ความคิดเห็นที่ 1 << กระทู้ทายผลบอล EPL >> วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน 54 เวลา 23:30  น. {{{ ลิเวอร์พูล v แมนเชสเตอร์ ซิตี้ }}} มีสมาธิ หวังพิชิตหงส์แกร่ง http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S11378058/S11378058.html http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S11378058/S11378058.html http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S11378058/S11378058.html จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 07:36:12

ความคิดเห็นที่ 2 โปรแกรมพรีเมียร์ลีก สุดสัปดาห์นี้ จากคุณ : น้ำองุ่น จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 07:37:08

ความคิดเห็นที่ 3 โปรแกรมนัดต่อไปของแมนซิตี้ จากคุณ : น้ำองุ่น จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 07:38:08

ความคิดเห็นที่ 4 ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก ก่อนเกมแข่งขันสัปดาห์นี้ จากคุณ : น้ำองุ่น จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 07:39:07

ความคิดเห็นที่ 5 มันโช่เปรยขุมกำลังเรือไม่แกร่งพอซิวถ้วยชปล.      โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือมาดเท่ แมนฯ ซิตี้  รับขุมกำลังของทีมในเวลานี้ยังไม่ดีพอ เมื่อเทียบกับ เรอัล มาดริด, บาร์ซ่า, บาเยิร์น และ มิลาน ในการคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก พร้อมรับไม่ผิดหวังฟอร์มของลูกทีม และหวัง "เรือใบสีฟ้า" จะได้เล่นในถ้วย "บิ๊กเอียร์" ต่อไป        โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้จัดการทีมชาวอิตาเลียนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรมหาเศรษฐีแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล้าพูด บอกขุมกำลังที่รวมไปด้วยนักเตะซูเปอร์สตาร์มากมาย ยังไม่ดีพอที่จะประสบความสำเร็จ คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลนี้        "เรือใบสีฟ้า" ต้องเจองานหนักเหมือนเข็นครกขึ้นภูเขา ในการผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังแพ้ นาโปลี เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยพวกเขาต้องเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค ในเกมสุดท้ายให้ได้ พร้อมทั้งลุ้นให้ บียาร์เรอัล ไม่แพ้ "อัซซูร่า"        ช่วงที่ผ่านมา แมนฯ ซิตี้ ควักกระเป๋าไปกว่า 500 ล้านปอนด์ (ราว 25,000 ล้านบาท) เพื่อเสริมทัพ แต่ มันชินี่ ยังมองว่า ลูกทีมของตนยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะคว้าแชมป์ถ้วยใบโตยุโรป "เราหวังว่า เราจะสามารถเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค และ นาโปลี พลาดเสียแต้มให้ บียาร์เรอัล แต่ผมคิดว่า เราน่าจะทำได้"        "ผมไม่คิดว่า เราเป็นทีมที่จะคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ เพราะ เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิค และ เอซี มิลาน อาจจะดีกว่าเรา และพวกเขาก็มีประสบการณ์มากกว่าเราใน แชมเปี้ยนส์ ลีก"        นอกจากนี้ "มันโช่" ยืนยันว่า ไม่ผิดหวังกับฟอร์มการเล่นของทัพ "เรือใบสีฟ้า" ในแมตช์แพ้ นาโปลี "ผมหวังว่าเราจะได้อยู่ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อไป ถ้าเราต้องตกไปเล่น ยูโรปา ลีก เราก็จะพยายามคว้าแชมป์ให้ได้ มันไม่เหมือนกับ แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็จริง แต่สำหรับเรา มันเป็นโทรฟี่ที่สำคัญมาก"        "ผมหวังว่า เราจะได้อยู่ต่อ เพราะหลังจากรอบแบ่งกลุ่ม แชมเปี้ยนส์ ลีก แล้ว สถานการณ์มันแตกต่างออกไป ถ้าคุณได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบสอง บางทีคุณก็มีสิทธิ์พบกับ อาโปเอล นิโคเซีย หรือ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น และคุณก็มีสิทธิ์ผ่านไปได้ แต่ผมไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราทำทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้ว และผมคิดว่า เราทำผลงานได้ดี" มันชินี่ ระบุ http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/111126_040.html แก้ไขเมื่อ 26 พ.ย. 54 07:43:30 จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 07:42:30

ความคิดเห็นที่ 6 มันโช่ปัดตอบคำถามอนาคตเตฟ ยอมรับเรือยังไม่ดีพอซิวยูซีแอล มันชินี่ ปฏิเสธตอบเรื่อง เตเวซ หลังมีรายงานว่าเจ้าตัวกำลังหาทางย้ายไปศึกกัลโช่ เซเรีย อา แต่เลือกที่จะพูดถึงความหวังในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทั้งนี้ยอมรับ "เรือใบสีฟ้า" ยังไม่ดีพอสำหรับรายการนี้ เหตุมีทีมที่มีประสบการณ์ในรายการนี้มากกว่านั่นเอง โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้จัดการทีม "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามใดๆ เกี่ยวกับ คาร์ลอส เตเวซ ศูนย์หน้าเจ้าปัญหา หลังจากมีรายงานว่าดาวเตะเลือด "ฟ้า-ขาว" กำลังมองหาลู่ทางย้ายไปค้าแข้งยังศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ท่ามกลางความสนใจจาก เอซี มิลาน และ ยูเวนตุส โดยกุนซือชาวอิตาเลี่ยน เลือกที่จะพูดถึงความหวังในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แทน "มันโช่" ยอมรับว่าโอกาสของ "เรือใบ" ในฟุตบอลยุโรปมีเหลือไม่มาก หลังจากบุกไปแพ้ นาโปลี แต่ยังหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นในนัดสุดท้าย ซึ่งพวกเขาต้องชนะ บาเยิร์น มิวนิค และลุ้นให้ บียาร์เรอัล ไม่แพ้ นาโปลี อย่างไรก็ดี แม้จะผ่านเข้ารอบได้จริง "ซิตี้" ก็ยังไม่ดีพอที่จะไปถึงแชมป์ เนื่องจากเวลานี้ยังมีทั้ง บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด, บาเยิร์น และ อินเตอร์ มิลาน ที่มีประสบการณ์มากกว่า http://www.sportradiothai.com/news/news.php?id_news=33026 จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 07:45:35

ความคิดเห็นที่ 7 มันโช่หวังเข้ารอบชปล.-รับเรือไม่พร้อมคว้าถ้วยนี้ Report by : redenzo โรแบร์โต้ มันชินี่กุนซือของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ยังคงหวังที่จะผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมแชมป์เปี้ยนส์ลีกให้ได้แต่ก็ยอมรับว่าทีมของเขาคงไม่มีทางลุ้นแชมป์บิ๊กเอียร์ได้ "เรือใบสีฟ้า"เพิ่งปราชัยให้กับนาโปลีไป 2-1 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาทำให้โอกาสในการผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุึดท้ายต้องลุ้นกันหนัก แมนฯ ซิตี้จำต้องปราบบาเยิร์น มิวนิคจ่าฝูงของกลุ่มเอให้ได้และหวังให้บีญาร์เรอัลที่ตอนนี้เป็นทีมบ๊วยของกลุ่มไม่พ่ายให้กับนาโปลี มันชินี่เองก็ยังไม่ยอมแพ้ในการผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์แต่ก็รู้สึกว่าทีมของเขาไม่สามารถคว้าถ้วยแชมป์เปี้ยนส์ลีกมาครองได้อย่างแน่นอน "เราหวังว่าเราจะได้อยู่ในแชมป์เปี้ยนส์ลีกต่อไปนะ"มันชินี่ให้สัมภาษณ์ "เราหวังว่าจะปราบบาเยิร์น มิวนิคลงได้และบีญาร์เรอัลยันเสมอกับนาโปลีได้" "แต่เราก็ต้องนึกถึงความเป็นจริงไว้ด้วย ผมไม่คิดว่าเรายังไม่มีทีมที่จะคว้าแชมป์เปี้ยนส์ลีกได้ในฤดูกาลนี้" "เรอัล มาดริด, บาเยิร์น มิวนิค, บาร์เซโลน่าและอินเตอร์ มิลานต่างเป็นทีมที่มีประสบการณ์มากกว่าเรา" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=514567 จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 07:48:12

ความคิดเห็นที่ 8 คิดเร็วทำเร็ว!เรือรุกคืบคุยตัวแทน "คาวานี่" แล้ว Report by : บุ๊ค ฟอร์ลัน "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกยังคงไม่พอใจในขุมกำลังของตัวเองตัดสินใจเดินเกมเร็วส่งตัวแทนเข้าคุยกับเอเย่นต์ของ เอดินสัน คาวานี่ ตัวรุกจอมโหดของนาโปลีเรียบร้อยแล้ว Daily Star. สื่อดังแห่งเมืองผู้ดีรายงานว่า โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือของซิตี้ได้วางตัวคาวานี่เป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งเพื่อมาแทน คาร์ลอส เตเบซ ที่ใกล้อำลาทีมเต็มแก่ และล่าสุดทีมเรือใบได้ส่งตัวแบร์รี่ ฮันเตอร์หัวหน้าแมวมองเข้าคุยกับเอเยนต์ส่วนตัวของดาวเตะอุรุกวัยภายหลังเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งคู่ใช้เวลาถกกันนานหลายชั่วโมงในร้านอาหารแห่งหนึ่งในอิตาลีและดูท่าว่าซิตี้หวังจะปิดดีลให้ได้ในเดือนมกราคมนี้ http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=514304 จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 07:50:28

ความคิดเห็นที่ 9 เรือจ๋อย!คาวานี่ยันขออยู่ช่วยนาโปลีต่อ Report by : redenzo อดกันไปหลังเอดินสัน คาวานี่กองหน้าของนาโปลียืนยันว่าจะไม่คิดเรื่องย้ายออกจากทีมไปอยู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้และขออยู่ช่วยต้นสังกัดต่อไป ดาวเตะชาวอุรุกวัยยิง 2 ประตูให้นาโปลีเอาชนะแมนฯ ซิตี้ไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาและเขาก็ได้ตกเป็นเป้าหมายของ"เรือใบสีฟ้า"ด้วย โรแบร์โต้ มันชินี่ต่างจับตาดูเขาอยู่รวมไปถึงเอเซเกล ลาเวซซี่และมาเร็ค ฮัมซิคอีก 2 เพื่อนร่วมทีมของเขาด้วยแต่คาวานี่ก็ยืนยันว่ายังไม่คิดเรื่องจะย้ายออกจากซาน เปาโล "ผมจะโฟกัสเพียงแค่นาโปลีเท่านั้น ผมพร้อมที่จะเจอความท้าทายเสมอและยังเล่นในลีกใหญ่ได้ แต่ผมก็มีความสุขมากที่ได้ทำแบบนั้นกับนาโปลี"คาวานี่บอกกับเดลี่ มิร์เรอร์ "เราทำให้ตัวเองมีโอกาสผ่านเข้ารอบแชมป์เปี้ยนส์ลีก เราทำให้แมนฯ ซิตี้ะ่ายและเราก็จะมีสมาธิกับที่ตัวเราเองเท่านั้น" "ไม่สำคัญหรอกนะว่าซิตี้จะให้ความสนใจมากขึ้นหรือเปล่า เพราะจุดหมายเดียวของผมคือช่วยนาโปลีในศึกแชมป์เปี้ยนส์ลีก" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=514658 จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 07:58:03

ความคิดเห็นที่ 10 เรือ,สิงห์,ราชันจ๋อย!คาวานี่ยันแฮปปี้กับนาโปลี        เอดินสัน คาวานี่ หัวหอกฟอร์มฮอตของ "อัซซูร่า" นาโปลี ออกโรงยืนยันว่ามีความสุขกับต้นสังกัดและไม่คิดจะย้ายทีมแต่อย่างใด หลังจากมีข่าวว่าเจ้าตัวตกเป็นเป้าหมายของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รวมถึง เชลซี, เรอัล มาดริด, เอซี มิลาน และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง        เอดินสัน คาวานี่ ศูนย์หน้าทีมชาติอุรุกวัยของ นาโปลี สโมสรแกร่งเวทีกัลโช่ เซเรีย อา ออกมายืนยันว่ามีความสุขกับการค้าแข้งในถิ่น ซาน เปาโล หลังจากมีรายงานข่าวว่า เจ้าตัวตกเป็นเป้าหมายของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มหาเศรษฐีพรีเมียร์ลีก จากการที่ยิงคนเดียว 2 ประตูนำทัพ "อัซซูร่า" คว้าชัย 2-1 เหนือ "เรือใบสีฟ้า" ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ เมื่อวันอังคารที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา        ในเวลานี้ คาดกันว่ามีสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรปที่พร้อมต่อคิวรอล่าลายเซ็นของ คาวานี่ ไม่ว่าจะเป็น เชลซี, เรอัล มาดริด, เอซี มิลาน และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทว่า หัวหอกวัย 24 ออกมายืนยันว่า จะฝากอนาคตกับ นาโปลี ต่อไปอย่างแน่นอน เนื่องจากมีความสุขในการใช้ชีวิตในเมือง เนเปิ้ลส์ "ผมเป็นนักเตะของ นาโปลี และผมมีความสุขดีที่นี่"        ขณะเดียวกัน เคลาดิโอ อเนลลูซี่ เอเยนต์ของ คาวานี่ ออกมาปฏิเสธข่าวที่ว่า เขาได้พูดคุยกับ แบร์รี่ ฮันเตอร์ หัวหน้าทีมแมวมองใน อิตาลี ของ แมนฯ ซิตี้ ถึงความเป็นไปได้ในการย้ายทีมของนักเตะในความดูแลของตน โดยระบุว่า "หนังสือพิมพ์ในอังกฤษมักจะตีข่าวช้าไปประมาณ 1 ปีครึ่งได้มั้ง ผมยืนยันได้ว่าผมได้พบกับ ฮันเตอร์ ที่กรุงโรม แต่เราไม่ได้คุยกันถึงเรื่อง คาวานี่ ผมแค่เสนอดาวรุ่งชาวอาร์เจนตินาให้กับทาง ซิตี้ เท่านั้น" http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/111125_157.html จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 08:05:00

ความคิดเห็นที่ 11 เอาคาวานี่เกาไม่ถูกที่คันเท่าไรหรอกครับ ต้องเอามิดฟิลด์ตัวรุุกตรงกลางครับ ตรงกลาง เนี่ย ทั้งยาย่า แบร์รี่ เดยอง ธรรมชาติเป็นพวกตัวโฮลดิ้งและตัวรับ มากกว่าจะเป็นตัวรุุุุุุุุุุุุุุุุุุก หรือการขยับ มิลเนอร์ บ้าง นาสรี บ้าง หรือ ซิลบา มาเล่นตรงกลาง ก็เป็นการเกาไม่ถูกที่คันเท่าไร เพราะธรรมชาติพวกนี้ มีประสิทธิภาพที่เกมริมเส้น ซิตี้ต้องเอากลางตัวรุก ที่สามารถคุมเกมได้ สร้างสรรค์เกมรุกได้มาเสริมครับ เช่น กาก้า ชไนเดอร์ โมดริด  โอซิล  ฮัมซิคฯ พูดจริงๆ ถ้าจะเอา คาวานี่ เอา ฮัมซิค ดีกว่าอีกครับ จากคุณ : atk เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 08:05:54

