 |
คอลัมน์ อินไซต์ข่าวฮอต โดย แท ยอน หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ออนไลน์
วัดกึ๋น "สเปเชียลทู"
แม้ อาร์เซนอล จะออกสตาร์ตได้ไม่สวยนัก แต่เมื่อพวกเขาต้องยกพลไปทำ ศึก ดาร์บี้แมตช์แห่งกรุงลอนดอนกับอริร่วมเมืองอย่าง เชลซี ย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่า นี่คือเกมใหญ่ไซซ์บิ๊กของ พรีเมียร์ลีก เฉกเช่นเดียวกับเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในวันเสาร์ที่ 29 ต.ค.นี้
ส่วนเกมที่น่าสนใจไม่แพ้กันอีกนัดต้องจิ้มไปที่ กูดิสัน ปาร์ค ซึ่ง เอฟเวอร์ตัน จะเปิดบ้านต้อนรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า ที่กำลังมองหาชัยชนะมาแก้ช้ำในจากการถูก แมนเชสเตอร์ ซิตี บุกไปยำใหญ่ถึงบ้าน เมื่อสัปดาห์ก่อน
ถึงบรรทัดนี้เราไปเช็กสภาพความพร้อม และความน่าจะเป็นของเกมแต่ละคู่ในแต่ละสนามกันเลยดีกว่า...
แท ยอน
...............................................................................................................
ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เอฟเวอร์ตัน - แมนฯ ยูไนเต็ด
สนาม: กูดิสัน ปาร์ค เวลา: 18.00 น.
เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีม เอฟเวอร์ตัน ซึ่งเพิ่งพาทีมกลับมาชนะได้อีกครั้งในเกมบุกทุบ ฟูแลม 3-1 เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ก่อน จะหมดสิทธิใช้งาน จอห์น ไฮติงกา กองหลังเลือดดัตช์ ที่เจ็บเข่า และวิคเตอร์ อนิเชบี ที่เจ็บโคนขาหนีบ ส่วนแกนหลักคนอื่นไม่ว่าจะเป็น ทิม ฮาวเวิร์ด, ฟิล จากีลกา, มารูยาน เฟลไลนี, แจ็ค รอดเวลล์, ทิม เคฮิลล์ และหลุยส์ ซาฮา ยังฟิตเต็มถังกันทุกคน
โดยเกมนี้ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน จะลงสนามในระบบ 4-2-3-1 มี ทิม ฮาวเวิร์ด เฝ้าเสา แนวรับ 4 คนประกอบด้วย ฟิล เนวิลล์, ซิลแวง ดิสแตง, ฟิล จากีลกา และเลห์ตัน เบนส์ ส่วนแดนกลางมี มารูยาน เฟลไลนี กับ แจ็ครอดเวลล์ ยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ ขณะที่ ซีมัส โคลแมน, ทิม เคฮิลล์ และรอยส์ตัน เดรนเธ จะรับหน้าที่ปั้นเกมรุกอยู่ด้านหลัง หลุยส์ ซาฮา ที่ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า
ด้าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งเพิ่งโดน แมนฯ ซิตี อริร่วมเมือง บุกยัดเยียดความปราชัยนัดแรกของซีซั่นให้ถึงบ้านด้วยสกอร์มโหฬารเหลือเชื่อถึง 6-1 เมื่อสัปดาห์ก่อน จะหมดสิทธิใช้งาน ไรอัน กิกส์ ที่เจ็บเอ็นหลังเข่า และเฟเดริโก มาเคดา ที่เจ็บแขน รวมทั้งพวกที่เจ็บยาวอยู่ก่อนแล้วอย่าง ราฟาเอล ดา ซิลวา และดาร์รอน กิบสัน ด้วย
