ผีสุดเหี้ยม! อัดสิงห์ 3-1 เฮ 5 นัดรวดนำฝูงเดี่ยว
"ปีศาจแดง" แมนฯยูไนเต็ด เปิดโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไล่บด "สิงห์บลู" เชลซี 3-1 เก็บสามคะแนน พร้อมทะยานขึ้นนำจ่าฝูงเดียว หลังจากอริร่วมเมืองอย่าง แมนฯซิตี้ ที่ทำได้แค่เสมอก่อนหน้านี้ ส่วน เชลซี รั้งที่3ตามเดิม ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน 2554
แมนฯ ยูไนเต็ด 3 - 1 เชลซี
สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
"ผีแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทำศึกบิ๊กแมตช์กับ "สิงห์บลูส์" เชลซี เจ้าบ้านยังไม่มีริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่บาดเจ็บ ทำให้ต้องใช้ฟิล โจนส์ยืนเซนเตอร์คู่กับจอนนี่ อีแวนส์เหมือนเดิม ส่วนแนวรุกเฟอร์กี้จัดทั้งเวย์น รูนี่ย์ และ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซลงล่าตาข่ายคู่กัน เช่นเดียวกับดาวิด เด เคอา ที่กลับมาเป็นมือ 1 ขณะที่เชลซีก็ยังไม่มีดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ที่บาดเจ็บ ทำให้ความหวังในแนวรุกต้องฝากไว้ที่เฟร์นานโด ตอร์เรส
เริ่มเกมขึ้นมากลับเป็นเชลซีที่ได้ลุ้นทันทีในนาทีที่ 2 แอชลี่ย์ โคล ตวัดจากกราบซ้ายมาให้รามิเรส ล้มตัวยิงที่เสาสองบอลเข้ากรอบ แต่ดาบิด เด เคอา ก็ใช้ขาป้องกันไว้ได้
แต่เป็นผีแดงที่ออกนำไปก่อนในนาทีที่ 7 จากฟรีคิกทางด้านซ้าย แอชลี่ย์ ยัง เปิดลึกเข้าไปในกรอบ คริส สมอลลิ่ง เทกตัวโขกเต็มๆ ส่งบอลเสียบตาข่ายไม่เหลือ แม้เจ้าตัวจะมาจากตำแหน่งล้ำหน้า แต่ผู้ตัดสินก็ไม่ว่าอะไร ผีแดงนำ 1-0
อย่างไรก็ตามนาที 12 เชลซีเกือบตีเสมอได้ จากความผิดพลาดของอันแดร์สันที่จ่ายบอลคืนหลังพลาดไปเข้าทางเฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ลากเข้าไปยิงเรียดในกรอบ เฉี่ยวโคนเสาออกไปนิดเดียว
จากนั้นนาที 20 ยูไนเต็ดร้องจะเอาจุดโทษ เมื่อบอลไปโดนแฟร้งค์ แลมพาร์ด บริเวณศีรษะและหัวไหล่ แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร
ถัดมานาทีเดียว เชลซีก็ได้ลุ้นบ้าง ราอูล เมยเรเลส กระดกบอลเข้ากรอบให้แลมพาร์ดตวัดยิงตามน้ำทันที ส่งบอลเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว
เชลซีบุกหนักหวังตีเสมอให้ได้โดยเร็ว นาที 32 ตอร์เรสโหม่งชงมาให้ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์วอลเล่ย์ที่เสาสอง บอลพุ่งเข้าซองเด เคอาแบบไม่ยาก
กลับเป็นผีแดงที่หนีออกไปเป็น 2-0 ในนาที 36 จากจังหวะที่จอนนี่ อีแวนส์วางบอลยาวจากแนวรับอย่างได้น้ำหนักมาให้นานี่ ก่อนที่ปีกโปรตุเกสจะอาศัยความสามารถเฉพาะตัวเลี้ยงหลบฆวน มานูเอล มาต้า ก่อนอัดเปรี้ยงจากระยะ 25 หลา ส่งบอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างเด็ดขาด
ก่อนหมดครึ่งแรกนาทีเดียว แมนฯ ยูไนเต็ดขยับไปไกลเป็น 3-0 เมื่อจอห์น เทอร์รี่พยายามล้มตัวเคลียร์บอลทิ้งในกรอบโทษ แต่กลับไปโดนนานี่ กระดอนมาเข้าทางปืนเวย์น รูนี่ย์ ทำให้หัวหอกทีมชาติอังกฤษได้แปโล่งๆผ่านปีเตอร์ เช็กเข้าไปง่ายๆ หมดครึ่งแรกผีแดงนำสบายๆ 3-0
ครึ่งหลังเชลซีแก้เกมด้วยการถอดแลมพาร์ดออกแล้วส่งนิโกล่าส์ อเนลก้าลงมาเสริมเกมรุก และเพียงไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น เชลซีก็ตีไข่แตกได้สำเร็จ โดยเป็นอเนลก้าที่ลงมาใหม่แทงทะลุช่องให้ตอร์เรสหลุดเข้าไปในกรอบทางซ้าย ก่อนชิพข้ามตัวเด เคอาเสียบตาข่ายอย่างเหนือชั้น เปลี่ยนสกอร์เป็น 1-3
