 |
สัมภาษณ์โคมอลลี่ ซัมเมอร์, ไมเรเลส, อควิลานี่, ฮาซาร์ด, ปาเชโก้
คำถามแรกนะเดเมี่ยน คุณมีเวลามองย้อนไปยังการทำงานในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะ คุณรู้สึกยินดีแค่ไหนในแง่การเคลื่อนไหวของนักเตะ ทั้งเข้าและออกจากสโมสร?
เรารู้สึกยินดีมาก แต่สิ่งที่ผลงานของเราในฤดูกาลนั้น จะเป็นตัวตัดสินว่าเราทำในช่วงการซื้อขายนักเตะดีแค่ไหน หลายคนถามผมว่า คุณรู้สึกดีหรือเปล่ากับสิ่งที่คุณได้ทำมา ผมจะตอบอยู่เสมอว่าใช่ แต่ไว้ค่อยดูละกันว่าเราจะเป็นอย่างไรในตอนเดือนพฤษภาคม และเราจะทำได้ดีแค่ไหนในลีกและในบอลถ้วย
อีกอย่าง มันไม่ใช่การทำงานเพื่อฤดูกาลเดียว มันทำไปเพื่อสอง, สาม, หรือสี่ฤดูกาล โดยเฉพาะเวลาที่คุณลงทุนในตัวของนักเตะดาวรุ่งอย่างที่เราได้ทำ มันเป็นเพื่อฤดูกาลนี้, แล้วก็ฤดูกาลหน้า, แล้วก็ฤดูกาลถัดไป และหวังว่าเราจะมองย้อนกลับมาในซัมเมอร์ปี 2011 ซึ่งเป็นอันที่สำคัญอย่างที่เรารู้กัน และเราจะรู้สึกมีความสุขกับงานที่ได้ทำลงไป
เราประสบความสำเร็จแค่ไหน ในการเซ็นสัญญากับเป้าหมายที่เราตั้งเป้าไว้ตอนเริ่มต้นช่วงซัมเมอร์?
ผมจะพูดว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก นักเตะส่วนใหญ่ที่เราได้นั้นแต่เป็นตัวเลือกแรกหรือตัวเลือกที่สองของเรา แน่นอนว่าผมจะไม่พูดลงไปในแต่ละกรณี แต่เราได้ทำสิ่งที่เราต้องการ และที่สำคัญกว่าตัวนักเตะก็คือตำแหน่ง เราได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งที่เราจำเป็นต้องเสริม บางตำแหน่งก็อาจจะยากกว่าตำแหน่งอื่น อย่างตำแหน่งแบ็คซ้าย ผมคิดว่ามันยากสำหรับทุกๆสโมสรในการหาฟูลแบ็คฝั่งซ้าย แต่เราก็ยินดีมากที่ได้โฮเซ่มาก่อนเริ่มเกมนัดแรกของฤดูกาล
สองตำแหน่งที่ยากที่สุดในการหานักเตะก็คือแบ็คซ้าย และกองหลังตัวกลาง เพราะมีนักเตะที่มีทักษะอยู่ไม่มากนักทั่วทั้งโลก และนั่นก็เป็นสาเหตุที่เรารู้สึกยินดีที่ได้ทั้งเซบาสเตียน โคอาเทสและโฮเซ่ เอ็นริเก้มาร่วมทีม
มีคนในสโมสรกี่คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขั้นตอนการย้ายทีมตั้งแต่ต้นจนจบ และบทบาทที่แตกต่างกันคืออะไร?
