 |
สกู๊ปพิเศษ จาก...สยามกีฬา โดย.. โกลเด้นโจ แมนฯ ยูไนเต็ด : "ผีแดง" ราชันลูกหนังเมืองผู้ดี
ถ้าพูดถึงวงการฟุตบอลของอังกฤษยุคนี้แล้ว คงจะไม่มีใครกล้าปฏิเสธความยิ่งใหญ่ของทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ทีมที่เป็นเจ้าของสถิติแชมป์ลีกสูงสุดมากที่สุด 19 สมัย
และนับตั้งแต่ที่เปลี่ยนมาเป็นพรีเมียร์ลีก ก็มีแค่สามทีมเท่านั้นที่สามารถแย่งแชมป์ลีก ไปจากพวกเขาคือ แบล็คเบิร์น, อาร์เซน่อล และ เชลซี ซึ่งฤดูกาลนี้ แมนฯ ซิตี้หวังที่จะเป็นทีมที่สี่ ที่จะมาเขย่าบัลลังก์แชมป์ของ "ผีแดง" แต่ในวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม นี้ "เรือใบสีฟ้า" จะต้องพิสูจน์ตัวเองก่อนว่าดีพอที่จะโค่นคู่ปรับร่วมเมือง ที่เป็นเจ้าของสถิติแชมป์คอมมิวนิตี้ ชิลด์ มากที่สุด
"โกลเด้นโจ"
แมนฯ ยูไนเต็ด ยอดทีมฟุตบอลของอังกฤษ ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บส์ ของสหรัฐฯ ให้เป็ทีมที่มีมูลค่าสโมสรมากที่สุดในโลก ซึ่งเหตุผลสำคัญน่าจะมาจากความสำเร็จที่ต่อเนื่อง รวมทั้งประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของพวกเขา แน่นอนว่าก่อนที่จะมีวันนี้ สโมสรผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มามากมาย กว่าที่จะเป็นทีมหมายเลขหนึ่งของอังกฤษได้
ยูไนเต็ด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1878 ซึ่งตอนนั้นยังใช้ชื่อว่า นิวตัน ฮีธ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 1902 และย้ายมาเล่นที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในปี 1910 อย่างไรก็ตาม ยุคทองของสโมสรจริงๆ น่าจะเป็นช่วงที่ เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้ เข้ามาคุมทีมในช่วงปี 1945-1969 ที่พวกเขาคว้าแชมป์มากมาย รวมทั้งเป็นทีมแรกของอังกฤษ ที่คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ในปี 1968 หลังจากที่เอาชนะ เบนฟิก้า ในรอบชิงที่เวมบลี่ย์ หรือสิบปีหลังจากที่เกิดเหตุ "โศกนาฎกรรมที่มิวนิค" โดยเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ปี 1958 เครื่องบินที่ทีมยูไนเต็ด นั่งมาจากเบลเกรด และแวะไปเติมน้ำมันที่มิวนิค ประเทศเยอรมัน เกิดอุบัติเหตุ ทำให้นักเตะชุดใหญ่ของทีม 8 คนเสียชีวิต และหลายคนได้รับบาดเจ็บ รวมทั้ง เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้
หลังจากฤดูกาล 1966-67 ที่ทีมได้แชมป์ดิวิชั่นหนึ่ง หรือลีกสูงสุดสมัยนั้น ครั้งสุดท้ายยูไนเต็ด ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกมาครองได้อีกเลย แถมในปี 1974 พวกเขายังพบกับจุดต่ำสุดเมื่อร่วงลงไปเล่นในดิวิชั่นสอง หลังจากที่หมดยุคของสามสตาร์ดังอย่าง บ็อบบี้ ชาร์ลตัน, จอร์จ เบสต์ และ เดนนิส ลอว์ แต่การมาของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมชาวสกอตต์ ในปี 1986 ก็เป็นจุดเริ่มต้นยุคทองสมัยที่สองของสโมสร และดูเหมือนว่าจะยิ่งใหญ่กว่าเดิม เมื่อ "เฟอร์กี้" นำทีมกวาดแชมป์รายการสำคัญๆ ถึง 27 รายการ พร้อมกับกลายเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในอังกฤษ ขณะที่ในส่วนของเจ้าของทีม มีการเปลี่ยนแปลงจาก มาร์ติน เอ็ดเวิร์ดส์ ที่เป็นประธานสโมสรมาตั้งแต่ปี 1980 มาเป็นครอบครัวเกลเซอร์ ที่เข้ามาเทกโอเวอร์สโมสรด้วยมูลค่า 800 ล้านปอนด์ หรือราว 40,000 ล้านบาท ท่ามกลางการต่อต้านของแฟนบอล "ผีแดง" ที่ไม่พอใจที่ครอบครัวเกลเซอร์ ทำให้ทีมมีหนี้มโหฬาร
