ความคิดเห็นที่ 1 เยอรมัน สโมสรก็คือบริษัทที่ไม่มีเจ้าของเป็นตัวเป็นตัว กฎเขาห้ามบุคคลใดบุคคลหนึ่งถือหุ้นเกิน 49% เงินที่ใช้ได้ต้องสอดคล้องกับเงินที่หามาได้เท่านั้น  แหล่งที่มาของรายได้ คือ แฟนบอล (สำคัญสุด) รองลงมาคือค่าลิขสิทธิ์ทีวี  และค่าสปอนเซอร์ แฟนบอลในที่นี้คือ รายได้การขายของที่ระลึก และตั๋วเข้าชม การขึ้นค่าตั๋วต้องมีการทำแบบสอบถามไปยังแฟนบอลก่อนทุกครั้ง เรื่องการทำทีมไว้รออ่านจากที่ผมแปลแล้วกัน  ทุกสโมสรในบุนเดสลีกาตอนนี้มีทิศทางเดียวกัน อังกฤษ อย่างที่ทุกคนทราบกันว่าพวกเขามีอิสระที่จะเป็นแบบไหนก็ได้ตามหลักทุนนิยม แหล่งเงินทุนหลักคือค่าลิขสิทธิ์ทีวีที่พรีเมียร์ลีกแบ่งให้ กับแฟนบอล  บางสโมสรก็คือเจ้าของ วิธีการทำทีม  แล้วแต่เจ้าของกำหนดเลยล่ะ สเปน สโมสรเป็นเหมือนกับสมาคมกีฬา  มีการเลือกตั้งประธาน มีการเปิดรับสมาชิก แต่ตอนนี้เปิดเสรีให้คนต่างประเทศมาซื้อแล้ว แหล่งเงินทุนทุกสโมสรต้องดูแลกันเองไม่มีคนมาดูให้  เร่ขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดเอง แหล่งรายได้ใหญ่ของพวกเขาอยู่ที่แฟนบอล ยกเว้น รีล มาดริด กับบาเซโลน่าที่เน้นตลาดนอกประเทศ วิธีการทำทีม ส่วนใหญ่ตอนนี้ต้องปั้นเด็ก  ซื้อตัวผู้เล่นจากลีกเล็กๆ เพราะไม่ค่อยมีเงินมาก  ถ้าจะใช้เงินก็ต้องขายตัวที่มีอยู่ก่อน ตัวอย่าง แอต. มาดริด ขายกุนแล้วไปทุ่มซื้อฟัลเกาแทนที่ 40 ล้านยูโร ขายกุนซื้อฟัลเกา จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 13:04:52

ความคิดเห็นที่ 2 ส่วนเรื่องการใช้เงิน ผมไม่ต่อต้านการใช้เงินทุ่มซื้อนักเตะหรอกครับ  ถ้าซื้อมาแล้วใช้   แต่ซื้อมาแพงแล้วจับดองนี้น่าเกลียดมาก  หรือการซื้อเกินกำลัง ถ้าเป็นไปได้อยากให้ทุกสโมสรวางแผนรูปแบบการเล่นก่อน แล้วค่อยซื้อผู้เล่นให้เหมาะสม  ตอนนั้นจะทุ่มเท่าไหร่ก็ไม่ว่า บรรดาผู้ถูกกล่าวหาเรื่องการใช้เงิน คนแรกที่ต้องกล่าวถึงเป็นใครไม่ได้นอกจาก มัซซิโม่ โมรัตติ ประธานสโมสรอินเตอร์ พี่แกอยากได้ใครทุ่มเงินซื้อทันที่ไม่เคยถามโค้ช ว่าอยากได้ไหม  และทีมขาดผู้เล่นตำแหน่งนั้นไหม   ไม่ว่าซูเปอร์สตาร์ ผู้เล่นที่พึ่งทำผลงานได้ดี หรือดาวรุ่งที่มีแวว  พี่แกเหมาเรียบ  โค้ชจะใช้ไม่ใช้ก็อีกเรื่องหนึ่ง ซื้อมาแล้วก็ไม่ได้รับโอกาสอนาคตเกือบดับมีคราวๆดังนี้ ปีร์โล่ อยู่อินเตอร์ไม่ค่อยได้ลง  ดีมี่มิลานมาคว้าไป มูตู  โชคดีที่ได้ย้ายไปปาร์ม่า เวนโตล่า ถ้าได้เล่นสม่ำเสมอผลงานดีตลอด  แต่ดับเพราะอาการบาดเจ็บเรื้อรัง คริสเตียนโน่ ซาเน็ตติ  ไปแจ้งเกิดที่โรม่า  โมรัตติก็ทุ่มเงินดึงกลับมา ยังมีอีกเพียบ สรุป: มีความผิดร้ายแรง แต่ยังปรับปรุงตัวในยุคน้ามู ก่อนที่จะวกกลับทำอะไรไม่คิดเหมือนเดิมให้แฟนๆกลุ้มใจเล่น คนหนึ่งทุ่ม คนหนึ่งเขี้ยว จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 13:06:56

