 |
สิงห์เปิดฝืด!เจาะสโต๊คไม่เข้าเจ๊าไร้สกอร์0-0
14/08/2011 21:37:48
สิงห์บลู" เชลซี ออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ไม่สวย เจาะเจ้าบ้าน "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ไม่เข้า เสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0-0 นับเป็นทีมที่สามในบิ๊กโฟร์ ที่เริ่มต้นซีซั่นใหม่ด้วยผลเสมอ ต่อจาก ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล เก็บได้เพียงแต้มเดียว ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา
ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม 2554 สโต๊ค 0 - 0 เชลซี
สนาม : บริทานเนีย สเตเดี้ยม ผู้ชม : 27,421 คน
"เดอะ พ็อตเตอร์ส" สโต๊ค ซิตี้ เปิดสนามบริแทนเนีย สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ "สิงห์บลูส์" เชลซี รองแชมป์เมื่อซีซั่นก่อน เกมนี้โทนี่ พิวลิส นายใหญ่เจ้าบ้านส่งโจนาธาน วู้ดเกต กองหลังตัวใหม่ลงคุมแนวรับร่วมกับไรอัน ชอว์ครอสส์ กัปตันทีม ส่วนแนวรุกเป็นหน้าที่ของเคนวิน โจนส์ และ โจนาธาน วอลเตอร์ส ขณะที่อังเดร วิลลาช-โบอาช กุนซือทีมเยือนมีข่าวดี เมื่อเฟร์นานโด ตอร์เรส ผ่านความฟิตลงล่าตาข่ายคู่กับซาโลมง กาลูได้ ส่วนแกนหลักรายอื่นๆทั้งปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี่ และ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ก็ลงช่วยกันกันครบครัน
ออกสตาร์ทเกมขึ้นมา เชลซีพยายามเดินหน้าเปิดเกมรุกเข้ากดดันใส่เจ้าบ้านทันที นาทีที่ 4 โชเซ่ โบซิงวา กระชากขึ้นมาทางขวา และพยายามจะเปิดเข้ากลางมาให้ซาโลมง กาลู แต่โดนกองหลังสโต๊คตามมาเคลียร์ไว้ได้ซะก่อน
ถัดมานาทีเดียวเป็นโอกาสของสโต๊คบ้าง เจอร์เมน เพนแนนท์ เปิดจากริมเส้นเข้ามากลางหวังให้เคนวิน โจนส์ขึ้นโขก แต่ก็โดนอเล็กซ์ดักเอาไว้ได้ก่อนเหมือนกัน
จากนั้นนาทีที่ 8 โบซิงวาที่เติมเกมรุกได้ดีวันนี้ ลองยิงไกล แต่อัสเมียร์ เบโกวิช นายด่านเจ้าบ้านก็ปัดข้ามคานออกหลังไปได้
ต่อเนื่องด้วยนาทีที่ 11 เฟร์นานโด ตอร์เรส ได้บอลตรงระยะ 20 หลาหน้ากรอบ ก่อนตัดสินใจตะบันทันที แต่ก็หลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
เชลซียังบุกอย่างต่อเนื่อง รามิเรสแทงทะลุช่องให้ซาโลมง กาลูหลุดเข้าไปในกรอบ ก่อนโดนเกล็นน์ วีแลนตามเข้ามาเบียดและล้มลง เจ้าตัวร้องจะเอาจุดโทษ แต่ผู้ตัดสินมาร์ค ฮัลซี่ย์ไม่ว่าอะไร
แต่สโต๊คก็ไม่ยอมง่ายๆ พยายามหาจังหวะโต้เจ็บๆด้วยเหมือนกัน และมีลุ้นในนาทีที่ 23 โจนาธาน วอลเตอร์สได้หลุดเข้าไปทางริมเส้นด้านขวาจนถึงเส้นหลัง ก่อนจะลองเสี่ยงยิงยัดมุมแคบ แต่ปีเตอร์ เช็ก ก็ล้มตัวปัดทิ้งออกไปได้
ต่อด้วยนาทีที่ 27 แม็ทธิว เอเธอริงตัน กระชากขึ้นไปทางขวาได้สวยและพยายามเปิดกลับเข้ามากลางให้วอลเตอร์ส แต่ดาวยิงเพื่อนร่วมทีมเข้าไม่ถึงอย่างน่าเสียดาย
ช่วงท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 39 สโต๊คฟ้องจะเอาจุดโทษบ้าง เมื่อจอห์น เทอร์รี่ กองหลังกัปตันทีมเยือนดูเหมือนจะทำแฮนด์บอลในจังหวะพยายามสกัดบอลกรอบโทษ แต่ฮัลซี่ย์ก็ไม่ว่าอะไรเหมือนกัน
ตอนทดเจ็บเชลซีเกือบได้อีกครั้ง เมื่อเฟร์นานโด ตอร์เรส โชว์ความสามารถเฉพาะตัวล็อกหลบกองหลังสโต๊คทั้งโรเบิร์ต ฮูธ และ ไรอัน ชอว์ครอสส์ แต่จังหวะยิงโดนแหย่เอาไว้พอดี บอลเลยหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย หมดครึ่งแรกสกอร์เลยยังนิ่งอยู่ที่ 0-0
