ความคิดเห็นที่ 1 ผมเห็นการเมืองแฝงในฟุตบอล จากคุณ : เขยสันป่าตอง เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 54 11:41:24

ความคิดเห็นที่ 2 ระบบจะคัดกรองเองครับ ทีมไหนที่มีการจัดการที่ดี มีแฟนบอลสม่ำเสมอ มีสปอนเซอร์เข้า ก็จะยืนระยะอยู่ได้ ส่วนทีมไหนทำไม่ได้ก็ต้องล้มหายตายจาก หรือไม่ก็หล่นไปอยู่ลีกล่าง ๆ เอง เรื่องล้มละลายเป็นเรื่องปกติของการทำธุรกิจกีฬาครับ ในอังกฤษเอง ทีมลีกล่าง ๆ ที่ต้องถอนทีมยุบทีมก็มีกันอยู่เสมอ แม้แต่ในปัจจุบันก็ยังมีอยู่เรื่อย ๆ แต่ไม่เป็นข่าวเพราะเป็นทีมเล็ก ๆ เท่านั้นเอง เงินเดือนนักเตะ ในต่างประเทศก็ไม่เท่ากันครับ และไม่มีทางเท่ากันด้วย คนที่เป็นดารา ยังไงก็ได้เงินมากกว่านักเตะธรรมดาในทีม บางทีสองสามเท่าก็มี ถ้าใครรับไม่ได้คิดว่าตัวเองได้เงินน้อยกว่าที่ควร ก็ต้องย้ายไปอยู่ทีมอื่นที่ให้เงินได้มากกว่า จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 54 11:47:19

ความคิดเห็นที่ 3 ...เงินเดือนแบบนี้ก็ดีแล้วครับ เตะบอลมาก็ไห้เค้าเหลือเงินไว้ใช้บ้าง  ไม่ใช่เลิกเตะบอลมา บ้านก็ยังผ่อนไม่หมด เงินสดก็เหลืออยู่ไม่กี่มากน้อย  อย่างงี้เด็กๆที่ไหนจะอยากมาเป็นนักฟุตบอล พ่อแม่ผู้ปกครองเห็นทางนี้ไม่รุ่งใครเค้าอยากจะส่งเสริม จากคุณ : LegalisM เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 54 11:50:49

ความคิดเห็นที่ 4 โดยส่วนตัวผมมองว่าที่ไทยลีกมันมีโอกาสฟองสบู่แตก  แต่จะแตกแบบไหนมากกว่า แบบที่พังทั้งระบบหรือพังแค่บางทีม มันมีหลายองค์ประกอบนะครับที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนั้น องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดคือ "การบริหาร,จัดการ"  ถ้าในภาพรวมก็การบริหารลีก,ภาพที่ย่อยลงมาก็คือการบริหารทีม ถ้าได้คนมีวิสัยทัศน์ความรู้ความจริงใจ ทีมก็ไปในแนวทางที่ดี ลีกก็ไปในแนวทางที่ดีเช่นกัน เงินเดือนนักเตะ เรื่องนี้ก็วัดกันลำบาก ถ้าให้น้อยนักเตะคุณภาพก็จะไหลออกนอกประเทศ ลีกก็จะขาดความตื่นเต้น  แต่ผมก็เห็นด้วยว่าควรมีเพดานค่าเหนื่อย ซึ่งปีะเทศเราใช้การติดทีมชาติเป็นเพดาน ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด นี่ก็ยากเพราะแค่ทรูซื้อลิขสิทธิ์ไปและยังพอมีถ่ายทางฟรีทีวี แต่เป็นคู่เล็กๆ หลายคนก็ยังบ่นกัน ส่วนตัวผมคิดว่าคนไทยยังไม่ชินกับวัฒนธรรมการเสียเงินดูกีฬา ยังมีความคิดว่าถ้าเป็นบอลไทย มวยไทย กีฬาไทยๆต้องดูฟรี ที่บ่นๆมาก็แค่อยากจะบอกว่าปัญหามันมีอยู่ทุกซอกทุกมุมไม่ใช่แค่ปัญหาฟองสบู่ปัญหานึงจะต่อไปที่อีกปัญหานึง  การแก้ปัญหาต้องเป็นไปในทางที่สอดคล้องกัน วางแผนระยถสั้นระยะยาว คิดจะพัฒนาต้องเริ่มจากองค์กรบริหารที่มีคุณภาพเสียก่อน จากคุณ : Longinus เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 54 12:15:01

