|
หลังจบเกม ทุกครั้ง ขณะผมขับรถกลับบ้านพร้อมกับพอล ผมจะถามเขาถึงประสบการณ์ วันนี้ร้องเพลงอะไรกัน ใครเพลงให้นักเตะคนไหนบ้าง บอกพ่อซิว่าได้ยินเรื่องตลกอะไรมาบ้าง ผมถามอะไรพอลตั้งมากมายเชียวล่ะ การได้ยืนรวมกับแฟนๆเป็นอะไรที่ทำให้พอลตื่นเต้นมาก ช่วยให้เขารู้สึกเต็มหัวใจว่าลิเวอร์พูลมีความหมายกับผู้คนมากขนาดไหน
สิ่งที่ทำให้ The kop Stand มีเอกลักษณ์ที่แสนพิเศษ คือ แคแรกเตอร์ของกองเชียร์ที่มารวมตัวกัน และผมเชื่ออย่างแท้จริงว่า ไม่มีอัฒจันทร์ของสโมสรใดในอังกฤษที่เต็มเปี่ยมเป็นไปด้วยจิตวิญญาณเช่นที่เราเป็น ผมเคยพยายามปั่นฟรีคิกให้เข้าประตูฝั่ง The kop และผมต้องช็อกที่มันดันลอยเข้าไป "มันมีค่าเป็นเงินเท่าไหร่" The kop ร้องเพลงให้ผม มันขำดีกับเซ้นส์ในการประชดประชันของพวกเขา แล้วเมื่อพวกเราเริ่มตะโกน "ดัลกลิช!" เพื่อเตือนให้ระลึกถึงพื้นที่ของผมในหัวใจของพวกเขา การได้ยินพวกเขาร้องเพลงด้วยชื่อผม มันทำให้ผมตัวลอยเสมอ หนึ่งในเพลงที่พวกเขาโปรดปราน คือ 'Id walk a million miles for one of your goals, oh Kenny
' 'ฉันเดินเป็นล้านไมล์เพื่อประตูของนาย, โอ้ เคนนี่...' และในหนึ่งฤดูกาล พวกเขาก็แทบจะต้องเดินทางไกลอย่างนั้นจริงๆก่อนจะเห็นผมจะทำประตู ความงดงามของ The kop คือ พวกเขาสามารถมีเสียงหัวเราะได้เสมอ เมื่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาเยือนในปี 2009 หลังจากที่เราเสียประตูด้วยบอลชายหาดที่ซันเดอร์แลนด์ ทุกคนรู้ว่าแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะขว้างบอลชายหาดลงไปในสนาม ดังนั้น The kop ก็เลยเตะบอลพวกนั้นเป็นร้อยลงไปในสนามซะเอง ยึดมันมาเป็นเรื่องตลกของเรา เจ้าหน้าที่สนามต้องเอาเข็มมาจิ้มมันให้แตก (เพราะคงเก็บไม่ไหว 55+ - ผู้แปล) ผมจะไม่มีวันลืมเมื่อปี 1980 เลย ตอนที่ลิเวอร์พูลพบ Grimsby Town ในเอฟ เอ คัพ และแฟนๆเปลี่ยนชื่อพวกนักเตะให้เป็นปลา สะท้อนให้เห็นมุมมองถึงอุตสาหกรรมหลักของ Grimsby ...Phil Neal กลายเป็น Phil Seal (Seal แปลว่า แมวน้ำหรือสิงโตทะเล ผู้แปล), Jimmy Case เป็น Jimmy Plaice (Plaice คือ ปลาเพลซ ปลาชนิดหนึ่งที่นิยมกันในยุโรป ผู้แปล) และมี Sting Ray Kennedy (Sting Ray แปลว่า ปลากระเบน ผู้แปล) ในขณะที่ผมเป็น Kenny Dogfish (Dogfish แปลว่า ปลาฉลามหนู ผู้แปล)
ขณะที่ผมนั่งบน Main Stand ผมคิดถึงอะไรหลายอย่างที่แฟนๆทำเพื่อทีม ผมคิดถึงอิสตันบูล กับการตามหลัง 3-0 ในครึ่งแรก และแฟนๆพร้อมใจกันร้องเพลง Youll never walk alone ดังลงไปถึงห้องแต่งตัว ซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยความสิ้นหวังว่าคงต้องพ่ายแพ้ เอซี มิลาน แน่ๆแล้ว ...สตีวี่, คาร์ร่า และนักเตะทุกคนต้องรู้สึกได้ถึงความหวังที่ยังเหลืออยู่ของแฟนๆ พวกเขาได้เรียนรู้ อย่างที่ผมเคยมาแล้ว ว่าสโมสรแห่งนี้มีความหมายต่อผู้คนมากมายนัก มันฝังอยู่ในจิตวิญญาณ พวกเขาไปทำงานและพูดคุยกันถึงลิเวอร์พูล พวกเขาไปผับและยังพูดคุยกันถึงลิเวอร์พูล แม้แต่มืออาชีพก็ต้องถ่อมตนต่อการเป็นพยานรู้เห็นในวิถีทางของพวกเขาที่มีชีวิตและหายใจเข้าออกเป็นสโมสรลิเวอร์พูล มันสามารถช่วยเหลือให้นักเตะเข้าใจว่าทำไมสโมสรของเราถึงมีความหมายต่อผู้คน หากว่านักเตะในสนามเข้าถึงการอุทิศและความรักต่อสโมสร มันจะนำมาซึ่งความสำเร็จในระยะยาว
ในวันเวลาของผม ความสัมพันธ์ของพวกเรา นักเตะ กับแฟนๆเป็นอะไรที่แข็งแกร่งมาก ในทุกวันนี้ ผมไม่รู้ว่านักเตะของเราเข้าถึงความหมายของสโมสรมากน้องแค่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักเตะจากต่างชาติ แต่แน่นอนว่า คาร์ร่ากับสตีวี่ จะอธิบายให้พวกเขาเข้าใจถึงความสำคัญของ The kop และประวัติศาสตร์ของลิเวอร์พูล อย่างที่เฟอนันโด ตอร์เรส ที่ใส่ใจในจารีตประเพณีของเรา ตอนนี้ ผมทำงานที่อคาเดมี่ ผมรู้จักโค้ชชาวสเปน ที่ Kirkby ได้นำหลักปรัชญาของลิเวอร์พูลมาใช้ พวกเขาเข้าไปในโลกไซเบอร์ พวกเขารู้จักเพลงเชียร์ รู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของแฟนๆ และเข้าใจความเป็น The kop พวกเขาแชร์ความรักของผมต่อบ้านที่ผมได้พบในห้องแต่งตัวของลิเวอร์พูล
--------- จบบทที่ 1 ------------
บทแรกแค่น้ำจิ้ม ไม่ค่อยยาวเท่าไหร่ บทที่ 2 ขอเวลาหน่อยนะคะ ^ ^
แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 54 11:26:59
แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 54 11:24:52
แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 22:25:15
จากคุณ |
:
howk_ky
|
เขียนเมื่อ |
:
5 ส.ค. 54 22:07:08
|
|
|
|
|