อย่างไรก็ตาม เฟอร์กี จะได้ ทอม เคลฟเวอร์ลีย์ ที่เจ็บไปนานกลับมาประจำการในแดนกลางอีกครั้ง หลังลงเคาะสนิมไปเรียบร้อยในเกม คาร์ลิง คัพ ช่วงกลางสัปดาห์ เช่นเดียวกับ จอนนี อีแวนส์ ที่ชดใช้โทษแบน 1 นัดไปเรียบร้อย
โดยเกมนี้ ผีแดง อาจจะเปลี่ยนผู้เล่นหลายตำแหน่งโดยเฉพาะในแนวรับที่ เนมานยา วิดิช น่าจะได้กลับมายืนเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวจริงคู่กับ ฟิล โจนส์ โดยมี คริส สมอลลิง เป็นแบ๊กขวา
สำหรับเกมนี้ เรด เดวิลส์ จะลงสนามในระบบ 4-4-2 มี ดาวิด เด เคอา เฝ้าเสา แนวรับประกอบด้วย คริส สมอลลิง, ฟิล โจนส์, เนมานยา วิดิช และปาทริซ เอวรา ส่วนแดนกลางมี หลุยส์ นานี, ทอม เคลฟเวอร์ลีย์, อันแดร์สัน และแอชลีย์ ยัง ขณะที่คู่หน้าเป็น เวย์น รูนีย์ กับ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ
ความน่าจะเป็นของเกม: เอฟเวอร์ตัน ฟอร์มยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ แถมแนวรุกก็ยังไม่ค่อยมีทีเด็ดอีกด้วย เกมนี้ต้องมาเจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่กำลังกระหายชัยชนะเต็มที่ หลังเพิ่งเสียฟอร์มโดน แมนฯ ซิตี บุกยำถึงบ้าน จึงทำให้เป็นงานหนักไม่น้อย และไม่น่าจะเอามวลเกมรุกก้อนใหญ่ที่ไหลทะลักมาอย่างต่อเนื่องของ ผีแดง อยู่แน่นอน
ผลที่คาด: แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 2-0
...............................................................................................................
เชลซี อาร์เซนอล
สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์
เวลา: 18.45 น. ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 1
อังเดร วิลลาส โบอาส ผู้จัดการทีม เชลซี จะยังหมดสิทธิใช้งาน รามิเรส มิดฟิลด์ทีมชาติบราซิล ที่เจ็บหัวเข่า รวมทั้ง เอ็นริเก ฮิลาริโอ มือกาวตัวสำรอง ที่เจ็บหลัง และมิชาเอล เอสเซียง ที่เข่าพังจนต้องพักยาว
นอกจากนี้ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ก็จะหมดสิทธิลงสนามเช่นกันเนื่องจากติดโทษแบนจากใบแดงที่ติดตัวมาจากเกมพ่าย ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ส่วน โชเซ โบซิงวา แบ๊กขวาทีมชาติโปรตุเกส พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมได้แล้ว เกมนี้เมื่อไม่มี ดร็อกบา จึงเป็นโอกาสที่ เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ทำผลงานได้ดีใน แชมเปี้ยนส์ ลีก จะได้กลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงในลีกอีกครั้ง หลังพ้นโทษแบนเรียบร้อย
โดย สิงห์สำอาง จะลงสนามในระบบ 4-3-3 มี ปีเตอร์ เช็ก เป็นนายทวาร แนวรับ 4 คนประกอบด้วย โชเซ โบซิงวา, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี และแอชลีย์ โคล ส่วนแดนกลางมี จอห์น โอบี มิเกล, ราอูล เมเรเลส และแฟรงค์ แลมพาร์ด ขณะที่ 3 แนวรุกเป็น ฆวน มาตา, เฟร์นานโด ตอร์เรส และแดเนียล สเตอร์ริดจ์