ความคิดเห็นที่ 5 จากที่พอรู้จักนักฟุตบอลต่างชาติในไทยลีกอยู่บ้าง อย่างทีมบุรีรัมย์ เมืองทอง บีอีซีเทโร บางกอกกล๊าส นักฟุตบอลจะอยู่แบบสบายๆเลยนะ เงินเดือนก็คิดว่าเยอะ จากที่เห็นการใช้จ่ายส่วนตัว  บางสโมสรมีอพาทเมนท์ส่วนตัวให้อยู่อย่างหรู จ่ายค่าน้ำค่าไฟให้อีก เสียแต่ค่ากิน ใช้จ่ายส่วนตัว ส่วนผลงานสมราคาค่าตัวไหม แล้วแต่บางคน จากคุณ : Mrs.Beblow เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 54 12:36:45

ความคิดเห็นที่ 6 เจลีก เคลีก จริงๆก็เคยอยุ่ในช่วงเวลาแบบนี้ครับ แต่มันไม่ได้เป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นพร้อมกันทุกทีม มันเกิดขึ้นที่ละทีม ซึ่งมันจะกลายเป็นตัวคัดกรองทีมต่างๆไปสุ่ฟุตบอลลีกอาชีพจริงๆ เพราะอะไร ก้เพราะว่าทีมฟุตบอลจริงๆแล้วถ้าจะเป็นทีมอาชีพให้ได้ ทุกทีมต้องกลายเป็นทีมองค์กรให้หมด จริงๆยังมีหลายๆคนที่เข้าใจผิดว่าทีมองค์กรไม่ดี อยากให้ทีมองค์กรหมดไป สนับสนุนทีมจังหวัด ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ถูกต้องนัก การจะให้ลีกพัฒนาได้ ต้องกวาดล้างทีมจังหวัดแท้ๆแบบที่เป็นอยู่นี้ให้หมดไปต่างห่าง บางคนอาจจะงงว่าเพราะอะไร ก็เพราะว่าทีมจังหวัดในบ้างเราทุกวันนี้หลายทีมจนแทบจะพุดได้ว่า เกินกว่า 90% ยังไม่สามารถโตได้เพราะเป็นทีมจังหวัดที่ต้องรอใช้งบจาก อบจ. อยู่ แถมยังมีอีกหลายๆจังหวัดที่ไม่ได้มีความจริงใจที่จะสร้างทีมบอลจริงๆ แต่ตั้งมาเพื่อจะเอางบประมาณสนับสนุนแล้วทำทีมแบบทิ้งข้าง ทั้งยังกั๊กและหวงสิทธิ์ในการส่งทีมเป็นตัวแทนจังหวัดเพื่อจะเอางบ แทนที่จะให้คนที่มีกำลังเพียงพอที่จะเข้ามาทำทีมได้ทำ ตัวอย่างของทีมที่จะอยู่รอดและฟันฝ่าความเป็นทีมอาชีพได้จริงๆต้องบอกว่าคือทีมองค์กร ไม่ใช่ทีมจังหวััดแท้ๆ แต่ก็ต้องไม่ใช่ทีมองค์กรที่แบบองค์กรข้าเดี่ยวๆไม่สนใคร แต่ควรจะเป็นองค์กรที่ฝังรากตัวเองลงไปสุ่ท้องถิ่นให้อย่างแยบคาย ตัวอย่างทีมองค์กรที่จะพัฒนาตัวเองให้อยู่รอดและพัฒนาอยู่ความเป็นอาชีพได้โดยการฝังตัวเองลงท้องถิ่นได้ตอนนี้ที่เห็นเลยคือ เมืองทอง , บางกอกกล๊าส หรืออาจจะรวม บุรีรัมย์ PEA ที่ในอนาคตจะเป็น ยูไนเต้ดไปอีกทีมก้ได้ ทีมเหล่านี้เป็นทีมที่เป็นองค์กรแบบเบ้ดเสร็จ เป้นเอกชนจริงๆไม่ใได้ใช้สิทะิ์จังหวัด ไม่ได้ต้องมารองบจาก อบจ อยู่ สามารถตัดสินใจทำอะไรได้เลยในการลงทุนเพื่อต่อยอด และทำให้ตัวเองหารายได้กลับมาเพื่อให้คุ้มค่าแก่การลงทุน เท่าที่เห็นจริงๆคงมีแค่ชลบุรีเท่านั้นที่เป็นทีมจังหวัดเชิดหน้าชูตาอยุ่ได้จริงๆ ซึ่งต้องบอกว่านี่เป็นข้อยกเว้น เพราะจังหวัดนี้เค้ามีอำนาจในการบูรณาการและจัดการสมบูรณ์แบบทั้งจังหวัดด้วยตัวเอง คืออำนาจตัดสินใจทั้งหมดถือเป็นเบ้ดเสร็จเด็ดขาดหมดอยู่แล้ว ซึ่งถ้าจะให้พูด ทีมที่พอจะมีโอกาสทำแบบนี้ได้จริงๆคงมีแค่สุพรรณอีกทีมเดียวเท่านั้นแหล่ะ ผมมองว่าการที่โอกาสจะฟองสบู่แตกมันจะทำให้ลีกของเรามีโอกาสพัฒนา เศรษฐี หรือพวกคึนมีตังยังมีอีกมากมายที่ยังอยากจะเข้ามาซื้อสิทธิ์ซื้อหุ้นเข้าทำทีม ไปดุพวกเจลีก เคลีกครับ ก่อนหน้าที่จะมายืนในจุดนี้เค้าผ่านจุดนี้มาแล้ว และกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีจริงๆ ทีมจังหวัดที่อยู่ไม่ได้ ทีมองค์กรที่เอาตัวไม่รอด ต้องหาผู้สนับสนุนและพร้อมที่จะเข้ามาทำทีมอย่างจริงจังทุนทรัพย์พร้อม ทีมจังหวัดต้องการนายทุนเข้ามาเป็นหัว ทีมองค์การที่ไม่ได้รับรายได้สนับสนุนจากแฟนบอลเท่าที่ควรก็ต้องวางแนวทางในการฝังตัวเองลงไปสุ่ท้องถิ่นใหม่ ต่อไปนี้มันจะกลายเป็นระบบคัดกรองทีมไปสุ่ความเป็นมืออาชีพครับ อาจจะต้องจำยอมเห็นบางทีมล้มหรือเจียนตาย แต่ถ้าฟื้นกลับขึ้นมาได้ โอกาสที่จะเติบโตอย่างเข้มแข็งจะสูงครับ จากคุณ : ploy16 เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 54 12:53:17

