ความคิดเห็นที่ 1 ส่วนตัวผมมองว่าชุดปี 1990 ดีกว่าชุด 2010 หรือชุดปัจจุบันแน่นอนครับ ทีมปี 1990 นั้น มีความสมดุลของทุกตำแหน่ง ยอดเยี่ยมทุกตำแหน่ง โกล์ อิ๊กเนอร์ แบ็คซ้ายจอมบุกอย่าง เบห์เม่ มีเซ็นเตอร์แบ็คระดับ โคหฺ์เลอร์ มี กีโด บุควัลด์ คอยเก็บกวาดในแผงมิดฟิลด์ มัทเธอุส ยืนจอมทัพ ลิสบาร์สกี้ กับ เฮสเลอร์ เป็นจอมเทคนิค คอยแจกจ่ายเข้าทำ คู่หูศูนย์หน้า คมมาก คือ คลินสมันน์ กับโฟลเลอร์ จำได้ แค่นัดรอบแรก เยอรมันชนะยูโก 4-1 แบบราบคาบ ทั้งที่ยูโกชุดนั้นมีดาวดังอย่างซาวิเซวิชและสตอยโกวิชด้วย จากคุณ : BlueWhiteRed เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 22:48:27

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่เกี่ยว ทีมชุดแชมป์โลก 1990 เจอสเปนชุดปัจจุบันนี้ ก็ไม่น่ารอด ตอนนั้น เยอรมันแข็งแกร่งก็จริงอยู่ แต่คู่แข่งของเยอรมัน อย่างอาเจนติน่า ฟอร์มก็รุดมหาราช  ฮอลแลนด์ก็ทะเลาะกันจนทีมแทบแตก เทียบกับคู่แข่งที่เยอรมันจะเข้าไปเจอในบอลยุโรปแล้วคนละเรื่อง จากคุณ : นายเบื่อบอลอุด เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 23:00:23

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าวัดกันจริงชุด90เหนือกว่าอยู่ดีครับ(เหนือกว่าพอสมควรด้วย) แต่จริงๆแล้วเปรียบเทียบกันไม่ได้หรอกเพราะตอนนั้นกับตอนนี้ทั้งคู่แข่งและตัวทีมชาติเยอรมันเองมีวิธีการเล่นแตกต่างกันเยอะ ชุด90ทำยังไงก้อจะเล่นได้ไม่สวยงามแบบชุดปัจจุบัน แต่เรื่องของความเคี่ยวประสิทธิภาพแทคติกและความลงตัวของทุกตำแหน่งเหนือกว่าอยู่เยอะ เอาง่ายๆชุดปัจจุบันนี้แบคขวาจะเป็นใครและเล่นได้ดีขนาดไหนปราการหหลังตัวกลางจะเหนียวแน่นจริงหรือเปล่าไว้ใจได้มากแค่ไหน ลูกเซ็ตพีชมีทีเด็ดแค่ไหน พอถึงจุดโทษจะยังทำได้ดีหรือเปล่าก้อยังไม่รู้ แต่ชุดนั้นสมบูร์ณแบบทั้งแข็งแกร่งและเหนียวแน่น ไม่สวยงามแต่ลงตัวทุกตำแหน่ง มีทีเด็ดจากลูกตั้งแต่ให้หวังได้ ถ้าลากไปถึงจุดโทษไม่ต้องพูดถึงยิงชัวร์ซะยิ่งกว่าชัวร์ จากคุณ : พญาหมูแดงดำ เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 23:14:20

