 |
เรื่อง: บทความฟุตบอล : วิปโยค "แมนเชสเตอร์" แหล่งกำเนิดผู้
ผ่านไปได้ร่วมสัปดาห์แล้วสำหรับสุดยอดเกมแห่งความทรงจำของใครหลายๆ คน ( โดยเฉพาะสาวก "หงส์แดง" ) ความทึ่ง !! ความอึ้ง !! บวกความสะใจ !! ที่อริทั้งหลาย ทั้งร่วมเมือง นอกเมือง หรือแม้แต่นอกประเทศ ถาโถมความ "สมน้ำหน้า" เข้ามาใส่อย่างไม่ขาดสาย เป็นแมตท์ที่สร้างความตระหนักให้กับผู้พ่ายแพ้วันนั้นว่า "ผู้ชนะในวันนี้พวกเขาพร้อมจะท้าชิงตำแหน่งแชมป์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว"
ไม่มีอะไรให้ต้องสาธยายต่อในเกมวันนั้น แม้จะมีบางเสียงอิดออดออกมาว่า จุดเปลี่ยนสำคัญคือการโดนใบแดงของเด็กน้อยผู้มีนามว่า "จอห์นนี่ อีแวนส์" แต่หากนาทีนั้นมนุษย์นามนั้นไม่ถูกตัดสินให้ต้องพ้นจากสนาม มันก็ไม่มีอะไรการันตีว่าพวกเขาจะไม่ "เละเป็นโจ๊ก" เฉกเช่นในวันนั้น (ว่าจะไม่สาธยายต่อ แล้วเมิงจะพล่ามหาพระแสงอะไรเนี่ย 55+) สรุปแล้วคือสกอร์วันนั้นออกมา 1-6 คือจบเกม 90 นาที ไม่มีข้อโต้แย้ง, ไม่มีข้อติเตียน และไม่มีคำแก้ตัว เพราะ ณ วันนี้สาวกทุกท่านที่ขนานนามตัวเองว่าเป็น ปีศาจแดง ต้องก้มหน้ายอมรับที่ยังต้องตามหลังศัตรูลำดับต้นๆ ในลิสต์อันโรคจิตของพวกเขา
เอ่อ.. เอ่อ.. ณ วันนี้ผ่านไปแล้ว 10 นัด ผลงาน ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 ฟอร์มก็ยังดูไม่น่าเกลียดมากนัก แต่ที่ถือว่ามันทิ่มแทงหัวใจเหล่าสาวก เร้ด อาร์มี่ ทั้งหลายก็คือ 5 แต้มแล้วครับ ที่ต้องตามหลังจ่าฝูงที่มีนามว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จริงอยู่มันอาจเป็นแค่เพียงการเริ่มต้น จริงครับมันแค่ผ่านไป 1 ใน 3 ของเกมลีกเท่านั้น แต่มันก็จริงอีกล่ะครับที่มันนานแค่ไหนแล้วที่พวกเขาต้องเป็นผู้ตามและต้องกลายเป็นผู้ไล่ล่าอย่างเช่นวันนี้ แถมความมันส์ ความเร้าใจ มันก็อยู่ตรงที่อีกฝั่งคือ อริหมายเลข 1 หรือ 2 ของพวกเขาเลยทีเดียว ครั้นจะรอฝั่ง หงส์แดง กลับมาทวงความยิ่งใหญ่กับพวกเขา ป๋าเฟอร์ ของเราอาจต้องยอมวางมือไปก่อนก็เป็นได้
