 |
จากคนที่เล่นให้ทีมมหาลัย สมัยเรียนอยู่ 4 ปี เหตุผลหลัก ๆ ที่ไม่นิยม ไม่มีคนเล่น
อันแรกก็คงเป็นเรื่องอุปกรณ์ที่มีราคาแพง เพราะต้องนำเข้าจากต่างประเทศ แล้วเจ้าอุปกรณ์ก็ไม่ใช่น้อย ต้องมี ถุงมือ (Glove) อันนึงก็หลายพันแล้ว, ลูกเบสบอลหรือซอฟท์บอล, ไม้ตี ดีดีก็หลักหมื่นขึ้น, หมวก (helmet), ชุดป้องกันของผู้รับ (catcher) จากผู้ขว้าง (Pitcher) อีก รวม ๆ ทีมนึงกว่าจะมีอุปกรณ์ครบเล่นเป็นทีมได้ ก็ใช้เงินหลายอยู่ครับ
อันที่สองก็เป็นเรื่องสนาม ที่ต้องการสนามเฉพาะ ขนาดสนามที่แตกต่างจากเกมกีฬาอื่นชัดเจน หลาย ๆ ท่านบอกไปเล่นสนามบอลเอาก็ได้ มันก็พอเล่นได้แบบขำ ๆ สาม สี่คนก็เล่นได้แล้ว แค่มีคนโยนบอลให้อีกคนตี แล้วอีกคนคอยรับบอลที่เพื่อนตีมา แล้วขว้างให้คนโยน เล่นเป็นเซ็ต ๆ ไป แต่เล่นนาน ๆ จะเบื่อเอาซะก่อน แต่ถ้าจะเล่นแบบแข่งกันจริงจัง สนาม มันจะต้องมีแนวรั้วป้องกันลูก จากการขว้างของ pitcher ด้วย ซึ่งลูกจากการขว้างก็จะแรง ไหนจะไว้ป้องกันลูกที่ปริ้นหรือแฉลบจากการตีด้วย หากไม่มีก็จะอันตรายกับคนที่เดินผ่านไปมาได้ และอาจทำให้เบื่อได้ หากต้องไปเก็บลูกไกล ๆ ^^
อันที่สาม ก็น่าจะเป็นเรื่องจำนวนผู้เล่น ที่ทีมนึงจะต้องมีผู้เล่นอย่างน้อย 9 คน ที่ต้องลงไปเล่นเกมรับในแต่ละตำแหน่ง ด้วยการที่ต้องใช้คนเล่นเยอะ ก็อาจ ทำให้ค่อนข้างยากที่จะรวมทีม รวมกลุ่มในการเล่นได้ ยิ่งประกอบกับเหตุผล 2 ข้อข้างบน ก็เลยทำให้ยากที่จะพัฒนากีฬานี้ขึ้นมาได้ นอกจากจะได้รับการสนับสนุน ส่งเสริม โดยเฉพาะเรื่องของอุปกรณ์กีฬา สนามที่ใช้ในการเล่นหรือแข่งขัน และที่สำคัญต้องมีครูฝึกสอนตามโรงเรียนต่าง ๆ
ปล. แนะนำว่าถ้าอยากเล่น หรืออยากฝึกการเล่นเบสบอล หรือซอฟท์บอล แนะนำให้ไปขอเล่นกับชมรมเบสบอลและซอฟท์บอลในมหาลัยต่าง ๆ ครับ ซึ่งมหาลัยส่วนใหญ่จะมีเล่นกันอยู่ และสามารถให้คำแนะนำและสอนให้กับคนที่อยากเล่นได้ แต่ส่วนใหญ่ในไทยจะเล่นซอฟท์บอลกันเป็นหลัก ซึ่งกติกาส่วนใหญ่ก็จะคล้ายกับเบสบอล แต่จะมีรายละเอียดบางอย่างที่แตกต่างกันเล็กน้อย เช่น ลูกที่ใช้ของเบสบอลจะเล็กกว่า ลักษณะของท่าที่ใช้ในการขว้างลูกให้ตีที่ต่างกัน ขนาดสนามที่ต่างกัน รายละเอียดการวิ่งขณะเป็นเกมรุกที่ต่างกัน เป็นต้น
