ความคิดเห็นที่ 1 แฟนบอลเห็นด้วย แต่เจ้างานใหญ่อย่าง ฟีฟ่า ไม่เห็นด้วย เพราะถ้าใช้กล้องตัดสิน ฟีฟ่า อาจจะเงินหด ก็ได้ครับ รุ้ๆ กัน คนตัดสินเรื่องบอลมีงานก็ตามมา แต่ถ้าหันไปใช้ภาพวิดีโอตัดสิน บอลมีงาน จะหมดไป ฟีฟ่าอาจจะเงินหดได้ จากคุณ : danya เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 12:21:24

ความคิดเห็นที่ 2 กรณีนี้ผมชอบจุดยืนของฟีฟ่านะ ที่ปฏิเสธเทคโนโลยีไม่ว่าจะรีเพลย์ ,Hawk-Eye หรือฝังชิพ ส่วนตัวมองว่าถ้าเริ่มยอมรับให้มีตัวช่วย อนาคตจะมีตัวช่วยตามมาอีกมาก จนไม่ใช่เกมส์ฟุตบอลแบบที่เรารู้จัก จากคุณ : "ตื่นมาก็คิดถึง" เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 12:39:12

ความคิดเห็นที่ 3 ฟีฟ่ากลัวว่า แล้วยังงี้ประเทศที่ด้อยพัฒนา อย่างพวกแอฟริกา ไม่มีงบสำหรับกล้อง หรือเซนเซอร์ จะเกิด 2 มาตรฐานรึป่าว ส่วนเรื่องบอลมีงาน ผมว่ามันเกิดในประเทศมากกว่า ฟีฟ่าถ้าจะโกง น่าจะโกงจากทางอื่นนะ จากคุณ : Loacker Vanilla เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 12:39:30

ความคิดเห็นที่ 4 ทีมเล็กๆ อาจได้เข้าชิงรายการใหญ่ แต่ผมก็ไม่เห็นด้วยนะ การผิดพลาดคือสเน่ห์ จริงๆ ผมหมายถึงความผิดพลาเนะ ไม่ใช่การตั้งใจ เช่นเสียบบอลเสียโทษ ยิงเข้าไม่ให้ประตู โดยเฉพาะบอลโลก ฉาวมากๆ จำไม่ผิดเกม สหรัฐฯ กับ นิวซีแลนด์มั้ง  ยิงเข้าแบบแฟร์เพล์ แต่กรรมการไม่ให้  งงdak กันหมด อีกเกมก็ เชลซี กับ บาร์ซ่า ใน UCL ----------- ฟีฟ่านี่แหล่ะครับ โต๊ะบอลพัวพัน ตัวพ่อเลยคนแทงบอล น่าจะสัมผัสได้ทุกคน เพราะมันไม่มีหลักฐานหรอก 555 แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 54 12:43:12 จากคุณ : hahesfha เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 12:41:56

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่เห็นด้วยครับ เกมขาดความต่อเนื่อง บางครั้งขนาดดูภาพช้ายังมองไม่เหมือนกันเลย บางประเทศที่ไม่มีเทคโนโลยีก็ทำไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นจะรู้สึกว่าฟุตบอลไม่ใช่กีฬาสำหรับคนทั่วไปแล้ว แก้โดยการเพิ่มผู้ตัดสินหรือมีกรรมการในเขตโทษน่าจะดีกว่า ถึงจะมีเทคโนโลยีช่วย ผมว่าลูกปัญหาก็ยังมีอยู่ดี จากคุณ : the gooner เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 12:46:21

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่เห็นด้วยครับ เกมส์ขาดความต่อเนื่อง  แต่จะง่ายเพิ่มกรรมการครับ ให้มัยเยอะๆแบบอเมริกันฟุตบอลไปเลยก็ได้ จากคุณ : ภานุพงษ์ (panupong_see) เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 12:48:03

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่เห็นด้วย แต่ถ้าเรื่องลูกล้ำเส้นแล้วแต่ไม่ชัดเจนอันนั้นเห็นด้วย ส่วยอย่างอื่น ไม่เอา พวกจังหวะสวนกลับก็อาจจะขาดความต่อเนื่อง จากคุณ : Always Red เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 12:48:40

