 |
คอลัมน์ : อินไซต์ข่าวฮอต เดลินิวส์ออนไลน์
จ่าฝูงข้า... ใครอย่าแตะ!
แม้คู่เอกของศึกพรีเมียร์ลีกสัปดาห์นี้ จะอยู่ที่ศึก แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในวันอาทิตย์ แต่ในวันเสาร์ก็ยังมีเกมฟาดแข้งให้ได้ลุ้นได้เชียร์กันเบาะ ๆ 5 คู่ ซึ่งมีทีมยอดนิยมอย่าง หงส์แดง ลิเวอร์พูล ลงสนามด้วย แน่นอน เรามีสภาพความพร้อมและบทวิจารณ์แบบฟันธงของทั้ง 5 คู่มาฝากกันเช่นเคย
..........................................................................................................
วูล์ฟแฮมป์ตัน สวอนซี ซิตี
สนาม : โมลินิวซ์ กราวน์
เวลา : 18.30 น. ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1
หมาป่า วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ทีมอันดับ 16 มี 7 คะแนนจาก 8 นัด จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ หงส์ขาว สวอนซี ซิตี ทีมน้องใหม่ซึ่งมี 8 แต้มจากการลงเตะเท่ากัน รั้งอันดับ 13 ของตาราง
สภาพความพร้อมของทั้ง 2 ทีมในเกมนี้ หมาป่า เจ้าถิ่น ซึ่งนัดล่าสุดบุกไปแพ้ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 0-2 ส่งผลให้แพ้รวดในเกมลีก 3 นัดหลังสุดนั้น อาจยังไม่มี 2 กองหลังอย่าง โรนัลด์ ซูบาร์ และ โจดี แคร็ดด็อก ที่ยังไม่น่าจะพร้อมแม้จะหายเจ็บกลับมาซ้อมได้แล้วก็ตาม แต่มีลุ้นได้ สตีเวน เฟล็ทเลอร์ หายเจ็บน่องกลับมาช่วยทีม ส่งผลให้ มิค แม็คคาร์ธี กุนซือของทีมสามารถจัดทัพลงสนามได้แบบเต็มอัตราศึก โดยน่าจะปรับกลับมาใช้ระบบ 4-4-2 นายทวารใช้ เวย์น เฮนเนสซี ส่วนคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟใช้ โรเจอร์ จอห์นสัน จับคู่กับ คริสตอฟ แบร์รา แบ๊กขวามี ริชาร์ด สเตียร์แมน ประจำการ ขณะที่แบ๊กซ้ายเป็น สตีเวน วอร์ด ส่วนแดนกลางมี เจมี โอฮารา กับ คาร์ล เฮนรี คุมเกมตรงกลางและใช้ แมทธิว ยาร์วิส กับ สตีเฟน ฮันท์ ลากเลื้อยริมเส้น ขณะที่คู่กองหน้าเป็น เฟล็ทเชอร์ จับคู่กับ เควิน ดอยล์
ด้าน หงส์ขาว ทีมเยือน ซึ่งนัดล่าสุดบุกไปแพ้ นอริช ซิตี 1-3 นั้น ยังคงหมดสิทธิใช้งาน อลัน เทต กองหลังที่เดี้ยงยาว รวมถึง สตีเวน โคลเกอร์ ที่ผ่าตัดเข่าต้องพัก 4-6 สัปดาห์ ทำให้ แอชลีย์ วิลเลียมส์ กับ แกร์รี มังค์ กัปตันทีม น่าจะต้องจับคู่เป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟต่อไป แม้จะเพิ่งได้ตัว วานเจลิส โมราส มาร่วมทีมแบบไม่มีค่าตัวก็ตาม ส่วนตัวหลักอื่น ๆ ยังอยู่ครบ โดยเกมนี้ แบรนดอน ร็อดเจอร์ส กุนซือของทีมจะจัดทัพในระบบ 4-2-3-1 มี มิเชล วอร์ม เฝ้าเสา วิลเลียมส์ กับ มังค์ ยืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ แบ๊กขวาซ้ายใช้ อังเคล รางเคล กับ นีล เทย์เลอร์ คู่กลางรับใช้ โจ อัลเลน กับ ลีออน บริตตัน ตัวรุก 3 คนใช้ นาธาน ดายเออร์, เวย์น เราท์เลดจ์ และ สกอตต์ ซินแคลร์ ส่วนหน้าเป้าใช้ แดนนี แกรแฮม
ความน่าจะเป็นของเกม : ฟอร์มหลังของ หมาป่า เจ้าถิ่น ช่วงนี้ถือว่าย่ำแย่แพ้มา 3 นัดติด ขณะที่ สวอนซี ทีมเยือนถือว่าพอใช้ได้ แพ้บ้างชนะบ้างสลับกันมาเรื่อย ๆ ดูแล้วเกมนี้รูปเกมน่าจะออกมาสูสี แต่การที่ วูล์ฟส์ ได้ เฟล็ทเชอร์ กลับมาน่าจะช่วยให้เกมรุกดุดันขึ้นอีกเยอะ และน่าจะช่วยให้เจ้าถิ่นเฉือนชนะได้หวุดหวิด
ผลที่คาด : วูล์ฟส์ ชนะ 2-1 ..........................................................................................................
