ความคิดเห็นที่ 1 คือผมเข้าใจว่าดัลกลิชซึมซับแนทางการทำทีมมาจาก Boothroom staff แม้จะไม่ได้โดยตรงแต่จากการที่ร่วมงานในฐานะนักเตะก็ได้เรียนรู้มา ดังนั้นจึงต้องการทำให้ทีมลิเวอร์พูลกลับไปแนวทางยุคนั้น การซื้อขายนักเตะจึงได้ขัดหูขัดตาแฟนบอลพอสมควร ซึ่งก็ไม่รู้ว่าแนวทางการทีมแบบนั้นจะเข้ากับยุคสมัยทีมบอลสมัยนี้รึเปล่าเท่านั้นครับ เลยอยากมาตั้งกระทู้ถามความเห็นแฟนบอลหลาย ๆ ท่านดู ต้องขออภัยถ้าไปก้าวล่วงความรู้สึกแฟนบอลบางท่านด้วยครับ จากคุณ : เจ้าของกระทู้ครับ (mayerboss) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 13:58:41

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าฮอดจ์สันมีงบซัก 100 ล้านปอนด์ ผมว่าทำได้ดีกว่าัดัลกลิชอีก ^^ จากคุณ : คนห้วยขวาง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 14:06:25

ความคิดเห็นที่ 3 ถกไม่เป็นครับ แต่ชอบใจ ในมุมมองดีๆของแฟนบอลคู่อริกัน ^^ จากคุณ : jsan_ya เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 14:25:30

ความคิดเห็นที่ 4 ในฐานะแฟนหงส์แดงมากว่า 30 ปีอย่างผม ขอชมเชยว่าเจ้าของกระทู้เขียนได้ดีมาก (หรือิในใจก็แอบชอบหงส์อยู่ 555) เห็นด้วยทุกประการ ผมมองว่าคิงเคนนี่ พยายามดึงสปริตของทีมกลับมา แต่ปัญหา คือ วิธีการนี้มันจะได้ผลในระยะเวลาอันสั้นหรือเปล่า? ลิเวอร์พูลวันนี้มีแต่ ความขยัน แต่ขาดเทคติคบางอย่าง ขาดนักเตะที่มีพรสวรรค์ที่จะพลิกเกม เปลี่ยนเกม เหมือนที่ทีมอื่นๆ มี มาต้า ซิลบา นานี่ ... แล้วลิเวอร์พูลมีใคร? ผมว่า ปัญหาที่เราบ่นๆ กันคิงเคนนี่ก็รู้ แต่มันยังแก้ไขในระยะเวลาอันสั้นไม่ได้ ขอให้อดทนรอนะครับ ไหนๆ ก็รอมามากกว่ายี่สิบปีแล้ว ... ไม่มีใครหรอกครับ ที่จะรักลิวเอร์พูล มากไปกว่า "คิง" เคนนี่ เดลกลิช ... จากคุณ : Oh God เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 14:26:16

ความคิดเห็นที่ 5 ผมเกิดไม่ทัน ยุคเรดเมชชีนอะไรนั่น   แต่ทันยุค เชร์ราด อุลลิเยร์ กับ ยุคราฟา  ไม่รู้ทำไมผมว่ายุคราฟา ลิเวอร์พลูเล่นได้ดุน่ากลัว ดูเป็นทีมระดับยุโรปมากกว่านะ เวลาแดงเดือดทีไรกลัวจนใจเต้นเหมือนไปเตะเอง จากคุณ : dobitaT10 เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 14:32:28

ความคิดเห็นที่ 6 #4 เห็นด้วยเลยครับ ไม่มีใครหรอกครับที่จะรักลิเวอร์พูลไปมากกว่าเคนนี่ ดัลกลิช ถ้าคุณได้ดูแววตาของเค้านะครับ ผมว่าเค้าก้เสียใจเหมือนกับเราแหละครับ ผิดหวังเหมือนกับเราเด๊ะ แต่คุณไม่มีทางรู้เลยว่าเค้าเสียใจมากแค่ไหน จขกท. น่ารักมากครับ วิเคราะห์ได้ดี มุมนั้น ถ้าถามผม ผมไม่สนใจนะครับว่าจะเป็นแบบไหน จะเป็น uk หรือไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร ขอให้ทุกคนที่สวมเสื้อแดงเพลิง สวมเสื้อที่มีตราสโมสรอยู่ เล่นด้วยใจ รักสโมสร ทุ่มเท ให้ใจกับแฟนบอล ถึงไปอยู่ดิวิชั่น 4 ผมก็จะใส่เสื้อลิเวอร์พูลเตะบอล เดินตามถนนเหมือนเดิม จากคุณ : ตอนคุณมองตะวัน ผมมองเจอแต่จัน เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 14:35:41

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าดูทรงบอล ของคิงเคนนี่ ปัจจุบัน ผมก็คิดว่า เค้าพยายามใช้แบบระบบเก่า ย้อนยุค 80 แต่ด้วยความที่ในโลกปัจจุบัน โลกหมุนเร็วมาก และจะถ่ายโอนนักเตะเก่า ออก ก็ต้องพยายามบริหารจัดการ ให้รัดกุม เพราะอย่าลืมว่า ขี้หมูขี้หมา ก็ต้องให้ติดท๊อปโฟร์ไว้ก่อน เพราะมีรายได้ตรงนั้น เชิญชวน จึงอาจกดดัน คาดหวังสูง มาก สำหรับปีนี้ หงส์แดง ได้ที่เท่าไหร่ ผมก็พอใจครับ เพราะเป็นปีแรก ที่คิงเคนนี่ บริหารเต็มตัว เมื่อดูในปัจจุบัน ในมุมมองผม 1.ทรงบอล ดูดีขึ้นนิดหน่อย 2.การรับส่งบอล เท้าสู่เท้า ดีขึ้น 3.การเซ็ตบอล จากหลังขึ้นหน้า ก็ดีขึ้น 4.การสร้างโอกาส ในการเข้าทำ มีมากข้อนี้ แต่ในวงเล็บ ผมว่ายังไม่หลากหลาย 5.การทำประตู จัดว่า ห่วยขึ้นเทพ เพราะ กลางสู่หน้า ยังจัดทำกันไม่เนียบพอ 6.หรือเพราะขาดบักเจิด แถวสอง จึงไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ เท่าไหร่ 7. ฯลฯ ถ้าเทียบกับ ผีแดง หรือ ปืนใหญ่ ผมก็ยังมองว่า ห่างกันครับ ผีแดง ป๋าแพนด้า สร้างทีมมาร่วม 20 ปี วางระบบ จนเป็นทีม นำใครลงเล่น ทีมก็ยังแพ้ยากจริง ๆ ยกเว้นวันดวงแตก เปิดดูผีแดง เล่น สไตล์บุก ๆ ๆ มันก็เหมือนกับหงส์แดง ยุค 80 นั่นแหละ เพราะระบบลงตัว ผู้เล่นลงไปเล่นได้ ยิงสกอร์ได้ จบเลยครับ แชมป์เห็น ๆ ๆ เปิดดูหงส์แดง เล่น สไตล์บุก เหมือนกัน แต่ไม่หลากหลาย การเข้าทำเทียบจังหวะกับผีแดง ผมก็ยังมองว่า ผีแดง น่ากลัว กว่า เพราะหงส์แดง เป็นจังหวะฉาบฉวย ส่วนใหญ่ แต่สุดท้าย ผีแดง เล่นกับ หงส์แดง ก็ชนะยากเหมือนกัน ไม่รู้เป็นไร   เอาเป็นว่า หงส์แดง เล่นอย่างทุกวันนี้ ดีขึ้น ขอกลางตัวรับ กับ หน้าต่ำ ตัวจ่ายบอลเนียน ๆ รับรอง กองหน้ายิงได้ แล้วมาดูกันอีกที ว่า มาตราฐานสู้ผีแดง ได้แน่ แต่ตอนนี้ ต้องหัดตบเด็ก ให้ได้ก่อน หรือ เพราะกลัวบาป ก็ไม่รู้ เลยต้องเชียร์ ฉี่เหลือง ทุกนัด ฮ่า ๆ จากคุณ : กัปตันหงส์แดง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 14:37:47

