ความคิดเห็นที่ 1 ขออนุญาตลบนะครับ แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 54 17:13:15 จากคุณ : +One Side Love+ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 13:29:12

ความคิดเห็นที่ 2 เหตุการณ์เผาเมืองแบบนี้ คุ้นๆ จากคุณ : เสือทุ่ง357 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 14:04:01

ความคิดเห็นที่ 3 " เหตุการณ์เริ่มตันขึ้นที่ เมืองทอตแน่ม หรือแฟนฟุตบอลชาวไทยรู้จักกันในชื่อทีมฟุตบอล “ทอตแน่ม ฮอท สเปอร์ส” แล้วทำไมเริ่มเกิดขึ้นที่เมืองทอตแน่ม ละ ? " เมืองทอตแน่ม ไม่มีนะครับ มีแต่ ย่าน ทอตแน่ม หรือ Tottenham Area จากคุณ : งากิ๊ง เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 14:15:17

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณคุณ  +One Side Love+  ไอตัวกระผมก็อยากรู้สาเหตุ แต่ก็ไม่เก่งภาษา ต้องขอบคุณจริงๆครับที่มีคำแปลมาให้ จากคุณ : ตัวตัดเกมส์ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 14:20:21

ความคิดเห็นที่ 5 หัวขโมย แต่มีอุดมการ บวก อันทพาล อยากแสดงออก ครับ จากคุณ : วิตามิน เค เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 14:35:45

ความคิดเห็นที่ 6 เพราะนาย มาร์ก จากคุณ : Ni-MH เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 14:36:22

ความคิดเห็นที่ 7 คนอังกฤษถึงแม่จะเป็นเมืองผู้ดี แต่ก็เป็นประเทศแห่งฮูลิแกน ซึ่งอังกฤษชนชั้นผู้ดีกับชนชั้นแรงงานก็มีพรรคการเมืองของแต่ละกลุ่ม คือ พรรคอนุรักษ์นิยมกับพรรคแรงงาน (คุ้นๆมั้ย) ซึ่งก็อย่างที่รู้พรรคอนุรักษ์นิยมจะรับใช้ชนชั้นสูง ซึ่งพยายามตัดงบสวัสิการต่างๆของชนชั้นล่าง ทำให้เกิดความไม่พอใจแก่ชนชั้นล่างที่เป็นฮูลิแกนนิยม ไม่ว่าจะเป็น2มาตรฐาน เช่นตำรวจยิงประชาชนโดยีข้อสงสัยในการสอบสวน ค่าเทอมที่สูงทำให้สิทธิ์การเข้าศึกษาของชนชั้นล่างมีจำกัด สวัสดิการต่างๆที่จำเป็นต่อชนชั้นล่าง อีกทั้งที่สำคัญนายกอังกฤษก็ดันจบจากที่เดียวกับใครบางคน ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาของชนชั้นสูงอีกต่างหาก     วงเข้ามาเรื่องกีฬา ด้วยความเป็นฮูลิแกนนิยม ทำให้คนอังกฤษพร้อมจะตีกันได้ทุกเมื่อหากสีเสื้อไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่าง แดง-น้ำเงิน หรือ แดง-ฟ้า หรือเอาประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาเป็นชาติมาเขม่นกัน เช่นสงครามดอกกุหลาบ และเป็นสาเหตุหนึ่งที่อังกฤษเคยโดนแบนฟุตบอลด้วยเหตุผลอันเนื่องมาจากความเป็นฮูลิแกนของแฟนบอลนั้นเอง จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 14:47:02