เป็นคำถามที่สั้นๆ แต่ต้องตอบกันยาวมาก
มันเริ่มต้นจากแมวมองซึ่งคอยจับตานักเตะกันเป็นปี หรืออาจจะสองปี คอยตามดูนักเตะ บางทีก็อาจจะนานกว่านั้น หลังจากที่แมวมองของพวกเขา มันก็จะมาถึงผม แล้วก็เคนนี่ แล้วเราก็จะตัดสินใจว่าเป็นนักเตะที่ถูกต้องหรือไม่ เคนนี่อาจจะพูดว่า ผมชอบเขา, ผมไม่ชอบเขา, เขาสามารถเข้ากับทีมผมได้, เขาไม่เหมาะกับทีมของผม, เขาเป็นคนที่เราต้องการ, เขาไม่ใช่คนที่เราต้องการ แล้วหลังจากที่มีการตัดสินใจด้านฟุตบอลแล้ว ผมก็จะอธิบายให้เจ้าของฟังว่าทำไมเราต้องตามล่านักเตะคนนี้ และค่าใช้จ่ายจะเป็นเท่าไหร่
แล้วเราก็เริ่มเจรจากับสโมสรและกับตัวนักเตะ ซึ่งบางครั้งมันก็เป็นเรื่องที่ไม่ยาก แต่ปกติมันจะเป็นขั้นตอนที่ยาว แต่หลังจากที่เจรจากับสโมสรเสร็จ ก็จะใช้เวลาอีกไม่กี่วันในการทำงานเอกสาร เราโชคดีที่มีทีมที่เก่งมากๆในเรื่องงานด้านนี้ของฟุตบอล โดยโซอี้ วอร์ด เลขานุการของสโมสรและทีมของเธอนั้นทำงานได้อย่างวิเศษมากในช่วงเปิดตลาด เรามีบางการซื้อขายที่ยุ่งยาก ย้อนกลับไปตอนเดือนมกราคมเราก็มีการซื้อขายที่ยุ่งยากมากกับทีมไอแอ็กซ์ และการดึงตัวเซบาสเตียน โคอาเทสมาจาก Nacional ก็ซับซ้อนมาก และเรามีบางคืนที่ต้องทำงานกันจนดึงในช่วงตลาดจะปิด มันเป็นขั้นตอนที่ยาวและก็ซับซ้อน
บางครั้งการเจรจาก็อาจจะน่าหงุดหงิดอย่างมาก เวลาที่คุณติดปัญหาเล็กๆกันอยู่หลายวัน แล้วอยู่ๆมันก็ไปได้อย่างรวดเร็ว และคุณสามารถบรรลุข้อตกลงได้อย่างรวดเร็ว แต่ผมรู้สึกสนุกจริงๆเวลาที่มันเสร็จสิ้นและนักเตะเซ็นสัญญาแล้ว คุณจะเห็นได้ว่าทุกคนมีความสุข เคนนี่ก็รู้สึกยินดี, เจ้าของก็รู้สึกยินดี, นักเตะก็รู้สึกยินดีที่ได้มาที่นี่ และเราก็รู้ว่าเขาจะกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญสำหรับอนาคต ดังนั้นจึงมีความสุขอยู่เต็มไปหมด
ทีมงานแมวมองของคุณมีขนาดใหญ่แค่ไหน และคุณบอกเรได้ไหมว่าขั้นตอนการแมวมองนักเตะนั้นเป็นอย่างไร และมีการประสานงานกันอย่างไร?
เรามีทีมแมวมองที่ค่อนข้างใหญ่กระจายไปทั่วทุกมุมโลก เราพัฒนาระบบเครือข่ายแมวมองในอังกฤษขึ้นมาเยอะนับตั้งแต่ที่ผมมาร่วมกับสโมสร เราก็มีแมวมองแบบเต็มเวลาหลายคนในต่างประเทศ ที่จะคอยไปดูการแข่งขันต่างๆอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าเขาจะอยู่ในอังกฤษและเดินทางไปดูทีมอื่นๆ หรืออยู่ในประเทศอื่นและคอยเฝ้าดูในประเทศนั้นๆ เรากำลังพูดถึงแมวมองแบบเต็มเวลาแปดหรือเก้าคนในต่างประเทศ และก็จำนวนพอๆกันในอังกฤษ สตีฟ ฮิทเช่นเป็นคนประสานงานกับแมวมองที่อยู่ต่างประเทศ เขาเป็นคนอังกฤษแต่ทำอยู่ในฝรั่งเศส และเราก็มีแมวมองอาวุโสสองคน มัล ฮัทชินสัน และอลัน ฮาร์เปอร์ คอยประสานงานกับเครือข่ายแมวมองในอังกฤษ
