ความคิดเห็นที่ 1 ฤดูกาล 1999-2000 ช่วงครึ่งฤดูกาลแรก "นากาตะ" ยังคงลงเล่นให้กับเปรูจาจนถึงเดือนมกราคมปี 2000 นากาตะ ลงเล่นไป 15 นัด ทำไป 3 ประตู มกราคม 2000 นากาตะย้ายไปโรม่าด้วยค่าตัว 24 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งในสัญญาระบุว่า "นากาตะ" ต้องลงเป็นตัวจริง ที่โรม่าฤดูกาล 1999-2000 นากาตะต้องเป็นกองกลางตัวเชื่อมเกมในแดนกลาง เพราะมีตอดติขว้างทางอยู่ นากาตะ ลงเล่นไป 15 นัด ทำไป 3 ประตู ปล. ระหว่างนี้โรม่าจัดแพ็คเกจทัวร์ให้ชาวญี่ปุ่นเข้าชมการฝึกซ้อมของนากาตะ ฤดูกาล 1999-2000 ลงเล่นในเซเรีย อา ทั้งหมด 30 นัด ทำไป 5 ประตู ฤดูกาล 2000-2001 คาเปลโล่ ให้นากาตะเป็นกองกลางตัวรุกสำรองของตอดติ  จึงทำให้มีโอกาสลงเล่นน้อย แต่เขาก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้โรม่าคว้าแชมป์ลีกได้ นากาตะ ลงเล่นไป 15 นัด ทำไป 2 ประตู จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 00:03:15

ความคิดเห็นที่ 2 ฤดูกาล 2001-2002 นากาตะได้ย้ายไปปาร์ม่า เนื่องจากต้องการเป็นตัวจริง โดยเขาต้องแย่งตำแหน่งกับโยฮัน มิกูด์ ยอดกองกลางตัวรุกทีพาเบรเมนคว้าแชมป์บุนเดสลีกา ที่ปาร์ม่านากาตะได้พาทีมปาร์ม่าคว้าแชมป์โคปปา อิตาเลีย เหนือยูเวนตุส โดยยิงประตู "อเวย์ โกล์" ในนัดแรกที่แพ้ยูเวนตุส 2-1 ในการไปเยือน ก่อนที่ปาร์ม่าจะชนะ 1-0 ในบ้าน นากาตะ ลงเล่น 24 นัด ทำไป 1 ประตู ฤดูกาล 2002-2003 เมื่อโยฮัน มิกูด์ ย้ายไปเบรเมน นากาตะจึงได้ยึดตำแหน่งกองกลางตัวรุกอย่างถาวรในฤดูกาลนี้ นากาตะ ลงเล่น 31 นัด ทำไป 4 ประตู และจ่ายให้เพื่อนทำประตูไปอีก 4 ครั้ง ฤดูกาล 2003- มกราคม 2004 การย้ายเข้ามาของ "เบนิโต้ คาร์บอเน่" กับ "โดเมนิโก้ มอร์เฟโอ้" ทำให้นากาตะตกเป็นตัวสำรอง   นากาตะ ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแค่ 6 นัด จาก 12 นัดที่ได้ลงเล่นในครึ่งฤดูกาลแรก สุดท้ายเขาต้องย้ายไปโบโลญญ่า จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 00:19:01

ความคิดเห็นที่ 3 มกราคม 2004 - มิถุนายน 2004 นากาตะ ได้ลงเล่นเป็นกองกลางตัวรุกพาทีมโบโลญญ่าหนีการตกชั้นได้สำเร็จ นากาตะ ลงเล่นไป 17 นัด ยิงไป 2 ประตู จ่ายให้เพื่อนทำประตูอีก 4 ครั้ง จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 00:24:48

ความคิดเห็นที่ 4 ฤดูกาล 2004-2005 ปีสุดท้ายในอิตาลี นากาตะย้ายทีมอีกครั้งโดยไปอยู่กับ ฟิออเรนติน่า   ที่นี้เขาตองตกเป็นตัวสำรองของ "มาร์ติน ยอร์เก็นเซ่น" จอมทัพทีมชาติเดนมาร์ก กับ "เอ็นโซ่ มาเรสก้า" เจ้าของฉายา นิวซีดาน (ตอนอยู่ยูเวนตุส) นากาตะได้ลงเล่นแค่ 20 นัด จาก 38 นัด โดยเป็นตัวจริง 14 นัด เขาจ่ายให้เพื่อนทำประตู 2 ครั้ง หลังจบฤดูกาลนี้เขาก็ย้ายไปโบลตันในอังกฤษ ซึ่งก็เป็นตัวสำรองอีก ฤดูกาล 2005-2006 ลงเล่น 21 นัด ทำไป 1 ประตู สุดท้ายเขาก็เกิดอาการเบื่อฟุตบอลและเลิกเล่นในวัย 29 ปี จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 00:33:43

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณครับ ช่วงนั้นผมอยู่ญีปุ่นพอดี ใครบอกญี่ปุ่นไม่ชาตินิยม คือตอนเปรูจายิงลูกแรกได้นั้น ฟรีทีวีแทบทุกช่องต้องรีบตัดรายการปกติมาฉายไฮไลท์ให้ดูกันทีเดียวเชียว ดีใจกันแทบโลกแตก หลังจากนั้นก็มีอาการตัดมาฉายเวลาทำประตูได้ ให้เห็นอย่างสม่ำเสมอจนถึงยุคโรม่าเลยทีเดียว จากคุณ : ขี้เมากระเพราแตะ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 00:33:56

