PANTIP.COM : S10996482 {{ ................. Always the Blues CHELSEAFC : 29.08.2011 : HBD น้อง Patrick van Aanholt : ) ................. }} [ฟุตบอลต่างประเทศ]

ความคิดเห็นที่ 10

อังเดร วิลลาส โบอาส กับปัญหาที่ต้องรีบแก้ไข !!!???

Sun Aug 28, 2011 4:15 pm

..........เป็นอันว่า เชลซี สามารถเก็บ 6 แต้มเต็มจากการลงเล่นในบ้าน 2 นัดติดต่อกันเหมือนกับที่ อังเดร วิลลาส โบอาส ได้ตั้งเป้าเอาไว้.. เรื่องของแต้มอาจเป็นสิ่งที่พอใจแต่ถ้าหากพูดถึงรูปแบบการเล่นโดยรวมกุนซือคนใหม่ของทัพ "สิงห์บลู" ต้องรีบปรับโดยด่วน...

ผมมองว่าการที่ผ่านไป 3 นัดของฤดูกาลแล้ว เฟร์นานโด ตอร์เรส ยังคงโนสกอร์ไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่.. เพราะเท่าที่เห็นอย่าว่าแต่จะมีชื่อเป็นผู้ทำประตูเลยครับ แค่หาโอกาสยิงก็ยากเต็มทนแล้วเนื่องจากทีมขาดซึ่งนักเตะที่สามารถพาบอลไปจบในพื้นที่สุดท้าย.. พูดง่ายๆ ก็คือครองบอลกันได้แต่จังหวะป้อนให้กองหน้ายิงแบบเน้นๆ แทบไม่มี

นัดแรกที่พบกับ สโต๊ค ซิตี้ ต้องบอกว่าไม่ได้น่าเกลียดอะไร ครึ่งหลังสามารถกดดันให้ทีมช่างปั้นหม้อต้องเล่นเกมรับแบบสุดๆ ในบ้านของตนเองและน่าจะได้ 3 แต้มกลับบ้านถ้าหากนายทวารวันเดอร์คิดอย่าง อัสเมียร์ เบโกวิซ ไม่งัดฟอร์มเทพออกมาโชว์ต่อหน้าแฟนบอลใน บริทาเนีย สเตเดี้ยม

ส่วนเกมที่ 2 ผมไม่ค่อยอยากพูดถึงภาพโดยรวมเพราะทีมเสียประตูไวมาก นั่นทำให้สมาธิรวมถึงแผนการเล่นที่วางมาไว้ในตอนแรกทำเอาช็อคไปดื้อๆ เลยทีเดียว ยังดีที่ โบอาส กล้าตัดสินใจเปลี่ยนเกมเร็วโดยเอา ฟลอล็องต์ มาลูด้า ลงมาแทน ซาโลมง กาลู ที่เล่นไม่ออกตั้งแต่ครึ่งแรก จนมันมาส่งผลดีในครึ่งหลังคือเล่นงานจนเอาชนะ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ไปได้แบบหืดขึ้นคอ..

มองกันแบบผ่านๆ ก็เห็นได้ชัดครับว่าปัญหาหลักๆ ในเรื่องของผู้เล่นอยู่ที่ตัวทำเกมริมเส้นกับตรงกลาง.. จุดแรกถือว่าเคลียร์ได้ดีกับการดึง ฆวน มานูเอล มาต้า มาด้วยสนนราคาประมาณ 23.5 ล้านปอนด์ ส่วนอีก 1 ปัญหากับกองกลางตัวทำเกมต้องรอดูกันต่อไปครับ ว่าจะหวยจะไปออกที่ใคร

โบอาส บอกเองตั้งแต่เข้ามารับงานว่าต้องการที่จะพิจารณนานักเตะทุกคนอย่างถี่ถ้วนเพื่อที่จะได้ไตร่ตรองว่าใครควรย้ายเข้ามา และใครควรที่จะย้ายออกไป.. เมื่อปัญหามันเกิดขึ้นได้ชัดขนาดนี้ผมเลยค่อนข้างมั่นใจว่า โบอาส ต้องเสริมทัพเพิ่มแน่นอนครับเพราะถ้ายังคงยืนหยัดฝืนต่อด้วยผู้เล่นชุดเดิมต้องบอกว่าโอกาสไปถึงฝันยากมาก

ที่สำคัญปัญหานั้นยังคงรุมเร้าลูกทีมของ วิลลาส โบอาส อย่างต่อเนื่องในเกมนัดล่าสุดที่เปิดบ้านเจอกับ นอริช ซิตี้ คือบอลไปไม่ถึงพื้นที่สุดท้ายเช่นเคย.. อันที่จริงปัญหานี้มันเกิดมาตั้งแต่ช่วงปลายของยุค คาร์โล อันเชล็อตติ แล้วนะครับ นั่นคือเน้นพาสซิ่งเกมตรงกลางแบบเน้นช้าเอาชัวร์มากเกินไป ไม่ค่อยมีทีเด็ดกระชากสุดเส้นแล้วครอสเข้าในเพื่อหาจังหวะจบสกอร์.. ผลสุดท้ายก็คือ "เกมตัน" ไปในที่สุด..