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่มีคำตอบให้ จขกท. มีแต่คำชมเชยครับ เชียร์คนละทีม แต่ก็แลกเปลี่ยนทัศนะกันดี ๆ ได้ ดีกว่ากระทู้แขวะ กระทู้ด่าไร้สาระ ที่เกลื่อนบอร์ดช่วงนี้เยอะเลย จากคุณ : .พูดอีกก็ถูกอีก. เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 14:39:10

ความคิดเห็นที่ 9 ขอเสริมความเห็น 4 นิดนึง ผมว่าตอนนี้สิ่งที่เราไม่มีคือบารมีครับ เราต้องเล่นให้ทีมอื่นกลัวเรา ไม่ใช่เจอเราแล้วเล่นเข้าใส่แบบนี้ ซึ่งบารมีก็เกิดมาจากความสำเร็จนั่นแหละครับ นักเตะคนเดียวกัน เวลาจะแย่งบอลทีมอย่างลิเวอร์พูล หรือทีมอย่างแมนยู ยังวิ่งเข้าใส่ไม่เหมือนกันเลย แมนยู มีบารมีในเรื่องนี้มาก เพราะฉะนั้นไม่แปลกเลยที่จะเห็นแมนยูตบเด็กเป็นว่าเล่น เพราะแมนยู ทำให้พวกนั้นกลัวได้ไงครับ กลัวในแท็คติค กลัวในระบบทีมของแมนยู แต่พอนักเตะคนเดียวกัน เจอลิเวอร์พูล เค้าจะรู้สึกว่า ไม่เห็นต้องกลัวอะไร ใส่อย่างเดียวประกอบกับ ลิเวอร์พูล ยังไม่ใช่ทีมที่ดีเท่ากับแมนยูด้วยแล้ว ก็อย่างที่เห็นครับ เราจะเห็นนักเตะอย่าง ฟูแล่ม แบล็คเบิร์น วีแกน วิ่งกันลืมตาย บางทีสงสัยเหลือเกินว่า ทำไมมันต่อบอลกันดี เก่งกันจังวะ ก็แบบนั้นแหละ ขออภัยที่ยกตัวอย่างแมนยู เพราะว่า 1. จขกท เชียร์แมนยู 2. เทียบได้ง่ายที่สุดครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : ตอนคุณมองตะวัน ผมมองเจอแต่จัน เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 14:41:44

ความคิดเห็นที่ 10 กระทู้ดีมีสาระ หวังว่าคงไม่มีพวก .... มาร่วมแจมนะ ^^ จากคุณ : THE EVE เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 14:51:34

ความคิดเห็นที่ 11 ปีนี้ที่เห็นว่าดีจริงๆ ก็คงเป็นจำนวนประตูที่เสีย และที่เห็นว่า แย่จริงๆ ก็คือ จำนวนประตูที่ได้นั่นแหล่ะครับ จากคุณ : ebonydevil เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 14:55:35

ความคิดเห็นที่ 12 อยากบอกว่ารอกระทู้แบบนี้มาทั้งวันเลยครับ กิ๊ฟจะหมดเพราะกระทู้นี้แหละ :P จขกท.เข้าใจความเป็นลิเวอร์พูลได้ดีมากๆเลย ผมเองเป็นแฟนลิเวอร์พูลยุคป๋าเย่ร์ สนับสนุนโค้ชทุกคนครับ ในวันที่ป๋าเย่ร์เอาแต่โยนโหม่ง เอลบอสโรเตชั่นมึนๆ หรือตอนนี้ที่เคนนี่บุกยังไงก็ยิงไม่เข้า ผมเห็นด้วยกับแนวทางที่เคนนี่กำลังพยายามทำอยู่นะ แม้วันนี้จะยังไม่เห็นผล ส่วนตัวเชื่อว่าหากเปลี่ยนจากราฟามาเป็นดัลกลิชเลยทีมคงต่อเนื่องกว่านี้ (แต่ผมก็ไม่อยากให้ราฟาออกหรอกนะ) จะยังไงก็ตาม ผมชอบแนวทางที่ดัลกลิชทำอยู่ตอนนี้ครับ อย่างที่#4ว่า ลิเวอร์พูลขาดนักเตะพรสวรรค์ที่จะพลิกเกมจริงๆ เรื่องสปิริตและแรงกระหายมันเต็มจนล้นแล้ว เลยเกร็งกันหมด 55+ จากคุณ : "ตื่นมาก็คิดถึง" เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:01:57

ความคิดเห็นที่ 13 #2 เพราะอะไรหรือครับ...??? ผมอยากรับทราบความเห็นจากท่าน ตอบ จขกท. ผมมองว่า "ทุมทีม" มองเรื่อง "สปิริท" เป็นเรื่องสำคัญไม่ว่าทีมเงินหนา เงินน้อย ทีมเงินหนา ทักษาและความสามารถของนักเตะเป็นตัวแปรที่ในโอกาสที่จูนเรื่องสปิริท แต่ทีมก็ยังสามารถเอาตัวรอดได้ จนถึงกระทั่งได้ชัย...สามแต้ม ส่วนทีมเงินน้อย...ผมว่าแฟนบอลเข้าใจ และพร้อมสนับสนุน เพราะสังคมตะวันตก การใช้กีฬา เป็นกิจกรรมของครอบครัวอย่างหนึ่ง นอกเหนือจากการเข้าโบสถ์ ความสำเร็จ มันไม่ได้มาง่าย ๆ ถ้าแฟนบอลเข้าใจว่า "เวลา" มันเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าสโมสร ให้โอกาสกับ เคดี เพียงพอ ผมมองว่าระบบมันสร้างกันได้ เพราะจุดเริ่มต้นมันคือศรัทธา...ในกรณีที่คนจะสื่อศรัทธา น่าเชื่อถือ กรณี ซูเนส ชื่อชั้นความเป็นนักเตะสมบูรณ์ด้วยประการทั้งปวง แต่เข้ามาสั่นศรัทธาในช่วงเวลาที่คุมทีมลิเวอร์พูล...ผมมองว่า เริ่มเป็นยุคแห่งการโรเตชั่นก็ว่าได้ นักเตะถูกเลือกตามความพอใจมากกว่าการเชื่อมโยงข้อมูลจากสมรรถนะส่วนอื่น ๆ เป็นผลจากการที่ใช้กับทีมที่ตัวเองเคยคุม ซึ่งตัวแปรของคำว่า "แข็งแกร่ง" น้อยเกินไป ส่วนรอย ฮอดจ์สัน ผ่านร้อนผ่านหนาวมามกมาย แต่ไม่ได้รับเกียรติประวัติอะไรที่สร้างความกระจ่างก่อนเข้ามาสู่ทีม มีแต่คำถามว่าเค้าคือใคร ผมก็ยังมองว่าถ้าให้เวลาเคดี และเราไม่เร่งความอยากมากไป...อะไร ๆ มันก็มาเอง จากคุณ : archparty เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:03:36

ความคิดเห็นที่ 14 ขอชมจขกท.อีกคน แม้จะเชียร์คนละทีมแต่ก็วางตัวได้ดีเหลือเกิน ไม่เหมือนพวกเกรียนบางคน วันๆเอาแต่แขวะคนอื่นเหมือนเด็กๆไม่รู้จักโต ขอบคุณสำหรับเนื้อหาดีๆที่เขียนมาให้อ่านนะครับ เขียนได้ดีทีเดียว จากคุณ : คอบอล เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:06:00

