ความคิดเห็นที่ 1 ขอบคุณครับ จากคุณ : anurak_jun เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 12:55:12

ความคิดเห็นที่ 2 คอลัมน์ : Fat football เครดิท : โดย เปาผี และ นสพ สยามกีฬา สตาร์ซอคเกอร์ ตอน : โซลชาตัวจริง หลังโดนจัดหนัก 5-0 ที่ เฮาเกซุนด์ เมื่อเดิอน พฤษภาคมแล้ว กุนซือมือใหม่หัดคุม โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เรียกลูกทีมโมลด์ เข้ารับฟังสุนทรพจน์ทันที "เอาล่ะ เด็ก ๆ สิ่งที่ผมอยากบอกกับพวกคุณคือผมขอให้พวกคุณเอาเงินมาให้หมด มีบ้านขายบ้าน มีรถขายรถและเอาเงินทั้งหมดมาวางเดิมพันว่า เราจะเป็นแชมป์ลีกให้ได้เพราะเราจะทำได้แน่ ซึ่งถ้าไปแทงพนันตอนนี้ ราคามันจะดีมากด้วย" โซลชารู้ดีว่าประโยคทั้งย่อข้างหน้าข้างบนนี้ปลุกเร้าพลังใจให้ลูกทีมได้ผลชะงัดนักแล หลังจากที่จดจำมันได้แม่นยำ มาตลอด 15ปีก่อนหน้านี้ นับตั้งแต่ซีซั่นแรกของอดีต "เพชรฆาตรหน้าทารก" กับแมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน  ในวันที่ยังไม่ประดับยศอัศวิน พยายามจูนความทะเยอทะยานเด็กในคอนโทรล หลังจากซึมเศร้าจากการถูก นิวคาสเซิลถล่ม 5-0 ต่อด้วยการโดนเซาธ์แฮมตัน ถลุง 6-3 "เป็นคำพูดที่กระแทกใจผมอย่างแรงในวันนั้น"  กุนซือหน้าทารกเอ่ยถึงการแอบยืมวาจาอันทรงพลังของนายเก่า "และแน่นอน ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ในฤดูกาลนั้นแบบชิล ๆ" เช่นกันกับโมลด์ แม้นมันจะไม่ใช่เรื่องที่ถูกคาดหมายว่า จะอุบัติขึ้นกับทีมจากเมืองเล็ก ๆ ที่วางบนชายฝั่งตะวันตก ของนอร์เวย์ เนื่องจากสโมสรฟุตบอลประจำเมืองยังไม่เคยสัมผัสกับแชมป์ลีดสูงสุดเลย นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อ ศตวรรษที่แล้ว กระทั่งโซลชาเดินทางมาถึงเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังอำลาโค้ชทีมสำรองที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด แล้วอดีตตัวสำรองอดทนตราปีศาจแดงตัดสินใจก้าวขึ้นมาจับงาน กุนซือมานานนมแล้วสมัยหน้าเด้งดึ๋งบนวัย 10 ขวบ เขาทำหน้าที่ดูแลเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันให้เล่นฟุตบอลอย่างมี ระบบระเบียบบนถนนสายเล็ก ๆ ที่พาดกลางเมืองคริสเตียนซุนด์นานโข ก่อนที่โซลชาจะพาตัวเองเข้ามานั่งในหัวใจ แฟนผีทุกดวง หลังจากที่ไม่เคยปริปากบ่น กับบทบาทตัวสำรองและยังเป็นเจ้าของหนึ่งในประตูที่สำคัญที่สุดต่อหน้า ประวัติศาสตร์สโมสร โซลชาร้บสารจากเฟอร์กูสันและเรียนรู้จากบรมกุนซือชาวสกอตติช หรือแม้แต่เพื่อนร่วมทีมที่ อยู่รายรอบตัวก็ถือเป็นคุณครูของอดีตกองหน้าทีมชาตินอร์เวย์ "ความเป็นผู้จัดการอยู่ในตัวผมเสมอ" เขาคอนเฟิร์ม "มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมจดลงสมุดบันทึกว่า เราทำอะไรบ้างในการซ้อมแต่ละมื้อ และมีอยู่ช่วงหนึ่งสมัยที่ยังเป็นนักเตะที่ผมจดวิธีการกระตุ้นผู้เล่นด้วยเช่นกัน ผมว่ามันน่าสนใจนะเพราะผมเองก็เคยประสบกับภาวะวิกฤติความมั่นใจ และผมก็ยังเคยจดว่าผมมีปฏิกิริยาอย่างไรบ้างตอนที่ รอยคีน ตะคอก ใส่หน้าผม อย่างตอนที่พลาดโอกาสทองผมก็ยิ่งตื่นตัวว่าตอนนั้นผมคิดอะไรอยู่บ้าง" แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 54 14:57:20 แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 54 13:02:55 จากคุณ : ElMinZeed เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 12:59:22