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าสังเกตดู บริเวณที่มีปัญหาส่วนใหญ่เป็นบริเวณที่มีแกงค์เยอะค่ะ อย่างทอตแน่ม ถ้าใครไปเดินตอนดึกๆ จะรู้ว่าน่ากลัวมากๆ  เป็นพื้นที่ที่แกงค์คนดำอยู่เยอะ แถวพวกนี้ปัญหาเยอะมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ฉกชิงวิ่งราว งัดแงะบ้าน ปัญหายาเสพติด การทำลายข้าวของ ตำรวจเยอะมากๆ มีการกระทบกระทั่งกับแกงค์เหล่านี้มาตลอด จะว่าตำรวจผิดอย่างเดียวก็ไม่ได้ แต่คนที่โน่นเขาเซนต์ซิทีฟเรื่องสิทธิพลเมืองมาก ไม่ค่อยดูตัวเองเท่าไหร่ว่าทำผิดกันขนาดไหน ยกตัวอย่างง่ายๆ มีเคสหนึ่งที่คนพยายามเข้ารถไฟใต้ดินโดยไม่จ่ายเงิน พอตำรวจสั่งให้ไปจ่ายเงินก็มีการดึงดันทำท่าทางน่าสงสัย ตำรวจสามคนก็เลยรุมจับเอากระบองตี ของแบบนี้ถ้าอยู่เมืองไทยตำรวจคงไม่ผิดเพราะชายคนนั้นน่าสงสัยจริงๆ แต่อยู่อังกฤษเนี่ย สื่อเอาลงทุกช่อง นสพ.ทุกฉบับด่าตำรวจซะอย่างนั้น เคสเบื้องต้นกรณีนี้ก็เหมือนกัน อีกฝ่ายนึงยิงโต้ตอบ ตำรวจป้องกันตัวผิดตรงไหน? จริงๆ ลอนดอนหรืออังกฤษเนี่ยสามารถแบ่งพื้นที่ได้เลยนะคะ บริเวณนี้คนรวยอยู่ บางบริเวณคนจนอยู่ บางพื้นที่เป็นพื้นที่คนดำ บางบริเวณก็คนขาวไม่ค่อยมีการศึกษา อย่างแคมเดน เวสแฮม ทอตแน่ม ฯลฯ เป็นพื้นที่ที่คนดำ คนไร้การศึกษาอยู่เยอะ ทางแถบตะวันออกหน่อยแถวๆ มหาลัย East London หรือเมืองอย่างเลสเตอร์ก็แขกเยอะ ลิเวอร์พูล เบอร์มิงแฮม ก็มีแกงค์อยู่ ค่าเช่า ค่าที่พัก ค่าภาษีส่วนกลางก็แตกต่างกันไปตามพื้นที่ ยิ่งอยู่พื้นที่ที่มีปัญหามากๆ ค่าเช่าจะถูกมากๆ แต่ council tax ก็แพงมากๆ ด้วย อย่างอาร์เซนอลแม้จะอยู่ทางเหนือเหมือนทอตแน่ม แต่บรรยากาศก็ต่างกันเยอะ คนรวยอยู่บริเวณอาร์เซนอลมากกว่า เราเคยอยู่แถวไม่ห่างจากอาร์เซนอลมาก เดินกลับบ้านเที่ยงคืนหลังทำงานเสร็จเนี่ยชิวๆ หรือเชลชีเนี่ย บริเวณของคนมีเงินเลยล่ะ ค่าที่พักแพงมากๆ จากคุณ : jedi2543 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 14:53:10

ความคิดเห็นที่ 9 ต้นแบบ ประชาธิปไตย ก็แบ่งแยกชนชั้นยิ่งกว่า แถวนี้เยอะ จะหาสังคมสมบูรณ์แบบ ยูโทเปีย คงมีแต่ในหนังสือ จากคุณ : OSK29560 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 15:11:07

ความคิดเห็นที่ 10 แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 54 15:14:18 จากคุณ : OSK29560 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 15:12:04

ความคิดเห็นที่ 11 แค่อ่านมาถึงคำว่า เมืองทอตแน่ม ก็ทำให้บทความนี้ ถูกลดทอนความน่าเชื่อถือไปกว่าครึ่งแล้ว เป็นหลักฐานว่าคนที่เขียนไม่ได้ทำการบ้านมาเลย จากคุณ : ปล่อยใจ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 15:17:35

ความคิดเห็นที่ 12 ผมว่ามันไม่ใช่จราจลครับ มันคือการ "ปล้นสดม" กันชัดๆ จากคุณ : ปิโยชิคุง เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 15:27:47

ความคิดเห็นที่ 13 อันดับแรก .... ตำรวจไปยิงสมาชิกพวกที่ค้ายา พวกผิวดำ หรือ แขก สักอย่างนี่แหละ จากนั้นก็เริ่มมีการรวมกลุ่มไปคัดค้าน การกระทำ แต่แล้วตำรวจไม่ออกมาเจรจา มันก็เลยเอาคืน เริ่มจาก ประท้วง ก่อหวอด เบา ๆ จนเริ่มบานปลาย ประกอบกับ มีพวกที่สวมรอยไม่ชอบรั​ฐบาลชุดนี้อีก มาผสมโรง เผาบ้น รถ ทำร้ายคน ต่างๆนานา เอวังด้วยประการฉะนี้ (ที่มา จากเพื่อนที่ไปชุบตัวอยู่ที่ หล่อนด๊อน) ผิดพลาดประการใด ขอโต้ดด้วยเน้อ แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 54 15:34:50 จากคุณ : Hokkaido_H เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 15:34:19

ความคิดเห็นที่ 14 ผมเชื่อเหมือนกันว่า หลายคนติดตามแต่ผลที่ตามมา แต่ไม่ค่อยศึกษาว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เพราะอะไร ทำให้เกิดข่าวนั้นขึ้นมา เหมือนเรื่อง ฮ ไทย ตก 3 ลำ ซึงทุกคนรู้ดีว่าฮ ตก แต่ผมเชื่อว่าบางคนยังไม่รู้เลยว่า ฮ ลำแรก มีภารกิจอะไรในตอนนั้น ฮ เลยตก อาจเป็นเพราะการนำเสนอข่าวก็ได้ครับ การเบี่ยงเบนประเด็นหรือเลือก impact ที่มันโดนกว่าในการนำเสนอ ทำให้คนหลงลืมถึงต้นตอของเหตุการณ์ไป จากคุณ : tror ikke det for du se เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 15:48:06