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่เอาอ่ะ อยากให้มันมีดราม่ามาเถียงกัน ผมชอบเดือดๆ ^^ จากคุณ : คนห้วยขวาง เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 13:05:29

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นด้วยสุดตัว ดูแบบ อเมริกันฟุตบอล หรือ เทนนิส ไม่เห็นมีปัญหา รู้สึกมีความยุติธรรมดีด้วย ดูเทนนิส ถ้าไม่มี Hawk-Eye  รู้สึกคาใจ ว่าลูกมันลงหรือไม่ลง จากคุณ : jigkim เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 13:15:15

ความคิดเห็นที่ 10 เอาเป็นแบบ challenge ก็ดีนะ เรียกดูได้เกมนึงไม่เกิน 3 ครั้ง ถ้าเรียกสิทธิ์นี้แล้ว ต้องยอมเสียการครอบครองบอล ฯลฯ จากคุณ : PEDestrain เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 13:26:23

ความคิดเห็นที่ 11 แค่ให้ กรรมการ ที่ 4 นั่งดูภาพช้า แล้วรายงาน กรรมการในสนาม ก็พอแล้ว ว่าจังหวะไหน เป็นยังไง เสียเวลาน้อยกว่า เกมต่อเนื่องด้วย จากคุณ : น้ำตาจากสวรรค์ เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 13:30:10

ความคิดเห็นที่ 12 จริงๆแล้วถ้าจะทำมันก็ทำได้ ที่ว่าขาดความต่อเนื่องของเกมส์เพราะ ไม่ได้มีการประยุกต์ใช้ต่างหาก ถ้าจะตั้งกฎว่า กรรมการจะขอดู Instant Replay ได้ 1.จังหวะตัดสินให้เป็นประตูที่มีปัญหา ก็ทำได้เพราะถ้าบอลเข้าไปแล้วยังไงก็เป่าหยุดเกมส์อยู่แล้ว เสียเวลาไปดูซักนาที2นาที ก็ไม่มีปัญหาหรอก 2. จังหวะจุดโทษ ยังไงก็ต้องหยุดเกมส์เช่นกัน เพราะบางประเทศ Walkout เสียเวลากว่านี้เยอะ แค่สองเรื่องนี้ ไม่เสียเวลาต่อเกมส์มากเพราะที่มันวิ่งเข้ามาล้อมกรรมการเสียเวลามากกว่า จริงๆ อเมริกันฟุตบอลก็ไม่ใช่ว่าตัดสินถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นต์ บางเพลย์ก็ Challenge ไม่ได้เช่น เตะฟิลด์โกล์ เข้าไม่เข้า ก็ขอกลับคำตัดสินไม่ได้ บางทีก็โยนธงมั่วก็มี   ปีนี้เลยเพิ่มกฎถ้า TD ไม่เคลียร์กรรมการจะดูเองทันที ไม่ต้อง Challenge ซึ่งมันก็คือ Review บางเกมส์ตัดสินผิดจนมีผลแพ้ชนะ หัวหน้าผู้ตัดสินก็ออกมาขอโทษ แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 54 14:43:33 จากคุณ : Bugtoi เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 13:31:12

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่เห็นด้วยครับ มันว่ามันเป็นเสน่ห์ของฟุตบอล ที่ต้องตัดสินทันที ถ้ามาต้องหยุดดูภาพช้า เกมคงขาดความต่อเนื่อง เหมือนกับเป็นการวัดใจผู้ตัดสินไปด้วย จากคุณ : iamaox เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 13:31:35

ความคิดเห็นที่ 14 จะต่างอะไรกับการดู อเมริกีนฟุตบอลละครับ จากคุณ : Achaki Oddy เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 13:40:10

ความคิดเห็นที่ 15 ผมเห็นด้วยนะ กับการนำเทคโนโลยีมาใช้ ในบางจังหวะ ยิ่งลูกล้ำหน้า จุดโทษ อะไรพวกนี้ เอามาใช้เหอะ เรายังไม่เคยใช้ อย่างเป็นจริงเป็นจัง จะบอกว่าไม่ดีคงไม่ได้ ลอง................ซะก่อน จากคุณ : punk_in_blood เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 13:48:24