ความคิดเห็นที่ 15 เข้ามาขอบคุณ จขกท และความเห็นอื่นๆ ครับ นานแล้วที่ไม่ได้เห็นกระทู้สร้างสรรค์ โหวตให้เป็นกระทู้ตัวอย่างเลยจ้า ------------ เห็นด้วยกับ จขกท ครับ.. ปล. เป็นแฟนอาเซนอลนะครับ แต่อยากให้คุมลิเวอร์พูลนานๆ แห่ะ จากคุณ : ในความมืดมิดยังมีแสงสว่างอยู่ (toschatz) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:08:06

ความคิดเห็นที่ 16 เรื่องทรงบอลลิเวอร์พูลผมขอผ่านนะ ไม่อยากฉายซ้ำ แต่สิ่งนึงที่อยากจะบอกคือ แนวคิดทุกแนวคิดไม่มีผิดถูกในทางปรัชญาฟุตบอล เพียงแต่คุณสามารถทำมันออกมาได้ไหม? เหมือนคุณอยากรับส่งบอลเท้าสู่เท้า แม่นๆแบบบาร์ซ่า คุณจะทำยังไงละ คิดมันคิดได้แต่วิธีการไปถึงตรงนั้นก็ต้องค้นคว้า สมัยที่แกคุมแบล๊คเบิร์นได้แชมป์เนี่ย ปัจจัยส่วนนึงที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือเงินครับ สิ่งที่ทำให้ยูไนเต็ดมาจนถึงทุกวันนี้ได้ คือ การผ่านบอลครับ ถ้ามองแบบไม่อคติหรือมัวแต่มองว่าผู้เล่นยูไนเต็ดเกรดบี จะเห็นได้ว่ามาตรฐานการผ่านบอลพลาดง่ายๆเกิดขึ้นน้อยมากๆ ยิ่งยุคเฟอร์กี้ เบ๊บส์ เนี่ย เรียกว่าหาขนมหกได้น้อยมากๆ จึงทำให้เกิดการขึงและบุกกต่อเนื่อง การครอสบอลใส่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า คู่แข่งแทบหาโอกสบุกคืนได้น้อย ที่พูดถึงนี่คือส่วนมากนะครับไม่ได้บอกว่าทั้งหมด จะมียุคนี้ที่ผมมองว่าข้อผิดพลาดในบอลสุดท้ายยังเยอะอยู่มาตรฐานการผ่านบอลยังไม่เที่ยงเท่าไหร่ เห็นมีพูดถึงบารมี ขอแถมนิดนึง ตรงนั้นกลับยิ่งทำให้เล่นลำบากยิ่งคุณเป็นแชมป์เปี้ยน ผมเองเคยนึกน้อยใจทีมเล็กๆด้วยซ้ำพอเจอแมนยู รับลึกหน้าเขตโทษ9-10คน พอไปแข่งกับทีมอื่นทำไมดันสูงจัง แต่สิ่งที่ทำให้พวกผ่านมาได้คือเกมที่ต่อเนื่อง จะสังเกตได้ว่าบางทีมาเป็นชุด ได้ประตูฝังไปเลยแบบนี้ คู่แข่งก็ไม่กล้าดันมามาก เพราะบอลจังหวะ2จังหวะ ถึงหน้าประตูพร้อมจบแล้ว จากคุณ : กระบี่เก้าสําเนียง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:10:13

ความคิดเห็นที่ 17 การมาของ เบลลามี่ ผมคิดว่า คิงเคนนี่ คงยังหากองหน้าแบบที่ตัวเองชอบไม่เจอครับ ตอนอยู่แบล็คเบิร์นคิดไม่ออก ก็บอกเชียรเรอร์ ตอนนี้มองไปก็เลือกไม่ถูกแหละครับ คนโน้นก็ยังไม่ไหว คนนี้ก็ยังไม่พอ รอดูการเสริมกำลังช่องเดือนหน้านี่หละครับ ว่าจะยังไง จากคุณ : แข้งบวม เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:10:52

ความคิดเห็นที่ 18 ขอชม จขกท.ร่ายยาวได้เจ๋งมากเลยครับ   ผมก็เชียร์มานาน   น่าจะพอๆกัน  อิอิ แต่ไม่ค่อยจดจำมากเท่าไร   เลยไม่มีอะไรจะถก ดูทีมรักเล่นแต่ละนัดแล้วเหนื่อยกว่านักเตะเสียอีก  5555 ขอลุ้น  มกราคมนี้  จะมีอะไรดีๆมาพลิกสถานการณ์ได้บ้าง . จากคุณ : samr เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:12:43

ความคิดเห็นที่ 19 กระทู้ดีเพราะความคิดดีๆของเจ้าของกระทู้ ^^ จากคุณ : bozopop เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:54:46

ความคิดเห็นที่ 20 ผมดูทรงบอลแล้ว ดูดีนะครับหงส์ชุดนี้ เกมรุกส่งบอลทำได้ดี แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คมเท่านั้นเอง แดนกลางหากเจิดกับลูคัสฟิตลงเล่นพร้อมๆกันได้เมื่อไหร่ทีมจะลงตัวกว่านี้อีกเยอะครับ ที่ต้องเสิรมก็ผู้เล่นริมเส้นจี๊ดๆอีกซักตัว กองหน้าคมๆอีกซักคนก็พอแล้ว ยังไงผมว่าคิงเคนนี่ก็เหมาะสมแล้วที่จะได้คุมทีมต่อไป อย่างน้อยๆก็จนครบสัญญา 3ปี เพราะเขาสามารถทำให้ความรู้สึกว่านี่แหละคือทีมลิเวอร์พูล กลับมาสู่ใจของแฟนบอลได้อีกครั้ง หลังจากที่มันหายไปในช่วงยุคท้ายๆของราฟา+ยุคฮอดจ์สัน ที่เหมือนไม่ใช่ลิเวอร์พูล เชียร์ไม่ได้อารมณ์เลย แม้แต่ยุคของเชราร์ อุลลิเยร์ หรือต่อให้เป็นซีซั่นที่พีคที่สุดของราฟา ก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณของลิเวอร์พูลได้เหมือนอย่างกับทีมของคิงเคนนี่เลยในความรู้สึกผม (ไม่รู้คิดไปเองคนเดียวรึเปล่านะ) ถ้าเทียบกับแมนยู ก็เหมือนแมนยูของเฟอร์กี้ล่ะครับ สมมติอีกหน่อยเ้ฟอร์กี้เลิกคุมทีม แล้วโค้ชใหม่เข้ามาทำทีมต่อ ต่อให้ทำผลงานได้ดีแค่ไหน แต่จิตวิญญาณและความรู้สึกในความเป็นแมนยูนั้น ผมว่าในระยะเวลาอันสั้นนั้นคงยากมากที่จะทำให้แฟนๆรู้สึกเข้าถึงเหมือนกับสมัยที่เฟอร์กี้คุมทีม แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 16:06:31 จากคุณ : ซาโนสุเกะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:59:27

ความคิดเห็นที่ 21 จขกท. มาเชียร์หงส์ไหมครับ 5555 แฟนหงส์ก็ตอบไปอย่างกระทู้ข้างบนหมดแล้วล่ะครับ ถ้าผมจะเพิ่มก็ ตอนนี้ที่ต้องการ คือ เวลาครับ KD ต้องการแค่เวลา เพราะอย่างอื่นน่าจะมีหมดแล้ว ขอเวลา หมัก บ่ม เพาะ ถอด เสริม ให้ทีมลงตัว แฟนบอลอย่างผมก็เชียร์ไป บ่นไป เราเห็นอะไรเป็นสิ่งต้องแก้ แล้ว KD จะไม่เห็นเชียวเหรอ โอ้เย่ ตอนนี้ อยากเจอผีแดงเร็วๆครับ จะได้หยุดฟอร์มบู่ เล่นกะทีมเล็กมันจะแพ้ซะตลอดเลย 555 จากคุณ : สปิริท เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 16:04:49