ครึ่งหลังก็ยังเป็นเชลซีที่โหมบุกหนักตลอด นาทีที่ 50 รามิเรสที่เล่นได้เล่นมากในเกมนี้ พยายามไหลเข้าในกรอบให้เพื่อน แต่โดนกองหลังสโต๊คสกัดออกมาเข้าทางตัวเอง เลยล้มตัวยิง แต่ก็หลุดเสาออกไป
ถัดมา 4 นาที เชลซีฟ้องจะเอาจุดโทษอีกครั้ง ในจังหวะชุลมุนในกรอบ ก่อนที่ตอร์เรสจะโดนโจนาธาน วู้ดเกตกระแทกล้มลงจากด้านหลัง
และต่อมาไม่กี่วินาทีพวกเขาน่าได้ประตูอย่างยิ่ง เมื่อกองหลังสโต๊คสกัดบอลอันตรายออกมาเข้าทางจอห์น โอบี มิเกล ที่กระหน่ำวอลเล่ย์ด้วยขวาจากระยะเกือบ 30 หลา บอลพุ่งจะเสียบใต้คานอยู่แล้ว แต่เบโกวิชโชว์ซูเปอร์เซฟบินปัดออกหลังไปได้อย่างยอดเยี่ยม
เชลซียังพยายามบุกหวังทะลวงตาข่ายให้ได้ แต่แนวรับสโต๊คก็ยืนกันได้เหนียวแน่นเหลือเกิน ทำให้ต้องลองเปลี่ยนแนวทาง ด้วยการยิงไกลของฟลอร็องต์ มาลูด้าในนาทีที่ 64 แต่บอลก็พุ่งเข้าซองเบโกวิชอย่างไม่ยาก
ต่อด้วยนาทีที่ 71 นิโกล่าส์ อเนลก้าตัวสำรองที่ลงมาแทนฟลอร็องต์ มาลูด้า ได้บอลทางกรอบโทษด้านซ้าย ก่อนจะยิงแบบชิพๆ เบโกวิชโดดปัดไปชนคานพ้นอันตรายมาได้
และถัดมาไม่นานก็น่าได้อีก ตอร์เรสเปิดเข้าในกรอบโทษให้ซาโลมง กาลู สะบัดหัวโขกจากระยะแค่ 6 หลาแต่ก็เข้าซองเบโกวิชเหมือนเดิม
เชลซีปรับแท็คติกอีกครั้งในนาทีที่ 75 โดยถอดกาลูออกแล้วส่งดิดิเย่ร์ ดร็อกบาลงมาเสริมเกมรุกอีกคน
ถัดมาทีเดียวสโต๊คได้ลืมตาอ้าปากบ้าง โดยเป็นวีแลนที่ลองยิงไกลระยะ 25 หลา บอลพุ่งแรง แต่ก็เข้าซองปีเตอร์ เช็กแบบไม่ยาก
ท้ายเกมนาทีที่ 88 ไรอัน ช็อตตันตัวสำรองของเจ้าบ้านทุ่มไกลเข้ามา เช็กออกมาตัดบอลพลาดไปแล้ว แต่ยังมีดร็อกบาซ้อนหวดทิ้งออกไปได้
ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 2 เชลซีได้ลุ้นอีกครั้ง จากฟรีคิกหน้ากรอบที่ดร็อกบาโดนโจนาธาน วู้ดเกตทำฟาวล์ ดร็อกบาลุกขึ้นมายิงเอง แต่อัดไปติดกำแพงแบบไม่ได้ลุ้น จบเกมเชลซีจึงทำได้แค่บุกมาเสมอกับสโต๊ค ซิตี้แบบจืดชืด 0-0 แบ่งกันไปทีมละแต้ม โดยถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีของเชลซีด้วย กับการที่พวกเขาเตะนัดเปิดซีซั่นแล้วทำได้แค่เสมอเท่านั้น
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
สโต๊ค ซิตี้ : อัสเมียร์ เบโกวิช, โรเบิร์ต ฮูธ, ไรอัน ชอว์ครอสส์, โจนาธาน วู้ดเกต, มาร์ค วิลสัน, เจอร์เมน เพนแนนท์, รอรี่ ดีแล็ป (แดนนี่ พิวห์ น.71), เกล็นน์ วีแลน, แม็ทธิว เอเธอริงตัน (ดีน ไวท์เฮด น.62), เควิน โจนส์ (ไรอัน ช็อตตัน น.86), โจนาธาน วอลเตอร์ส
สำรองไม่ได้ใช้ : โธมัส โซเรนเซ่น, แดนนี่ คอลลินส์, ซาลิฟ ดิเยา, แอนดี้ วิลกินสัน
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, โชเซ่ โบซิงวา, อเล็กซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, รามิเรส, จอห์น โอบี มิเกล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ซาโลมง กาลู (ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา น.75), เฟร์นานโด ตอร์เรส (ยอสซี่ เบนายูน น.89), ฟลอร็องต์ มาลูด้า (นิโกล่าส์ อเนลก้า น.65)
สำรองไม่ได้ใช้ : เอ็นริเก้ อิลาริโอ, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, เปาโล แฟร์เรยร่า, จอช แม็คเอ็คเครน
ผู้ตัดสิน : มาร์ค ฮัลซี่ย์
http://m.siamsport.co.th/detail_news.asp?id=112040&z=1
จากคุณ |
:
Hermy
|
เขียนเมื่อ |
:
15 ส.ค. 54 10:00:24
|
|
|
|
 |