สำหรับกติกาเบื้องต้น 1. การเล่นจะผลัดกันรุก และรับ โดยเกมรับจะมีผู้เล่น 9 คน 2. ทีมที่เล่นเกมรุก จะต้องตีลูกจากผู้ขว้างให้ได้ เพื่อทำคะแนน โดยผู้เล่นที่ตีจะมีโอกาสในการตี 3 ครั้ง หากผู้ขว้างสามารถขว้างเข้าโซนตี แล้วผู้ตี ๆ ไม่ได้ ก็จะโดนกรรมการขาน strike หากครบ 3 strike ผู้ตีคนนั้นก็จะต้องออก ให้ผู้ตีลำดับต่อไปเข้ามาตีต่อ หากทีมที่เล่นเกมรุก ถูกทำให้ออกจากการเล่นครบ 3 คน ก็จะต้องสลับเป็นทีมรับแทน 3. กรณีของผู้ขว้าง (pitcher) ที่ต้องขว้างให้คู่ต่อสู้ตี จะมีโอกาสในการขว้างลูกที่ไม่เข้า โซนตี (ลูกที่ดีจะต้องสูงอยู่ในระดับข้อศอกของผู้ตีไปจนถึงระดับหัวเข่า และมีระยะอยู่ในโซนกรอบระหว่างกรอบตีลูกซ้ายขวาที่ผู้ตียืนอยู่) โดยที่ผู้ตี ไม่ได้เล่นหรือลงไม้ กรรมการก็จะขานว่าลูกนั้น Ball หรือเสียนั่นเอง โดยลูก ball นี้ผู้ขว้างจะขว้างได้ไม่เกิน 3 ครั้ง หากขว้างแล้วเป็น ball อีก 1 ครั้ง จะทำให้ผู้ตีคนนั้น ได้ไปที่เบสหนึ่ง โดยอัตโนมัติ 4. กรณีที่ผู้ตีสามารถตีลูกได้ ก็จะต้องวิ่งไปที่เบส (สีขาว) ในสนามไปทีละเบสตามลำดับ (ไม่สามารถข้ามเบส 1 ไป 3 ได้) เมื่อวิ่งไปครบทั้ง 4 เบส (เมื่อวนกลับมาถึงที่จุดตี) ก็จะถือว่าทีมรุกได้ 1 คะแนน 5. กรณีที่ผู้ตี ตีไปแล้วทีมรับสามารถรับลูกได้ โดยที่ลูกยังไม่ตกพื้น จะทำให้ผู้ตีนั้น ออกจากการเล่นโดยอัตโนมัติทันที ไม่สามารถวิ่งต่อไปที่เบสที่ 1 ได้ 6. กรณีผู้ตีสามารถตีข้ามออกนอกสนาม (โดยอยู่ภายในสนามที่เป็นรูปใบพัด) ก็จะเป็นลูก Home run ทันที ผู้ตีจะสามารถวิ่งจากจุดเริ่มต้น กับมาที่จุดตีได้อิสระ ถือว่าได้คะแนนทันที (ซึ่งหากจังหวะที่ตี มีผู้เล่นเกมรุกอยู่ในตำแหน่งอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น เบส 1, 2 หรือ 3 ก็จะสามารถวิ่งกลับมาที่จุดตีได้ทั้งหมด ซึ่งตรงนี้หากผู้เล่นเกมรุกอยู่ครบทั้ง 3 ตำแหน่งก่อนตี แล้วตีโฮมรันก็จะเรียกว่า grand slam รอบตีนั้นก็จะได้ 4 คะแนน
อันนี้เป็นกติกาเบื้องต้นนะครับ จริง ๆ ยังมีรายละเอียดอีกเยอะมาก ๆ แต่ก็พยายามสรุปแบบเบื้องต้น มาเผื่อให้คนที่จะดูเมเจอร์ลีกเบสบอล จะได้ดูเข้าใจมากยิ่งขึ้นครับ
จากคุณ |
:
punfreedom
|
เขียนเมื่อ |
:
18 ก.ย. 54 17:51:23
|
|
|
|
 |