ความคิดเห็นที่ 6 ชุนซูเกะ นากามูระ จอมทัพที่มีเท้าซ้ายเป็นอาวุธ จุดเด่น คือ การวางบอลที่แม่นยำ กับลูกฟรีคิกที่น่ากลัว นากามูระ ย้ายมาอิตาลี ในฤดูกาล 2002-2003 ในฤดูกาลแรกเขาเล่นได้ดีมากพาทีมเรจจิน่า หนีตกชั้นได้สำเร็จ นากามูระ ลงเล่น 32 นัด ยิงได้ 7 ประตู และจ่ายบอลให้เพื่อนทำประตูอีก 5 ครั้ง ฤดูกาล 2003-2004 นากามูระ ได้รับบาดเจ็บหนัก พักยาว ได้ลงเล่นแค่ 16 นัด ทำไป 2 ประตู และจ่ายอีก 2 ครั้ง ฤดูกาล 2004-2005 นากามูระ กลับมาฟิตสมบูรณ์  และพาทีมหนีตกชั้นได้อีกครั้ง ลงเล่นไป 33 นัด ทำไป 2 ประตู และจ่ายอีก 3 ครั้งจากลูกนิ่งทั้งหมด จบฤดูกาลนี้นากามูระไปได้ดิบได้ดีกับเชลติก ความเห็นส่วนตัว ผลงานนากามูระอยู่ในระดับพอใช้  ถ้าเทียบกับนากาตะที่มีช็อตเด็ดๆให้เห็นในช่วงต้นที่อยู่อิตาลี พูดง่ายๆ คือ นากามูระในอิตาลีไม่ค่อยมีใครจำ ส่วนใหญ่จำตอนที่อยู่กับเชลติคมากกว่า จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 00:47:21

ความคิดเห็นที่ 7 ผมว่า ญี่ปุ่น นี่ชาตินิยมตัวพ่อตัวแม่เลยนะครับ จำได้นัดแรกที่นากาตะลง ยิงไป 2 น่าเสียดายที่ไม่ยอมให้ นากาตะยิงจุดโทษ ไม่งั้น แฮตทริก แล้ว แล้วมีอีกลูกที่ยิง ใส่ยูเว่ ตอนนั้น van der sar เป็นโกล์อยู่ ลูกนั้นvan der sar เสียคนเลย พอจบฤดูกาลนี่ โดนยูเว่ ขายทิ้งไป อยู่ฟูแล่ม แล้วไปทุ่มเงินค่าตัวสถิติโลก ดึง Buffon มาจากปาร์ม่า จากคุณ : Mr.Moohpee เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 00:53:17

ความคิดเห็นที่ 8 คุณ สารานุกรมกัลโช่  ถ้าเป็นไปได้ ขอ นานามิ (ชื่อนี้เปล่า) อีกคนได้ไหมครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Mr.Moohpee เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 00:54:34

ความคิดเห็นที่ 9 จบแล้วครับ ผมขอสรุปโดยบวกชินจิ คากาวะไปด้วย จากการที่ติดตามผลงานและรู้จักทั้ง 3 คน ในความคิดผม "ชินจิ คากาวะ" ไม่ด้อยกว่า 2 คนนี้เลย ทั้งผลงานในสนาม ความมุ่งมั้น และประสิทธิภาพ แต่ไม่ว่าในโลกฟุตบอลจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม "นากาตะ" จะถูกจดจำในฐานะคนที่สร้างแรงบันดาลใจให้นักบอลญี่ปุ่นตลอดไป จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 00:55:27

ความคิดเห็นที่ 10 ขอมาจัดให้ ฮิโรชิ นานามิ ได้ไปค้าแข้งกับเวเนเซียในฤดูกาล 1999-2000 แต่ช่วยทีมให้รอดตกชั้นไม่ได้จึงอยู่แค่ฤดูกาลเดียว ลงเล่นในเซเรีย อา 24 นัด ทำไป 1 ประตู จ่ายให้เพื่อน 1 ครั้ง เพื่อนนักเตะในทีมเวเนเซียบอกว่า "นานามิ" เป็นคนที่เก็บตัว  ทำให้ปรับตัวเข้ากับอิตาลีไม่ได้ จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 01:01:57

ความคิดเห็นที่ 11 นากาตะตอนอยู่โรม่านั้นสุดยอดมาก จำได้ว่าโดนเปลี่ยนลงมาแทนเฮียต๊อดและเปลี่ยนเกมส์ได้บ่อยๆ จนมีกระแสให้นากาตะเป็นตัวจริง(ถ้าจำไม่ผิดนะครับ ตอนนั้นยังเด็ก) แต่ที่ชอบที่สุดก็ตอนอยู่ปาร์ม่าแหละ เพราะผมแฟนจัลโล่บลู คนๆนี้แหละ คือโอโซระ ซึบาสะตัวจริง แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 54 01:09:53 จากคุณ : CUA เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 01:09:17

ความคิดเห็นที่ 12 มีบางช่วงนากาตะก็โดนโยกไปเล่นปีกขวา เพราะคาเปลโลเสียดายที่ต้องนั่งสำรอง จากคุณ : ตัวโน้ตดนตรีที่ 18 เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 01:40:56

ความคิดเห็นที่ 13 ลืมชินจิ โอโนะ ไปอีกตัวหรือเปล่าครับ รายนั้นก็ถือว่าประสบความสำเร็็จนะ ได้ยูฟ่า คัพ ด้วย ปล. อ้อ ลืมไป อยู่ฮอลแลนด์ ไม่ได้เล่นกัลโช่ แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 54 02:38:49 จากคุณ : Fatkun เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 02:38:06