ความคิดเห็นที่ 7 ระบบฟุตบอลอาชีพ จะผลักดันให้แต่ละทีมต้องหาทางยืนหยัดด้วยตัวเอง ทีมไหนทำไม่ได้ ก็ต้องล้มหายตายจากกันไป แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือ ระบบของบ้านเรา มันยังไม่มีมาตรฐาน ซึ่งมันอาจจะทำให้พังทั้งลีกเลยก็เป็นได้ จากคุณ : ToyZHardy เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 54 13:37:23

ความคิดเห็นที่ 8 แตกไม่แตกมั้ย ก็อยู่กับความพร้อมของแต่ละทีมครับ ผมว่าตอนนี้ อันดับตาราง ก็บอกความพร้อมของแต่ละทีมอยู่แล้วนะ 4 ทีมหัวแถว  บุรีรัมย์,ชลบุรี,เมืองทอง,บางกอกกล๊าส พวกนี้ เป็นสโมสรอาชีพเต็มตัวหมดแล้ว มี สนามตัวเอง แฟนคลับ การตลาด ระบบจัดการ ระบบ อเคเดมี่  พร้อมหมด ถัดมา พวก โอสถสภา  เทโร เพื่อนตำรวจ พัทยา เชียงราย ศรีสะเกษ คงต้องพัฒนากันอีกหน่อย ถ้าผู้บริหารตั้งใจจริง ผมว่า อีกหน่อยก็คงขยับไปเป็นสโมสรอาชีพได้เต็มที่ หาสนามถาวรของตัวเอง ขยายฐานแฟนคลับ ดึงกลุ่มทุนมาเพิ่ม สร้างระบบอเคเดมี่จริงจัง สร้างระบบการตลาดดีๆ ถ้าใครทำครบก่อน ก็คงขยับไปเทียบกับ 4 ทีมหัวแถวได้ไม่ยาก โอสถสภา เทโร เพื่อนตำรวจ ควรไปดดู ระบบของ เมืองทอง บางกอกกล๊าสเป็นตัวอย่าง เชียงราย ศรีสะเกษ ควรไปดูระบบของ ชลบุรี ที่เป็นทีมจังหวัดเหมือนกัน พัทยา นี่ พิเศษกว่าเพื่อน เพราะ อยู่ที่ว่ากลุมชลบุรีเขาจะเอายังไง ส่วนระบบ ของ บุรีรัมย์ นี่ ลอกเขายาก ครับ ในประเทศคงมีไม่กี่คนที่ใช้ แบบนี้ได้ กลุ่มสุดท้าย ท่าเรือ ,อาร์มี่,ทีทีเอ็ม,สมุทรสงคราม,ทีโอที,ราชนาวี,ศรีราชา,ขอนแก่น พวกนี้ ต้องดูกันรายปี อุปสรรคปัญหา ของแต่ละทีมยังมีอีกเยอะ ทั้งโครงสร้างองค์กรที่ไม่เป็นเอกเทศ ผู้บริหารที่เปลี่ยนหัวง่าย งบประมาณที่น้อยกว่า กลุ่มทุนสนับสนุนไม่ค่อยมี ระบบอเคเดมี่ ก็อย่างพึ่งหวังเพราะแค่หาเงินให้ชุดใหญ่ก็แทบตายอยู่แล้ว บางทีมก็ทำตัวเป็นเจ้าไม่มีศาล ทำทีมกันรายปี เหมือนขอแค่อยู่ในลีกให้ได้แค่นั้น จะได้ของบมาได้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าขยับทีมในกลุ่มที่ 2 ไปเป็นทีมในกลุ่มที่ 1ได้ ขยับทีมในกลุ่มที่ 3 ไปเป็นแบบกลุ่มที่ 2 ได้สัก 4 ทีม ผมว่าลีกเราก็ยังไปได้อีกไกลครับ จากคุณ : สายน้ำฟ้า เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 54 14:36:51