ความคิดเห็นที่ 15 - การศึกษา - คุณธรรมในใจ แค่นี้แหล่ะครับ ถ้ามี 2 อย่างนี้ คงไม่ลามเป็นไฟลามทุ่งแบบนี้ จากคุณ : PEDestrain เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 15:53:57

ความคิดเห็นที่ 16 #11 แล้วของจริงเป็นอย่างไรครับ ถ้ามันไม่ใช่"เมือง"แต่เป็นพื้นที่ชุมชนหรืออย่างไรก็เสริมไปสิครับ แทนที่จะเสริมกลับdiscreditคนอื่นซะงั้น.. ช่วยกันซ่อม/สร้างดีกว่าทำลายนะครับ... จากคุณ : Metroman เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 16:10:06

ความคิดเห็นที่ 17 บทความใน คห.1 ก็ดีนะ แต่งงกับการนำเสนอบทความที่ยกพาดหัวข่าวต่างๆ มาแล้วบอกว่า สื่อพาดหัวเน้นขาย สุกเอาเผากิน ลืมหลักการนำเสนอข่าว เอ่อ..ก็มันคือพาดหัวข่าว หลักการพาดหัวข่าวคือสร้างความน่าสนใจอยู่แล้ว ส่วนเนื้อข่าวหรือรายงานประกอบข่าวจะวิเคราะห์แจกแจงอะไรก็ว่าไป   ไม่ใช่เผากันอยู่ แต่พาดหัวว่า คนว่างงาน...ความหลากหลายทางวัฒนธรรม...บลาๆๆๆๆ เพราะขนาดที่ว่ามาทั้งหมดยังหาสาเหตุที่ชัดเจนไม่ได้เลย ถ้าสื่อแต่ละเจ้าไม่มีเนื้อหากล่าวถึงหรือวิเคราะห์สาเหตุเลยก็อีกเรื่อง (ซึ่งไม่จริง) จะสรุปว่าพาดหัวอย่างนี้แล้ว "ลืมหลักการการนำเสนอข่าว" ผมก็ว่าคนเขียนนั่นแหละ "ไม่รู้หลักการพาดหัวข่าว" แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 54 16:33:47 จากคุณ : Meursault เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 16:31:29

ความคิดเห็นที่ 18 อยากทราบว่าคนดำที่อยู่ย่านแถบนั้นเขาเป็นพลเมืองอังกฤษหรือเปล่าคะ แบบว่า ถือพาสปอร์ตอังกฤษ ด้วยหรือเปล่า หรือเขาอยู่ด้วยวีซ่าอะไรกันคะ จากคุณ : Freedom of Life เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 16:42:42