ความคิดเห็นที่ 14 นากาตะนี่เล่นดีมากครับ ตอนอยู่โรม่าเป็นตัวสำรองแต่เปลี่ยนมาทีไร พลิกเกมได้ทุกที จำได้ว่ามายิงยูเว่ในบ้าน น่าจะตีเสมอ ทำยูเว่ชวดแชมป์เลยปีนั้น จากคุณ : tHe_uNdEr เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 09:08:33

ความคิดเห็นที่ 15 ตอนที่นากาตะไปอิตาลีช่วงนั้น เป็นเรื่องที่ท้าทายมาก ผู้คนกำลังคิดว่าทีมจากอิตาลีทีมนี้กำลังเล่นอะไรอยู่ เพราะคาซูที่ไปอยู่เจนัวช่วง 1994/95 อันเนื่องมาจากสัญญาทางการค้ากับเครื่องเสียงเคนวูด เป็นดีล Lose-Lose ครับ เพราะคาซูไม่ประสบความสำเร็จ แถมเจนัวยังตกชั้นในปีนั้น แต่อย่าลืมว่า นากาตะเป็นอีกหนึ่งขุนพลที่แบกญี่ปุ่นไปลุยฟุตบอลโลกได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ (จ่าย2 ทำทาง1 ในเกมดวลกับอิหร่านในศึกเพลย์ออฟหาทีมที่3ของโซนเอเอฟซี) เบลล์มาเร่ ฮิราทซึกะ เดิมเป็นทีมกลางตารางถึงกับเป๋ไปเลย พอๆกับเกียวโต เพอร์เพิ่ลซังกะที่เสียปาร์คจีซองไป...ขาดจอมทัพไป ตกชั้นเลยนะครับ ตอนนากาตะเปิดตัวกับเปรูจาในนัดยูเว่ ผมคลับคล้ายว่าประตูเป็นอันเจโล่ เปรุซซี่จริงๆนะ คือ คนเอเชียยิงทีมยุโรปได้ 2 ลูกก็น่าดีใจมากพอแล้ว พอไปโรม่าแล้วมีส่วนสำคัญในเกมกับยูเว่(อีกแล้ว)จนทำให้โรม่าได้แชมป์...ยิ่งใหญ่จริงๆ เทียบกับชุนสุเกะ...ที่ดันไปเป็นพระเจ้าของเรจจิน่า ทีมที่ควรจะตกชั้นไปตั้งนานแล้ว เทพฟรีคิกซ์ วางบอลดี เลยไปได้ดิบได้ดีที่เซลติค ครับ เราติดตาชุนสุเกะที่เซลติคมากกว่าที่เรจจิน่า เคสของนานามิ The Lefty เป็นเรื่องที่น่าเศร้า ย้ายมาจากจูบิโล่ตอนหน้าสิ่วหน้าขวาน โอเคล่ะ จูบิโล่ได้แชมป์ลีกในปีนั้น แต่นานามินี่น่าเห็นใจ เป็นคีย์แมนในชุดเอเชี่ยนคัพแท้ๆ แต่กลับล้มเหลวที่เวเนเซีย เขาไม่ใช่คนที่แบกทีมไว้คนเดียว แต่หน้าที่ของเค้าของเด็กยกน้ำ ตัดบอลแล้วส่งให้จอมทัพ แบบเดียวกับที่นานามิ กับยามางูจิ เป็น DML-DMR แล้วส่งบอลต่อไปให้นากาตะที่เป็น AMC     และที่แย่คือ หลุดทีมชาติชุดฟุตบอลโลก2002แบบงงๆ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 10:59:49

ความคิดเห็นที่ 16 คุณ MoMo says แสดงว่าเป็นแฟนเจลีค แน่เลยรู้เรื่องฟุตบอลญี่ปุ่นดีจัง เอาคลิปเกมเปิดตัวนากาตะนัดแพ้ยูเวนตุส 3-4 ให้ดู จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 11:13:40

ความคิดเห็นที่ 17 นากามูระ ผมจำได้ตอนยิงผีสองลูก T^T แทบจะร้อง จากคุณ : dominick4 เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 12:35:10