ความคิดเห็นที่ 9 คห.8 วิเคราะห์ได้ดีมาก มองเห็นภาพชัดเจน ปรบมือให้ครับ^^ จากคุณ : Ballลูกพ่อ เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 54 15:05:19

ความคิดเห็นที่ 10 ......จะอยู่ได้หรือไม่ อย่างหนึ่งที่เป็นหัวใจสำคัญเลยของทั้งหมด คือ การแสดงที่แสดงอยู่ในสนาม ทีมฟุตบอล นักฟุตบอล โค้ช ผู้จัดการทีม พวกเขาเหล่านี้เหล่านี้ ถือเป็นหนึ่งของการแสดงที่คนดูและผู้สนับสนุน(ผู้มีอุปการะคุณ)ต่างเพ่งเล็ง หรือโฟกัสเข้าไป ถ้าการแสดงสนุกสนาน เร้าใจ ตื่นเต้น ยังน่าค้นหา และมีเสน่ห์ คุณๆหรือผมก็ยังอยากจะเข้าไปดู เมื่อไรที่การแสดงนี้หมดความน่าสนใจ น่าดู ไร้ศิลปะ ไม่มีทั้งศาสตร์และศิลป์ ไร้มนต์เสน่ห์ ทุกอย่างก็จบ สิ่งสำคัญคือคนดู แล้วถามว่าคนดูต้องการอะไร เพราะถ้าหาสิ่งที่เขาต้องการให้เขาไม่ได้แล้วใครจะเข้ามา แต่ถ้าหาให้เขาใด้ทุกอย่างก็จบแบบ "win win"  มันการตลาดพื้นๆและล้วนๆ "ความต้องการซื้อ + ความต้องการขาย" ทีมฟุตบอลคือสินค้า คนดูแฟนคลับคือลูกค้า ประทานโทษ.. ต่อให้ร้อยเนวิน ถ้าทำบอลห่วยแตก ไร้ซึ่งความน่าดู ก็ไม่มีใครดูแต่ถ้าบอลสนุกเร้าใจ ชนะ เกือบชนะ(มันก็คือแพ้นั่นแหละ)เล่นกันมันส์.ส..ส..มันก็สนุกและน่าลุ้น เสน่ห์มันอยู่ในสนาม(เวที)นักฟุตบอล+กรรมการ คือนักแสดง ต้องให้เหล่าบรรดาดาราที่ทำการแสดงอยู่นั่นแหละ เล่นให้สนุก อินเตอร์ เอฟเฟ็คสมจริง ตื่นตาตื่นใจ ดึงคนให้อยู่ กลับไปสร้างมาตฐานตรงนั้นให้ดี  ง่ายๆถ้าไม่มีคนดู(ลูกค้า)ก็จบ ที่เหลืออย่างอื่นก็เรื่องของการบริหารจัดการองค์กรและการตลาด ต้องมีการสร้างจุดขาย ไม่ไช่เอาแต่แข่งๆๆๆหมดเวลากลับบ้าน..จบ..มันต้องให้คนดูกลับไปบ้านแล้วยังเฝ้าฝันละเมอ เพ้อหา อธิฐานขอให้ได้กลับมา"ซด"อีกหลายๆหน.... ......อ้อ..ฟรีทีวี ยังไงก็ต้องมีต่อไป เพราะถือเป็นโอกาสของเด็กๆรวมทั้งวัยรุ่นในชนบท(เป็นทั้งลูกค้า และ อนาคตของฟุตบอลไทย)ได้มีโอกาส และยังเป็นการประชาสัมพันธ์ฟุตบอลไปในตัว มันเป็นมูลค่าเพิ่ม มันเป้นการตลาด ไม่ไช่ทำให้เสียรายได้แต่เป้นการเพิ่มรายได้เพิ่มประโยชน์(ทำยังกับฟรีทีวีเขาไปขอถ่ายทอดฟรี เอ๊ะ.หรือฟรี)น้อยไปด้วยซ้ำ ถ้ากระแสดี กระแสแรง ขายโฆษณาได้ง่าย เร็ตติ้งดี(กว่าหนังภาคค่ำ)ใหนเลยช่อง7 ช่อง3 ยักษ์ใหญ่จะแย่งซื้อแบ่งซื้อสิทธิ์การถ่ายทอดกันใหญ่ รายได้ล้วนๆ แฟนบอลเมืองทองอยู่อุบล แฟนเมืองชลอยู่สารคาม แฟนบุรีรัมย์อยู่ปราย แฟนเชียงรายอยูภูเก็ต แล้วเขาจะเข้าไปดูในสนามที่ใหนล่ะ.....จำไว้----"หนังไม่ดี คนไม่ดู" จากคุณ : padreew เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 54 15:08:42