ความคิดเห็นที่ 4 นั่นเป็นทีมที่นานๆ จะปรากฏขึ้นได้ซักครั้งนะครับ นักเตะรับดับโลกล้นทีม ขนาดผู้เล่นระดับอินเตอร์ยังต้องหนีไปเป็นตัวสำรอง ดีกว่าชุดปัจจุบันอยู่พอสมควร แม้ว่าสปีดอาจสู้ชุดปัจจุบันไม่ได้ วิธีการเล่นอาจเป็นเทรนโบราณ แต่ถ้าเอามาเจอชุดปัจจุบัน ก็ยังเหนือกว่าอยู่ดี แค่โคล์เลอร์กับ บุควัลค์ยืนคู่กัน คุณคิดว่าโกเมส หรือโคลเซ่จะมีโอกาสสลัดหลุดเข้าพื้นทีี่สำคัญได้กี่ครั้งในเกม ไม่นับพวกจัดจ้านอย่าง ลิบาสกลี้กับเฮสเลอร์ที่พร้อมจะทลวงแนวรับ อย่างบาสตูเบอร์และแมร์แตร์วัคเกอร์ได้ตอลดเวลา หรือวัดกันปอนด์ต่อปอนด์ระหว่างมัทเธอุสกับชไวนีก็ดูยังต่างกันอยู่ ดูแล้วที่คู่คี่คือโกเมสกับโคลเซ่ที่ดูแล้วระดับไม่ต่างกับคริสมันน์และโฟลเลอร์มากนัก นอกนั้นดูจะเป็นรองครับ (เอ้อไม่นับประตูผมว่านอยเออร์มั่นคงกว่าอิกส์เนอร์) เหลียวมองไปที่กราบซ้ายและขวา เบร์เมห์คือเบอร์ต้นในตำแหน่งของตัวเอง ส่วนรอยเตอร์ จริงอยู่รอยเตอร์อาจไม่ถึงกับเด่น แต่เบร์เมห์นี่คือระดับตำนาน นี่ยังไม่นับตัวสำรองระดับพระกาฬที่พร้อมพลิกเกมส์ได้ตลอดเวลาอย่างโมลเลอร์หรือบายน์(ผู้มีลูกจ่ายไม่ด้อยกว่าโอซิล แต่เป็นได้แค่สำรองของชุดนั้น) หรือ โอลาฟ โธนจัดจ้านแค่ไหนก็ยังทะลุขึ้นมาเป็นตัวจริงไม่ได้ดูแล้วชุด 90 ขี่พอสมควร ชุด 90 ผมว่าน่าเอามาวัดกับ ผรั่งเศศ 1998-2000 หรือสเปญชุดปัจจุบันไปเลยน่าจะดีกว่า  แม้เทรนการเล่นต่างกัน แต่ความคลาสสิคและการน่าจดจำไม่ต่างแน่นอน แก้ไขเมื่อ 16 ธ.ค. 54 23:43:53 แก้ไขเมื่อ 16 ธ.ค. 54 23:35:45 แก้ไขเมื่อ 16 ธ.ค. 54 23:29:43 จากคุณ : เวลาในขวดเหล้า เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 23:23:01

ความคิดเห็นที่ 5 ดีครับ ชอบแบบนี้ เหมือนโต้วาทีกัน นำเสนอประเด็น ข้อมูล กัน หักล้างกัน  ใครเสน อได้ น่าเชื่อถือ กว่ากัน จากคุณ : เเมนเอล เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 23:43:03

ความคิดเห็นที่ 6 มัธเธอุธเล่นกองกลางนะ ไม่ใช่กองหลัง สมัยนั้นเข้าใจว่าเอาเกนทาเลอร์จะเล่นเป็นลิเบอร์โร่ เปรียบเทียบยุคนั้น ความสามารถเฉพาะตัวสูงกว่า  รูปแบบชัดเจนกว่า  เหนียวแน่นกว่า  บอลจะแช่อยู่ที่แต่ละคนนานกว่า ส่วนยุคนี้จะเด็กใหม่ห้าวๆ หัวไม่แข็ง ไม่อีโก้สูง แนวการวิ่งหลากหลาย การเข้าทำจะน่ากลัวมาก เสียตรงขาดความเหนียวแน่น เอกลักษณ์ยุคก่อนคือโดนแล้วไม่กลัว ไล่เอาคืนได้ตลอด ถ้านำก่อนเกมจะหนืดทันทีแต่ไม่ถึงกับอุด เอกลักษณ์ยุคนี้คือถ้าได้ก่อน คู่ต่อสู้อาจโดนโต้กลับจนเละได้ ส่วนตัวจะชอบยุคนี้มากกว่า เร้าใจดี จากคุณ : DangDame เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 23:44:36