ความคิดเห็นที่ 12 ชูรับเชี่ยนไม่ปิดโอกาสเตฟซบมิลานแบบยืมตัว     เคีย ชูรับเชี่ยน เอเยนต์ส่วนตัวของ คาร์ลอส เตเวซ กองหน้าเจ้าปัญหาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไม่ปิดโอกาสที่พ่อค้าแข้งภายใต้ความดูแลของตน ย้ายไปร่วมทัพ เอซี มิลาน ยักษ์ใหญ่ในกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ด้วยสัญญายืมตัวในตลาดซื้อ-ขาย นักเตะรอบ 2 เดือนมกราคมปีหน้า     เคีย ชูรับเชี่ยน เอเยนต์ส่วนตัวของ คาร์ลอส เตเวซ กองหน้าเจ้าปัญหาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไม่ปิดโอกาสที่พ่อค้าแข้งภายใต้ความดูแลของตน จะย้ายไปร่วมทัพ เอซี มิลาน ยักษ์ใหญ่ใน กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ด้วยสัญญายืมตัวในตลาดซื้อ-ขายนักเตะรอบ 2 เดือนมกราคม ปีหน้า     ก่อนหน้านี้ สื่อในแดนมะกะโรนีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาว่า ชูรับเชี่ยน ได้เข้าพบกับผู้บริหารของ "ปีศาจแดง-ดำ" ที่สำนักงานของสโมสร เพื่อคุยกันถึงการหาช่องทางที่จะทำให้ดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์ ย้ายมาค้าแข้งกับยอดทีมแห่งถิ่น ซาน ซิโร่ ในช่วงเดือนมกราคม ปีหน้า ซึ่งนายหน้าคนดังก็ไม่ปฏิเสธกับเรื่องนี้     ชูรับเชี่ยน กล่าวกับ "สกาย สปอร์ต อิตาเลีย" สื่อในประเทศอิตาลีว่า "ผมได้คุยกับ เตเวซ ซึ่งเราไม่ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน แต่เขาจะย้ายไปเล่นใน เซเรีย อา ได้ไหมน่ะเหรอ? ได้แหงอยู่แล้วสิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? อิตาลีเป็นที่ที่ยอดเยี่ยม ฟุตบอลของที่นั่นยิ่งใหญ่ และกำลังก้าวขึ้นมาเป็นที่โด่งดังอีกครั้ง เอซี มิลาน คือสโมสรที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่"     ทั้งนี้ เตเวซ ไม่เคยถูก "เรือใบสีฟ้า" เรียกใช้งานอีกเลย นับตั้งแต่เรื่องอื้อฉาวที่เจ้าตัวปฏิเสธลงเป็นตัวสำรอง ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ ที่ต้นสังกัด แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 0-2 เมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ส่วน มิลาน ก็กำลังหากองหน้าคนใหม่ ที่จะมาเล่นแทน อันโตนิโอ คาสซาโน่ ที่เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดหัวใจเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งทำให้นี่อาจเป็นทางออกที่ลงตัวกับทั้ง 2 ฝ่ายในที่สุด http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/111126_107.html จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 08:08:03

ความคิดเห็นที่ 13 ดัลกลิชชี้ไม่อิจฉาเรือใบมีงบช็อปมโหฬาร        เคนนี่ ดัลกลิช นายใหญ่ ลิเวอร์พูล ยืนยัน ไม่เคยนึกอิจฉาตาร้อนที่ แมนฯ ซิตี้ คู่แข่งในวันอาทิตย์นี้ มีงบซื้อนักเตะได้แทบไร้ขีดจำกัด เพราะทีมไหนๆ ก็ย่อมอยากจะมีสถานะด้านการเงินที่ดีอย่าง "เรือใบสีฟ้า" อยู่แล้ว        เคนนี่ ดัลกลิช ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ทีมชั้นนำแห่งวงการ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่า การบ่นถึงเรื่องที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่แข่งเกมลีกของพวกเขาในวันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายนนี้ มีความร่ำรวยมากแค่ไหนนั้น เป็นเรื่องที่ไม่มีความสำคัญใดๆ และไม่อาจช่วยให้ทีมของตนเอาชนะทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นทีมใด ก็ย่อมอยากจะมีสถานะทางการเงินแบบเดียวกับ "เรือใบสีฟ้า" อยู่แล้ว        "คิงเคนนี่" ที่เคยคุม แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในช่วงปี 1991-95 ซึ่งเคยมีนโยบายการซื้อ-ขายคล้ายกับ แมนฯ ซิตี้ กล่าวว่า "ไม่ว่าใครก็ย่อมดีใจมากอยู่แล้ว ถ้าคุณเป็นสโมสรฟุตบอลที่อยู่ในสถานะที่ดีเหมือนกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แล้วล่ะก็นะ พวกเขาเหมือนกันเป๊ะ (กับ แบล็คเบิร์น ช่วงที่ ดัลกลิช คุม) เลย พวกเขาอยู่ในสภาพที่สามารถแข่งขันทางด้านการเงิน เพื่อคว้านักเตะคนไหนก็ตามในโลกนี้มาร่วมทีมได้ โดยไม่ต้องสนว่า ค่าเหนื่อยกับราคาซื้อขายจะมากขนาดไหน"         "คุณลองบอกชื่อแฟนบอลที่ไม่อยากเห็นทีมรักของตัวเองสามารถทำอย่างนั้นได้ให้ผมฟังสักชื่อสิ จริงอยู่ว่ามันอาจทำให้ตลาดซื้อ-ขายนักเตะเกิดความบิดเบือน แต่ไม่ใช่ว่าเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นอยู่ตลอดหรอกเหรอ? มันเป็นเรื่องที่ยากกว่าสำหรับบางทีมอยู่แล้วที่จะสู้ในเรื่องนี้กับทีมอื่นๆ ได้ ไม่มีใครหรอกที่ไม่อยากมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งเหมือนกับพวกเขา ซึ่งเราต้องยอมรับกับเรื่องนี้ ผมไม่กังวลหรอก" กุนซือวัย 60 ปี เผย http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/111126_085.html จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 08:15:37

ความคิดเห็นที่ 14 หน้าลิงชี้ดีลบายอร์,ปาร์คเกอร์โคตรสำคัญ Report by : Zaine_R แกเร็ธ เบลปีกหน้าลิงของท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์สได้ออกมายอมรับว่า ฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมของสโมสรในฤดูกาลนี้มาจากสองนักเตะหน้าใหม่ที่เข้ามาเติมเต็มให้กับทีม สก็อตต์ ปาร์คเกอร์ที่ย้ายมาจากเวสต์แฮมนั้นช่วยทำให้มิดฟิลด์ของ “ไก่เดือยทอง” แน่นปั้กขึ้นไม่ว่าจะทั้งรุกทั้งรับ รวมทั้งการมาของเอ็มมานูเอล อเดบายอร์ก็ช่วยเสริมคมในแดนหน้า เพราะยิงไปแล้ว 5 ประตูจาก 9 เกม “พวกเขาเป็นการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมของเรา” เบลกล่าวกับ Daily Mail “พวกเขาได้เข้ามาเพิ่มมิติในทีม ทั้งสก็อตต์และอเดได้แสดงให้เราเห็นแล้วว่าพวกเขาสามารถทำอะไรได้และมันทำให้เราเพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้น มีคุณภาพในการเล่นสูงขึ้น” http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=514481 จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 08:18:07

ความคิดเห็นที่ 15 อเดยกแข้งไก่ทำงานหนักส่งฟอร์มเทพ       เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ หัวหอกตัวเก่ง สเปอร์ส เชื่อฟอร์มที่ฮอตเกินห้ามใจของต้นสังกัดชั่วคราว มาจากการทำงานหนักของเพื่อนร่วมทีมทุกคน ชี้นักเตะ "ไก่เดือยทอง" เล่นเต็มสูบทั้งเกมรุก และเกมรับ แถมวิ่งสู้ฟัดไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยด้วย        เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ กองหน้าตัวยืมชาวโตโกของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สโมสรฟอร์มแรงแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เชื่อฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรงของทัพ "ไก่เดือยทอง" ในช่วงเวลานี้ เกิดจากการทุ่มเททำงานหนักร่วมกันของเพื่อนร่วมทีม        หัวหอกวัย 27 ปี ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ซัดไปแล้ว 5 ประตู จากการเล่นเกมลีกเมืองผู้ดี 9 แมตช์ รวมทั้งเพิ่งจะสวมบทฮีโร่ สอย 2 ตุง ในเกมชนะ แอสตัน วิลล่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จนส่งให้ สเปอร์ส พุ่งขึ้นไปรั้งในอันดับ 3 เรียบร้อยแล้ว        อเดบายอร์ เผยว่า "การยิงประตูไม่ใช่ทุกอย่าง แต่มันขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณทำในเกม คุณต้องเล่นเกมรับเพื่อทีม วิ่งสู้ฟัดเพื่อทีม ตัวผม, ราฟา (ฟาน เดอร์ ฟาร์ท), อารอน เลนน่อน, แกเร็ธ (เบล) เราทุกๆ คนช่วยกันเล่นเกมรับ เราทุกคนพยายามเล่นเกมรับเพื่อทีม เราเข้าปะทะ, วิ่งไม่หยุด, ป้องกันประตู และเล่นให้ดี รวมทั้งคว้าชัยชนะ ทุกๆ คนต้องทำงานเพื่อทีม"        "เราเคยพูดเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่า เราอยากทำให้มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับเราในการสู้กับ วิลล่า การทำแบบนี้เราต้องทำงานหนัก แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น เล่นเกมรับ และเปิดเกมรุกกันเป็นทีม เราทำได้ดี ผลการแข่งขันแสดงออกมาให้เห็นแล้ว" อดีตสตาร์ เรอัล มาดริด และ อาร์เซน่อล ระบุ http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/111126_069.html จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 08:24:29

ความคิดเห็นที่ 16 ปรีวิวพรีเมียร์ ลีก วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2554 Report by : Zaine_R สโต๊ค ซิตี้ v แบล็คเบิร์น(19.45 น.) โจนาธาน วูดเกตปราการหลังของสโต๊คกลับมาลงซ้อมได้แล้วในอาทิตย์นี้ หลังจากมีปัญหาที่น่องและน่าจะพร้อมลงสนามด้วย วิลสัน ปาลาซิออสหายเจ็บที่หัวเข่าแล้วและน่าจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเกมแรกในพรีเมียร์ ลีกให้กับทีมด้วย สตีฟ คีนกุนซือเก้าอี้ร้อนของแบล็คเบิร์นนั้นดูท่าจะต้องปรับตัวผู้เล่นจากเกมกับวีแกน เดวิด ดันน์นั้นติดโทษแบน 1 เกม หลังจากไปโดนไล่ออกในเกมดังกล่าว เบนฟรีคิกฟันธง : เสมอ 1-1 ........................................................................................................... แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด v นิวคาสเซิ่ล(22.00 น.) “ปีศาจแดง” นั้นจะต้องเช็กความฟิตของเวย์น รูนี่ย์เสียก่อน หลังจากที่เขาพลาดเกมกับเบนฟิก้าในแชมป์เปี้ยนส์ ลีกไปเพราะอาการบาดเจ็บ อันแดร์สันเป็นอีกหนึ่งข่าวร้ายของแมนฯยูไนเต็ด เมื่อเขาต้องพักยาวจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากเจ็บหัวเข่า นิวคาสเซิ่ลหวังว่าจะได้ทั้งชีค ทิโอเต้(หัวเข่า)และลีออน เบสท์กลับมาลงเล่นให้กับทีมอีกครั้ง กาเบรียล โอแบร์ตองหวังที่จะเจอกับอดีตต้นสังกัดของเขา ด้วยความพยายามจะหายเจ็บให้ทันลงเล่นเกมนี้ เบนฟรีคิกฟันธง : เสมอ 0-0 ........................................................................................................... ซันเดอร์แลนด์ v วีแกน(22.00 น.) สตีฟ บรูซกุนซือของซันเดอร์แลนด์กำลังพิจารณาว่าจะให้คีแรน ริชาร์ดสันลงเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกดีหรือไม่ เพื่อที่จะเสริมความน่ากลัวให้กับเกมบุกของพวกเขา เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์นั้นกลับมาลงซ้อมได้อย่างเต็มที่ หลังจากหายหน้าไปถึง 15 เดือน แต่ก็ยังไม่พร้อมสำหรับเกมนี้ เจมส์ แม็คคาร์ธี่ย์มีปัญหาที่ขาหนีบและฟรังโก้ ดิซานโต้เองก็ต้องเช็กอาการดูอีกครั้งก่อน หลังพลาดเกมล่าสุด เพราะเจ็บที่ต้นขา อันโตลิน อัลคาราซนั้นยังคงไม่สามารถลงเล่นให้กับวีแกนได้ เพราะติดโทษแบนอยู่ เบนฟรีคิกฟันธง : ซันเดอร์แลนด์ชนะ 1-0 ........................................................................................................... เชลซี v วูล์ฟส์(22.00 น.) “สิงห์ไฮโซ” นั้นกำลังรอดูข่าวอยู่ว่าแอชลี่ย์ โคลจะฟิตกลับมาลงเล่นให้กับทีมได้ทันหรือไม่ อังเดร วิลลาส โบอาสกุนซือของทีมไม่มีปัญหาบาดเจ็บของนักเตะเพิ่มเติมแต่อย่างใด นอกเสียจากมิคาเอล เอสเซียงที่เจ็บยาวอยู่แล้ว วูล์ฟส์นั้นจะไม่มีเจมี่ โอฮาร่ามิดฟิลด์คนสำคัญ รวมทั้งสตีเฟ่น ฮันท์ที่ติดโทษแบนอยู่ในเกมนี้ ริชาร์ด สเตียร์แมนหมดสิทธิ์ลงเล่นแน่นอนเพราะว่าข้อมือหัก จึงทำให้โรนัลด์ ซูบาร์น่าจะได้ลงเล่นเป็นเกมแรกในรอบ 9 เดือนกันเลยทีเดียว เบนฟรีคิกฟันธง : เชลซีชนะ 3-1 ........................................................................................................... เวสต์บรอมวิช v ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส(22.00 น.) รอย ฮอดจ์สันกุนซือของเวสต์บรอมนั้นกำลังเครียดเรื่องความฟิตของเชน ลอง, ปีเตอร์ โอเด็มวิงกี้, พอล ชาร์เนอร์และเกรแฮม ดอร์แรนส์ว่าจะพร้อมสำหรับเกมนี้หรือไม่ คาดว่าสเปอร์สจะใช้ผู้เล่นชุดเดียวกันกับที่เอาชนะแอสตัน วิลล่าไปในศึกมันเดย์ ไนท์ที่ผ่านมาได้ ไมเคิ่ล ดอว์สันและทอม ฮัดเดิลสตันยังคงมีอาการบาดเจ็บอยู่เหมือนกันทั้งคู่ เบนฟรีคิกฟันธง : สเปอร์สชนะ 4-0 ........................................................................................................... โบลตัน v เอฟเวอร์ตัน(22.00 น.) เจ้าบ้านหวังว่าเดเดร็ค โบยาต้าจะฟิตพอลงเล่นในเกมนี้ได้ หลังจากเจ็บข้อเท้าไปเป็นเดือน โจ ไรลี่ย์และริคาร์โด้ การ์ดเนอร์สองกองหลังของทีม รวมทั้งดาวิด เอ็นก๊อกต่างหมดสิทธิ์ลงเล่นเหมือนกันหมด แจ็ค ร็อดเวลล์น่าจะได้กลับมาเล่นเป็นเกมแรก นับตั้งแต่ไปบาดเจ็บในการรับใช้ทีมชาติอังกฤษมา ฟีล เนวิลล์ต้องเช็กความฟิตอีกครั้งหนึงก่อน แต่ซิลแวงน์ ดิสแต็งน์ยังไม่พร้อมที่จะลงเล่น เบนฟรีคิกฟันธง : เอฟเวอร์ตันชนะ 2-1 ........................................................................................................... นอริช ซิตี้ v ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส(22.00 น.) เจ้าบ้านเริ่มดีขึ้นกับปัญหาในแนวรับ แต่รัสเซลล์ มาร์ตินก็น่าที่จะได้ลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์ต่อไป แซ้ค วิทเบรด, ดาเนียล อยาล่าและริทชี่ เดอ เลทต่างก็กลับมาซ้อมก็ได้ถ้วนหน้า แต่ยังคงไม่พร้อมสำหรับเกมนี้ “คิวพีอาร์” จะไม่มีโจอี้ บาร์ตันที่ติดโทษแบน หลังจากได้รับใบเหลืองครบ 5 ใบไปแล้วในฤดูกาลนี้ ไฮดาร์ เฮลกูสันน่าจะได้ลงเล่น แม้ว่ามีปัญหาที่ตาก็ตาม แต่ลุค ยัง(หัวเข่า)และแดนนี่ แก๊บบิดอน(ต้นขา)นั้นยังคงต้องเช็กอาการดูอีกครั้ง เบนฟรีคิกฟันธง : เสมอ 2-2 ........................................................................................................... อาร์เซนอล v ฟูแล่ม(00.30 น.) อาบู ดิยาบี้มิดฟิลด์ของอาร์เซนอลน่าจะได้ลงเล่นเกมลีกเป็นนัดแรกของฤดูกาล หลังหายเจ็บที่ข้อเท้าแล้ว โทมัส โรซิคกี้ก็น่าจะกลับมาจากอาการบาดเจ็บที่ต้นขาแล้วเช่นกัน แต่คาร์ล เจนกินสันและคีแรน กิ๊บส์สองฟูลแบ็คของทีมคงต้องรอไปจนกว่าจะถึงคริสต์มาสโน่นเลย เดเมี่ยน ดัฟปีกของฟูแล่มกำลังจะลงเล่นเกมที่ 400 ของเขาในลีก สตีฟ ซิดเวลล์และสตีเฟ่น เคลลี่ต่างก็มีอาการบาดเจ็บอยู่ทั้งคู่ เบนฟรีคิกฟันธง : อาร์เซนอลชนะ 3-0 http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=514472 จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 08:29:19