ความคิดเห็นที่ 11 ตัวเงินมันยังน้อยไปที่จะทำให้เกิดฟองสบู่แตกครับ ผมว่า การจะบริหารทีมให้ ได้แชมป์ ไทยลีค  มีเงินมาโปะ สัก ร้อยล้านต่อปี ก็น่าจะได้แล้ว  เงินในราคานี้ เทียบกับเจ้าของทีมใน TPL  แล้วมันจิ๊บ ๆ ครับ อยู่ที่เค้าตั้งใจจริงในการบริหารทีม หรือเปล่าก็เท่านั้นครับ จากคุณ : ElMinZeed เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 54 15:40:28

ความคิดเห็นที่ 12 ตราบใดที่ยังมีลีกภูมิภาค ผมว่าบอลไทยยังไม่พังง่ายๆ หลายจังหวัดมีศักยภาพ เพียงแต่ยังไม่เอาจริงเท่านั้น จากคุณ : deemakak เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 54 18:03:29

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าประเมินสถานการณ์ จากตอนนี้ จะล้มทั้งระบบ ไหม ผมว่ายังไม่ถึงนะ... แต่จะมีบางทีมล้มหายตายจาก เป็นเรื่องปกติธรรมดา... พรีเมียร์ลีก ก็ไม่ต่างกันครับ.. ทีมใหญ่ กับทีมเล็ก ความแตกต่างฐานเงินเดือน มีมากกว่าของเราอีก ของเราเต็มที่เลย ซูเปอร์สตาร์ รับเงิน 2-3แสนต่อเดือน มีไม่ถึง 30คนหรอกครับ เฉลี่ย 5-8หมื่นต่อเดือน(รวมทุกอย่าง) ด้วยซ้ำไป.... ยิ่งฤดูกาลหน้า บางทีมเรียนรู้แล้วว่า คงจะมีฐานเพดานเงินเดือน ของสโมสร แบบแน่นอน (ไม่จ้างนักเตะเงินเดือนแพงๆแต่ไม่ค่อยได้ลงเล่น หรือพวกเซ็น มาเจ็บ) เพราะรู้ว่าระบบที่แท้จริงคือ การไปใส่เม็ดเงินอัดฉีด เงินโบนัสในการลงเล่น เพิ่มจะดีมากกว่า ส่งผลให้ การแข่งขันในทีมมีสูง เำพราะนักเตะต้องหวังที่จะได้เงินอัดฉีด เงินโบนัสจากการลงเล่นเป็นตัวจริง พยายามโชว์ผลงานในสนามให้ได้ ส่วนเรื่องการหารายได้ ...ผมมองว่่าสโมสรจะหยิบจุดแข็งของตัวเองมาสร้างรายได้อย่างไรมากกว่า เพราะยิ่งขายเสื้อ ขายตั๋วไ้ด้มาก ก็ลดค่าใช้จ่ายได้มาก คือสิ่งที่ทุกสโมสร ควรทำ ถ้าระดับทีมกลางๆ หางบกันมาทำทีมปีๆ 50ล้านบาทได้ แบ่งไปใช้ทำทีม 30-40ล้าน ต่อฤดูกาล ก็เพียงพอแล้ว.... ในการเล่น 1ฤดูกาล ได้โค๊ชเก่งนักเตะทุ่มเท ผลงานเกาะกลุ่มกลางตลาดได้อีก..สบายๆ ลุ้นบอลถ้วยเล็กๆ ..เงินที่หารายได้มาเกิน แบ่งเอาไปพัฒนาเยาวชน ปรับปรุงสนามให้มีมาตรฐานขึ้นทุกปี แบบนี้ ทีมไม่มีล้มแน่นอน แถมแฟนคลับแฟนบอลมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เกิน5 ปี รากฐานของสโมสร ต้องดีมากขึ้นแน่นอน.... หยุดคิดเรื่องการทำทีมปีต่อปี ได้แล้ว จากคุณ : ตะวันรุ่งทุ่งรังสิต เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 54 20:15:12