หากแต่ว่าปัญหาเกมตันของ โบอาส แตกต่างจาก อันเชล็อตติ ตรงที่กุนซือสิงห์บลูคนปัจจุบันให้ความสำคัญกับการเซตบอลตรงกลางง่ายๆ แล้วขึ้นเกมบุกด้วยกองหน้าตัวริมเส้น 2 ข้าง รวมถึงวิงแบ็คพยายามโจมตีด้วยการครอสบอลบ่อยๆ เมื่อมีโอกาส แต่ว่าเกมตรงกลางดันเจาะไม่เข้าเลยแม้แต่นิดเดียวนั่นเลยทำให้การจ่ายบอลจากแดนกลางถ้าไม่เสียง่ายก็ส่งคืนหลังหมดมุกเข้าทำ

ผมมองว่าสิ่งที่เป็นปัจจัยหลักจริงๆ คือทีมเวิร์คของนักเตะยังยืดหยุ่นไม่ได้ครับ.. เห็นหลายครั้งในเกมที่เจอกับ นอริส ซิตี้ นักเตะตรงกลางวิ่งทับตำแหน่งกันบ่อยมาก การเคลื่อนที่ดูเป็นก้อนเกินไปจนผมสงสัยว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้นทั้งๆ ที่นักเตะชุดนีก็เล่นด้วยกันมานานมาก

เพราะว่าถ้าเกิดนักเตะมีความเข้าใจเกมซึ่งกันและกัน ระบบมันจะทำให้การเข้าทำจาก 2 ฝั่งหรือว่าทะลุช่องตรงกลางยืดหยุ่นจนสามารถผัดเปลี่ยนกันได้ทุกขณะตามสถานการณ์ของเกม.. ฟุตบอลมันต้องมีหลายก๊อกครับ จะเล่นสเต็ปเดียวไปตลอดมันไม่ได้ ผมติดตามมาตั้งแต่นัดแรกของช่วงปรีซีซั่นดูเหมือน โบอาส ให้ความสำคัญกับการยืดหยุ่นตรงนี้เป็นพิเศษเลยนะครับ

ยกตัวอย่างเช่นเกมที่พบกับ ออลสตาร์ ไทยพรีเมียร์ลีก เริ่มต้นด้วยการส่งบอลไปมาแล้วหาโอกาสเปลี่ยนแกนอยู่ตลอดเวลา.. มิดฟิลด์อย่าง โจชัว แม็คเอแคร่น และ แฟรงค์ แลมพาร์ด ทำในส่วนนี้ได้ดีครับ เปิดออกซ้าย ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ได้หลุดไปถึงริมเส้นทุกที หรือจะเปิดออกขวา นิโกล่าส์ อเนลก้า ก็สามารถเก็บบอลได้

ทว่าการโจมตีริมเส้นแล้วครอสเข้าในดันไม่เวิร์ค ถือว่าคู่ปราการหลังทีม ออลสตาร์ ไทยพรีเมียร์ลีก จัดการกับลูกกลางอากาศได้ดี.. เมื่อเป็นเช่นนั้น โบอาส เลยปรับแทคติคโยกเอา อเนลก้า มาเล่นซ้ายและจับ สเตอร์ริดจ์ ไปยืนขวา.. เจาะริมเส้นไม่ได้ก็เอาตรงการกันดื้อๆ และได้บทสรุปที่ดีคือมีสกอร์ก่อนจบครึ่งแรกในที่สุด..