ความคิดเห็นที่ 17 คอลัมน์ : ซอฟท์ดริ๊งค์ สุดสัปดาห์   โดย.. ต.โต้ง   ถ้าเรือใบจอดป้าย         ถ้า แมนฯ ซิตี้ กระเด็นตกรอบแบ่งกลุ่ม แชมเปี้ยนส์ ลีก ถือเป็นการเสียหน้าพอสมควร ดีกรีถึงจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกไม่สามารถเอาตัวรอดผ่านเข้ารอบไปได้แฮะ          ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่ โรแบร์โต้ มันชินี่ และลูกทีมต้องเก็บเอาไว้ปรับปรุง-แก้ไขในโอกาสต่อไป          แต่ถ้าพลิกหน้าเสื่อได้ ไม่ตกรอบก็ดีไป          หากตกรอบ ชปล. ซิตี้ จะได้สิทธิ์ไปเล่น ยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีม ซึ่งคาดว่ามันชินี่จะขนตัวสำรองลงสนามแน่นอน ไม่มีทางเอานักเตะชุดใหญ่อย่าง กุน อเกวโร่, ยาย่า ตูเร่ หรือ ดาบิด ซิลบา ไปเสี่ยงกับอาการบาดเจ็บเด็ดขาด          แค่อาการอ่อนล้าก็ไม่อยากให้ลูกทีมเผชิญแล้ว          นั่นเพราะ "ถ้วยเล็ก" ยูโรปา ลีก ไม่ใช่เป้าหมายของเรือใบสีฟ้า          ถ้วยพรีเมียร์ลีกคือเป้าหมายสูงสุด หลัง ชีค มันซูร์ สร้างทีมชุดนี้มาด้วยการควักเงินไปแล้ว 2 หมื่นล้านบาท หวังเปิดตำนานนำแชมป์สมัยแรกเข้าสู่ถิ่นให้แฟนได้ชื่นชม          สุดยอดปรารถนาคือแชมป์พรีเมียร์ลีก แม้กระทั่งถ้วยยุโรป แชมเปี้ยนส์ ลีก ยังรอคอยได้ในโอกาสต่อไป เพราะแชมป์ลีกสูงสุดไม่มาเยือน แมนฯ ซิตี้ เลยเป็นเวลา 5 ทศวรรษแล้ว          เชื่อว่าถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ลีก ถ้าเป็นของ แมนฯ ซิตี้ ใบเดียวปีนี้สามารถสละสิทธิ์รายการอื่นได้ทั้งหมด ต่อให้ตกรอบเร็วก็ไม่มีปัญหา แฟนๆ รับได้ซำบายบรื๋อ          ขอให้ได้เถอะเพราะตอนนี้ แมนฯ ยูฯ, อาร์เซน่อล หรือ เชลซี ไล่ล่าพวกเขาอย่างหนัก แต่ละเกมกว่าจะได้ชัยชนะหืดมาก          อาทิตย์นี้ แมนฯ ซิตี้ จะพักสมองลืมความวุ่นวาย เรื่องบอลยุโรปไว้ก่อนจัดทัพชุดใหญ่ไปเยือน ลิเวอร์พูล เพื่อลุ้นชัยชนะกลับออกมาให้ได้ ถ้าเป็นจริงก็พร้อมตรงดิ่งตรงสู่แชมป์ในบั้นปลาย เสริมความมั่นใจปราบมาแล้วทั้ง ปีศาจแดง และ หงส์แดง          แต่ถ้าเรือใบสะดุดช่องว่าง 5 แต้ม อาจแคบลงทันที แมนฯ ยูฯ ไม่ยอมลดราวาศอกแน่นอน          อีกประเด็นที่น่าจับตามองคือกลางสัปดาห์หน้า แมนฯ ซิตี้ มีคิวออกไปเยือน อาร์เซน่อล ในคาร์ลิ่ง คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศซึ่งมันชินี่ต้องปรับทีมลงเตะแน่นอน ไม่มีทางใช้ผู้เล่นชุดใหญ่ติดต่อกันหรอก          ถ้วย พรีเมียร์ลีก กับ คาร์ลิ่ง คัพ มันต่างกันลิบลับ เทน้ำหนักไปทางนึงได้เลย "โรเตชั่น" แน่          สุดสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้า แมนฯ ซิตี้ ขอเน้นพรีเมียร์ลีก 2 เกม เอาให้สุดโต่งไปเลย เพื่อลืมความผิดหวังจากเกมยุโรป แล้วเดี๋ยววันที่ 7 ธ.ค. หรืออีกประมาณ 10 วันข้างหน้าค่อยกลับเข้าจุดโฟกัสสู้กับ บาเยิร์น มิวนิค ต่อไป          หนทางสู่การเข้ารอบน็อคเอาท์ ชปล. ของ แมนฯ ซิตี้ ยังไม่หมดหวังซะทีเดียว ต้องลุ้นชนะเสือใต้ซึ่งเข้ารอบไปแล้ว และภาวนาให้ บียาร์เรอัล เล่นไว้ลายบ้าง เกมส่งท้ายอย่าตะบี้-ตะบันแพ้ นาโปลี อีกล่ะ ไม่งั้นแพ้ 6 เกมรวดเชียวนะเฟ้ย          ครั้นจะประกาศอัดฉีดบียาร์เรอัลนอกรอบก็ผิดมารยาท นอกจากช่วยตัวเองแล้วต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจด้วย...เฮ้อ          นี่แหละหนาผลพวงจากการออกสตาร์ทไม่ดี 2 นัดมีแต้มเดียว มันก็เลยพลิกหน้าเสื่อลำบาก          ถ้าตกรอบ ชปล. ไปซะหมดเรื่อง ! มองโลกในแง่ดีจะได้เก็บความสดเอาไว้ลุ้ยเกมพรีเมียร์ลีกให้ 100 เปอร์เซ็นต์ทุกนัดไปเลยดีกว่ามั้ย          ไม่ต้องจับปลาสองมือ เดี๋ยวหลุดหมด                                                                                              ต.โต้ง http://www.siamsport.co.th/Column/111125_172.html จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 08:37:10

ความคิดเห็นที่ 18 คอลัมน์ : ศุกร์ๆ ดิบๆ    โดย.. ธีระ   มาแรงแซงทางโค้ง       ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าเป็นครั้งแรกในรอบร่วมๆสิบปีก็ว่าได้ที่ผ่านมาจนถึงปลายเดือนพ.ย.แล้วฟุตบอลพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ยังไม่มีสโมสรไหนอัปเปหิกุนซือเลยแม้แต่รายเดียว          ไม่ว่าจะเป็น สตีฟ คีน นายใหญ่แบล็คเบิร์นที่ถูกกองเชียร์รวมพลังขับไล่มาหลายเกมแล้ว แต่เจ้าของสโมสรชาวอินตะระเดียยืนยันว่าอีนี่ฉานไม่ขอไล่ผู้จัดการทีมหัวเหม่งออกซะอย่างนะจ๊ะนายจ๋า          และไม่เว้นแม้แต่ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ที่คุมวีแกนไม่เอาอ่าวเช่นกัน กระนั้นในฐานะลูกรักของเดฟ วีแลนเจ้าของสโมสร เก้าอี้ของกุนซือสแปนิชจึงยังไม่ร้อนฉ่า          กระทั่งมาวันนี้ มีกุนซือที่มาแรงแซงทางโค้งซะแล้วครับ          จะใครซะอีกถ้าไม่ใช่ อันเดร วิลลาช โบอาช ผู้จัดการทีมเชลซีที่ระยะนี้คุมทีมแพ้ได้แพ้ดี          แพ้ลิเวอร์พูลคารังในศึกพรีเมียร์ลีก และตามด้วยการบุกไปพ่ายเลเวอร์คูเซ่นในถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก          เลยทำเอาเศรษฐีลอนดอนมีสภาพร่อแร่มันซะทั้งสองรายการ          อันนำมาซึ่งข่าวลือที่ว่าคงไม่แคล้วที่กุนซือหนุ่มน้อยจะโดนโรมัน อบราโมวิชสั่งเด้งในไม่ช้าทั้งๆที่เพิ่งถูกดึงตัวมาคุมทีมแหม็บๆ          ที่สำคัญ กุส ฮิดดิ้ง อดีตนายใหญ่ขัดตาทัพของสิงห์บลูส์เพิ่งตกเก้าอี้กุนซือทีมชาติตุรกีหมาดๆ จึงทำให้สื่ออิงลิชละสายตาจากคีนและมาร์ติเนซชั่วคราวหันไปจ้องที่โบอาชแทนเป็นตาเดียว          วัดจากผลงาน เจ้าของฉายา "มูรินโญ่สอง" พาทีมออกสตาร์ตซีซั่นได้แย่กว่าใครเพื่อนนับตั้งแต่เสี่ยหมีควักกระเป๋าเทคโอเวอร์สโมสร          แม้แต่กุนซือโหงวเฮ้งแย่อย่าง อาฟราม แกรนท์ ก็ยังมีสถิติเหนือกว่าโบอาชด้วยซ้ำ          ด้วยผลงานที่กระท่อนกระแท่นของเชลซีประกอบกับการเป็นอิสระเสียทีของฮิดดิ้ง จึงนับเป็นช่วงเวลาที่ประจวบเหมาะดีเหลือเกินต่อการเปลี่ยนเจ้านายอีกครั้งของอาณาจักรสแตมฟอร์ด บริดจ์          แต่ก็นั่นแหละ น่าจะเป็นอย่างที่โบอาชเชื่อว่าเสี่ยหมีคงไม่อยากจ่ายค่าชดเชยก้อนโตอย่างเร็วจี๋อีกรอบหลังจากเพิ่งดึงเขามาจาก เอฟซี ปอร์โต้ โดยเสียค่าฉีกสัญญาให้ทีมดังของโปรตุเกสไปแล้ว 15 ล้านยูโร          ด้วยผลงานที่สร้างเอาไว้กับปอร์โต้ได้อย่างน่าฮือฮา หลายคนจึงเห็นดีด้วยตอนที่เชลซีหันไปคว้าโบอาชมาคุมทัพ          แต่เอาเข้าจริง สิงโตน้ำเงินครามกลับมีผลงานที่สาละวันเตี้ยลงซึ่งเหตุผลหนึ่งคงพอจะบอกได้ว่าเป็นเพราะพรีเมียร์ลีกมีมาตรฐานที่สูงกว่าลีกฝอยทอง          อีกทั้งตัวจริงเสียงจริงอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ คือ "สเปเชี่ยลวัน" ขนานแท้ยากที่อดีตผู้ช่วยอย่างโบอาชจะเจริญรอยตามได้          อย่างไรก็ดี ไม่ว่าเชลซีจะฟื้นคืนชีพได้หรือไม่ก็ตาม คนที่ก่อความผิดพลาดต่อผลงานของทีมไม่ใช่ใครทั้งนั้น          ไม่ใช่โบอาช ไม่ใช่กเตะ และไม่ใช่ใครอื่น          แต่เป็นเสี่ยหมีหนึ่งเดียวคนนี้นี่แหละ          แน่นอนว่าเจ้าสัวรัสเซียมีเงินเป็นเข่ง แต่แค่รวยอย่างเดียวย่อมไม่พอที่จะพาทีมก้าวไปสู่ความสำเร็จขั้นสูงสุดได้          แล้วก็ไม่ใช่ว่าอบราโมวิชก่อความผิดพลาดหนเดียวซะด้วย หากแต่เขาตัดสินใจพลาดครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยคิดว่าตัวเองรวยซะเต็มประดานั่นแหละ          และมันเกิดขึ้นนับตั้งแต่ได้ตัวมูรินโญ่มาเป็นผู้จัดการทีมแล้ว แต่สุดท้ายกลับไล่ตะเพิดยอดโค้ชโปรตุกีสออกไป          แล้วเป็นไง เฮียมูพิสูจน์ความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์ด้วยการพาอินเตอร์คว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกอย่างที่เสี่ยหมีถวิลหา          เท่านั้นไม่พอ อบราโมวิชยังก่อความผิดพลาดอย่างอุกฉกรรจ์ตามมาอีกหนด้วยการปลดยอดกุนซืออีกรายอย่างคาร์โล อันเชล็อตติง่ายดายเกินคาดแล้วหันไปคว้ากุนซืออ่อนเยาว์มานั่งเก้าอี้แทน          พร้อมกันนี้ ยังมีความผิดพลาดในการถลุงเงินซื้อผู้เล่นแบบไม่คิดหน้าคิดหลังอีก          ที่กำลังหลอกหลอนสิงห์บลูส์อยู่ในเวลานี้ย่อมหนีไม่พ้น เฟร์นานโด ตอร์เรส ซึ่งจนป่านนี้แล้วเม็ดเงิน 50 ล้านปอนด์ยังไม่ได้ส่งผลดีต่อสโมสรแม้แต่น้อย          และก่อนหน้าพ่อค้าแข้งสแปนิชก็เป็นอังเดร เชฟเชนโก้ซึ่งถูกดึงมาร่วมทีมก็ด้วยกิเลสของเสี่ยหมีเพียวๆ          จึงพอจะบอกได้ว่าท้องฟ้าเหนือสแตมฟอร์ด บริดจ์ที่ไม่ได้มีสีฟ้าสดใสในเวลานี้ ไม่ได้เกิดจากน้ำมือของใครเลยนอกจากอบราโมวิชเท่านั้น          และบางทีเชลซีอาจเดินเกมพลาดต่อไปเรื่อยๆตราบที่เสี่ยหมียังคิดอะไรตื้นๆเหมือนที่ผ่านมาโดยสำคัญแค่ว่าตัวเองมีเงินซะอย่าง จะทำอะไรก็ย่อมได้ และเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด                                                                                                 ธีระ http://www.siamsport.co.th/Column/111125_143.html จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 08:43:28