ยัง, โจนส์, เด เคอา ความหวังใหม่ในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ตลอดระยะเวลามากกว่า 25 ปีที่ เฟอร์กูสันเข้ามาคุมทีม เข้าสร้างทีมประสบความสำเร็จมากมาย ตั้งแต่ยุคที่มี ไบรอัน ร็อบสัน, สตีฟ บรูซ, มาร์ค ฮิวจ์ส และดาวดังอย่าง เอริค คันโตน่า ที่พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรก และเป็นการได้แชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 26 ปี หลังจากนั้นก็เป็นยุคสามแชมป์ในปี 1999 ที่มีดาวดังอย่าง ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล, เดวิด เบ็คแฮม, รอย คีน, พี่น้องเนวิลล์ และ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เป็นกำลังสำคัญ หรือยุคที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสามสมัยซ้อนตั้งแต่ปี 2006-07, 2007-08, 2008-09 รวมทั้งได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2008 โดยมี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นหัวใจหลัก จนมาถึงฤดูกาล 2010/11 ที่ผ่านมา ที่ทีมทำสถิติคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 19 มากที่สุดในประวัติศาสตร์ แซงหน้าคู่ปรับตลอดกาลอย่าง ลิเวอร์พูล ที่เป็นแชมป์ 18 สมัย
อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลนี้แมนฯ ยูฯ ต้องมีการปรับทัพใหม่อีกครั้ง หลังจากที่แกนหลักหลายคนประกาศอำลาสนาม ไล่ตั้งแต่ แกรี่ เนวิลล์ และ พอล สโคลส์ ที่อยู่กับทีมมาอย่างยาวนาน หรือ เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ นายทวารวัย 40 ปีชาวฮอลแลนด์ ขณะเดียวกัน เวส บราวน์ และ จอห์น โอเช ที่รับใช้สโมสรมาอย่างยาวนาน ก็ตัดสินใจย้ายไปเล่นให้กับซันเดอร์แลนด์ ขณะเดียวกันแม้ว่า ไรอัน กิ๊กส์, เวย์น รูนี่ย์, เนมานย่า วิดิช และ ริโอ เฟอร์ดินานด์ จะยังอยู่ แต่เฟอร์กูสันก็เสริมทัพด้วยการเซ็นสัญญา คว้าตัวใหม่เข้ามาเสริมทีมถึง 3 รายคือ ฟิล โจนส์, แอชลี่ย์ ยัง และ ดาบิด เด เคอา โดยโจนส์เป็นกองหลังที่สามารถเล่นได้หลายตำแหน่ง เช่นเดียวกับยังที่สามารถเล่นตัวรุกริมเส้นหรือหน้าต่ำก็ได้ ส่วนเด เคอาทีมหวังว่าเขาจะเข้ามาเป็นทายาทคนใหม่ของฟาน เดอ ซาร์ ได้
สำหรับในช่วงการเตรียมทีมก่อนเปิดฤดูกาล ที่ยูไนเต็ดไปทัวร์อเมริกาเหนือ และพวกเขาก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ชนะรวดทั้งห้านัด โดยยิงได้ 20 ประตู และเสียไปเพียงแค่ 3 ลูก ในเกมที่ชนะนิวอิงแลนด์ เรฟโวลูชั่น 4-1, ชนะซีแอตเทิล ซาวน์เดอร์ส 7-0, ชนะชิคาโก ไฟร์ 3-1, ชนะเอ็มแอลเอส ออลสตาร์ส 4-0 และล้างแค้นบาร์เซโลน่า ทีมคู่ปรับจากรอบชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ 2-1 ซึ่งถือว่าทีม ""ผีแดง"" ทำผลงานกันได้ดีทีเดียว อย่างไรก็ตาม ในวันอาทิตย์นี้ จะไม่มี ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ กองหน้าทีมชาติเม็กซิโก ที่ได้รับการกระทบกระเทือนทางศีรษะระหว่างการฝึกซ้อมที่อเมริกา รวมทั้ง อันโตนิโอ วาเลนเซีย ที่เจ็บข้อเท้าจากการเล่นในโคปา อเมริกา และ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ที่เจอไวรัสเล่นงานต่อเนื่องจากฤดูกาลก่อนยังไม่พร้อมคืนทีม
ประวัติและผลงานทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ก่อตั้ง : 1878 สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด (ความจุ 75,957 คน) เจ้าของทีม : ตระกูลเกลเซอร์ ประธานสโมสร : โจแอล และ อัฟราม เกลเซอร์ ผู้จัดการทีม : เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