แมวมองต่างประเทศจะจับตามองนักเตะตั้งแต่อายุ 16 จนถึงทีมชุดใหญ่ ส่วนในอังกฤษจะดูตั้งแต่ 17/18 ขึ้นไป ซึ่งก็สำหรับทีมสำรองและทีมชุดใหญ่ แล้วเราก็มีแมวมองสำหรับอคาเดมี่อีกหลายคนทำงานทั้งในต่างประเทศและในอังกฤษ ส่วนใหญ่จะอยู่ในท้องถิ่น. รอบๆเมืองลิเวอร์พูล, และทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ
ถ้าเมวมองท้องถิ่นเห็นนักเตะที่น่าสนใจ เขาก็จะไปและดูนักเตะในสถานการณ์ที่หลากหลาย ทั้งการเล่นในบ้าน, การไปเยือน, วันที่อากาศดี, อากาศไม่ดี หรือถ้าเขาเป็นนักเตะในเกมรุก เขาเล่นริมเส้นฝั่งขวาได้ไหม, ฝั่งซ้ายได้ไหม, เป็นกองหน้าได้ไหม เราจะพยายามที่จะศึกษาให้ครบในทุกสถานการณ์
หลังจากที่นักเตะได้ถูกแนะนำขึ้นมาโดยแมวมอง หนึ่งในผู้ประสานงานแมวมองก็จะไปดูนักเตะ และนั่นก็เป็นตอนที่ผมเริ่มที่จะเกี่ยวข้อง ไปดูนักเตะ, รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเขา ถ้าทุกอย่างเป็นไปในทางบวกเราก็จะไปหาเคนนี่ และบอกว่า เรากำลังดูแบ็คซ้ายคนนี้อยู่ เราคิดว่าเขาควรจะอยู่ในลิสต์อันดับสอง, อันดับสาม, อันดับหนึ่ง ฯลฯ จากนั้นเราก็ไปทำข้อตกลง มันเป็นขั้นตอนที่ยาวนาน
คุณเคยให้สัมภาษณ์เร็วๆนี้หลังจากตลาดปิด ว่าคุณได้อธิบายให้เจ้าของฟังว่าต้องดึงผู้เล่นใหม่เข้ามา ก่อนที่จะปล่อยนักเตะออกไป คุณโน้มน้าวให้เขายอมรับได้อย่างไร เขายอมรับได้แค่ไหน และอะไรเป็นเหตุผลที่ต้องทำอย่างนี้?
พูดว่าพยายาม โน้มน้าว เจ้าของคงจะไม่ถูกนัก เขาเป็นคนที่เคยคว้าชัยในทุกๆอย่างที่พวกเขาทำ คำถามจากพวกเขาก็คือ ทำอย่างไรพวกเราถึงจะชนะ? ที่พวกเขาพูดก็คือพวกเขามาเพื่อที่จะคว้าชัยชนะ และถ้าพวกเขาต้องการชนะ เราต้องปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว พวกเขาเข้าใจอย่างง่ายดายว่าถ้าเราต้องรอที่จะขายนักเตะก่อนที่จะซื้อเข้ามา แล้วอย่างแรกคือมันต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก และอย่างที่สอง เป้าหมายของเรานั้นก็อาจจะหายไปก่อนที่เราจะพร้อมและพูดว่า โอเค ตอนนี้เราพร้อมที่จะออกไปซื้อนักเตะแล้ว
พวกเขาเข้าใจอย่างรวดเร็ว และผมต้องพูด อย่างที่ผมเคยได้พูดมาก่อน ว่าคุณต้องมีความกล้าในการเป็นเจ้าของในการยอมรับมัน เพราะในตอนท้ายถ้าเราไม่สามารถขายนักเตะที่เราต้องขายออกไปได้ มันก็จะทำให้สโมสรและพวกเขาเสียเงินมหาศาล นั่นเป็นเหตุผลที่ผมคิดว่าพวกเขานั้นกล้ามากๆ พวกเขาเข้าใจขั้นตอนอย่างรวดเร็ว และพวกเขาพูดว่าพวกเขาพร้อมที่จะเสี่ยงเพราะเขาต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง พวกเขาพูดว่าเราสามารถทำให้ทีมดีขึ้นได้อย่างมากโดยการทำธุรกิจแต่เนิ่นๆ และซื้อก่อนที่จะขาย เราเชื่อมั่นในตัวคุณ และเราเชื่อมั่นในเคนนี่ งั้นก็ทำอย่างนั้นเลย
ผู้จัดการทีมและสต๊าฟโค้ชนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องมากแค่ไหน ในการตัดสินใจเซ็นสัญญานักเตะแต่ละคน?