ความคิดเห็นที่ 19 โปรแกรมกีฬา   วันที่ 26 พฤศจิกายน 2554   พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 19.45 น. สโต๊ค ซิตี้ - แบล็คเบิร์น 22.00 น. โบลตัน - เอฟเวอร์ตัน 22.00 น. เชลซี - วูล์ฟแฮมป์ตัน 22.00 น. แมนฯ ยูไนเต็ด - นิวคาสเซิ่ล 22.00 น. นอริช ซิตี้ - ควีนส์ปาร์ค 22.00 น. ซันเดอร์แลนด์ - วีแกน 22.00 น. เวสต์บรอมวิช - สเปอร์ส 00.30 น. อาร์เซน่อล - ฟูแล่ม บุนเดสลีกา เยอรมัน 21.30 น. โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ - ชาลเก้04 21.30 น. เนิร์นแบร์ก - ไกเซอร์สเลาเทิร์น 21.30 น. ฮอฟเฟ่นไฮม์ - ไฟร์บวร์ก 21.30 น. เอาก์สบวร์ก - โวล์ฟสบวร์ก 21.30 น. แฮร์ธ่า เบอร์ลิน - เลเวอร์คูเซ่น 00.30 น. ฮันโนเวอร์ - ฮัมบูร์ก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี 00.00 น. เลชเช่ - คาตาเนีย 00.00 น. โนวาร่า - ปาร์ม่า 02.45 น. ลาซิโอ - ยูเวนตุส 02.45 น. อตาลันต้า - นาโปลี ลา ลีกา สเปน 00.00 น. ราโย บาเยกาโน่ - บาเลนเซีย 02.00 น. เรอัล มาดริด - แอต.มาดริด 04.00 น. เคตาเฟ่ - บาร์เซโลน่า ลีกเอิง ฝรั่งเศส 01.00 น. โซโชซ์ - มงต์เปลลิเยร์ 01.00 น. แซงต์ เอเตียน - อฌักซิโอ้ 01.00 น. แรนส์ - เอวิยอง 01.00 น. น็องซี่ - ดิฌง 01.00 น. ตูลูส - วาล็องเซียนส์ 01.00 น. บอร์กโดซ์ - ก็อง 03.00 น. ลีลล์ - แบรสต์ http://www.siamsport.co.th/Programs_Sport.html?ymd=20111126 จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 08:48:18

ความคิดเห็นที่ 20 โปรแกรมถ่ายทอดสด พรีเมียร์ลีก อังกฤษ  เวลา                      คู่แข่งขัน                                       ช่องถ่ายทอดสด 19.45 น.        สโต๊ค ซิตี้ - แบล็คเบิร์น                                  ทรูสปอร์ต 1 22.00 น.      แมนฯ ยูไนเต็ด - นิวคาสเซิ่ล                              ทรูสปอร์ต 1 22.00 น.         ซันเดอร์แลนด์ - วีแกน                                   ทรูสปอร์ต 2 22.00 น.          เชลซี - วูล์ฟแฮมป์ตัน                                   ทรูสปอร์ต 3 22.00 น.         เวสต์บรอมวิช - สเปอร์ส                                 ทรูสปอร์ต 5 22.00 น.           โบลตัน - เอฟเวอร์ตัน                                  ทรูสปอร์ต 6 22.00 น.         นอริช ซิตี้ - ควีนส์ปาร์ค                    ทรูสปเชียล สปอร์ต161 00.30 น.            อาร์เซน่อล - ฟูแล่ม                                   ทรูสปอร์ต 3 ........................................................................................................... บุนเดสลีกา เยอรมัน 21.30 น.    โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ - ชาลเก้04          ทรูสปอร์ต เอ็กซ์ตร้า 107 ........................................................................................................... กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี 00.00 น.          เลชเช่ - คาตาเนีย                                  ทรูสปอร์ต 6 00.00 น.           โนวาร่า - ปาร์ม่า                   ทรูสปอร์ต เอ็กซ์ตร้า107 02.45 น.         ลาซิโอ - ยูเวนตุส                                   ทรูสปอร์ต 3 02.45 น.        อตาลันต้า - นาโปลี                                  ทรูสปอร์ต 5 ........................................................................................................... ลาลีกา สเปน 02.00 น.   เรอัล มาดริด - แอต.มาดริด                            ทรูสปอร์ต 1 04.00 น.      เคตาเฟ่ - บาร์เซโลน่า                                 ทรูสปอร์ต 1 ........................................................................................................... ลีกเอิง ฝรั่งเศส 01.00 น.   แซงต์ เอเตียน - อฌักซิโอ้                            ฟุตบอลพลัส 03.00 น.        ลีลล์ - แบรสต์                                       ฟุตบอลพลัส หมายเหตุ : เวลาและช่องถ่ายทอดสดอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงด้วยเหตุสุดวิสัย http://www.siamsport.co.th/Programs_Live.html?ymd=20111126 จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 08:54:23

ความคิดเห็นที่ 21 City v Liverpool: Mancini preview (1/2) Roberto Mancini meets the press at Manchester City's training ground ahead of his side's game at against Liverpool at Anfield. The manager hopes his team put the disappointment of Tuesday's Champions League defeat against Napoli behind them to keep their lead at the top of the Barclays Premier League จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 08:57:32

ความคิดเห็นที่ 22 INSIDE CITY 13: Mario Balotelli mischief and a Nigel De Jong hat-trick HD 00:11 - Inside City sees Nigel De Jong score a training ground hat-trick in front of the media before the team travel to Naples. 02:20 - Before getting on the coach, Mario Balotelli has some fun with a football. 04:12 - In Naples, Balotelli is the centre of attention when the team go for a walk on the day of the game against Napoli. 07:00 - While City play their Champion's League game against Napoli in Naples, Alan Watson, Head of UK Scouting for City watches Aston Villa play Ajax in the Nextgen Series. 07:42 - Adam Johnson and Yaya Toure at a signing session for fans in the City Store in Manchester. 08:30 - Performance Analyst Ed Sulley shows Joleon Lescott Sony's new 3D Stitch technology and discusses it's potential uses. EXCLUSIVE Behind the Scenes at Manchester City FC จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 08:59:33

ความคิดเห็นที่ 23 SKILLS Gai Assulin Manchester City EDS v Oldham Athletic Manchester City player Gai Assulin shows amazing technique to beat his man and deliver a cross during Manchester City Elite Development Squad game versus Oldham Athletic FC in the first half of the 2011-2012 season จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 09:01:37

ความคิดเห็นที่ 24 ขอเชิญเพื่อนสมาชิกร่วมพูดคุย แปะข่าวกันครับ    จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 09:04:07

ความคิดเห็นที่ 25 Liverpool vs Man City - Kenny on Manchester money and Andy Carroll Liverpool manager Kenny Dalglish is yet to hear from Lille about any potential deal to make Joe Cole's loan spell permanent. Yesterday the French side's president Michel Seydoux said they could make the 30-year-old an "interesting offer" to keep him full-time. But Dalglish knows of no negotiations between the clubs as yet aimed at making that happen. "He has never spoken to me. I don't know anything about it," said the Scot. "I know they won 2-0 (against CSKA Moscow in the Champions League) and the lad hit the post and is playing well - but he's been playing well most of the time. "It is great for Joe he is doing so well but beyond that I don't know of anything that has happened." Cole has made an impression at Lille and Seydoux yesterday said: "It is not a certainty that he will leave us at the end of his contract. "If he has a certain good feeling with Lille and we can make him an interesting offer this is something that we will look into." จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 09:30:59

ความคิดเห็นที่ 26 Liverpool v Man City Uncensored Match Preview Show (CONTAINS STRONG LANGUAGE) TheRedmenTV.com bring you an in depth look ahead to Liverpool's Sunday clash with Manchester City at Anfield. Our studio guest this week is Well Red/The Anfield Wrap's Gareth Roberts. This Special Show features an exclusive Mancini sketch, stats, best bets, fan predictions and uncensored analysis from the Red perspective... This week's show also contains a bonus preview of Tuesday's Carling Cup Clash with Chelsea. CONTAINS STRONG LANGUAGE! จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 09:34:47

ความคิดเห็นที่ 27 Liverpool vs Man City - Match Promo - 27 I Nov I 11 - A tale of two cities จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 09:36:55

ความคิดเห็นที่ 28 Mancini วางตัวผู้เล่นผิดมากกว่า ไม่ใช่ทีมไม่ดีพอจะคว้า CL หรอก Yaya, Nasri, Balo, Dzeko พวกนี้ก็เคยเป็นแชมป์หรือเคยพาทีมเข้ารอบลึกๆมาแล้วทั้งนั้นไม่ใช่ไม่มีประสบการณ์เลย จากคุณ : beddingshield เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 09:46:41

ความคิดเห็นที่ 29 บางทีก็เซงทัศนคติมันชินี่นะ ทำไมทีมอื่นเขาทรัพยากรน้อยกว่าทีมเราแล้วเขาทำได้ดี ? ต้องจับมันชินี่มาลงเรียน เศรษษฐศาสตร์ซะหน่อย จัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด แกบอกทีมเราจะประสบความสำเร็จต้องมีนักเตะฝีเท้าดีตำแหน่งละ 2 คน เฮ้อ..... ปีนี้แกก็ทำทีมดีอยู่นะ.... แต่อยากลองจังเลยว่าโคชมีฝีมือคนอื่น จะทำได้ดีกว่าแกรึเปล่า จากคุณ : King Bamboo เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 10:04:56

ความคิดเห็นที่ 30 มันชินี่ โทษโน้นโทษนี่ โทษขุมกำลังไม่ดีพอ โทษการจับกลุ่ม ทำไมไม่โทษตัวเองบ้าง แบบนี้นักเตะหมดกำลังใจพอดี จากคุณ : โออิชิกันไปเลย^^ เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 10:14:24

ความคิดเห็นที่ 31 สตาร์ดังเต็มทีม แต่บอก ขุมกำลังไม่พอ ผมเป็นชีค ผมไล่ออกไปแล้ว จะต้องมีสตาร์ดังขนาดไหน ถึงจะเพียงพอสำหรับมันโช่ จากคุณ : มิตรภาพอาบยาพิษ เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 10:26:51

ความคิดเห็นที่ 32 พวก กลิชี่ ไมก้า ไม่รู้ว่าทำไมต้องให้นัดเว้นนัดด้วย กองหน้าตัวหลักต้องกุน เซโก้กับมาริโอ้ มันช้าพอๆกัน จากคุณ : แวงใต้ เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 10:48:54

ความคิดเห็นที่ 33 ไก่ตาแตก!หงส์เล็งจ่าย 15 ลป.จิกบายอร์ตัดหน้า Report by : Tor The Hitman ไม่ทุ่มก็ต้องหลีกทางไปสำหรับท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์สเมื่อล่าสุดลิเวอร์พูลเตรียมปาดหน้าเข้าเซ็นสัญญาถาวรกับเอ็มมานูเอล อเดบายอร์หัวหอกร่างโย่งของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในราคา 15 ล้านปอนด์ตอนจบฤดูกาล ดาวเตะวัย 27 ปีกลายเป็นส่วนเกินของ"เรือใบสีฟ้า"จนต้องอพยพหนีไปเล่นให้กับ"ไก่เดือยทอง"ด้วยสัญญายืมตัวในฤดูกาลนี้แล้วหัวหอกโตโกก็ทำผลงานได้ดีเมื่อยิงไป 5 ประตูบวกกับทำแอสซิสต์อีก 3 ครั้งจากการลงสนามเพียง 9 นัดเท่านั้น แม้แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์กุนซือหน้าเฉยของ"คลับไก่"ต้องการเซ็นสัญญาถาวรกับดาวยิงเจ้าของความสูง 191 เซนติเมตรเพียงใดแต่เขาก็ยังลังเลที่จะจ่ายเงินค่าเหนื่อยมหาศาลใ็หักับนักเตะซึ่งผิดกับลิเวอร์พูลที่พร้อมทุ่มทุนส้รางกับการควานหากองหน้ามาจับคู่กับหลุยส์ ซัวเรซ การที่แอนดี้ แคร์โรลล์เพิ่งทำไป 2 ประตูจากการเล่นพรีเมียร์ลีกไป 11 เกมในซีซั่นนี้ทำให้"หงส์แดง"ไม่มีทางเลือกจนต้องเร่งหาศูนย์หน้าตัวใหม่เข้ามาเสริมเพราะตัวผู้เล่นอื่นที่มีอยู่อย่างเคร็ก เบลลามี่และเดิร์ค เคาท์ก็มีอายุที่เกินเลขสามไปแล้วนั้นเอง http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=514751 จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 10:55:18

ความคิดเห็นที่ 34 มหาเทพลูคิอัส!ทำนายแชมป์พรีเมียร์หนีไม่พ้นแมนเชสเตอร์ Report by : brightt ลูคัส เลว่ามิดฟิลด์ขวัญใจแฟนบอลลิเวอร์พูลให้สัมภาษณ์เชื่อว่าตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ ลีกในปีนี้จะเป็นการขับเคี่ยวแย่งกันของสองทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์   ทั้งแมนเชสเตอร์ ซิตี้และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต่างทำผลงานได้อย่างดี โดยในขณะนี้ซิตี้เป็นจ่าฝูงมีคะแนนนำยูไนเต็ดที่เป็นรองจ่าฝูงอยู่ 5 คะแนน "ตำแหน่งแชมป์ดูจะเป็นการแก่งแย่งกันของสองทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์" "ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ 4 จาก 5 ครั้งล่าสุด ฉะนั้นแล้วมันไม่เป็นเรื่องน่าแปลกใจที่พวกเขาทำผลงานได้ดีอีกแล้ว แต่ก็คงไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะโดนซิตี้ถล่ม 6-1 เละคาโอลด์ แทรฟฟอร์ด" "ซิตี้ก็เป็นทีมที่ไม่น่าแปลกใจนักหากมองดูจากเม็ดเงินที่พวกเขาใช้ลงทุนดึงนักเตะซูเปอร์สตาร์เข้ามาตั้งแต่ปี 2008" "ตอนนี้พวกเขาแทบจะมี 2 ทีม ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นที่สิ่งต่างๆจะลงตัวดีสำหรับพวกเขา" "สิ่งที่สำคัญที่สุดก็ึคือทางนักเตะเริ่มที่จะยอมรับกับแนวทางการทำงานของมันชินี่" "แต่ซิตี้ก็ไม่ได้เป็นทีมที่เอาชนะไม่ได้นะ ผมได้ดูเกมที่พวกเขาแข่งกับควีนสพาร์คเรนเจอร์ส พวกเขาต้องกระ:-)กระสนแทบตายกว่าจะเอาชนะมาได้" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=514730 จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 10:57:55

ความคิดเห็นที่ 35 อดีตมันฟ้อง!ป๋ายันไม่มีวันกาชื่อสิงห์ทิ้ง Report by : brightt เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันกุนซือวัตถุโบราณของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดให้สัมภาษณ์ชี้ว่าเขาจะไม่มีทางกาชื่อเชลซีออกจากทีมที่มีสิทธิ์ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ ลีกอย่างแน่นอน   เชลซีภายใต้การนำของวิลลาส-โบอาส กำลังโดนวิจารณ์อย่างหนักหลังเปิดบ้านพ่ายให้กับลิเวอร์พูลในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แถมยังบุกไปพ่ายเลเวอร์คูเซ่นอีกด้วย "อาร์เซนอลเคยถูกกาชื่อทิ้งและถูกวิจารณ์อย่างหนักหนาสาหัส" "ตอนนี้ทุกๆคนต่างพากันพูดว่าพวกเขากลับมามีลุ้นแชมป์ลีกอีกครั้ง" "ผมจะไม่มีทางกาชื่อเชลซีทิ้ง การพัฒนาของพวกเขาที่พวกเขาได้สร้างขึ้นมาตลอดช่วง 10 ปีหลังสุดมีอยู่ให้ทุกๆคนได้เห็น" "พวกเขาคว้าแชมป์ลีก 3 สมัย พวกเขาคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 2 หรือ 3 ครั้งและก็ยังมีลุ้นในถ้วยยุโรป" "บางทีประสบการณ์เหล่านั้นอาจจะช่วยเหลือพวกเขาได้ในตอนนี้ พวกเขามีช่วงเวลาที่ย่ำแย่ที่จะต้องก้าวพ้นออกมา" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=514732 จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 11:00:02