ความคิดเห็นที่ 16 เอาแค่จังหวะเป็นประตู เช่น แฮนด์บอลมั๊ย ลำ้หน้าป่าว ก็พอ มันคงไม่ขาดเสน่ห์หรือเสียเวลาซักเท่าไหร่มั้ง วิ่งถอดเสื้อดีใจยังเสียเวลากว่า แต่เชื่อเถอะไม่มีทาง เหอะๆ จากคุณ : คุณคือ..ตัวจริง เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 13:52:37

ความคิดเห็นที่ 17 คห 3 ถ้าฟีฟ่าเปิดใจยอมรับจริง ทำไมจะไม่ได้ เทนนิส อย่าว่าแต่คนละรายการเลยครับ แม้แต่ในรายการเดียวกันอย่างแกรนด์สแลม ก็ไม่ได้ว่าทุกคอร์ตจะมีฮอว์คอายมีการขอชาลเลนจ์ทั้งหมด จะมีก็เฉพาะคอร์ตใหญ่ไม่กี่คอร์ตเท่านั้น ส่วนคอร์ตท้าย ๆ ก็ต้องใช้ตาคนตัดสินกันโดยไม่มีระบบชาลเลนจ์เหมือนเดิม นักเทนนิสก็ยังยอมรับกันได้เลย ดังนั้นถ้าจะใช้กับฟุตบอล แล้วบังคับเฉพาะรายการไป ส่วนรายการไหนไม่พร้อมจะไม่มีใช้ก็คงไม่เป็นปัญหา ถ้ายอมรับกันได้ จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 13:56:46

ความคิดเห็นที่ 18 พูดถึงเทนนิสนะ เทนนิสไม่ได้สักแต่ว่าให้ดูภาพช้า เค้ามีกฎด้วยว่า ในเซตนึงขอได้กี่ครั้ง ถ้านักกีฬาเห็นไม่ตรงกับผู้ตัดสินก็ขอดูภาพช้าได้ แต่ถ้าผู้ตัดสินเห็นผิดพลาด ก็ต้องเล่นลูกนั้นใหม่ แต่ถ้าผู้ตัดสินถูกแล้วนักกีฬาก็ถูกหักสิทธิ์ดูไป กีฬามันต่างกัน ส่วนทางฟุตบอลถ้าจะเอาภาพช้ามาช่วย ก็ต้องมีการปรับปรุงกฎและวิธีการแสดงภาพช้าไม่ให้เสียอรรถรส จากคุณ : penny_pea เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 14:23:01

ความคิดเห็นที่ 19 ผมไม่เห็นด้วยครับ ฟุตบอลเป็นเกมต่อเนื่อง ไม่ใช่เล่นแต้มต่อแต้มแบบเทนนิส ถ้าขอดูภาพ Replay กันก็เสียจังหวะกันพอดี จะกลายเป็นน่าเบื่อไป จากคุณ : sir keano เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 14:30:03

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่เห็นด้วยครับ เพิ่มไลน์แมน จากเดิม2เป็น4 หลังโกล์เพิ่มอีกฝั่งละ2คน รวมกรรมการในสนามอีก1คน รวมเป็น9คน ไปเลยครับ แต่ผมเห็นด้วยกับลูกข้ามเส้นประตูนะครับ ควรใช้กล้องหรืออุปกรณ์อิเล็คทรอนิคเป็นตัวตัดสิน โดยไม่มีการชาลเล้นจ์ มีแค่ผู้ตัดสินที่4 เป็นผู้ชี้ขาดกรณีนี้กรณีเดียวครับ ส่วนลูกล้ำหน้า ลูกแฮนด์บอล ลูกฟาวล์ ถ้ามีการชาลเล้นจ์ เกมส์น่าเบื่อแน่นอน พวกผจก.ทีมที่ชอบเน้นแทคติค จะใช้สิทธิ์ให้ครบเพื่อขัดจังหวะของเกมส์ครับ จากคุณ : mute เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 14:36:02

