 |
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก : อาร์เซน่อล 0-2 ลิเวอร์พูล
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม 2554
สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
อาร์เซน่อล 0-2 ลิเวอร์พูล
ประตู : 0-1 แรมซี่ย์(ทำเข้าประตูตัวเอง) น.78, 0-2 ซัวเรส น.90
เจ้าบ้านอาร์เซน่อลขาดผู่เล่นตัวหลักไปหลายคนจากอาการบาดเจ็บและโทษแบนแต่ก็ยังได้ข่าวดีนิดๆเมื่อซามีร์ นาสรี่ได้ลงสนามเป็นตัวจริงตามที่อาแซน เวนเกอร์บอกได้เมื่อวานส่วนเอ็มมานูเอล ฟริมปองและอังเดน อาชาวินก็ได้ออกสตาร์ทตัวจริง
ทีมเยือนลิเวอร์พูลก็มีเซอร์ไพรส์อยู่เหมือนกันหลังเคนนี่ ดัลกลิชเลือกที่จะให้หลุยส์ ซัวเรสนั่งเป็นสำรองและส่งทางเดิร์ก เคาท์ลงมาเล่นแทนส่วนแบ็คขวาก็ส่งทางมาร์ติน เคลลี่ลงมาแทนเจ้าหนูจอห์น ฟลานาแกน
ด้านสถิติ"ปืนใหญ่"กับในบ้านเหนืออยู่เยอะหลังพวกเขาไม่เคยแพ้ให้กับ"หงส์แดง"ในบ้านเลยมาตั้งแต่ปี 2000 อีกทั้งในฤดูกาลที่แล้วพวกเขายังชนะเกมเหย้าถึง 11 นัดจาก 19 นัดและยิงเฉลี่ยเกือบ 2 ลูกต่อเกม ส่วนด้านทีมเยือนซีซั่นที่แล้วก็เอาชนะเกมนอกบ้านไปได้แค่ 5 นัดเท่านั้น
เปิดเกมมากก็ใส่กันไม่ยั้งเลยโดยทั้งสองฝ่ายได้ลุ้นจากลูกตั้งเตะกันไปคนละทีแต่ก็ยังไม่ใกล้เคียงประตูเท่าไหร่นัก
ช่วงนาทีที่ 5 "ปืนใหญ่"มาได้จังหวะยิงจากลูกเตะมุมของนาสรี่ที่หยอดไปตรงกลางก่อนจะโดนเคลียร์มาเข้าทางอาชาวินที่ยืนโล่งๆแต่ดันแปผิดเหลี่ยมยิงแบบหมดลุ้นไปเลย นาทีที่ 16 "ปืนใหญ่"ปาดเหงื่อแล้วหลังกอสเซียลนี่จู่ๆก็เกิดเจ็บขึ้นมาจนต้องเตะบอลทิ้งออกไปแล้วเวนเกอร์ก็ต้องจำใจส่งอิกนาซี่ มิเกลปราการหลังดาวรุ่งลงมาแทนที่
ลิเวอร์พูลได้จังหวะจบบ้างแล้วจากจังหวะทุ่มเข้ามาของดาวนิ่งให้เอ็นริเก้เปิดเข้าเขตโทษเป้าอยู่ที่คาร์โรลล์และก็ได้โขกเต็มๆแต่เซสนี่ย์ยังบินมาปัดออกหลังไปได้
นาที 22 "หงส์แดง"มาอีกแล้วจากเอ็นริเก้ที่หยอดข้ามหลังไปให้เคาท์ก่อนจะกระดกกลับมาที่กลางเขตโทษให้เฮนเดอร์สันตามมาโขกแต่ด้วยระยะที่ไกลและบอลไม่ทรงพลังพอทำให้เซสนี่ย์ยังรับไว้ได้อยู่
แอนดี้ คาร์โรลล์ก็ต้องมาเสียใบเหลืองแบบโง่ๆเลยหลังมาร์ติน แอทกินสันเป่าให้เป็นจังหวะล้ำหน้าไปแล้วแต่เจ้าตัวยังไปเตะบอลทิ้งทำให้เจ้าพ่อใบเหลืองใบแดง
ลิเวอร์พูลมาได้ลุ้นอีกทีจากชาร์ลี อดัมที่ได้บอลตรงกลางก่อนจะเห็นเซสนี่ย์ที่ออกมาไกลเลยแล้วลักไก่ยิงจากครึ่งสนามพอดีเป๊ะแต่บอลก็ยังแรงไปลอยออกหลังไป