ความคิดเห็นที่ 36 #11 เมื่อก่อนเคยอยากได้นะครับพวก กาก้า ชไนเดอร์ โมดริด  โอซิล  ฮัมซิคฯ แถม กัทเซ่ ฮาซาร์ด ไปด้วยก็ได้ แต่ถ้าอยากได้ตัวพวกนี้ต้องเปลี่ยนโค้ชครับ เพราะแผนของมันโช่ จะใช้ปีกที่เล่นเกมตรงกลาง หรือตัดเข้าในเพื่อทำเกมบุกได้มากกว่า ง่ายๆก็คือเล่นได้ทั้งริมเ้ส้ นและ ตรงกลาง ทั้งนาสรี่ มิลเนอร์ ซิลบา อีกทั้งตัวที่อยากได้นักหนา อย่างซานเชซ พวกนี้เป็นจำพวกที่กล่างอ้างทั้งนั้น ผมเลยมองไปที่ตัวกลาง พวก Deep-Lying Playmaker หรือตัวโฮลดิ้ง มากกว่าครับ เพราะเราไม่มี! T_T เรามี เดยอง Anchor man ที่ทำหน้าที่ ทำลาย เกมรุกของฝั่งตรงข้าม เรามี แบรี่  DMC ตัวรับแบบมาตรฐาน คอย เชื่อมเกมระหว่างกองหลังกับกองกลางหน้า คอยพักบอลเพื่อให้เพื่อนๆได้หายใจหายคอ คอยประกบหรือคอยสร้างปัญหาให้กับกองกลางตัวรุกของอีกฝั่ง เรามียาย่า Box-To-Box Midfielder ที่วิ่งพล่านไปทั้งสนาม (หอบแดก) เดี๋ยวก็โผล่มาแย่งบอลที่กลางสนาม เดี๋ยวก็โผล่มาเติมเกมบุก เดี่ยวก็โผล่มาสอดยิงจากแถวสอง ซึ่งอย่างหลังห่วยมาก ล่าสุดได้อันดับ 5 ยิง นก ตก ปลา มากที่สุด ที่ขาด คือ พวก Deep-Lying Playmaker พูดเป็นไทยก็คือ "ตัวจ่ายบังคับวิ่ง" ผู้เล่นตำแหน่งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของเกมรุกฝั่งเรา ตัวโฮลดิ้งจะต้องมีการสร้างสรรค์เกมและการจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยม ทั้งการจ่ายบอลสั้นและการวางบอลยาว ถึงแม้จะจัดว่าเป็นกองกลางตัวรับ แต่หน้าที่หลักของตัวโฮลดิ้งคือการทำเกมรุกมากกว่า และซิตี้ไม่มีกลางประเภทนี้ครับ สกิลความแม่นของ 3ตัวนี้ เข้าขั้นต่ำมาก ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพเกมรุกเพิ่มความโหดขึ้นไปอีก อีกทั้งตรงกลางแน่นขึ้นไปด้วย เรามีซิลบาหน่วยทะลุทะลวง มีตัวโฮลลดิ้ง อยู่ด้านหลังคอยจ่ายบังคับวิ่งอีก เหมือนบาร์ซ่า กองหลังแทบไร้ประโยชน์ เพราะบุกแมร่งอย่างเดียว ช่วงโมงนี้ มองไปที่ นูริ ซาฮิน ที่มาดริดซื้อไปดอง ครับ แก้ไขเมื่อ 26 พ.ย. 54 11:01:14 จากคุณ : เกิดมาเพื่อrock เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 11:00:49

ความคิดเห็นที่ 37 RVPดีใจยิงกระจายแต่ลั่นไร้แชมป์ก็ไร้ความหมาย Report by : brightt โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์หัวหอกซ้ายตีนระเบิดของอาร์เซนอลให้สัมภาษณ์เปิดเผยว่าเขารู้สึกมีความสุขอย่างมากกับฟอร์มการเล่นของตัวเอง ณ เวลานี้ แต่สุดท้ายแล้วหากทีมไม่สามารถคว้ารางวัลใดๆมาครองได้ มันก็เป็นเรื่องไร้ความหมายไปทันที   ฟาน เพอร์ซี่ย์กำลังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมโดยกดไปแล้ว 13 ประตูในพรีเมียร์ ลีกนำเป็นดาวซัลโวสูงสุดในขณะนี้ "ผมรู้สึกว่าผมเป็นหัวหอกในแบบฉบับหมายเลข 9 ที่แท้จริงแล้ว" "ผมคิดเหมือนกับกองหน้า" "บางครั้งนะผมยังแปลกใจตนเองกับสิ่งที่ผมได้ทำ มันยอดเยี่ยมเหลือเกินกับสิ่งที่กำลังดำเนินไป แต่ในช่วงเวลาเดียวกันผมต้องพยายามมองมันอย่างใจเย็นๆ" "ทุกๆคนต่างรู้ดีว่าเป้าหมายที่สูงที่สุดคืออะไร" "มีเพียงถ้วยรางวัลเท่านั้นที่นับ การยิงประตูถล่มทลายเหล่านี้จะต้องนำไปสู่อะไรบางอย่าง มันเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมและผมมีความกระหายมากกว่านั้น" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=514736 จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 11:02:22

ความคิดเห็นที่ 38 เคห์ดิร่าเนื้อหอม!ผีกันงบ 20 ลป.จ้องคว้าตัว Report by : Tor The Hitman เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันบรมกุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเตรียมแผนขจัดบ่อน้ำมันของสโมสรด้วยการเทงบ 20 ล้านปอนด์เข้าฉุดซามี่ เคห์ดิร่ามิดฟิลด์ร่างโย่งค่ายเรอัล มาดริดมายืนปักหลักเบรกเกมคู่แข่งบริเวณกลางสนาม กองกลางทีมชาติเยอรมนีย้ายมาเล่นในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาบิวในช่วงกลางปี 2010 และยืนเป็นตัวหลักของ"ราชันชุดขาว"ในซีซั่นแรกอย่างไรก็ตามในฤดูกาลนี้โอกาสลงสนามของเขาได้ถูกแชรืโดยลาสซาน่า ดิยาร์ร่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมาทั้งเชลซี,แมนเชสเตอร์ ซิตี้และเอซี มิลานล้วนตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับแข้งเจ้าของความสูง 189 เซนติเมตรแต่ล่าสุดดูเหมือนว่าป๋าเฟอร์กี้เตรียมปาดหน้าทีมเหล่านั้นเข้ายื่นข้อเสนอมูลค่า 20 ล้านปอนด์เพื่อคว้าตัวเคห์ดิร่า ทั้งนี้ป๋าเฟอร์กี้หมายมั่นปั้นมือให้แข้งวัย 24 ปีมาตัดเกมกลางสนามให้กับสโมสรหลังผู้เล่นมิดฟิลด์ที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่มีถนัดเกมรับโดยธรรมชาติสักคน http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=514745 จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 11:05:24

