 |
คอลัมน์ : แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ โดย.. โกลเด้นโจ
แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แมตช์ ศึกศักดิ์ศรี+เดิมพันจ่าฝูง
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อาจจะบอกว่าเกมระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล เป็นเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการฟุตบอลอังกฤษ แต่เมื่อพูดถึงตอนนี้แล้ว เกมดาร์บี้ แมตช์ เมืองแมนเชสเตอร์ ระหว่างยูไนเต็ดกับแมนฯ ซิตี้ ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม นี้ มีความหมายมากที่สุด เพราะนอกจากจะเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี ระหว่างสองทีมคู่ปรับร่วมเมืองแล้ว มันยังมีตำแหน่งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกเป็นเดิมพันอีกด้วย
''โกลเด้นโจ''
หากพูดถึงเกมดาร์บี้ แมตช์ในวงการลูกหนังอังกฤษ เชื่อว่าส่วนใหญ่ทุกคนจะนึกถึง ''เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์'' ระหว่างลิเวอร์พูลกับเอฟเวอร์ตัน หรือ ''ลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์'' ระหว่าง อาร์เซน่อล กับ สเปอร์ส อย่างไรก็ตาม สำหรับยุคนี้เกมที่มีความหมายมากที่สุดน่าจะเป็น ''แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แมตช์'' ระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กับ แมนฯ ซิตี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันอาทิตย์นี้ ''ผีแดง'' ทีมแชมป์เก่า ที่เป็นรองจ่าฝูง พรีเมียร์ โดยมี 20 คะแนน จาก 8 นัด หวังอย่างยิ่งที่จะเอาชนะคู่ปรับอย่าง ''เรือใบสีฟ้า'' ทีมนำจ่าฝูง ที่มี 22 คะแนน จาก 8 นัด พร้อมทวงบัลลังก์จ่าฝูงกลับคืนมาให้ได้
ในช่วงก่อนสงครามโลก ซิตี้คือสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในเมืองแมนเชสเตอร์ และเป็นแชมป์ของอังกฤษในยุค 1960 ถึง 1970 แต่หลังจากนั้นความยิ่งใหญ่ก็ย้ายมาอยู่ฝั่งยูไนเต็ดเพียงข้างเดียว ทำให้เกมดาร์บี้ แมตช์ไม่ได้มีความหมายอะไร เนื่องจากทั้งสองทีมห่างชั้นกันมาก โดย แอนดี้ โคล ที่เคยลงเล่นให้กับทีม ''ผีแดง'' (ปี 1995-2001) และ '' เรือใบ'' (ปี 2005-2006) นอกจากนั้น เดวานเต้ ลูกชายของเขายังลงเล่นในทีมสำรองของซิตี้กล่าวว่า ในยุคที่เขาเล่นอยู่นั้น ลิเวอร์พูลและอาร์เซน่อลคือคู่ปรับของทีมเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การเข้ามาเทกโอเวอร์สโมสรของ ชีค มันซูร์ บิน ซาเอ็ด อัล นาห์ยัน ทำให้ซิตี้หยุดสถิติอันเลวร้ายที่ไม่ได้แชมป์รายการใดๆ มา 35 ปีได้สำเร็จ หลังจากที่พวกเขาคว้าแชมป์เอฟเอ คัพมาครองเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แถมในรอบตัดเชือกยังเอาชนะคู่ปรับสำคัญอย่างยูไนเต็ดได้อีก
สำหรับเมื่อฤดูกาลที่แล้ว มีเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แมตช์ 3 นัด โดยนอกจากเอฟเอ คัพ รอบตัดเชือก ที่ซิตี้เป็นฝ่ายชนะไป 1-0 แล้ว ในพรีเมียร์ลีกทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0 ที่บ้านของทีม ''เรือใบสีฟ้า'' ก่อนที่ ''ผีแดง'' จะเป็นฝ่ายเฉือนชนะ 2-1 ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด โดย เวย์น รูนี่ย์ กระโดดตีลังกายิงเข้าไปอย่างสุดสวย และในฤดูกาลนี้ ทั้งสองทีมพบกันไปแล้ว 1 ครั้งที่เวมบลี่ย์ โดยยูไนเต็ดที่ตกเป็นรอง 0-2 แซงกลับมาชนะ 3-2 ในเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา
ดังนั้นแน่นอนว่าซิตี้ต้องการแสดงให้เห็นว่า ตอนนี้พวกเขาคือทีมระดับเดียวกับยูไนเต็ด ซึ่ง โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้จัดการทีม ''เรือใบสีฟ้า'' ก็เชื่อว่าทีมของเขาใกล้เต็มทีแล้ว ที่จะก้าวขึ้นมาเทียบชั้นกับยูไนเต็ด
''ตอนนี้คือช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมสำหรับพวกเรา เราเป็นจ่าเป็นจ่าฝูง แต่ที่โชคร้ายก็คือ มันยังเหลืออีกตั้ง 30 นัด กว่าจะจบฤดูกาล ผมไม่เคยคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ง่ายดายอยู่แล้ว แต่ในเมื่อคุณต้องการเป็นแชมป์ การเริ่มต้นได้ดีถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ และซีซั่นนี้เราก็เริ่มต้นได้สวยทีเดียว''
''ผมคิดว่าตอนนี้เราใกล้เคียงแล้ว (กับแมนฯ ยูไนเต็ด) แต่ที่แตกต่างกันแบบสุดๆ คือพวกเขาเคยคว้าแชมป์มาได้อย่างมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาคุ้นเคยกับความสำเร็จในลีก รวมถึงในแชมเปี้ยนส์ ลีก การดวลกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดถือเป็นเกมดาร์บี้ แมตช์ ซึ่งมันเป็นการที่แตกต่างออกไปสำหรับทุกคน ซึ่งเราก็รู้ว่ามันจะเป็นเกมที่ยากสุดๆ แน่นอน''
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ซิตี้ขึ้นมาอย่างรวดเร็วเช่นนี้คือเงินของเจ้าของทีมคนใหม่ โดยนับตั้งแต่ปี 2008 พวกเขาเป็นทีมที่จ่ายเงินซื้อนักเตะมาเสริมทัพมากที่สุด ไล่ตั้งแต่การซื้อโรบินโญ่กองหน้าชาวบราซิลของเรอัล มาดริดในราคา 32.5 ล้านปอนด์ หรือราว 1,625 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นสถิติสูงสุดของอังกฤษในสมัยนั้น และพวกเขาก็กว้านซื้อนักเตะอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งล่าสุดที่มีทั้ง คาร์ลอส เตเวซ, มาริโอ บาโลเตลลี่, ดาบิด ซิลบา, เอดิน เชโก้, ซามีร์ นาสรี่ และ เซร์คิโอ อเกวโร่
ทางด้าน แกเร็ธ แบร์รี่ มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษของซิตี้ เชื่อว่าการคว้าชัยชนะนัดแรกในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกของพวกเขา จะเป็นการกระตุ้นความเชื่อมั่นของทีม ทั้งในการแข่งขันรายการนี้ และการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการที่จะบุกไปเยือนยูไนเต็ดที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดอาทิตย์นี้
''เราจะเดินทางไปแข่งวันอาทิตย์นี้ด้วยความมั่นใจที่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดก็ไม่ใช่สนามที่คุณจะเดินทางไปเล่นอย่างผ่อนคลายได้ เราจำเป็นที่จะต้องเล่นให้ดีที่สุด หากหวังจะได้ผลลัพธ์อย่างที่เราต้องการกลับมา เราให้ความเคารพในฝีเท้าของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และหวังว่ามันจะเป็นเกมที่ยอดเยี่ยม''
ส่วน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ ''ปีศาจแดง'' ก็ประกาศว่าพวกเขาพร้อมแล้วสำหรับการรับมือ ''เรือใบสีฟ้า'' พร้อมทั้งชี้ว่าเกมดังกล่าวจะเป็นสุดยอดแมตช์ที่ทุกคนต่างเฝ้ารอชมอย่างแน่นอน โดยลูกทีมของ ''เฟอร์กี้'' เพิ่งจะเก็บชัยชนะนัดแรกใน แชมเปี้ยนส์ ลีกฤดูกาลนี้ หลังเอาชนะโอเตลุล กาลาติแชมป์ลีกโรมาเนีย 2-0
