@@@...บาเยิร์น มิวนิค : เกมรับไม่เหมือนเดิม เมื่อไม่มี บาสเตียน ชไวน์สไตน์เกอร์...@@@
|
 |
เมื่อเดือนก่อน เกมการป้องกันของ บาเยิร์น มิวนิค แข็งแกร่งจนหาใครเจาะเข้าไปได้ยาก โดยพวกเขาเสียไปเพียง 4 ประตู ใน 18 นัดที่ลงเล่นของทุกรายการ อีกทั้งยังไม่โดนเจาะแม้แต่ลูกเดียว ในเกมที่ต้องเจอทีมแนวรุกมหาโหดอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้, บียาร์เรอัล, ชาลเก้ 04 และ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ซึ่งทำให้แนวหลังของยอดทีมแห่งแคว้นบาวาเรีย กลายเป็นแผงรับที่ยอดเยี่ยมที่สุดชุดหนึ่งของโลก
ทว่า ช่วงนี้ แผงหลังทั้ง 4 ของ "เสือใต้" ไม่สามารถช่วยให้ มานูเอล นอยเออร์ นายด่านดีกรีทัพ "อินทรีเหล็ก" รักษาสถิติคลีนชีตได้เลยแม้แต่นัดเดียว โดย 7 เกมหลังสุดที่ไม่มี ชไวน์สไตน์เกอร์ ลงเล่นนั้น พวกเขาเสียไปแล้ว 10 ประตูด้วยกัน คำถามจึงอยู่ที่ว่า อะไรคือสิ่งที่แตกต่าง ระหว่างแต่ก่อน กับปัจจุบัน ? คำตอบที่สำคัญที่สุดข้อหนึ่ง เห็นจะหนีไม่พ้นชายที่ชื่อ บาสเตียน ชไวน์สไตน์เกอร์ เพราะนับตั้งแต่มิดฟิลด์วัย 27 ปี รับหน้าที่เป็นกองกลางตัวรับให้ต้นสังกัดนั้น ทีมของเทรนเนอร์ จุ๊ปป์ ไฮย์เกส ก็ไม่ถูกคู่แข่งทะลวงตาข่ายถึง 15 จาก 18 เกม ซึ่งรวมถึงการไม่เสียประตูนานถึง 1,147 นาทีติดต่อกันด้วย แต่แล้ว เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา รองกัปตัน บาเยิร์น ต้องถูกหามออกจากสนาม หลังจากปะทะอย่างรุนแรงกับ โกคาน อินเลอร์ แข้งชาวสวิสของ นาโปลี ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ ที่ต้นสังกัดเปิด อัลลิอันซ์ อารีน่า เฉือนเอาชนะยอดทีมจาก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี 3-2 โดยผลวินิจฉัยปรากฎออกมาว่า กระดูกไหปลาร้าของ "ชไวนี่" เกิดหักลง จนต้องพักเป็นเวลานาน เมื่อขาดเจ้าของเสื้อเบอร์ 31 ไป แผงกลางของ บาเยิร์น ก็ดูไม่เหมือนเดิม ซึ่งซ้ำร้ายที่มันส่งผลถึงแนวหลังด้วย โดยก่อนหน้าที่จะได้รับบาดเจ็บ แข้งวัย 27 ปี มีส่วนช่วยให้งานของเพื่อนร่วมทีมง่ายขึ้นอย่างมาก เพราะด้วยสัญชาตญาณในการยืนตำแหน่งที่สมบูรณ์แบบ, การแย่งบอลกลับมาได้หลายครั้ง และเป็นจังหวะที่สำคัญๆ รวมถึงคุณภาพในการรักษาจังหวะครองบอลของ "ชไวนี่" ทำให้เซนเตอร์แบ็กของ "เสือใต้" แทบจะไม่ต้องป้องกันในจังหวะที่จะถูกแนวรุกของคู่แข่งลากจี้เข้าหาเลย กลับกัน โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ กับ ดาเนี่ยล ฟาน บุยเต็น แค่ทำตามแบบฉบับที่พวกเขาถนัด ด้วยการจัดการสกัดลูกโยนยาวของคู่แข่งออกไป, ไล่ล่าคู่แข่งให้ไปจบชีวิตที่มุมธง และขยับขึ้นไปยับยั้งจังหวะขึ้นเร็วของคุ่แข่งในตำแหน่งมิดฟิลด์บางครั้ง จริงอยู่ที่ทั้งคู่ทำผลงานในส่วนนั้นกันได้อย่างยอดเยี่ยม และตอบสนองได้อย่างรวดเร็วที่จะรับมือกับคู่แข่งได้ทันเวลา แต่เมื่อต้องเจอความกดดันที่มากขึ้น และถูกบังคับให้ป้องกันกับการจู่โจมที่เป็นระบบมากขึ้น รวมถึงมีความเร็วมากขึ้นนั้น ทั้งคู่ต่างยังรับมือได้ไม่ดีพอ ทุกวันนี้ "เสือใต้" ยังมีความคมในแนวรุกเหลือเฟือ และยังสามารถเจาะตาข่ายคู่แข่งได้อย่างสบาย แม้ว่า จะไร้เงาของ ชไวน์สไตน์เกอร์ แต่พวกเขาก็ได้เรียนรู้ จากการตกรอบศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อซีซั่นก่อน แบบน่าเจ็บใจด้วยน้ำมือของ อินเตอร์ มิลาน จากกฎประตูทีมเยือน (เสมอกัน 3-3 เพราะถึงแม้จะบุกไปเอาชนะได้ 1-0 ที่ จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า แต่กลับถูกทะลวงตาข่ายในบ้าน 3 ลูก) แล้วว่า แค่พลังในการบุกนั้นยังไม่เพียงพอ หากพวกเขาอยากคว้าแชมป์ให้ได้ในฤดูกาล 2011-12 ชไวน์สไตน์เกอร์ คือหนึ่งในกุญแจที่สำคัญที่สุด และสำหรับแฟนๆของ บาเยิร์น แล้วนั้น คงหวังให้เจ้าตัวกลับมาเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้อย่างแน่นอน เปรียบเทียบจำนวนประตู ที่ บาเยิร์น มิวนิค ถูกคู่แข่งยิง ระหว่างเกมที่มี กับไม่มี บาสเตียน ชไวน์สไตน์เกอร์
| ก่อนหน้าที่ ชไวน์สไตน์เกอร์ จะเจ็บ | หลังจากที่ ชไวน์สไตน์เกอร์ เจ็บ | - จำนวนเกมของ บาเยิร์น | 18 | 7 | จำนวนประตูที่ถูกยิง | 4 | 10 | ค่าเฉลี่ยการเสียประตูต่อหนึ่งเกม | 0.22 | 1.42 | จำนวนเกมที่ชนะ | 14 | 4 | เปอร์เซ็นต์ที่ชนะ | 77.8 เปอร์เซ็นต์ | 57.1 เปอร์เซ็นต์ | จำนวนนัดที่ไม่เสียประตู | 15 | 0 | เจาะข่าวฮอต โดย.. บรองโก้ส์ http://www.siamsport.co.th/Column/111214_107.html
จากคุณ |
:
Eye of Sauron
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ธ.ค. 54 11:21:20
|
|
|
|