แอสตัน วิลลา เวสต์บรอมวิช
สนาม : วิลลา ปาร์ค
เวลา : 21.00 น. ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 3
สิงห์ผงาด แอสตัน วิลลา ทีมอันดับ 8 ของตาราง มี 11 คะแนนจากการลงสนาม 8 นัด จะเปิดบ้านทำศึก มิดแลนด์ ดาร์บี้แมตช์ รับการมาเยือนของ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน ซึ่งมี 8 แต้มจากการลงเตะเท่ากัน รั้งอันดับ 12 ของตาราง
ความพร้อมของทั้ง 2 ทีมในเกมนี้ สิงห์ผงาด เจ้าถิ่น ต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ นาธาน เดลฟอนโซ หัวหอกดาวรุ่งที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ขณะที่ เจอร์เมน จีนัส ยังไม่หายเจ็บเอ็นร้อยหวาย หมดสิทธิลงสนามแน่นอน นอกนั้นพรั้อมลงช่วยทีมทั้งหมด โดยคาดว่า อเล็กซ์ แม็คลีช น่าจะไม่เปลี่ยนแปลงทีมมากนัก แม้นัดล่าสุดจะบุกพ่าย แมนเชสเตอร์ ซิตี หมดรูป 1-4 ก็ตาม โดยที่เปลี่ยนแปลงน่าจะมีแค่ เจมส์ คอลลินส์ ที่จะกลับมาเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวจริงคู่กับ ริชาร์ด ดันน์ หลังจากเกมที่แล้วเป็น เคียแรน คลาร์ก ได้โอกาสลงเล่น ส่วนแบ๊ก 2 ข้างยังใช้ อลัน ฮัตตัน กับ สตีเฟน วอร์น็อค ขณะที่นายทวารเป็น เชย์ กิฟเวน ส่วนแดนกลางมี สติลิยัน เปตรอฟ กับ ฟาเบียน เดลฟ์ คุมเกมตรงกลาง ตัวรุกใช้ กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ กับ สตีเฟน ไอร์แลนด์ ส่วนคู่หัวหอกเป็น เอมิล เฮสกี กับ ดาร์เรน เบนท์
ด้าน เดอะ แบกกีส์ ทีมเยือน ซึ่งนัดล่าสุดฟอร์มดีเปิดบ้านเชือด วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-0 นั้น ไร้ปัญหานักเตะบาดเจ็บและติดโทษแบน ส่งผลให้ รอย ฮอดจ์สัน สามารถส่งนักเตะชุดใหญ่ลงบู๊ได้อย่างเต็มสูบ โดยนายทวารใช้ เบน ฟอสเตอร์ แผงหลัง 4 คนประกอบด้วย สตีเวน รีด, แกเร็ธ แม็คออลีย์, โจนาส โอลส์สัน และ บิลลี โจนส์ ส่วนแดนกลางใช้ คริส บรันท์, พอล ชาร์เนอร์, ยุสซุฟ มูลุมบู และ เจอโรม โธมัส ทำเกม ส่วนคู่หัวหอกเป็น ปีเตอร์ โอเดมวิงกี ยืนคู่กับ เชน ลอง
ความน่าจะเป็นของเกม : คู่นี้เป็นเกม มิดแลนด์ ดาร์บี้แมตช์ ทั้ง 2 ทีมย่อมใส่เต็มสูบ แม้ความดุเดือดอาจไม่เท่าคู่ของ วิลลาเบอร์มิงแฮม หรือ เวสต์บรอมวิชวูล์ฟแฮมป์ตัน ก็ตาม โดยเกมนี้ ดูแล้วเจ้าถิ่นน่าจะยังได้เปรียบเล็กน้อย แม้ฟอร์มหลังจะไม่ดีก็ตาม เนื่องจากมีเกมรุกที่ไว้ใจได้ และน่าจะเป็นฝ่ายเฉือนชนะเกม 3 แต้มไปได้ในที่สุด
ผลที่คาด : วิลล่า ชนะ 1-0 ..........................................................................................................
