Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
stroke ไม่ใช่ stroke ติดต่อทีมงาน

STROKE ไม่ใช่จำนวนครั้งที่เราตีกอล์ฟ แต่เป็นอาการป่วยหนึ่งซึ่งเรียกว่า brain stroke อันเกิดขึ้นทางสมอง เกิดขึ้นทางสมองครึ่งซีก และมักเป็นขึ้นกับทั้งชายและหญิง ในวัยกลางคน อาการที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันและไม่ทันตั้งตัว ประหนึ่งสายฟ้าฟาด

    ไม่มีใครเคยคิดว่า อาการป่วยแบบนี้จะเกิดขึ้นกันผม มันดูจะห่างไกล แล้วจู่ๆ  มันก็โจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว เหมือนโดนหมัดขวาเข้าปลายคาง มันไม่เหมือนกับโรคภัยใดๆ ที่จะส่งสัญญาณเตือนภัยมาก่อน หรือเตือนให้รู้ตัวล่วงหน้า แล้วมันก็เกิดขึ้น

    ผมจำได้แม่นยำ คือวันเกิดของลูกชายคนเล็กเราตกลงกันว่า วันคล้ายวันเกิดจะไปทานข้าวกันตอนเย็น มีแฟนของลูกชายชื่อ เจี๊ยบ และเพื่อนๆอีกสามสี่คนที่จะไปด้วยกัน ลูกสาวคนแรกชื่อ อ๋อง และคุณอ้อยภรรยาของผม

    แล้วบ่ายวันนั้นก็เผลอหลับไป ไม่รู้ว่านานขนาดไหน ประมาณสองชั่วโมง มาตื่นอีกทีก็ปาเข้าไปถึง 5 โมงเย็นแล้ว

    เมื่อตื่นขึ้น ผมรู้สึกว่า มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับผมอย่างแน่นอน ตอนแรกผมยังไม่รู้ รู้แต่ว่า ทำไมร่ากายของผมถึงได้สิ้นเรี่ยวแรงเช่นนี้(ตอนต้นเข้าใจว่า ร่างกายหมดแรงทั้งสองซีก) มีอะไรบางอย่างที่เตือนให้ผมต้องลุกจากที่นอน แต่ผมทำไม่ได้ จะลุกจากเตียงยังลำบาก ต้องป่ายปีนลงจากเตียง คลานเข้าห้องน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดใหม่ เหมือนกับเตรียมพร้อม เป็นชุดนอน แล้วออกแรงคลานกลับขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง พยุงกายให้นั่งบนเก้าอี้ นั่งเซ่ออยู่สักพักหนึ่ง แล้วถามตัวเองว่า “มีอะไรเกิดขึ้นหรือวะ” ในเวลาเดียวกันก็นึกปลอบใจตัวเองว่า “ทุกอย่างจะต้องเป็นปกติน่า”

    ผมนึกอยู่ตั้งนาน (หลายนาที) ว่า อะไรมันเกิดขึ้นเนี่ย มันไม่น่าจะเป็นไปได้ จะออกแรงขยับแข้ง(ซีกซ้าย)ขยับขวาก็ไม่ได้ แต่ซีกซ้ายได้ ผมไม่เข้าใจไม่รู้จักกับโรคเช่นว่านี้ ไม่เคยอ่านเจอในหนังสือหรือตำราไหน เพราะนึกไม่ถึงว่า จะเกิดขึ้นกับตัวผมเอง

    ลูกชายซึ่งมีนัดกับผม ก็โผล่เข้ามาในห้อง แล้วถามว่า “จะไปหรือยัง” แต่ท่าทางของผมมันไม่เชิญชวนไปไหนเลย เพราะผมนั่นเซ่ออยู่คนเดียว ทำตากลับกลอกไปมา เหมือนจะเอ่ยปากบอกอะไรไม่ได้สักอย่าง และนั่นคือสัญญาณที่บอกให้ลูกรู้ว่า สงสัยจะไม่ไหว

