ความคิดเห็นที่ 1 2. บาร์เซโลน่า (ยุคก่อน) ประธานสโมสร : ไม่เกี่ยว วิธีสรรหา : เลือกตั้ง แหล่งเงินทุน : ผู้ชมในสนาม กับค่าลิขสิทธิ์ถ่ายอดสด ในสมัยที่ค่าเหนื่อย และค่าตัวนักเตะไม่เฟ้อแบบสมัยนี้  พวกเขาภูมิใจกับการอยู่ได้โดยไม่ต้องมีโฆษณาบนอกเสื้อ แหล่งเงินทุนของพวกเขาคือ คัมป์ นู ที่มีความจุ 99,354 ที่นั่ง และมีผู้ชมเข้ามาดูอย่างมากมายสม่ำเสมอ พวกเขาเสนอฟุตบอลเกมบุกเพื่อครองใจผู้ชมที่เข้ามาดู แฟนบอลทั้งหลายคือแหล่งเงินทุนที่พวกเขาภาคภูมิใจ สุดท้ายมายังในยุคปัจจุบันที่ค่าเหนื่อยและค่าตัวนักเตะสูงจนสโมสรหาเงินไม่ทัน   พวกเขาต้องขายพื้นที่บนอกเสื้อที่แสนภาคภูมิใจแลกกับเงิน จบส่วนของสเปนแล้วแต่อยากบอกว่าแหล่งเงินทุนสำคัญอีกอย่างของทั้งสองทีมคือการขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดที่ขายได้เอง  ซึ่งทั้งสองทีมเรียกราคาสูงมาก จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 21:27:14

ความคิดเห็นที่ 2 3. บาเยิร์น มิวนิค ประธานสโมสร : ฮูลี่ เฮอร์เนส วิธีสรรหา : สโมสรแต่งตั้ง แหล่งเงินทุน : ทุกด้านตามมาตรฐานสากล บาเยิร์น มิวนิค พวกเขามีวิธีการทำงานเป็นรูปแบบ  ภายใต้การดูแลของอูลี่ เฮอร์เนส ด้วยความยิ่งใหญ่ของสโมสรพวกเขามีอำนาจต่อรองกับผู้ที่จะเข้ามาสนับสนุนทีม แต่นั้นยังไม่จบ พวกเขายังคงเอาใจผู้สนับสนุนด้วยการมีทีมงานคัดเลือกนักเตะภายในทีมให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ที่เข้ามาสนับสนุน แล้วส่งนักเตะคนนั้นไปเป็นนายแบบ (พี่เสือสุดยอด) จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 21:28:05

ความคิดเห็นที่ 3 4. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุคคลสำคัญ : ปีเตอร์ เคนยอน แหล่งเงินทุน : โลกทั้งใบ ถึง บ. บู๋ จะหาว่าเขาขายตัวให้เสี่ยหมี  แต่เขาก็เป็นคนทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นอย่างทุกวันนี้ เมื่อแมนยูประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง  “เคนยอน” ได้พาแมนยูไปเปิดตัวยังประเทศต่างๆ ด้วยการนำแมนยูไปเป็น “พรีเซนเตอร์” สินค้าต่างๆทั้วโลก สร้างฐานแฟนบอล  สร้างร้านค้าขายของที่ระลึกยังทวีปเอเชีย และอเมริกา พูดให้เขาใจง่ายๆก็คือ เขาเป็นคนที่ทำให้แบรนด์แมนยูติดตลาด มูลค่าของสโมสรแมนยูที่เพิ่มขึ้นมากมายก็มาจากเขาคนนี้ จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 21:29:14

ความคิดเห็นที่ 4 5. ลิเวอร์พูล สมัยก่อน เจ้าของสโมสร : ตระกูลมัวร์ แหล่งเงินทุน : แฟนบอลลิเวอร์พูลที่ไปชมที่สนาม ลิเวอร์พูลพวกเขาเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากมายในยุค 80  แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่รู้จักกอบโกยเงินเข้าสโมสร ด้วยความที่ลิเวอร์พูลเป็นสมบัติของตระกูลมัวร์  พวกเขาจึงเอื่อยเฉื่อยในเรื่องของธุรกิจ   ไม่ว่าสัญญาบนหน้าอกเสื้อ  หรือสัญญาชุดแข่งก็มีมูลค่าต่ำมากในช่วงยุค 90 แต่เมื่อมีกลุ่มธุรกิจจากอเมริกาเข้ามาเป็นเจ้าของ  พวกเขาก็เริ่มรู้จักหาเงินเข้าสโมสรจากการทำสัญญาต่างๆ ที่มีมูลค่าสูงขึ้นมาก สรุป : มีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 21:29:59

ความคิดเห็นที่ 5 6. เชลซี ประธานสโมสร : โรมัน อบาโมวิช วิธีสรรหา : ซื้อพร้อมล้างหนี้ แหล่งเงินทุน : น้ำมัน ความฝันอันสูงสุดของ “เสี่ยหมี” คือ  การที่เชลซีเป็นแบรนด์ระดับโลก วิธีการบริหารก็ใช้วิธีเดียวกับแมนยู  (ก็เอาคนของแมนยูมาวางรากฐานนี้) ตัวอย่างที่เห็นชัดคือการจับมือกับสิงห์ สรุป : ความฝันของเสี่ยหมีจะเป็นจริงหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการคว้าแชมป์ล่ะนะ ผมแอบรักคนในรูป จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 21:30:54

