การต้องอยู่ห่างจากครอบครัวเป็นเหตุผลหลักๆที่ทำให้ผมถอนตัวจากการเล่นทีมชาติตอนอายุ 29 ปี เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2004
ผมไม่เคยชอบการอยู่ห่างจากบ้าน จากครอบครัวเป็นเวลานานๆหลายสัปดาห์เลย ทุกครั้งที่ทีมชาติอังกฤษมีทัวร์นาเมนท์แข่งขัน ผมก็พอโอเคอยู่ได้ซักสามสี่วัน แต่หลังจากนั้นผมก็ไม่มีความสุขเลยเพราะเอาแต่คิดถึงภรรยาและลูกๆ
ผมเป็นคนตัดสินใจที่จะถอนตัวจากทีมชาติด้วยตัวเอง แล้วก็ไปแจ้งกับผจก.ทีมยูไนเต็ด เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันซึ่งเป็นคนแนะนำให้ผมทำตามหัวใจของตัวเอง ส่วนเสวน โกรัน อีริกสัน ผจก.ทีมชาติอังกฤษในขณะนั้นคิดว่าผมบ้าไปแล้วที่จะเลิกเล่นทีมชาติในขณะที่อายุน้อยแค่นั้น แต่กระนั้นก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนการตัดสินใจของผมได้
สำหรับผมแล้ว มันรู้สึกเหมือนได้ยกภาระอันหนักอึ้งออกจากบ่า เพราะรู้ว่าต่อไปผมจะสามารถตั้งตารอให้ถึงช่วงซัมเมอร์ได้โดยไม่ต้องกังวลไปถึงสังหรณ์ร้ายๆอีกต่อไป ผมตัดสินใจได้ถูกต้อง สำหรับครอบครัว และตัวผมเอง เพราะผมไม่เคยรู้สึกเสียดายเลยที่เลือกแบบนั้น
จนเมื่อตอนพฤษภาคมปี 2010 สจวต เพียซ กับฟรานโก บัลดินี ผู้ช่วยของ คาเปลโล ผจก.ทีมชาติอังกฤษ ติดต่อผมมาเพราะอยากให้ผมหวนกลับไปเล่นทีมชาติอีกครั้งในฟุตบอลโลกที่แอฟริกาใต้ ผมครุ่นคริดอยู่นานแต่สุดท้ายก็ยังตัดสินใจแบบเดิม นอกจากความรู้สึกแปลกๆที่อาจต้องไปแย่งที่ของคนที่ตะลอนเดินทางไปแข่งหลายๆที่ในรอบคัดเลือกเลย ผมคิดถึงครอบครัว ซึ่งนั้นก็มากเกินพอสำหรับการตัดสินใจของผม
แคลร์ไม่ได้คลั่งไคล้ฟุตบอล แต่เราก็เข้ากันได้ดี บางครั้งผมกลับบ้านมาจากการแข่งขัน เธอก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราแข่งกับใคร ไม่ใช่ว่าแคลร์ไม่สนใจในอาชีพนักฟุตบอลของผมนะครับ เธอไปดูเกมเวลาเราแข่งในบ้านเสมอ แล้วก็ไม่เคยพลาดเหตุการณ์สำคัญๆ เธอแค่ไม่ได้คลั่งไคล้ในฟุตบอลเท่านั้นเอง
แคลร์เป็นแม่ทึ่ยิ่งใหญ่มาก เธอจัดการกับทุกๆอย่างตอนที่ผมต้องไปเล่นให้กับยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษ เราโชคดีมากๆที่พ่อและแม่ของแคลร์อาศัยอยู่ใกล้ๆพร้อมจะช่วยเหลือได้ตลอด ซึ่งนั่นทำให้ผมไม่ต้องกังวลใจเวลาต้องเดินทาง เพราะรู้ว่าแคลร์มีคนที่สามารถพึ่งพาได้ นอกจากนี้มันยังทำให้ผมไม่ต้องหดหู่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในสนาม เพราะผมมีคนที่จะช่วยทำให้ผ่อนคลายจากฟุตบอลได้
นั่นเป็นสิ่งสำคัญเอามากๆ เพราะบางทีผมก็อารมณ์บูดอยู่สองสามวันเวลาเรามีเกมที่แย่ๆ แต่ลูกๆคือสิ่งที่คอยย้ำเตือนว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญจริงๆในชีวิต
แคลร์กับผมเจอกันในผับที่มิดเดิลตั้นในแมนเชสเตอร์ (จขกท. กรี๊ดดด ทำไมตอนข้าพเจ้าไปมิดเดิลตั้นไม่เจอแบบนี้มั่งน้า xD) ตอนเราอายุสิบแปด เราแต่งงานกันในปี 1999 ซึ่งมันไม่มีอะไรมีความสุขไปมากกว่านี้แล้วล่ะ เธอคอยอยู่เคียงข้างผมตลอดชีวิตการค้าแข้ง รวมไปถึงตอนที่ผมอายุสิบเก้า แล้วลงเล่นในยูไนเต็ดครั้งแรกที่ พอร์ท เวล ในวันที่ 21 กันยายน ปี 1994
ผมเคยวางแผนจะพาแคลร์ไปเที่ยวนิวเยอร์ก หลังจากจบฤดูกาลในปี 1996-97 ตอนนั้นผมไม่เคยรู้เลยซักกระผีกริ้นว่าอาจจะโดนเรียกไปติดทีมชาติอังกฤษที่แอฟริกาใต้ แต่พอใกล้ๆสิ้นเดือนพฤษภา แทนที่เราจะได้ไปเที่ยวชมบิ๊กแอปเปิ้ล ผมกลับกำลังวิ่งภายใต้ท้องฟ้าสดใสอยู่ในโอลแทรฟเฟิร์ดหลังจากถูกเปลี่ยนตัวลงมาจากข้างสนาม การติดทีมชาติในครั้งนี้ทำให้ผมประหลาดใจมากจริงๆ
ผมยอมรับว่าถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกแย่อยู่นิดๆนะ เพราะสิบสี่ปีผ่านไปแล้ว ผมก็ยังไม่ได้พาเธอไปที่บิ๊กแอปเปิ้ลเลย