''ผมคิดว่าใน 2-3 ปีที่ผ่านมา พวกเขาเริ่มจะเอาจริงเอาจังมากขึ้นเรื่อยๆ และยกระดับตัวเองขึ้นมาเป็นทีมใหญ่ของลีกได้สำเร็จ ในวันอาทิตย์นี้ มันจะเป็นเกมระหว่างจ่าฝูงและรองจ่าฝูง และมันจะสร้างบรรยากาศอันสุดยอดสำหรับทุกคน และผมก็เฝ้ารอมันแล้ว''
ด้าน ไมเคิ่ล คาร์ริค มิดฟิลด์เชิงรับ ก็ตระหนักดีถึงความสำคัญของเกมดาร์บี้แมตช์แห่งเมืองแมนเชสเตอร์ และหวังว่าต้นสังกัดจะจบสัปดาห์ที่ยากลำบากนี้ด้วยผลการแข่งขันที่ดี
''มันเป็นเกมสำคัญ เห็นได้ชัดว่ามันเป็นสัปดาห์ที่ยากสำหรับเรา 2 เกมแรกผ่านไปได้อย่างไม่มีปัญหา เพราะฉะนั้นเราหวังว่าจะปิดท้ายมันได้อย่างยอดเยี่ยม''
สถิติพบกันของทั้งสองทีม
ซิตี้ ชนะ เสมอ ยูไนเต็ด ชนะ
-ฟุตบอลลีก 37 49 58
- เอฟเอ คัพ 3 0 5
- ลีก คัพ 3 1 2
- คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 0 0 2
รวม 43 50 67
ดาวซัลโวสูงสุดในแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แมตช์
1. โจ เฮย์ส (แมนฯ ซิตี้), ฟรานซิส ลี (แมนฯ ซิตี้) 10 ประตู
2. บ็อบบี้ ชาร์ลตัน (แมนฯ ยูไนเต็ด) 9 ประตู 3. โคลิน เบลล์ (แมนฯ ซิตี้), ไบรอัน คิดด์ (แมนฯ ซิตี้), เอริก คันโตน่า (แมนฯ ยูไนเต็ด ), โจ สเปนซ์ (แมนฯ ยูไนเต็ด) 8 ประตู
4. พอล สโคลส์ (แมนฯ ยูไนเต็ด), เดนนิส ไวโอเลต (แมนฯ ซิตี้) 7 ประตู
เปรียบเทียบผลงานของทั้งสองสโมสร
แมนฯ ยูไนเต็ด : แชมป์ลีก 19 สมัย, แชมป์ เอฟเอ คัพ 11 สมัย, แชมป์ ลีก คัพ 4 สมัย, แชมป์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 19 สมัย, แชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ 3 สมัย, แชมป์ ยูฟ่า คัพ - สมัย, แชมป์ คัพ วินเนอร์ส คัพ 1 สมัย, แชมป์ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย, แชมป์ อินเตอร์คอนติเนนตัล คัพ 1 สมัย, แชมป์สโมสรโลก 1 สมัย รวม 60 รายการ
แมนฯ ซิตี้ : แชมป์ลีก 2 สมัย, แชมป์ เอฟเอ คัพ 5 สมัย, แชมป์ ลีก คัพ 2 สมัย, แชมป์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 3 สมัย, แชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ - สมัย, แชมป์ ยูฟ่า คัพ - สมัย, แชมป์ คัพ วินเนอร์ คัพ 1 สมัย, แชมป์ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ - สมัย, แชมป์ อินเตอร์คอนติเนนตัล คัพ - สมัย, แชมป์สโมสรโลก - สมัย รวม 13 รายการ
เกร็ดที่น่าสนใจของแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แมตช์
นัดแรก : 12 พฤศจิกายน 1881
จำนวนที่พบกัน : 160 ครั้ง
ทีมที่ชนะมากที่สุด : แมนฯ ยูไนเต็ด 67 ครั้ง นักเตะที่ลงเล่นมากที่สุด : ไรอัน กิ๊กส์ 34 นัด ชนะด้วยสกอร์มากที่สุด : แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ แมนฯ ซิตี้ 1-6 (23 มกราคม ปี 1926), แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-5 (12 กุมภาพันธ์ 1955) และแมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ แมนฯ ซิตี้ 5-0 (10 พฤศจิกายน 1994)
http://www.siamsport.co.th/Column/111022_115.html
จากคุณ |
:
เก็บคอ งอเข่า
|
เขียนเมื่อ |
:
วันปิยมหาราช 54 11:37:32
|
|
|
|
 |