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นแต่แฟนแมนยูเกรียนๆมาตั้งกระทู้ พอได้เจอ จขกท รู้สึกดีที่มีแฟนแมนยูดีๆมีสาระ หลงเหลืออยู่ เอาไป 1 กีฟ ครับ จากคุณ : NumFai เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 16:25:20

ความคิดเห็นที่ 23 ผมคิดว่าแนวทางการทำทีมของเคคนี่ไม่ล้าสมัยหรอกครับ ยังคงใช้ได้กับฟุตบอลสมัยนี้ เพียงแต่ว่าผู้เล่น 11 คนแรก ชุดปัจจุบันนี้ บางตำแหน่งยังดีไม่พอ (ซึ่งก็พอจะมองออกว่าใครบ้าง) จขกท. ลำดับเหตุการณ์และวิเคราะห์ได้ดี ถ้าไม่บอกว่าเป็นแฟนผี ผมคงคิดว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ลิเวอร์พูลนะะนี่ยะ จากคุณ : หงส์สยายปีก เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 16:27:37

ความคิดเห็นที่ 24 ผมแฟนหงส์  คิดว่า จขกท คิดถูกแล้วครับ สิ่งที่ KD ต้องการก่อนเลยคือทีมสปิริต ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอยู่ในนักเตะสหราชอาณาจักรมากกว่านักเตะต่างชาติ จะเห็นว่า หากเป็นนักเตะต่างชาติที่มีทั้งฝีมือฝีเท้าและมีทีมสปิริตดีด้วยอย่าง เปเป้เรน่า หลุยส์ซัวเรส   KD ก็ไม่ได้ปิดกั้นโอกาสลงสนาม ส่วนบางคนที่หาว่า KD ตกยุค  ผมเถียงสุดใจ sir alex เองอายุก็มากกว่าKD คุมทีมก็คุมมาตั้งแต่สมัยKDเป็นนักเตะ ไม่ยักจะมีใครว่าตกยุค   แชมป์แรกของเซอร์ยังต้องรอถึงหกปี ผมว่า "หากว่าความสำเร็จใดไม่ต้องใช้เวลา  มันก็เป็นเพียงความสำเร็จที่ไม่ยั่งยืน" สิ่่งที่เกิดกับลิเวอร์พูล ตอนนี้ มันก็เหมือน เชลซี ช่วงที่รานิเอรี่ชอปปิ้งนักเตะอังกฤษหลายคนในยุคเริ่มต้นของอาณาจักรโรมัน ก่อนที่มูรินโญ่จะได้มาสร้างชื่อ ไม่ต่างจาก ยุคเริ่มต้นของแขก(แมนซิ)ตี้ ที่จัดหนักนักเตะอังกฤษทีมรองๆลงมา ด้วยราคาแพงเกินฝีเท้า(เพราะนักเตะอังกฤษที่เก่งสุดๆก็อยู่กับทีมใหญ่อื่นหมดแล้ว) เชลซี รานิเอรี่ ชอป(2ปี)  มูริญโญ่ใช้(1ปี)  กว่าจะประสบความสำเร็จจริงจังก็ปีที่สาม แมนซิตี้ ฮิวจ์ ชอป(1ปี) มันชินี่ใช้ (ปีที่สอง)  ล่วงเข้าปีที่สามถึงเริ่มดูจะประสบความสำเร็จ ลิเวอร์พูล  ของ KD ชอปปีแรก ปีที่สองใช้   ผมว่าปีหน้า(ปีที่สาม) ถึงจะสามารถมองความสำเร็จอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้ แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 22:37:37 จากคุณ : picassoinhell เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 16:32:55

ความคิดเห็นที่ 25 ผมขอพูดถึงทีมที่ตัวเองเชียร์ครับ ผมดูแมนยูเล่นหลายๆนัด ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่า ผมมองว่า แมนยู ก็ไม่ค่อยมีอะไรหลากหลายเท่าไรเลยครับ ปีกสองข้างได้บอล ครอสเข้ากลางเพื่อยิงประตู ส่วนมากผมก็เห็นอยู่แค่เนี้ยอ่ะครับ การต่อบอลกันสวยๆ แล้วเจาะตรงกลาง ไม่ค่อยมีให้เห็นเลย หรือผมคิดไปเองคนเดียว ก็ขอโทษด้วยครับ จากคุณ : CutTy-Flam เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 17:01:33

ความคิดเห็นที่ 26 กระทู้ดี น่าชื่นใจที่คนดูบอลรักกันแลกเปลี่ยนความเห็นกัน ผมก็แฟนผีแต่ยังเอาใจช่วยและมองดูอยู่ว่า เฮ้ยมันจะกลับมาเมื่อไหร่วะ คล้ายๆเพื่อนที่เคยเตะบอลด้วยกันแต่อยู่กันคนละทีม จากคุณ : bingos เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 17:02:55

ความคิดเห็นที่ 27 กลัวแต่ว่ามันจะใช้กับฟุตบอลปัจจุบันได้ดีมั้ยหละครับ จากคุณ : pinestand เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 17:05:56

ความคิดเห็นที่ 28 ผมชอบระบบทีมปลายฤดูกาลที่เเล้วจังเลยครับ ตอนที่นักเตะเจ็บทั้งทีม ต้องดันดาวรุ่งลงเล่น พวกโรบินสัน เคลลี่ ฟลานาเเกน สเปียริ่ง ระบบให้เเล้วไป วิ่งสู้ฟัดกันทุกตัว เล่นได้น่าเชียร์มากๆ จากคุณ : ปลายธันวา เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 17:22:32

ความคิดเห็นที่ 29 ผมก็ว่าเวลาเป็นสิ่งสำคัญครับ ยังไงก็ต้องให้เวลาเคนนี่ในการสร้างทีมต่อไปอีกหน่อย เคนนี่เพิ่งผ่านตลาดนักเตะแค่ 2 รอบเอง แต่ทรงบอลดูดีขึ้นเยอะนะครับ ตอนนี้ขอแค่ความเฉียบคม เด็ดขาดอีกนิด จากคุณ : แกงไก่หมูทอด เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 17:31:55

ความคิดเห็นที่ 30 ให้เวลาและโอกาสอีกนิด เพิ่มความแน่นอน ความเฉียบคม   หวังว่าทีมนี้จะกลับมาครับ ขอบคุณเจ้าของกระทู้สำหรับกระทู้ดีๆ ครับ จากคุณ : แง่บแง่บ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 17:38:40