ความคิดเห็นที่ 3 "ท้ายที่สุดแล้วมันเป็นไดอารี่ที่บันทึกว่าผู้จัดการทีมพูดอะไรกับเรา และรายละเอียดในการประชุมแท็กติก มีโน้ตอยู่หลายอย่าง ทุกววันนี้ ผมกลับไปอ่านมันอยู่ แต่ไม่ต้องเปิดหนังสือหรอก เพราะทุกอย่างอยู่ในหัวผมหมดแล้ว" โซลชา ก้าวเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่ โมลด์ โดยใช้ประสบการณ์ 15 ปี กับยูไนเต็ด ถึงขนาดลงรายละเอียดในเรื่องที่ว่า นักเตะต้องกินอะไร และแต่งตัวอย่างไรซึ่งถือเป็นการสร้างสิ่งแวดล้อมให้เหมาะแก่การเพาะปลูกต้นไม้แห่งชัยชนะ "ผมพยายามสร้างความสมบูรณ์แบบในการจัดการสโมสร" เขาว่า "ในโลกใบเล็ก ๆ ของเรากับสาธารณูปโภค และทรัพยาการที่แตกต่าง คุณต้องปรับให้มันเป็นเหมือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบจำลองทำอย่างไรที่เจ้านายใหญ่จะเป็นศูนย์บูรณาการ หากมันเวิร์คกับยูไนเต็ด มันก็ย่อมเวิร์คกับโมลด์เช่นกัน" โซลชาจะเรียก เฟอกูสัน ว่า "เจ้านาย" ทุกครั้งแม้แต่ตอนส่งคำพูดผ่านสัญญาณโทรศัพท์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเคารพอย่างสูง แต่โซลชารู้ดีว่าเขาต้องเป็นตัวของตัวเอง "ผมพยายามทำในวิถีของผม" โซลชาซึ่งได้รับความสนใจจากพอร์ทสมัธ ย้ำ "ผมไม่สามารถลอกเลียนแบบใครได้หรอก สมัยเป็นนักเตะ ผมไม่เคยเป็น กิ๊กส์ สโคลล์ เบคแฮม คันโตน่า หรือคีน แต่ผมอาจเอาเลือดนักสู้แบบ เดวิดมาใช้ หรือชั้นเชิงแบบ เอริคมาช่วยพัฒนาตัวเองบ้าง" "เหมือนกับเจ้านาย เขามีวิธีการที่เหมาะกับผมแต่ไม่อาจเวิร์กกับคนอื่น ส่วนผมเอง ก็พยายามทำให้โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เป็นผู้จัดการทีมในแบบตัวเอง ผมไม่ต้องการเงิน ชื่อเสียงหรือความสำเร็จ แต่ผมสนุกกับงานนี้นจริง ๆ" มาถึงคำถามสำคัญว่า สักวันหนึ่ง โซลชาที่เคยได้รับการยกย่องจาก เฟอร์กูสันให้เป็นพลิกชะตาฟ้า จะย้ายจากโมลด์ สู่โอลด์แทรฟฟอร์ด เหมือนอย่างที่เคยมาด้วยเงิน 1.5 ล้านปอนด์ ในปี 1996 เพื่อมารับงานผู้จัดการทีมหรือไม่? "ผู้จัดการทีมทุกคนคงใฝ่ฝันที่จะได้งานคุม แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด" โซลชาให้ความเห็น "เคยมีคนบอกว่า ไบรอัน ร็อบสัน อาจจะได้เป็นในสักวัน และยังมีอดีตนักเตะระดับตำนานของยูไนเต็ด อีกเพียบที่ถูกดึงเข้ามาโยงกับเก้าอี้ตัวนี้ แต่ไม่ต้องห่วงหรอก ผมว่าเจ้านายจะนั่งอยู่อีกนานแน่ ๆ" "ถ้าหากผมได้รับข้อเสนอ ผมก็คงตอบตกลงโดยไม่ต้องคิดมาก แต่มันไม่ได้อยู่ในแผนการหรือความฝันบ้า ๆ ของผมเลย หากย้อนไปเมื่อปีก่อน ผมไม่คิดว่าจะมีใครพูดเรื่องผมจะไปคุมยูไนเต็ด จริง ๆ นะผมไม่คิดว่าผลงานของผมแค่ปีเดียวกับโมลด์ จะทำให้ผมมีสิทธิ์พูดว่าผมจะไปคุม ยูไนเต็ดสักวัน ทว่าทุก ๆ คนสามารถฝันกันได้ ความฝันนั้นมันอาจใหญ่สำหรับผมในเวลานี้ แต่หากมันเกิิดขึ้นจริงผมก็คงมีอะไรให้ทำเต็มไปหมด" แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 54 13:20:40 จากคุณ : ElMinZeed เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 13:18:06