ด้าน อาร์เซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม อาร์เซนอล จะไม่มี โธมัส แฟร์มาเลน ที่เจ็บกล้ามเนื้อน่อง, คาร์ล เจนกินสัน ที่เจ็บเข่า, บาการี ซาญา ที่ขาหัก และแจ็ค วิลเชียร์ ที่เจ็บข้อเท้า ทำให้ต้องมีการปรับทีมพอสมควรโดยเฉพาะในแนวรับที่ โยฮัน ฌูรู จะต้องโยกออกไปเป็นแบ๊กขวาจำเป็น ส่วนแดนกลางเมื่อไม่มี วิลเชียร์ ก็เป็นหน้าที่ของ อารอน แรมซีย์ ที่จะคุมเกมร่วมกับ มิเกล อาร์เตตา และอเล็กซ์ ซง ต่อไป
โดยเกมนี้ ปืนใหญ่ จะลงสนามในระบบ 4-3-3 มี วอจเซียค เซตเซสนี เฝ้าเสา แนวรับ 4 คนประกอบด้วย โยฮัน ฌูรู, โลรองต์ กอสเซียลนี, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ และอังเดร ซานโตส ส่วนแดนกลางมี อารอน แรมซีย์, มิเกล อาร์เตตา และอเล็กซ์ ซง ขณะที่ 3 แนวรุกเป็น แชร์วินโญ, โรบิน ฟาน เพอร์ซี และธีโอ วัลคอตต์
ความน่าจะเป็นของเกม: อาร์เซนอล กลับมาเล่นดีอีกครั้ง และคว้าชัยในลีกมาแล้ว 2 นัดติด อย่างไรก็ตามด้วยสภาพทีมที่ไม่สมบูรณ์มากนักโดยเฉพาะในแดนหลัง และแดนกลางที่ดูจะเป็นรอง เชลซีอยู่พอสมควรทำให้เกมนี้อาจจะหนักเกินรับไหวสำหรับ ปืนใหญ่ ดูแล้วจึงมีโอกาสสูงเหลือเกินที่ 3 คะแนนจะอยู่ในมือของเจ้าบ้าน
ผลที่คาด: เชลซี ชนะ 3-1
...............................................................................................................
แมนฯ ซิตี วูล์ฟแฮมป์ตัน
สนาม: เอติฮัต สเตเดี้ยม
เวลา: 21.00 น. ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 1
โรแบร์โต มันชินี ผู้จัดการทีม แมนฯ ซิตี ได้รับคำชมค่อนข้างมาก หลังพา เรือใบสีฟ้า บุกไปทุบ แมนฯ ยูไนเต็ด ถึง โอลด์ แทรฟฟอร์ด 6-1 จนกลายเป็นเต็ง 1 ที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ไปครองแล้ว
โดยเกมนี้ มันโช มีทีมที่สมบูรณ์สุดขีดไม่มีคนไหนได้รับบาดเจ็บ หรือติดโทษแบนเว้นแต่ คาร์ลอส เตเบซ ที่ยังไม่ถูกเรียกกลับมาสู่ทีมชุดใหญ่นับตั้งแต่ไปก่อเรื่องก่อราวใน ศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นต้นมา
สำหรับเกมนี้ มันชินี น่าจะยังใช้ผู้เล่นชุดเดียวกับนัดที่บุกไปชนะ ผีแดง ลงสนามเป็นส่วนใหญ่ในระบบ 4-2-3-1 โดยมี โจ ฮาร์ท เฝ้าเสา แนวรับ 4 คนประกอบด้วย ไมกาห์ ริชาร์ดส์, แวงซองต์ ก็องปานี, โจลีออน เลสคอตต์ และกาแอล กลิชี ส่วนแดนกลางมี แกเร็ธ แบร์รี กับ ยายา ตูเร ยืนเป็นห้องเครื่อง ขณะที่ เจมส์ มิลเนอร์, เซร์คิโอ อเกวโร และดาวิด ซิลบา เดินเกมรุกอยู่ด้านหลัง มาริโอ บาโลเตลลี ที่ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า