ความคิดเห็นที่ 31 เจ้าของกระทู้ครับ ขอบคุณสำหรับคำชมหลาย ๆ ท่าน จริง ๆ ผมเชื่อว่าแฟนบอลปีศาจแดงรุ่นผมส่วนใหญ่ก็ชอบดูหงส์แดงในยุคนั้นเล่นกันทั้งนั้นแหละครับ เพราะเล่นสวยงาม ดุดัน เป็นระบบ แล้วกองหน้าก็คมมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นเอียน รัช หรือ จอห์น อัลดริจ แล้วตัวจ่ายที่พลิกเกมได้สุดยอดอย่าง ปีเตอร์ เบียร์ดลีย์(ที่ผมยังงงในทุกวันนี้ว่า แกรม ซูเนสส์แกตาถั่วรึเปล่าที่โละแกออกจากทีมไปให้เอฟเวอร์ตัน) ปีกจอมพริ้วอย่างจอห์น บาร์น ฯลฯ ชุดที่ใกล้เคียงกับเร้ด แมชชีน ในอดีตผมให้ ลิเวอร์พูลยุค รอย อีแวนส์ ยุคสไปค์ บอยนี่แหละครับ เล่นได้เนียนตาดี แต่กองกลางกองหลังขาดลูกหนัก ลูกเด็ดขาด ทำให้เสียประตูง่าย ๆ เยอะเกินไป ทั้งที่ยิงประตูได้เยอะ บอลยุคอุลลิเยร์ หรือ ราฟา อาจมีความสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันมากว่าแต่รูปแบบการเล่นมันเป็นแนวอื่นที่ไม่ใช่เร้ด แมชชีนครับ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมขำในใจตลอดมาคือเมื่อก่อนตอนหงส์แดงเป็นแชมป์ลีก ปีศาจแดงก็เป็นทีมของแสลงของหงส์แดง เจอทีมรองบ่อนมักเล่นไม่ดี แต่พอเจอหงส์แดงใส่ลืมตายตลอด พอมาเดี่ยวนี้ปีศาจแดงก็เจอหงส์ทีไร เหมือนหงส์จะเล่นดีกว่าปกติเกือบทุกครั้งไปเช่นกัน เรื่องก็คือที่ผมต้องการสื่อคือ อยากลองให้แฟนหงส์ลองฟังมุมมองของแฟนบอลคู่แข่งดูบ้าง เผื่อจะแปรความผิดหวังเป็นพลังขึ้นมา อย่าลืมว่าเมื่อก่อนผมก็เคยผิดหวังในทีมผมครั้งแล้วครั้งเล่า กว่าจะได้แชมป์เอฟเอคัพแชมป์แรกของเซอร์ อเล็กซ์ ตอนนั้นดีใจแทบตาย เซอร์เองก็ทำทีมด้วยความกดดันมหาศาล รูปเกมสมัยแรก ๆ ก็ไม่มีระบบแบบแผนที่ดีอย่างทุกวันนี้ ผมกล้าพูดว่าในตอนนั้นหากทีมไม่ได้ตัวพลิกเกมที่ดีอย่างคันโตน่าเข้ามา ทีมคงไม่มีวันกลายมาเป็นปีศาจแดงอย่างทุกวันนี้ เซอร์จะมีบารมีพอจะกล้าดันเด็กเยาวชนขึ้นมาเป็นแกนหลักอย่างนั้นหรือ? เป็นเพราะแกมีต้นทุนแกถึงทำได้ กล้าที่จะขายซุปเปอร์สตาร์ออกจากทีมคนแล้วคนเล่า โดยเอาระบบการเล่นเป็นใหญ่ ซึ่งตรงนี้ดัลกลิชยังไม่สามารถทำได้อย่างเซอร์แน่นอน ไหนต้องตอบโจทย์เรื่องการไปเล่นฟุตบอลยุโรปอีก แล้วไหนจะเป็นการคาดหวังจากแฟนบอลอีก แค่อ่านในห้องนี้ก็พอจะรู้แล้วว่าเป็นยังไง บอกตรง ๆ ว่าผมใจหายพอสมควรกับการเปลี่ยนแปลงของทีมลิเวอร์พูล ไม่อยากเห็นทีมต้องไปเริ่มต้นใหม่เรื่อย ๆ พอโค้ชคนนี้เข้ามาก็เอาแนวทางของตัวเองมานับหนึ่งใหม่อีกครั้ง ทีมที่อดีตยิ่งใหญ่อย่างลิเวอร์พูลควรจะกลับมาเป็นทีมแนวหน้าได้ซะที เพียงแต่ผู้บริหารหัวใจอเมริกันจะเข้าใจและซาบซึ้งกับแนวทางการทำทีมของ เดอะค็อป หรือเปล่าเท่านั้น อยากเชิญชวนแฟนบอลแมนยูท่านอื่น ๆ ที่เคยผ่านตาหงส์แดง ยุคเร้ด แมชชีน ในอดีตมาร่วมแลกเปลี่ยนทรรศนะกับหงส์แดงในยุคปัจจุบันดูบ้างครับ มาร่วมกันพูดคุยกับแฟนบอลหงส์แดงกัน ผมเชื่อว่าแฟนฟุตบอลไม่มีพรหมแดนจนถึงขนาดก้าวข้ามไปไม่ได้ เรามีสิ่งที่รักเหมือนกันคือเกมฟุตบอล เราก็ควรเป็นเพื่อนกันเพราะฟุตบอลครับ ส่วนใครพอใจจะแขวะจิกกัดกันก็ตามสบาย ถือว่าเป็นความชอบส่วนบุคคล แต่ผมไม่เคยเข้าไปร่วมแสดงความเห็นในกระทู้ซ้ำเติมหรือเย้ยหยันกัน ไม่ต่อว่าหรือห้ามปรามอะไรทั้งนั้น แต่หวังว่าพอออกจากกระทู้แบบนั้นเราก็มาคุยเรื่องอื่น ๆ กันได้ต่อไปได้ครับ สุดท้ายขอขอบคุณท่านที่เชิญชวนผมเข้าเชียร์หงส์แดง แต่ผมเริ่มเชียร์ปีศาจแดงตั้งแต่แมนยูมาเตะที่เมืองไทยแล้วครับ ได้อ่านประวัติทีม ความยิ่งใหญ่ บทสัมภาษณ์ของไบรอัน ร็อบสันแล้ว อยากเป็นส่วนหนึ่งของกำลังใจให้ทีมฟื้นกลับมาเป็นแชมป์ลีกอีก ทุกวันนี้ผูกพันกับทีมจนแยกไม่ออกแล้วครับ แต่ก็ปันใจเชียร์ให้หงส์แดงกลับมาเป็นคู่แข่งแย่งแชมป์ลีกกันอีก  จะได้ดูศึกแดงเดือดที่สนุกตื่นเต้นกว่าทุกวันนี้อีกครับ จากคุณ : เจ้าของกระทู้ครับ (mayerboss) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 17:41:35

ความคิดเห็นที่ 32 เชียร์ทีมเดียวกับเจ้าของกระทู้ แต่ชอบกระทู้นี้จัง  ^^ จากคุณ : เด็กหญิงชาเย็นปั่น เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 18:33:57

ความคิดเห็นที่ 33 เป็นแฟนทีมเดียวกับเจ้าของกระทู้เลย แต่ชอบอ่านกระทู้แบบนี้เหมือนกัน ซึ่งหาได้อยากยิ่งกว่างมเข็มฯ ซะอีก จากคุณ : ผักทอดยอด เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 18:53:39

ความคิดเห็นที่ 34   เชียร์แมนยู  แต่ก็รู้สึกดีกับกระทู้นี้   จากคุณ : champ ก็แค่คนๆนึง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 18:54:29

ความคิดเห็นที่ 35 ผมเห็นด้วยกับแนวทางของคิงเคนนี่และเชื่อมั่นว่าเค้าจะทำได้ แต่ก็ต้องรอเวลา สิ่งที่ขาดอย่างเด่นชัดในชั่วโมงนี้คือความคมในการทำประตู หลายต่อหลายเกมส์เรามีโอกาสเรียกว่าเยอะเลยละแต่ไม่สามารถทำประตูได้ ผมเชื่อว่าข้อบกพร่องต่างๆที่พวกเราเห็นกันนั้นคิงก็เห็น แต่มันก็ต้องใช้เวลาในการปรับปรุง ยังไงก็ขอให้แฟนๆอดทนรอกันหน่อยละกัน จากคุณ : Raycer_X เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 19:02:02