ความคิดเห็นที่ 4 โซลชายืนดูนักเตะซ้อมอย่างใกล้ชิดเหมือนเหมือนเคย มือของเขาถูกซุกไว้ในกระเป๋าเสื้อคลุมสีดำทะมึน เส้นขนบนหัวอาจเปลี่ยนเป็นสีเทาตามสังขารที่โรงโรยตามวัย 38 ปี แต่อดีตเจ้าของฉายา "เพชรฆาตรหน้าทารก" ยังคงมีรังสีสดใสฉาบทั้งใบหน้า และจิตใจเสมอ ฉากหลังของเขา เป็นธารน้ำแข็งฟานเนฟยอร์ด เย็นยะเยียบที่พาดผ่านภูเขารอมส์ดาล มุ่งหน้าสู่ทะเลเหนือ ซึ่งตามปรกติแล้วระยะนี้ของปีมักมีหิมะสีขาวโพลนปกคลุม แต่ประตูสนามซ้อม อาเคอร์ฮัลเลนกำลังเปิดรอแฟน ๆ โมลด์ ราว 3000 ชีวิต ที่มีคิวเข้ามาร่วมงานปาร์ตี้เฉลิมฉลองความสำเร็จของสโมสร ชนิด เอ็กซ์คลูซีฟ นักเตะโมลด์กำลังซ้อมอย่างขะมักเขม้นบนสนามหญ้าเทียมที่อาโรลี่ ขณะที่ มาร์ค เดมพ์ซีย์ และ ริชาร์ ฮาร์ติส ตะโกนโหวกเหวกสั่งการแข็งขัน โดยสองอดีตโค้ชยูไนเต็ด ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญของความสำเร็จที่โซลชาบันดาลให้เมืองที่มีประชาการเพียง 26,000 คน และได้งบประมาณบำรุงเมือง แค่ปีละ 10 ล้านปอนด์นิด ๆ เดมพ์ซีย์ สำเนียงแบบ แมนคูเนียนชัดเจน แต่มีบ้างที่ต้องถูกภาษานอร์วีเจี้ยนของโซลชา แทรกซ้อนเข้ามาอย่างไม่จำเป็นต้องสืบว่าใครคือเจ้านายใหญ่ ณ ที่แห่งนี้ "ผมไม่ได้พูดค่อย ๆ เหมือนอย่างที่คุยกับคุณอยู่ตอนนี้หรอกนะ" โซลชา ออกตัว หนึ่งในทริก ประหลาด ๆ ของกุนซือหนุ่มหน้าเด้งรายนี้คือการสั่งให้ลูกทีมลงแช่สระน้ำแข็งหลังจบเกม และนั่งทนบนก้อนน้ำแข็งยักษ์ตรงลำธารหลังสังเวียนอาเคอร์ สตาดิโอน ซึ่งโซลชาระเบิดเสียงหัวเราะร่วน เมื่อเล่าถึงตอนที่นักท่องเที่ยว ที่โดยสารเรือเฟอร์รี่ผ่านมาละแวกนี้ กุลีกุจอโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะคิดว่าหนึ่งในลูกทีมของเขากำลังจมน้ำ ยังมีคำถามว่า ความสำเร็จของโซลชากับทีมสำรองของยูไนเต็ด อาจจะไม่ค่อยถูกจดจำเท่ากับการพาต้นสังกัดเก่าในนอร์เวย์ คว้าแชมป์ลีกหรือไม่ แต่เขาไม่เคยเคลือบแคลงใจในความสามารถของตัวเองเลย แม้แต่เริ่มต้นด้วยการถูก ชาร์ปสบอร์ก ถล่มกระจาย 3-0 ตามด้วยถูก เฮาเกซุนด์ ทุบกระจาย "ไม่เลย" เขาย้ำ "สภาพจิตใจที่แข็งแกร่งคือสี่งที่ผมเรียนรู้จากการเป็นโค้ชให้ยูไนเต็ด ผมเชื่อในสิ่งที่ตัวเองทำเสมอ ผมรู้ว่ามีหลายคนที่ไม่เชื่อในตัวผม พวกเขาเตือนผมด้วยความหวังดีว่า มันอาจไม่เวิร์ค แต่หารู้ไม่นั่นเป็นหนึ่งในสิ่งที่สร้างแรงขับดันให้ผมได้เป็นอย่างดี เมื่อผู้จัดการทีมให้ผมเป็นตัวสำรอง นั่นคือการสร้างแรงจูงใจให้ผม ผมจะคิดเสมอว่า แล้วผมจะทำให้ดู ทุกครั้งที่คนตั้งคำถามกับผม ผมจึงชอบมาก" จากคุณ : ElMinZeed เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 13:37:28

ความคิดเห็นที่ 5 นึกว่าปล่อย holiday แพ้แล้วเล่นใหม่ซะอีก จากคุณ : จอมโจรกัสเนอร์ เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 13:51:41

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณครับ... จากคุณ : borderboy เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 13:52:14