โบลตัน ซันเดอร์แลนด์
สนาม : รีบอค สเตเดี้ยม
เวลา : 21.00 น. ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 2
เดอะ ทรอตเตอร์ส โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส ซึ่งมี 6 คะแนนจาก 8 นัด รั้งอันดับ 18 ของตาราง จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของทีมในโซนท้ายตารางด้วยกันอย่าง แมวดำ ซันเดอร์แลนด์ ที่มี 6 แต้มจาก 8 นัดเท่ากัน แต่อยู่อันดับ 17 เนื่องจากมีลูกได้เสียที่ดีกว่า
ความพร้อมในเกมนี้ เดอะ ทรอตเตอร์ส ที่นัดที่แล้วเพิ่งเรียกฟอร์มเก่งกลับมาด้วยการบุกชนะ วีแกน 3-1 หลังจากแพ้รวดมา 6 นัดก่อนหน้านั้น จะยังคงไม่มี ลี ชุง ยอง, ไทโรน เมียร์ส และ สจวร์ต โฮลเดน ที่เจ็บยาว ขณะที่ ฌอน เดวิส และ ซามูเอล ริคเก็ตส์ ก็ยังไม่หายเจ็บเช่นกัน นอกนั้นพร้อมลงสนามทั้งหมด โดยคาดว่า โอเวน คอยล์ กุนซือของทีมน่าจะยึดนักเตะจากนัดที่แล้วเป็นหลัก โดย ยุสซี ยัสเคไลเนน จองตำแหน่งนายทวาร แดนหลังมี แกรี เคฮิลล์ ยืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ เดวิด วีเธอร์ ฟูลแบ๊ก 2 ข้างใช้ เดดริค โบยาตา กับ พอล โรบินสัน กองกลาง 4 คนประกอบด้วย ไนเจล ริโอ โคเกอร์, ดาร์เรน แพรตลีย์, มาร์ติน เปครอฟ และ คริส อีเกิลส์ ส่วนคู่หัวหอกใช้ อิวาน คลาสนิช ยืนคู่กับ เควิน เดวีส์
ส่วน แมวดำ ทีมเยือน กุนซือ สตีฟ บรูซ กำลังเก้าอี้ร้อนหลังทีมยังโชว์ฟอร์มลุ่ม ๆ ดอน ๆ นัดล่าสุดบุกไปพ่าย อาร์เซนอล 1-2 เกมนี้พวกเขาจะไม่มี เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ ที่เจ็บยาว รวมถึง เคร็ก กอร์ดอน ที่ยังไม่หายเจ็บเข่าขณะที่ ไตตัส บรัมเบิล ยังโดนแบนข้อหาพัวพันในคดีคุกคามทางเพศ แต่ข่าวดีคือจะได้ นิคลาส เบนท์เนอร์ กลับมาหลังจากเกมกับ อาร์เซนอล หมดสิทธิลงเจอต้นสังกัดเก่า นอกจากนี้ยังจะได้ ฟิล บาร์ดสลีย์ กลับมาหลังชดใช้โทษแบนครบ 4 นัดแล้ว โดยเกมนี้ นายทวารจะเป็น ซิมง มินโญเลต์ แผงหลังใช้ บาร์ดสลีย์ ยืนแบ๊กขวา ไมเคิล เทอร์เนอร์ กับ เวส บราวน์ เป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ส่วนแบ๊กซ้ายใช้ คีแรน ริชาร์ดสัน กองกลางประกอบด้วย เซบาสเตียน ลาร์สสัน, แจ๊ค คอลแบ๊ก, ลี แคตเทอร์โมล, อาห์เหม็ด เอลโมฮามาดี ขณะที่ สเตฟาน แซสเซอญง ยืนเป็นหน้าต่ำอยู่หลัง เบนท์เนอร์
ความน่าจะเป็นของเกม : เกมนี้ โบลตัน เจ้าถิ่นน่าจะกำลังคึกคัก หลังกลับมาชนะได้เสียทีในเกมที่แล้ว แถมเกมนี้ยังจะได้กลับมาเล่นในบ้านอีกด้วย ขณะที่ ซันเดอร์แลนด์ ยิ่งเล่นยิ่งถอยหลังลงคลอง ดูแล้วเกมนี้ โอกาสที่ลูกทีมของ สตีฟ บรูซ จะมือเปล่ากลับบ้านอีกนัดนั้นมีไม่น้อยเลยทีเดียว
ผลที่คาด : โบลตัน ชนะ 2-0 ..........................................................................................................