ความคิดเห็นที่ 19 ตามนี้ครับ จุดที่เกิดเหตุแรกๆๆส่วนใหญ​่ไม่ว่าจะเป็นCroydon หรือว่า Brixton เป็นถิ่นของชนชั้นล่าง และคน​ผิวสี ในลอนดอนครับ ซึ่งผู้คนส่วนมากอยู่ในอพาท​เมนต์ซึ่งรัฐบาลเป็นผู้ก่อส​ร้าง ให้ คล้ายๆๆกับบ้านเอื้ออาทรของ​เราครับ จริงๆๆแล้วปัญหาเป็นคลื่นใต้น้ำมานานแล้ว ครับ เนื่องจากประเทศอังกฤษเป็นร​ัฐสวัสดิการที่ดีแห่งหนึ่งข​องโลกคนอังกฤษเองค่อน ข้างเร​ื่องมากกับการทำงาน มีอะไรก็ออก เพราะว่าถ้าตกงานยังไงรัฐก็​จะจ่ายเงินเดือน และหาบ้านให​้อยู่อยู่ดี นั้นทำให้งานบริการตกไปอยู่​ในมือพวกยุโรปตะวันออก(ประเ​ทศ ที่เพิ่งแตกจากสหภาพโซเวี​ยต)เป็นส่วนมากเพราะว่าคนเห​ล่านี้สามารถอยู่ในอังกฤษได​ ้ตามกฎของอียู ข้อดีของคนเหล่านี้ก็คือ มีปัญหากับนายจ้างน้อยกว่า และรับเงินเดือนที่ ต่ำกว่าค​นอังกฤษ จึงทำให้คนอังกฤษประสบกับปั​ญหาการว่างงานอย่างต่อเนื่อ​งและยาว นาน  นอกจากนี้อีกหนึ่งปัจจัยพื้​นฐานภายในที่ทำให้เกิดการจร​าจลครั้งนี้เกิด เนื่องจากสภ​าวะเศรษฐกิจของอังกฤษเองที่​ประสบกับสถานการณ์การเงินเก​ี่ยวกับงบ ประมาณที่ขาดดุลมา​ตั้งแต่สมัยนายจอนห์ เมเจอร์ และการใช้งบประมาณทหารอย่าง​ต่อ เนื่อง ทำให้รัฐบาลอังกฤษจำเป็นต้องรัดเข็มขัด ตัดเงินช่วยเหลือและสวัสดิก​ารห ลายอย่าง ซึ่งส่งผลโดยตรงกับชนชั้นล่​างของอังกฤษ อีกทั้งภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอ ​ เมริกาและภาวะหนี้ในยุโรป ส่งผลทำให้ค่าครองชีพในอังก​ฤษซึ่งสูงอยู่แล้วทำให้สูงข​ึ้น ไปอีก สภาวะเช่นนี้เองที่ส่งผลโดย​ตรงต่อความเลื่อมล้ำกันในสั​งคมของคนอังกฤษ อย่างยากที่จะแก้ไข ส่วนฉนวนของการลุกฮือนั้น คาดว่าน่าจะเป็นความรู้สึกท​ี่มีผู้เสีย ชีวิตจากการปะทะ​กันกับตำรวจ เนื่องจากอังกฤษเป็นประเทศท​ี่ห้ามประชาชนพกปืนครับ แม้แต้ตำรวจเองธรรมดาก็ห้าม​พกครับ ต้องเป็นหน่วนพิเศษเท่านั้น​จึงจะได้รับอนุญาตให้ พกปืน​ การที่ประชาชนเสียชีวิตจากก​ารยิงของตำรวจนั้น ในสายตาของอังกฤษมองว่าตำ รว​จค่อนข้างทำเกินกว่าเหตุเป็​นการกระทำซึ่งขัดกับสิทธิแล​ะเสรีภาพของประชาชนครับ จากคุณ : D.Ginotov เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 16:54:01

ความคิดเห็นที่ 20 ผมเจ้าของความเห็น 1 นะครับ เนื่องจาก พอกลับมาที่กระทู้ เริ่มมีความเห็นวิจารณ์พาดพิงถึงเจ้าของบทความ แทนที่จะเป็ฯความเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างความเสื่อมเสียให้เจ้าของบทความโดยที่เจ้าตัวไม่ได้รับรู้จึงไม่มีโอกาสมาชี้แจงในที่นี้ กอรปกับผมถือวิสาสะ น้ำบทความในบลอคของคนอื่นมาแปะโดยมิได้ขออนุญาตเจ้าของบทความ ผมจึงขอลบบทความในคห.1 และขออภัยทุกท่านที่เข้ามา และเจ้าของบทความด้วยครับ ขออภัยทุกท่านครับ จากคุณ : +One Side Love+ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 17:18:13

ความคิดเห็นที่ 21 น่าจะย้ายไปห้องนอกเรื่องดีไหมครับนี่ จากคุณ : เรียวมาโต เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 17:31:48

ความคิดเห็นที่ 22 เรื่องมันเกิดจากตำรวจไปยิงคนตายครับ ตอนแรกรายงานข่าวกันว่า คนที่ตายมีอาวุธปืนและพยายามชักออกมายิงตำรวจ ตำรวจจึงต้องยิงตอบโต้ แต่ทีนี้มันจะมีกลุ่มอันธพาล พยายามเอาเรื่องที่ว่านี้ มาสร้างประเด็น ก่อหวอดประท้วง และรวมกลุ่มกันโดยใช้บีบี, ทวิตเตอร์ แจ้งข่าวภายในเครือข่าย เสร็จก็รวมตัวออกมาเผารถ ทำลายข้าวของ บุกเข้าไปปล้นร้านค้า แม้กระทั่งคนอังกฤษด้วยกันเอง ก็โดนกลุ่มคนพวกนี้ปล้นทรัพย์สิน ซึ่งเป้าหมายของคนกลุ่มนี้ไม่ใช่อะไร เพียงแค่ใช้เรื่องนี้มา "อ้าง" เท่านั้น สุดท้ายมีการสืบสวนตำรวจที่ก่อเหตุยิงประชาชน โดยทางสื่อของอังกฤษเอง ได้ออกมาแฉว่า จริง ๆ แล้วตำรวจถูกยิงเข้าที่ ว. ไม่ได้โดนยิงเข้าที่ร่างกายส่วนใดเลย แถมกระสุนที่ยิงนั้น ก็มาจากปืนของตำรวจด้วยกันเอง (ผมตามอ่านข่าวจากเวบ BBC นะครับ) จากคุณ : Nakharin เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 19:58:52