ด้าน มิค แม็คคาร์ธี ผู้จัดการทีม วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส มีทีมที่ค่อนข้างสมบูรณ์ โดยขาดไปแค่ เควิน โฟลีย์ ที่เจ็บข้อเท้า และสตีเวน เฟล็ทเชอร์ ที่เจ็บกล้ามเนื้อน่องเพียง 2 คนเท่านั้น ขณะที่แกนหลักคนอื่นไล่ตั้งแต่ เวย์น เฮนเนสซีย์, คริสตอฟ แบร์รา, คาร์ล เฮนรี, แมตต์ จาร์วิส และเควิน ดอยล์ ยังฟิตพร้อมลงสนามกันทุกคน
โดย หมาป่า จะลงสนามในระบบ 4-4-2 มี เวย์น เฮนเนสซีย์ เป็นนายทวาร แนวรับประกอบด้วย สตีเฟน วอร์ด, คริสตอฟ แบร์รา, โรเจอร์ จอห์นสัน, คาร์ล เฮนรี และแมตต์ จาร์วิส ขณะที่คู่กองหน้าเป็น เควิน ดอยล์ กับ ซิลแวง อีแบงค์ส-เบลค
ความน่าจะเป็นของเกม: แมนฯ ซิตี ฟอร์มกำลังร้อนแรงสุดขีด และกำลังมั่นใจเต็มที่หลังกำราบคู่ปรับสำคัญอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด มาได้อย่างราบคาบ เกมนี้ได้เปิดบ้านรับมือ วูล์ฟส์ ที่เป็นรองทุกประตูไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลงาน หรือตัวผู้เล่น จึงน่าจะเก็บชัยชนะได้แน่อยู่ที่ว่าจะยิงขาดกี่เม็ดเท่านั้น
ผลที่คาด: แมนฯ ซิตี ชนะ 3-0
...............................................................................................................
นอริช - แบล็กเบิร์น
สนาม: แคร์โรว์ โรด
เวลา: 21.00 น. ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 6
พอล แลมเบิร์ต ผู้จัดการทีม นอริช ซิตี จะหมดสิทธิใช้งาน เจมส์ วอห์น, แซค ไวท์เบรด, ดาเนียล อยาลา และเอลเลียต วอร์ด ที่บาดเจ็บอยู่ทั้งหมด ส่วนแกนหลักรายอื่นไม่ว่าจะเป็น จอห์น รัดดี, ไคล์ นอห์ตัน, เดวิด ฟ็อกซ์, แอนโธนี พิลคิงตัน หรือ สตีฟ มอร์ริสัน ยังฟิตเต็มถังกันทุกคน
โดย นกขมิ้นเหลืองอ่อน จะลงสนามในระบบ 4-5-1 มี จอห์น รัดดี เป็นนายทวาร แนวรับ 4 คนประกอบด้วย ไคล์ นอห์ตัน, ลีออน บาร์เนตต์, รัสเซลล์ มาร์ติน และมาร์ค เธียร์นีย์ ส่วนแดนกลางมี เอลเลียต เบนเนตต์, เดวิด ฟ็อกซ์, เวสลีย์ ฮูลาแฮน, แบรดลีย์ จอห์นสัน และแอนโธนี พิลคิงตัน ขณะที่หัวหอกตัวเป้าเป็น สตีฟ มอริสัน
ด้าน สตีฟ คีน ผู้จัดการทีม แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส ที่กำลังกดดันหนัก หลังโดนแฟนบอลรวมตัวขับไล่มาพักใหญ่จากการพาทีมจมบ๊วยอยู่ในขณะนี้ มีทีมที่เกือบสมบูรณ์เต็มร้อย โดยขาดไปแค่ ไรอัน นีลเซน เซ็นเตอร์ฮาล์ฟจอมเก๋า ที่บาดเจ็บหัวเข่าเพียงคนเดียวเท่านั้น ส่วน สตีเวน เอ็นซองซี สามารถกลับมาช่วยทีมได้แล้ว หลังพ้นโทษแบนเรียบร้อย
โดยเกมนี้ กุหลาบไฟ จะลงสนามในระบบ 4-4-2 มี พอล โรบินสัน เป็นนายทวาร แนวรับ 4 คนประกอบด้วย เจสัน โลว์, คริสโตเฟอร์ แซมบา, กาแอล ชิเวต์ และมาร์ติน โอลส์สัน ส่วนแดนกลางมี ไซมอน วุคเซวิช, สตีเวน เอ็นซองซี, มอร์เตน กัมส์ท พีเดอร์เซน และเดวิด ฮอยเลตต์ ขณะที่คู่หน้าเป็น เจสัน โรเบิร์ตส์ กับ เมาโร ฟอร์มิกา