ความคิดเห็นที่ 14 ทีมที่มีแฟนบอลจริงๆ คอยตามเชียร์ รับรองอยู่ได้แน่ เพราะแฟนบอลลักษณะนี้ยินดีอุดหนุนสโมสรที่ตัวเองรัก ประมาณว่ามีมากอุดหนุนมาก มีน้อยอุดหนุนน้อย ทีมที่แฟนบอลเยอะ สปอนเซอร์วิ่งชนกันอุดลุดแน่นอน ส่วนทีมที่เอาเงินสปอนเซอร์มาจ้างแฟนบอลมืออาชีพคอยตามเชียร์แบบมีสวัสดิการ พวกนี้มีแต่รายจ่ายรายรับแทบไม่มี ถ้าสปอนเซอร์ถอนตัวก็จบเห่ ไม่รู้เขาจะหลอกตัวเองทำไม ทีมดีจริง ผลงานเยี่ยม แฟนบอลจะไหลมาเทมาเองนั่นแหละ เฮ้ออออ ส่วนเรื่องเงินเดือน นักบอลเป็นอาชีพที่อายุงานสั้น รายได้ควรจะสูง ถูกต้องแล้วครับ จากคุณ : ธงยอดเสา เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 54 21:45:50

ความคิดเห็นที่ 15 เรื่องเงินเดือน ผมไม่เห็นด้วยครับ คุณเอาค่าจ้างนักเตะไปเปรียบเทียบกับพวกกินเงินเดือนประจำไม่ได้ เพราะพวกนี้อายุงานนานมากครับ ส่วนใหญ่ทำงานจนถึงอายุ 60-65 ปี แต่สำหรับนักฟุตบอล เขาสามารถประกอบอาชีพเป็นนักฟุตบอลได้อย่างมาก็ 36 ปี แล้วหลังจากนี้ล่ะครับ เขาจะทำอะไรกิน เป็นโค้ชเหรอครับ ไม่ถึง 1% ของนักบอลอาชีพที่จะไปทำอย่างนั้นได้ นักเตะควรมีรายได้มากกว่านี้ด้วยซ้ำครับ อย่างน้อยต้องหลักแสนขึ้นไปครับ สโมสรไม่ควรลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ ไม่อย่างนั้นเด็กเยาวชนที่ไหน โตขึ้นจะอยากเป็นนักบอลกันล่ะ มันไม่มีแรงจูงใจครับ สโมสรควรหารายได้จากทางอื่นมากกว่าไปลดเพดานเงินเดือน จากคุณ : ณัฐกร เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 54 22:03:18

ความคิดเห็นที่ 16 ^ ^ ใช่ครับ ผมเคยพูดนานแล้วว่าค่าเหนื่อยของนักเตะบ้านเราต่ำกว่าตลาดนักเตะสากลด้วยซ้ำ นักเตะชาติอื่นๆล้วนแล้วแต่ได้เงินสูงกว่านี้เมื่อเทียบกับมูลค่าเงินของประเทศตัวเองทั้งนั้น และยังเหลือกินเหลือเก็บเมื่อเลิกไปแล้ว แต่บ้านเราแค่พอเหลือสำหรับบางคนเท่านั้น จากคุณ : ploy16 เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 54 22:24:03

ความคิดเห็นที่ 17 " ฟองสบู่แตก  ดินพอกหางหมูจะไหล " ....... คนอะไรไหลมารวมกัน ?? .. อันนี้ ไม่อยากจะคิดครับ  --" จากคุณ : อมยิ้มสยาม เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 00:36:34

