ความคิดเห็นที่ 1 จากประวัติส่วนตัวของเขา แท้จริงมาริโอมีพ่อแม่เป็นชาวกาน่า โดย กำเนิด พ่อแม่ของเขาคือโธมัสและโรส ซึ่งอพยพจากกาน่าเข้ามาในอิตาลี นามสกุลเดิมของตระกูลนี้คือบาร์วูอาห์ โดยมาริโอมีพี่น้องร่วมท้องอีก 3 คน    ครอบครัวของมาริโอมีฐานะยากจน โธมัสเป็นเพียงกรรมกรในโรงงานเหล็ก เขาเล่าว่ามาริโอเกิดมาพร้อมกับปัญหาที่ลำไส้ “มีปัญหาที่ลำไส้ของมาริโอและอาการของเขาเลวร้าย คุณหมอกังวลว่าเขาอาจจะไม่รอด” โธมัสเล่า     ทว่าหลังการผ่าตัด มาริโอมีอาการดีขึ้น โธมัสบอกว่าการที่ต้องใช้ชีวิตกันอย่างคับแคบในแฟลตร่วมกับครอบครัวชาว แอฟริกันหลายครอบครัวทำให้เขาตัดสินใจขอความช่วยเหลือไปที่นักสังคม สงเคราะห์ ซึ่งนักสังคมสงเคราะห์ได้แนะนำให้ครอบครัวบาร์วูอาห์ส่งตัวมาริโอซึ่งมี อาการดีขึ้นหลังการผ่าตัดให้ได้รับอุปการะจากพ่อแม่บุญธรรม ซึ่งทำให้ ฟรานเชสโก้และซิลวิโอ บาโลเตลลี่ ครอบครัวชาวอิตาลีก้าวเข้ามารับตัวมาริโอไปเลี้ยงดูตั้งแต่อายุได้ 2 ขวบ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 54 09:05:51 จากคุณ : yamaha111 เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:04:55

ความคิดเห็นที่ 2 มาริโอ(ซ้าย) กับแม่และพี่ของเขา จากคุณ : yamaha111 เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:06:29

ความคิดเห็นที่ 3 “ตอนแรกเราไม่แน่ใจแต่สุดท้ายก็ตัดสินใจว่านี่เป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับมาริโอ เราได้พบลูกทุกสัปดาห์และเราไปกันได้ดี” โธมัสบอกว่า การอุปการะมาริโอตามที่ตกลงกันไว้ในเบื้องต้นจะกินเวลาเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น แต่หลังจากนั้นก็ถูกยืดออกไปเป็นอีก 12 เดือน สุดท้ายมันถูกยืดออกไปเรื่อยๆ และดูเหมือนว่าการนำตัวมาริโอกลับมาสู่ครอบครัวจะไม่ใช่เรื่องง่ายอีกแล้ว     “เราไม่สามารถจ้างทนายมาสู้ความได้ ขณะที่มาริโอนั้นโตขึ้นเรื่อยๆ(ภายใต้การอุปการะจากครอบครัวบาโลเตลลี่) เขามาเยี่ยมเราและเล่นกับพี่น้องของเขา แต่เขาไม่ได้มีเวลาให้เราเหมือนเดิม เป็นเวลากว่า 10 ปีที่เราอยากให้เขากลับมาอยู่กับเรา แต่ทุกครั้งที่เราพยายามศาลกลับไม่อนุญาต เวลาหลายปีผ่านไปเขากลับกลายเป็นคนเย็นชาใส่พวกเรา ครอบครัวบาโลเตลลี่รู้จักคนเยอะและมีอิทธิพลขณะที่เราทำอะไรไม่ได้เลย” จากคุณ : yamaha111 เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:07:23