จากนั้นนาที 56 แมนฯ ยูไนเต็ดพลาดโอกาสได้ประตูที่ 4 โดยเริ่มจากนานี่ที่กระชากเข้าไปยิงหน้ากรอบ บอลพุ่งไปชนคานกระดอนออกมาเข้าทางดาวเตะโปรตุเกสที่พยายามตามเข้าไปซ้ำ แต่ก็โดนโชเซ่ โบซิงวาพุ่งเข้ามาเสียบล้มลงทางด้านหลัง ผู้ตัดสินฟิล ดาวด์เป่าให้เป็นจุดโทษทันที ทว่ารูนี่ย์ ซึ่งรับหน้าที่สังหารดันลื่นในจังหวะวิ่งเข้ามายิง เลยกลายเป็นซัดหลุดกรอบออกไป สกอร์เลยยังอยู่ที่ 3-1 เหมือนเดิม
นาที 71 เชลซีมีลุ้นเม็ด 2 เหมือนกัน ตอร์เรสที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมนี้ โชว์สเต็ปพาบอลหนีกองหลังผีแดง 2-3 คน ก่อนซัดด้วยขวาเต็มๆ เด เคอาปัดไว้ได้ แต่บอลยังมาเข้าทางเจ้าตัวที่เอี้ยวตัววอลเล่ย์ซ้ำ แต่ชอตนี้ส่งบอลเหินข้ามคานออกไป
ถัดมา 5 นาที เจ้าบ้านชวดได้เม็ด 4 อีกครั้ง ปาทริซ เอวร่าเปิดเรียดจากซ้ายเข้ามาในกรอบโทษ รูนี่ย์สอดมาตวัดยิงทันที บอลกลิ้งไปชนโคนเสา กระดอนมาเข้าทางฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ที่ตามซ้ำมุมแคบหลุดกรอบไปไกล
จากนั้นนาที 83 เชลซีพลาดโอกาสตีตื้นเช่นกัน เมื่อรามิเรสแทงทะลุช่องให้ตอร์เรสหลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบ พร้อมทั้งสับขาล็อกหลบเด เคอาอย่างเหนือชั้นไปแล้ว ทว่ากลับแปบอลที่หน้าปากประตูโล่งๆออกหลังไปอย่างเหลือเชื่อสุดๆ
ช่วงทดเจ็บ ผีแดงพลาดได้เม็ด 4 อีกครั้ง เมื่อรูนี่ย์หลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบ ก่อนแสดงความใจกว้างด้วยการไหลออกทางขวาให้ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟตัวสำรองได้แปโล่งๆ ที่เสาสอง แต่ยิงเบาไป แอชลี่ย์ โคลเลยตามมาสกัดที่หน้าปากประตูได้ทัน
ช่วงเวลาที่เหลือก็ทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกมแมนฯ ยูไนเต็ดถล่มเชลซี 3-1 เก็บ 3 แต้มสำคัญพร้อมกับแซงแมนฯ ซิตี้ที่ทำได้แค่เสมอฟูแล่มขึ้นไปเป็นจ่าฝูงสำเร็จ
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา , คริส สมอลลิ่ง, ฟิล โจนส์, จอห์นนี่ อีแวนส์, ปาทริช เอวร่า , นานี่, อันแดร์สัน, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, แอชลี่ย์ ยัง , เวย์น รูนี่ย์, ฮาเวียร์ "ชิชาริโต้" เฮอร์นานเดซ
สำรอง : อันเดรส ลินเดการ์ด (ผู้รักษาประตู), ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, ไรอัน กิ๊กส์, พาร์ค ชี-ซอง, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ฟาบิโอ ดา ซิลวา, อันโตนิโอ วาเลนเซีย
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , โชเซ่ โบซิงวา, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล , รามิเรส , แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ราอูล เมยเลเรส , ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, เฟร์นานโด ตอร์เรส, ฆวน มาตา
สำรอง : รอสส์ เทิร์นบูลล์ (ผู้รักษาประตู), ดาวิด ลุยซ์, นิโกลาส์ อเนลก้า, ฟลอร็องต์ มาลูด้า , โอริโอล โรเมอู, จอห์น โอบี มิเกล, โรเมลู ลูกากู
ผู้ตัดสิน : ฟิล ดาวด์
http://m.siamsport.co.th/detail_news.asp?id=116157&z=1