลียด และต้องยอมรับว่าเขามีส่วนทำตัวเองตามสไตล์วัยรุ่นน่ารัก-น่าตบ และบางอารมณ์สมควรโดนถีบ ^^
คือเบ๊คแฮมจัดเป็นนักเตะประเภทรูปหล่อหน้าตาดี ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น หน้าตาเซ็กซี่นี่ไม่เท่าไหร่ แต่เขาชอบทำตัวเด่นดังอย่างโอเวอร์ไปนิด เช่นเป็นแฟนกับวิคตอเรีย อดัมส์ วงสไปซ์ เกิร์ล หรือพยายามทำตัวเป็นผู้นำแฟชั่นด้วยการนุ่งกระโปรงทับกางเกง
ที่สำคัญคือพฤติกรรมในสนามเพราะนอกจากหมอจะเล่นบอลเก่งแล้ว บางอารมณ์ของเบ๊คแฮมเหมือนติดลูกแอ๊กอาร์ต แสดงกิริยาเกินจริง ชอบทำเป็นว่าข้าเก่งจนน่าหมั่นไส้ บวกกับคดีๆ เก่า อีกหลายคดี เลยทำให้แฟนบอลฝ่ายตรงข้ามมักกังวานเสียงใส่เป็นประจำ
ในงานบุญครั้งที่ผีพ่ายปืนยับ เบ๊คแฮมถูกเหล่าแฟน เดอะ กันเนิร์ส พร้อมใจกันโห่ฮิ้วทุกจังหวะที่แตะบอล ยังไงก็ตามเบ๊คแฮมจัดการเสียงโห่ให้กลายเป็นเสียงเชียร์ได้พักหนึ่ง จากการบรรจงตะบันฟรีคิกที่สวยงามในเกมตีเสมอ เลสเตอร์ ซิตี้ และนั่นคือการโยนความกดดันออกไปจากจิตใจได้ระดับหนึ่ง
แมนฯ ยูไนเต็ด ลงเล่นนัดเปิดสนามบนความหวังของทีมเต็งหนึ่งซึ่งหมายถึงชัยชนะ ทีมที่มาเยือนพวกเขาคือ “จิ้งจอก” ป่าคอนกรีต ทีมระดับสามัญชนที่บ่อยครั้งมักโค่นทีมระดับศักดินา และที่สำคัญเลสเตอร์คือหนึ่งในทีมที่บุกมากะซวกผีแดงคาถิ่นเมื่อฤดูกาลก่อน
บทเรียนทำให้ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กำชับลูกทีมมาเป็นอย่างดีว่าโปรดอย่ามองข้ามทีมราคาถูกอย่างจิ้งจอกตัวนี้เด็ดขาด แต่เฟอร์กี้สั่งไม่ทันขาดคำก็แทบสำลักน้ำลายก้อนใหญ่เมื่อ เอมิล เฮสกี้ วิ่งตะบันบอลตูมเดียวจมเพดานประตู ชนิดที่ ปีเตอร์ ชไมเคิล ต้องเกาหัวเพียงในนาทีที่ 7 ของการแข่งขัน
ธรรมดามันเป็นเรื่องธรรมดา!!! โดนเร็วอย่างนี้แหล่ะดีจะได้มีเวลาเอาคืนให้สาใจ ^^
พระเจ้าจอร์ชมันยอดมาก! จบครึ่งแรกไม่มีวี่แววใดแสดงว่า เด็กๆ ของเฟอร์กี้จะทวงประตูคืน
ไม่เป็นไรครับไม่เป็นไร ยังเหลือเวลาอีกตั้งครึ่ง เดี๋ยวรับรองเฟอร์กี้แก้เกมกลับมาเข้าฟอร์มได้แน่นอน
เวลาช่างผ่านไปรวดเร็วเหมือนถูกลมดูด เหลือเวลาอีกราว 15 นาที แมนฯ ยูไนเน็ตบุกอยู่ดีๆ กลับถูกสวนกลับเร็ว โทนี่ ค๊อตตี้ กองหน้ามินิไซด์ โหม่งให้เลสเตอร์นำห่าง 2-0!!!
เหล่าสาวกปีศาจร่วมอุทาน “อิ๊บอ๋ายแล้วเมิงเอ๊ยยย...”
อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เห็นดังนั้นก็แสดงกึ๋นทันทีว่าหากเวลายังไม่หมดอย่าเพิ่งนับศพทหาร แกรี่ เนวิลล์ ถูกเปลี่ยนตัวออกแล้วใส่ เท็ดดี้ เชอริงแฮม ลงมาเสริมแดนหน้า ไม่ทันไรก็ได้เรื่องเมื่อเท็ดดี้เสยกบาลเปลี่ยนทางลูกยิงไกลของเบ๊คแฮมเป็นประตูตีไข่แตก
กำลังใจกลับคืนมา ความเฉื่อยชากลายเป็นฮึกเหิม อีก 10 นาทีจะหมดเวลา แมนฯ ยูไนเต็ดพับสนามบุกอยู่ฝ่ายเดียว แต่จนแล้วจนรอดเลสเตอร์ก็ยังรักษาสกอร์เอาไว้ได้อยู่ มาร์ติน โอนีล กุนซื้อสุนัขจิ้งจอกเริ่มคิดแล้วว่าจะพาลูกทีมไปเลี้ยงที่ไหนดี... กระทั่ง
พอล สโคลส์ ถูกทำฟาวล์ระยะ 30 หลา หน้าประตูเลสเตอร์ เดวิด เบ๊คแฮม เดินเอาลูกมาตั้งเตรียมเตะฟรีคิกของชอบโดยมีข้อแม้ว่าต้องตุงสถานเดียว หากพลาดพลั้งนั่นหมายถึงการเสียฟอร์มในถิ่นของตัวเองตั้งแต่นัดแรกของฤดูกาล
ปาฏิหาริย์บทที่ 1 บันทึกว่าเบ๊คแฮมบรรจงยิงด้วยขวา ลูกมุดเข้าทางมุมล่างซ้ายเป็นประตูตีเสมอให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างเหลือเชื่อในช่วงทดเวลา
พวกเขาเกือบพ่ายแพ้ทีมที่อ่อนชั้นกว่าคาถิ่นเป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกัน การตีเสมออันน่าเสียวไส้และโกงนรกมาได้ 1 แต้ม ครั้งนี้ควรได้รับคำชมหรือไม่ อันนี้ไม่ทราบได้
แต่ที่แน่ๆ เมื่อบั้นปลายที่ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์มาครอง ตารางคะแนนบันทึกไว้เป็นหลักฐานชัดเจนว่าพวกเขามีแต้มมากว่าอาร์เซนอลอยู่ 1 คะแนน!!!
จุดเกิดเหตุ เอฟเอ คาร์ลิ่ง พรีเมียร์ชิพ โอลด์ แทร๊ฟฟอร์ด 15 สิงหาคม 1998 แมนฯ ยูไนเต็ด 2-2 เลสเตอร์ ซิตี้ 0-1 เฮสกี้ น.7 0-2 ค็อตตี้ น.76 1-2 เชอริงแฮม น.79 2-2 เบ๊คแฮม น.90+
โปรดติดตาม บทที่ 3... เร็วๆ นี้
แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 54 11:27:24
จากคุณ |
:
กองทัพเทวดา
|
เขียนเมื่อ |
:
8 มิ.ย. 54 11:17:27
|
|
|
|