ความคิดเห็นที่ 7 โซลชาน้อมรับฉายา "ซูเปอร์ซับ" ที่ได้มาแต่โดยดี แต่ไม่เห็นด้วยว่าเขามักทำได้ดียามเป็นตัวสำรองมากกว่าตอน ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงให้กับยูไนเต็ด พร้อมชี้ว่า เพราะความเข้าใจในแท็กติก แบบทะลุปรุโปร่ง ทำให้เขาได้เปรียบตัวสำรองคนอื่น ๆ "ใช่ ผมคิดว่า ผมได้เปรียบจากการนั่งดูเกม และคิดเรื่องแท็กติก แต่สิ่งที่สำคัญคือสภาพจิตใจที่พร้อมเสมอ เมื่อผมตัดสินใจอยู่กับยูไนเต็ดต่อไป เท่ากับว่า ผมมอบชีวิตให้เจ้านาย ผมต้องทำในสิ่งที่เขาต้องการให้ผมทำและผมพร้อมเสมอขณะที่นักเตะคนอื่น ๆ อาจไม่คิดแบบนี้" นี่คือทัศนคติที่อาจทำให้ คาร์ลอส เตเวซอดีตนักเตะยูไนเต็ด ดูเป็นวายร้ายไปเลย "นักเตะบางคนเห็นแก่ตัวจนเกินไป และเอาแต่คิดมากตอนไม่ได้เป็นตัวจริง แต่ผมไม่เคยคิดแบบนั้นเลยผมรู้สึกพิเศษเสมอที่ได้ประกอบอาชีพนี้ การได้นั่งดูเกมข้างสนามติดกับผู้จัดการทีม มันดีออกจะตายไป" เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 26 พฤษภาคม ปี 1999 ถูกจารึกไว้บนหน้าประวัติศาสตร์สโมสรยูไนเต็ด เพราะมันเป็นค่ำคืนที่โซลชาลุกขึ้นมาจากม้านั่งสำรองแล้วทะลวงตาข่ายพลิกนรกกลับมาโค่น บาเยิร์น มิวนิค ช่วยให้เฟอร์กูสันคว้าแชมป์ยุโรปครั้งแรก อย่างไรก็ตามสำหรับเจ้าตัวแล้วมีบางประตูที่สำคัญไม่แพ้กันจากเกมทั้งหมด  126 เม็ด ที่ทำให้จากการรับใช้ยูไนเต็ด 366 นัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรีเทิร์นสู่สนาม และระเบิดสองประตูใส่นิวคาสเซิล ที่โอลด์แทรฟฟอร์ดในเดือน ตุลาคมปี 2006 หลังโดนอาการบาดเจ็บหัวเข่าเกาะกินนานถึงสามปี ซึ่งบีบให้โซลชาต้องยอมอำลาสนามในอีก 10 เดือนถัดมา "ผมเดินออกมาจากสนาม และเห็น โนอาห์ลูกชายตัวน้อยของผมกำหมัดชูขึ้นฟ้า" โซลชาย้อนคิด "เขาอายุ 6 ขวบ ในตอนนั้น และน่าจดจำภาพที่พ่อตัวเองทำประตูได้ที่ โอลด์แทรฟฟอร์ด นั่นถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตที่ขับดันผม เพราะเขาอายุแค่สามขวบตอนที่ผมได้รับบาดเจ็บ" "พ่อของผมเคยเป็นนักมวยปล้ำและเขาก็เป็นแชมป์ประเทศนอร์เวย์ถึงหกสมัยช่วงปี 1966-1971 แต่ผมไม่เคยเห็นพ่อปล้ำเลย ผมทำได้แค่อ่านหนังสือเอา ผมอยากให้โนอาห์ได้เห็นกับตา ไม่ใช่แค่ทำได้เพียงอ่านเอาเหมือนกับผม ผมอยากให้เขาจดจำผม" เย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา พลุไฟถูกยิงขึ้นฟ้าจนสว่างเหนือเมืองโมลด์ เพื่อฉลองความสำเร็จสโมสรซึ่งตั๋วเข้าร่วมงานในสนามความจุ 11,000 ที่นั่ง ถูกจำหน่ายเกลี้ยงตั้งแต่สามสัปห์ดาก่อนหน้า ทิ้งห่างผู้ไล่ล่า ถึง 8 แต้ม ขณะที่เหลืออีกแค่สองนัดสุดท้าย ถือว่าลูกทีมของโซลชาจิตแข็งพอตัวหลังจากที่ปล่อยให้ผลการแข่งขันกับชาร์ปสบอกร์ก กลายเป็นเพียงความไม่สะดวกเล็ก ๆ งานปาร์ตี้ในเมืองไซส์กะจิดริดที่ส่งแก๊ซจำหน่ายให้ สหราชอาณาจักร 20% อาจไม่ได้เอิกเกริกนัก แต่จะอึกทึกครึกโครมในหัวใจของเจ้าของสโมสร คเยลล์ อิงเก้ โร้คเก้ อย่างยิ่ง "นักเตะคว้าแชมป์ลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 100 ปี และเมื่อผมได้เห็นกัปตันทีมของผมชูถ้วยมันก็มหัศจรรย์มาก" โซลชาเปิดใจ "ผมเคยเป็นนักเตะที่โมลด์แห่งนี้ และท่านประธานก็อยู่ที่นี่เสมอ เขาไม่เคยสัมผัสแชมป์ลีคเช่นกันนี่จึงถือเป็นการเติมเต็ม" แต่สิ่งที่ผุดขึ้นมากลางหัวของโซลชาจริง ๆ ตอนที่ใช้เวลาสองชั่วโมงครึ่ง ทุก ๆ วัน ขับรถข้ามภูเขา เฟอร์เซ็ธจากโมลด์กลับบ้านพักที่คริสเตียนซุนด์ กับภรรยา ซิลเย่ และลูก ๆ อีกสามหน่อคือ สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา "ผมกำลังคิดถึงฤดูกาลหน้า" โซลชา กล่าว "ตอนนี้ เราเป็นแชมป์ลีค และผมก็กำลังเฝ้ารอดูวิธีการตอบสนองของลูกทีม คุณไม่สามารถปิดสวิตซ์ได้หรอกเมื่อคุณเป็นแชมป์มันควรจะต้องเป็นแรงผลักดันในฤดูกาลถัดไป" "ผมรู้ความจริงบางอย่างว่า นักเตะหนึ่งหรือสองคนในทีม อาจไม่ดีแบบนี้อีกในฤดูกาลหน้า พวกเขาคิดว่าตัวเองเจ๋งแล้ว ดังนั้นเราคงต้องมีการกล่าวคำขอบคุณ และอำลา"   ทำอย่างไรถึงจะได้แชมป์ลีกเรื่อย ๆ นี่คือ ปรัชญาแบบเฟอร์กูสันโดยแท้  The end จากคุณ : ElMinZeed เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 14:06:37