นิวคาสเซิล วีแกน
สนาม : เซนต์ เจมส์ ปาร์ค
เวลา : 21.00 น. ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1
สาลิกาดง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ซึ่งยังไม่แพ้ใครในฤดูกาลนี้ มี 16 คะแนนจาก 8 นัด รั้งที่ 4 ของตาราง จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ เดอะ ลาติกส์ วีแกน แอธเลติก ทีมรองบ๊วยที่มีแค่ 5 คะแนนจากการลงสนาม 8 นัดเท่ากัน
ความพร้อมของเกมคู่นี้ สาลิกาดง เจ้าถิ่น ที่นัดที่แล้วไล่ตีเสมอ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ 2-2 ในช่วงท้ายเกมนั้น จะยังคงไม่มี อลัน สมิธ และ ไมค์ วิลเลียมสัน ที่ยังไม่หายเจ็บ นอกนั้นพร้อมเป็นตัวเลือกให้ อลัน พาร์ดิว จัดลงสนามทั้งหมด โดยผู้รักษาประตูยังคงใช้ ทิม ครูล แผงหลังมี ฟาบริซิโอ โคลอชชินี กับ สตีเวน เทย์เลอร์ ประจำการในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ โดยมี แดนนี ซิมป์สัน กับ ไรอัน เทย์เลอร์ ยืนเป็นฟูลแบ๊ก 2 ข้าง ส่วนแผงมิดฟิลด์นั้น ประกอบด้วย กาเบรียล โอแบร์กต็อง, ชีค ติโอเต, โยฮัน กาบาย และ โฮนาส กูเตียร์เรซ ส่วนคู่หัวหอกน่าจะเป็น เดมบา บา คู่กับ ลีออน เบสต์ โดยมี โชลา อเมโอบี กับ ฮาเตม เบน อาร์กฟา เป็นตัวสอดแทรก
ด้าน เดอะ ลาติกส์ ทีมเยือน ซึ่งแพ้รวดมา 6 นัดในทุกรายการ โดยเกมล่าสุดพ่าย โบลตัน 1-3 ในเกมลีกคาถิ่นตัวเองนั้น ไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บรบกวน โดย ฮูโก โรดาเยกา ดาวยิงโคลอมเบีย น่าจะพร้อมกลับมาเป็นตัวจริง หลังหายเจ็บกลับมาเคาะสนิมด้วยการเป็นตัวสำรองในเกมที่แล้ว ส่งผลให้ โรแบร์โต มาร์ติเนซ มีทางเลือกในการจัดทัพได้อย่างเต็มที่ โดยเกมนี้ ผู้รักษาประตูจะยังคงเป็น อาลี อัล ฮับซี โกลโอมานเช่นเคย แผงหลังใช้ เอเมอร์สัน บอยซ์, อันโตลิน อัลคาราซ, แกรี คัลด์เวลล์ และ สตีฟ โกฮูรี ยืนเรียงจากขวาไปซ้าย แผงมิดฟิลด์ใช้ เบน วัตสัน, เดวิด โจนส์, โมฮัมเหม็ด ดิยาเม และ เจมส์ แม็คคาร์ธี ประจำการ ขณะที่คู่หัวหอกใช้บริการของ โรดาเยกา ยืนคู่กับ ฟรังโก ดิ ซานโต
ความน่าจะเป็นของเกม : สาลิกาดง กำลังทำผลงานได้ดี แถมเกมนี้ยังมีนักเตะในเกมรุกอย่าง เบน อาร์กฟา และ อเมโอบี พร้อมเป็นทางเลือกให้ พาร์ดิว เลือกใช้งานด้วย ขณะที่ เดอะ ลาติกส์ ทีมเยือน ฟอร์มหลังเน่าสุด ๆ ดูแล้วเกมนี้ไม่น่ารอด แม้จะได้หัวหอกตัวเก่งอย่าง โรดาเยกา กลับมาก็ตาม
ผลที่คาด : นิวคาสเซิล ชนะ 2-0 ..........................................................................................................
