 |
ไร้เงาหมู!ผีโคตรเฉื่อยนำก่อนโดนหม้อไล่เจ๊า 1-1 Report by : Zaine_R
เรียกได้เลยว่าขาดรูนี่ย์ถึงกับไปไม่เป็นเลยสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่เล่นกันอืดอาดจนน่าอึดอัด แม้ว่าจะได้ประตูนำไปก่อนจากนานี่ แต่สุดท้ายมาโดนเคร้าซ์โหม่งตีเสมอให้กับสโต๊คในช่วงต้นครึ่งหลัง จบลงที่สกอร์ 1-1 หยุดสถิติชนะรวดลงที่บริทาเนียร์นี่เอง
พรีเมียร์ ลีก วันเสาร์ที่ 24 กันยายน 2554
สนาม : บริทาเนีย สเตเดี๊ยม
สโต๊ค ซิตี้ 1 : 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ประตู : 0-1 นานี่ น.27, 1-1 เคร้าซ์ น.52 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยกพลบุกมาเยือนสโต๊ค ซิตี้ ณ สนามบริทาเนีย สเตเดี๊ยม ที่ไม่ว่าใครมาก็ต้องลากเลือดกันทั้งนั้น
เจ้าบ้านวันนี้ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่ามาด้วยแท็คติคการโยนบอมบ์เข้าไปในกรอบเขตโทษเพื่อเล่นงานเด เกอาผู้รักษาประตูของทีมเยือน
ส่งทั้งจอมทุ่มไกลอย่างดีแล็ปลงสนาม รวมทั้งเคร้าซ์ที่ยืนเป็นเป้าในแดนหน้า
ด้านแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดงงกันพอสมควร เพราะว่าไม่มีชื่อของรูนี่ย์อยู่ในทีมเลย โดยเป็นเบอร์บาตอฟและเอร์นานเดซที่คัมแบ็คกลับมาได้ไวจับคู่กันในแดนหน้า
ปีกทั้งสองข้าเป็นยังและนานี่เหมือนเดิม ส่วนมิดฟิลด์คู่กลางใช้เฟล็ทเชอร์และอันแดร์สัน โดยเกมนี้ปราศจากชื่อของคาร์ริคไปเลย
ครึ่งแรก
ผีโวยแหลกจะเอาจุดโทษ เริ่มเกมมาได้แค่ 3 นาที แมนฯยูไนเต็ดโวยกันยกใหญ่ในจังหวะที่เอร์นานเดซได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้ว โดนทางวู้ดเกตเข้าแท็คเกิ้ลจากด้านหลัง ทั้งแขนทั้งเข่าปะทะเข้าไป จนล้มลงไปแล้วชนกับเบโกวิชเจ็บไปอีก แถมจุดโทษก็ไม่ได้ด้วย "ปีศาจแดง" ได้แต่เซ็งไปตามๆกันเท่านั้น
หม้อมาเกมหนักเลย หลังจากอัดจนเอร์นานเดซร่วงและต้องถูกพาตัวออกไปจากสนาม ผู้เล่นของสโต๊คก็เข้าปะทะหนักกันอย่างต่อเนื่อง จนวีแลนมาโดนใบเหลืองเพราะเสียบอัดใส่เอฟร่า
ผีส่งโอเว่นลงแทนถั่ว นาทีที่ 11 แมนฯยูไนเต็ดจำต้องเปลี่ยนเอาโอเว่นลงไปเล่นแทนเอร์นานเดซที่ถูกเข้าปะทะหนักจนต้องออกจากเกมไป คงต้องตามข่าวกันอีกครั้งว่าถั่วน้อยจะเจ็บหนักเพียงใด
โจนส์ลืมว่าเป็นเซ็นเตอร์? ไม่รู้ว่าลืมตัวหรือเปล่าสำหรับโจนส์ ที่เล่นจังหวะโอเพ่น-เพลย์ขึ้นสูงไปลากบอลทางริมเส้นฝั่งซ้าย หนีผู้เล่นของสโต๊คไปได้หนึ่ง ก่อนที่จะล็อคหลบได้อีกหนึ่ง แต่จังหวะเปิดเข้ากลางติดบล็อกของวู้ดเกต