ความคิดเห็นที่ 23 ลองอ่านอูจาก blog นี้ วิเคราะห์สาเหตุไว้ด้วย น่าสนใจดี http://www.oknation.net/blog/sheva/2011/08/09/entry-2 จากคุณ : Nesty เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 20:47:17

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่ชอบที่คนบางคน+สื่อบางสื่อเหยียดเชื้อชาติ พยายามโยนความผิดไปให้คนผิวสีหรือคนอพยพ ลอนดอนมีสลัม คนอังกฤษแท้ๆนั่นแหละ วัยรุ่นสลัมในกรุงเทพฯก็เป็นคนไทยแท้ๆ แท้ยิ่งกว่าคนจีนอพยพซะอีก จากคุณ : swedishNO.1 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 21:06:05

ความคิดเห็นที่ 25 ความคิดเห็นที่ 24     ไม่ชอบที่คนบางคน+สื่อบางสื่อเหยียดเชื้อชาติ พยายามโยนความผิดไปให้คนผิวสีหรือคนอพยพ ลอนดอนมีสลัม คนอังกฤษแท้ๆนั่นแหละ วัยรุ่นสลัมในกรุงเทพฯก็เป็นคนไทยแท้ๆ แท้ยิ่งกว่าคนจีนอพยพซะอีก จากคุณ : swedishNO.1   ไม่ชอบเหมือนกันค่ะหากมีการเหยียดเชื้อชาติแบบนั้น แต่บริเวณที่เกิดขึ้นเป็นถิ่นที่อยู่คนผิวสี คนจนที่มีปัญหาจริงๆ และเป็นคนอังกฤษแท้ๆ นะคะ ไม่ใช่พวกผู้อพยพ มันก็เหมือนคนอเมริกาหรือทุกประเทศนั่นแหละ ถึงแม้จะเรียนฟรีหรือเรียนถูก แต่ถ้าสภาพแวดล้อมพาไป ครอบครัวยังมีการทำร้ายกันอยู่ เวลาด่าลูกเนี่ยหยาบมากๆ ส่วนเด็กที่โตมาเห็นตัวอย่างคนบริเวณนั้นหรือเพื่อนที่แทนที่จะพาไปเรียนกลับไปอยู่ริมถนน ตั้งแกงค์ ฉกชิงวิ่งราว สุดท้ายเด็กก็เลิกเรียนเฉย ยิ่งการเรียนระดับมหาวิทยาลัยไม่ใช่การเรียนฟรี ต้องมีเสียเงิน (แต่ถูกกว่าต่างชาติเกือบ 50-70%) แต่พ่อแม่ที่โน่นส่วนใหญ่จะดูแลเด็กจนจบแค่มัธยม คนที่จะเรียนต่อจริงๆ ก็ต้องเป็นคนรักเรียน เพราะต้องใช้ชีวิตผูกติดกับหนี้ที่ยืมธนาคารไปอีก 20-30 ปี ที่โน่นเด็กจะเรียนต้อง Loan หรือกู้ยืมเท่านั้น เพื่อนคนหนึ่งเคยเล่าให้ฟังว่า ถ้าเรียนจบปริญญาโท แสดงว่าคนอังกฤษต้องใช้หนี้ไปเกือบอายุ 50 ปี คนที่ไม่เรียนที่โน่นจึงมี 2 อย่าง 1. ถ้ารักดี เขาจะไปทำงานกัน แต่ผลจากเศรษฐกิจที่แย่ลงและการให้คนจากอียูเข้ามาทำงาน ทำให้คนอังกฤษมีโอกาสตกงานสูงมากๆ อย่างงานบริการเนี่ย ส่วนใหญ่จ้างยุโรปตะวันออกกับคนเอเชียเท่านั้นล่ะ เพราะกดค่าแรง โกงเงินทิปได้ (เราเจอประจำจากร้านไทยนั่นแหละ) 2. ถ้าไม่รักดี ก้อเสียคนไปเลย กรณีเคสนี้ที่เกิดขึ้น บางคนวิจารณ์ว่าเป็นเรื่อง Racism แต่สำหรับเรา ถ้าเราเป็นตำรวจ เรียกออกมาตรวจแล้วไม่ออกมา มีอาวุธด้วย เราก็ไม่ไว้ใจค่ะ เพราะปัญหาเยอะมากๆ เราเคยผ่านบริเวณที่มีปัญหาพวกนั้น แค่ทุ่มเดียวก็ไม่อยากเดินแล้ว แกงค์วัยรุ่นจ้องมองผู้หญิงเอเชียคนเดียวที่เดินผ่านหน้า ทำท่าจะเดินตามหรือตะโกนแซว มันน่ากลัวจริงๆ ค่ะ แถวนั้นเนี่ย ตำรวจจะทำงานหนักมากๆ แต่ถ้าบริเวณอย่างเชลชีนะ เดินเที่ยงคืนก็สบายใจ เมืองที่มีปัญหาจะมีแกงค์อังกฤษท้องถิ่นคุมค่ะ ลิเวอร์พูล แมนยู (ฮูลิแกน คนขาว คนดำ ปนหมด) บริสตอล (เมืองมาเฟีย มีสองสามแกงค์ใหญ่ของคนขาว คนดำที่นั่น) เบอร์มิงแฮม (แกงค์แขก คนดำและเอเชีย) แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 54 22:50:30 จากคุณ : jedi2543 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 22:40:19