มหาศาล เพราะถ้ามีนักเตะคนไหนที่เคนนี่รู้สึกไม่มั่นใจ เราก็จะไม่เซ็นสัญญากับเขา เขาเป็นคนตัดสินใจสุดท้ายที่จะบอกว่า ผมรู้สึกสบายใจกันนักเตะคนนี้ และ ผมชอบคำแนะนำของคุณ หรือ ผมไม่ชอบคนที่คุณแนะนำ ข้อมูลจากเคนนี่นั้นจำเป็นและน่าจะสำคัญมากที่สุด จากนั้นก็มีการพูดคุยกันตลอดกับสต๊าฟโค้ช เพราะสตีฟเองก็อยู่กับสโมสรระดับท็อปมาเป็นเวลานาน เขาและทีมของเขาเคยเผชิญหน้ากับนักเตะหลายคนทั้งในแชมป์เปี้ยนส์ลีก และการแข่งขันอื่นๆ ดังนั้นคุณจึงได้ข้อมูลจากสต๊าฟโค้ชด้วยเช่นกัน
ตอนที่เรามองหาผู้รักษาประตูในช่วงซัมเมอร์ที่จะถึงมาเป็นมือสองต่อจากเปเป้ แน่นอนว่าจอห์น (อัคเธอร์เบิร์ก) ได้ให้ข้อมูลมากมายในเรื่องนี้ ผมได้ให้รายงานและดีวีดีกับเขา และบอกว่าเรามีตัวเลือกแล้ว เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในฐานะโค้ชผู้รักษาประตู ผมชอบที่จะพึ่งโค้ชผู้รักษาประตูให้บอกกับเราว่า ใช่ หรือ ไม่ใช่ และให้ความคิดเห็น เพราะโค้ชผู้รักษาประตูจะเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น พวกเขาจะหมกมุ่นอยู่กับตำแหน่งนี้ และผมมักจะพูดว่าพวกเขามีภาษาเป็นของตัวเอง! ผมไม่คิดว่าเราจะทำอะไรกับเรื่องผู้รักษาประตูที่ขัดกับคำแนะนำของจอห์น
คุณคุยกับกัปตันหรือนักเตะคนอื่นหรือเปล่าเรื่องเป้าหมาย?
มันขึ้นอยู่กับนักเตะคนไหน ตัวอย่างเช่นสตีวี่เคยเล่นกับจอร์แดน เฮนเดอร์สัน พวกเขาฝึกซ้อมด้วยกันและเล่นด้วยกันในเวมบลี่ย์ในการพบกับทีมฝรั่งเศส ดังนั้นแน่นอนว่ามันคงจะไม่ฉลาดนักถ้าไม่ถามสตีวี่เลย ผมถามเขาว่าเขาคิดอย่างไร, เขาเป็นผู้เล่นแบบไหน, และเป็นคนแบบไหน, ฝึกซ้อมดีไหม, เรื่องนอกสนามเป็นอย่างไร, เป็นคนที่น่าเคารพหรือเปล่า อะไรประมาณนี้ เช่นเดียวกันในตอนเดือนมกราคม ผมก็คุยกับสตีวี่และนักเตะทีมชาติอังกฤษคนอื่นเกี่ยวกับแอนดี้ คาร์โรลล์ เช่นเดียวกันกับเดิร์ค เค้าท์ที่รู้เยอะเกี่ยวกับซัวเรส คุณจะคอยหาข้อมูลอ้างอิง ผมจะไม่พูดว่าเราไปขอคำแนะนำและถามนักเตะคนใดคนหนึ่งว่าเราควรจะเซ็นคนนั้นไหม แต่ยิ่งพูดคุยยิ่งสื่อสารกันมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น
มีแฟนๆหลายคนถามทำไมถึงยอมปล่อยราอูล ไมเรเลสให้เป็นเซ็นสัญญากับหนึ่งในคู่แข่งของเรา?