ความคิดเห็นที่ 8 Ole Gunna Solkjaer จากคุณ : ElMinZeed เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 14:09:01

ความคิดเห็นที่ 9 สุดยอดจริง ๆ นักเตะคนนี้ รู้สึกดีใจจริง ๆ ที่ผมได้ดูคุณเล่นนับตั้งแต่วันแรกที่ย้ายเข้าสู่ OT คุณคือแบบอย่างที่ดีที่สุดของนักเตะอาชีพ จากคุณ : ตัวโน้ตดนตรีที่ 18 เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 14:27:00

ความคิดเห็นที่ 10 เขียนได้ดีครับ จากคุณ : กังหันฟ้าขาว เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 14:34:32

ความคิดเห็นที่ 11 หลังจากซึมเศร้าจากการถูก นิวคาสเซิลถล่ม 5-0 ต่อด้วยการโดนเซาธ์แฮมตัน ถลุง 6-1 แพ้เซาท์แค่ 6-3 เองนะ ไม่ใช่ 6-1 ซะหน่อย (T_T) จากคุณ : natureza เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 14:54:26

ความคิดเห็นที่ 12 กรรม สงสัยยังหลอนกับเรือใบไม่หาย T_T  แก้ให้แล้วครับ จากคุณ : ElMinZeed เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 14:57:47

ความคิดเห็นที่ 13 เค้าคือยอดคน การทำทีมอาจไม่เหมือนเฟอร์กี้  แต่จากอ่านสัมภาษณ์แล้ว เลือดความสู้และความเชื่อมั่นในตัว   โซลชานั้นไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าเฟอร์กี้เลยจริงๆ นี้แหละ สายเลือด United แล้วผมจะรอวันนั้น  วันที่ที่ โซลชา กลับมาบอกลูกทีม United ให้ขายบ้านขายรถ ไปแทงพนันว่า United จะคว้าแชมป์ลีกมาได้อีกครั้ง จากคุณ : Pickmon เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 15:05:33

ความคิดเห็นที่ 14 อยากให้มารับช่วงต่อจากป๋า ตอนนี้เก็บเกี่ยวประสบการไปก่อนซัก 3 ปี เพราะถึงเวลาที่ป๋าวางมือ เลือด ต้องข้นกว่า น้ำ แน่นอน ถ้าศิษย์เก่งอาจารย์ก็หมดห่วง จากคุณ : Eye of Sauron เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 15:21:21