ความคิดเห็นที่ 21 ชาเล้นแค่ในเขตโทษก็พอ ทีมละ 1 ครั้งก็พอ ล้ำหน้าเพิ่มกรรมการดีกว่า ไลน์แมน 4 คนวิ่งไปโลดด จากคุณ : แข้งบวม เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 14:49:04

ความคิดเห็นที่ 22 ผมว่ามีจะดีกว่าครับ ยิ่งในบางประเทศที่ชอบจะทำร้ายผู้ตัดสิน ยิ่งต้องมี จากคุณ : Mr. Coffee เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 14:56:40

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่รู้ว่าจะต้องรอให้มีการฆ่ากันตายเพราะไม่พอใจผลการตัดสินกันก่อนรึเปล่าถึงจะเกิดการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย โลกไปถึง 3G 4G กันไปหมดแล้ว โลกแคบนิดเดียวแต่ฟุตบอลยังเป็นเกมที่ล้าสมัยอยู่ดี ถึงจะมีเสน่ห์ในแบบโบราณก็เถอะ ของทุกอย่างมีคุณมีโทษ เทคโนโลยีก็เช่นเดียวกัน ใช้ให้ถูกทางให้พอดี ๆ มันก็น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่าโทษนะ แล้วสนามถ้าเป็นการเตะอาชีพ แค่มีอินเตอร์เน็ทก็น่าจะทำได้อะไรหลายอย่างไม่ต้องลงทุนมากมายก็ได้ครับ สนับสนุนให้มีการใช้ภาพรีเพลย์ครับ แต่วิธีการต้องทำให้เหมาะสม และ เกมไม่หยุดชะงักครับ จากคุณ : mayerboss เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 15:09:22

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้ามี ห้องพันทิป คงต้องปิดแล้วมั่งง่ะ จากคุณ : ross reel เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 15:16:10

ความคิดเห็นที่ 25 คงจะแข่งคู่ละ 4 ชม เดียว หยุดดูๆ อยู่นั่น จากคุณ : thong765 เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 15:28:57

ความคิดเห็นที่ 26 อเมริกันฟุตบอล มันขอชาเล้นจ์ ได้แค่ ครึ่ง(2ควอเตอร์)ละ 1 ครั้งนี่ครับ ถ้าจำไม่ผิด  ไม่ใช่ขอดูได้ตลอดเวลา อีกอย่างอเมริกันฟุตบอล มีการกระจายเสียงชัดเจนจากกรรมการ ว่าใครทำผิดเพราะอะไร   แต่ฟุตบอลบางทีไม่บอกอะไรเลย บางทีไม่ชัวร์แต่เป่าจุดโทษ มันเซ็งนะ ลูกยิงเข้าเป่าล้ำหน้า  ก็มีให้เห็นกันบ่อยนะครับ ผมว่าหากเรายอมเสียเวลาอีกนิด ใส่ใจกับมัน  ก็จะได้เกมส์การแข่งขันที่สนุก และใสสะอาดกว่านี้นะครับ  จะได้หมดปัญหาแคลงใจกับผู้ตัดสินด้วย มีแต่สิ่งดีแบบนี้ มันไม่ดีกว่าเหรอครับ จากคุณ : punk_in_blood เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 17:12:55

ความคิดเห็นที่ 27 แฟนบอลยังปรับตัวไม่ได้ แนะนำให้ลองดูอเมริกันฟุตบอลครับ ผมก็ชอบทั้งสองกีฬาผมถึงได้เอามาเปรียบเทียบกันได้ว่าโปร่งใสมันดียังไง แต่แฟนบอลอาจจะไม่ชอบเพราะเกมมันไม่ต่อเนื่อง nfl เกมมันผลัดกันเป็นดาวน์ๆ แต่ฟุตบอลเกมมันลื่นไหล ลางเนื้อชอบลางยา ส่วนตัวผมก็อยากให้ฟุตบอลเป็นแบบนี้นี่แหละดีแล้ว ลื่นไหลดี ทีมไหนเสียผลประโยชน์ก็ออกมางอแงท้ายเกมเอา จากคุณ : แต๋วแหน่ว เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 17:18:04