เกียรติประวัติ : แชมป์ลีกสูงสุด 19 สมัย (1908, 1911, 1952, 1956, 1957, 1965, 1967, 1992-93, 1993-94, 1995-96, 1996-97, 1998-99, 1999-2000, 2000-01, 2002-03, 2006-07, 2007-08, 2008-09, 2010-11), แชมป์เอฟเอ คัพ 11 สมัย (1908-09, 1947-48, 1962-63, 1976-77, 1982-83, 1984-85, 1989-90, 1993-94, 1995-96, 1998-99, 2003-04), แชมป์ลีก คัพ 4 สมัย (1991-92, 2005-06, 2008-09, 2009-10), แชมป์คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 18 สมัย (1908, 1911, 1952, 1956, 1957, 1965*, 1967*, 1977*, 1983, 1990*, 1993, 1994, 1996, 1997, 2003, 2007, 2008, 2010 * หมายถึงปีที่ได้แชมป์ร่วม), แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ/ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 สมัย (1967-68, 1998-99, 2007-08), แชมป์คัพ วินเนอร์ส คัพ 1 สมัย (1990-91) และแชมป์ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย (1991)
สถิติการอุ่นเครื่องก่อนเปิดฤดูกาลของทีม แมนฯ ยูไนเต็ด
วันที่ 13 กรกฎาคม ชนะ นิวอิงแลนด์ เรฟโวลูชั่น 4-1
วันที่ 20 กรกฎาคม ชนะ ซีแอตเทิล ซาวน์เดอร์ส 7-0
วันที่ 23 กรกฎาคม ชนะ ชิคาโก ไฟร์ 3-1
วันที่ 27 กรกฎาคม ชนะ เอ็มแอลเอส ออลสตาร์ส 4-0
วันที่ 30 กรกฎาคม ชนะ บาร์เซโลน่า 2-1
เกร็ดที่น่าสนใจของ คอมมิวนิตี้ ชิลด์
1. ฟุตบอลเอฟเอ แชริตี้ ชิลด์ หรือที่เปลี่ยนมาเป็น คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ในปัจจุบัน เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1908 โดยแมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์เป็นทีมแรก โดยการแข่งขันรายการนี้ พัฒนามาจากรายการเชอริฟฟ์ ออฟ ลอนดอน ชิลด์ ที่เป็นการแข่งขันประจำปีระหว่างแชมป์ทีมอาชีพ กับ แชมป์ทีมสมัครเล่น
2. แชริตี้ ชิลด์ เปลี่ยนมาเป็น คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ในปี 2002 และทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ทำสถิติลงเล่นรายการนี้มากที่สุด 27 สมัย (ได้แชมป์มากที่สุด 18 สมัย) ขณะที่แมนฯ ซิตี้ ลงเล่น 7 ครั้ง และได้แชมป์ 3 สมัย โดยครั้งสุดท้ายที่พวกเขาลงเล่นคือปี 1973 แต่แพ้ เบิร์นลี่ย์ 0-1 ที่เมน โร้ด
3. ในปี 1993 แมนฯ ยูไนเต็ด กลายเป็นทีมแรกที่ได้แชมป์รายการนี้ ด้วยการชนะดวลจุดโทษ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการปล่อยให้ทั้งสองทีมได้ครองแชมป์ร่วมกันเมื่อผลการแข่งขันจบลงด้วยการเสมอ โดยแต่ละทีมจะได้โล่ไปครองทีมละหกเดือน
4. ซิตี้ พบกับ ยูไนเต็ด ในรายการนี้แค่ครั้งเดียวในปี 1956 ที่เมน โร้ด ซึ่งเป็น แมตช์แรกที่ทำการแข่งขันภายใต้แสงไฟช่วงกลางคืน ท่ามกลางผู้ชม 30,000 คน ก่อนที่ เดนนิส ไวโอลเล็ต จะยิงประตูชัยให้ "ผีแดง" ที่เป็นแชมป์ลีก ชนะ "เรือใบ" ที่เป็นแชมป์เอฟเอ คัพ ไป 1-0
5. สนามเวมบลี่ย์ กลายเป็นสังเวียนฟาดแข้งรายการนี้ตั้งแต่ปี 1974 (สนามเวมบลี่ย์เก่า ใช้จัดการแข่งขันตั้งแต่ปี 1974 ถึง 2000 ก่อนที่จะใช้ มิลเลเนี่ยม สเตเดี้ยม ระหว่างปี 2001-2006 ในช่วงสร้างสนามเวมบลี่ย์ใหม่) หลังจากที่ก่อนหน้านี้ใช้สนามของสโมสรต่างๆ โดยสแตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นสังเวียนที่จัดการแข่งขันมากที่สุดถึง 10 ครั้ง
http://www.siamsport.co.th/Column/110806_149.html
จากคุณ |
:
เก็บคอ งอเข่า
|
เขียนเมื่อ |
:
6 ส.ค. 54 17:37:44
|
|
|
|
 |