ความคิดเห็นที่ 7 น้าโลธาร์มาเล่นลิเบโรช่วงท้ายๆก่อนเลิกครับ ยุคนั้นเยอรมันระดับโลกแทบทุกตำแหน่ง ชุด 2010 เทียบไม่ติดเลยครับ จากคุณ : สุดโหดโครตโรแมนติก เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 23:55:08

ความคิดเห็นที่ 8 ลบครับ ลืมรูปครับ ^ ^ แก้ไขเมื่อ 17 ธ.ค. 54 00:34:26 จากคุณ : John Bames เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 00:32:45

ความคิดเห็นที่ 9 ผมจะไม่เปรียบเทียบกับชุดปัจจุบันนะครับ แต่ขอขุดความทรงจำที่มีให้กับชุดแชมป์โลก'90 ซึ่งเป็นทีมชุดที่ผมชื่นชอบมากทีมนึง ทีมชุดนั้นเป็นทีมทีมบ่งบอกประสิทธิภาพสไตล์เยอรมันขนานแท้เลยครับ เขี้ยวและทรงประสิทธิภาพมาก อีกอย่างชุดนั้นยังเล่นระบบ 3-5-2 มีลิเบอโร่อยู่ด้วยนะครับ เกมส์ริมเส้นใช้ตัววิงแบ็กแบบขนานแท้เลย จัดแผนการเล่นแบบนี้ในนัดชิงกับอาร์เจนครับ (ใส่ฉายาเท่าที่จำได้นะครับ)                                  (เจ้าเป็ดน้อย)รูดี้ โฟลเลอร์       (ฉลามขาว)เจอร์เก้นส์ คลิ้นม้นส์                      (ปีกขาโก่ง)ปิแอร์ ลิทบาร์ทสกี้              (ยอดคนแสนคม)โธม้ส เฮสเลอร์                                                                 (ซุปเปอร์แมน) โลธ่าร์ มัทเธอุส (Leopard II)อันเดรียส์ เบรห์เม่                                                                (หนุ่มเจ้าสำอางค์...ประมาณนี้)โธมัส แบร์โธลด์                              (ไอ้หนวดหิน)เจอร์เก้นส์ โคห์เลอร์        (.....)กีโด บุ๊ควัลด์                                                                                                           (ไอ้บ้านนอก)เคล้า เอาห์เก้นทาเล่อร์                                                                                                       (......)โบโด อิ๊กล์เนอร์   และมีผู้คุมทีมเป็นตำนานอย่างไกเซอร์ฟร้านซ์ เบคเค่นบาวเออร์นั่นเอง ทีมนี้ใช้โบโด อิ๊กเนอร์นายทวารหนุ่มจากโคโลญจ์น โดยที่มีตัวสำรองระดับเซียนอย่างอันเดรียส์ ค็อปเค่ และไรน์เนอร์ เอาน์มุนน์คอยกดดันฟอร์มไม่ให้ตกอย่างเข้มงวด ใช้เคล้า เอาห์เก้นทาเลอร์เป็นสวีปเปอร์-ลิเบอโร่ที่แข็งแกร่ง มีตัวคุมคม-สต็อปเปอร์ที่ต่างสไตล์กันแต่หิน เขี้ยว และสอดรับกันมาร์คตัว เข้าสกัดประสานจังหวะกันลงตัวสุดๆ(เจอร์เก้นส์ โคห์เลอร์ - กีโด บุ๊ควัลล์) กราบซ้ายมีอันเดรีย เบรห์เม่เหมาสัมปทาน ทำได้ทุกอย่าง จุดที่ผมคิดว่าอ่อนสุดของชุดนี้คือวิงแบ็คขวา โธมัส แบร์โธลด์...