ความคิดเห็นที่ 28 ต้องดูว่าจะนำมาใช้อย่างไรไม่ให้เสียเสน่ห์ของเกมฟุตบอลไป เช่นอาจจะปล่อยให้เล่นไปก่อน แล้วรอลูกตายค่อยมาดูกัน หรือให้จบเกมไปเลยแล้วยอมให้มีการเปลี่ยนแปลงผลได้ ถ้ารอให้ลูกตายแล้วให้ challenge ได้ แต่ละเกมทำได้กี่ครั้ง ถ้า Challenge แล้วผลเหมือนเดิม คนขอ challenge จะโดนลงโทษอะไร แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 54 18:36:55 จากคุณ : RadiS เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 18:35:31

ความคิดเห็นที่ 29 ให้ ผตส. ดูกล้องไว้ จังหวะไหนไม่ควรปล่อยก็ท้วง จังหวะไหนหยวนๆได้กรรมการหลักปล่อยก็ปล่อยดีกว่า จากคุณ : กิ่งกัลปพฤกษ์ เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 20:22:21

ความคิดเห็นที่ 30 คห 28 จบเกมมาเปลี่ยนผล คงเป็นไปไม่ได้ครับ เพราะบางครั้งบางจังหวะ การตัดสินที่แตกต่างกันนิดเดียว อาจทำให้เกมเปลี่ยนไปเลยก็ได้ อย่างเช่นกรณีของอังกฤษในบอลโลกครั้งที่ผ่านมา ใครจะไปรู้ว่าถ้าเกิดลูกยิงของแลมพาร์ดนับเป็นประตูทำให้อังกฤษขึ้นมาเสมอกับเยอรมันเป็น 2-2 เกมอาจจะไม่จบแบบนั้น อังกฤษอาจจะไม่ต้องโหมบุกหนักในครึ่งหลังจนหลังลอย แล้วโดนเยอรมันเล่นงานด้วยจังหวะโต้กลับจนได้ประตูอย่างประตูที่สามและสี่ก็เป็นได้ ถ้าจะมีการดูภาพรีเพลย์ให้ชาลเลนจ์ ต้องดูและตัดสินในตอนนั้นเลยครับ ความจริงถ้าจะเปรียบเทียบได้ดีที่สุด คงต้องเทียบกับรักบี้ครับ ซึ่งทุกวันนี้การแข่งขันรักบี้รายการใหญ่ ๆ จะต้องมี TV commissioner คอยดูภาพทางทีวีในกรณีที่ลูกวางทรัยลูกไหนไม่เคลียร์และกรรมการในสนามส่งสัญญาณขอดูภาพช้า แล้วส่งคำวินิจฉัยมาให้กรรมการในสนามอีกครั้ง ถ้าใครดูรักบี้ พอเกิดการชุลมุนในจังหวะวางทรัย แล้วเห็นกรรมการวาดมือเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า นั่นแหละคือการส่งสัญญาณขอดูภาพช้า แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 54 21:08:51 จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 21:08:05

ความคิดเห็นที่ 31 ไม่คิดมาก่อนแหะ ประเด็นเรื่องในหลายๆ ที่ หรือในเกมที่ไม่มีกล้องพวกนี้จะทำยังไง อย่าลืมว่ามีเกมอีกหลายระดับจากหลายพื้นที่ทั่วโลกที่ไม่มีปัญญาหาเงินมาซื้อกล้อง+อุปกรณ์พวกนี้แน่ๆ แต่ก่อนหน้านี้ที่คิดเหมือนกันก็คือ เกมจะหยุดบ่อยมาก อาจจะบ่อยมากจนขาดความต่อเนื่องและพาลน่ารำคาญไป แถมจะกินเวลานานกว่าตอนนี้ ครั้นถ้ากำหนด "จำนวนครั้ง" ในการขอดู จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามี "ลูกพลิกเกม" เกิดขึ้นหลังจากนั้น ก็เท่ากับว่ามัน fail อีกอยู่ดี จะว่าซวย ช่วยไม่ได้ มันก็เหมือนไม่ได้แก้อะไรอีกเหมือนกัน ถ้าจะมีการใช้กล้องทีว่านี้จริงๆ และตัดเรื่องความเท่าเทียมในเกมระดับต่างๆ (ที่ไม่มีเงินซื้อกล้อง) ออกไป ผมว่าก็ใช้เฉพาะกับลูกที่ต้องตัดสินว่า เป็น/ไม่เป็น ประตู (และจุดโทษ) ก็พอ ไม่งั้น ออกข้าง, เตะมุม, ทำฟาล์ว ใช้กันทุกครั้งสงสัยดูบอลทีปาไป 3-4 ชม.กันพอดี จากคุณ : art_sarawut เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 21:57:39