นาทีที่ 30 อาร์เซน่อลได้ร้องซี๊ดกันเลยจากฟริงปงที่ได้รับบอลตรงกลางก่อนจะพลิกให้เข้าขวาแล้วซัดไกลระยะ 25 หลา บอลพุ่งเรียดเป็นจรวดแต่เรน่าก็ยังปัดออกหลังไปได้
"ปืนใหญ่"เกือบได้เฮแล้วจากนาสรี่ที่ควบตะบึงมาจากหน้ากรอบเขตโทษตัวเองก่อนจะแตะหนีทางคาร์ราเกอร์จนได้ช่องแล้วสับด้วยขวาแต่บอลก็พุ่งผ่านเสาสองออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 38 เดอะค็อปได้ร้องซี๊ดอีกแล้วโดยเริ่มจากเฮนเดอร์สันที่ป้ายบอลคืนหลังให้อดัมก่อนจะเบิ้ลจังหวะเดียวให้ดาวนิ่งได้ยึกยักอยู่สองทีก่อนจะตัดสินใจกดเต็มข้อจากระยะ 28 หลาเลยแต่บอลก็ออกหลังไป
ท้ายเกมอาร์เซน่อลได้ลุ้นจากฟรีคิกกลางประตูระยะประมาณ 30 หลาก่อนจะเป็นฟาน เพอร์ซี่ที่รับหน้ารับหน้าที่สังหารแต่บอลก็ยังไปแฉลบกำแพงลอยออกหลัง
ทดเจ็บเจ้าบ้านก็มาได้ลุ้นทิ้งท้ายครึ่งแรกจากนาสรี่ที่ได้บอลจากฟริมปงมาก่อนจะแต่งหนึ่งทีแล้วยิงเต็มข้อด้วยขวาแต่ก็ไม่แม่นลอยข้ามคานไปเป็นวา
จากนั้นก็จบครึ่งแรกกันไปโดยทั้งสองทีมต่างผลัดกันยิงแต่ก็ยังไม่มีประตู สกอร์อยู่ที่ 0-0 เท่านั้น
ครึ่งหลัง
คิดว่าตัวเองเป็นซึบาสะรึเปล่าสำหรับอดัมที่พอเริ่มเขี่ยบอลครึ่งหลังมาก็ซัดไกลจากกลางสนามเลยแต่ก็แน่นอนว่าไม่เป็นประตูและเข้ามือเซสนี่ย์สบาย
นาที 53 ทีมเยือนร้องซี๊ดเลยจากอดัมที่แทงทะลุให้คาร์โรลล์แต่แรงไปเจ้าตัวเลยต้องปาดกลับคืนหลังมาให้เคลลี่ที่เติมขึ้นมาซัดในถึงเขตโทษแต่โชคร้ายที่บอลได้เพียงแค่ชนเสาแรกออกหลัง เกมผ่านมาถึงนาทีที่ 65 ทั้งสองทีมก็ยังได้ผลัดกันครองบอลแต่จังหวะสุดท้ายก็ยังไม่ดีทั้งคู่ขาดไปขาดมาทำให้แทบหาจังหวะจบไม่เจอ
แต่พอทักเข้าหน่อยเจ้าบ้านก็มาได้ลุ้นเลยจากอาชาวินที่ทำบอลเสียในเขตโทษแต่ยังมีลูกขยันไปเบียดเคลลี่จนได้บอลคืนมาแล้วก็เปิดกลับบมาหน้าประตูให้ฟาน เพอร์ซี่ตวัดยิงแต่ไม่ดีพอเลยติดทางเรน่าออกหลังไป
อะไรกับอาร์เซน่อลกันหนักหนาไม่รู้คราวนี้ฟริมปงไปเปิดปุ่มยันเข้าใส่แข้งของลูคัสทำให้แอทกินสันไม่รอช้าเดินมาควักเหลืองที่สองให้ทันที ทำให้"ปืนใหญ่"ต้องเหลือ 10 ตัวอีกครั้งและลิเวอร์พูลก็จัดหนักส่งซัวเรสและเมเรเลสลงมาไล่บี้ในช่วงเวลาที่เหลือ
"หงส์แดง"เปิดฉากไล่อัด"ปืนใหญ่" 10 ตัวแล้วโดยได้จังหวะลุ้นจากซัวเรสที่วิ่งฉีกกองหลังไปรับบอลทะลุช่องจากเอ็นริเก้ก่อนจะยิงตามน้ำแต่เซสนี่ย์ยังออกมาไวปิดมุมยิงไว้ทัน
ลิเวอร์พูลยังมาต่อเนื่องจากอดัมที่แทงทะลุช่องให้ดาวนิ่งทางซ้ายสปีดไปรับบอลในเขตโทษก่อนจะอัดเต็มข้อแต่อาร์เซน่อลยังได้เซสนี่ย์ที่โชว์เหนียวปัดทิ้งออกหลังไปได้
