Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
!!!! หุ่นเชิด !!! ติดต่อทีมงาน

น่าดีใจนะครับที่ฟุตบอลลีกไทยได้รับโควตาเข้าไปเล่นในฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชียรายการ "เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2012" รอบแบ่งกลุ่มแบบอัตโนมัติ


นี่คือผลพวงจากการประเมินของ สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ที่มาตรวจไปเมื่อต้นปี


ถ้าดูจากสิ่งตอบแทนที่ได้รับกลับมาคงต้องชื่นชมว่าฟุตบอลลีกไทยพัฒนาขึ้นจนน่าพอใจ ไม่งั้น "เอเอฟซี" ที่ว่ากันว่ามีคณะกรรมการประเมินผลที่เขี้ยวลากดินคงไม่อนุมัติให้ไทยได้โควตาอย่างที่ว่าแน่ๆ


แต่น่าแปลกใจอยู่เหมือนกันที่วันนี้ "เอเอฟซี" มองว่าลีกไทยพัฒนาขึ้น แต่ส่วนตัวแล้วผมกลับมองว่าไม่ได้พัฒนาขึ้นไปอย่างที่ควรจะเป็นสักเท่าไร


ภาพที่สวยงามหลายๆ อย่างที่ได้เห็นอาจจะทำให้มองว่าฟุตบอลลีกไทยพัฒนาขึ้นมามากกว่าวันวานเยอะ แต่ถ้าคิดให้เยอะหรือคิดให้มากเคยมองกันบ้างหรือไม่ว่าสิ่งที่เราเห็นกันอยู่มันอาจจะเป็นแค่ "เปลือกนอก" เท่านั้น


"แก่นแท้" ของความเป็นลีกฟุตบอลที่แข็งแกร่งยังไม่มีการการันตีได้อย่างเป็นรูปธรรม ทุกวันนี้หลายคนยังพูดกันมากว่าอีกไม่กี่ปีจากนี้วงการฟุตบอลไทยอาจจะเกิดอาการ "ฟองสบู่แตก"


ปัญหาคือระบบการจัดการที่ยังหามาตรฐานที่แน่นอนไม่เจอ แต่ละปัญหาเหมือนจะถูกสะสางด้วยวิธีการ "ปัดฝุ่นเข้าใต้พรม"


ทั้ง สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ "ทีพีแอล" บจก.ไทยพรีเมียร์ลีก ในฐานะผู้ดำเนินการจัดการแข่งขันยังไม่สามารถเป็นที่พึ่งให้ทุกทีมที่ร่วมอยู่ในลีกได้ แต่ดูเหมือนจะเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องบริวารเท่านั้น


มาตรฐานของการจัดการแข่งขันและความแน่นอนไม่เคยมีปรากฏ "ทีพีแอล" ทำตัวเหมือน "ไม้หลักปักขี้เลน" ไม่มีความแน่นอนโยกไปโยกมา


กรณีล่าสุดที่ซ้ำเติมความไม่มีมาตรฐานของลีกไทยคือการกลับลำคำสั่งอุทธรณ์โทษของทีม "ฉลามชล" ชลบุรี


ย้อนกลับไปวันที่ 29 พฤศจิกายน "ฉลามชล" ออกข่าวได้รับการอุทธรณ์โทษจากกรณีแฟนบอลก่อเหตุวุ่นวายหลังจบเกมกับ บุรีรัมย์-พีอีเอ โดย "ทีพีแอล" อนุมัติให้กลับมาเล่นที่ ชลบุรี สเตเดี้ยม ตามเดิม แต่ยังคงห้ามแฟนบอลเข้าชมในสนามตามโทษที่โดน


แต่พอข้ามคืนรุ่งขึ้นวันถัดไป 30 พฤศจิกายน "ทีพีแอล" กลับออกคำสั่งใหม่ให้ ชลบุรี กลับไปเตะที่สนามเป็นกลางตามโทษเดิม และยกเลิกการอุทธรณ์โทษอย่างที่ข่าวออกไปก่อนหน้านั้น 1 วัน


ไม่มีคำอธิายใดๆจาก ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานทีพีแอล นอกเสียจากคำอ้างที่ว่า "การสื่อสารผิดพลาด"


แต่เบื้องลึกมีการวิพากษ์วิจารณ์กันหนาหูว่ามีผลสืบเนื่องจากเกมอีกคู่ที่ "โปลิศ" อินทรีเพื่อนตำรวจ จะขอไปใช้สนามสพล.ชลบุรีเล่นกับ "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เนื่องจากสนามเหย้าของตัวเองที่ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต เจอพิษน้ำท่วมเล่นไม่ได้..หรือเปล่า


ข่าวในโลกไซเบอร์ระบุมาตั้งแต่ก่อนที่ ชลบุรี จะอุทธรณ์โทษผ่านแล้วว่า เมืองทองฯ ยูไนเต็ด จะไม่ยอมไปเตะที่ชลบุรีและพยายามขอย้ายไปเตะที่อื่นด้วยเหตุผลเรื่องของแฟนบอลเจ้าถิ่น แต่ อินทรีเพื่อนตำรวจ ยืนกรานว่าจะต้องเตะที่สพล.ชลบุรี