ความคิดเห็นที่ 3 คนที่สองโรมัน อบราโมวิช ตอนเข้ามาซื้อเชลซีฤดูกาลแรก  ซื้อมาแบบไม่มีทิศทางเลย เครสโป มูตู  เวรอน   โอเคพวกเขาอาจดูเหมือนทีมในฝัน  แต่น่าจะปรึกษาใครก็ได้ว่าพวกเขาจะปรับตัวได้หรือเปล่า ตรงนี้ถือว่าไม่น่าเกลียด  แต่ที่น่าเกลียดคือ ซื้อเชฟเชนโก้ กับตอเรส  เพราะความอยากได้แค่นั้น โดยไม่มองวิธีการเล่นของทีมตัวเองเลย ส่วนเรื่องการใช้เงินยุคน้ามูถือว่าโอเคนะ ซื้อมาแล้วใช้จริง   แต่ที่ราคาสูงเพราะการเปิดตัวของแกที่ทุ่มเงินซื้อ 3 คนข้างบน   เลยถูกสโมสรอื่นโก่งราคาเอา สรุป: มีความผิดเล็กน้อยจากการเอาแต่ใจ แต่ถ้าซื้อตามความต้องการของโค้ช เขาถือได้ว่าบริสุทธิ์ ถ้าไม่เอาแต่ใจก็ถือว่าเป็นประธานที่ดีมาก จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 13:08:20

ความคิดเห็นที่ 4 คนที่สาม ฟรอเลนติโน่ เปเรซ คนนี้โดยร่วมก็ถือว่าโอเคนะไม่น่าเกลียดเลย ซื้อมาแล้วหาเงินจากนักเตะได้ ยกเว้นความผิดพลาดใน 3 เรื่องดังนี้ 1. ขายมาเกเลเล่   โดยทิ้งคำพูดให้มาเกเลเล่ เจ็บปวดว่าคุณไม่ใช้ซูเปอร์สตาร์ 2. ซื้อโอเว่น ทั้งๆที่ทีมมีโรนัลโด้  ราอูล และเล่นแท็กติกหน้าตัวเดียว 3. วู๊ดเกต แบบว่าไม่ศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจเลยว่าคนนี้รักษาตัวมากกว่าลงเล่นอีก สรุป: ไม่มีความผิด เพราะซื้อแล้วเป็นประโยชน์แกทีมและตัวนักเตะเอง ที่ผิดพลาดเพราะขาดประสบการณ์ เขาน่าจะเป็นประธานสโมสรที่เก่งด้านการเงินที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 13:09:56