ความคิดเห็นที่ 18 มีโอกาสครับ  แต่คงไม่ใช่ทั้งลีกเป็นแค่บางทีม โดยเฉพาะทีมที่ทำตัวเป็นเจ้าไม่มีศาลต่างๆ ย้ายไปโน่นไปนี่    ทีมพวกนี้แหละที่มีโอกาสจะไปก่อนเขาเพื่อน   พวกทีมหัวตารางอย่าง บุรีรัมย์,เมืองทอง,BG,ชลบุรี  พวกนี้คงยากครับ   นอกนั้นนี่มีโอกาสฟองสบู่แตกทั้งนั้น เรื่องเงินเดือนนักเตะมันก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องอยู่แล้วนี่ครับ  อย่าลืมว่าอาชีพนี่ส่วนสำคัญ คือร่างกาย  เมื่ออายุมากขึ้นเรื่อยๆร่างกายก็จะอ่อนแอลง     เต็มที่ของนักบอลจะเล่นได้ อย่างมากสุดอายุไม่เกิน 40 ปี   ส่วนมากจะนักบอลจะเริ่มมีฝีเท้าดีก็อายุประมาณ 19 ปี อายุ 27-31 จะเป็นช่วงพีคที่สุดแล้ว  พอขึ้น 32 เมื่อไหร่ จะเริ่มตกลงแล้วโดยเฉพาะ ตำแหน่งกองหน้า      ถ้าเป็นกองหลังกองกลางจะเล่นได้ถึง 34-35 เต็มที่   จะมีตำแหน่งเดียวที่เล่นได้ถึงอายุ 40  คือ ผู้รักษาประตู     นักฟุตบอลจะมีอายุงานระหว่าง 15-20 ปี   ขณะที่พวกทำงานบริษัทสามารถทำงาน ได้จนถึงอายุ 60 ปี  ซึ่งส่วนมากจะเริ่มงานทำงานคือช่วงอายุ 23-25 ปี       พนักงานบริษัทจะมีอายุงานได้ ประมาณ 35 ปี   มากกว่าอายุงานนักฟุตบอล 15-20 ปี   นักบอลถึงต้องมีเงินเดือนมากกว่าคนทำงานทั่วไปไงครับ  เพราะอายุการทำงานเขาสั้นกว่า ถ้าขืนเงินเดือนมันไม่ห่างกันมาก เป็นคุณจะเลือกอะไร คุณก็ต้องเลือกทำงานบริษัทอยู่แล้ว เงินเดือนนักเตะไทยนี่ผมว่ายังต่ำไปหน่อยด้วยนะครับ    มันควรจะต้องมากกว่าอีกซัก 5% ซึ่งไม่ใช่ว่ามันเกิดขึ้นไม่ได้นะครับ  ถ้าลีกเรายกระดับมาตรฐานให้สูงขึ้นไปได้อีก ทั้งในเรื่องของฝีเท้าและการจัดการ ไม่แน่ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นนักบอลไทย มีเงินเดือน 5 แสนขึ้นก็ได้ จากคุณ : แร้งคอย เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 00:54:09

ความคิดเห็นที่ 19 ทีพีแอล สามารถออก กฏ-ระเบียบ มาควบคุมและป้องกัน เหตุการณ์นี้หรือไม่ เช่น  -มาตรการ ควบคุมงบดุล รายรับรายจ่ายของสโมสร เพดานเงินเดือน -การเพิ่มรายได้ และสิทธิประโยชน์ให้ มากขึ้น -การสนับสนุน ให้แต่ละสโมสร สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง โดยมีแนวทางที่ดี ทั้งนี้ทั้นนั้น สมาคม-ทีพีแอล-ลีคภูมิภาค ต้องเป็นหลัก มีมาตรฐานการจัดการแข่งขันที่ดีในทุกด้าน เอาข้อผิดพลาดที่ผ่านมาไปปรับปรุง และพัฒนาลีกให้แข็งแกร่งขึ้น อย่างยั่งยืน สโมสร+นักเตะ เพื่อผลทางการแข่งขันและธุรกิจ เป็นมืออาชีพในทุกด้าน มีน้ำใจนักกีฬา สื่อมวลชน สนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ในทิศทางที่สมควรอย่างสร้างสรรค์ บนฐานความถูกต้อง แฟนบอล มีคุณภาพ สร้างสีสันและบรรยากาศ จากคุณ : 79ners เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 05:54:21

ความคิดเห็นที่ 20 ผมว่าทางแก้คือพยายามหาแฟนบอลเข้าสนามให้เยอะกว่านี้ แล้วก็จัดการเรื่องการบริหารตารางการแข่ง รวมถึงความเป็นเอกภาพจะดีกว่านะครับ ลีกเรายังเพิ่งเริ่ม อย่าไปเอามาตรฐานยุโรปมาใช้เลย เราต้องคิดว่าจะทำยังไงให้ลีคมันบูมก่อน ให้คนติดตามก่อน ถึงจะต้องจ่าย ต้องทุ่มก็ต้องทำ ถ้าคุณ เอาการควบคุมรายจ่ายมาใช้ คุณลองคิดดูว่า นักฟุตบอลดีดี ใครเค้าจะมาเล่น ตัวต่างชาติใครจะมาเล่นครับ ? แล้วเด็กไทย ที่มีฝีเท้าเล่นฟุตบอลได้ใครจะส่งเสริม เค้าไปตั้งใจเรียน แล้วหางานอย่างอื่นทำไม่ดีกว่าหรอครับ ? ตอนนี้มันกำลังบูม ก็ปล่อยให้บูมไปก่อน แล้วก็พยายามสนับสนุนกันไป อย่าเอากรอบมากั้นเยอะมาก เน้นเรื่องการแข่งขันที่เป็นธรรม กับการจัดการแข่งที่เป็นธรรม ปราศจากการเมืองแทรกแซง จะดีกว่าครับ ตอนนี้ ลีกไทย เหมือนเด็กเพิ่งเริ่มเดิน ก็ต้องมีผู้ใหญ่มาคอยดูแล มันก็ต้องยอมจ่ายครับ พอเค้าเริ่มทำงานหาเงินได้ด้วยตัวเอง เราก็คอยควบคุมอย่าให้ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายเกินตัว แค่นั้นเอง จากคุณ : phinixer เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 09:06:19