ความคิดเห็นที่ 39 คอลัมน์ : อินไซต์ข่าวฮอต     นสพ.เดลินิวส์ออนไลน์ เทวดา...ตกสวรรค์ ศึก พรีเมียร์ลีก วันเสาร์นี้ ใครเป็นแฟนของ อังเดร วิลลาส โบอาส กุนซือหนุ่มไฟแรง ของ เชลซี คงต้องพยายามเอาใจช่วยให้เขาพาทีมเปิดบ้านเข่น วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ลงให้ได้เพราะหากผลการแข่งขันออกมาเป็นอื่นเก้าอี้ของเขาที่ร้อนระอุอยู่แล้วก็มีสิทธิจะขาหักได้ง่าย ๆ เลยทีเดียว ส่วนเกมอีกคู่ที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือคู่ระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งบททดสอบที่จะทำให้เราได้เห็นกันว่า ผลงานอันยอดเยี่ยมของ “สาลิกาดง” ในซีซั่นนี้เป็นของจริง หรือแค่เพียงภาพลวงตา แท ยอน ................................................................. ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สโตค ซิตี – แบล็กเบิร์น สนาม: บริทานเนีย สเตเดี้ยม เวลา: 19.45 น.     โทนี พูลิส ผู้จัดการทีม สโตค ซิตี มีทีมที่เกือบจะสมบูรณ์เต็มร้อยโดยขาดไปแค่ มามาดี ซิดิเบ ที่เจ็บยาวคนเดียวเท่านั้น ส่วนแกนหลักรายอื่นไล่ตั้งแต่ โธมัส โซเรนเซน, ไรอัน ชอว์ครอสส์, แม็ตธิว เอเธอริงตัน, ปีเตอร์ เคราช์ และโจนาธาน วอลเตอร์ส ยังฟิตสมบูรณ์พร้อมลงสนามกันทุกคน       โดย “ช่างปั้นหม้อ” จะลงสนามในระบบ 4-4-2 มี โธมัส โซเรนเซน เป็นนายทวาร แนวรับ 4 คนประกอบด้วย โรเบิร์ต ฮูธ, แดนนี ฮิกกินบอตแธม, ไรอัน ชอว์ครอสส์ และแอนดี วิลกินสัน ส่วนแดนกลางมี แม็ตธิว เอเธอริงตัน, รอรี ดีแลป, ดีน ไวท์เฮด และเจอร์เมน เพนแนนท์ ขณะที่คู่หัวหอกเป็น ปีเตอร์ เคราช์ และโจนาธาน วอลเตอร์ส     ด้าน สตีฟ คีน ผู้จัดการทีม แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส จะหมดสิทธิใช้งาน เดวิด ดันน์ จอมทัพตัวเก่ง ที่ติดโทษแบน เช่นเดียวกับ ไซมอน วุคเซวิช, วินซ์ เกรลลา และไรอัน นีลเซน ที่ต่างมีปัญหาบาดเจ็บด้วยกันทั้งหมด ส่วน คริสโตเฟอร์ แซมบา เซ็นเตอร์ฮาล์ฟร่างยักษ์ ที่เจ็บเอ็นหลังเข่านั้น อาจจะฟิตกลับมาลงสนามช่วยทีมได้ทันในเกมนี้     โดย “กุหลาบไฟ” จะลงสนามในระบบ 4-5-1 มี พอล โรบินสัน เป็นนายทวาร แนวรับ 4 คนประกอบด้วย มิเชล ซัลกาโด, สกอตต์ แดนน์, กาแอล ชิเวต์ และแกรนท์ แฮนลีย์ ส่วนแดนกลางมี มาร์ติน โอลส์สัน, สตีเวน เอ็นซองซี, มอร์เทน กัมส์ท พีเดอร์เซน, เดวิด ฮอยเลตต์ และรูเบน โรชินา ขณะที่หน้าเป้าเป็น ยาคูบู ไอเย็กบินี     ความน่าจะเป็นของเกม: สโตค แพ้มา 2 นัดติดต่อกันเกมนี้จึงต้องเน้นเต็มที่อย่างแน่นอน ขณะที่ แบล็กเบิร์น ผลงานยังมีแต่ทรงกับทรุด ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงไม่น้อยที่ “ช่างปั้นหม้อ” ซึ่งเป็นทีมที่เก่งในบ้านอยู่แล้ว จะกลับมาสะกดคำว่าชนะได้อีกครั้ง    ผลที่คาด: สโตค ชนะ 2-1 .............................................................................................................. โบลตัน – เอฟเวอร์ตัน สนาม: รีบอค สเตเดี้ยม เวลา: 22.00 น.     โอเวน คอยล์ ผู้จัดการทีม โบลตัน วันเดอเรอร์ส แทบจะยกเท้าขึ้นมาก่ายหน้าผาก หลังเจอปัญหานักเตะบาดเจ็บรุมเร้าอย่างหนัก ไทรอน เมียร์ส, แซม ริกเกตส์, มาร์กอส อลอนโซ, สจ๊วร์ต โฮลเดน และอี ชุง ยอง เหล่านี้ล้วนแต่ยังเดี้ยง และลงสนามไม่ได้ทั้งนั้น โชคดีที่ยังเหลือแกนหลักอย่าง แกรี เคฮิลล์, มาร์ติน เปตรอฟ รวมทั้ง เควิน เดวิส กองหน้ากัปตันทีม เอาไว้ให้เลือกใช้งานเหมือนเคย     โดย “เดอะ ทร็อตเตอร์ส” จะลงสนามในระบบ 4-4-2 มี ยุสซี ยัสเคไลเนน เฝ้าเสา แผงแบ๊กโฟร์ประกอบด้วย โจ ไรลีย์, แกรี เคฮิลล์, เดวิด วีเธอร์ และพอล โรบินสัน ส่วนแดนกลางมี คริส อีเกิลส์, ฟาบริซ มูอัมบา, มาร์ค เดวิส และไนเจล รีโอ โคเกอร์ ขณะที่คู่หน้าเป็น เควิน เดวิส และอิวาน คลาสนิช     ด้าน เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีม เอฟเวอร์ตัน มีทีมที่เกือบสมบูรณ์เต็มร้อย โดยขาดไปเพียงแค่ วิคเตอร์ อนิเชบี ที่เจ็บโคนขาหนีบเพียงคนเดียวเท่านั้น ส่วนแกนหลักที่เหลือไม่ว่าจะเป็น ทิม ฮาวเวิร์ด, เลห์ตัน เบนส์, ฟิล จากีลกา, มารูยาน เฟลไลนี และทิม เคฮิลล์ ยังฟิตเต็มถังกันทุกคน      สำหรับเกมนี้ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” จะลงสนามในระบบ 4-5-1 มี ทิม ฮาวเวิร์ด เป็นนายทวาร แนวรับ 4 คนประกอบด้วย โทนี ฮิบเบิร์ต, จอห์นนี ไฮติงกา, ฟิล จากีลกา และเลห์ตัน เบนส์ ส่วนแดนกลางมี ซีมัส โคลแมน, มารูยาน เฟลไลนี, ทิม เคฮิลล์, ลีออน ออสแมน และรอยส์ตัน เดรนเธ ขณะที่หน้าเป้าเป็น หลุยส์ ซาฮา     ความน่าจะเป็นของเกม: โบลตัน ทำผลงานได้ไม่ดีเลยในฤดูกาลนี้ หลังโดนปัญหานักเตะบาดเจ็บเล่นงานอย่างหนัก ส่วนเอฟเวอร์ตัน แม้ผลงานจะไม่ถึงกับดีมาก แต่ก็ยังประคองตัวเองให้อยู่กลางตารางได้ อย่างไรก็ตามสำหรับเกมนี้ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ก็ไม่น่าจะดีพอถึงขนาดบุกมาเก็บชัยถึง รีบอค สเตเดี้ยม ได้ดังนั้นผลเสมอจึงมีโอกาสเป็นไปได้มากที่สุด    ผลที่คาด: เสมอ 1-1 .............................................................................................................. เชลซี – วูล์ฟแฮมป์ตัน สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์ เวลา: 22.00 น.     อังเดร วิลลาส โบอาส ผู้จัดการทีม เชลซี กำลังเผชิญความกดดันอย่างหนัก หลังเพิ่งพาทีมแพ้ ลิเวอร์พูล คา เดอะ บริดจ์ 1-2 เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ก่อน เกมนี้ กุนซือชาวโปรตุกีส จะขาดเพียง มิชาเอล เอสเซียง มิดฟิลด์พันธุ์ดุ ที่เจ็บเข่าจนต้องพักยาวคนเดียวเท่านั้น ส่วนแกนหลักคนอื่นไล่ตั้งแต่ ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แฟรงค์ แลมพาร์ด, เฟอร์นานโด ตอร์เรส และดิดิเยร์ ดร็อกบา ยังฟิตพร้อมลงสนามกันทุกคน      โดย “สิงห์สำอาง” จะลงเล่นในระบบ 4-3-3 มี ปีเตอร์ เช็ก เฝ้าเสา แผงแบ๊กโฟร์ประกอบด้วย บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี และแอชลีย์ โคล ส่วนแดนกลางมี แฟรงค์ แลมพาร์ด, จอห์น โอบี มิเกล และรามิเรส ขณะที่ 3 แนวรุกเป็น ฟลอรองต์ มาลูดา, ดิดิเยร์ ดร็อกบา และฆวน มาตา     ด้าน มิค แม็คคาธีย์ ผู้จัดการทีม วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส จะหมดสิทธิใช้งาน 2 มิดฟิลด์ตัวเก่งอย่าง เจมี โอฮารา กับ สตีเฟน ฮันท์ ที่ติดโทษแบน เช่นเดียวกับ ริชาร์ด สเตียร์แมน, เควิน โฟลีย์ และโรนัลด์  ซูบาร์ ที่มีปัญหาบาดเจ็บ ส่วนแกนหลักที่เหลือไม่ว่าจะเป็น เวย์น เฮนเนสซีย์, โรเจอร์ จอห์นสัน, คาร์ล เฮนรี และเควิน ดอยล์ ยังคงลงสนามได้ทั้งหมด      โดย “หมาป่า” จะลงเล่นในระบบ 4-5-1 มี เวย์น เฮนเนสซีย์ เป็นนายทวาร แนวรับ 4 คนประกอบด้วย จอร์จ เอโลโคบี, โรเจอร์ จอห์นสัน, สตีเฟน วอร์ด และคริสตอฟ แบร์รา ส่วนแดนกลางมี คาร์ล เฮนรี, เนนาด มิลิยาส, แม็ตธิว จาร์วิส, เดวิด เอ็ดเวิร์ดส์ และอัดเลเน กวาดิอูรา ขณะที่หน้าเป้าเป็น เควิน ดอยล์     ความน่าจะเป็นของเกม: อังเดร วิลลาส โบอาส ต้องสั่งให้ลูกทีมเน้นเต็มที่อย่างแน่นอน เพราะการเจอกับทีมที่อ่อนชั้นกว่าอย่าง วูล์ฟ ในบ้านตัวเองแบบนี้ เชลซี จำเป็นต้องเก็บ 3 คะแนนเต็มให้ได้สถานเดียวเท่านั้น และเมื่อมองจากความได้เปรียบในทุกด้านแล้วชัยชนะก็น่าจะตกเป็นของ “สิงห์บลูส์” ค่อนข้างแน่อยู่ที่ว่า จะยิงขาดมากแค่ไหนเท่านั้น    ผลที่คาด: เชลซี ชนะ 3-0 .............................................................................................................. แมนฯ ยูไนเต็ด – นิวคาสเซิล สนาม: โอลด์ แทรฟฟอร์ด เวลา: 22.00 น.     เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะยังไม่มี ทอม เคลฟเวอร์ลีย์ ที่เจ็บข้อเท้า และไมเคิล โอเวน ที่เจ็บต้นขา นอกจากนี้ยังต้องลุ้นด้วยว่า แดนนี เวลเบ็ค และเวย์น รูนีย์ ที่เจ็บตะโพก จะฟิตกลับมาช่วยทีมในเกมนี้ได้ทันหรือไม่ ส่วน คริส สมอลลิง อาจจะมีลุ้นได้กลับมาเป็นตัวจริง หลังได้ลงเคาะสนิมเป็นตัวสำรองในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ช่วงกลางสัปดาห์ ขณะที่แกนหลักรายอื่นทั้ง ดาบิด เด เคอา, เนมานยา วิดิช, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, หลุยส์ นานี, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ และฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ยังฟิตพร้อมลงสนามทุกคน     โดย “ปิศาจแดง” จะลงสนามในระบบ 4-4-2 มี ดาบิด เด เคอา เป็นนายทวาร แนวรับ 4 คนประกอบด้วย คริส สมอลลิง, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานยา วิดิช และปาทริซ เอวรา ส่วนแดนกลางมี แอชลีย์ ยัง, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, อันแดร์สัน และหลุยส์ นานี ขณะที่คู่หน้าเป็น เวย์น รูนีย์ (ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ) กับ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ     ด้าน อลัน พาร์ดิว ผู้จัดการทีม นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด จะหมดสิทธิใช้งาน ซิลแวง มาร์โวซ์ และกาเบรียล โอแบร์กตอง ที่ต่างมีปัญหาบาดเจ็บด้วยกันทั้งคู่ ขณะที่แกนหลักคนอื่นทั้ง ทิม ครูล, ไรอัน เทย์เลอร์, สตีเวน เทย์เลอร์, โยฮัน กาบาย, เดมบา บา และโชลา อเมโอบี ยังฟิตพร้อมลงสนามทุกคน     โดย “สาลิกาดง” จะลงสนามในระบบ 4-4-2 มี ทิม ครูล แนวรับ 4 คนประกอบด้วย แดนนี ซิมป์สัน, สตีเวน เทย์เลอร์, ฟาบริโอ โคลอชชินี และไรอัน เทย์เลอร์ ส่วนแดนกลางมี โชลา อเมโอบี, โยฮัน กาบาย, แดนนี กัทธรี และโฮนาส กูเตียร์เรซ ขณะที่คู่หัวหอกเป็น เดมบา บา กับ อาเตม เบน อาร์กฟา     ความน่าจะเป็นของเกม: แมนฯ ยูไนเต็ด ดูฝืดไปมากในพักหลัง ซึ่งเป็นเพราะพวกเขาปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่นมาเน้นความรัดกุมมากขึ้น ขณะที่ นิวคาสเซิล ทำผลงานได้ดีเกินคาดในปีนี้ และเพิ่งจะแพ้ให้กับ แมนฯ ซิตี เป็นนัดแรกของซีซั่นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ตาม “ผีแดง” ยังน่ากลัวเสมอเมื่อได้ปักหลักเล่นในรัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ของตัวเอง และการหักปีก “สาลิกาดง” ก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่หนักหนาสาหัสเกินไปนัก    ผลที่คาด: แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 2-0   .............................................................................................................. นอริช ซิตี – ควีนส์ปาร์ค สนาม: แคร์โรว์ โรด เวลา: 22.00 น.    พอล แลมเบิร์ต ผู้จัดการทีม นอริช ซิตี จะไม่มี เจมส์ วอห์น, แซค ไวท์เบรด และเอลเลียตต์ วอร์ด ที่มีปัญหาบาดเจ็บทั้งหมด ขณะที่แกนหลักคนอื่นไล่ตั้งแต่ จอห์น รัดดี มือกาวจอมหนึบ, ไคล์ นอห์ตัน, เดวิด ฟ็อกซ์, แอนโธนี พิลคิงตัน หรือ สตีฟ มอร์ริสัน ยังฟิตเต็มถังทั้งหมด     โดย “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” จะลงสนามในระบบ 4-5-1 มี จอห์น รัดดี เป็นนายทวาร แนวรับ 4 คนประกอบด้วย ไคล์ นอห์ตัน, ลีออน บาร์เนตต์, รัสเซลล์ มาร์ติน และมาร์ค เทียร์นีย์ ส่วนแดนกลางมี เดวิด ฟ็อกซ์, เวสลีย์ ฮูลาแฮน, แอนดรูว์ ครอฟท์ส, แบรดลีย์ จอห์นสัน และ แอนโธนี พิลคิงตัน ขณะที่ หน้าเป้าเป็น สตีฟ มอร์ริสัน     ด้าน นีล วอร์น็อค ผู้จัดการทีม ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส จะหมดสิทธิใช้งานพวกที่เจ็บยาวอย่าง คีรอน ดายเออร์, แม็ตธิว คอนนอลลี, ร็อบ ฮัลส์ และดีเจ แคมป์เบลล์ นอกจากนี้ โจอี บาร์ตัน เพลย์เมคเกอร์คนสำคัญ ก็ติดโทษแบนลงเล่นในเกมนี้ไม่ได้เช่นกัน  ส่วนแกนหลักคนอื่นทั้ง แพดดี เคนนี, อเลฮานโดร เฟาร์ลิน, ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ และไฮดาร์ เฮลกูสัน ยังลงเล่นได้ทั้งหมด     โดยเกมนี้ “ทหารเสือราชินี” จะลงสนามในระบบ  4-2-3-1 มี แพดดี เคนนี เป็นนายทวาร แนวรับ 4 คนประกอบด้วย ลุค ยัง, แอนทอน เฟอร์ดินานด์, แดเนียล แก็บบิดอน และคลินท์ ฮิลล์ ส่วนแดนกลางใช้ ฌอน เดอร์รี กับ อเลฮานโดร เฟาร์ลิน ยืนเป็นห้องเครื่อง ขณะที่ เจมี แม็คกี, ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ และอาร์กมอง ตราโอเร จะรับหน้าที่ปั้นเกมรุกอยู่ด้านหลัง ไฮดาร์ เฮลกูสัน ที่ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า            ความน่าจะเป็นของเกม: เป็นบอลเกรดเดียวกัน และต่างเพิ่งขึ้นชั้นมาทั้งคู่ นอริช ได้เปรียบในฐานะเจ้าบ้าน ทว่าฟอร์มหลังของ คิวพีอาร์ ดูดีกว่านิด ๆ ดูแล้วบอลคู่นี้จึงมีโอกาสออกได้ทั้ง 3 หน้า แต่ผลเสมอมีเปอร์เซ็นต์เป็นไปได้มากที่สุด    ผลที่คาด: เสมอ 1-1 .............................................................................................................. ซันเดอร์แลนด์ – วีแกน สนาม: สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ เวลา: 22.00 น.     สตีฟ บรูซ ผู้จัดการทีม ซันเดอร์แลนด์ จะหมดสิทธิใช้งาน เคร็ก กอร์ดอน, คอเนอร์ วิคแฮม, ซิมง มิโญเลต์ และเฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ ที่มีปัญหาบาดเจ็บ นอกจากนี้ยังต้องรอเช็กความฟิตของ จี ดอง วอน กองหน้าทีมชาติเกาหลีใต้ อีกด้วย ส่วนแกนหลักคนอื่นไม่ว่าจะเป็น ไมเคิล เทอร์เนอร์, เวส บราวน์, ลี แคลตเทอร์โมล และนิคคลาส เบนด์เนอร์ ยังฟิตพร้อมลงสนามทุกคน     โดย “แมวดำ” จะลงสนามในระบบ 4-4-2 มี คีเรน เวสต์วูด เป็นนายทวาร กองหลัง 4 คนประกอบด้วย ฟิลลิป บาร์ดสลีย์, ไมเคิล เทอร์เนอร์, เวส บราวน์ และจอห์น โอเช ส่วนแดนกลางมี อาห์เหม็ด เอลโมฮามาดี, ลี แคลตเทอร์โมล, แจ็ค คอลแบ็ค และคีแรน ริชาร์ดสัน ขณะที่คู่กองหน้าเป็น นิคคลาส เบนด์เนอร์ กับ สเตฟาน แซงเซญง     ด้าน โรเบร์โต มาร์ติเนซ ผู้จัดการทีม วีแกน แอธเลติก มีทีมที่เกือบสมบูรณ์เต็มร้อย โดยขาดไปเพียงแค่ คริส เคิร์กแลนด์ นายทวารจอมหนึบ ที่บาดเจ็บหลังเท่านั้น ขณะที่แกนหลักคนอื่นยังอยู่กันครบทั้ง อาลี อัล ฮับซี, มายนอร์ ฟิเกรัว, จอร์ดี โกเมซ หรือ วิคเตอร์ โมเซส      โดย “เดอะ ลาติกส์” จะลงสนามในระบบ 4-5-1 มี อาลี อัล ฮับซี เฝ้าเสา แนวรับ 4 คนประกอบด้วย แกรี คัลด์เวลล์, สตีฟ โกอูรี, รอนนี สตัม และมายนอร์ ฟิเกรัว ส่วนแดนกลางมี โมฮาเหม็ด ดิยาเม, เดวิด โจนส์, เจมส์ แม็คคาร์ธี, จอร์ดี โกเมซ และวิคเตอร์ โมเซส ขณะที่หน้าเป้าเป็น คอเนอร์ แซมมอน     ความน่าจะเป็นของเกม: แม้จะมีผลงานค่อนข้างกระท่อนกระแท่น แต่ ซันเดอร์แลนด์ ก็ยังดูดีกว่าผู้มาเยือนอย่าง วีแกน พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นตัวผู้เล่น หรือ ฟอร์มหลัง ยิ่งเมื่อดูสถิติของ “เดอะ ลาติกส์” ที่อ่านได้ว่า ชนะ 1เสมอ 3 แพ้ 8 แล้ว ก็ต้องขอฟันฉับลงไปเลยว่า ชัยชนะน่าจะเป็นของ “แมวดำ” ค่อนข้างแน่    ผลที่คาด: ซันเดอร์แลนด์ ชนะ 2-1 .............................................................................................................. เวสต์บรอมวิช – สเปอร์ สนาม: ไวท์ ฮาร์ทเลน เวลา: 22.00 น.     รอย ฮอดจ์สัน ผู้จัดการทีม เวสต์บรอมวิช อัลเบียน จะหมดสิทธิใช้งาน ปีเตอร์ โอเดมวิงกี กองหน้าตัวจี๊ด ที่บาดเจ็บหัวเข่า แต่มีลุ้นได้ พอล ชาร์เนอร์ มิดฟิลด์ทีมชาติออสเตรีย ฟิตกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง ขณะที่แกนหลักคนอื่นยังอยู่กันครบไม่ว่าจะเป็น เบน ฟอสเตอร์, โจนาส โอลส์สัน, โซลตัน เกรา, คริส บรันท์ หรือ เชน ลอง     โดย “เดอะ แบ๊กกีส์” จะลงสนามในสูตร 4-5-1 มี เบน ฟอสเตอร์ เป็นนายทวาร กองหลัง 4 คนประกอบด้วย นิคกี ชอรีย์, แกเร็ธ แม็คออบีย์, โจนาส โอลส์สัน และสตีเวน รีด ส่วนแดนกลางมี เจมส์ มอร์ริสัน, ยุสซูฟ มูลัมบู, โซลตัน เกรา, เจอโรม โธมัส และคริส บรันท์ ขณะที่ เชน ลอง จะรับบทเป็นกองหน้าตัวเป้า     ด้าน แฮร์รี เรดแนปป์ ผู้จัดการทีม ทอตแนม ฮอตสเปอร์ จะยังไม่มี 2 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวเก่งอย่าง วิลเลียม กัลลาส และไมเคิล ดอว์สัน ที่บาดเจ็บ แต่มีลุ้นได้ ทอม ฮัดเดิลส์ตัน ฟิตกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง ส่วนแกนหลักคนอื่นไม่ว่าจะเป็น แบรด ฟรีเดล, เล็ดลีย์ คิง, ลูกา โมดริช และเอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ยังฟิตพร้อมลงสนามทั้งหมด     โดย “ไก่เดือยทอง” จะลงสนามในระบบ 4-4-2 มี  แบรด ฟรีเดล เป็นนายทวาร แนวรับ 4 คนประกอบด้วย ไคล์ วอล์คเกอร์, เล็ดลีย์ คิง, ยูเนส กาบุล และเบอนัวต์ อัสซู เอกอตโต ส่วนแดนกลางมี อารอน เลนนอน, ลูกา โมดริช, สกอตต์ พาร์คเกอร์ และแกเร็ธ เบล ขณะที่คู่หัวหอกเป็น เจอร์เมน เดโฟ กับ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์     ความน่าจะเป็นของเกม: สเปอร์ กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรง เกมนี้แม้ต้องออกมาเป็นทีมเยือนก็ไม่ถือว่าเสียเปรียบเจ้าถิ่นอย่าง เวสต์บรอมวิช อัลเบียน เท่าไรนัก และด้วยแนวรุกอันน่ากลัวของ “ไก่เดือยทอง” ก็น่าจะทำให้พวกเขามีลุ้นถึงคว้าชัยได้เลย    ผลที่คาด: สเปอร์ ชนะ 2-0 .............................................................................................................. อาร์เซนอล – ฟูแลม สนาม: เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เวลา: 00.30 น.     อาร์เซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม อาร์เซนอล จะหมดสิทธิใช้งาน เรียว มิยาอิจิ, บาการี ซาญา, แจ็ค วิลเชียร์ และอาบู ดิยาบี ที่มีปัญหาบาดเจ็บ นอกจากนี้ยังต้องรอลุ้นความฟิตของ คีแรน กิบบ์ส กับ คาร์ล เจนกินสัน อีกด้วย อย่างไรก็ตาม กุนซือชาวฝรั่งเศส ยังคงมีอาวุธหนักให้เลือกใช้งานอย่างครบมือไม่ว่าจะเป็น วอจเซียค เซคเซสนี, โธมัส แฟร์มาเลน, มิเกล อาร์เตตา, ธีโอ วัลคอตต์  หรือ โรบิน ฟาน เพอร์ซี      โดย “ปืนใหญ่” จะลงสนามในระบบ 4-2-3-1 มี วอจเซียค เซคเซสนี เป็นนายทวาร แนวรับ 4 คนประกอบด้วย โลรองต์ กอสเซียลนี, โธมัส แฟร์มาเลน, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ และอังเดร ซานโตส ส่วนแดนกลางมี มิเกล อาร์เตตา กับ อเล็กซ์ ซง ยืนเป็นห้องเครื่อง ขณะที่ ธีโอ วัลคอตต์, อารอน แรมซีย์ และแชร์วินโญ รับหน้าที่ปั้นเกมรุกอยู่หลัง โรบิน ฟาน เพอร์ซี ที่เป็นกองหน้าตัวเป้า     ด้าน มาร์ติน โยล ผู้จัดการทีม ฟูแลม จะยังไม่มี ออร์แลนโด ซา และซเดเน็ค กรีเกรา ที่มีปัญหาบาดเจ็บ และยังต้องรอลุ้นความฟิตของ สตีฟ ซิดเวลล์ และสตีเฟน เคลลี อีกด้วย ส่วนแกนหลักคนอื่นยังอยู่กันครบทั้ง เบรเด ฮันเกลันด์, แดนนี เมอร์ฟี, เดเมียน ดัฟฟ์ และบ็อบบี ซาโมรา     โดย “เจ้าสัวน้อย” จะลงสนามในระบบ 4-4-2 มี มาร์ค ชวาร์เซอร์ เฝ้าเสา แนวรับ 4 คนประกอบด้วย  อารอน ฮิวจ์ส, ฟิลิปป์ เซนเดรอส, เบรเด ฮันเกลันด์ และคริส แบร์ด ส่วนแดนกลางมี เดเมียน ดัฟฟ์, ดิคสัน เอตูฮู, แดนนี เมอร์ฟี และคลินท์ เดมป์ซีย์ ขณะที่คู่หัวหอกเป็น มุสซา เดมเบเล กับ บ็อบบี ซาโมรา     ความน่าจะเป็นของเกม: แม้ อาร์เซนอล จะล้ามาจากเกมยุโรปช่วงกลางสัปดาห์ แต่ด้วยขุมกำลังที่แข็งแกร่ง และความได้เปรียบในฐานะเจ้าบ้านทำให้พวกเขายังดูดีกว่า ฟูแลม พอสมควร และน่าจะบดเอาชนะไปได้อย่างไม่ยากเย็นนักที่ต้องลุ้นก็คือ “ปืนใหญ่” จะยิงสักกี่เม็ดเท่านั้น    ผลที่คาด: อาร์เซนอล ชนะ 3-1. http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=308&contentId=178038 จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 11:23:19