แต่หาใช่ประเด็นสำคัญไม่ เพราะมีทางเลือกสำรองที่ทดแทนสบายๆอย่าง...(ไอ้หนุ่มเทอร์โบ)สเตฟาน รอยเตอร์ (แบร์โธลด์สามารถยืนหลังตัวกลางได้ทั้งลิเบอโร่และสต็อปเปอร์ด้วย ยืดหยุ่นมาก) กลางสามตัวทรงประสิทธิภาพ เริ่มจากยี่ห้อซุปเปอร์แมน โลธ่าร์ มัทเธอุส ดุดัน แข็งแกร่ง วิ่ง125นาทีไม่มีหมด ปะทะตัดเกมส์เขี้ยว อ่านเกมส์คมกริบ ยิงไกลหนักหน่วง แม่นยำ ส่วนยอดคนแสนคม-โธมัส เฮสเลอร์ แคล่วคล่องว่องไว ฉลาดเป็นกรด ลูกสั้นลูกยาวทะลุช่องไม่ขี้เหร่ ทีเด็ดฟรีคิกต้องได้ลุ้นทุกลูก อีกตัวก็ปิแอร์ ลิทบาร์สกี้ปีกขาโก่งจากโคโลญจ์น ตำแหน่งธรรมชาติคือปีก แต่บทบาทในชุดนี้ให้เขาเล่นกลางรุกซึ่งก็ํทำได้อยู่แล้วตามระดับฝีเท้าของเขา ลัดเลาะ เลื้อย เรียกฟาวล์ จ่ายบอลพอได้ ที่สำคัญกลางสำรองก็ระดับพระกาฬ...เช่น (ไอ้หนูแข้งทอง)อันเดรีย โมลเลอร์,(ซ้ายพญายม)อูเว่ บายน์จากแฟร้งเฟิร์ต,อีกคนก็โอลาฟ โธนที่ตัวเล็กๆจากชาลเก้04หนวดจุ๋มจิ๋ม...คนนี้เล่นได้ทั้งกลางเชื่อมเกมส์และลิเบอโร่ กองหน้าสองคนเจ้าเป็ดน้อยรูดี้ โฟลเลอร์ กับฉลามขาวเจอเก้นส์ คลิ้นส์มันน์จัดเข้าขั้นอันตรายทั้งคู่  แถมด้วยตัวสำรองที่ไม่ขี้เหร่เลยอย่าง(ฉลามล้อคลื่น)คาร์ลไฮซ์ รีดเล่ ใครว่าเล่นไม่สวยงาม ผมว่ามันก็ไม่ขี้เหร่ขนาดนั้น แต่เรื่องความแข็งแกร่ง ประสิทธิภาพอันนี้ผมให้ระดับยอดเยี่ยม เรื่องแทคติกของไกเซอร์ฟร้านซ์(กับชุดนี้) ไม่แข็ง(Rigid)จนเกินไป แต่กลับกัน ผมมองว่ามีความยืดหยุ่นสูงมากกับชุดผู้เล่นที่เลือกมา ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ได้ไม่เคอะเขิน ทีมนี้เป็นเยอรมันชุดสุดท้ายก่อนรวมประเทศ  เป็นชุดที่อยู่ในความทรงจำตลอดมาเลยครับ ปล.ปี'88 สามทหารเสือฮอลแลนด์จากเอซี มิลานได้แชมป์ยูโร แต่สองปีต่อมาเกิดเหตุการณ์สลับขั้วหว่างสองคู่อริระดับเมือง(ในเมืองมิลาน)และระดับประเทศ(ดัทช์-ด๊อยช์)นั่นคือ...สามทหารเสือเยอรมันจากอินเตอร์ มิลานไปได้ถึงตำแหน่งแชมป์โลกกันเลย อันนี้คลาสสิกสุดๆครับ ^ ^ จากคุณ : John Bames เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 00:33:25