ความคิดเห็นที่ 5 4. สโมสรบาร์เซโลน่า เจ้าของฉายาเจ้าบุญทุ่มเมื่อ 10 ปีก่อน ใครดังระดับโลกซื้อหมด แต่ก็มีพลาดหลายคนเหมือนกันที่ซื้อมาแล้วไม่รุ่ง เช่น ริเกลเม่ ,ซาวิโอล่า ,มาร์ค โอเวอร์มาร์ ,เปอร์ตี ,อิบราฮิโมวิช เป็นต้น ด้วยสถาวะที่ทีมเป็นหนี้ในปัจจุบัน  แต่ก็ยังทุ่มเงินซื้อนักเตะอวดรวยแข่งกับรีล มาดริด  ทั้งอิบราฮิโมวิช ,เชส ฟาเบรกาส , ซานเชส และบีญ่า จนทำให้ “สโมสรเบสบอล” ถูกยุบไปด้วยเหตุผลลดค่าใช้จ่าย น่าสงสาร ส่วนกีฬาที่ถูกลดเงินสนับสนุนได้แก่ วอลเลย์บอล กรีฑา ฮอกกี้น้ำแข็ง สเก็ต รับบี้ และบาสเก็ตบอลคนพิการ   ทำความเข้าใจตรงนี้นิดหนึ่งนะ สโมสรบาร์เซโลน่าถือได้เป็นตัวแทนทีมชาติคาตาลัน ในความเห็นผมไม่ว่ากีฬาชนิดไหนมีความสำคัญเท่าเทียมกันหมด  ต่อให้ไม่สร้างรายได้เข้าสโมสรก็เถอะ สรุป: มีความผิด ถึงแม้จะเป็นการซื้อตัวที่ใช้จริง แต่ก็เป็นการซื้อที่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ปีหน้าเรามาเชียร์ทีมชาติสเปนคว้าแชมป์บาสเก็ตบอลกันเถอะ เขาชื่อ Ricky Rubio เพื่อใครสนใจ จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 13:12:40

ความคิดเห็นที่ 6 5. สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่แขวะในเรื่องนาโปลี  ที่การแขวะในเรื่องการใช้เงินไม่คิด  ไม่ใช้ใช้เงินซื้อความสำเร็จ เมื่อท่านชีคเข้ามาซื้อทีมในช่วงสุดท้ายของตลาดนักเตะฤดูกาล 2008-2009 ก็ได้ซื้อนักเตะเจ้าปัญหาอย่างโรบิญโญ่ทันที ฤดูกาล 2009-2010 ซื้อกองหน้าเข้ามาพร้อมกัน 3 คน คือ เตเวซ ,อเดบายอร์ และซานต้า ครูซ ความผิดข้อแรก คือ ซื้อซานต้า ครูซ (ขวัญใจผม)มาดอง ความผิดของสอง คือ การให้โอกาส มาร์ค ฮิวจ์ส ทั้งๆที่เห็นอยู่ว่าไร้อนาคต แล้วปล่อยให้เขาใช้เงินมั่วซั้วมาก ฤดูกาล 2010-2011 ถือว่าเป็นการซื้อตัวที่ดี  แต่มีความผิดที่ไม่ระบายนักเตะออกจนหลายคนไม่ได้ลงเล่น ฤดูกาล 2011-2012 การซื้อขายในฤดูกาลนี้น่าพอใจ  มีการย้ายเข้าย้ายออกที่เหมาะสม นักเตะหลายคนได้รับโอกาสลงเล่นกับสโมสรอื่น แต่ที่ถูกใจผมที่สุด คือ ให้โอกาสโอเว่น ฮาร์กรีฟส์ สรุป: มีความผิดเล็กน้อยจากการทุ่มซื้อมาหลายคนในช่วงแรก แต่ปรับปรุงตัวหลังจากการเข้ามาคุมทีมของมันชินี่ ขอให้ฮาร์โก้ลงเล่นในยูฟ่าคัพเยอะ แล้วคว้าแชมป์ได้สำเร็จ จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 13:13:59

ความคิดเห็นที่ 7 จบแล้ว กลับไปแปลเรื่องความเป็นมาของการพัฒนาเยาวชนฟุตบอลเยอรมันต่อแล้วครับ แถมรูปภายในสนามของยูเวนตุส แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 54 13:15:38 จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 13:15:15

ความคิดเห็นที่ 8 ชอบวิธีการบริหารแบบอิตาลี่ ที่บริหารกันแบบครอบครัวจริงๆ ฟังดูอบอุ่นดี  ถ้าไม่มีปัญหาการโกง ล้มบอลกัน น่าจะดีกว่านี่ ส่วนแบบเยอรมัน นี่ผมชอบจริงๆ หามาได้แค่ไหน ใช้แค่นั้น ปัญหาล้มละลายแทบจะไม่มีการเกิดขึ้นได้เลย แถมมีระบบเยาวชนขั้นเทพอีก ขอแค่พี่เสือไม่ทุ่มไล่ซื้อของทีมอื่นหมด ผมว่าจะกลายเป็นลีคที่สูสีมากๆเลย พัฒนากันยาวๆไปเลย พูดถึงโมรัตติ ถึงแกจะแปลกๆไปบ้าง แต่แกรักสโมสรจริงๆนะ จากคุณ : PanywT เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 13:55:43