ลูกตั้งเตะหม้อน่ากลัว จังหวะตั้งเตะของสโต๊คทุกครั้งที่ได้โอกาสนั้นทำให้ทางแฟนบอลของแมนฯยูไนเต็ดลุ้นกันจนเหยี่ยวเล็ดน่าดู เพราะทุ่มหรือโยนได้เข้าเป้าน่าดู ขาดก็แต่จังหวะจบที่ถ้าทีมเยือนพลาดขึ้นมาล่ะก็ เสียหายถึงประตูแน่นอน
ผีตั้งเกมยังไม่ได้ ผ่าน 20 นาทีแรก เกมของแมนฯยูไนเต็ดไม่ค่อยจะเป็นเกมสักเท่าไหร่เลย ตอนนี้ยังขึ้นบอลกันได้ยาก แถมจังหวะที่จะทะลวงเข้าไปในพื้นที่สุดท้ายก็ยังหาไม่ได้ นอกจากจังหวะของเอร์นานเดซในช่วงต้นเกม
ซูเปอร์บัง!ลากไปยิงสุดเฉียบคม นาทีที่ 27 ฟอร์มเข้าฝักเสียจริงสำหรับนานี่ที่มาทำให้ความแตกต่างของเกมหนืดๆเกิดขึ้น ในจังหวะที่เขายึกยักครองบอลอยู่ ก่อนที่จะเล่นชิ่งกับเฟล็ทเชอร์ ทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษ ล็อคตัดเข้าในหลบกองหลังของสโต๊ค แล้วจัดการยิงด้วยเท้าซ้ายเบี่ยงไปที่เสาแรกทันที แม้บอลจะไม่ได้แรงมาก แต่ก็เฉียบคมมากพอที่จะผ่านมือเบโกวิชซุกเข้าตาข่ายไป
หม้อเกือบได้เร็ว!เด เกอาซูเปอร์เซฟ อีกเพียง 1 นาทีต่อมา สโต๊คเกือบที่จะได้ประตูตีเสมอแบบทันควัน ในจังหวะที่ขึ้นเกมไปทางขวา โยนบอลเข้ากลาง ผู้เล่นของแมนฯยูไนเต็ดสกัดไปเข้าทางวิลกินสันที่แตะเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่จะตะบันแบบเต็มตีน บอลพุ่งเหมือนจะแสกหน้าเด เกอาอยู่แล้ว แต่เขาก็ดีดตัวปัดบอลชนเสาออกหลังไป ถ้าปฏิกริยาลูกนี้ไม่ไหว งานนี้ตาข่ายขาดไปแล้ว
เบโกวิชเกือบทำเพื่นเจ๊ง นาทีที่ 32 ติดสันใจพลาดไปนิดหนึงสำหรับเบโกวิชที่รับบอลคืนหลังมาจากเพื่อน แล้วจะไปแตะหลบยัง แต่ดันฉีกหนีไม่พ้น ทำให้โดนไล่ไปสะกิดบอลถึงนานี่ แต่จังหวะยิงอาบังซัดบอลเหินข้ามคานไป
เด เกอาเซฟอีก!วอลเตอร์สยิงดีแล้ว อีก 3 นาทีต่อมา จังหวะการยิงไกลของวอลเตอร์สที่โคตรได้ลุ้น เพราะบอลพุ่งเลียดเหมือนกำลังจะเสียบเสาไกลอยู่แล้ว แต่เด เกอาก็ล้มตัวปัดบอลเฉี่ยวเสาหลุดออกหลังไปแบบหวาดเสียวสุดๆ
เสียดายมาก!หม้อโยนได้ลุ้นสุดๆ นาทีที่ 43 สโต๊คมาได้ลุ้นแบบหวาดเสียวอีกครั้ งจากจังหวะโยนบอลริมเส้นฝั่งซ้าย ยาวเข้ากรอบเขตโทษ บอลเลยหัวของเคร้าซ์ที่พยายามเทคตัวเข้าหาบอลแล้ว เพนแนนท์พยายามจะยื่นขาเข้าเก็บตกที่เสาสอง แต่ช้าไปก้าวเดียว ทำให้พลาดโอกาสลุ้นประตูไป
โอเว่นจับบอลเสียตลอด เบอร์บาตอฟถึงกับออกอาการหงุดหงิดเลย เพราะจังหวะสวนกลับของแมนฯยูไนเต็ดที่เห็นๆกันสองครั้ง ซึ่งบอลทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษได้ แต่โอเว่นกลับจับบอลแรกไม่ดีทั้งสองครั้ งืำให้พลาดโอกาสลุ้นประตูไป