การยืดหยุ่นรูปแบบการเข้าทำ โบอาส ได้ผลต่อเนื่องจนถึงนัดสุดท้ายของช่วงปรีซีซั่น.. โบอาส คงมองว่านี่ไม่น่าจะใช่ปัญหาสำหรับฤดูกาลใหม่เพราะพิจารณาอย่างดีแล้ว.. เสียแต่ว่าพอเปิดซีซั่นจริงมันดันไม่เวิร์คซะอย่างนั้น.. เหตุผลง่ายๆ ก็คงเป็นเรื่องของคลาสทีมที่เจอมันต่างกันมาก พรีเมียร์ลีก กับ ทัวร์เอเชีย มันคนละเกรดกันอย่างไม่ต้องสงสัย

การส่งบอลไปมาก็สามารถเจาะได้เหมือนที่ทำตอนปรีซีซั่นมันดันใช้งานไม่ได้ผลกับของหนาถึงลูกถึงคนแบบพรีเมียร์ลีก.. ผมชื่นชมรูปแบบการเล่นของ แมนยูไนเต็ด นะครับที่ยืดหยุ่นจริงๆ ทั้งการเจาะริมเส้นด้วยปีกระดับพระกาฬหรือไม่ก็บุกตรงกลางจากตัวฟรี เวนย์ รูนีย์ ที่พักหลังเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก ปั้นเกมโดยการส่งสั้น-ยาว หรือจะยิงเองก็ได้เช่นกัน

ที่ยูไนเต็ดทำได้แบบนั้นคือระบบของท่าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูซัน เป็นของตายจริงๆ ครับ.. สมคำร่ำลือ "จับใครลงเล่น ก็ยังเป็นยูไนเต็ดวันยังค่ำ" โดยถ้าทาง เชลซี หวังที่จะให้เป็นแบบนั้นคือต้องวางรากฐานวางระบบกันยาวๆ ซึ่งก็ต้องให้เวลา โบอาส ในการทำทีมอย่างเต็มที่ครับ

ทางแก้ที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือต้องเสริมทัพสถานเดียวเท่านั้น.. ใช้จุดเด่นของนักเตะยกชูระบบการเล่นให้เหนือระดับขึ้นมา.. การคว้านักเตะตัวหลักของ วาเลนเซีย อย่าง ฆวน มานูเอล มาต้า จัดว่าน่าประทับใจเพราะนักเตะที่เล่นริมเส้นได้แบบธรรมชาติในทีมมีเพียง มาลูด้า กับ กาลู ซึ่งอยู่ในฟอร์มที่ไม่ดีด้วยกันทั้งนั้น

ระบบของ โบอาส เน้นการให้บอลกันบ่อยซึ่งมันเข้ากับสไตล์ของ มาต้า พอดี.. แถมเปิดตัวนัดแรกก็สามารถทำประตูได้นับว่าเป็นการออกสตาร์ทที่ยอดเยี่ยมและสร้างความมั่นใจให้กับทีมได้เยอะ.. เชลซี ไม่มีจอมเทคนิคแบบนี้มานานแล้วนะครับหลังจากหมดยุคของ อาร์เยน ร็อบเบน ปีกจอมตัดเข้าในที่ย้ายออกไปในปี 2007

สาวกสิงห์บลูจำลีลาการกระชากของ ร็อบเบน ได้ดีเยี่ยม แต่ผมไม่อยากให้เอาเงาของปีกทีมชาติ ฮอลแลนด์ มาเป็นมาตรฐานที่ตั้งเอาไว้กับ ฆวน มาต้า ครับ.. เพราะ 2 คนนี้สไตล์ต่างกันอย่างสิ้นเชิง.. มาต้า ไม่ใช่ปีกที่กระชากแบบสุดขั้วเหมือน ร็อบเบน แต่ว่าเน้นการเล่นบอลที่ง่าย ความเข้าใจเกมสูงแถมเทคนิคดีเอาตัวรอดเก่ง เหมาะกับระบบเล่นบอลสั้นมากกว่าส่งแบบไดเรคพาสในยุค โชเซ่ มูรินโญ่

อย่างไรก็ตาม ถึงจะไม่วูบวาบแบบปีกสไตล์เน้นการเลี้ยงบอลด้วยสปีด.. แต่ว่าปีกแบบนี้ก็มีประสิทธิภาพไม่แพ้กันถ้ารู้จักการใช้ให้ถูกวิธีเหมือนกับที่ ดาวิด ซิลบา สร้างชื่อกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปัจจุบันด้วยการเป็นเพลย์เมกเกอร์คอยปั้นเกมตัวหลักของทีม คิลเลอร์พาสก็มี ออกไปด้านข้างแล้วครอสมาก็ทำได้ นี่คือจุดเด่นที่กลบจุดด้อยของปีก "สแปนิช" โดยแท้..