ความน่าจะเป็นของเกม: แม้จะเป็นเพียงน้องใหม่แต่ นอริช ก็โชว์ฟอร์มได้ไฉไลเป็นบ้า แถมนัดล่าสุดก็เพิ่มความมั่นใจด้วยการบุกไปยันเสมอ ลิเวอร์พูล ถึง แอนฟิลด์ มาได้อีกด้วย เกมนี้ได้มาเจอกับ แบล็กเบิร์น ที่สภาพจิตใจ และฟอร์มการเล่นกำลังย่ำแย่ในรังของตัวเองอย่างนี้จึงน่าจะมีลุ้นยาว ๆ ถึง 3 แต้มแน่นอน
ผลที่คาด: นอริช ชนะ 2-1
...............................................................................................................
ซันเดอร์แลนด์ - แอสตัน วิลลา
สนาม: สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์
เวลา: 21.00 น. ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 3
สตีฟ บรู๊ซ ผู้จัดการทีม ซันเดอร์แลนด์ ขาดเพียง 2 นักเตะที่เจ็บยาวอยู่แล้วก่อนหน้านี้อย่าง เคร็ก กอร์ดอน และเฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ ที่หัวเข่าชำรุดทั้งคู่ ส่วนแกนหลักที่เหลือยังฟิตเต็มถังกันทุกคนไม่ว่าจะเป็น ซิมง มิโญเลต์, จอห์น โอเช, เวส บราวน์, เซบาสเตียน ลาร์สสัน หรือ นิกคลาส เบนด์เนอร์
โดยเกมนี้ แมวดำ จะลงสนามในระบบ 4-4-2 มี ซิงมง มิโญเลต์ เฝ้าเสา แนวรับ 4 คนประกอบด้วย จอห์น โอเช, เวส บราวน์, ไมเคิล เทอร์เนอร์ และคีแรน ริชาร์ดสัน ส่วนแดนกลางมี สเตฟาน แซสเซญง, เดวิด วอห์น, แจ็ค คอลแบ็ค และเซบาสเตียน ลาร์สสัน ขณะที่คู่กองหน้าเป็น คอนเนอร์ วิคแฮม กับ นิกคลาส เบนด์เนอร์
ด้าน อเล็กซ์ แม็คลิช ผู้จัดการทีม แอสตัน วิลลา จะขาดเพียง เจอร์เมน จีนาส มิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติอังกฤษ ที่เจ็บเอ็นร้อยหวาย และคริส เฮิร์ด ที่ติดโทษแบนเท่านั้น ส่วนแกนหลักคนอื่นทั้ง สติลิยัน เปตรอฟ, กาเบรียล อักบอนลาฮอร์, ชาร์ลส์ เอ็นซอกเบีย และดาร์เรน เบนท์ ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ดีทุกคน
โดยเกมนี้ สิงห์ผงาด จะลงสนามในระบบ 4-2-3-1 มี เชย์ กิฟเวน เฝ้าเสา แนวรับ 4 คนประกอบด้วย อลัน ฮัตตัน, เจมส์ คอลลินส์, ริชาร์ด ดันน์ และสตีเฟน วอร์น็อค ส่วนแดนกลางมี ฟาเบียน เดลป์ กับ สติลิยัน เปตรอฟ ยืนเป็นห้องเครื่อง ขณะที่ ชาร์ลส์ เอ็นซอกเบีย, แบร์รี แบนแนน และกาเบรียล อักบอนลาฮอร์ จะเล่นเป็นตัวรุกอยู่ด้านหลัง ดาร์เรน เบนท์ ที่รับบทกองหน้าตัวเป้า
ความน่าจะเป็นของเกม: วิลลา แพ้ติดต่อกันมาแล้ว 2 นัดเกมนี้ได้กลับมาเล่นในบ้านตัวเองคงจะต้องเน้นเต็มที่อย่างแน่นอน โดยเป้าหมายของ อเล็กซ์ แม็คลิช และลูกทีมอยู่ที่ 3 แต้มสถานเดียว ซึ่งการได้คู่ต่อสู้เป็นทีมที่ฟอร์มไม่อยู่กับร่องกับรอยอย่าง ซันเดอร์แลนด์ ก็น่าจะทำให้พวกเขาทำผลงานได้ตามเป้า
ผลที่คาด: แอสตัน วิลลา ชนะ 2-1
...............................................................................................................