ลิเวอร์พูล นอริช ซิตี
สนาม : แอนฟิลด์
เวลา : 23.30 น. ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 3
หงส์แดง ลิเวอร์พูล ซึ่งมี 14 แต้มจาก 8 นัด รั้งอันดับ 5 ของตาราง จะเปิดรัง แอนฟิลด์ ทำศึกสัตว์ปีกกับ นกขมิ้นเหลืองอ่อน นอริช ซิตี ทีมน้องใหม่ที่ทำผลงานใช้ได้ รั้งอันดับ 9 ของตาราง มี 11 แต้มจาก 8 นัด
ความพร้อมของทั้ง 2 ทีมในเกมนี้ หงส์แดง ของกุนซือ เคนนี ดัลกลิช ซึ่งนัดล่าสุดเสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 ในเกม แดงเดือด นั้น มีสภาพทีมที่สมบูรณ์สุดขีด โดยมีแค่ เกล็น จอห์นสัน คนเดียวที่ยังไม่หายเจ็บ และแม้เมื่อกลางสัปดาห์จะมีเกมอุ่นเครื่องที่พวกเขาบุกไปแพ้ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส 0-1 แต่เรื่องความสดไม่ใช่ปัญหา เพราะเกมนั้น คิง เคนนี ใช้บรรดาดาวรุ่งและตัวสำรองลงสนามเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่บรรดาตัวหลักที่ได้พักก็จะกลับมาลงเล่นในเกมนี้กันพร้อมหน้า ผู้รักษาประตูยังเป็น โฆเซ เรนา แผงหลังใช้ เจมี คาร์ราเกอร์ ยืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ มาร์ติน สเคอร์เทล หรือ แดเนียล แอกเกอร์ คนใดคนหนึ่ง ส่วนแบ๊กขวาซ้ายใช้ มาร์ติน เคลลี กับ โฆเซ เอ็นริเก ขณะที่แดนกลางสตีเวน เจอร์ราร์ด น่าจะได้ยืนตรงกลางคู่กับ ชาร์ลี อดัม ในระบบ 4-4-2 โดยมี เดิร์ค เคาท์ กับ สจวร์ต ดาวนิง ขึ้นเกมริมเส้น ส่วนคู่หัวหอกเป็น แอนดี คาร์โรลล์ กับ หลุยส์ ซัวเรซ
ส่วน นกขมิ้นเหลืองอ่อน ทีมเยือน ซึ่งนัดล่าสุดฟอร์มดีเปิดบ้านอัด สวอนซี 3-1 จะยังหมดสิทธิใช้งาน 3 กองหลังอย่าง แซค วิธเบรด, ดาเนียล อยาลา และ เอเลียต วอร์ด รวมถึงกองหน้าอย่าง เจมส์ วอห์น ที่มีอาการบาดเจ็บ นอกนั้นพร้อมลงทำศึก โดยนายทวารจะเป็น จอห์น รัดดี แผงหลัง 4 คนประกอบด้วย ไคล์ นอห์ตัน, รัสเซลล์ มาร์ติน, ลีออน บาร์เน็ตต์ และ มาร์ก เทียร์นีย์ แดนกลาง 5 คนใช้ เอลเลียต เบนเน็ตต์ เดวิด ฟ็อกซ์, เวสลีย์ ฮูลาแฮน, แบรดลีย์ จอห์นสัน และ แอนโธนี พิลคิงตัน ประจำการ ขณะที่หัวหอกตัวเป้าใช้ สตีฟ มอร์ริสัน
ความน่าจะเป็นของเกม : เกมนี้ดูแล้ว หงส์แดง เหนือชั้นกว่าทีมเยือนในทุก ๆ เหลื่ยมมุม แม้ว่า นอริช จะทำผลงานได้ดีก็ตาม แต่เมื่อต้องบุกไปเยือนทีมใหญ่ ๆ ย่อมเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะมีแต้มติดมือกลับออกมา ดูแล้ว ลิเวอร์พูล น่าจะเก็บ 3 แต้มได้อย่างไม่ลำบากยากเย็นนัก
ผลที่คาด : ลิเวอร์พูล ชนะ 3-0 ..........................................................................................................