จบ 45 นาทีแรกลงพร้อมกับเสียงนกหวีดของผู้ตัดสินจบลงด้วยสกอร์ที่ "ปีศาจแดง" นำสโต๊คอยู่ 1-0
ครึ่งหลัง
แผลงฤทธิ์แล้ว!เคร้าซ์ลอยตัวโขกเหน่ง นาทีที่ 52 ได้ผลจนได้สำหรับลูกตั้งเตะของทางสโต๊ค ในจังหวะเตะมุมที่โยนบอลเข้ากลาง เคร้าซ์วิ่งมาจากด้านนอกลอยตัวขึ้นเทคตัวโขกแบบไม่มีใครที่จะขึ้นได้สูงไปกว่าเขา โหม่งบอลเต็มๆส่งเข้าไปตุงตาข่าย ลูกนี้เด เกอาหมดปัญญารับ สโต๊คตามตีเสมอเป็น 1-1 แล้ว
ริโอพลาด!เคร้าซ์ซัดจ่อติดเซฟ อีก 2 นาทีต่อมา ป่วนอย่างเห็นได้ชัดเจนเลยสำหรับเกมรับของแมนฯยูไนเต็ด เมื่อเฟอร์ดินานด์มาพลาดแบบไม่น่าให้อภัย ในจังหวะที่เทคตัวขึ้นจะโหม่งสกัดบอลย้อยๆในกรอบเขตโทษ แต่ดันวืด บอลไปตกที่เคร้าซ์ตวัดยิงทันที แต่ไปติดแขนของเด เกอาที่ออกมาบล็อกเอาไว้ได้ทัน ไม่งั้นงานนี้มีพลิกเร็วเลย
หม้อเล่นกันได้ใจ ผ่านเข้าช่วงหนึ่งชั่วโมงเต็มของเกม ตอนนี้เกมเป็นของสโต๊คเสียส่วนใหญ่ เนื่องจากโมเมนตั้มหันไปทางพวกเขาเต็มที่และยังจ่ายบอลกันได้เป็นอย่างดี ถ้าเล่นได้แบบนี้เรื่อยๆมีพลิกขึ้นนำได้แน่
หม้อซัดฟรีคิกซะน่ากลัว นาทีที่ 68 เด เกอาต้องออกแรงเซฟอีกครั้งหนึง เมื่อสโต๊คได้ฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษและยังเป็นตำแหน่งน่ารักน่าลุ้นอีกด้วย ซึ่งก็ซัดทะลุกำแพงที่มีผู้เล่นฝั่งตัวเองไปยืนแทรก บอลโคตรแรงทะลุไปตรงตัวของเด เกอาที่ตั้งมือปัดทิ้งเอาไว้ได้แบบมึนๆ
พี่หนุ่มยิงติดเซฟเบโกวิช อีก 2 นาทีต่อมา แมนฯยูไนเต็ดมามีโอกาสได้ลุ้นในจังหวะสวนกลับ ที่เอฟร่าทะลวงไปทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนที่จะตัดเข้ากลางแล้วจ่ายยาวไปให้กับยังทางขวา เจ้าตัวตั้งป้อมยิงเต็มๆ แต่บอลตรงตัวของเบโกวิสที่ปัดทิ้งอาไว้ได้ทัน
ผีปรับทัพส่งโก๋แดน,ขนดกลง นาทีที่ 71 แมนฯยูไนเต็ดอยู่เฉยไม่ได้ เพราะเกมไม่ค่อยจะสู้ดี จึงต้องส่งเวลเบ็คและกิ๊กส์ลงไปช่วยเสริมเกม ถอดเอายังที่วันนี้โชว์ฟอร์มไม่ออก รวมทั้งเบอร์บาตอฟที่อาการหนักไม่แพ้กับรายแรกออกไป
ผีพยายามอย่างหนัก เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย แมนฯยูไนเต็ดพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะทำประตูขึ้นนำไปอีกครั้งให้ได้ แต่พวกเขาก็ยังหาโอกาสยิงจะๆเน้นๆไม่ได้สักที แถมเอฟร่าก็มามีอาการบาดเจ็บติดตัวในจังหวะปะทะผู้เล่นสโต๊คอีกด้วย
หม้อส่งฮูธแทนวิลกินสัน นาทีที่ 83 สโต๊คต้องเปลี่ยนเอาวิลกินสันที่วันนี้ถือว่าเล่นได้เด่นน่าดูออกจากสนาม เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บและส่งฮูธลงไปเล่นแทน