สวอนซี โบลตัน
สนาม: ลิเบอร์ตี สเตเดี้ยม
เวลา: 21.00 น. ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 2
เบรนแดน รอดเจอร์ส ผู้จัดการทีม สวอนซี มีปัญหาในการจัดทีมพอสมควร เมื่อจะไม่มี สตีเฟน ดอบบี, เคมี อกุสติน และอลัน เทต ที่อยู่ในบัญชีนักเตะบาดเจ็บทั้งหมด อย่างไรก็ตามในส่วนของแกนหลักคนอื่นไม่ว่าจะเป็น มิเชล วอร์ม, แอชลีย์ วิลเลียมส์, โจ อัลเลน และสกอตต์ ซินแคลร์ ยังฟิตเต็มถังกันทุกคน
โดย หงส์ขาว จะลงสนามในระบบ 4-5-1 มี มิเชล วอร์ม เป็นนายทวาร แผงแบ๊กโฟร์ประกอบด้วย อังเคล รันเกล, แกรี มังค์, แอชลีย์ วิลเลียมส์ และนีล เทย์เลอร์ ส่วนแดนกลางมี เนธาน ดายเออร์, ลีออน บริทตัน, โจ อัลเลน, มาร์ค โกเวอร์ และสกอตต์ ซินแคลร์ ขณะที่หน้าเป้าเป็น แดนนี เกรแฮม
ด้าน โอเวน คอยล์ ผู้จัดการทีม โบลตัน วันเดอเรอร์ส ที่แพ้มาแล้วถึง 7 จาก 9 นัด จะหมดสิทธิใช้งาน ไทรอน เมียร์ส, อี ชุง ยอง, สจ๊วร์ต โฮลเดน, ฌอน เดวิส, มาร์กอส อลอนโซ และแซม ริกเกตต์ส ที่มีปัญหาบาดเจ็บทั้งหมด ส่วนแกนหลักคนอื่นยังอยู่กันครบไม่ว่าจะเป็น แกรี เคฮิลล์, มาร์ติน เปตรอฟ หรือ เควิน เดวิส
โดย เดอะ ทรอตเตอร์ส จะลงสนามในระบบ 4-4-2 มี ยุสซี ยัสเคไลเนน เป็นนายทวาร แนวรับ 4 คนประกอบด้วย เดดริค โบยาตา, แกรี เคฮิลล์, เดวิด วีเธอร์ และพอล โรบินสัน ส่วนแดนกลางมี คริส อีเกิลส์, ไนเจล รีโอ-โคเกอร์, ดาร์เรน แพลตลีย์ และมาร์ติน เปตรอฟ ขณะที่คู่กองหน้าเป็น ดาวิด เอ็นกอก กับ เควิน เดวิส
ความน่าจะเป็นของเกม: สวอนซี เป็นทีมที่ทรงบอลสวย และมักจะเล่นได้ดีในบ้าน เกมนี้ได้มาเจอ โบลตัน ที่กำลังแกว่ง จึงน่าจะมีลุ้นยาว ๆถึง 3 คะแนน แต่หากกองหน้าไม่คมจบสกอร์ไม่ดีก็น่าจะมี 1 คะแนนติดมือเป็นอย่างน้อยที่สุด
ผลที่คาด: สวอนซี ชนะ 1-0
...............................................................................................................