โหมโรงศึกดาร์บีแมตช์ชิงบัลลังก์จ่าฝูง
ว่ากันว่า แมนเชสเตอร์ ดาร์บีแมตช์ ครั้งที่ 161 ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี ซึ่งจะอุบัติขึ้นที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในวันอาทิตย์ที่ 23 ต.ค. นี้ ถือเป็นเกมที่มีความสำคัญที่สุดของศึกพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ฤดูกาล 2011-12 เปิดฉากฟาดแข้งกันมาเลยทีเดียว
เพราะนอกจากจะเป็นเกมดาร์บีแมตช์ของ 2 ทีมร่วมเมืองแมนเชสเตอร์ที่เกลียดกันเข้าไส้ชนิด ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ แล้ว เกมนี้ยิ่งทวีความสำคัญแบบยกกำลัง 2 เมื่อมันกลายเป็นการชิงบัลลังก์จ่าฝูง เนื่องจากทั้ง ผีแดง และ เรือใบสีฟ้า กลายเป็น 2 ทีมที่ยึดหัวหาดบนพื้นที่ 2 อันดับแรกของตารางอยู่ในเวลานี้
แน่นอนว่าทั้ง 2 ทีมย่อมต้องท่องคาถาเดียวกันว่าเกมนี้ แพ้ไม่ได้
จริงอยู่ว่าชัยชนะเกมนี้ ไม่ได้ถือเป็นการการันตีว่าตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้จะอยู่ในมือของทีมที่สมหวัง แต่ทว่ามันคงปฏิเสธไม่ได้ว่าผลการแข่งขันของเกมนัดนี้ น่าจะส่งผลกับการขับเคี่ยวแย่งแชมป์ของทั้ง 2 ทีม และอาจรวมไปถึง เชลซี อีกหนึ่งทีมที่มีลุ้นแชมป์ ซึ่งจะบุกไปเยือน ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ในวันเดียวกันด้วย
สถิติการพบกันของ 2 ทีมทั้ง 160 ครั้งที่ผ่านมานั้น บ่งบอกว่าเป็น ผีแดง ที่ทำได้ดีกว่า เมื่อเอาชนะได้ 67 ครั้ง ขณะที่ เรือใบสีฟ้า คว้าชัยได้ 43 ครั้ง ที่เหลือ 50 ครั้งลงเอยด้วยผลเสมอ
แต่ในเมื่อ แมนฯ ซิตี ในเวลานี้ยกระดับตัวเองขึ้นมาอยู่แนวหน้าของยุโรป ด้วยเม็ดเงินมหาศาลที่กลุ่มทุนจากตะวันออกกลางนำมาประเคนให้ เรื่องสถิติเก่า ๆ ที่บอกว่า ผีแดง เหนือกว่าคงนำมาเป็นบรรทัดฐานไม่ได้
พูดได้เต็มปากเลยว่า ขุมกำลังที่ เรือใบสีฟ้า มีอยู่ในเวลานี้ ไม่ได้เป็นรองทีมอริร่วมเมืองเลยแม้แต่น้อย หนำซ้ำจะดูดีกว่าในบางตำแหน่งด้วย
ด้วยความเป็นอริตัวฉกาจของกันและกัน และความสำคัญในฐานะศึกชิงบัลลังก์จ่าฝูง ทำให้เชื่อแน่ว่าศึก แมนเชสเตอร์ ดาร์บีแมตช์ ครั้งที่ 161 นี้ น่าจะเต็มไปด้วยความเข้มข้น ขณะที่การดวลกันในแต่ละพื้นที่ของสนามของนักเตะทั้ง 2 คงดุเดือดเลือดพล่านไม่แพ้สงครามย่อม ๆ
แค่นึกภาพ เวย์น รูนีย์ ดวลกับ แวงซ็องต์ กอมปานี, เซร์คิโอ กุน อเกวโร ปะทะกับ เนมานยา วิดิช หรือกระทั่งการดวลกึ๋นกันของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กับ โรแบร์โต มันชินี ก็ทำเอาคอลูกหนังน้อยใหญ่ซี้ดปากกันระงมด้วยความตื่นเต้นแล้ว...
ผยองเดช
ป.ล. แฟนกีฬาเดลินิวส์ ติดตามคอลัมน์ เจาะลึกก่อนลุย ฉบับวันพรุ่งนี้ได้เลยครับ รับรองว่าทีมงาน บอยส์ เน็กซ์ ดอร์ มีสภาพความพร้อมแบบละเอียดยิบพร้อมบทวิเคราะห์วิจารณ์แบบ จัดเต็ม มาฝากอย่างเต็มอิ่มแน่นอน
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=308&contentId=171264
จากคุณ |
:
เก็บคอ งอเข่า
|
เขียนเมื่อ |
:
22 ต.ค. 54 12:26:12
|
|
|
|
 |