ความคิดเห็นที่ 18 มีทีมฟุตบอลในเจลีกเกือบทุกทีมที่ต้องการตัวนากาตะมาร่วมทีม สุดท้ายก็เป็นเบลล์มาเร่ที่ได้ตัวนากาตะไป ถ้าจำไม่ผิด นากาตะโด่งดังมาตั้งแต่สมัยเตะอินเตอร์ไฮ คือ อยู่ทีมไม่ใหญ่ ไม่ได้แชมป์เหมือนพวกคุนิมิ ฟานาบาชิอิจิริทซึ ฯลฯ แต่เด่นมาก ติดทีมเยาวชนมาตลอด จนกระทั่ง ทีมชุดโอลิมปิคที่แอตแลนต้าภายใต้การทำทีมของอากิระ นิชิโนะ กุนซือคนปัจจุบันของกัมบะ ทีมชุดนั้นมีคาวางูจิเฝ้าเสาเบาใจได้ แนวรับยกชุดมาจากจูบิโล่ ทีมเวิร์คไม่ต้องห่วง กองกลางก็เล่นใจเจลีกตั้งแต่เด็ก กระดูกบอลดีทุกคน มีโชจิ โจกองหน้าดาวรุ่งจอมขยันจากเจฟ ยูไนเต็ด แทบทุกคนเลยที่ขึ้นมาทีมชุดใหญ่ หลายคนไปได้ดิบได้ดีถึงการค้าแข้งต่างชาติ ที่เด่นจนเราจำได้จริงๆ คือ มาซากิโยะ มาเอโซโนะ มีความสามารถในการทะลุทะลวง ขนาดกองหลังยุโรปโรยราในเจลีก ยังโดนโซโนะโยกเป็นลาโง่ มาเจอดรีมทีมที่ไม่เคยเรียนรู้ Pass and Move ...มันจะเหลือหรือ แต่นากาตะนั่นออกแนวกองกลางเชิงเทคนิค มีดีที่ Killer Pass เอเชี่ยนคัพ96 โซโนะยังเด่นอยู่ ลูกที่ยิงอุซเบกิสถาน กระดกข้ามหัวประตูแล้วยิง คลาสสิคสาดๆ แต่พอย้ายไปแวร์ดี้ ฝีเท้าเค้าก็ตกลงไปมาก ญี่ปุ่นพึ่งใครดี? คิงส์คัพ1997ที่ไทย ครั้งที่ปิยพงษ์ไขว้ใส่โรมาเนียนั่นแหละ คือ ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของญี่ปุ่น นากาตะมารึเปล่าผมไม่รู้ นี่เป็นการลองทีมเด็กห้าวจากแอตแลนต้า ผสานกับผู้เล่นที่โชว์ฟอร์มได้ดีในลีก คาวางูจิติดทีมชุดใหญ่นัดแรกกับสวีเดนในทัวร์นาเม้นนี้นี่เอง ญี่ปุ่นล้มเหลวนะ ไม่ได้เข้าชิง แต่เป็นประสบการณ์ที่ดี นัดที่คนไทยมักเอามาอ้างถึง คือ นัดที่ไทยชนะญี่ปุ่น 3-1 ไม่นานนักหลังจากนั้น คาซูยิงนกตกปลา และกองหลังญี่ปุ่นก็โง่มาก โดนไทยต่อบอล หลุดครับ หมดลายจริงๆ ลูกทีมของชู คาโมะ โชคดีที่เพื่อนร่วมสายของญี่ปุ่นไม่แข็งมาก เนปาลกับภูฎานคือทีมซ้อม ที่หนักจริงๆ คือ โอมาน และโชคดีมากที่โนริโอะ โนมุระ อดีตลูกทีมโค้ชเฮงที่ต็อตโตริ สอดขึ้นมายิง 1-0 ในเกมเยือน แล้วยัน1-1ได้ที่โตเกียว เวรกรรมของคาโมะยังไม่จบอยู่แค่นั้น เค้ายังหาจอมทัพของทีมไม่ได้ โมริชิม่าอาจจะเก่งกับเซเรโซ่ แต่เค้าไม่มีประสบการณ์ทีมชาติ ยามางูจิกับนานามิ เป็นตัวรับมากกว่าตัวทำเกม ซาวาโนโบริ ตอนนั้นดาวน์ลงไป ญ๊ปุ่นไม่มีผู้เล่นที่สร้างความแตกต่างในแดนกลางได้เลยหรือ??? ใคร คือ จิ๊กซอของคาโมะ และโอคาดะ ผู้ช่วยของเค้า??? เดี๋ยวจะกลับมาเล่าต่อ เกี่ยวกับรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก1998ของญี่ปุ่น เพราะมันคือ Nakata's show ครับ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 12:43:07

ความคิดเห็นที่ 19 นากะตะ ผมว่าเป็นคีย์แมนที่มีส่วนสำคัญคนหนึ่งทำให้โรมาคว้าแชมป์กัลโช่ แม้ว่าจะต้องเป็นสำรองของตอดติ ทุกครั้งหากจะกล่าวถึงปีที่โรม่าได้แชมป์กัลโช่ หากไม่กล่าวถึงแมทช์โกงความตายกับยูเว่โดยฝีเท้าของนากาตะ ก็คงกล่าวได้ว่ามันไม่ครบทุกรสชาติ มันต้องขาดอะไรไป ดูนากาตะเขาเล่นบอลง่าย เสียบอลยาก ไม่ฝืน ไม่มีหงุดหงิดสมาธิหลุด(เจ้าตอตติไง เวลาทำอะไรไม่ได้) จะหาว่าผมบ๊องส์...ก็ได้  ผมว่าเขาเล่นดีกว่าตอตติเสียอีก จากคุณ : Zithromax เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 13:22:35

ความคิดเห็นที่ 20 คุณ MOMO Says สุดยอดครับ เขียนเยอะๆและมากๆเลยครับ แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 54 13:40:36 จากคุณ : Zithromax เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 13:27:16

ความคิดเห็นที่ 21 แมตโกงความตาย บุกไปเสมอยูเว่ 2-2 ทำให้โลกนี้ จดจำชื่อนากาตะไปอีกนานแสนนาน จากคุณ : Kill11by1pass เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 14:01:51

ความคิดเห็นที่ 22 ลืมแปะ จากคุณ : Kill11by1pass เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 14:02:12

ความคิดเห็นที่ 23 ไหนๆกระทู้นี้เกี่ยวกับญีปุ่นแล้วก็เอาให้ถึงที่สุด ตอนฟุตบอลโลกปี 1998 โรงเรียนมัธยมของผมไม่ว่ากะเทย หรือผู้หญิงต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า Yoshikatsu Kawaguchi หล่อมาก แบบว่าคิดถึงสมัยก่อนจัง จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 14:29:46