วีแกน ฟูแลม
สนาม: ดีดับเบิลยู สเตเดี้ยม
เวลา: 21.00 น. ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 5
โรเบร์โต มาร์ติเนซ ผู้จัดการทีม วีแกน แอธเลติก จะหมดสิทธิใช้งาน เจมส์ แม็คคาร์ธี และฟรานโก ดิ ซานโต ที่มีปัญหาบาดเจ็บ ทำให้ อัลเบิร์ต ครูซาต จะได้ลงเล่นเป็น 3 แนวรุกร่วมกับ วิคเตอร์ โมเซส และฮูโก โรดาเยกา ต่อไปอีกนัด ส่วนแกนหลักคนอื่นไม่ว่าจะเป็น อาลี อัล ฮับซี, แกรี คัลด์เวลล์, มายนอร์ ฟิเกรัว หรือ เบน วัตสัน ยังฟิตสมบูรณ์ดีทุกคน
โดย เดอะ ลาติกส์ จะลงสนามในระบบ 4-3-3 มี อาลี อัล ฮับซี เฝ้าเสา แนวรับ 4 คนประกอบด้วย เอ็มเมอร์สัน บอยซ์, แกรี คัลด์เวลล์, อันโตลิน อัลคาราซ และมายนอร์ ฟิเกรัว ส่วนแดนกลาง 3 คนมี เดวิด โจนส์, เบน วัตสัน และโมฮาเหม็ด ดิยาเม ขณะที่ 3 แนวรุกเป็น อัลเบิร์ต ครูซาต, วิคเตอร์ โมเซส และฮูโก โรดาเยกา
ด้าน มาร์ติน โยล ผู้จัดการทีม ฟูแลม จะหมดสิทธิใช้งาน ไบรอัน รุซ ที่เจ็บเข่า, ฟิลิปป์ เซนเดรอส ที่เจ็บกล้ามเนื้อต้นขา, ออร์แลนโด ซา ที่เจ็บเอ็นร้อยหวาย และไซมอน เดวิส ที่เจ็บเข่า ทำให้ บ็อบบี ซาโมรา จะได้จับคู่ล่าตาข่ายกับ แอนดี จอห์นสัน ต่อไปอีกนัด ขณะที่แกนหลักคนอื่นยังอยู่กันครบไม่ว่าจะเป็น สตีฟ ซิดเวลล์, แดนนี เมอร์ฟี หรือ คลินท์ เดมป์ซีย์
โดย เจ้าสัวน้อย จะลงสนามในระบบ 4-4-2 มี มาร์ค ชวาร์เซอร์ เป็นนายทวาร แนวรับ 4 คนประกอบด้วย ซเดเน็ค กรีเกรา, คริส แบร์ด, เบรเด ฮันเกลันด์ และยอห์น อาร์เน รีเซ ส่วนแดนกลางมี มุสซา เดมเบเล, สตีฟ ซิดเวลล์, แดนนี เมอร์ฟี และคลินท์ เดมป์ซีย์ ขณะที่คู่กองหน้าเป็น บ็อบบี ซาโมรา กับ แอนดี จอห์นสัน
ความน่าจะเป็นของเกม: เป็นบอลเกรดเดียวกัน และฟอร์มการเล่นก็ใกล้เคียงกัน โดย วีแกน แพ้ในลีกติดต่อกันมาแล้ว 6 นัด ขณะที่ ฟูแลม ก็แพ้มาแล้ว 2 นัดรวด เกมนี้ถึงแม้จะเล่นในบ้านของ วีแกน แต่ก็ใช่ว่า จะได้เปรียบ ฟูแลม มากนักดูแล้วเกมน่าจะออกมาคู่คี่สูสี และลงเอยด้วยการแบ่งแต้มกันในที่สุด
ผลที่คาด: เสมอ 1-1
...............................................................................................................