เคร้าซ์โหม่งหลุดกรอบ อีกหนึ่งนาทีต่อมา จังหวะเตะมุมของสโต๊คยังคงน่ากลัวเหมือนเดิม เป็นเคร้าซ์ที่ได้โหม่งอีกครั้งหนึง แต่ครางนี้ไม่ได้เทคตัวสบายๆเลยบังคับบอลให้ตรงกรอบได้ยาก บอลหลุดออกหลังไป
เคร้าซ์พลาดโอกาสทองอีก นาทีที่ 86 เคร้าซ์น่าที่จะทำประตูพลิกขึ้นนำให้กับสโต๊คได้จริงๆ ในจังหวะที่เขาเบียดชิงลูกกลางอากาศกับผู้เล่นของแมนฯยูไนเต็ดแล้วได้บอล วอลเล่ย์ทันที แต่เหมือนแป้กๆบอลก็เลยปลิ้นออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
ขนดกพลาดบ้างงานนี้ ช่วงทดเวลานาทีแรก กิ๊กส์เกือบที่จะเป็นซูเปอร์ซัพทำประตูชี้ชัยชนะให้กับแมนฯยูไนเต็ดได้แล้ว จากจังหวะที่เขาวิ่งเข้าแปบอลที่เปิดมาจากนานี่แบบเน้นๆ แต่กลับซัดออกหลังไปแบบไร้ทิศเสียนี่
จบ 90 นาทีแมนฯยูไนเต็ดหยุดสถิติชนะรวดตั้งแต่เปิดฤดูกาลเอาไว้ที่นัดที่ 6 เมื่อพวกเขาบุกมาเสมอกับสโต๊ค ซิตี้ไป 1-1 มีเพิ่มเป็น 16 คะแนนเท่ากับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ด้วยการที่ประตูได้เสียดีกว่า จึงครองจ่าฝูงพรีเมียร์ ลีกต่อไป
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
สโต๊ค ซิตี้ : แอสเมียร์ เบโกวิช 5.5, โจนาธาน วู้ดเกต 6, ไรอัน ชอว์ครอสส์ 7, มาร์ค วิลสัน 6, แอนดี้ วิลกินสัน 8(ฮูธ 6 น.83), เกล็นน์ วีแกน 6.5, รอรี่ ดีแล็ป 6.5(ไวท์เฮด 6 น.85), แมทธิว เอ็ทเธอริงตัน 7, เจอร์เมน เพนแนนท์ 6(เจอโรม 6 น.90), โจนาธาน วอลเตอร์ส 7, ปีเตอร์ เคร้าซ์ 7.5*
สำรองที่ไม่ได้ใช้ : แมทธิว อัพสัน, โธมัส โซเรนเซ่น, วิลสัน ปาลาซิออส, ไรอัน ชอตตอน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดาวิด เด เกอา 8.5, อันโตนิโอ วาเลนเซีย 7, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 7, ปาทริซ เอฟร่า 6.5, ฟีล โจนส์ 7, อันแดร์สัน 6, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ 7.5, แอชลี่ย์ ยัง 6(กิ๊กส์ 6.5 น.70), นานี่ 7.5, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 6(เวลเบ็ค 6 น.70), ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ 6(โอเว่น 6 น.11)
สำรองที่ไม่ได้ใช้ : ปาร์ค จี ซอง, อันเดอร์ส ลินเดการ์ด, ฟาบิโอ, เฟเดริโก้ มาเคด้า
http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=483551
จากคุณ |
:
เก็บคอ งอเข่า
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ก.ย. 54 10:34:30
|
|
|
|
 |