ความคิดเห็นที่ 15 อ่านไปเรื่อยๆ อยู่ๆน้ำตามันก็คลอเบ้าเหมือนกันค่ะ >_< คิดถึงโซลชาจัง ใจหายกับคุณพี่ไป 2 รอบ รอบแรก ตอนอำลาสนามจากการเป็นนักเตะแมนยู รอบ 2 ตอนที่อำลาจากตำแหน่งโค้ช เพื่อกลับไปคุมทีมเก่า แต่วันนี้รู้สึกดีใจกับความสำเร็จ ที่โซลชานำพาทีมเก่าเป็นแชมป์ลีคได้เป็นครั้งแรก ขออวยพรให้มีครั้งต่อๆไปตามมาอีกเยอะๆ และถ้าเป็นไปได้ คงได้เจอกันอีกครั้งในโอลด์ แทรฟฟอร์ดค่ะ ^^ จากคุณ : ตุ๊กตาไขลาน เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 15:27:19

ความคิดเห็นที่ 16 ...ผมเด็กหงส์ แต่ชอบ โซลชามาก ไม่รู้เป็นไร ผมว่า คนนี้ ทายาทท่านเซอร์ของจริง ไม่แน่ ฤดูกาลหน้า อาจถูกดึงมาเป็นผู้ช่วย จากคุณ : แสบสันต์ หมายเลข 8 เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 16:04:21

ความคิดเห็นที่ 17 ที่จริง มันยังมีอีกนัดนึงที่แพ้เชลซี 0-2 ด้วยนะ แต่คนไปจำได้เฉพาะสองนัดที่ยับเยิน จากคุณ : bbiggy เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 16:25:37

ความคิดเห็นที่ 18 คงไม่ได้มาเป็นผู้ช่วยแน่ๆครับ ถ้าจะกลับมาอังกฤษ ต้องมาเป็น"เจ้านาย"เท่านั้นครับ ถ้าจะมาเป็นผู้ช่วย อยู่ที่โมลด์ต่อไปดีกว่า จากคุณ : แข้งบวม เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 16:25:59

ความคิดเห็นที่ 19 อ่านจนจบ ทำให้ผมรู้แล้วละว่าใครคือทายาทของท่านเซอร์จริงๆ มูริญโญ่หลบไป! จากคุณ : น้องเนยตัวน้อย เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 16:42:01

ความคิดเห็นที่ 20 คิดถึงโซลชาร์มากมาย ^^ จากคุณ : fulllove4ever เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 16:55:14

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้าท่านเซอร์วางมือไป ผมอยากเห็นโชลชามาคุมทีมต่อนะ จากคุณ : บูรพาอสูร เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 17:32:28

ความคิดเห็นที่ 22 อ่านที่โซลชาพูดถึงประตูที่ยิงได้ต่อหน้าลูกแล้วประทับใจ นอกจากจะน่ายกย่องในฐานะนักฟุตบอล โซลชายังน่ายกย่องในฐานะหัวหน้าครอบครัวด้วย จากคุณ : อาร์ทบอนด์ เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 17:38:53

ความคิดเห็นที่ 23 น่าเสียดาย ที่ผมรักฟุตบอลช้าไป จึงอดเห็นโซลชาในสนาม จากคุณ : wadainor เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 19:41:07

ความคิดเห็นที่ 24 เราเชียร์ยูไนเต็ดมาตั้งแต่เด็กๆ  โซลชานี่แหละค่ะเป็นนักเตะคนแรกที่ทำให้เราตอบคำถามคนที่มาถามว่า "ชอบนักเตะคนไหนมากที่สุดในทีม?" ได้  ^__^ ยังจำนัดแรกที่โซลชาเล่นได้ลางๆ รู้สึกว่าจะยิงได้ด้วยนะถ้าจำไม่ผิด จากคุณ : ** Riviera ** เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 19:57:32

ความคิดเห็นที่ 25 ยังคงคิดถึงน้าลูกอมมากฮะ คืนนั้นที่คัมป์ นูไม่มีใครลืมวีรกรรมน้าแน่ อวยพรให้ซีซั่นหน้าป้องกันแชมป์แล้วไปซ่าในเวทียุโรปด้วยกัน ถ้าจับสลากมาเจอยูไนเต็ดจะเป็นอะไรที่เพอร์เฟ็กต์มาก จากคุณ : มายฟอร์เอฟเวอร์ฮีโร่...โซลชา (FireLion) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 21:23:28

ความคิดเห็นที่ 26 ดูรูปแล้วนึกถึงอากาศที่ยุโรป มันน่าออกกำลังกายมากมาย..   เย็นสบายวิ่งแล้วสดชื่นไม่เหมือนบ้านเรา  กทม จะธันวาแล้วยัง 33องศาอยู่เรยบระจ้๊าว -*- จากคุณ : nokun เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 21:41:53