เวสต์บรอมวิช ลิเวอร์พูล
สนาม: เดอะ ฮอว์ธอร์นส์
เวลา: 23.30 น. ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 3
รอย ฮอดจ์สัน ผู้จัดการทีม เวสต์บรอมวิช อัลเบียน จะนำ เดอะ แบ๊กกีส์ กลับมาฟาดฟันกับทีมเก่า โดยไม่มี เชน ลอง ดาวยิงทีมชาติสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ที่โชคร้ายบาดเจ็บหัวเข่าจนต้องพักยาวถึง 6 สัปดาห์ ทำให้ โซเมน ชอยยี จะต้องลงมาล่าตาข่ายคู่กับ ปีเตอร์ โอเดมวิงกี แทน ขณะที่แกนหลักรายอื่นไม่ว่าจะเป็น เบน ฟอสเตอร์, โจนาส โอลส์สัน หรือ พอล ชาร์เนอร์ ยังฟิตสมบูรณ์ดีทุกคน
โดย เวสต์บรอมวิช จะลงสนามในระบบ 4-4-2 มี เบน ฟอสเตอร์ เฝ้าเสา แนวรับ 4 คนประกอบด้วย สตีเวน รีด, แกเร็ธ แม็คออลีย์, โจนาส โอลส์สัน และบิลลี โจนส์ ส่วนแดนกลางมี คริส บรันท์, พอล ชาร์เนอร์, ยุสซูฟ มูลัมบู และเจอโรม โธมัส ขณะที่คู่หัวหอกเป็น โซเมน ชอยยี กับ ปีเตอร์ โอเดมวิงกี
ด้าน เคนนี ดัลกลิช ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล มีทีมที่สมบูรณ์เต็มที่ และน่าจะปรับทีมจากชุดที่ลงเล่นในเกม คาร์ลิง คัพ กับ สโตค ซิตี เมื่อช่วงกลางสัปดาห์เล็กน้อย โดยเฉพาะในแนวรับที่ มาร์ติน สเคอร์เทล น่าจะได้กลับมายืนเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวจริงคู่กับ เจมี คาร์ราเกอร์ แทน เซบาสเตียน โคอาเตส ขณะที่ เกล็น จอห์นสัน, โฆเซ เอ็นริเก, ชาร์ลี อดัม, สตีเวน เจอร์ราร์ด และสจ๊วร์ต ดาวนิง ที่ได้พักก็น่าจะได้กลับมาออกสตาร์ตอีกครั้งเช่นกัน
หงส์แดง จะจัดทัพลงสนามในระบบ 4-4-2 มี เปเป เรนา เฝ้าเสา แนวรับ 4 คนประกอบด้วย เกล็น จอห์นสัน, เจมี คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล และโฆเซ เอ็นริเก ส่วนแดนกลางมี เดิร์ก เคาต์, ชาร์ลี อดัม, สตีเวน เจอร์ราร์ด และสจ๊วร์ต ดาวนิง ขณะที่คู่กองหน้าเป็น หลุยส์ ซัวเรซ กับ แอนดี แคร์โรลล์
ความน่าจะเป็นของเกม: เวสต์บรอมวิช กำลังมั่นใจ หลังคว้าชัยมา 2 นัดติด แถมยังเป็นชัยชนะในดาร์บี้แมตช์ทั้ง 2 ด้วย เกมนี้ได้เฝ้าบ้านพบ ลิเวอร์พูล ที่เริ่มฝืดเสมอติดต่อกันมา 2 นัด จึงน่าจะสู้ได้อย่างสนุกสูสี และน่าจะมีอย่างน้อย 1 แต้มกลับออกมาจากสนาม
ผลที่คาด: เสมอ 1-1.
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=308&contentId=172683
จากคุณ |
:
เก็บคอ งอเข่า
|
เขียนเมื่อ |
:
29 ต.ค. 54 17:46:44
|
|
|
|
 |