ความคิดเห็นที่ 10 เยอรมันยุค 1990 เป็นชุดที่แข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่ผมดูบอลมาครับ สเปนปัจจุบันอาจจะไร้เทียมทาน แต่เยอรมันชุดนั้นผมว่าสมดุลกว่าทุกตำแหน่งครับ ตั้งแต่กองหลัง กองกลาง กองหน้า ทุกคนแทบจะเป็นระดับโลกในตำแหน่งของตัวเองกันหมด มัทเธอุส เบรห์เม่ โคห์เลอร์ ตอนนั้นคือเบอร์ 1 ของโลกในแต่ละตำแหน่ง  คลิ้นสมันน์ เฮสเลอร์ บุ๊ควัลด์ ลิทร์บาสกี้ ก็ระดับอินเตอร์กันทั้งนั้น แถมสำรองอย่างรีดเล่ โธน โมลเลอร์ เก่งขนาดไหนยังเบียดลงตัวจริงไม่ได้เลย ชุดปัจจุบันอาจจะดูสนุกกว่า พลิ้วกว่าครับ แต่เรื่องหัวจิตหัวใจ ความแข็งแกร่ง ต้องยกให้เยอรมันชุดนั้นเลย ไม่ต้องไปพูดถึงจุดโทษ ดูแต่ละคนซีครับ เดินไปยิงนี่แทบไม่ต้องลุ้น ยังไงก็เข้า จากคุณ : มิโรสลาฟ ดุ๊กดิ๊ก เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 00:35:51

ความคิดเห็นที่ 11 ทีมเยอรมันเป็นแชมป์โลกปี 1990 โดยชนะทีมอาร์เจนติน่า ปีนี้ 2011 แสดงว่าแต่ละท่านข้างบนเป็นแฟนทีมเยอรมันไม่ต่ำกว่า 20 ปี ทีวีช่อง Sport 1 จะเอาการแข่งของทีมเยอรมันปี 2010  ที่ประเทศอาฟริกาใต้ มาฉายบ่อย ดูทีครั้งไร สุขใจทุกครั้ง โดยเฉพาะนัดที่ชนะทีมอังกฤษ 4-2 และชนะทีมอาร์เจนติน่า 4-0 จากคุณ : บอนเนอร์ เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 01:01:19

ความคิดเห็นที่ 12 กระดูกคนละเบอร์ครับ  เหมือนรถถังหนักครบเครื่องกับรถถังเบาเคลื่อนที่เร็ว   ปี 2010 ฉับไวแต่ยังเปราะเกินไป   ต้องรออีกหลายปีกว่าจะเคี่ยวจนสมดุล และไม่รู้จะขึ้นไปถึงจุดสูงสุดได้แค่ไหนต้องคอยดู   แต่วันนี้ยังห่างกับชุดโน้นมากครับ.... จากคุณ : นิ้วจิ้ม เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 01:30:21

ความคิดเห็นที่ 13 เอามาเทียบลำบากครับ ปี 90 ยังไม่มีกฎ ยกเว้นให้กับผู้เล่นที่ล้ำหน้า แต่ไม่อยู่ในตำแหน่งที่เกี่ยวกับการเล่น ซึ่งทำให้ ระบบ 3-5-2 ยังเป็นระบบที่มีปฎิสิทธิภาพมาก ถึงหลังๆ จะมีบางทีมเล่น 3-5-2 แต่การยืน ตำแหน่งก็ไม่ได้เป็นเหมือนก่อน เพราะไม่ได้ห้อย ลิเบอโร่ ต่ำ กันแล้ว แต่ ย้ายตำแหน่งขึ้นสูง ไปเป็นตัวชน หรือตัวมาร์คตามประกบ กองหน้า ที่เดี๋ยวนี้ชอบ เล่นระบบหน้าเดี่ยวกันมากกว่า แต่ถ้าวัดจากฝีเท้ารายบุคคลแล้วเอามา เที่ยบรวมๆ ผมว่าปี 90 ก็ดีกว่า ชุดปี 2010 อยู่ดี ปี 2010 นัดเจออังกฤษ ถ้าลูกยิงของแลมพาร์ด กรรมการไม่ตาถั่วขนาดหนัก อาจจะต้องมาลุ้นถึงจุดโทษก็ได้ ส่วนปี 90 นั่น เยอรมัน พละกำลังความ แข็งแกร่งมีพร้อมหมดทุกคน ระเบียบวินัยในเกมรับสุดยอด  แล้วประสิทธิภาพในเกมรุกคมสุดๆ ในความเห็นแฟนอาร์เจนฯอย่างผม รอยด่างจุดเดียวของ ทีมชาติเยอรมันตะวันตก ปี 90 ก็คือ ชนะ อาร์เจนติน่าในนัดชิงได้แค่ 1-0 และเป็นลูกยิงที่ได้ด้วยจุดโทษนี่แหละ จากคุณ : สายน้ำฟ้า เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 01:42:19