คือผมไม่ได้ยกยอแต่ว่าความแตกต่างในเกมที่พบกับ นอริช ซิตี้ ตอนมี มาต้า กับไม่มีมันต่างกันอย่างสิ้นเชิงจริงๆ นะครับ ดูการจ่ายบอลแต่ละครั้งมันมีมิติมากกว่ายัดใส่ตัวดื้อๆ แถมจังหวะดวล 1 - 1 กับกองหลังและล็อคหลบผ่านไปเปิดบอลก็มีให้เห็น.. นี่คือคุณภาพที่เพิ่มเข้ามาซึ่ง ฆวน มาต้า น่าจะการันตีตำแหน่งตัวจริงได้อย่างแน่นอน

โดยสิ่งที่ขาดไปไม่ได้สำหรับวัตถุประสงค์หลักก็คือทุกคนคาดหวังว่าการมาของ มาต้า น่าจะทำให้หัวหอกค่าตัวแพงอย่าง เฟร์นานโด ตอร์เรส มีโอกาสจบสกอร์มากขึ้นและผลิตผลงานให้คุ้มค่ากับเม็ดเงิน 50 ล้านปอนด์ที่จ่ายไปสักที

จัดการส่วนนั้นเสร็จก็มาว่าถึงแดนกลางที่เป็นปัญหาหลักกันต่อ.. แฟรงค์ แลมพาร์ด , รามิเรส และ จอห์น โอบิ มิเกล คือชุดหลักที่ โบอาส เลือกใช้.. มิเกล โฮลดิ้งได้ดี เข้าแทคบอลสวยๆ หลายครั้งส่วน รามิเรส เป็น "บอกซ์ 2 บอกซ์" มิดฟิลด์เต็มตัว วิ่งเพรสซิ่งไล่กดดันแถมฉวยโอกาสด้วยความเร็วแบบจัดจ้านเล่นงานคู่แข่งมานักต่อนัก

น่าเสียดายที่ฟอร์มของนักเตะระดับคีย์แมนอย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด ตกลงไปมากหลังจากบาดเจ็บถึง 3 เดือนเมื่อซีซั่นก่อน.. หลังจากนั้นกลับมาต้องบอกว่าผลงานของ มิตเตอร์ แฟรงค์ ดรอปลงไปอย่างน่าใจหาย.. พละกำลังไม่เหมือนเก่า ลูกบู๊ยึกบอลไปมาก่อนจะจบด้วยการยิงแทบไม่มีให้เห็น

ไม่มีใครกล้าปฏิเสธเลยว่า แลมพาร์ด ในตอนนี้ไม่ใช่คนเดิมที่เต็มไปด้วยลูกทีเด็ดมากมาย.. แต่มีอยู่ 2 เรื่องที่ผมขอค้านความเห็นคนอื่นๆ ที่มีต่อ แลมพาร์ด นั่นก็คือเรื่องของการ ส่งบอล ที่มีแต่คนบ่นว่าคิลเลอร์พาสไม่มี.. หารู้ไม่เปิดฤดูกาลมา 3 นัด "แลมพ์" แอสซิส ไป 2 ลูกแล้วนะครับ

ที่การส่งบอลไม่สวยหรูเหมือนเก่าบางทีบทบาทในแทคติคที่ โบอาส ใส่ลงไปมีส่วนอย่างมาก ไม่หวือหวาเหมือนเก่าแต่ประสิทธิผลยังเหมือนเดิมเป็นอันโอเค ส่วนอีก 1 เหตุผลที่ผมไม่เห็นด้วยก็คือ การเลือกที่จะดรอป แลมพาร์ด ไว้เป็นตัวสำรองถึงแม้ฟอร์มจะไม่เหมือนเก่า

บางทีของแบบนี้เราก็ต้องดูกันแบบใจเย็นครับ.. ฟุตบอลมันก็เหมือนการทำงาน.. เด็กๆ อาจมีแนวการเล่นหรือแนวความคิดที่แปลกใหม่เนื่องจากความสดที่เต็มที่ ทว่าประสบการณ์ก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันเราจึงได้เห็นบริษัทใหญ่ๆ หลายที่เช่น สยามกีฬา ที่ยังให้อำนาจเบ็ดเสร็จกับคนรุ่นเก่าเป็นอันดับแรก

เพราะฉะนั้นว่ากันตามที่เห็น สิ่งที่ถูกต้องไม่ใช่การจับ แลมพาร์ด นั่งเป็นตัวสำรอง แต่ต้องยอมลดบทบาทของเขาให้เป็นตัว โฮลดิ้ง มากกว่าที่จะเป็นเพลย์เมกเกอร์คอยทำเกม ซึ่งก็อยู่ที่ว่า โบอาส จะจัดการอย่างไรเพราะ โอบิ มิเกล ก็ยังอยู่ในฟอร์มที่ดี แถมตัว แลมพาร์ด เองก็ยังยืนว่าเขาไม่ชอบที่จะเล่นเกมรับ