ความคิดเห็นที่ 24 จะขอเล่าเกี่ยวกับฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชีย1998แบบคร่าวๆ กับการขึ้นมาของชุนสุเกะนะครับ หลังจากที่นากาตะต้องรับฝ่าด่านโอมานในรอบคัดเลือกรอบแรกมาได้ ญี่ปุ่นต้องมาโคจรพบกับเกาหลีใต้ ยูเออี คาซัคสถานและอุซเบกิสถาน ญี่ปุ่นโชคดีที่เข้ามาเป็นที่สอง ได้ไปวัดดวงกับอิหร่าน 8นัดในรอบคัดเลือก ญี่ปุ่นเล่นไม่ค่อยดี ดีขึ้นมาหน่อยหลังเกมที่ 3 ที่โอกาดะมารับหน้าที่แทนคาโมะ ญี่ปุ่นเข้าทำยังไง? 1. โซมะ-นาราฮาชิ วิงค์แบ็คคู่หูจากแอนท์ดลอร์สดันเติมเกมขึ้นสูง สองคนนี้ไปกับบอลได้เร็วมากจริงๆ ลากไปสุดเสร็จหลัง ตบเข้ากลางให้กองหน้าชาร์จ 2. ตัดบอลได้แล้วลำเลียงบอลขึ้นหน้า มองหานากาตะ เค้าจะเป็นคนกำหนดทุกสิ่ง ถ้าไม่เวิร์ค เค้าจะบอกกองหน้าว่าต้องหาที่ว่างยังไง แปลว่าการอ่านเกมของเด็กวัย 19 คนนี้ ดีมาก 3. โยนจากหลังมาหน้า ใครก็ได้ ให้หน้าเป้าโขกตั้ง และให้อีกคนโฉบไปทำเอง ไม้ตายสุดท้าย... 3.ใช้ความเร็วของมาซายูกิ โอคาโนะทะลุทะลวง...หมากนี้จะเวิร์คถ้าเล่นกับพวกอาหรับ หรือ 4. อยากได้เทคนิคเข้าทำ ส่งให้วากเนอร์ โลเปส...เข้าฮอสดีๆ ส่งให้นาคายาม่า...กลางอากาศหวือหวา ส่งให้โชจิ โจ...อยากได้ครบทุกอย่าง แต่ฟอร์มไม่คงที่ ต้องคาซู การเข้าทำมีอยู่เท่านี้ อาจเพราะความดวงดี มีการตัดแต้มกันเอง ความปราณีของเกาหลีที่ลอยลำไปแล้ว และความฝืดของกองหน้ายูเออี...ญี่ปุ่นผ่านเข้ารอบต่อไปได้ การถล่มอุซเบกิสถานและคาซัคสถานยับขนาดนั้น อาจวัดอะไรไม่ได้มาก หมีเอเชียไม่ได้เก่งเหมือนหมียุโรป แต่หมายความว่า นากาตะมีสภาพร่างกายที่พอเล่นลีกยุโรปได้ และสโมสรเล็กๆในคานางาว่าคงเล็กไปสำหรับเค้า ขณะเดียวกัน อีกฝากหนึ่งของจังหวัดคานางาวะ ดาวเตะร่างเล็กของโยโกฮาม่า มารินอสเริ่มฉายแววเด่นขึ้นมาในฐานะยอดนักเตะดาวรุ่ง...นี่คืออีกผลผลิตหนึ่งของอินเตอร์ไฮ ยักษ์หลับจากโยโกฮาม่าเริ่มเสริมสร้างผู้เล่นชั้นยอด โดยใช้นักเตะดาวรุ่งผสมผสานไปกับดาวเตะทีมชาติ โดยมีดาวเตะต่างชาติ ยุคแรกเริ่ม พวกเค้ามีราม่อน ดิอาซ แต่วันนั้นพวกเข้ามีฮูลิโอ ซาลีนาส... มารินอสทำผลงานติดลมบนได้ไม่ยาก แต่ยุคนั้นเป็นยุคของแอนท์เลอร์สกับจูบิโล่ และมีเอสพัลส์คอยสอดแทรกมานิดๆ การได้ลงเล่นแต่อายุน้อย รากฐานที่ดีและต่อเนื่องของวงการลูกหนังญี่ปุ่น ทำให้นาคามุระได้รับโอกาสลับฝีเท้าอย่างสม่ำเสมอ และนาคามุระก็สร้าง Impact ได้ในที่สุด ในเอเชี่ยนคัพ2000 จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 15:22:18