ผมคิดว่าราอูลได้พูดออกมาเองที่ผมได้เห็นในข่าว พื้นฐานแล้วเขามาหาผมและพูดว่า ผมต้องการจะไป ผมต้องการเล่นให้กับสโมสรอื่น เราไม่ได้ต้องการที่จะขายเขา แต่เราเหมือนถูกต้อนเข้ามุมตอนที่เขายื่นคำขอย้ายออก และพูดว่าอยากจะไปและไม่ต้องการเล่นให้ลิเวอร์พูลอีกต่อไป ผมคิดว่าเจ้าของและเคนนี่ได้พูดออกมาแล้ว และเราก็เห็นพ้องต้องกัน เวลาที่ใครไม่ต้องการอยู่ที่นี่อีกต่อไป มันยากที่จะพูดว่า คุณจะอยู่ที่นี่ต่อไป เราก็ได้ผ่านเรื่องอย่างนี้มาแล้วในเดือนมกราคมกับเฟร์นานโด ตอร์เรส และมันก็รู้สึกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เราทำมัน เราคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้องสำหรับสโมสร เพราะมันยากมากๆที่จะเก็บคนที่ไม่ต้องการอยู่ที่นี่ไว้ งานของผู้จัดการทีมในการจัดการกับนักเตะ 25 คน และมีเพียง 11 คนที่จะได้ลงตัวจริงในแต่ละนัดก็ยากพออยู่แล้ว ดังนั้นคุณจึงต้องจัดการกับเรื่องอื่นๆ เรามองว่ามันจะดีกว่าถ้าเขาไปและเราได้ข้อตกลงที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ท้ายที่สุดผมคิดว่าเราทำได้ดีในเรื่องนี้
มีแฟนอีกหลายคนที่ต้องการรู้ว่าทำไมอัลเบอร์โต้ อควิลานี่ถึงถูกปล่อยในแบบยืมตัว ทั้งที่เขาทำได้น่าประทับใจในช่วงปรีซีซั่น?
กับเขาแล้ว มันเป็นคำถามเกี่ยวกับโอกาสที่จะได้ลงเล่น แน่นอนว่าเขาเป็นนักเตะที่มีชื่อเสียง, มีผลงานที่ดี และก็เป็นนักเตะที่ดีมาก แต่เคนนี่และสต๊าฟโค้ชรู้สึกว่าเขาเล่นได้แค่ในบางตำแหน่ง อย่างที่ผมได้บอกอัลเบอร์โต้ในตอนซัมเมอร์ โชคร้ายที่ในตำแหน่งนั้นมีนักเตะที่ชื่อสตีเว่น เจอร์ราร์ดอยู่ และมันก็จะเป็นเรื่องยากที่อัลเบอร์โต้จะได้ลงเล่น มันเป็นเหตุผลที่แตกต่างกัน เป็นเหตุผลทางแท็คติก ความจริงที่ว่าเขาเล่นในตำแหน่งนี้ และเรารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะเก็บเขาไว้โดยที่ไม่ได้ลงเล่นอย่างเป็นประจำ
ผมต้องพูดว่าผมรู้สึกประทับใจอย่างมากกับวิธีที่อัลเบอร์โต้แสดงออกตลอดจนจบขั้นตอน เขาทำตัวได้อย่างมีระดับจริงๆ เขาต้องการเพียงลงเล่นฟุตบอล เขาไม่ได้หมกมุ่นในเรื่องเงินหรือเรื่องอื่น เพื่อความเป็นธรรมให้กับเขา ผมรู้สึกประทับใจอย่างมากกับทัศนคติและการปฏิบัติตัวของเขา
จริงหรือเปล่าที่เรามีสิทธิ์ในตัวของเอเดน ฮาซาร์ด เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงในการให้ยืมโจ โคล?