ความคิดเห็นที่ 27 อ่านแล้วร้องไห้จริงๆ นะ แม้จะเป็นผู้ชายก็หอะ (อายว่ะ 555) เพราะพออ่านแต่ละบรรทัด แต่ละตัวอักษร ภาพความทรงจำดีๆ ที่ชายคนนี้เคยทำมาให้เห็นตลอดชีวิตนักเตะสีเสื้อยูไนเต็ดมันลอยมาในหัวเต็มไปหมด นับจากวันแรกที่โอเล่เข้ามาในทีมวันแรก ตอนนั้นยังเป็นข่าวเล็กๆ อยู่ในเสี้ยวมุมของหนังสือพิมพ์กีฬาเท่านั้นเอง ... แต่วันที่ผู้ชายคนนี้เลิกเล่นจากยูไนเต็ด แทบจะเป็นข่าวหน้าหนึ่งทุกฉบับ ... ช่างย่งใหญ่จริงๆ หนึ่งในความภูมิใจของการเชียร์ยูไนเต็ดตลอดมา คือการได้เห็นโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ เล่นให้กับทีมตลอดทุกนัดนี่แหละ จากคุณ : Noah_1_of_4lnw เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 22:14:39

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณนะคะ เราจะรอวันที่นายคุมยูไนเต็ด จากคุณ : Fmaj15 (Fmaj15) เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 00:41:31

ความคิดเห็นที่ 29 ตอนแมนยูมาไทย คนที่ผมอยากได้ลายเซ็นมากๆคือ เบ๊คแฮม แต่คนที่ผมได้มาแทน คือ โซลชา ซึ่งตอนนั้น ผมแบบเฉยๆมาก จนบัดดี้ ผมรู้แล้วว่า พี่มีคุณค่ามาก ไม่น้อยไปกว่า ไม่สิ... อาจจะมากกว่า พี่เบ๊ค ที่ผมชอบด้วยซ้ำ T^T จากคุณ : Kadaj17 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 00:54:41

ความคิดเห็นที่ 30 เป็นคนที่น่าเอาอย่างในทุกๆด้านทั้งในฐานะนักเตะ และมนุษย์ จากคุณ : roykim53 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 01:13:16

ความคิดเห็นที่ 31 รักผู้ชายคนนี้มาก จากคุณ : All of love เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 02:20:02

ความคิดเห็นที่ 32 สุดยอดอ่ะ สโรชา(ดูบอลตอนแรกๆเข้าใจว่าเค้าชื่อสโรชาจิงๆนะ คิดอยู่ในใจชื่อไทยจัง แหะๆ)ของเรา จากคุณ : F7en_man-u เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 03:43:01

ความคิดเห็นที่ 33 ไม่ชอบแมนยู แต่ชอบผู้ชายคนนี้จริงๆ เวลาแมนยูวิกฤต เปลี่ยนผู้ชายคนนี้ลงมาครึ่งหลังทีไรไม่เคยผิดหวัง และชอบสปิริตมาก ถูกดองให้นั่งสำรอง ไม่เคยงอแง แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 54 09:25:49 จากคุณ : Icy เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 09:24:39

ความคิดเห็นที่ 34 เป็นนักฟุตบอลที่ผมชอบมากที่สุดของ ManU   ผมชอบทัศนคติของเค้า ในการยอมรับว่าการเป็นส่วนหนึ่งของทีม มันคือความสำคัญและมีคุณค่าเสมอ ตัวสำรองก็ไม่ได้สำคัญยิ่งหย่อนไปกว่าตัวจริง เพราะถ้าคุณรู้คุณค่าของตัวเอง เมื่อโอกาสมีมาถึง คุณจะสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้เสมอ จากคุณ : ARMS STRONG เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 09:26:41

ความคิดเห็นที่ 35 สมัยแกเป็นนักเตะนี่เป็นอะไรที่หลอนมาก แมนยูทำท่าจะเจียนอยู่เจียนไปทีไร พอเปลี่ยเอาแกลงมาเท่านั้นแหละนั่งไม่ติดทุกที เหมือนเป็นไม้ตายของป๋า ต้องรอเกจท่าไม้ได้ตายเต็มถึงกดท่าติด - - จากคุณ : palanaka เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 09:36:08

ความคิดเห็นที่ 36 ขออนุญาตเอาไปลงใน TOD นะคะ จากคุณ : Blue Wednesday เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 10:17:31

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณค่ะ น้ำตาไหล คิดถึงมากๆ จากคุณ : กลุ้มใจเเฟนไม่รัก เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 11:04:05

ความคิดเห็นที่ 38 โซลชาเป็นสุดยอดนักฟุตบอลและเป็นสุดยอดคุณพ่ออีกด้วย ประทับใจมากๆจริงๆ จากการอ่านบทความนี้รู้เลยว่าโซลชาสามารถประสบความสำเร็จได้จากอะไร นอกจากจะมีฝีเท้าที่ดีแล้ว โซลชายังเป็นคนใฝ่รู้ จดบันทึกสิ่งที่สามารถนำไปพัฒนาตัวเองได้ จดและจำได้ถึงขนาดตอนที่ัตัวเองโดนลูกพี่คีนตะโกนใส่หน้าได้นี่ ไม่ธรรมดาจริงๆ ฮ่าๆ ปล.หน้าโซลชานี่เด็กจริงๆนะนี่ ขอบคุณมากสำหรับบทความดีดีนี้ จากคุณ : จันทราที่มองเหม่อ เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 11:40:34