ความคิดเห็นที่ 25 หลังจากทำผลงานในเอเชี่ยนเกมส์ได้พอใช้...นาคามุระติดธงครั้งแรกในรอบคัดเลือกเอเชี่ยนคัพ2000 พ่อมดขาว-ฟิลิปป์ ทรุสซิเย่ร์ ต้องการทดลองนักเตะเพื่อเตรียมทีมสู่ฟุตบอลโลก 2002 และเสริมกระดูกนักเตะดาวรุ่งก่อนไปซิดนีย์2000 ซึ่งต่อมา ทีมชุดโอลิมปิคแพ้สหรัฐในการดวลจุดโทษแบบน่าเสียดายมากๆๆ นากาตะยิงพลาด ทำคนญี่ปุ่นฝันสลาย... เพราะคู่แข่งรวมสายอย่างสิงคโปร์ บรูไน มาเก๊า...ไม่มีพิษสงอะไร นากาตะที่ตอนนั้นเป็นนักเตะเกรด "เกิน" แถวหน้าเอเชียไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องมาแข่งในระดับทวีปแบบนี้อีก จึงเป็นโอกาสของชุนสุเกะในการโชว์ฟอร์มให้เข้าตาใครหลายๆคน ญี่ปุ่นเอาชนะคู่แข่งได้อย่างน่าประทับใจได้ไม่ยากเย็น ในรอบคัดเลือก ดาวเตะจอมเก๋าเข้ามาเติมเต็มอะไรบางอย่าง อย่างน้อยก็สัญชาติญาณเพชรฆาตของนากายาม่า ที่ใช้เวลาเพียง 3นาทีเศษในการทำแฮตทริคเร็วที่สุดในโลกใส่บรูไน แต่เอาเข้าจริงที่เลบานอน ทรุสซิเย่ร์ใส่ชื่อดาวเตะชุดโอลิมปิคเกือบค่อนทีมลงไป ทรุสซิเย่ร์คิดอะไรอยู่??? ที่เลบานอน ญี่ปุ่นเปิดฉากไล่ยำแชมป์เก่าซาอุฯ4-1จนหมดสภาพ...และซาอุฯก็ทำเป็นพิธี "เปลี่ยนแม่ทัพกลางศึก" จนเป็นประเพณี ไล่โค้ชออก แล้วแต่งตั้งนาสเซอร์ อัลโจฮาร์ทำหน้าที่แทน ญี่ปุ่นยำหมีเอเชีย 8-1 ในนัดต่อมา...เริ่มไม่ธรรมดาแล้ว ก่อนที่ญี่ปุ่นจะทำทุเรศเพียงอย่างเดียวในทัวร์นาเม้นต์นั้น โดยการผ่อนเกมในนัดสุดท้ายในเกมกับกาตาร์ โดยใช้ตัวสำรองเต็มทีม เพราะถ้าญี่ปุ่นถล่มกาตาร์...ไม่ใช่แค่ผลเสมอ ไทยมีโอกาสเข้ารอบ... รอบ 8 ทีม ญี่ปุ่นเอาคืนอิรักที่เคยทำพวกเขาฝันสลายในศึก USA 94 ด้วยการถล่มอิรัก 4-1 รอบรอง เสียวไส้นิดหน่อย...เฉือนชนะจีน ที่ตอนนั้นเริ่มแรงขึ้นมา 3-2 รอบชิง ญี่ปุ่นโคจรมาเจอกับซาอุฯจนได้ เสียลูกโทษไปก่อน แต่ซาอุฯซัดออกเอง สุดท้าย นาคามุระเปิดโค้งไปหน้าประตู ชิเงโยชิ โมจิซึกิจิ้มเผาขนเข้าไป ญี่ปุ่นนำก่อนหมดครึ่งแรก ครึ่งหลัง ซาอุบุกเป็นพายุบุแคม แต่คาวางูจิเซฟได้หมด จบเกม ญี่ปุ่นได้แชมป์เอเชี่ยนคัพเป็นสมัยที่สอง ภาพของริวโซ่ โมริโอกะที่นับ 1-2-3 แล้วชูถ้วยนั้นยังตราตรึง MVP ครั้งนั้น ตกเป็นของเด็กยกน้ำที่ชื่อ...ฮิโรชิ นานามิ แต่น่าแปลก ที่ผู้เล่นที่ทำหน้าที่ได้ดีในเอเชี่ยนคัพ2000 อย่างนาคามุระและนานามิ กลับหลุดทีมชาติชุดสู้ศึกฟุตบอลโลก 2002 ทั้งคู่เลย ทั้งๆที่นาคามุระคือทุกสิ่งเป้นทุกอย่างของมารินอส และนานามิพาจูบิโล่คว้าแชมป์ลีกไปครองอย่างยิ่งใหญ่ เกิดอะไรขึ้นกับปรัชญาการทำทีมของทรุสซิเย่ร์??? จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 15:52:08

ความคิดเห็นที่ 26 ลืมคลิป...เอเชี่ยนคัพ2000นัดชิง จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 15:57:34

ความคิดเห็นที่ 27 กระทู้ สุดยอดเลย ข้อมูล แน่นกัน   ทุกคนเลย ขอบคุณมากๆ MoMo says  เล่า นึกถึง วันวาน ที่  ลืมๆ ไปหลายเรื่อง แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 54 16:30:58 จากคุณ : เเมนเอล เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 16:18:42

ความคิดเห็นที่ 28 เดี๋ยวนี้ตัวญี่ปุ่นเล่นในยุโรปเยอะแยะไปหมด ระดับดาวรุ่งเลยก็มี ที่สำคัญบางคนไม่ได้ติดทีมชาติอย่างสม่ำเสมอซะด้วย จากที่เมื่อก่อนใครไปเล่นในยุโรปแทบจะเป็นคนที่เก่งที่สุดในชาตินั้นๆแล้ว แสดงให้เห็นว่าทุกวันนี่ญี่ปุ่นไปไกลมากแล้วจริงๆ บอลโลกครั้งล่าสุดผ่านเข้ารอบได้ทั้งๆที่มีทีมอย่าง เดนมาร์คและแคเมอรูนและตกรอบแบบน่าเจ็บใจด้วยการแพ้จุดโทษต่อปารากวัย(ทีมที่สู้กับสเปนได้สูสีรองแชมป์โคปา) อุ่นเครื่องก็สามารถเอาชนะอาเจนติน่าได้ด้วย น่าเสียดายที่อุตส่าได้รับเชิญเข้าแข่งโคปา แต่ต้องมาถอนตัวไป ในเอเชียก็เป็นได้ทั้งแชมป์เอเชียนคัพ(ทั้งๆที่ คากะวะเจ็บ) และแชมป์เอเชียนเกมส์ที่ส่งชุดU21มาเล่น ผมว่าทุกวันนี้ไม่มีทีมชาติไหนที่จะสามารถชนะญี่ปุ่นได้ง่ายๆอีกแล้ว และแชมป์โลกก็ไม่ได้ไกลเกินกว่าที่พวกเขาจะเอื้อมถึง ปล.ถ้าเป็นไปได้อยากให้คุณ MoMo says ช่วยเล่าเรื่องของนักเตะญี่ปุ่นที่เล่นอยู่ในบุนเดส+ลีกอื่นๆให้ฟังหน่อยครับ จากคุณ : เอฟเฟ่ห้าวหัวเสือไม่เคยกลัวใคร เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 16:25:30