ความคิดเห็นที่ 9 หลัง ๆ โมรัตติแกลดความบ้าเลือดลงไปมากเลยนะผมว่า จากคุณ : P.Tsubasa เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 14:33:01

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าบริหารแบบเยอรมัน ข้อดีคือ ไม่เผด็จการดี มีการประชุมหารือก่อนซื้อตัว ข้อเสียคือ มันไม่มีการทุ่มแบบบ้าเลือดให้ฮือฮาเลยนี่สิ จากคุณ : โหม่งเห็ด เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 14:37:47

ความคิดเห็นที่ 11 ผมชอบการบริหารทีมแบบเยอรมันครับ เงินต้องมาจากธุรกิจฟุตบอลจริงๆ ไม่เหมือนลีกอื่นที่ต้องมีเจ้าของมาอุ้มชู   เปรียบกับเด็ก 2 คน คนนึงใช้จ่ายตามที่มีเท่าที่หามาได้ ไม่ฟุ่มเฟือยไม่หวือหวาแต่ดำรงตนเองอยู่ได้ อีกคนใช้จ่ายเกินตัว เงินไม่พอก็ขอพ่อแม่ ถ้าไม่มีพ่อแม่แล้ว จะเอาเงินจากไหนมาใช้กันละครับ จากคุณ : มิโรสลาฟ ดุ๊กดิ๊ก เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 15:48:51

ความคิดเห็นที่ 12 ^ ^ คนแรกอยู่อย่างสมถะไปตลอดกาล อีกคนนึงนำเงินไปสร้างความสำเร็จได้มากมาย แทนที่จะไม่ได้ไม่เสียไปตลอดชาติ ผมสู้เป็นหนี้บ้างเป็นแชมป์บ้างดีกว่า แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 54 16:22:33 จากคุณ : บักจืดจาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 16:22:22

ความคิดเห็นที่ 13 #12 ทำไมต้องอยู่อย่างสมถะไปตลอดครับ บาเยิร์นก็โชว์ให้เห็นอยู่ว่าไม่ต้องขอเงินพ่อแม่ ก็รวยด้วยตัวเองได้ เพียงแต่บริหารจัดการให้ดีเท่านั้น จากคุณ : มิโรสลาฟ ดุ๊กดิ๊ก เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 16:28:52

ความคิดเห็นที่ 14 #12 ลีดส์คือตัวอย่างการใช้เงินอย่างเกินตัว ลิเวอร์พูลเองก็มีช่วงที่กระ:-)กระสน แมนยูก็มีหนี้มหาศาล ฟุตบอลเยอรมันเองซะอีกที่เป็นไปอย่างที่ฟุตบอลควรจะเป็น โอเคว่าสโมสรฟุตบอลเยอรมันห่างความสำเร็จระดับยุโรปมานานพอสมควร แต่ยุคหลัง ดาวรุ่งเยอรมันก็ฉายแววโดดเด่น พอๆกับทางฝั่งสเปน ในแง่ของผู้ชม จำนวนผู้ชมในบุนเดสลีกาก็ติดอันดับต้นๆของยุโรป พวกเขาแทบไม่ต้องกระ:-)กระสน หาโน่นมาโปะ "หนี้" เลยด้วยซ้ำ บางทีคำว่าสมถะมันก็ไม่ได้แย่นักหรอกนะ จากคุณ : แฟนขับ รักผม เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 19:34:49

ความคิดเห็นที่ 15 #12 ถ้าบริหารดี มันก็ดีไปครับ แต่ถ้าบรหารการเงินพลาดล่ะ (Leed เป็นตัวอย่างที่ดีเลย) จากคุณ : amnuayxp เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 19:42:15

ความคิดเห็นที่ 16 บาเยิน เข้ารอบ แมนซิ ตกรอบ เข้าใจยัง คห.12 จากคุณ : ผมต้องชอบดูฟุตบอล เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 19:49:39