ไม่ว่าจะเป็นเช่นไรผมยังเชื่ออยู่ลึกๆ อยู่ว่า โบอาส จะไม่ดรอป แลมพาร์ด ยาวๆ แต่อาจมีการลองรูปแบบใหม่ๆ มากขึ้นเช่นการให้โอกาส โจชัว แม็คเอแคร่น กับ ยอสซี่ เบนายูน ให้มากกว่าเดิม ยกเว้่นเสียแต่ถ้าได้กองกลางตัวทำเกมคนใหม่เข้ามาจริงๆ อันนี้ โบอาส ก็ต้องมานั่งคิดอีกทีว่าควรจะทำอย่างไรต่อ

ถึงแม้ แลมพาร์ด จะไม่เหมือนเก่าแต่ด้วยความเก๋าที่มีบวกกับการเป็นผู้เล่นที่ทรงอินธิพลของทีมน่าจะทำให้พิษสงของ แลมพาร์ด คงมีเหลือพอที่จะงัดออกมาใช้ยามจำเป็นในแบบที่ผู้เล่นดาวรุ่งไม่มี..

จบเรื่องของนักเตะและรูปแบบการเข้าทำจากนั้นมาต่อกันที่ระเบียบแนวรับแบบสั้นๆ กันอีกสักนิดครับ..

ผมว่า โบอาส ให้กองหลังดันไลน์สูงเกินไปแถมระบบแมนมาร์คกิ้งถึงไหนถึงกันดันโดนเล่นงานเอาง่ายๆ จากการสาดยาวไปในพื้นที่ว่างระหว่างกองหลังกับผู้รักษาประตู เห็นได้บ่อยครั้งเวลาโดนโจมตี จอห์น เทอร์รี่ จะยืนปิดช่องทางแต่คู่หูเซนเตอร์ฮาร์ฟอีกคนมักผิดพลาดจนปล่อยให้กองหน้าฝ่ายตรงข้ามฉีกมารับบอลจนหลุดไปดวลกับนายทวารได้บ่อยครั้ง

คือต้องบอกว่าเช็กล้ำหน้าพลาดกันหลายหน แถมการประกบแบบตัวต่อตัวยังทำผลงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร มันเลยทำให้ 2 เกมในบ้านถึงจะเสียประตูแบบความผิดพลาดส่วนบุคคลแต่ก็ต้องยอมรับว่าระเบียบเกมรับหลวมอย่างมาก

ระบบแนวรับชินกับการมาร์คแบบคุมโซนเหมือนกุนซือคนที่ผ่านๆ มาคงต้องใช้เวลากันอีกสักระยะครับกว่าจะชิน แถมวิงแบ็คเวลาเติมเกมแล้วเสียบอลมักจะไม่มีคนมาซ้อนตำแหน่งทำให้ตอนโดนโต้กลับก็เหลือแค่ เทอร์รี่ อิวาโนวิช และ โอบิ มิเกล 3 คนเท่านั้นซึ่งยากต่อการรับมือกับเกมเคาเตอร์แอทแท็คที่รวดเร็ว

ยังมีอีกหลายๆ อย่างที่ อังเดร วิลลาส โบอาส กับทีมงานต้องช่วยกันปรับและแก้ไข.. รอดูกันว่าเมื่อตลาดซื้อขายปิดหากได้นักเตะตามสเปคที่ต้องการครบ รูปแบบการเข้าทำจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือไม่

เหนือสิ่งอื่นใดถึงแม้ผลงานทีมจะยังไม่เข้าตากองเชียร์นัก แต่ด้วยความเป็นคนหนุ่มของ โบอาส ที่กล้าได้กล้าเสียแก้เกมเด็ดขาดคงได้ใจแฟนบอลไปไม่มากก็น้อย..

ถึงจะมีกระแสวิจารณ์ต่อผลงานอย่างหนาหูเช่น ตัวผู้เล่นแก่บ้าง โบอาสโดนรับน้องบนเกาะอังกฤษบ้าง กองหน้าสากอะไรก็ว่ากันไป

แต่ทุกอย่างมันคืออยู่กับการจัดของ โบอาส แต่เพียงผู้เดียว.. เชื่อในสิ่งที่เห็นและตระหนักทุกครั้งว่ามันจะต้องดีขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับที่ โบอาส ให้คำมั่นสัญญาเอาไว้..

ผมไม่ฟังเสียงไหนๆ นอกจากเสียงของผู้จัดการทีมผมคนเดียวเท่านั้นครับ...

ไม่ได้เขียนนานมาก.. ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยครับ

Petrboat

http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=472632

จากคุณ : Hermy

เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 54 11:55:15