ความคิดเห็นที่ 29 เอาแมทย์ปรีโอลิมปิก ไทย-กับญี่ปุ่นมาฝากครับ..ชุดนี้มีนากามูระ อินาโมโตะและทาคาฮาระ ทีมไทยเราพ่ายไป 0-6 แบบว่าสู้ไม่ได้เลย จากคุณ : spiceboy_12 เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 17:27:26

ความคิดเห็นที่ 30 การไปค้าแข้งในอิตาลีของนากาตะหลังปี 1998 ได้พิสูจน์แล้วว่านี่ไม่ใช่การเดินทางไปขายทัวร์หรือขายเสื้อให้คนญี่ปุ่น แต่นี่คือการประกาศศักดาให้ทั่วโลกรู้ว่า นักเตะญี่ปุ่นมีดีอย่างไร ถ้าจอมทัพของญี่ปุ่นในขณะนั้น คือ นากาตะ รองแม่ทัพในสมัยนั้นคงหนีไม่พ้นนาคามุระ ส่วนมิตซึโอะ โอกาซาวาระ กับมาซาชิ โมโตยาม่า ยังไม่ต้องพูดถึง พวกเขาได้รับโอกาสในทีมชาติน้อยเกินไป นาคามุระก้าวขึ้นมาเป็นแม่ทัพในถิ่นมิตซึซาว่าในสีเสื้อของนิสสัน มอเตอร์ ฟุตบอลคลับอย่างเงียบๆ ปี2000 คือ ปีที่ยิ่งใหญ่ของนาคามุระปีหนึ่ง ทีมชาติชุดใหญ่ได้แชมป์เอเชีย ทีมชุดโอลิมปิคเข้ารอบน็อกเอาท์ ฯลฯ และยังได้ผู้เล่นทรงคุณค่าเจลีกด้วย กับมารินอส พวกเขาได้แชมป์สเตจแรกอย่าโชคช่วย เมื่อต้องลุ้นจนถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ ซึ่งสมัยนั้นเจลีกเสมอในเวลาจับต่อเวลาอย่างเดียว ซึ่งเซเรโซ่ โอซาก้า ทีมที่นำมาตลอดในช่วงก่อนหน้านั้น พลาดมหันต์เมื่อถูกคาวาซากิ ฟรอนเทล ทีมท้ายตาราง(ในขณะนั้น) ยิงโกลเด้นโกลอย่างเจ็บแสบ ออสซี่ อาร์ดิเลสกอดกันกลมกับลูกทีม ส่วนคาวางูจิที่นั่งขบเล็บลุ้นอยู่ทางจอแอลซีดีถึงกับเฮลั่น แต่สเตจที่สอง มารินอสออกฟอร์มเป๋อย่างชัดเจน จนอันดับรูดมากลางตาราง ยังอาศัยบุญเก่า เข้าไปชิงแชมป์ตัวจริงกับแชมป์สเตจที่2...คาชิม่า แอนท์เลอร์ส กวางเขาเหล็กชุดนั้น กองหลังมีความเก๋า มีวิงค์แบ็คคู่โซมะ-นาราฮาชิและอาคิตะเซ็นเตอร์อดีตทีมชาติ มีฟาเบียโน่ เซ็นเตอร์บราซิลที่เด่นมากอีกคน ส่วนกองกลางแทบจะยกมาจากชุดปรีโอลิมปิคที่ถล่มไทย ทั้งโคจิ นากาตะ มาซาชิ โมโตยาม่า มิตซึโอะ โองาซาวาระ แดนหน้ามีทาคายูกิ ซูซูกิกับอัตซึชิ ยานางิซาว่า...น่ากลัวทีเดียว รายละเอียดในเกมไปอ่านได้จากลิงค์นี้ http://topicstock.pantip.com/supachalasai/topicstock/2011/04/S10451677/S10451677.html แม้จะได้เพียงรองแชมป์จากความผิดพลาดแค่นัดเดียว แต่ชีวิตยังคงต้องก้าวต่อไป ปี2001 นาคามุระเป็นจอมทัพของทีม แต่มารินอสกลับโชว์ฟอร์มได้ลงเหวลงเรื่อยๆ ปีนั้น คิดดูละกันว่าแวร์ดี้กับมารินอส สองทีมที่เตะเปิดเจลีกเมื่อปี 1993 ต้องมานั่งหนีตกชั้นกันเอง แวร์ดี้สร้างจุดเปลี่ยนได้โดยการดึงเอ็ดมุนโด้เข้ามาเสริมทีม แล้วมารินอสล่ะ... คาวางูจิย้ายไปต่างประเทศ ต้องให้ประตูมือสองที่ไม่มีประสบการณ์เฝ้าเสาแทน กองหน้าเลอันโดร สิงห์ปืนฝืด อีกทั้งโชจิ โจ ฟอร์มตกอย่างไม่น่าเชื่อ นาคามุระ ต้องเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในเวลามากมายจริงๆ บอร์ดต้องไล่ออสซี่ออกไป ผมถึงบอกว่าดีเท่าไหร่แล้วที่เราได้เชเฟอร์มา ถ้าได้ออสซี่มาเละกว่านี้อีก ได้เซบาสเตียน ลาซาโรนี่ อดีตกุนซือทีมชาติบราซิลมาคุมทีมขัดตาทัพ และได้กองหลังกับกองกลางที่ ผมจำชื่อได้ถึงทุกวันนี้ นั่นคือ นาซ่า กับ ดูตร้า ลาซาโรนี่ ปรับนั่นนิดนี่หน่อย จนทีมมีผลงานดีขึ้น หนีตกชั้นได้สำเร็จ ยังไม่พอ ยังคว่ำจูบิโล่ อิวาตะในนัดชิงลีกคัพได้อีกด้วย แถมคนที่เป็นฮีโร่ก็เจ้าทัตซึยะ เอโนโมโต้ ประตูมือสองที่มาแทนคาวางูจินี่แหละ โฉมหน้าของนายประตูคนนี้ อยู่นาทีที่ 6.06 ครับ กระทั่งปี 2002 ชุนสุเกะโบกมือลามารินอส ไปขุดทองที่อิตาลี่ ตำนานเจ้าพ่อเซ็ตพีซของมารินอส ตอนแรกจึงจบลง ณ บัดนั้น ขอจบเรื่องของนากาตะกับนาคามุระเพียงเท่านี้ครับ ไม่งั้นจะกลายเป็นกระทู้เจลีกไปเสียปล่าวๆ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 18:45:23

