 |
ผีโลงแตก ดาร์บี้แมตช์อัปยศ
หลังจบเกมแมนเชสเตอร์ดาร์บี้แมตช์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เหล่าสาวกเด็กผี คงไม่อยากจดจำอะไร เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมันช่างเป็นวันอันน่าอัปยศอดสูเสียเหลือเกิน แค่ความพ่ายแพ้คาถ่ิน โอลด์แทรฟฟอร์ด ต่อคู่ปรับร่วมเมือง ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าอับอายพอแล้ว แต่ครั้งนี้กองทัพผี กลับเล่นเหมือนกับทีมระดับ อบต. ถูกแมนฯ ซิตี้ สอนเชิงซะยับเยิน 1-6
จะอ้างว่าเหลือผู้เล่น 10 คน เพราะน้องโฉ่งฉ่าง จอนนี อีแวนส์ โดนไล่ออกไปช่วงต้นครึ่งหลัง ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่หากเราดูฟอร์มการเล่นของแมนฯ ยู ตั้งแต่เริ่มต้น จะเห็นเลยว่า "เป็นรอง" ทัพนักเตะเรือใบอย่างเห็นได้ชัด ในช่วงครึ่งแรก โดยเฉพาะแนวรับ 4 ตัวของยูไนเต็ด ทั้งริโอ เฟอร์ดินานด์, อีแวนส์, เอวรา และ สมอลลิง ต่างเล่นผิดพลาด และโดนทีมเยือนปั่นป่วนจนหัวหมุนไปหมด
จึงไม่แปลกใจที่สกอร์ที่ออกมาถึงได้ขาดลอยขนาดนี้ เพราะอย่างที่เรารู้ กองหลังแมนฯ ยู เริ่มแสดง "ความอ่อน" ให้เห็นต่อเนื่อง เจ้าปากเป็ด ริโอ อดีตยอดกองหลังพันล้าน ปัจจุบัน กลายเป็นน้าเฉื่อย เชื่องช้า, อีแวนส์ ไอ้หนูบ่อน้ำมันไอริช, เอวรา ข้าขึ้นไม่มีลง และ สมอลลิง ถูกจับมาเล่นแบ็กขวาจำเป็น ทั้งๆ ที่ตำแหน่งถนัดจริงๆ คือ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ
ส่วน ฟิล โจนส์ นักเตะที่ทำผลงานได้ดีทั้งรับและรุก กลับได้ออกสตาร์ทแค่ตัวสำรอง ขณะที่ เนมันยา วีดิช อีกหนึ่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ จอมแกร่งของทีมก็ไม่มีชื่อเกมนี้ เพราะเพิ่งหายเจ็บกลับมา และนั่นก็เป็นสาเหตุว่า ทำไม "หายนะโรงละครแห่งความฝัน (ร้าย)" จึงบังเกิดขึ้นชนิดที่แฟนเรือใบเองก็แทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองเช่นกันว่า ทีมของพวกเขาจะอุกอาจบุกมาขย้ำ ขยี้ บี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก 19 สมัย เละเทะ คารัง
ทั้ง 6 ประตูของ ซิตี้ ส่วนใหญ่ล้วนแล้วมาจากการทำชิ่งประสานงานกันอย่างแม่นย่ำ และขึ้นเกมทางริมเส้น โดยใช้ความเร็วของผู้เล่น (ที่เหนือกว่าแมนฯ ยู อย่างเห็นได้ชัด) วิ่งโฉบมารับบอล ก่อนปาดเข้ามายังจุดนัดพบ และแนวรุกของ ซิตี้ ก็มาตามนัดตลอด เมื่อกับบอลซ้อมมาไม่มีผิดเพี้ยน และแต่ละคน ใช้โอกาสไม่เปลือง ฟอร์มเข้าฝักคมกริบกันถ้วนหน้าทั้ง บาโลเตลลี, อเกวโร และเซโก้
สิ่งที่ดูแตกต่างระหว่างทั้งสองทีมอีกอย่างคือ แมนฯ ยู เล่นบอลสุดไร้จินตนาการ ผิดกับ ซิตี้ ที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น นอกจากนี้ แดนกลางอย่าง นานี, อันเดอร์สัน, เฟลตเชอร์, แอชลีย์ ยัง ก็ไม่สามารถสร้างสรรค์ปั้นเกมรุกให้กับทีมได้เลย ทำให้ไม่ต้องไปพูดถึง เวย์น รูนีย์ กับ แดนนี เวลเบค 2 กองหน้าแมนฯ ยู ที่ยืนทื่อซื่อบื้อไม่ต่างอะไรกับ "สากกะเบือ" เพราะโดนแนวรับของซิตี้ อย่าง เลสคอตต์, ก็องปานี, กลิชี และ ริชาร์ดส์ รับมือซะอยู่หมัด
พอสิ้นเสียงนกหวีด ไม่รู้ว่าจะเสียใจ หรือสมน้ำหน้า ทีมรักดี เพราะเล่นได้ "ห่วยบรม" แบบนี้ ก็คงไม่ต้องไปโทษใครแล้ว และยอมรับตามตรงลูกยิงตีไข่แตกของ เฟลตเชอร์ "มันฟลุก" ชัดๆ หากฟอร์มยังไม่ "เอาอ่าว" เช่นนี้่ต่อไป รับรองอีกหน่อยคงถูก แมนฯ ซิตี้ โกยแต้มห่างไปกว่าเดิม และมันย่อมส่งผลกระทบความความมั่นใจในอนาคตด้วย
สิ่งที่ ท่านเซอร์ จะต้องจัดหนักอย่างด่วนคือ "กองหลัง" ที่โชว์ฟอร์มน่าผิดหวังแบบนี้ มาหลายนัดแล้ว "เนื้อไหนร้าย" ก็ต้องตัดทิ้ง ไม่ต้องตะบี้ตะบันดันปลุกปั้นให้มันเมื่อยตุ้ม เพราะมันจะมีแต่เสียกับเสีย ส่วนแดนกลาง คงต้องมีการเสริมผู้เล่น "เวิลด์คลาส" สักคนได้แล้ว มัวแต่ปล่อยให้เด็กเล่นขายของ ลองผิด ลองถูก มีหวังไม่ทันกิน ส่วนกองหน้า ก็ไม่อยากให้ฝากความหวังที่ "รูนีย์" จนเกินไป
อย่างไรก็ตาม ในฐานะแฟนผีคนหนึ่งก็หวังว่า ความปราชัยแบบสุดอนาถ คาโลง ครั้งนี้ จะปลุกให้ ท่านเซอร์ และบรรดาแข้ง เรดเดวิลส์ ตื่นจากภวังค์เสียที และกลับมาพยายามมุ่งมั่น เค้นฟอร์มเก่งของตัวเองให้เร็วที่สุด ก่อนที่อะไรๆ จะสายเกินแก้...
4fanmeeting@trendvg3.com
http://www.thairath.co.th/column/sport/4fanmeeting/211570
จากคุณ |
:
ทุ่งเกวียน
|
เขียนเมื่อ |
:
5 พ.ย. 54 18:37:25
|
|
|
|
 |