ความคิดเห็นที่ 36 ระบบของเดลกลิช ในยุคเรดแมชชีนที่เคยเห็น คือมี หน้าต่ำ ที่ฉลาดเป็นกรด ทีมเวิร์กดี ที่สามารถจ่ายบอลทะลุช่อง หรือทำชิ่งฉีกแนวรับเข้าไปทำประตู หมดยุค เบียสลี่ย์ ก็แทบไม่เจออีกเลย และอาวุธยาวอีกสักคน คือปีกที่สามารถ ฉีกหนีแนวรับริมเส้นไปเปิดพื้นที่ ก่อนที่จะโยนเข้ากลาง เพื่อความหลากหลายในแนวรุกอีกทางนึง ปัจจุบัน เบลลามี่ ดาวนิ่งก็ทำได้ดีพอสมควร แต่จุดนัดพบไม่ค่อยจะตรงกันกับตัวจบสักเท่าไร  ล้นบ้าง ไม่ถึงบ้าง บางลูกนี้เหมือนโยนให้นกบินมาโหม่ง ถ้าสังเกตุแมนยูเล่น  คุณดูได้เลย เวลาบอลที่โยนเข้ามาหน้าประตูจากริมเส้น ไม่ว่าจะเิปิดจากเหลี่ยมไหน บอลจะครอสผ่าน แถวจุดโทษแทบทุกลูก  คุณลากเส้นจากลูกบอล จากเท้าไปสู่หัวตัวเป้าได้เลย แล้วทุกคนจะรู้ ก็จะวิ่งเข้าชาร์ตเข้าหาแนวลูกบอลวิ่งผ่านได้ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเสาแรกหรือเสาสอง  นี่ก็เป็นเคล็ดลับอีกอันนึงที่แมนยูใช้บดขยี้เผด็จศึกได้ตลอด อีกตำแหน่งนึงที่มีความสำคัญของเร้ดแมชชีนก็คือ มิดฟิลด์ตรงกลางที่สามารถวางบอลยาว  ไปตรงที่ว่าง  หรือมุมธงอย่างแม่นยำในเกมโต้กลับ   และคอยเก็บบอลแถวสอง ที่หลุดออกมา กลับไปบุกต่อ ระรอกแล้ว ระลอกเล่า การต่อบอลสั้นทำชิ่งที่สวยงาม  หรือการวางบอลไปที่ว่าง มันเป็นเสน่ห์ที่น่าหลงไหล แต่ปัจจัยสำคัญของเรดแมชชีนที่สร้่างชื่อก็คือ สปิริตของนักกีฬาและ ความมุ่งมั่นทุ่มเทที่จะทำประตูตลอดเวลา จนกว่านกหวีดสุดท้ายจะดังขึ้นต่างหากที่สร้างประวัติศาสตร์กับทีม  ๆ นี้ จากคุณ : llwu เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 19:52:42

ความคิดเห็นที่ 37 อ่านแต่หัวกระทู้ แล้วผมจะขอถกเฉพาะ เหตุผลที่ผมคิดว่าทำให้ลิเวอร์พูล ไม่ได้แชมป์ มานานแสน นาน ซึ่งถ้ามองดูแล้ว นับตั้งแต่ สตีฟ แมคมานามาน จอน บาร์น แล้วก็ ไม่มีปีกตัวไหนที่เกิดกับ ลิเวอร์พูลได้อีกเลย ผมว่า  ตำแหน่งปีกเนี่ยแหละคือปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ ลิเวอร์พูล ยังไม่กลับมาผงาดยิ่งใหญ่ ได้ จากคุณ : ElMinZeed เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 20:22:21

ความคิดเห็นที่ 38 บางทีการเปลี่ยนแปลงที่ดีอาจจะเริ่มต้นจากการถูกแบนยาวของซัวเรซก็ได้นะ  ในสายตาของแฟนแมนยูอาจจะมองว่าซัวเรซเป็นตัวอันตรายของทีม แต่ก็เหมือนเป็นระเบิดเวลาของหงส์แดงด้วย   คล้ายๆกรณีราฟา คือเก่ง แต่...(อะไรก็ไม่รู้แหละ แล้วแต่ความคิด) สิ่งนึงที่ลิเวอร์พูลไม่มีเหมือนแมนยูคือนักเตะอาวุโสที่อยู่กับทีมมายาวนานอย่างไรอันกิ๊กส์ สโคล   ประคองเด็กรุ่นใหม่ๆ   จริงๆถ้ายังมีแมคก้า ฟาวเลอร์ โอเว่นที่ดูแล้วน่าจะเป็นแบบนั้นได้อยู่ต่อจนถึงตอนนี้ อาจจะดีกว่านี้ก็ได้   เพราะสุดท้ายถึงจะเน้นนักเตะในประเทศ แต่หัวใจตอนนี้ก็เปนซัวเรซอยู่ดี  (ลูคัสนี่เด็กปั้นราฟาไม่นับ อิอิิ) จากคุณ : สตรีมีกล้าม เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 20:23:23

ความคิดเห็นที่ 39 ชอบความคิดแบบ จขกท. จังครับอ่านแล้วได้สาระดี ผมนับว่าคุณเป็นแฟนบอลคนละคลาสกับเกรียนพวกนั้น จากคุณ : aotthekop เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 21:27:47

ความคิดเห็นที่ 40 ตั้งแต่ให้เจมี กัลลาเกอร์นั่งสำรอง อะไรๆก็ดูดีขึ้นมา แผงหลังที่เคยมั่วๆ สาดบอลยาวสะเปะสะปะ ก็กลับเข้าที่เข้าทาง กล้าเล่นบอลสั้น กล้าครองบอล เกมรับที่เคยเฟอะฟะ เสียประตูแบบไม่น่าเสียก็ลดน้อยลง ตอนนี้เกมรับเหนี่ยวแน่นติดอันดับต้นๆแล้ว เหลือแต่เกมรุก ที่ยังจูนกันไม่พบซักที จากคุณ : คอบอล เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 21:41:39

ความคิดเห็นที่ 41 ผมแฟนแมนยู ก็ทันยุคเร้ดแมชชีนยุคสุดท้ายเหมือนกัน (ประมาณปี 84 - 88) คือนอกจากลิเวอร์พูลจะมีสุดยอดผู้จัดการทีมที่สืบทอดความสำเร็จต่อๆ กันมาอย่าง บิล แช้งค์ลี่ย์, บ็อบ เพสลี่ย์, โจ แฟแกน จนล่วงมาถึงเคนนี่ เดลกลิชยุคแรก (จะเห็นว่า เพสลี่ เป็นผู้ช่วยของแช้งค์ลี่ย์, แฟแกนก็เป็นผู้ช่วยของเพสลีย์, เดลกลิช เป็นลูกทีมของแฟแกน) ยุคนั้นตัวผู้เล่นของลิเวอร์พูลเองก็สุดยอดไร้เทียมทานไปแทบจะทุกตำแหน่งเลยครับ ผมเองยังชอบนักเตะลิเวอร์พุลเกือบทั้งทีม อย่าง อลัน แฮนเซ่น, มาร์ค ลอว์เลนสัน, ฟิล นีล, อลัน เคนเนดี้, แกรม ซูเนส, เคนนี่ เดลกลิช, สตีฟ นิโคล, รอนนี่ วีแลน, เอียน รัช, ปีเตอร์ เบียดสลี่ย์, จอห์น บาร์น, สตีฟ แม๊คมาน ในยุคนั้นไม่มีทีมไหนที่ขุมกำลังสุดยอดเท่านี้แล้ว จะมีที่ใกล้เคียงก็เอฟเวอร์ตัน แมนยูในยุคนั้นก็ดีไม่เท่าครับ พอหลังจากยุคนี้แล้ว ผมรู้สึกว่าผู้เล่นที่ขึ้นมาทดแทน ก็ไม่ค่อยจะดีเท่ารุ่นพี่ คือไม่ไร้เทียมทานเหมือนก่อนแล้ว อย่างยุคสไปซ์บอย ผมก็เฉยๆ นะ ไม่ได้น่าเกรงขามแบบยุค 84 พอมาถึงณ. ปัจจุบัน ผมก็เห็นด้วยนะครับว่าเดลกลิชกำลังจะดึงจิตวิญญาณเก่าๆ กลับมาโดยใช้นักเตะสหราชอาณาจักรเป็นแกน แต่ผมว่ามันก็ยากเหมือนกันนะ ที่จะหานักเตะคุณภาพระดับไร้เทียมทานทุกตำแหน่งแบบยุคก่อนมาทำทีมได้ จากคุณ : Still Loving You เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 21:41:47