ความคิดเห็นที่ 40 Premier League Preview    by มาร์ค สุรเดช สุดสัปดาห์นี้เกมพรีเมียร์ลีกยังเตะตามโปรแกรมกันครบ 10 คู่เหมือนเช่นเดิม คู่เอกของวีกนี้หนีไม่พ้นเกมที่สนาม แอนฟิลด์ บ้านของทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่จะรอรับการมาเยือนของทีม “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขณะที่เกมระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดวลกับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็น่าสนใจเช่นกัน เริ่มกันที่เกมระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยก่อนหน้าจะพบกัน ลิเวอร์พูล อยู่อันดับ 6 มี 22 คะแนน มีแต้มตามหลังทีม “เรือใบสีฟ้า” ห่างอยู่ 12 คะแนนจากการลงสนามเท่าๆ กัน กลางสัปดาห์ ลิเวอร์พูล ไม่ได้มีคิวลงเตะในถ้วยยุโรปแต่อย่างใด ขณะที่ ซิตี้ เล่นเกมนัดรองสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ไปเยือนรังของ นาโปลี โดยพ่ายแพ้มาด้วยสกอร์ 1-2 และทำให้สถานการณ์การเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายของพวกเขายังไม่แน่นอนอีกด้วย โดยจะต้องไปลุ้นกันในนัดสุดท้ายกับ นาโปลี ว่าทีมใดจะตามหลัง “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค เข้ารอบต่อไปได้สำเร็จ ลิเวอร์พูล ยังมีฟอร์มที่ไม่แน่นอนนักในการเล่นในบ้านของตัวเอง แตกต่างจากฟอร์มนอกบ้านที่พวกเขาชนะมาติดต่อกัน รวมถึงชัยชนะที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อสัปดาห์ก่อน เกมนี้คาดว่า เคนนี่ ดัลกลิช อาจจะหมุนเวียนทีมลงสนาม มักซี่ โรดริเกวซ ที่โชว์ฟอร์มดีแถมทำประตู เชลซี ได้ด้วย อาจจะมีลุ้นรักษาตำแหน่งตัวจริงของตัวเองเอาไว้ได้ แต่รายของ เคร็ก เบลลามี่ ต้องดูว่า คิง เคนนี่ จะดร็อปเขาแล้วส่ง แอนดี้ คาร์โรลล์ ลงมาแทน หรือเลือกให้โอกาสกับกองหน้าจอมเก๋าทีมชาติเวลส์ต่อไปอีกเกม ในแดนหลัง เจมี่ คาร์ราเกอร์ อาจจะต้องนั่งดูน้องๆ ลงสนาม เพราะในเวลานี้การจับคู่ระหว่าง ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ กับ มาร์ติน สเคอร์เทล ค่อนข้างลงตัว ความผิดพลาดเริ่มลดน้อยลง และนั่นทำให้ คาร์ร่า ซึ่งมีศักดิ์ศรีเป็นถึงรองกัปตันทีม ยังต้องรอคอยโอกาสของตัวเองไปพลางๆก่อน ด้าน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีตัวสำรองชั้นดีหลายคนที่ถูกพักไว้ในเกมยุโรปกลางสัปดาห์ ดังนั้นผู้เล่นอย่าง “เอล กุน” เซร์คิโอ อาเกโร่ หรือ ซามีร์ นาสรี่ น่าจะมีลุ้นกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง สถิติที่น่าสนใจก่อนเกมนี้: -    หนสุดท้ายที่ ลิเวอร์พูล พลาดท่าแพ้ต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมลีกนั้นเกิดขึ้นในฤดูกาล 2002/03 -    แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังเป็นทีมเดียวของพรีเมียร์ลีก ที่ยังไม่เคยพบกับความพ่ายแพ้ -    การพบกันเมื่อปีที่แล้วที่ แอนฟิลด์ จบลงด้วยชัยชนะของเจ้าถิ่น 3-0 ความน่าจะเป็นของเกมนี้:ลิเวอร์พูล ได้เปรียบในเรื่องของความสดที่ไม่มีโปรแกรมลงเตะ แต่พวกเขาก็ยังต้องคิด หรือ วางแผนไปถึงเกมไปเยือน เชลซี ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึก คาร์ลิ่ง คัพ ที่จะเตะกันคืนวันอังคาร ด้าน แมนฯ ซิตี้ ยังประมาทไม่ได้เพราะหากพวกเขาแพ้ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เก็บ 3 คะแนนได้สำเร็จ ช่องห่างของทั้งสองทีมจะเหลือเพียงแค่ 2 แต้มเท่านั้น ลิเวอร์พูล ยังมีปัญหาที่การจบสกอร์ เกมนี้พวกเขาอาจจะครองบอลได้ดีกว่า แต่ ซิตี้ มีความอันตรายจากแผงกองกลาง และ กองหน้า ที่ความาสามารถเฉพาะตัวดีกันทุกคน มีตัวจบสกอร์ที่ดี น่าจะเป็นการชิงจังหวะ ใครเข้าทำได้ดีกว่าน่าจะเป็นฝ่ายได้เฮ ผลการแข่งขันที่คาด: ลิเวอร์พูล ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ............................................................................................................... ความน่าจะเป็นของเกมคู่อื่นๆ: สโต๊ค ซิตี้ vs แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส “ช่างปั้นหม้อ” ต้องการทำผลงานให้ดีขึ้น สัปดาห์ก่อนก็ได้เล่นในบ้านแต่พลาดท่าแพ้ต่อ คิวพีอาร์ คาบ้าน 2-3 แถมใน 4 เกมลีกหลังสุด พวกเขาเสียไปถึง 14 ประตู ทำให้ โทนี่ พูลิส คงเน้นมากขึ้น เกมนี้เจอกับ แบล็คเบิร์น ที่ชนะแค่เกมเดียวจาก 12 เกมหลังสุดในลีก ไม่น่าพลาด ผลการแข่งขันที่คาด: สโต๊ค ชนะ แบล็คเบิร์น 2-0 ............................................................................................................... โบลตัน วันเดอเรอร์ส vs เอฟเวอร์ตัน โบลตัน มีเกมรับที่ย่ำแย่มากๆ 6 เกมหลังสุดในลีกในบ้านของพวกเขา “เดอะ ทร็อตเตอร์ส” โดนยิงไปถึง 17 ประตู แต่ เอฟเวอร์ตัน เองก็กำลังเผชิญช่วงเวลาที่ย่ำแย่อยู่ เพราะแพ้ไปถึง 4 จาก 6 เกมหลังสุด 2 ปีหลังสุด โบลตัน เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ได้ตลอด เกมนี้ดูแล้วโอกาสแบ่งแต้มกันมีสูง โดยหากมีผลแพ้ชนะ เอฟเวอร์ตัน ดูดีกว่านิดๆ ผลการแข่งขันที่คาด: โบลตัน เสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0 ............................................................................................................... เชลซี vs วูล์ฟแฮมป์ตัน เชลซี กำลังมีผลงานไม่ดี แพ้ถึง 3 จาก 4 เกมหลังสุดในลีกแถมในบ้านตัวเองยังเสียไปถึง 11 ประตูจาก 6 เกมหลังสุดด้วย แต่การเจอกับ วูล์ฟส์ ไม่น่าจะยากเกินเงื้อมมือลูกทีมของ อังเดร วิลลาส โบอาส ที่จะเก็บชัยชนะได้ 2 ฤดูกาลหลังสุดที่เจอกันที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในลีก เชลซี ชนะ 2-0 และ 4-0 ตามลำดับ ปีนี้ดูแล้วก็ไม่น่าจะแตกต่างมากนัก ผลการแข่งขันที่คาด: เชลซี ชนะ วูล์ฟส์ 3-0 ............................................................................................................... แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด vs นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด สถิติคู่นี้ค่อนข้างข่มกัน ยูไนเต็ด เอาชนะ นิวคาสเซิล ได้ถึง 5 จาก 6 ครั้งหลังสุดที่เจอกันในลีกที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ปีที่แล้ว แมนฯยู ก็ยิงขาดถึง 3-0 แถมเกมนี้ยังได้ตัว เนมานย่า วีดิช กลับมาประจำการแนวรับเหมือนเดิม ดูแล้ว นิวคาสเซิล คงยากจะมาสร้างเรื่องพลิกล็อกขึ้นได้ ผลการแข่งขันที่คาด: แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ นิวคาสเซิล 2-0 ............................................................................................................... นอริช ซิตี้ vs คิวพีอาร์ นอริช เป็นทีมที่ไม่เคยเก็บคลีนชีตได้เลยในซีซั่นนี้ เพราะเกมรับของพวกเขายังมีรูรั่วอยู่ เจอกับ คิวพีอาร์ ที่เก็บชัยนอกบ้านได้ในการเจอกับทีมอย่าง เอฟเวอร์ตัน, วูล์ฟส์ และ สโต๊ค ถือว่าไม่ธรรมดาเหมือนกัน ระดับ  และ ศักยภาพทีมไม่ได้ต่างกันมากนัก โอกาสกอดคอแบ่งแต้มเป็นไปได้มากที่สุด ผลการแข่งขันที่คาด: นอริช เสมอ คิวพีอาร์ 1-1 ............................................................................................................... ซันเดอร์แลนด์ vs วีแกน แอธเลติก 13 เกมลีกผ่านไป “แมวดำ” เพิ่งจะชนะคู่แข่งได้เพียง 2 เกมเท่านั้นทำให้พวกเขาต้องมาอยู่ในโซนอันตราย อย่างไรก็ดีเทียบกับทีมเยือนอย่าง วีแกน แล้ว เจ้าบ้านก็ยังเหนือกว่าเยอะ ปีที่แล้ว ซันเดอร์แลนด์ เอาชนะไป 4-2 และน่าจะย้ำแค้น เดอะ ลาติกส์ ได้อีกคำรบ ผลการแข่งขันที่คาด: ซันเดอร์แลนด์ ชนะ วีแกน 1-0 ............................................................................................................... เวสต์บรอมวิช vs  สเปอร์ส สถิติการเจอกับทีมที่อยู่ในท็อป 7 ฤดูกาลนี้ของ เวสต์บรอมวิช ไม่สู้ดีนัก โดยแพ้รวดทั้ง 4 เกมที่เล่นไปแล้ว ขณะที่ สเปอร์ส ยิ่งเล่นยิ่งดีเกมรุกร้อนแรง เกมนี้แม้จะออกมาเยือนแต่เกมโต้กลับของทีมของ แฮร์รี่ เรดแนปป์ อันตรายทุกฝีก้าว ผลการแข่งขันที่คาด: เวสต์บรอมวิช แพ้ สเปอร์ส 0-1 ............................................................................................................... อาร์เซนอล vs ฟูแล่ม นี่เป็นเกมลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ โดย อาร์เซนอล อยู่ในฟอร์มที่ร้อนแรงสุดขีด ฟอร์มถล่มประตูของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ น่าเกรงขามมากๆ ล่าสุดก็เพิ่งยิงได้อีกในเกม ยูซีแอล กลางสัปดาห์ เจอกับ ฟูแล่ม ไม่น่าจะยากเกินไปสำหรับที่ลูกทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ จะคว้า 3 แต้มมานอนกอด แม้ว่า ฟูแล่ม จะเล่นเกมเยือน 2 เกมหลังสุดและเก็บไปได้ถึง 4 คะแนนก็ตาม ผลการแข่งขันที่คาด: อาร์เซนอล ชนะ ฟูแล่ม 3-1 ............................................................................................................... สวอนซี vs แอสตัน วิลล่า สวอนซี เสียไปเพียง 2 ประตูจากเกมลีกในบ้าน 6 เกมของตัวเองในซีซั่นนี้ ขณะที่ แอสตัน วิลล่า เพิ่งจะแพ้ สเปอร์ส มาในเกมมันเดย์ไนต์ ก็คงต้องการจะทำผลงานให้ดีขึ้น เกมนี้ สวอนซี ต้องเล่นเหมือนกับที่เล่นกับทีมใหญ่ๆ คือเจียมตัว เพราะหากไปซ่าส์เปิดเกมรุกสู้ อาจไปเข้าทางเกมสวนกลับของ วิลล่า แทน ผลการแข่งขันที่คาด: สวอนซี แพ้ แอสตัน วิลล่า 0-1                                                                           เรื่องโดย "มาร์ค สุรเดช"                                                 คอลัมน์ Premier League Preview นสพ.กีฬารายวันฮอตสกอร์ http://sport.sanook.com/1074786/premier-league-by-%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%84-%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%8A/ จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 11:32:44