ไม่ มันไม่ใช่เรื่องจริง ผมเห็นในข่างเหมือนกันแต่มันไม่จริง เขาเป็นนักเตะที่ดีมากอย่างที่ทุกคนรู้ แต่มันไม่มีความจริงในเรื่องนี้
ทำไมเราถึงปล่อยตัวดานี่ ปาเชโก้ให้ทีมอื่นยืมตัว?
ดานี่ถูกยืมตัวไปเพราะเราต้องการที่จะเห็นเขาลงเล่นชุดใหญ่ที่ไหนสักแห่ง ปีที่แล้วเขาเล่นในแชมป์เปี้ยนชิพ และเริ่มต้นได้ดี เขาลงเป็นตัวสำรองในบางนัดแต่ก็ทำได้ดีในนัดเหล่านั้น เรารู้ดีว่าเขาทำได้ดีแค่ไหนในระดับเยาวชน เขาทำได้ยอดเยี่ยมในเกมชิงแชมป์ยุโรปชุดยู19ในปีที่แล้ว ที่สเปนพ่ายต่อฝรั่งเศสในนัดชิงชนะเลิศ และเขาก็ทำได้ดีในเกมชิงแชมป์โลกระดับยู20ที่โคลัมเบียในเดือนสิงหาคม เราได้ไปที่นั่นและได้ดูเกมทุกนัด
ขั้นต่อไปก็คือ คุณแสดงให้เราได้เห็นได้ไหมว่าคุณสามารถทำได้ในระดับชุดใหญ่? มันคงจะเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะเล่นในทีมชุดใหญ่ของเรา และแทนที่จะให้เขาเล่นในทีมสำรอง เราคิดว่าถ้ามีโอกาสให้ยืมตัวเขาออกไปอยู่กับทีมดีๆในลีกระดับท็อป และเราจะได้เห็นว่าเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง และถ้าเขาสามารถพัฒนาขึ้นมามันก็จะเป็นโอกาสที่ดี นั่นเป็นเหตุผลที่เราทำมัน
ผมเรียกมันว่าการยืมตัวเพื่อพัฒนา เอานักเตะให้ทีมอื่นยืมตัว, ดูว่าเขาพัฒนาอย่างไร แล้วมันก็จะช่วยเราเห็นว่าอาชีพการค้าแข้งของเขาจะเป็นอย่างไร มันก็คล้ายๆกับปีเตอร์ กูลัคซี่ซึ่งถูกยืมตัวไปเล่นกับฮัลล์ซิตี้ เราคิดว่าปีเตอร์นั้นมีศักยภาพที่วิเศษสำหรับอนาคต เขาทำได้อย่างยอดเยี่ยมมากในระดับยู21ให้กับฮังการี เขาเป็นกัปตันทีม เขาเล่นในทัวร์นาเมนต์ทูลอนตอนปลายเดือนพฤษภาคมกับทีมที่ดีๆ และเขาก็โดดเด่น และเรารู้สึกว่าปีนี้จะเป็นปีที่สำคัญสำหรับเขาในการพัฒนา
เราจะคอยจับตาดูพวกเขาอย่างใกล้ชิด
เห็นได้ชัดว่าทีมนั้นพัฒนาขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่ยังมีตำแหน่งที่คุณตั้งเป้าว่าต้องเสริมความแข็งแกร่งขึ้นอีกหรือไม่?
ไม่มีในตอนนี้ เราต้องการที่จะดูว่าเราจะต้องทำอย่างไร เรารู้สึกยินดีอย่างมากๆกับคนที่เราหามาได้ในช่วงเปิดตลาดรอบนี้ และรอบที่แล้วด้วยเช่นกัน สำหรับผมมันเป็นเหมือนกับการเปิดตลาดครั้งใหญ่ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึง 31 สิงหาคม และเราก็ดึงนักเตะมาทั้งหมด 9 คน เราปรับเปลี่ยนทีมดังนั้นมันถึงเวลาแสดงผลแล้ว ด้วยความสัตย์จริง ผมไม่มีคำตอบให้กับคุณในตอนนี้ว่าเรายังต้องการตำแหน่งโน้นหรือตำแหน่งนี้ เพราะผมคิดว่าเรามีทีมที่สมบูรณ์แล้วในตอนนี้ ไว้คอยดูว่านักเตะเหล่านั้นจะพัฒนาเป็นอย่างไร, จะหลอมรวมกันเป็นอย่างไร, และนักเตะดาวรุ่งอย่างโคอาเทสจะปรับตัวได้แค่ไหน แล้วเราค่อยมาตัดสินใจกันตอนหลัง
หลายคนสงสัยว่าตำแหน่งผู้อำนวยการฟุตบอลนั้นจะเวิร์คไหมที่ลิเวอร์พูล บอกเราหน่อยว่าความสัมพันธ์ของคุณกับเคนนี่ ดัลกลิชเป็นอย่างไรบ้างช่วงซื้อขายนักเตะ?