จึงไม่ต้องสงสัยเลยครับว่า วันนี้, ชั่วโมงนี้, นาทีนี้ บุคคลซึ่งกุมอำนาจในการจัดทัพ อสูร แต่เพียงผู้เดียวอย่างเขาจะรู้สึกอย่างไร เมื่อ 2-3 ปีก่อนอาจมีแว่วๆ เข้ามาบ้างว่า "เฮ้ย..เดี๋ยวป๋าเขาก็ไปแล้ว ??" แต่หากไปลองถาม ป๋าดีกรี โรคจิตขั้นเทพ ตอนนี้ดูสิครับว่า ความคิดอย่างตอนนั้นมันยังหลงเหลืออยู่อีกไหม ไม่ต้องบอกก็รู้ครับว่าตอนนี้แกคนนั้นคงรู้สึก ครุกรุ่นในใจเต็มที่ เลือดในตัวมันสูบฉีดเดือดพล่านๆ รอยเหี่ยวย่นตามใบหน้ามันขยับๆ ไปมาพร้อมกับสายตาอันมุ่งมั่น ชนะได้-แต่หยามกรุไม่ได้ 6 ประตูในเกมวันนั้นคงถูกบันทึกไว้โดย ป๋าโรคจิต ไว้แล้วว่ามีโอกาสเมื่อไหร่ กรุ !! เอาคืน + ดอกเบี้ยแน่นอน ใครเคยติดตามอาการโรคจิตของกุนซือผู้นี้มายาวนานคงรู้ดี 3 แชมป์เมื่อปี 1999 ได้มาเพราะอะไร หากไม่ใช่แรงกระตุ้นจากกุนซือผู้นี้ถูกถ่ายทอดลงไปยังนักเตะให้สู้สุดใจขาดดิ้นจนได้เป้าหมายตรงนั้นมา
แชมป์พรีเมียร์ลีก อาจพอจะสลับให้ทีมอย่าง เชลซี หรืออาร์เซนอล ขึ้นมาสลับอวดโฉมกันได้เป็นบางคราว แต่หากเป็นทีมที่มีอดีตอย่าง เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือแม้กระทั่ง หงส์แดง ลิเวอร์พูล อย่าหวังเลยครับว่าจะมาเหยียบหน้า ป๋า คนนี้แล้วขึ้นไปเอาแชมป์มาได้ง่ายๆ ดูได้จาก 2 เกมถัดมาหลังจากโดนไปครึ่งโหล ป๋า พร้อมกับ ลูกสมุนป๋า ทั้งชุด ไอติม และชุด ผัดเผ็ดทรงเครื่องปลาดุก ล้วนแต่ยังกลับมาเก็บชัยได้ทั้งสิ้น มันจะมีสักกี่ทีมครับในโลกนี้ครับ ที่กล้าแพ้เละเทะคาบ้านตัวเองต่อหน้าแฟนบอลเหยียบแปดหมื่นชีวิต ซะบานเบอะขนาดนั้น แต่พอใน 2 นัดต่อมาก็ยังเล่นไปตามฟอร์มของตัวเองเช่นเดิม โดยไม่สูญเสียความมั่นใจไปแม้แต่น้อย
จนมาถึงทุกวันนี้ โรแบร์โต้ มันชินี่ อาจคงกำลังขบคิดอยู่ก็ได้ว่า ทีมตัวเองทำถูกต้องหรือเปล่าที่ไปยัดเยียดความอัปยศอดสูให้กับเหล่า อสูร อย่างเละเทะในวันนั้น บางทีการบุกเอาแค่หนึ่งแต้มที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มันอาจจะยังดีซะกว่าสิ่งที่เป็นไปอย่างวันนี้ เพราะเวลานี้เราเริ่มได้กลิ่นของผู้หิวกระหายในชัยชนะ ในแบบฉบับของ ผู้ไล่ล่า อย่างแท้จริง ซึ่งถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาด้วยจิตวิญญาณของความพ่ายแพ้ในวันนั้น ให้กลับมาเป็น ปีศาจ เต็มตัว และพร้อมจะไล่ล่าทุกสิ่งที่ขวางหน้า โดยเฉพาะ ใคร ที่เคยทำให้อับอาย รอดูให้ดี...
โดยนายบ้าบอล - gubaaball.com
จากคุณ |
:
ทุ่งเกวียน
|
เขียนเมื่อ |
:
4 พ.ย. 54 18:17:38
|
|
|
|
 |