ความคิดเห็นที่ 32 ไม่เห็นด้วยเลยสักนิด ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการดูเทนนิส และอเมริกันเกมส์ทั้งหลาย น่าเบื่อ จากคุณ : G.T.S. เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 22:57:22

ความคิดเห็นที่ 33 ต้นทุนจริงๆมันก็ไม่ได้มากอะไรเลย ขึ้นอยู่กับการประยุกต์ใช้มากกว่า แค่มีกล้องดีๆแค่ไม่กี่ตัวก็นำมาใช้รีเพลย์ได้แล้ว ถ้ากลัวจะไม่ต่อเนื่องก็สั่งให้มีกรรมการดูกล้องโดยเฉพาะก็ได้ ขนาดยอมให้กรรมการที่ 4-5 ดูเส้นประตูได้  กรรมการดูด้วยกล้องอีกทีเพื่อความถูกต้องก็ไม่เห็นจะเสียหาย หรือเสียเวลามากมายเลย จากคุณ : 123 ปลาฉลามขึ้นบก เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 23:15:03

ความคิดเห็นที่ 34 ไม่เห็นด้วยให้มีครับ สมมุติแบบนี้นะครับ ทีมเอ ยิงบอลไปโดนคานแล้วเด้งลงพื่นแล้วเต้งออกมา เข้าไม่เข้าไม่รู้แต่กรรมการให้ไม่เข้า ลูกเด้งไปที่ศูนย์หน้าทีมบี ทำการโต้กลับทันที แล้วได้ประตู  แล้วเหตุการณ์แบบนี้จะตัดสินยังไง - ถ้าลูกที่ทีมเอยิงนั้นเข้า แล้วประตูที่ทีมบีโต้กลับไปนั้นได้ประตูหรือไม่ - จะให้หยุดเกมตอนไหน ในเมือลูกมันยังไม่ตาย ลูกตายก็ตอนที่ทีมบียิงเข้าไปแล้ว - จะหยุดเกมตอนที่ลูกเด้งพื้นแล้วเด้งออกมาเลยหรือไม่ จากคุณ : Mr.Moohpee เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 00:36:19

ความคิดเห็นที่ 35 มันจะไม่ต่อเนื่องยังไง สมมติกำหนดให้ดูได้แค่ 2 ครั้งต่อเกม จากคุณ : scozember เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 09:50:08

ความคิดเห็นที่ 36 พวกที่ไม่เห็นด้วยคือพวกที่รับความจริงไม่ได้ ชอบที่จะหาผลประโยชน์จากความคลุมเครือ ล้าหลัง และชอบคิดว่าเกมส์จะหมดสีสัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว อเมริกันเกมส์ทั้งหลายใช้เทคโนโลยีมาเพื่อป้องกันการตัดสินผิดพลาดและความเหลื่อมล้ำของแต่ละทีม ใช้กันมาอย่างช้านานและเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นเรื่อยๆ ผลที่ได้คือ การตัดสินที่ถูกต้อง แม่นยำ และลดข้อครหาได้มากมาย แถมยังทำให้เกมส์นั้นมีสีสันและไม่เห็นจะขาดอรรถรสแต่อย่างใด ดูอย่างบาสเกตบอสิ คนเล่นน้อยกว่า สนามเล็กกว่า แต่กรรมการเยอะกว่าฟุตบอล แถมยังมีการใช้กล้องช่วยตัดสินอีก ผมก็ยังเห็นว่าอรรถรสการชมเกมส์ก็ไม่ได้เสียอะไร ทำไมฟุตบอลถึงจะทำไม่ไ้ด้บ้าง หรืออยากให้ มีเหตุการณ์อย่างที่สเปอร์ไม่ได้ประตูจากแมนยูทั้งๆ ที่ฟุตบอลเข้าประตูไปเ็ป็นเมตรแล้ว จนทำให้แมนยูได้แชมป์ในซีซั่นนั้นไปอย่างมีมนทิน เิกิดขึ้นอีกครับ จากคุณ : Vincent Vega เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 09:52:08