ความคิดเห็นที่ 42 ผมมองลิเวอร์พูลเป็น 3ยุค 1. ยุครุ่งเรืองบ๊อบ เพสลีย์, โจ เฟแกน, KD ยุคแรก คนเก่าๆน่าจะเห็นหมดแล้ว มันคือแนวทางที่สืบทอดกันมา ไม่มีปัญหา มีการเปลี่ยนแปลง ถ่ายทอดแกนนักเตะแบบเนียนๆ จนทำให้ครองความยิ่งใหญ่อย่างยาวนาน 2. ยุคเริ่มตกต่ำ เริ่มจากการจากไปของ KD จากนั้นการทำลายระบบแบบราบคาบของซูเนสส์ การพยายามเข้ามาซ่อมแซมความเสียหายของระบบโดยรอย อีแวนส์ และการสร้างระบบใหม่แบบอุลลิเยร์ ไม่มีความสำเร็จยิ่งใหญ่ใดๆแบบเป็นชิ้นเป็นอันมากนัก 3. ยุคตั้งต้นใหม่ ผมว่าราฟาเก่งมากๆครับ ที่ผลงานช่วงหลังแย่ลงไป เพราะผู้บริหารของหงส์แดงมันเตะขัดขาแกตลอด ดูนักเตะที่แกเคยอยากได้ แล้วโดนเตะขัดขาอย่างซิลบา แบรร์รี่ เตเบซ จนแกต้องซื้อตัวอื่นมาแทน แน่นอน หลายๆตัวแกก็ซื้อมาผิดพลาด แต่ก็ขายไปที่ราคาไม่ขาดทุนมาก แนวทางการทำทีมของราฟาคือปิดเกมส์ ครองบอลให้อยู่ก่อน แล้วค่อยๆบุกกดดันจนคู่แข่งแตกไปเอง ซึ่งถือว่ามีประสิทธิภาพสูงมาก ทีมของราฟา ไม่ว่าแพ้หรือชนะ มักจะครองบอลได้มากกว่าคู่แข่งเสมอ น่าเสียดายที่ยุคนั้นเงินน้อยจริงๆ เรามีตัวพรสวรรค์แค่สองคนที่วางใจได้ คือเจิดกับตอร์ส 3.1 ผมว่ายุค KD2 นี้คือพยายามตั้งต้นใหม่ แต่ยังเห็นชัดเจนว่า KD แกยังไม่มีสิบเอ็ดตัวจริงที่ดีที่สุดของแกเลย พยายามปรับไปเรื่อยๆ แต่สิ่งที่ขัดใจผมมากที่สุดคือการสร้างกระดูกให้นักเตะและวางตำแหน่ง นักเตะอย่างดาวนิ่ง เล่นปีกซ้าย โดนแกวางปีกขวา จนเสียของเลย แคร์โรลก็โดนแกสั่งให้เพื่อนโยนให้ขวิดอย่างเดียว จนหัวสมองกระทบกระเทือนแล้วมั๊ง จินตนาการบอลแบบตอนอยู่นิวคาสเซิลนี่หายไปเลย เฮนโด้ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่พัฒนาเลยตั้งแต่เริ่มเปิดฤดูกาล ไม่มีโค้ชคอยแนะนำหรือยังไง เล่นบอลได้ขี้ขลาดและไร้จินตนาการมาก ส่วนซัวเรซก็เล่นเหมือนไม่มีเพื่อนร่วมทีมอยู่ด้วย ทั้งๆที่เพื่อนเต็มทีม ส่วนคนอื่นๆชาร์ลี อดัม, เอนริเก้ก็เล่นได้ตามราคา สรุป...ผมว่าหงส์แดงชุดนี้ ยังไม่ดีพอ เพราะต่างคนต่างเล่นอยู่มาก การจ่ายบอลเข้าเขตโทษน้อยมาก ทั้งหมดเห็นชัดเจนว่าแทคติคที่โค้ชให้มาใช้ไม่ได้ และโค้ชยังไม่รู้ว่าผิดตรงไหนด้วยซ้ำ คงได้อย่างมากแค่ยูโรป้าลีก(แบบรากเลือด) ซึ่งแน่นอนว่าการซื้อนักเตะดีๆก็จะยากขึ้นๆเพราะไม่ได้ไป UCL ทีนี้มาลองดูทีมอย่างแมนยู แมนซิตี้ บาร์ซ่า ทีมเหล่านี้มีการจ่ายบอลที่แม่นยำและไม่โฉ่งฉ่าง มี11ตัวจริงที่ชัดเจน จ่ายบอลเข้าเขตโทษคู่แข่งบ่อยมาก ล้ำหน้าบ้างไม่ล้ำบ้างก็ว่าไป แต่ทีมเหล่านี้เขาไม่กลัวว่าจ่ายเข้าเขตโทษคู่แข่งแล้วจะพลาด ทำไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็จะเข้าล็อคเอง ผมว่ามันต่างกันที่ทัศนคติ ทีมชั้นนำไม่กลัวคำว่าพลาด แต่ทีมอย่างหงส์แดงกลัวพลาดมากๆยิ่งกลัวยิ่งพลาด สุดท้ายเลยไปไม่ถึงไหน ทั้งๆที่ตัวเทพเกือบเต็มทีม จากคุณ : TT@BKK เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 22:01:11

ความคิดเห็นที่ 43 ชอบกระทู้แบบนี้จัง สร้างสรรค์ดี จากคุณ : Get only me เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 22:03:11

ความคิดเห็นที่ 44 เข้ามาอ่านกระทู้ดีๆ ที่เดี๋ยวนี้รู้สึก จำนวน จะน้อยกว่า กระทู้เกรียนๆ ^^' จากคุณ : boy_kung เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 22:08:43

ความคิดเห็นที่ 45 เชื่อว่าอีกไม่นานเครื่องจักรสีแดงจะกลับมาบดขยี้บดขยี้และบดขยี้ทุกทีมที่ได้เจอกันครับ จากคุณ : loongx6086 เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 22:32:12

ความคิดเห็นที่ 46 เชื่อมั้ย ก่อนที่ผมจะหันมาเชียร์ผีแดง เป็นเรื่องเป็นราว ผมก็เคยชอบหงส์แดงมาก่อนนี่ละ แต่ตั้งแต่เมื่อสมัยยุคทีวีขาวดำนู่นละ แต่สมัยนั้นยังเด็กเกินกว่าที่จะเชียร์บอล เชียร์อะไรเป็นเรื่องเป็นราว หลังจากนั้นอีกสิบกว่าปี  เพื่อนฝูงยุคนั้น เริ่มเชียร์บอล ดูบอล กัน ก็ได้มาเจอทีมอย่างผี ซึ่งมีสไตลล์บอลอย่างที่เราชอบ เดินหน้า ฆ่ามัน จนกว่าเวลาจะหมด ใน ขณะที่ หงส์ ที่เราเคยรู้จักตั้งแต่เด็ก กลับ เปลี่ยนไป  ผมก็เลยตกหลุมรัก ผีแดง ในบัดดล แล้วก็ตามเชียร์มาเรื่อยถึงทุกวันนี้ ถึงจะเชียร์บ้างไม่เชียร์บ้าง เพราะผมไม่ใช่สไตลล์เกาะขอบสนามอยู่แล้ว ผม ไม่รู้หรอกว่าตอนนี้ หงส์ เป็นยังไง  แต่ถ้า หงส์แดง ที่ผมเคยรู้จัก  ก็คือ เรด แมชชีน ทีมที่ไม่เคยท้อแท้ หมดหวัง จนกว่าเสียงนกหวีด หมดเวลาจะดังขึ้น จากคุณ : ARMS STRONG เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 23:01:22