ความคิดเห็นที่ 4 หลังจากนั้นมาริโอเปลี่ยนนามสกุลของเขาเป็นบาโลเตลลี่ เรื่องนี้พ่อแท้ๆ ของเขาเล่าว่า “เราไม่รู้อะไรเลยจนกระทั่งเราได้เห็นข่าว ผมไม่รู้ว่าเขาใช้นามสกุลบาโลเตลลี่ ผมยังคิดว่าเขาใช้นามสกุลของเราอยู่” จนกระทั่งเมื่ออายุได้ 18 ปี บาโลเตลลี่ได้สัญชาติอิตาลีและเขาปฏิเสธที่จะเล่นในนามทีมชาติกาน่าแม้ว่า ทางกาน่าจะพยายามนำตัวเขามาเล่นให้ก็ตาม     อย่างไรก็ตามมาริโอเคยออกมาพูดตอบโต้พ่อแม่ของเขา โดยเขาบอกว่า “ถ้าผมไม่กลายเป็นมาริโอ บาโลเตลลี่ นายและนางบาร์วูอาห์คงไม่แคร์อะไรเกี่ยวกับผมหรอก ผม ได้รับการเลี้ยงดูโดยครอบครัวบาโลเตลลี่ ไม่มีใครถามถึงครอบครัวบาร์วูอาห์ แต่ตอนนี้พวกเขากลับออกมาให้สัมภาษณ์พร้อมทำหน้าเศร้าๆ และถือรูปผมในชุดอินเตอร์ มิลาน ทำไมเขาไม่เคยร้องขอให้ศาลเอาตัวผมกลับไปตั้งแต่ผมหายจากอาการป่วย พ่อแม่บุญธรรมของผมเคยพาผมไปหาพวกเขาแต่พวกเขาไม่เคยมาที่บ้านของเราเลย แต่ตอนนี้พอผมกลายเป็นผู้เล่นเซเรีย อา พวกเขากลับอยากให้ผมกลับไป” ในภาพ : บาโลเตลลี่สมัยเล่นให้ทีมเยาวชน จากคุณ : yamaha111 เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:08:49

ความคิดเห็นที่ 5 คงต้องจบประวัติคร่าวๆ ของศูนย์หน้าหนุ่มเจ้าปัญหารายนี้ไว้ก่อน และคงต้องบอกว่าเหตุการณ์และเรื่องราวจริงๆ นั้นเป็นอย่างไรเราก็ไม่อาจรู้ได้ คุณผู้อ่านก็อย่าเพิ่งด่วนตัดสินว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายถูกฝ่ายผิดเพียงแต่อ่านเป็นเกร็ดความรู้ไว้ละกัน ความเห็นส่วนตัว : ละครที่ว่าน้ำเน่าสิ้นดี หรือภาพยนต์ฟอร์มยักษ์ที่สร้างจากผู้กำกับดังๆหลายๆเรื่อง แท้ที่จริงก็นำมาจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโลกนี้แหละ หาใช่มาจากจินตนาการไม่  แค่เรื่องบาโลเตลลี่  ฮ.ทบ.ร่วง3ลำ และถล่มยิงที่นอร์เวย์ ก็ทำให้หนังฮอลลีวูด บอลลีวูด กลายเป็นเด็กอนุบาลไปเลย ในภาพ : ครอบครัวบาร์วูอาห์ ตอนนี้อาบิเกล(คนหน้า)พี่สาวของเขากลายเป็นดาราดังไปแล้ว เครดิต : http://www.clipmass.com/story/%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95-%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%A3-%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88---30583 จากคุณ : yamaha111 เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:14:49