ความคิดเห็นที่ 37 ผมกลับมองว่า การตัดสินที่ผู้ชมรู้สึกเคลือบแคลงสงสัย กลับทำให้เสียอรร๔รสในการชม มากกว่า ทั้งเกมจะหยุดครั้งละ 1-2 นาที ไม่เกิน 2 ครั้งเพื่อความยุติธรรมครับ จากคุณ : คนชอบฟัง เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 11:18:59

ความคิดเห็นที่ 38 คห.34...........ไม่ยากเลยครับ อเมริกันฟุตบอล เกมส์ๆหนึ่ง เกิดขึ้นไม่เกิน 1-2 ครั้งสำหรับการ ชาเล้นจ์ ก็เพราะมันขอได้แค่นั้น   ก็ตั้งกฎให้โค้ช ขอชาเล้นได้ 1 ครั้งต่อเกมส์ หากเป็นฟุตบอล จังหวะขอเหล่านั้นก็ต้องเป็น ใบแดง.......จุดโทษ.......ล้ำหน้า.........ลูกบนเส้นประตู หากเกิดตามกรณีที่คุณบอก **กรรมการไม่เป่า จังหวะบอลโดนคานเด้งลงพื้นออกมา แล้วโดนทีมบีลากไปยิง** ก็กรรมการไม่เป่า  ก็ไม่ต้องหยุดสิครับ  บอลตายก็ขอชาเล้นจ์ได้ ตั้งกฎไปสิครับ ว่าขอชาเล้นจ์ได้ภายในกี่ 30 วินาที - 1 นาทีก็ว่าไป เกินกว่านั้นก็เสียประโยชน์ไป และถ้าเกิดกลับคำตัดสิน ต้องกระจายออกเสียงทั้งสนามว่า กลับคำเพราะอะไร ใครทำผิด   จะได้จบปัญหาครับ   ปล.***ผมควรคิดว่ากรรมการควรมีไมค์กระจายเสียง ในสนามนานแล้วนะครับ บางเหนคนล้ม เป่านกหวีด  พออีกทีมประท้วงก็ส่ายหน้า  - -* แฟนบอลงงนะครับ ---------------------------------------------------------------- ข้อดี กฏเหล่านี้ มีไว้ซึ่งปกป้องทีมเล็กๆ เวลาเจอกับทีมใหญ่ๆได้ด้วย คือ จุดโทษเสียบ่อยมาก ***การอ้างว่าสเหน์ของฟุตบอล มันใช้ไม่ได้ เพราะเรายังไม่ได้ลองแบบนี้เลยนะครับ*** ขอแค่ลองดูซักนิด ไม่เวิร์ก ช้า อึดอัดก็กลับไปใช้รูปแบบเดิมได้  ไม่เสียหายอะไร แต่ที่เสียหายคือถ้าไม่ทำอะไรเลย ลูกแบบ สเปอร์ แมนยู ............เชลซ๊ ลิเวอพูล ก็จะเถียงกันไม่จบสิ้นครับ ปัญหาไม่ใช่การเถียงกัน แต่บางครั้งมันตัดสินแชมป์ ได้ สำหรับแต้มเพียง 1 คะแนน หวังว่าจะเปิดใจให้เห็นถึงจุดดี แม้ Fifa มันไม่ทำ ก็แค่เปิดรับไอเดียเข้าสู่พวกคุณก็ยังดีครับ จากคุณ : punk_in_blood เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 15:44:05