ความคิดเห็นที่ 31 ดูคลิปใน #22  นักเตะแต่ละคนในทีม สุดยอดทั้งนั้น สุดยอดจริงๆ กัลโซ่ ยุคนั้น จากคุณ : มุมอับที่แสนสบาย เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 19:13:53

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณมากครับ คุณ MoMo says จากคุณ : เพลงหมัดบ๊ะจ่าง เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 19:32:55

ความคิดเห็นที่ 33 ถามคุณ โมโม่ หน่อย โองาซาวาระ นี่เคยเล่นเปรูจาหรือเปล่า ไม่แน่ใจ เห็นคุณโมโม่ แล้วนึกถึงเพื่อนผมคนนึง มันบ้าเจลีกมาก เรียนภาษาญี่ปุ่นแล้ว ซื้อวินนิ่งเจลีกมาเล่น แล้วก็นั่งอ่านตัวคันจิ จนทำให้ผมอ่านออกไปด้วย จากคุณ : ToyZHardy เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 20:58:14

ความคิดเห็นที่ 34 คห.33 มิตซูโอะ โอกาซาวาระ เคยไปเล่นให้เมสซิน่าในอิตาลีครับแต่ไม่รุ่งเลยกลับมาเล่นที่ญี่ปุ่นไม่แน่ใจว่าอุราวะ เร้ดไดมอนด์ รึว่าคาชิมา แอนท์เลอร์นี่แหละครับ จากคุณ : spiceboy_12 เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:49:26

ความคิดเห็นที่ 35 Rep.34 ถึงกลับมาก็ยังรักกวางเขาเหล็กครับ โองาซาวาระกลับมาคืนถิ่นคาชิม่า แอนท์เลอร์สดังเดิม จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 54 00:00:14

ความคิดเห็นที่ 36 นากะตะเจ๋งมากๆ  : ) จากคุณ : Hermy เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 54 08:23:54

ความคิดเห็นที่ 37 #5 มีใครบอกอ่ะครับว่าญี่ปุ่นไม่ชาตินิยม ญี่ปุ่นนี่แหล่ะชาตินิยมที่สุดในโลกแล้ว -*- จากคุณ : ที่จุดหมาย ยังมีสายรุ้ง เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 54 09:12:40

ความคิดเห็นที่ 38 คุณ MoMo says อยู่เมืองไทยสามารถดู J-league ถ่ายทอดสด ทางไหนครับ จากคุณ : brujita เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 54 09:14:16

ความคิดเห็นที่ 39 #38ใช่ครับ อยากรู้เหมือนกันเลย อยากดูJ-League จะดูได้ทางไหน จากคุณ : Metroman เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 54 09:52:04

ความคิดเห็นที่ 40 เจลีก นี่ดูได้ทางเคเบิ้ลครับ แต่เรื่องเวลาผมไม่ชัวร์ เพราะเปิดเจอก็ดู ไม่เจอก็ไม่ได้ดูครับ ขออภัย - -'' จากคุณ : Nice_Neeteen เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 54 12:02:49

ความคิดเห็นที่ 41 J-ลีก ติดจานของแกรมมี่ได้เลยครับ ทางแกรมมี่ได้ลิขสิทธิ์ ถ่ายทอดแล้วครับ จากคุณ : นายแอ๊ด เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 54 13:07:06

ความคิดเห็นที่ 42 พอมีรายละเอียดของช่อง grammy บ้างหรือเปล่าครับ  ผมหาตารางถ่ายทอดหรือว่าข่าวลิขสิทธิ์ไม่เจอครับ จากคุณ : brujita เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 54 13:55:33

ความคิดเห็นที่ 43 เป็นแฟนปาร์ม่าก็จริง แต่ตอนนากาตะย้ายมาปาร์ม่า เราไม่ได้ดูบอลอิตาลีเลยฮ่ะ เลยโนคอมเมนต์ T^T จำได้แต่ตอนอยู่เปรูจาว่าเด่นมากๆ แล้วก็ตอนอยู่โรม่าที่เป็นซูเปอร์ซับเสมอๆ ส่วนนาคามูระ ถ้าไม่เห็นทู้นี้ คงลืมแล้วนะเนี่ยว่าเฮียเคยเล่นที่อิตาลีมาก่อน -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 12:34:23