กระทั่ง ชลบุรี อุทธรณ์โทษผ่านทุกอย่างก็ลงตัว เพราะ "ฉลามชล" จะได้กลับไปเล่นที่ชลบุรี สเตเดี้ยม ทาง อินทรีเพื่อนตำรวจ จึงทำหนังสือประชาสัมพันธ์แจ้งข่าวกับสื่อมวลชนยืนยันว่าได้เตะที่สนามสพล.ชลบุรีแน่ๆ


แต่ก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเมื่อ "ทีพีแอล" กลับลำให้คำอุทธรณ์ของ ชลบุรี ตกไป ทำให้ "ฉลามชล" ต้องไปเล่นสนามเป็นกลางอย่างเดิม นั่นหมายความว่าต้องไปเล่นที่สนามสพล.ชลบุรี


เมื่อเหตุการณ์เป็นดังนี้ อินทรีเพื่อนตำรวจ จึงต้องหาสนามใหม่และอยากจะไปใช้ชลบุรี สเตเดี้ยมแทน แต่ "ทีพีแอล" ดันระบุอีกว่าชลบุรี สเตเดี้ยมติดโทษแบนไม่สามารถใช้แข่งขันได้


ถึงตรงนี้เลยพาให้งงและสงสัยว่าทำไมทีม "โปลิศ" จะไปขอใช้สนาม "ชลบุรี สเตเดี้ยม" เตะไม่ได้ ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวกับอะไรกับ ชลบุรี เลย เพียงแต่ไปขอใช้เป็นสนามเหย้าชั่วคราวเท่านั้น


ที่สุดแล้ว อินทรีเพื่อนตำรวจ เลยต้องระเห็จไปใช้สนามเหย้าที่ชัยนาทแทน ดูแล้วก็น่าเห็นใจนักเตะ "โปลิศ" เหลือเกิน นอกจากสนามตัวเองจะไม่มีเตะแล้วยังต้องโดนบีบถูกจับให้ไปเตะสนามนู้นสนามนี่ตามความพอใจของใครบางคนอีกด้วย


กรณีนี้ "ทีพีแอล" ต้องออกมาตอบให้ชัดเจนว่ามีเหตุและผลอย่างไร ไม่งั้นคงห้ามไม่ให้คนในวงการฟุตบอลไทยคิดไม่ได้ว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลัง


การตัดสินใจเปลี่ยนแปลงคำสั่งแบบชั่วข้ามคืนทำให้ "ทีพีแอล" ยิ่งน่าจะถูกประณามถึงความไม่มีมาตรฐานและความแน่นอนในการจัดการแข่งขัน


จากเหตุการณ์นี้ยิ่งทำให้ "ทีพีแอล" ถูกตอกย้ำว่าไม่ได้เป็น "เอกเทศ" ในการจัดการแข่งขันเหมือนที่ "เอเอฟซี" พยายามจะยกระดับวงการฟุตบอลลีกในเอเชียอย่างที่ควรจะเป็น


แต่ "ทีพีแอล" ถูกครอบงำอยู่ทางด้านหลังและไม่สามารถที่จะบริหารจัดการอะไรได้แบบเป็นเอกเทศ


ถึงตรงนี้หลายสโมสรจึงเริ่มออกมาพูดกันแล้ว "ทีพีแอล" ไม่จำเป็นที่จะต้องมาระดมความคิดเห็นของสโมสรสมาชิกเพื่อที่จะคิดแก้ไขหรือวางกฏระเบียบกติกาอะไรใดๆอีก


โดยเฉพาะเรื่องของ "โควตานักเตะต่างชาติ" ที่เสียงสโมสรใหญ่ต่างไม่เห็นด้วยมาตั้งแต่แรกแล้วว่าควรจะใช้ 3+1 มากกว่า 7 ลง 5


เสียเวลาเปล่าที่จะมาระดมสมองใช้ความคิดร่วมกันว่าควรจะให้ระเบียบหรือกติกาไหนเพื่อช่วยกันพัฒนาวงการฟุตบอลไทย เพราะหาก "สโมสรใหญ่" ไม่เอาหรือไม่เซย์เยสทุกอย่างเป็นอันจบ


"ทีพีแอล" ต้องยอมรับสภาพตัวเองว่าไม่ได้เป็นเอกเทศที่จะสามารถตัดสินใจหรือกำหนดทิศทางอะไรได้ด้วยตัวเอง แต่ "ทีพีแอล" เป็นเพียงแค่ "หุ่นเชิด" ที่จะคอยถูกชักแขนชักขาให้ไปทิศทางไหนเท่านั้นเอง


ถึงตรงนี้เลยได้แต่เอวังปนสมเพชกับสภาพความจริงของวงการฟุตบอลไทย ใครจะดีอกดีใจกับโควตาเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกที่ได้มาก็เชิญตามสบาย


 แต่ส่วนตัวแล้วขอมอบคำว่า "ห่วยขั้นเทพ" ให้วงการฟุตบอลลีกไทยครับพี่น้อง


*** บับเบิ้ล บ้าบอล ใน "นักเลงฟุตบอล" 3 ธ.ค. ****

ที่มา : http://www.oknation.net/blog/bubble/2011/12/04/entry-2

จากคุณ : Mr.Thirty-one
เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 54 22:56:24




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com