ความคิดเห็นที่ 21 เดี๋ยวนี้ทำทีมให้อยู่รอดต้องมีงบประมาณ 30 - 100 ล้าน ซึ่งงบเหล่านี้ถ้ามไม่มาจากเงินส่วนตัวประเภทใจรักอย่าง บุรีรัมย์,เทโรหรือบางกอกกล๊าส ผมว่าทีมอื่นๆอาจมีปัญหาได้เพราะกว่าครึ่งต้องพึ่งงบองค์กร ซึ่งอย่างที่เห็นๆบอลองค์กรมักมีปัญหานอกในรุมเร้าเยอะทำให้เสียแฟนบอล ( ไม่ว่าจากการขาดการปรับปรุงสนามหรือย้ายจังหวัด ) ผมมองว่าพวกตัวถ่วงอีกครึ่งนี่แหละที่เข้าข่าย'ดินพอกหางหมุ' ซักวันบอลลีกไทยจะพังก็เพราะพวกทีมองค์กรเหล่านี้ แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 54 09:36:57 จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 09:27:04

ความคิดเห็นที่ 22 ที่ผมห่วงมากกว่าเรื่องเงินคือ คนดูเบื่อ การล้มบอล การจัดการไม่มีมาตราฐาน เหมือนสมัยก่อน ตำรวจ เจอกับ ทหารอากาศ เตะกันไฟแล่บคนดูเยอะแยะ แต่ภาพแบบนั้นอยู่ๆก็หายไปเพราะอะไร ก็เกิดจากหลายสาเหตุ แต่ส่วนนึงต้องยอมรับว่าคนดู เบื่อ เล่นกันไม่จริงจัง เดี๋ยวต้องมาสงสัยว่าล้มบอลกันหรือเปล่า ทีมที่เราเชียร์เล่นกันเป็นกีฬาจริงๆหรือเปล่า กรรมการเข้าข้างบ้างไหม สุดท้ายมันจะไม่เป็นกีฬา มันจะเป็นแค่การแสดงเฉยๆ อันนี้น่าห่วงกว่าครับ จากคุณ : แข้งบวม เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 10:06:28

ความคิดเห็นที่ 23 ^ อันนี้ไม่ต้องห่วงครับ เพราะการแทงบอลอย่างเสรีแบบต่างประเทศยังไม่มี จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 10:28:54

ความคิดเห็นที่ 24 นักฟุตบอล ต้องเป็นดุจดั่ง ดารา เทวดา ค่าตัวแพงระยับ (ในแบบสมเหตุสมผล) มิเช่นนั้น ก็มิอาจสร้างแรงจูงใจ ให้เยาวชน ขวนขวาย ไต่เต้า เพื่อมาเป็นสุดยอดนักเตะ ต้องทำให้เยาวชน รู้สึกว่า อาชีพนี้แหละ ที่เราต้องเป็นให้ได้ ลองดูง่ายๆ เวลา ทีมชาติ บราซิลลงซ้อม แค่ลงซ้อมนะ ความคลั่งไคล้ ถึงขั้นคนเต็มสนาม แล้วลองหันมามอง เวลาทีมชาติเราซ้อมสิ ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 54 19:12:20 จากคุณ : Porbeckham07 เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 19:11:22

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้าไม่มีล้มบอล  ล็อคผลการแข่ง   ยังไงก็ยากครับที่ฟองสบู่จะแตก เพราะธุรกิจกีฬาเนี่ย มันมีข้อได้เปรียบ คือ มันมีความศรัทธา เข้ามาเกี่ยวด้วย แต่ถ้าพูดถึงจะมีทีมเจ๊ง ทีมโดนยุบ  เพราะบริหาร ผิดอาจมี  แต่ก็ช่วยไม่ได้ครับ มันเป็นกลไกของมันอยู่แล้ว ผมมองทีมในลีค รอง  ทั้ง D1  D2 นะ โดยสุดท้ายจริงๆ (ไม่เกิน 5 ปี)ทีมที่น่าจะอยู่ในไทยลีค เกิน 50% จะเป็นทีมท้องถิ่นจริงๆ  ยิ่งถ้าถ้องถิ่นใดตั้งใจ จริงๆ(ไม่ว่าจะมีการเมือง แทรกหรือไม่) คนติดแน่นอน  และถ้าเป็นแบบที่ผมพูดจริงๆ  0.1% ครับ ที่ฟองสบู่จะแตก จากคุณ : G-Virus เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 10:49:22