ความคิดเห็นที่ 14 เจ้าใจถูกเกือบหมดครับแต่จริงๆ ตอนนั้นนักเตะเยอรมันจะถูกตัดสินโดยหนังสือพิมพ์กีฬาคิกเกอร์ ซึ่งต่างจากหนังสือพิมพ์ฉบับอื่นในยุโรป คือยุติธรรม เที่ยงตรง แม้จะเขี้ยวขนดไหนแต่ต้องยอมรับว่ามีนักเตะเยอรมันที่อยู่ในระดับโลก คือ เจอร์เก้น โคเลอร์ ถ้าเป็นแทคติกโบราณ เป็นสต๊อปเปอร์ที่ดีที่สุดในระดับโลก พิสูจน์ความเก่งกาจใน Serie A มาแล้ว รูดี้ โฟลเลอร์ พิสูจน์ว่าเป็นของจริงที Serie A เป็นนักเตะระดับโลก ก๊โด บุ๊ควัลด์ และ อันเดียร์ส เบรเมห์ รวมทั้งมัธเธอุส ทั้งหมด 5 คนครับ ส่วนคลินมันส์ เฮสเลอร์ โมลเลอร์ บายน์ แบร์โธลด์ อาเกนทาเลอร์ ถูกจัดอยู่ในระดับอินเตอร์ครับ จากคุณ : amry เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 02:03:07

ความคิดเห็นที่ 15 ให้ 1990 ครับ จากคุณ : deeraus เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 02:11:03

ความคิดเห็นที่ 16 ที่ต่างกันก็คือ " สปีดของเกม " ครับ !!! ทีมชุดแชมป์โลก 1990 จะมีสปีดของเกมช้ากว่าชุดปี 2010 อยู่พอสมควร บอลจะค่อยๆเคลี่อนขึ้นไป จากแดนหลังสู่หน้า และจะไปเร็วขึ้นเมื่อไปถึงการเข้าทำของคู่กองหน้า เจอร์เก้น คลินส์มันน์ กับ รูดี้ โฟลเลอร์ แต่สปีดบอลของชุด 2010 จะเร็ว และ หวือหวา กว่าเยอะ การเคลื่อนที่ของเกมจะมีรูปแบบที่หลากหลายกว่า สปีดของเกมที่แตกต่างกัน ก็มาจากความเร็วของผู้เล่นในแดนกลาง ทั้ง โพลดอร์สกี้ , โทมัส มุลเลอร์ , เมซุต โอซิล ที่ต่างก็เน้นการทะลุทะลวงพุ่งเข้าหาประตูของคู่แข่งเสมอ ไม่เหมือนกับชุดปี 1990 ที่การสร้างเกมจะมาจากทางริมเส้นตามกราบทั้งสองด้าน ตรงกลางสนามตัวทะลุทะลวงจะมีเพียงแค่ โลธ่าร์ มัทเธอุส คนเดียว ส่วน โทมัส เฮสเลอร์ และ ปิแอร์ ลิตบาร์ทสกี้ จะเป็นตัวคอยซ้อนเท่านั้น ในรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2010 นั้น เหล่านักเตะวัยรุ่นของเยอรมันเจอความเก๋าของกลางสเปนบีบให้เล่นลำบาก ต้องลดสปีดของเกมลงมา ซึ่งผิดธรรมชาติของนักเตะชุดนี้ ผลต่อมา....ทุกสิ่งทุกอย่างเลยไปเข้าทางปืนของฝ่ายสเปนจนหมดสิ้น จุดนี้ล่ะครับ ที่บุนเดสเทรนเนอร์ โจอาคิม เลิฟ จะต้องปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น ก่อนที่จะต้องจับพลัดจับผลูดวงสมพงศ์ ไปเผชิญหน้ากันอีกครั้งในยูโร 2012 กลางปีหน้านี้ ...                                                                                                             > Shine on you crazy diamond < จากคุณ : Romancini เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 02:40:19

