'พิทักษ์ เป๋ากระโทก' ฮีโร่เหรียญทองวูซูเกมส์ วัย 18 ปี พร้อมเบื้องหลังความสำเร็จที่ต้องแลกมาด้วยชีวิตของผู้เป็นแม่
|
 |
เปิดปมชีวิต 'พิทักษ์ เป๋ากระโทก'
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลนครนครราชสีมา นายบุญเหลือ เจริญวัฒน์ รองนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ได้มอบดอกไม้ร่วมแสดงความยินดีกับนักกีฬาจาก รร.กีฬาเทศบาลนครนครราชสีมา ที่ได้เหรียญจากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่ประเทศอินโดนีเซีย
โดยมีนักกีฬาจาก รร.กีฬาเทศบาลนครนครราชสีมา ได้เหรียญจากการแข่งขันรายการดังกล่าว 3 เหรียญ ประกอบด้วย 1 เหรียญทอง 1 เหรียญทองแดงจากกีฬาวูซู 1 เหรียญเงินจากกีฬายกน้ำหนัก
โดยเหรียญทองหนึ่งเดียวที่ได้ในการแข่งขันในครั้งนี้ แลกมาด้วยหนึ่งชีวิตของผู้เป็นแม่ สร้างความสะเทือนใจแก่ผู้ที่ทราบเรื่องเป็นอย่างยิ่ง
ผอ.รร.กีฬาเทศบาลฯ กล่าวอีกว่า นายพิทักษ์ได้สอบเข้ามาเรียนในโรงเรียนกีฬาฯ จากการผลักดันของนางปุ่น เป๋ากระโทก ผู้เป็นแม่ ที่มีความหวังว่าจะให้ลูกได้เป็นนักกีฬาทีมชาติ แต่หลังจากที่ลูกได้เข้าเรียนในโรงเรียนกีฬาฯ ไม่นาน ผู้เป็นแม่ก็ต้องมาป่วยเป็นโรคมะเร็ง ซึ่งในขณะนั้น นายพิทักษ์กำลังเรียนอยู่ชั้น ม. 5 และ ยังมีพี่สาวที่ยังเรียนอยู่ในระดับเดียวกัน ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก แต่ด้วยความเป็นแม่ที่ต้องการเห็นลูกทั้งสองคนมีอนาคต เกรงว่าอาการป่วยของตัวเองจะทำให้ไม่มีเงินส่งลูกเรียน และอาจจะทำให้ลูกไม่มีสมาธิในการฝึกซ้อมกีฬา
จึงยอมจบชีวิตตัวเองลง เพื่อให้ลูกทั้งสองคนมีอนาคตที่ดี จนในที่สุดนายพิทักษ์ ได้ตั้งใจฝึกฝนอย่างหนัก จนได้เป็นตัวแทนนักกีฬาทีมชาติเข้าร่วมแข่งขัน และได้เหรียญทองสมความตั้งใจของผู้เป็นแม่
ด้านนายพิทักษ์ เจ้าของเหรียญทอง กีฬาวูซู ซีเกมส์ครั้งที่ผ่านมา เปิดเผยว่า ผู้เป็นแม่หวังอยากให้ตนเป็นนักกีฬาทีมชาติ จึงได้พามาสอบเข้าที่ รร.กีฬาเทศบาลนครนครราชสีมา ครั้งแรกสอบเข้า ม.1 ไม่ผ่าน จากนั้นได้มาสอบเข้า ม.4 อีกครั้ง จนได้เข้าเรียนตามที่แม่หวังไว้ ซึ่งในช่วงแรกมีปัญหามาก เพราะตนคิดถึงบ้านจนแทบไม่มีสมาธิในการฝึกซ้อม แต่หลังจากที่ปรับตัวได้ ก็เริ่มฝึกซ้อมจนมีโอกาสเข้าร่วมแข่งขัน กีฬาหลาย ๆ รายการ
จนเมื่อ 2 ปีก่อน แม่ก็มาป่วยเป็นโรคมะเร็ง ซึ่งจำเป็นต้องใช้เงินในการรักษาเป็นจำนวนมาก และในวันหนึ่งแม่ได้เดินทางมารับตนกลับไปที่บ้าน และให้นอนกอดแม่หนึ่งคืน... ในช่วงนั้นแม่ได้บอกให้ตนตั้งใจฝึกซ้อมต่อไปเพื่อให้ติดทีมชาติ จากนั้นในช่วงเช้าแม่ได้พาตนเข้าไปทำงานในสวนหลังบ้าน แต่ขากลับแม่บอกว่าจะตามมาทีหลังให้ตนกลับไปก่อน ซึ่งเข้าใจว่าแม่อาศัยช่วงเวลาดังกล่าว ผูกคอเสียชีวิตในสวน ลาจากไปในที่สุด ซึ่งตอนนั้นแม่อายุได้เพียง 39 ปี
ผมคิดว่าที่แม่ตัดสินใจทำเช่นนั้น เพราะแม่ต้องการให้ผมและพี่สาวได้เรียนต่อ เพราะถ้าหากนำเงินที่มีอยู่ไปรักษาตัว ก็จะไม่พอใช้จ่ายเป็นค่าเล่าเรียน แม่รู้ตัวดีว่ายังไงก็ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ จึงยอมตัดสินใจคิดสั้นดังกล่าว นายพิทักษ์ กล่าวทั้งน้ำตา และเผยต่อไปอีกว่า ช่วงแรกตนแทบไม่มีสมาธิในการซ้อมต้องใช้เวลาทำใจนานหลายเดือน จนนึกได้ว่าแม่ต้องการให้เราติดทีมชาติ เพื่อให้เรามีอนาคตที่ดี จึงตั้งใจฝึกซ้อมอย่างหนัก และได้โอกาสจากผู้ใหญ่ จนเข้าแข่งขันได้แชมป์ประเทศไทย และได้เป็นตัวแทนไปแข่งซีเกมส์ จนคว้าเหรียญทองดังกล่าวได้
ซึ่งในการแข่งขันทุกครั้งตนจะนำ ชายผ้าถุงแม่ มาผูกติดแขนไปด้วยเสมอเพื่อความเป็นสิริมงคล ปลุกขวัญกำลังใจ เสมือนมีแม่มาอยู่เคียงข้าง เชื่อว่าชายผ้าของแม่นี้จะเป็นสิ่งนำโชคที่ทำให้ตนสามารถคว้าชัยชนะ ในทุกครั้ง โดยตนขอมอบเหรียญทองในครั้งนี้ให้กับแม่ที่ล่วงลับไปแล้ว เพราะท่านเป็นทุกอย่างที่ทำให้ตนมีวันนี้ได้.
ความรักของแม่เนื้อคำบรรยายจริงๆค่ะ และความกตัญญูของลูกก็ทำให้เขาได้ดี...
เนื้อข่าวจาก Daily news online ค่ะ
แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 54 22:54:12
แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 54 22:53:46
จากคุณ |
:
Rich ka
|
เขียนเมื่อ |
:
30 พ.ย. 54 22:50:52
|
|
|
|