แม้ว่าในตอนนั้น เราจะเป็นทีมท้ายตาราง แต่ในช่วงท้ายๆ ของฤดูกาล ทีมของเราก็ได้รับคำกล่าวขวัญว่าเป็นทีมที่ แพ้ยาก มากๆ ทีมหนึ่ง ถึงขนาดที่ว่าเราสามารถสู้กับแชมป์และรองแชมป์ในปีนั้น (เมืองทองและชลบุรี) ได้อย่างสมศักดิ์ศรี
ผมยังจำบรรยากาศตอนที่สมปอง สอเหลบ ยิงแฮ็ตทริกในนัดชนะไฟฟ้า อยุธยา (ในตอนนั้น) ๓-๑ หรือตอนที่เราไล่ตีเสมอเมืองทอง ๑-๑ จากฝีเท้าของสมปองคนเดิม (จำวินาทีที่สมปองยิงได้ เราแทบจะรู้สึกเหมือนเราสามารถกระโดดถีบท้องฟ้าให้พังลงมากองกับพื้นได้เลยทีเดียว...)
นั่นน่าจะเป็นประสบการณ์ รักแรกพบ ของผม ที่ทำให้ผมรักทีมนี้อย่างหัวปักหัวปำในเวลาต่อมา และในเวลานั้น...แม้มันจะยาก แต่ผมก็แอบหวังลึกๆ ว่า ทีมเล็กๆ ทีมนี้น่าจะยังมีหวังที่จะอยู่รอดในลีกสูงสุดของประเทศ
แต่...สุดท้ายความหวังมันก็ไม่ได้สัมพันธ์กับความจริง
ในนัดสุดท้าย เราแพ้พัทยายูไนเต็ด ๒-๑
ซึ่งนั่นก็หมายความว่า จุฬา ยูไนเต็ด ต้องตกชั้นลงสู่ดิวิชั่น ๑ ในฤดูกาลถัดไป
วันนั้นอาจจะเป็นจุดสิ้นสุดของพวกเราบนเส้นทางลีกสูงสุด แต่สำหรับผม และกองเชียร์เล็กๆ กลุ่มหนึ่ง...มันคือการเริ่มต้นสู่การเดินทางครั้งใหม่ ที่แม้ว่าจะเป็นเส้นทางที่ยากลำบากเหลือเกิน แต่ก็เป็นเส้นทางที่ถูกประทับในรอยจำอย่างไม่มีวันลืมเลือน...
มาฟังปากคำจากผ้าพันคอผืนแรกของผม ในบทต่อไปครับ...