มันยอดเยี่ยมมาก ไม่เพียงแต่ช่วงซื้อขายนักเตะ แต่นับตั้งแต่วันแรกที่เคนนี่เริ่มงาน เราก็สนุกกับความสัมพันธ์ที่ดีในการทำงาน และแม้กระทั่งนอกงานด้วยก็ตาม มันเป็นขั้นตอนที่ต่อเนื่องทั้งก่อนเริ่มเปิดตลาด และระหว่างตลาดซื้อขายนักเตะเปิดอยู่ พูดคุยกันทุกวัน แม้แต่วันที่เขาไม่อยู่และผมอยู่ในออฟฟิศก็ตามที บางวันเราคุยกันหลายครั้ง เพราะมีสิ่งเปลียนแปลงอยู่ตลอด คุณคิดว่าได้ข้อตกลงแล้ว แต่ต่อมาก็ตกลงกันยังไม่ได้ หรือมีสโมสรมาสนใจนักเตะคนนึงของเรา และนาทีต่อมาเขาไม่สนใจอีกแล้ว ดังนั้นจึงมีการพูดคุยกันตลอดเวลา เพื่อให้เห็นไปในทางเดียวกัน
ไม่มีแม้แต่ครั้งเดียวในช่วงซัมเมอร์นี้ที่เราเห็นไม่ตรงกัน ไม่ว่าจะเป็นนักเตะออกหรือนักเตะเข้า และเพราะเราเตรียมตัวกันอย่างมากก่อนตลาดเปิดหกเดือน เรารู้ก่อนที่เราจะเริ่มว่าเราต้องการอะไร เวลาที่คุณเตรียมทุกอย่างให้พร้อมแล้วขั้นตอนมันก็จะราบลื่น เราพูดว่า เราต้องการคนนี้, คนนี้, และคนนี้ พวกเขาเป็นเป้าหมายของเรา พยายามคว้าตัวมาให้ได้ จากนั้นมันก็เป็นแค่เรื่องของเวลา เคนนี่รู้ดีว่าผมทำอะไร เมื่อไหร่ และทำไม ผมจะให้เขารับรู้ตลอดถึงความก้าวหน้าในข้อตกลงทุกอัน เราไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงความคิดของเรา เรารู้ตำแหน่งที่เราต้องการเสริม และนักเตะที่เราต้องการ ดังนั้นมันจึงเป็นขั้นตอนที่ง่าย
ตอนท้ายของช่วงตลาดเปิด แน่นอนว่าเขารู้ว่าเรากำลังตามตัวโคอาเทส ผมบอกเขาตั้งแต่ช่วงโคป้าอเมริกา เพื่อที่เขาจะได้ดูนักเตะ เรามีแมวมองสองคนอยู่ที่นั่นคอยส่งรายงานให้กับเราทุกๆครั้งที่เขาลงเล่น เคนนี่คอยติดตามความก้าวหน้าของนักเตะ, เขาทำเป็นอย่างไรบ้าง ฯลฯ
ความสัมพันธ์นั้นดีมากจริงๆ และไม่ใช่เพียงแค่ช่วงเปิดตลาด แต่เป็นทั้งหมด
http://www.liverpoolthailand.com/forum/index.php?showtopic=64563
จากคุณ |
:
เท่ง หงส์แดง
|
เขียนเมื่อ |
:
13 ก.ย. 54 17:31:01
|
|
|
|
 |