ความคิดเห็นที่ 39 20legend...... เป็นมากกว่านักเตะ..........โซลชาร์ ทำให้ผมนึกถึง โรบี้ บักโจ้ นะครับ เป็นที่รักของแฟนทุกทีม ไม่เว้นแม้แต่ทีมตรงข้าม เป็นที่เคารพของคู่แข่ง ไม่ว่าทีมไหน......... จากคุณ : เจ้าชายเท้าเปล่า เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 12:33:00

ความคิดเห็นที่ 40 ผมพูดแบบนี้ บ่อยแล้ว เวลาที่มีใครพูดถึง โซลชา แต่ผมก็ต้องพูดมันอีกครั้ง ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณทำให้กับพวกเรา ผมซาบซึ้งมากจริงๆ เวลาคิดถึงคุณ มันมีแต่เรื่องดีๆที่คุณทำให้ ยูไนเต็ดเสมอมา เราจะเป็นกำลังใจให้คุณและคิดถึงคุณเสมอ เพชรฆาตหน้าทารก โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จากคุณ : beckkeng_7 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 14:24:16

ความคิดเห็นที่ 41 "เคยมีคนบอกว่า ไบรอัน ร็อบสัน อาจจะได้เป็นในสักวัน" เอ่อ... ดีแล้วครับที่ไม่ใช่ร็อบโบ้ - -" จากคุณ : A E Y A U D D A เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 17:28:58

ความคิดเห็นที่ 42 ชายคนนี้แหละทำผมน้ำตาตก ตอนปี 99 จากคุณ : คงซ้ำอีกสิท่า เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 17:47:54

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณมากนะคะที่อุตส่าห์พิมพ์มาให้อ่านกัน ^^ อ่านแล้วน้ำตาคลอค่ะ ไม่ใช่แค่จากเนื้อหาในกระทู้นี้ แต่แต่ละประโยคมันแสดงถึงสายเลือดยูไนเต็ดอย่างแท้จริง หวังว่าสักวันจะได้เห็นโซลชามายืนอยู่ข้างสนามขณะทีมเราแข่งค่ะ จากคุณ : เด็กหญิงชาเย็นปั่น เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 19:45:21

ความคิดเห็นที่ 44 ตอนที่ยังเป็นนักเตะ เฟอร์กี้ก็เคยพูดไว้ว่าโซลชาเป็นคนที่เข้าใจแทคติคได้ดีมาก มองเกมได้ทะลุปรุโปร่งเลย โซลชาคนนี้แหละ...ทายาทป๋าเฟอร์กี้ จากคุณ : red@rmy เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 20:47:31

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณสำหรับกระทู้นี้นะคะ สำหรับน้าโอเล่ เป็นคนที่ทำให้เชียร์แมนยูเลยแหละ อยากให้น้ากลับมาคุมทีมต่อจากป๋า เพราะน้าแกซึมซับความเป็นยูไนเต็ดไว้เต็มที่ จากคุณ : ผักทอดยอด เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 54 21:44:15

ความคิดเห็นที่ 46 น้าลูกอมสุดยอดจริงๆ จากคุณ : SamuDi Knight เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 54 21:48:12

ความคิดเห็นที่ 47 คนนี้ เทพมากๆ สิ่งที่บ่มเพาะจากการเป็นตัวสำรองสินะ ที่ทำให้มีเวลามองแทคติคของฟุตบอลจนทะลุปรุโปร่ง ผลลัพธ์เลยออกมาแบบนี้ เตเวชเทียบไม่ติดเลยว่ะ ทั้งฝีเท้าและทัศนคติ จากคุณ : เขียนบน iPad (ชายหลอน) เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 54 23:15:43

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคืนสำหรับค่ำคืนวันนั้น 23 พ.ค1999 ป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุด จากคุณ : Who put the all? (kreingwit) เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 16:37:51

ความคิดเห็นที่ 49 เป็นนักบอลของแมนยูหนึ่งในสองที่ชอบมากที่สุดร่วมกับแบคแฮม เกลียดอย่างเดียวคือตอนลงมาสำรองแล้วยิงบาิเยิร์นกับลิเวอร์พูลของผม จากคุณ : ทิวไผ่ลู่ลม เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 20:33:07

ความคิดเห็นที่ 50 เมื่อก่อนเริ่มเชียร์แมนยูฯเพราะน้ากิ๊กส์ ต่อมาประทับใจคิง สุดท้ายโซลชาแซงหมดทุกคนเลย วันที่น้าแขวนสตั๊ดน้ำตาไหลเลยครับ ขอบคุณบทความดีๆ นี้ด้วย จากคุณ : Pa_New341 เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 20:46:03