    ท่าทางของผมคงบอกอะไรให้ลูกรู้บางอย่าง จึงเอ่ยปากถามผมว่า “พ่อเป็นอะไรหรือเปล่า” ผมได้แต่มองตาลูก แต่ตอบไม่ได้ “พ่อไปโรงพยาบาลไหม” ผมไม่ตอบแต่พยักหน้า เพราะพ่อรู้แล้วว่าไปไหนไม่ไหว จึงเข้าพยุงกายทันที ถึงตอนนี้แล้ว ผมพอจะตะเกียกตะกายไหว ลุกขึ้นเกาะลูก แล้วกระ:-)กระสนพยุงตัวเองจนเกือบหกล้ม จนมาขึ้นลิฟท์ และพยุงตัวผม(พร้อมๆ เพื่อนลกอีกสามคน ตัวโตๆทั้งนั้น ช่วยพยุงผมสบายมาก เพราะผมหนักเพียง 52 กก.เท่านั้น)

    ระหว่างที่อยู่ในรถ จากราชเทวี ไปยัง บี เอน เอช มันก็ไม่ไกล แต่เพราะรถติดระเบิดเถิดเทิง แต่เพราะความสามารถพิเศษของลูกชาย ขับได้เร็วทันใจ ก็มาถึงโรงพยาบาลได้ในเวลาไม่เกิน 20 นาที เท่านั้น
    เพื่อนๆ ลูกๆ แต่ละคนต่างซักถามด้วยเป็นห่วง แต่ผมยังตอบไม่ได้ ได้แต่หลับตาในรถ ด้วยความสงสัยเต็มเปี่ยมอยู่ในหัวใจ ผมเป็นอะไร?
   
    เมื่อผมไปถึงโรงพยาบาล ทั้งพยาบาลและแพทย์ต่างได้ซักถามถึงอาการ ซึ่งผมตอบไม่ได้ ดีที่ลูกชาย ลูกสาวและภรรยาต่างช่วยกันตอบ

    จนถึงตอนนี้แล้วผมทราบแล้วว่าผมเป็นอะไร เขาเรียกว่า stroke หรือที่เรียกเป็นภาษาไทยว่า โรคหลอดเลือดในสมองตีบ คืออาการที่ร่างกายซีกหนึ่ง ไม่สามารถทำงานได้ หรืออาการที่ร่างกายซีกหนึ่งพอจะทำงานได้ ถ้าได้รับการรักษาภายใน 24 ชั่วโมง ร่างกายก็จะเป็นปกติ หรือที่เรียกว่า mini stroke ซึ่งในกรณีของผม ไม่รู้จะเรียกอย่างไร คือรักษาได้ทันท่วงที (24 ชม.) แต่รู้สึกว่าทางร่างกายนั้น ดูจะเป็นปกติอยู่ (ดูจากเผินๆ) แต่การเดินนั้น ดูท่าทางจะเอียงขวาเล็กน้อย หรืออ่อนแรงทางซีกขวา จนหมอต้องทำกายภาพบำบัด
   
     ในวันแรกแพทย์จับให้น้ำเกลือเป็นประเพณี และให้ยาบางอย่าง ที่ผมจำไม่ได้ และให้ผมอยู่ในห้อง ICU ต้องให้อ๊อกซิเจน ส่วนชุดคนไข้ซึ่งผมไม่ชอบ ดูท่าทางมันโป๊ๆ พิกล

     ผมจำไม่ได้แล้วว่า ต้องตรวจอะไรบ้าง ที่พอจำได้อย่างเดียวคือ เข้าเครื่องคล้ายอุโมงค์ ส่งเสียงดังตึงตัง และต้องอยู่นานจนรำคาญ จนแทบทนไม่ไหว (รู้แล้วว่าเครื่องสแกนสมอง)

     ผมต้องอยู่ห้อง ICU นานถึง 5 วัน อีก 3 วันอยู่โรงพยาบาล หมอจึงเห็นว่าอนุญาตให้กลับบ้านได้
   
    ในห้อง ICU มีหมอหลายคนที่เข้ามาดูอาการ ต่างคนต่างถามอาการว่าเป็นอย่างไร ผมตอบคล้ายๆ ว่า สบายดี ความจริงผมไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้อง ICU แล้ว ควรจะย้ายเข้า ward คนไข้ปกติ (ในความรู้สึกของผม) แต่คุณหมอเห็นว่า ควรอยู่ต่อไปจนกว่าจะมั่นใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เท่ากับผมเลิกสูบบุหรี่โดยปริยาย เพราะ 8 วันเท่ากับการงดสูบบุหรี่ไปเอง และเหมือนกับการให้สัญญากับคุณหมอท่านหนึ่งว่า ผมจะเลิกบุหรี่



(เดี๋ยวมีต่อครับ)

จากคุณ : thongprakai
เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 07:36:24




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com