ความคิดเห็นที่ 6 เหมือนเคยมีคนลงไปแล้วนะ ผมคิดว่าคนคนนึง แน่นอนแหละว่ามันต้องมีทั้งส่วนดีแล้วส่วนแย่ แต่สิ่งที่คนควรทำคือดำรงส่วนดี เพิ่มพูนให้มันมากขึ้น และเรียนรู้จากข้อผิดพลาดเพื่อลบส่วนแย่ทิ้ง การมีปมไม่ได้เป็นข้ออ้างของการทำเรื่องไม่ดี ผมกลับคิดว่าการมีปมเนี่ย คุณกลับต้องพิสูจน์ให้คนอื่นได้เห็นว่าคุณเข้มแข็งและผ่านมาได้อย่างเต็มตัว กรณีบาโลเนี่ย ผมว่าเค้าเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เข้าวงการฟุตบอล และก็ยังไม่เห็นมีวี่แววจะเลิกเป็นด้วยซ้ำ อายุเท่าเจ้าหมอนี่ไม่เด็กแล้วนะครับ ความคิดความอ่านมีแล้วมันควรมีการพัฒนากว่านี้ครับ (ได้แต่หวังว่าจะเป็นเหตุการณ์สุดท้าย) จากคุณ : torwat_fc เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:47:06

ความคิดเห็นที่ 7 ล่าสุดเพิ่งโชว์ฟอร์ม"ตอกส้น" จากคุณ : saksayam เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:48:34

ความคิดเห็นที่ 8 เคยอ่านประวัติจากหลายๆที่ ค่อนข้างเป็นไปในแนวที่ว่า พ่อแม่ทางสายเลือดของ มาริโอ เริ่มต้องการตัวเขากลับมาหลังจากที่เขาเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมา ปมในใจตั้งแต่วัยเด็กของหมอนี่ มีมากพอสมควร เรื่องครอบครัว การใช้ชีวิตในฐานะคนผิวสีในอิตาลีตั้งแต่เด็ก แถมบวกด้วยนิสัยโลกส่วนตัวสูง เข้ากับคนอื่นยาก เลยแสดงออกแปลกๆหลายครั้งอย่างที่เห็น แต่ผมเชื่อว่า ไม่มีทีมไหนในโลกเหมาะกับโอ้มากกว่า แมนซิตี้อีกแล้ว มีทั้งพ่อ ทั้งพี่ ทั้งเพื่อน แถมแต่ละคนก็ตั้งหน้าตั้งตาทำผลงาน รอเวลาแค่โอ้เปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ กับปรับปรุงตัวให้ได้ จากคุณ : มือมาร เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:48:49

ความคิดเห็นที่ 9 มาริโอ้มักทำอะไรที่แปลกๆ(ฮาๆ)ออกมา แต่เขาก็ถือเป็นนักเตะใจบุญที่สุดในโลกคนนึงในยุคปัจจุบัน จากคุณ : เด็ก ป.6 เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 15:04:34

ความคิดเห็นที่ 10 ผมชอบเขานะ เขาดูมีคอนดั๊คเตอร์ดี ไม่เหมือนใคร พวกแมนซิทั้งหลายมันดูตั้งแง่เองแหละ อคติ บางเรื่องก็เล็กๆน้อยๆ ทำเป็นเรื่องราวใหญ่โต ยิ่งเซโก้เล่นก็ไม่ได้เรื่อง ยิงก็ไม่ค่อยได้ ไม่ค่อยมีประโยชน์เห็นเอะอะอะไรก็ ฟ้อง เยอะเย้ยบาโลตลอด ไม่ดูตัวเองเล้ยย จากคุณ : หงส์หัดบิน เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 16:04:26