ความคิดเห็นที่ 6 7.  แมนซิตี้ ประธานสโมสร : Sheikh Mansour bin Zayed Al Nahyan วิธีสรรหา : ซื้อมา แหล่งเงินทุน : น้ำมัน เป้าหมายของท่านชีคก็ไม่ต่างจากเสี่ยหมี่  คือการสร้างเรือใบเป็นแบรนด์ระดับโลก แต่ชีคก็เริ่มจากการปรับปรุงพื้นที่รอบสนามเพื่อครองใจแฟนในท้องถิ่นก่อน   โดยหลังจากที่ครองใจแฟนในเมืองแมนเชสเตอร์ๆได้แล้ว  พวกเขาก็พยายามประสบความสำเร็จเพื่อดึงดูดใจแฟนนอกประเทศ สรุป : อุปสรรค คือ ทีมที่อยู่ข้างบน ของอังกฤษต้องยอมรับว่าพวกเขาทำงานอย่างจริงจัง ตามสไตล์สโมสรที่เป็นบริษัท   จะอยู่ไปวันๆไม่ได้ จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 21:31:39

ความคิดเห็นที่ 7 8. เอซี มิลาน รองประธานสโมสร : อาเดรียโน่ กัลเลียนี่ วิธีสรรหา : สโมสรแต่งตั้ง แหล่งเงินทุน : เงินแบร์ลุสโคนี่คือเงินสโมสร เงินสโมสรคือเงินแบร์ลุสโคนี่ เรื่องการหาเงินไม่ใช้จุดเด่นของทีมนี้ เรื่องการควบคุมค่าใช้จ่ายต่างหากที่สุดยอด คุณอาจจะสงสัยว่าทำไมพี่แกซื้อแต่นักเตะอายุเกิน 27  ที่จริงมันมีรายละเอียดปีกย่อยซ่อนเอาไว้ กัลเลียนี่ จะติดต่อหานักเตะฝีเท้าดีที่มีปัญหากับสโมสร  แล้วจะใช้สาลิกาลิ้นทองเกลี่ยกล่อมให้สโมสรขายถูกๆ กัลเลียนี่ทำให้ทีมหลายทีมขาดทุนป่นปี้มาแล้ว  ทั้งแมนซิตี้ (โรบิญโญ่)  บาร์เซโลน่า (อิบราฮิโมวิช) และเหยื่อรายล่าสุด ลิเวอร์พูล (อาควิลานี่) ที่จริงมีอีกเยอะแยะแต่ขึ้เกียจพิมพ์ นักเตะเหล่านี้ซื้อมาตอนแรกค่าเหนื่อยอาจสูง  แต่พออยู่สักพักพออายุเข้าเลขสามพี่แกจะกล่อมต่อสัญญาใหม่แล้วให้ค่าเหนื่อยลดลง ขอเตือนไว้เลยว่าถ้าคุณมีแฟนสวย แล้วไปมิลานเจอผู้ชายคนนี้ จงพาแฟนวิ่งหนีซะ  กัลเลียนี่ “คารม” ไม่ธรรมดาจริงๆ จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 21:32:27

ความคิดเห็นที่ 8 9. อินเตอร์ มิลาน ประธานสโมสร : มัซซิโม โมรัตติ วิธีสรรหา : ซื้อสโมสรซะ แหล่งเงินทุน : โมรัตติ อินเตอร์พยายามเจาะตลาดในจีน และญี่ปุ่น  แต่ผมก็ไม่รู้ว่าได้ผลหรือเปล่า เพราะช่วงนี้ทีมไม่ค่อยมีเงินเหมือนแต่ก่อน ระบบการบริหาร  ทุกอย่างขึ้นอยู่กับท่านประธาน  สโมสรจะไปทางไหนก็ขึ้นอยู่กับท่านประธาน สรุป : อินเตอร์ = โมรัตติ จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 21:35:57

ความคิดเห็นที่ 9 10. ยูเวนตุส ประธานสโมสร : Andrea Agnellli แหล่งเงินทุน : เฟียต วิธีสรรหา : มันเป็นมรดกตกทอดชั่วลูกชั่วหลาน วิธีการบริหารของยูเวนตุสก็ง่ายๆ  ใครมีฝีมือก็ดึงมาซะ  ฤดูกาล 2010-2011 ก็ดึงผู้จัดการทีมมาจากชาพท์โดเรีย ก่อนหน้านั้นที่ดังๆก็ดึง “ลูชาโน่ มอจจี้” มาจากนาโปลี แต่ตอนนี้พวกเขามีสนามเป็นของตัวเองแล้วนะ  ถือว่าเป็นมิติใหม่ของวงการฟุตบอลอิตาลีเลยล่ะ ของอิตาลีไม่มีอะไรมากพวกเขาก็อยู่กันแบบเอื้อยเฉื่อยตามสไตล์เลี่ยน  แต่ก็พยายามเจาะตลาดต่างประเทศบ้าง (โดยเฉพาะจีน) จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 21:36:55