ความคิดเห็นที่ 17 คห 2  สเปนมาไงอ่ะ จากคุณ : กุยช่ายขาวหมูกรอบ เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 08:54:59

ความคิดเห็นที่ 18 1990 - ขยัน มีวินัย อดทน เหนียวแน่น เป็นระเบียบ (เริ่มเชียร์ตอนนี้พอดี) 2010 - รวดเร็ว หลากหลาย รุกลื่น รับหลวม(บ้าง) ยืดหยุ่น ปัจจุบัน - อัพเกรดจาก 2010 มาอีกขั้นนึง เริ่มเชียร์เยอรมันเพราะเจ้าฉลามขาวนี่แหล่ะ ฉายามันเท่ดี(ตอนนั้นยังเด็กเลือกเท่ๆไว้ก่อน) จากคุณ : Eye of Sauron เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 09:19:23

ความคิดเห็นที่ 19 แค่เจอร์เก้น โคห์เลอร์คนเดียว ก็หนาวแล้ว ระดับโลกไม่ได้ได้มาเพราะอวยหรือโชคช่วย ไปดูนัดดอร์ทมุนด์ เจอแมนยูได้สมัยคันโตน่ายังอยู่ จริงๆแล้วแมนยูเล่นดีกว่าและเล่นดีมาก แต่ที่มันยิงไม่เข้าไม่ใช่เพราะสเตฟาน โคลส มันมาจากปราการหลังติดหนวดคนนี้แหละประกบคันโตน่าแบบว่า มรึงอย่าหนีไปไหนเลยหนีไปกูตาม ยิงมากูตามบล๊อก ตามขวางประมาณเดียวกับมัลดินี่ช่วงพีคที่ตามประกบปีกระดับโลกเลย ทั้งเคี่ยวทั้งเหนียวโคตรพ่อ คือเป็นแบบยุคโบราณที่เน้น Marking ไม่ใช่แบบ zone ในปัจจุบัน การเล่นปี 90 ไม่เร้าใจ ไม่สวย แต่เขี้ยว ฝีเท้านักเตะและความสามารถเฉพาะตัวเหนือกว่าปี 2010 ครับ เพียงแต่ยุคนั้นใช้ระบบการเล่นแบบนั้น และโค้ชให้เล่นแบบนั้นลองถ้ามาเล่นในยุคปัจจุบันผมว่าแต่ละคนก็เล่นแบบที่เล่นปัจจุบันได้เผลอๆจะดีกว่าด้วยเพราะเบสิคบอลดีกว่า  ผมดูจากการวางบอล การลากเลื้อย การยิงประตูจะคลาสสิคกว่า เอาง่ายๆถามว่าคลินสมันน์สามารถลากไปยิงปั่นไซร์ก้อยใส่รัสเซีย จับบอลนิ่มนวลเดาะบอลขึ้นตวัดยิงใส่เกาหลีใต้ ถามว่าโกเมซ และโคลเซ่ทำได้ไหม ตอบเลยว่าไม่ได้ เพราะเบสิคบอลและพรสวรรค์สู้ฉลามขาวกันไม่ได้    แต่ปัจจุบันและปี 2010 ได้ดีระดับนึงเพราะทีมเวิร์คเลยครับ ส่วนยุคปี 90 จะสู้สเปนยุคปัจจุบันได้ไหมผมไม่แน่ใจ เพราะกลางสเปนชุดนี้เทพเว่อร์ และดูครองบอลจะเหนียวกว่าแผงกลางเยอรมันปี 90 เสียด้วย จากคุณ : miroslav เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 15:55:09