นาที 76 แฟร์มาเล่นเห็นทางโล่งเลยตะลุยพาบอลขึ้นมาจากแดนตัวเองก่อนจะได้จังหวะจบระยะประมาณเกือบ 30 หลาแต่บอลก็ยังพุ่งผ่านเสาออกหลังไป
สุดท้าย"ปืนใหญ่"ก็แพ้ภัยตัวเองซะงั้นจากซัวเรสที่จ่ายให้เมเรเลสก่อนจะสปีดไปรอบอลคืนจากเมเรเลส มิเกลที่วิ่งตามซัวเรสมายังสกัดไว้ได้แต่ก็มาพลาดเอาตริงจังหวะเตะเคลียร์ไม่ดีไปติดแรมซี่ย์บอลลอยข้ามหัวเซสนี่ย์เข้าประตูไปเฉย ลิเวอร์พูลได้ลูกส้มหล่นขึ้นนำเป็น 1-0 แล้ว
สภาพอาร์เซน่อลช่วงท้ายเกมก็แย่หนักไปอีกหลังเจนกินสัยแบ็คดาวรุ่งดันมาเจ็บต้องเล่นแบบไม่เต็มร้อยไปจนจบเกมเพราะเวนเกอร์เปลี่ยนตัวครบไปแล้ว
นาทีที่ 86 ลิเวอร์พูลมาอีกหนจากเฮนเดอร์สันที่พาบอลตะลุยขึ้นมาก่อนจะออกบอลไปทางขวาให้เมเรเลสที่เติมขึ้นมาได้ตั้งป้อมยิงแต่บอลก็ยังลอนข้ามคานออกไป
นาทีสุดท้ายลิเวอร์พูลมาได้ลูกฝังเลยจากลูคัสที่พาบอลขึ้นมาตรงกลางแบบโล่งๆก่อนจะออกบอลไปทางขวาให้เมเรเลสที่สอดขึ้นมาแล้วตกกลับเข้ากลางให้ซัวเรสได้ยิงแบบโล่งๆส่งบอลนอนก้นตาข่าย ลิเวอร์พูลปิดกล่องนำห่างเป็น 2-0
จากนั้นก็จบเกมไปลิเวอร์พูลที่ได้ส้มหล่นไปลูกนึงกับได้ซัวเรสมาซัดปิดกล่องในนาทีสุดท้ายส่งผลให้พวกเขาเอาชนะอาร์เซน่อล 10 คนไปคาถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม 2-0 คว้า 3 แต้มแรกของฤดูกาลพร้อมทั้งจบสถิติไม่ชนะ"ปืนใหญ่"ในเกมเยือน 11 ปีลงได้สำเร็จ
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล : วอจเซียจ เซสนี่ย์, บาการี่ ซานญ่า, โทมัส แฟร์มาเล่น, โลร็องต์ กอสเซียลนี่ (มิเกล น.16), คาร์ล เจนกินสัน, เอ็มมานูเอล ฟริมปง, อารอน แรมซี่ย์, ซามีร์ นาสรี่, อังเดร อาชาวิน (แลนส์บิวรี่ น.72), ธีโอ วัลค็อตต์ (เบนด์ทเนอร์ น.80), โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
ลิเวอร์พูล : เปเป้ เรน่า, ดาเนียล แอคเกอร์, เจมี่ คาร์ราเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้, มาร์ติน เคลลี่, ชาร์ลี อดัม, ลูคัส เลว่า, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สจวร์ต ดาวนิ่ง, เดิร์ก เคาท์ (เมเรเลส น.71), แอนดี้ คาร์โรลล์ (ซัวเรส น.71)
http://www.liverpool.in.th/readnews.php?idnew=7766
แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 54 06:48:59
จากคุณ |
:
Epidemic7
|
เขียนเมื่อ |
:
21 ส.ค. 54 06:48:46
|
|
|
|
 |