ความคิดเห็นที่ 11 มาริโอ้ให้สัมภาษณ์ว่าพ่อแม่ไม่เคยโทรหา แม้ในช่วงวันเกิด ตอนช่วงที่เค้าเริ่มรู้ความ พอมาจากทีมอะไรซักอย่างนี่ละ เป็นตัวเยาวชนของอินเตอร์ มีค่าเหนื่อยเป็นล้าน พ่อแม่ก็มาปรากฏตัว แรงต่อต้านก็เลยสูง ตอนอ่านที่คุณ ha-meow แปลมายังอึ้งเลย ประมาณว่าในวันเกิดมาริโอ้ก็ไปที่บ้าน แต่ไม่มีใครอยู่ ไม่มีใครจำวันเกิดเค้าได้ รอแม้โทรศัพท์ก็ไม่มี หลายปีทีเดียว ทางพ่อแม่แท้จริง บอกว่าพยายามไปหา แต่โดนกีดกัน ซึ่งมันก็ไปอยู่โรงเรียน ไปซ้อม ใครๆก็ไปหากัน เจ้าตัวก็เลยยิ่งรู้สึกมากกว่าปกติ อีกทั้งครอบครัวบาโลเทลลี่ ก็ให้มาริโอ้เต็มที่ ดูแลดีมาก ขนาดมั้นเปรี้ยวๆประมาณนี้ ยังไม่กล้าหือกับแม่เท่าไหร่ แล้วทางบ้านก็สอนให้ทำเพื่อสังคมด้วย เจ้าตัวจะไปพบเด็ก ไปสอนกีฬา พาเด็กพิการไปขี้ม้า ไปพบเด็กสลัม ฯลฯ อะไรแบบนี้ ไม่ค่อยให้ข่าวตอบโต้ ก็เลยยิ่งดูแตกต่างกับครอบครัวแท้จริงพอสมควร มาริโอ้เคยให้สัมภาษณ์ว่า ต้องดูพ่อแม่ไปดิ้นรนต่อใบอุปการะตนเองทุกปี (ไม่รู้เพราะ ติดต่อครอบครัวแท้จริงไม่ได้หรืออะไร) บอกว่ารู้สึกว่าพ่อแม่พยายามเพื่อเค้าขนาดไหน ส่วนเรื่องทีมชาติกาน่า ก็มาชวนตอนที่เริ่มเป็นทีมเยาวชนอินเตอร์นี่แหละ แต่เจ้าตัว ไม่อยากเล่นให้กาน่า เพราะแววติดทีมอิตาลีมีอยู่แล้ว  (แต่ตอกส้นนี่...    ) จากคุณ : ป้าหนอน เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 17:46:38

ความคิดเห็นที่ 12 อยากให้เขาทำตัวดีๆ เป็นที่รักของหลายๆคนไวๆ เราเชื่อว่าเขาไม่ได้เป็นคนเลวร้ายโดยจริงแท้ แต่การแสดงออกในสนาม ก็เอ่อ...อย่างนั้นแหละ สุดท้ายก็เป็นกำลังใจให้เขาอยู่ห่างๆแล้วกัน จากคุณ : BeNettY เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 19:47:19

ความคิดเห็นที่ 13 คิดว่าเขาต้องมีปมเยอะนะ ทั้งเป็นลูกเลี้ยง (แค่นี้ก็พอจะกลายเป็นเด็กมีปัญหาแล้ว) เท่านั้นไม่พอ ผมคิดว่าในอิตาลีคนดำอยู่ยากกว่าในอังกฤษหรือฝรั่งเศส ฮอลแลนด์ (เพราะประเทศเหล่านี้มีคนดำดาดดื่นกว่า) เขากลายเป็นผู้เป็นคนโด่งดังขนาดนี้ก็ถือว่าบุญโขแล้ว ส่วนเรื่องอดีตที่เขามีอคติต่อพ่อแม่ตัวเอง ผมว่าโตไปอีกหน่อยเขาจะเข้าใจเอง แม้ว่าเรื่องที่เขาเข้าใจตอนนี้จะถูกต้องก็ตาม อย่างเลวร้ายที่สุด การพ่อแม่ที่ยากจนคู่หนึ่ง พอเห็นลูกในไส้แท้ๆเติบโตขึ้นมาบางทีเขาก็อยากมีส่วนร่วมบ้าง ก็เป็นสัจธรรมเหมือนกันนะ มาริโอ้ชอบความเป็นรากหญ้าชอบคบหาคนในสลัมเข้าใจพวกเขาหมด แต่ทำไมไม่เข้าใจพ่อแม่ในไส้ตัวเองล่ะ จากคุณ : ขี้เมากระเพราแตะ เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 00:31:20