ความคิดเห็นที่ 10 แมนยู มาดริด นี่ทำธุรกิจเก่งสุดหรือเปล่าเนี่ย ในบรรดา 10 ทีมที่ยกตัวอย่างมา จากคุณ : remem เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 21:43:17

ความคิดเห็นที่ 11 แปะก่อนค่อยอ่าน จากคุณ : ยังไงก็ไม่ผ่าน เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 22:10:28

ความคิดเห็นที่ 12 บางอันข้อมูลค่อนข้างเก่าแล้วนะครับ จากคุณ : 123 ปลาฉลามขึ้นบก เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 22:13:02

ความคิดเห็นที่ 13 ถึงเก่า แต่ก็พอทำให้ทราบว่าฟุตบอลมันอยู่คู่กับธุรกิจ แนวทางของธุรกิจ ก็จะกลายเป็นแนวทางของทีมนั้นด้วย ทำไม? มิลานต้อเน้นนักเตะ 27 อัพ ทำไม? ปืน ต้องปั้นเด็กแล้วขายอยู่นั่น ทำไม? มาดริด ต้องซื้อแต่สตาร์ แนวทางของธุรกิจมาแข่งกัน อาจมองได้ว่า ใครมีเงินมากกว่า คือผู้ชนะ คือผู้สำเร็จ แต่พอเป็นฟุตบอลลูกกลมที่อะไรไม่แน่นอน ทีมแก่ๆ ขี้งก อย่างมิลาน ก็ยังเป็นแชมป์เซเรียอาปีก่อนได้เลย จึงจริงอย่างที่เขาว่า ผู้จัดการมีหน้าที่คุมให้เป็นแชมป์อย่างเดียว ส่วนผู้บริหารมีหน้าที่หานักเตะที่เหมาะสมกับทีม จากคุณ : พิชรา เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 22:44:59

ความคิดเห็นที่ 14 ยกเว้นลิเวอร์พูล ผมว่าข้อมูลไม่เก่านะ อย่างของยูไนเต็ด ถึงเปลี่ยนคน แต่ก็ใช้ระบบเดิม จริง ๆ การได้ตระกูลเกลเซอร์มาก็ทำให้ยูไนเต็ดได้เปิดตลาดใหม่ ๆ ที่อเมริกา สัญญาสปอนเซอร์ที่แพงเป็นสถิติโลก(ก่อนโดนบาร์ซ่าแซง)ทั้งสองครั้งก็เป็นบริษัทอเมริกัน จากคุณ : :: AdvanceTactics :: เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 23:04:12

ความคิดเห็นที่ 15 ปัญหาคือความนิยมในกีฬาฟุตบอลในสหรัฐตามหลังบาสเก็ตบอล อเมริกันฟุตบอล เบสบอล คงสูสีกับฮ๊อกกี้น้ำแข็งมัง เม็ดเงินตอนนี้น่าจะอยู่เอเชียมากกว่านะ จากคุณ : M11 3FF เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 00:20:53

ความคิดเห็นที่ 16 ลิพูลนี่ ถ้าเป็นยุค สองปลิง นี่ มันระบบเดียวกับ สมาคมบอลไทยชัด ๆอ่ะ แต่พอเปลี่ยนมาเป็นประธานเมียสวย ค่อยรู้สึกถึงความทันสมัยหน่อย จากคุณ : โหม่งเห็ด เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 00:41:14

ความคิดเห็นที่ 17 นางเอก แฮรี่พอตเตอรืรู้จักกับเสี่ยหมีหรือเนี่ย ไม่ยักกะรู้ จากคุณ : wowdude เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 00:49:10

ความคิดเห็นที่ 18 ^ ^ ^ ^ EMMA จริงเหรอครับ ผมนึกว่าลูกแก (ดันคิดว่ามุมนี้หน้าคล้าย EMMA วุ้ย) จากคุณ : พิชรา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 00:54:12

ความคิดเห็นที่ 19 EMMA จริงครับ บางอันที่เป็นข้อมูลเก่าเพาะอยากให้รู้ที่มาที่ไปครับ อย่างแมนยูนี้เขาวางรากฐานมาเป็น 10 ปีถึงจะมีวันนี้ บาร์ซ่า ก็อยากให้รู้ว่าสมัยก่อนพวกเขาภูมิใจในแนวทางของตัวเองแค่ไหน จนถึงตอนนี้มันใช้ไม่ได้แล้ว ลิเวอร์พูล อยากให้รู้ว่าการเป็นบริษัทของครอบครัว  กับการเป็นมืออาชีพมันต่างกัน รีล มาดริด ทำเพื่อยกย่อง "เปเรซ" โดยเฉพาะ คราวที่แล้วว่าไปเยอะ บาเยิร์น พี่แกทำทุกอย่างเป็นมาตรฐานซะ จนไม่รู้จะอธิบายยังไง จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 06:27:22