ความคิดเห็นที่ 26 อยากจะพูดแต่กลัวโดนข้อหาเหยียดเชื้อชาติ เลยไม่พูดดีกว่า จากคุณ : nancya9 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 23:36:27

ความคิดเห็นที่ 27 ผมอยู่นิวคาสเซิล ขอแย้งเรื่องเชื้อชาติเช่นกันครับ คนที่ออกมาส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น แล้ววัยรุ่นที่นี่ "เกรียน" กว่าเมืองไทยเยอะครับ จากคุณ : theopp เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 00:12:10

ความคิดเห็นที่ 28 จากเหตุการณ์นี้ทำให้หลายคนคงเห็นภาพของ "ลอนดอน" ได้ชัดกว่าเดิมครับ ว่าลอนดอนไม่ใช่มหานคร ที่มีแต่ความสวยงาม เลิศหรู อลังการ มีแต่ฝรั่งแต่งตัวเท่ๆ เหมือนในหนังอย่างเดียว ก่อนอ่านข่าวจลาจลครั้งนี้ ก็พอเดาได้ว่ามันจะเกิดที่ย่านไหน คนที่เคยไปอยู่จะรู้ว่าย่านไหน เป็นยังไง ต้องอธิบายก่อนว่าลอนดอนจะแบ่งเป็นโซน โซน 1 ก็จะเป็นย่านกลางเมือง ที่ก็จะแพง บั๊กกิงแฮม พาเลซ แฮร็อดส์ บิ๊ก เบน ลอนดอนอายส์ พวก landscape ของเมืองก็จะอยู่โซนนี้ล่ะครับ อ้อ ทีมเชลซีด้วย โซน 2 ก็จะอยู่ถัดออกมา ถ้าเป็นกรุงเทพฯ ก็คงประมาณสวนจตุจักร ปิ่นเกล้า พระโขนง อาร์เซน่อล ฟูแล่มจะอยู่โซนนี้ ส่วนโซน 3 เป็นต้นไปนี่แหละครับ ศูนย์รวมความน่ากลัว คือ มันก็ไม่ทุกย่านนะครับ อย่างย่านวิมเบิลดันก็โซน 3 แต่แต่เป็นย่านที่คนมีเงินอยู่ด้วย แต่มันช่างขัดกับภาพลักษณ์ของทีมอย่าง จอมโหด วิมเบิลดันจริงๆ Brixton นี่ตอนผมไปใหม่ๆ ทำงานแจกใบปลิวให้ร้านอาหารไทย ผู้จัดการร้านย้ำเลยว่า ย่านนี้ไม่ต้องเข้าไปแจกนะ ตอนกลางวันก็ไม่ต้องเข้าไป! แกย้ำนักย้ำหนา พออยู่ไปก็ได้กิตติศัพท์ของย่านนี้มากขึ้น ประมาณว่าเป็นถิ่นคนดำ และมีคดีบ่อยมาก อ้อ ไม่ได้ดูถูกคนดำนะครับ แต่ว่ากันตามสภาพจริงๆ คือคนขาวแสบๆ ก็มี แต่ Brixton นี่คนดำครองจัดเป็นหนึ่งใน red zone ของลอนดอน แต่จะว่าไปย่านนี้มีผับ มีคลับดีๆ เยอะนะครับ แถมราคาไม่แพงด้วย วงดังๆ อย่าง Suede ก็มาเล่นที่นี่ด้วย   Hackney ที่เกิดเรื่องเช่นกันนี่ เคยดูข่าว B.B.C. บอกว่ารัฐจัดให้ย่านนี้เป็นย่านอันตรายที่สุดอันดับ 1 ของประเทศ ไม่ใช่ของลอนดอนนะครับ ของประเทศเลย รุ่นน้องคนไทยคนนึงเคยอยู่ มันเล่าว่าอยู่จนชินแล้ว เห็นทั้งจี้กันกลางวันแสกๆ ตีกัน เอามีดไล่แทงกันสารพัด แต่ว่าโคตรถูก ก็แน่ล่ะ ที่ๆไหนน่ากลัว ค่าที่พักก็ย่อมถูกตามไปด้วย แต่อย่างพวกย่านที่เป็นข่าวจลาจลก็โซน 3 ไม่ก็ปลายๆ โซน2 ต่อโซน 3 ทั้งนั้น ก็ธรรมดาครับยิ่งห่างไกลโซนในเมืองมากเท่าไหร่ ทั้งสภาพแวดล้อม สังคม ผู้คนก็ย่อมลดระดับลงมา ไม่ได้ดูถูกนะครับ อันนี้มองรวมๆ  อ้อ ใครจะว่าอังกฤษหรือประเทศพัฒนาแล้ว ไม่มีเรื่องเหยียดผิว ลึกๆ มันก็ยังมีอยู่แหละครับ เพราะคนดำมีทั้งพวกที่อยู่มาดั้งเดิมเป็นร้อยๆ ปี หรือพวกคนดำที่อพยพมา ซึ่งหลายสิบปีหลังมานี้ก็มาเป็นระลอกๆ รวมถึงเอเซียด้วย โดยเฉพาะแขกที่เคยเป็นประเทศในอาณานิคมเยอะมาก แถว Upton park แถวทีมเวสต์แฮมนี่แหละ ไปเดินเล่นแล้วถ่ายรูปแล้วเอาไปบอกใครว่าไปเที่ยวอินเดียมา รับรองไม่มีคนไม่เชื่อ คือ เหมือนอยู่ในบอมเบย์มากกว่าอยู่ลอนดอนซะอีก อืมมม จะว่าไปในหมู่คนขาวด้วยกัน เรื่อง "ชนชั้น" ในหมู่อิงลิชชนแท้ๆ ก็ฝังอยู่ในวิถีชีวิตคนอังกฤษเป็นปกติแหละครับ เพียงแต่ไม่ได้เปิดมากเหมือนเมื่อก่อน ประมาณว่าคนอังกฤษ อาจจะชนชั้นผู้ดี จะพูดว่า"เราเป็นคนเท่าเทียมกัน ปัจจุบันไม่มีการแบ่งแยกชนชั้นในหมู่คนอังกฤษแล้ว" และคนทั้งประเทศทุกชนชั้นก็จะพยักหน้าตอบรับ โดยที่ในใจรู้ว่า มันไม่จริงเฟ้ย เท่าที่คุยกับเพื่อนที่ยังอยู่ที่โน่น ปัญหามันค่อยๆ สะสมมาตั้งแต่คนว่างงานเยอะขึ้น และก็ตามข่าวที่ชนชั้นแรงงานบอกว่ารัฐและตำรวจไม่เห็นหัวพวกเขา ส่วรรัฐและตำรวจก็ตอกกลับประมาณว่า ก็ดูความประพฤติของพวกท่านสิครับ มันเลยพายเรือในอ่างอยู่อย่างนี้ และก็เหมือนที่หลายคนบอกไว้แล้วว่าพวกยุโรปต.ว.อ.และเอเซียเรานี่แหละที่ไปแย่งงาน โอเคเรื่องค่าแรงต่ำกว่าด้วยส่วนหนึ่ง แต่เจ้าของกิจการคนอังกฤษหลายรายก็บ่นว่าคนอังกฤษก็ไม่สนงานที่ชาวประเทศโลกที่ 3 ทำด้วยแหละ อ้างว่างานพวกนี้ให้พวกโปลิช เช็ก จอร์เจียน หรือพวกแจ๊ป (ผิวเหลือง) ทำเหอะ จะว่าไปแรงงานไทยปัจจุบันก็ปฏิเสธงานรับใช้ในบ้าน จนทุกวันนี้คนงานตามบ้านมักจะอิมพอร์ทจากนอกกันหมด เช่นเดียวกัน แต่ แต่ แต่...ปัญหาเรื่องรัฐกับประชาชน ก็เป็นส่วนหนึ่ง โอเคอาจจะเป็นสิ่งที่จุดประเด็นขึ้นมา แต่น้ำมันที่โหมลงไป ก็ด้วย "ความบ้า" ครับบ้าจริงๆ ของวัยรุ่นลอนดอน ใครเคยไปอย่จะรู้ว่า วัยรุ่นอังกฤษม่างงงงแสบแค่ไหน เราอาจจะคุ้นแต่กับวัยรุ่นผิวสีในหนังฮอลลีวู้ด วัยรุ่นอังกฤษทุกผิวสี และทุกเชื้อชาติ ก็ไม่ต่างจากวัยรุ่นผิวสีในหนังอเมริกันหรอกครับ ตัดคำว่า "ผู้ดี" ทิ้งไปได้เลย พวกนี้บ้าระห่ำ จะอธิบายคงยาว ผู้ที่สนใจลองหาหนังหรือหาหนังสือที่เกี่ยวกับสังคมอังกฤษมาดูครับ จะเข้าใจ ยังไงก็อยากให้ปัญหาจบเร็วๆ ไม่ว่าฝ่ายไหนเสียหาย เห็นจากภาพก็รู้สึกไม่ดีทั้งนั้น จะฝูงชนที่ถูกตำรวจเอากระบองฟาด หรือแม้แต่ห้างร้านที่วอดวายด้วยเปลวเพลิงเผา...ใครนะบอกว่า "ความรุนแรงต้องใช้ความรุนแรงกว่า เข้าระงับ" ปัญหาคือต่างฝ่ายก็คิดว่าฝ่ายตนถูกใช้ความรุนแรงกว่าเข้ามาจัดการ จนลืมว่าบางครั้งมันก็ใช้ความรุนแรงด้วยกันทุกฝ่ายนั่นแหละ เอาเป็นว่ารีบจบเรื่องร้ายๆ เร็วๆ อยากดูบอลจะแย่แล้ว จากคุณ : sexy Boy of London เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 01:22:41