ความคิดเห็นที่ 41 เรือโหดนะครัฟ!เหี่ยวแย้มอาจส่งดาวรุ่งลงลีกคัพ Report by : brightt อาร์แซน เวนเกอร์ผู้จัดการทีมอาร์เซนอลออกมาให้สัมภาษณ์เปรยว่าเขาอาจจะให้โอกาสเหล่าดาวรุ่งและนักเตะที่ไม่ได้ลงสนามบ่อยนัก ลงแข่งขันกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในรายการลีก คัพในวันอังคารที่จะถึงนี้ ทางอาร์เซนอลมีคิวเปิดบ้านลงแข่งขันกับฟูแล่มในวันเสาร์นี้ ก่อนต้อนรับการมาเยือนของแมนเชสเตอร์ ซิตี้คู่แข่งในศึกคาร์ลิ่ง คัพในวันอังคาร "ผมต้องการจะเห็นเกมในวันเสาร์ก่อนที่จะตอบคำถามเหล่านั้น แน่นอนว่าผมจะใช้นักเตะที่ไม่ได้ลงเล่นบ่อยนัก" "แต่พวกเราจะต้องใช้ชุดผสมที่ดีระหว่างนักเตะดาวรุ่งกับพวกที่มีประสบการณ์ ฉะนั้นแล้วเราก็จะมีโอกาสที่ดีในการเอาชนะ" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=514754&sid=be7c9b89d130676d29661440e8f3eb73 จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 11:38:52

ความคิดเห็นที่ 42 คุณ King Bamboo ฝากมาบอกว่า  คงไม่ได้ร่วมเชียร์ในกระทู้สักพักใหญ่ๆ เพราะโดนแบนครับผม   จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 16:09:35

ความคิดเห็นที่ 43 ที่แพ้นาโปลีเป็นเพราะมันโช่ประมาท ถ้าเอากลิชี่กับริชาทลงผมว่าน่าจะดีกว่านี้ จากคุณ : WangYu เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 16:39:13

ความคิดเห็นที่ 44 ความคิดเห็นที่ 42     คุณ King Bamboo ฝากมาบอกว่า  คงไม่ได้ร่วมเชียร์ในกระทู้สักพักใหญ่ๆ เพราะโดนแบนครับผม   จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า   เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 16:09:35   """"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""" แฟนคลับถนอมเนื้อ ถนอมตัวกันหน่อย ล๊อกอิน โดนแบน โดนยึด อดโพสต์ลงแดงตายเลย เหอๆ อะไรปล่อยวาง ปล่อยไหลได้ ก็อย่าต่อความยาว สาวความยืดเลย เถียงชนะก็ไม่ได้อะไร  เชื่อเหอะ ผมโดนแบน โดนยึดมาสี่อันแล้ว  ฮ่าๆๆ ตอนนี้ทำหูทวนลม  อ่านกระทู้ไหนแล้ว ไม่ถูกใจ ก็ปิดวินโด้  ไม่ตอบโต้  สบายใจ อย่างมากก็ หึหึ จากคุณ : M11 3FF เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 16:54:19

ความคิดเห็นที่ 45 ตามมาอ่านข่าวครับ จากคุณ : yellow fins เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 16:57:59

ความคิดเห็นที่ 46 ผมว่าตารางแข่งมีผลมากกับเหตุผลการวางตัวให้ต้องโรเตชั่นริชาร์ดกับควิชี่ อาทิตย์ก่อนเราเจอนิวที่มีฟอร์มไม่แพ้ใครเช่นกัน แล้วก็มาเจอนาโปลีนัดสำคัญ ก่อนจะมาต่อด้วยลิเวอร์พูลนอกบ้านอย่างนี้ ถ้าเอาริชาร์ดลงไปพร้อมควิชี่ 2 นัดติดก็คงล้าแน่นอนเพราะฟูลแบ็คของซิตี้ต้องวิ่งเติมตลอด 2 ฟากสนามทั้งเกม ถ้าจะเอาลงแค่นัดนาโปลี บางทีนัดแรกเจอนิวก็คงไม่ชนะ นัดนั้นเกือบไปเหมือนกัน ไม่ใช่นัดง่ายๆ เพียงแต่เราจบสกอร์ดี แต่รูปเกมไม่ได้เหนือกว่าเท่าไหร่ แล้วมาต่อด้วยนัดนี้กับลิเวอร์พูลที่ยังไม่แพ้ใครในบ้าน ผมว่าเอาริชาร์ดกับควิชี่ลงนัดเจอนิวแล้วมาเล่นอีกทีนัดลิเวอร์พุลก็เป็นเหตุผลที่ดีอยู่เหมือนกัน ตารางแข่งสัปดาร์นี้มันเกมโหดทั้ง 3 นัดเลยครับ จากคุณ : ซุปเปอร์ซัพ สุดยอดสำรอง เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 17:15:10

ความคิดเห็นที่ 47 --เสียใจด้วยนะครับคุณ King Bamboo ขอให้ได้กลับมาเร็วๆนะครับ --มันโช่ เกมแพ้นาโปลี ออกมาเปรยแบบนั้นไม่ดีต่อความรู้สึกของแฟนบอลเลย น่าจะออดมายอมรับผิดและขอโทษแฟนบอลมากกว่า "รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง" --แม็ตวันอาทิตย์ ที่จะพบกับ ลิเวอร์พูล ดูเหมือนว่าก่อนนั้นเรามักจะแพ้ทางหงส์ แต่ฤดูกาลนี้ ทีมเราปรับยุทธศาสตร์ใหม่มาแล้ว  อย่างเราเคยแพ้ทาง เอฟเวอร์ตัน, สเปอร์ มาแล้ว เมื่อฤดูกาลก่อนๆ พอมาปีนี้ เราจัดการเสียราบคาบมาหมดแล้ว ฉะนั้นหงส์รึ..! ก็น่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับ ทั้งสองทีมนั้น ไม่ได้เจิมนะ แค่หวังว่า.... จากคุณ : ดงตาล เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 17:26:02

ความคิดเห็นที่ 48 ล็อคอินเก่า (V-FrIeNd) ผมโดนแบนไป 3 ปีแล้วมั้งเนี่ย 555+ จากคุณ : AMD_Kamilia เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 18:07:22

ความคิดเห็นที่ 49 ไม่ใช่ขุมกำลังทีมเราไม่แกร่งพอหรอก กึ๋นผจก.ทีมไม่ดีพอต่างหาก นาโปลีก็ไม่มีขุมกำลังนักเตะเยอะ  ทำไมเขาถึงชนะเราได้ จากคุณ : CCE9PASS เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 18:13:52

ความคิดเห็นที่ 50 พี่ M11 3FFโดนมาสี่อัน แต่หนูโดนไป 5-6 อันแล้วเพราะห้องราชดำเนิน อมยิ้มนี้สมัครไว้ตั้งแต่พ.ค.ปีก่อน เพิ่งจะกล้าเอามาเล่นในคอมตัวเองเมื่อ 4 - 5เดือนที่ผ่านมานี้เอง จากคุณ : CCE9PASS เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 18:18:40

ความคิดเห็นที่ 51 คิดว่าโชคไม่ดีมากกว่าครับ ถ้า 3 นัดเป็นนัดธรรมดาสัก 1 นัดก็จะดี อย่างสัปดาห์หน้าก็ไม่เป็นไรเป็นนัดอ่อน 2 นัด เจอปืนชุดสำรอง แล้วตามด้วยนอร์วิช ถัดไปอีกสัปดาห์ก็มี 3 นัด หนัก 2 นัด เจอเชลซี ต่อด้วยบาร์เยิร์นก็ไม่เป็นไรเพราะก่อนนั้นเป็นนอร์วิชเราพักนักเตะหลักได้ใช้ฟูลแบ็คตัวหลักใน 2 นัดที่ติดกันได้และ 2 นัดนั้นห่างกัน 4 วัน หลังจากนั้นก็ว่าง 1 อาทิตย์ ตามความเห็นของผมฟูลแบ็คเติมเกมอย่างนี้ดูเหมือนเราจะยังมีไม่พอสำหรับ 3 นัดหินๆครับ จากคุณ : ซุปเปอร์ซัพ สุดยอดสำรอง เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 18:28:06

ความคิดเห็นที่ 52 อมยิ้มถูกแบน สำหรับห้องราชดำเนิน ถือว่าเป็นปกติ ผมก็เคยโดน แต่ไม่ใช่ล็อกอินนี้นะ ตัดปัญหาไม่เข้ามันเลยดีกว่า เดียวไม่เจอกระทู้บ้างกระทู้ แล้วจี๊ดขึ้นมาจะทำใจไม่ได้ เข้า ไปตอบเดียวก็เกิดเรื่องอีก ก็เลยไม่เข้ามันเลยมา 2-3 ปี แล้ว จากคุณ : augie เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 18:39:29

ความคิดเห็นที่ 53 นาโปลีเป็นแดนเถื่อนสำหรับแฟนบอลต่างทีมจริงๆ ในปีนี้หลังจากเหตุการณ์แฟนบอลบาเยิร์นถูก 2 รายในนัดที่ไปเยือนเร็วๆนี้ http://www.guardian.co.uk/football/2011/oct/18/bayern-munich-fans-stabbed-naples นัดที่ผ่านมามีการเตรียมรับความปลอดภัยกันอย่างสูงสุด สโมสรซิตี้บอกแฟนบอลซิตี้ไม่ให้ใส่เสื้อทีมในระหว่างอยู่ในเมือง รวมถึงผ้าพันคอและสัญลักษณ์อื่นๆ มีการประสานงานกันอย่างดีจากตำรวจทั้งของแมนเชสเตอร์และนาโปลี แต่สุดท้ายก็ไม่วาย 2 พ่อลูกโดนแทงจนได้ บาดแผลลึกและเกือบถึงตับ ได้รับการนำส่งโรงพยาบาลทันที ปลอดภัยแล้ว ว่ากันว่า ถ้าตำรวจนอกเครื่องแบบไม่ชักปืนมาห้ามน่าจะเสร็จอีกตามเคย http://menmedia.co.uk/manchestereveningnews/news/s/1466140_no-trouble-in-naples-manchester-city-fan-reveals-he-was-knifed-by-thugs-after-champions-league-match แก้ไขเมื่อ 26 พ.ย. 54 19:07:59 จากคุณ : ซุปเปอร์ซัพ สุดยอดสำรอง เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 18:58:30

ความคิดเห็นที่ 54 คืนนี้มาเชียร์ทูนอาร์มี่ให้แบ่งแต้มจากผีกันครับ จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 20:16:39

ความคิดเห็นที่ 55 ขอให้คุณ King Bamboo ได้กลับมาไวๆนะคะ ใครจะมาเจิม..ได้แม่นเท่าคุณKing Bamboo น๊า ทิม ก็ไม่ไปเยือนห้องราชฯ นานแล้ว..ไปที่อื่นดีกว่า จากคุณ : timetable เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 20:18:15

ความคิดเห็นที่ 56 King Bamboo ไม่อยู่ใครจะเจิมนักเตะ ละครับเนีย จากคุณ : ขวดกลม เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 22:00:02

ความคิดเห็นที่ 57 ผมสิเจิม clean sheet ทีไร เสียประตูทุกทีเลย วันนี้รอเชียร์ นิว ทีมโปรดอันดับสองอยู่ครับ จากคุณ : คนน่ารัก มักใจร้าย เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 22:29:05

ความคิดเห็นที่ 58 โอแบตองส่องไกล ออกนอกกรอบไป จากคุณ : คนน่ารัก มักใจร้าย เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 22:36:53

ความคิดเห็นที่ 59 จบครึ่งแรก แมนยูบุกได้มากกว่า แต่นิวก็พอมีโอกาสเหมือนกัน ผลยัง 0-0 จากคุณ : คนน่ารัก มักใจร้าย เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 22:48:28

ความคิดเห็นที่ 60 ครึ่งแรก แมนยู  0-0 นิวคาสเซิล   ลุ้นนิวฯแบ่งแต้มให้ได้ จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 22:54:30

ความคิดเห็นที่ 61 หุหุ นิวมักแจ่มมากในครึ่งหลัง อลัน พาดิว  ตาแหลมมากอะ เลือกนักเตะแต่ละคน ทดแทนคนที่จากไปได้ครอบคลุมหมด จากคุณ : ขวดกลม เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 22:57:17

ความคิดเห็นที่ 62 นักเตะของเรา ถ้าให้ลงต่อเนื่อง อย่าง ซาบาเลตต้า หรือ โอนูฮา ผมว่า ฟอร์มก็ดีนะครับ  ของเราโรเตชั่นเยอะไปหรือเปล่า นักเตะเลยฟอร์มดี ก็ไม่รู้จะได้ลงนัดหน้าหรือเปล่า จากคุณ : ป้อม (Bgate) เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 22:59:03

ความคิดเห็นที่ 63 บางทีคงมีการสัญญากับนักเตะไว้มั้งนะผมว่า คือได้ลงแบบสลับกันเว้นแต่ตัวหลักจริงๆ ไม่งั้นนักเตะอาจมีงอแงได้เพราะได้ลงไม่ครบทุกคน จากคุณ : คนน่ารัก มักใจร้าย เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 23:01:21

ความคิดเห็นที่ 64 ชิชาริโต้ทำประตูให้แมนยูขึ้นนำ 1-0 แล้ว อ่า จากคุณ : คนน่ารัก มักใจร้าย เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 23:08:03

ความคิดเห็นที่ 65 ริโอ เฟอดินาน สไลด์เบน อา ฟา ในเขตโทษ กรรมการเป่าให้เป็นจุดโทษ บา ซัดเข้าไป นิวตีเสมอเป็น 1-1 จากคุณ : คนน่ารัก มักใจร้าย เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 23:22:24

ความคิดเห็นที่ 66 แหล่ม อิอิ จากคุณ : VanHelsing เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 23:25:14

ความคิดเห็นที่ 67 กำ โฆนาส โดนไล่ออก จากคุณ : VanHelsing เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 23:35:55

ความคิดเห็นที่ 68 โจนาสของนิว โดนเหลืองที่สอง ถูกไล่ออก นิวเหลือ 10 ตัว จากคุณ : คนน่ารัก มักใจร้าย เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 23:37:16

ความคิดเห็นที่ 69 โอ้ย หัวใจจะวาย จากคุณ : VanHelsing เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 23:42:36

ความคิดเห็นที่ 70 โย่ว เหอๆ จากคุณ : jojoyo เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 23:52:16

ความคิดเห็นที่ 71 วันนี้นิวขี่ดวงมา 1-1 พรุ่งนี้ ซิตี้เราไม่กดดันแล้ว สบายๆ จากคุณ : VanHelsing เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 23:52:52

ความคิดเห็นที่ 72 จบเกมแล้ว นิวยันไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ เสมอกันไป  1-1 จากคุณ : คนน่ารัก มักใจร้าย เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 23:53:29

ความคิดเห็นที่ 73 นิวมากับดวงจริงๆ  10 คนยันเสมอแมนยู แบ่งแต้มมาได้ จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 23:58:02

ความคิดเห็นที่ 74 ช่วงหลังต้องระวังไก่ที่แรงขึ้น ชนะติดๆกันมาตลอด โดยเฉพาะนักเตะเรา อเดบายอร์ ยิงได้ตลอด จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 00:09:57

ความคิดเห็นที่ 75 ไม่เข้าใจ ทำไมแมนซิชอบให้หอกชาวบ้าน เค้ามาทิ่มแทงตัวเองเสียจริง แม้ ยอ มันจะลงแข่งกับเราไม่ได้ก็เถอะ จากคุณ : ขวดกลม เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 00:19:21

ความคิดเห็นที่ 76 แมนยู สดุดไปแล้ว พรุ้งนี้เชียร์กันสนุก จากคุณ : บาเต้า เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 00:24:51

ความคิดเห็นที่ 77 ทางที่ดี ปล่อยบายอไปอื่นเหอะ ลาลีก้า กัลโช่ ก็ได้ ขืนอยู่พรีเมียร์ต่อไปมีหวังได้มายิงเราแน่ๆ แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 54 00:51:17 จากคุณ : VanHelsing เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 00:35:59

ความคิดเห็นที่ 78 กระทู้วันใหม่ http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S11386129/S11386129.html http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S11386129/S11386129.html http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S11386129/S11386129.html จากคุณ : เก็บคอ งอเข่า เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 09:11:07