ความคิดเห็นที่ 20 โดยส่วนตัวชอบชุดที่อเมริกาปี94มากกว่าทุกชุด เป็นทีมผสมระหว่างนักเตะรุ่นใหม่ผสมกับชุดจากแชมป์โลกอิตาลี90 หากว่าไม่แพ้บัลแกเรียจากลูกโหม่งลูกนั้นมั่นใจว่าจะชนะอิตาลีและบราซิลได้ จากคุณ : nuclear13 เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 16:13:08

ความคิดเห็นที่ 21 เยอรมันชุดนี้ยังต้องพิสูจน์ เรื่องกองหลัง กับหัวใจครับ ส่วนชุดปี 90 นี่ ไม่ต้องพิสูจน์อะไรแล้วครับ หลังยันหน้าแข็งทุกจุด ลองคิดเล่นๆ ถ้าสองชุดนี้เจอกัน รูปเกมส์น่าจะออกมาในแบบ ปี90 บุกเข้าใส่ แต่บุกแบบมีจังหวะนะครับ ถ่ายบอลไปมา ซ้าย-ขวา โยนให้คลิ้นมันส์และโฟลเลอร์ โดยมีมัทเธอุส เฮสเลอร์ คอยเติมแถวสอง ส่วนชุดปัจจุบัน คงอาศัยจังหวะสวนเร็ว พยายามเดินเกมส์เร็ว แต่ก็คงโดนชุด90 ชะลอเกมส์ และก็ค่อย ๆ บดไปเรื่อย ๆ ครับ สรุปว่า เสร็จชุด 90 ครับ จากคุณ : gps เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 21:15:24

ความคิดเห็นที่ 22 จุดเดียวที่ผมว่า ทีมปี 90 อ่อนกว่า คืออิล์กเนอร์ ครับ ไม่ค่อยดูเด่นเท่านอยเออร์ (หรือแม้แต่คาห์น-คอปเค่ ในรุ่นต่อๆมาด้วย) แต่จุดที่กองหลังเยอรมันยุคนั้น ดูแล้วแกร่งเว่อร์ จุดนึงมาจากมาตรฐานกรรมการสมัยก่อนด้วย ที่แจกเหลืองยาก จังหวะดึง ทึ้ง หวด ไม่ค่อยโดนไป บางครั้งไม่ค่อยฟาล์วด้วย ทำให้นักเตะที่เล่นหนักอย่าง เอาเก้นทาเลอร์ บุควัลด์ หรือ แบร์โธลด์ เล่นง่ายกว่าปัจจุบันเยอะ การที่แมร์เตอร์ซักเกอร์เล่นบอลนุ่มนิ่มแบบนี้ ก็เพราะเกิดมาในยุคที่กรรมการแจกใบง่ายด้วยล่ะ (ถ้าอยากได้ฟาล์วเลยต้องขยันพุ่งกันหน่อย และกรรมการก็ตามศูนย์หน้าสไตล์นี้ไม่ค่อยจะทันด้วย) สรุปคือ มันเทียบกันยาก เพราะด้วยการสร้างทีมที่ต้องเอื้อกับกฎกติกาที่เปลี่ยนไปตลอดเวลาของโลกลูกหนังนี่แหละครับ และเยอรมัน เป็นทีมที่เล่นตามกฎได้ดี รวมทั้งใช้ประโยชน์สูงสุดจากกติกาที่ละเอียดๆแบบนี้ได้ดี - ล้ำหน้าแบบใหม่-เยอรมันเลยใช้เกมส์ที่เร็วขึ้น - ใบเหลืองแบบใหม่-กองหลังเล่นเบาลง - แจกใบพวกชอบพุ่ง-เดี๋ยวนี้กองหน้าเยอรมันเลิกพุ่งเลย - ห้ามโกล์ใช้มือ ทำให้เยอรมันไล่บอลมากขึ้นไม่เหมือนเมื่อก่อนที่คุมโซนในแดนตัวเอง แต่ยังไงเสีย ทีมปี 90 ก็เหนือกว่าแน่นอน แต่ไม่ได้ห่างกันแบบคนละชั้นครับ เจอกันนี่ พอจะพลิกได้อยู่ จากคุณ : Ahura เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 09:09:53