ความคิดเห็นที่ 29 ^^^ sexy Boy of London 4 โมงเย็น เริ่มมืดแล้ว เคยไปเดิน Brixton ครั้งหนึ่ง พาเพื่อนไปคุยกับทนาย บอกตามตรงว่ากลัวเหมือนกัน คนดำ คนแขกน่ารักๆ เยอะมากๆ ค่ะ ถ้าไม่พูดถึงเชื้อชาติ แต่พูดถึงความเกรียนของวัยรุ่นละก้อ และพวก Racist มหาวิทยาลัยที่เราเคยเรียน Loughborough University เป็นเมืองคนขาวใกล้ๆ นอตติงแฮม ปรากฎว่ากลางวันแสกๆ เด็กวัยรุ่นขาว อายุไม่เกิน 15 ชอบจับกลุ่มกันปาหินใส่นักศึกษาเอเชีย เพื่อนคนจีนเจอไปหลาย เราเคยเจอคนขาวหันมาด่าใส่ ทั้งที่ไม่ทำอะไรนอกจากยืนต่อคิวหลังเขา ส่วนเมืองอย่างเลสเตอร์ที่มีคนแขกอยู่มากที่สุดในประเทศกลับ nice มากๆ คนน่ารัก เรียบร้อย จากคุณ : jedi2543 เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 11:59:15

ความคิดเห็นที่ 30 ต้นเรื่องคือเรื่องปากท้องครับ.....ถ้าทุกคนอยู่ดี กินดี คงไม่มีเหตุการณ์น่าเศร้าแบบนี้ จากคุณ : นาย 17 อดีตเด็กหลังห้อง เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 15:24:38

ความคิดเห็นที่ 31 คนอังกฤษเองก็ยังถามตัวเองเลยค่ะว่าปัญหานี้มันเกิดมาจากอะไร คงไม่ใช่เกิดจากสาเหตุเดียวอ่ะค่ะ ปัญหาช่องว่างระหวางคนจน/คนรวยมีเพิ่มขึ้น ปัญหาแอนตี้รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐนั่นก็ใช่ ย่านที่เกิดเรื่องอย่าง Hackney มีใบปลิวห้ามให้ข้อมูลตำรวจติดอยู่ทั่วไป   ปัญหาที่เกิดจากที่รัฐป้อน benefit มากไป เช่น ครอบครัวที่ยากจนอยู่แล้วแต่พยายามมีลูกเยอะแยะ เพราะลูกแต่ละคนก็จะได้เงินจากรัฐมากขึ้น ได้บ้านหลังใหญ่ขึ้น ฯลฯ แต่คนเหล่านี้ (ส่วนใหญ่) ไม่ได้สนใจที่จะอบรมสั่งสอนลูกของตัวเองให้รู้จักเรียนหนังสือเพื่อหางานทำที่ดี ลูกของพวกเขาโตขึ้นก็ไม่ได้ทำอะไร แต่รอรับเงินจากรัฐบาลเหมือนพ่อแม่ แล้วก็มีลูกแต่อายุยังน้อย ในขณะที่สังคมมีความเป็นสังคมวัตถุนิยมมากขึ้น มีเทคโนโลยี่ใหม่ๆ เสื้อผ้าหรูหรา ออกวางจำหน่ายมากขึ้น ความอยากได้อยากมีเหมือนคนอื่นก็เกิดขึ้นกับคนกลุ่มนี้ ในกลุ่มจราจล บางคนเดินทางมาจาก kent, essex, ก็มีค่ะ คิดว่าเป็นปัญหาน้ำซึมบ่อทรายที่ค่อยๆ กัดเซาะสังคมจนตอนนี้ลุกลามเป็นวงกว้างจนที่ไม่รู้จะแก้ตรงจุดไหนก่อน แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 54 00:14:30 แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 54 17:11:05 จากคุณ : นังแต๋น เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 17:09:56