ความคิดเห็นที่ 47 ไม่ทันยุคนั้นครับ แต่อ่านกระทู้แล้วเข้าท่าเลยครับ จากคุณ : นายขนมตุ๋น เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 23:18:19

ความคิดเห็นที่ 48 ชอบครับขึ้นมาแบบนี้มันได้อารมณ์น่าถก แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ถ้ามองอย่างไม่อคติก็จะสัมผัสได้อยู่เหมือนกันว่าดัลกิลชพยายามปรับทัศนคติก่อนให้ทีมมีสปริท จากการสัมภาษณ์ออกสื่อบ่อยๆ และแนวทางการเล่น หรือทรงบอลที่จะให้เป็น pass & move ก็เริ่มดีขึ้น เราได้เห็นการคืนหลังไปหาผู้รักษาประตูน้อยลง ไม่เหมือนสมัยราฟา เราได้เห็นเรน่าจ่ายบอลสั้นให้คู่เซ็นเตอร์และต่อบอลขึ้นไป เราได้เห็นการเปิดยาวให้ปีกได้มีพื้นที่กระชากจี้ไปถึงเส้นหลัง ... ถึงเวลนี้ แม้ผลลัพธ์ยังไม่เกิด แต่อารมณ์มันมาแล้วครับ มันได้เสน่ห์ของลิเวอร์พูลกลับมาทีละนิดแล้ว ปล.อ่านมาทั้งหมดเห็น คห.2ไม่เข้าพวกอยู่คนเดียว จะรู้ตัวหรือเปล่านะ จากคุณ : อัลฟาฟ่า เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 00:08:53

ความคิดเห็นที่ 49 ผมเริ่มเตะบอลมากับการสมมติว่าตัวเองเป็น เอียน รัช กับ จอห์น บรานส์ นะครับ แต่พอเตะฟุตบอลเป็นซักพัก ผมกับชอบคิดว่าตัวเองเป็น แคนเชลสกี้ หรือ คันโตน่า มากกว่า แนวคิด Boothroom Staff ผมยังว่า เฟอร์กี้ ก๊อปปี้มาจาก ลิเวอร์พูล ด้วยซ้ำ ผลที่ได้ ก็เด็กนรก กิ๊กซ์ เบ็ค บัตต์ เนวิลล์ ประมาณนั้น แต่ เฟอร์กี้ โชคดีมากที่เวลาทำทีมได้ยาวนาน ความต่อเนื่องมีมาตลอด คหสต ผมว่า ผจก.ทีม ควรมีเวลาอย่างน้อย 2 ปีในการทำทีม ปีแรกคือหาสูตรที่ลงตัวกับนักเตะที่มี ซื้อเพิ่มในจุดที่คิดว่าสร้างขึ้นมาเองไม่ทัน แล้วไปวัดกันปีที่สอง ที่ทุกคนในทีมรู้ระบบการเล่นนั่นล่ะครับ ... ถ้าไม่ได้ก็ว่ากันไป อย่าง ปู่รอย แกโชคไม่ดี ทำทีมใหญ่ๆ ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะทีมใหญ่ๆ ไม่รอโอกาสครับ ไม่ต้องการเวลา ลงทุนไปต้องได้กลับมาเลย แถมยังไปทำทีม ลิเวอร์พูล ยุคที่กำลังเปลี่ยนแปลงพอดี ทั้งๆ ที่แกทำทีมด้วยทีมเวิร์คและระบบการเล่นล้วนๆ นะ เพราะทีมอย่าง ฟูแล่ม หรือ เวสบรอม ไม่ได้มีนักเตะชื่อชั้นอย่าง เจอราร์ด หรือ ตอเรส น่ะ หรือไม่ก็ดู บาร์ซ่า ตอนนี้ซิ เด็กปั้นทั้งนั้น ถ้าจำไม่ผิด ก็ช่วงที่ เป๊ป คุมทีม บาร์ซ่า เบ ทั้งนั้น เมสซี่ อินเนียสต้า เชส ปิเก้ จบจากโรงเรียนลูกหนัง บาร์ซ่า มาก่อน ระบบการเล่นจึงเข้ากันได้ดี (ถึงส่วนนึงมันจะมาจาก เมสซี่ อินเนียสต้า ซาบี้ มันเก่งเว่อร์ก็เถอะ) ซึ่งตรงนี้เหมือน อาร์เซน่อล อีกทีม เพราะปืนนั้นมีแนวทางการเล่นในยุคของ เวงเกอร์ มาแบบนี้ จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าใครจะไป โอเวอร์มารส์ เปอตี หรือ วิเอร่า หรือ อองรี อาร์เซน่อลก็เล่นในรูปแบบนี้มาตลอด เพราะงั้นฟันธงเหมือนเจ้าของกระทู้ครับ KD กำลังพยายามนำทีมเข้าสู่ระบบนี้แน่นอน แต่ถ้าหาคนที่เข้าระบบไม่ได้จริงๆ ก็อาจจะเป็นอย่างอาร์เซน่อลในตอนนี้แค่นั้น จากคุณ : สันโต๊ะ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 00:42:45

ความคิดเห็นที่ 50 ก่อนหน้านี้ผมคิดว่าลิเวอร์พูลกำลังมาถูกทาง แค่ยังไม่คุ้นกับแผน แต่พอเจอร์ราร์ดลงมา ผมเปลี่ยนความคิดทันที "ที่ลิเวอร์พูลอยู่ในจุดนี้ เพราะความสามารถของนักเตะในทีมพามาได้แค่จุดนี้" นักเตะเก่งๆที่สามารถเป็นศูนย์กลางหรือตัวหลักของยอดทีมของโลกอย่าง บาร์ซ่า แมนยู บาร์เยิร์น มิลาน ของลิเวอร์พูลก็มีนะครับ เช่น เรน่า ซัวเรส แอกเกอร์ เอนริเก้ จอห์นสัน แมกซี่ และสุดยอดผู้เล่นอย่าง เจอร์ราร์ด   แต่คนอื่นๆ เซนต์บอลห่างชั้นกันเกินไป ดังนั้นการประคองกันไป ทีมจะไม่สามารถสร้างผลงานสุดยอดได้เลย ซึ่งลิเวอร์พูลตั้งแต่ยุด 90 ก็เป็นมาอย่างนี้ตลอด จะเก่งแบบสุดๆอยู่ครึ่งทีม ส่วนอีกครึ่งทีมจะธรรมดาไปจนถึงไม่เก่ง ก็เลยเป็นอย่างนี้แหละครับ ที่เหลือต่อจากนี้คือ จะรอเพื่อปั้นเด็ก หรือจะทุ่มทุนเหมือนทีมอื่นๆครับ ปล.ผมคิดว่าถ้าปีนี้ดัลกลิชทำทีมไม่ได้แชมป์อะไรเลยหรือพาไปถ้วยยุโรปไม่ได้ ฤดูกาลหน้า ลิเวอร์พูลจะมีกุนซือคนใหม่ครับ จากคุณ : มือมาร เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 01:41:56

ความคิดเห็นที่ 51 ผมแฟนผีนะ เชียร์มาตั้งแต่ปี 90 ยุคผีลุกขึ้นจากหลุม ขออนุญาตแฟนหงส์หน่อยละกัน คือผมมองว่า ที่ลิเวอร์พูลไม่ประสบความสำเร็จเลย ในการคว้าแชมป์พรีีเมียร์ลีค มันเกิดมาจากตัวบอร์ดบริหารและจารีตบางอย่าง ของลิเวอร์พูลนั่นแหละครับ หัวโบราณ, โลกแคบ, ไม่มีวิสัยทัศน์, ไม่มีความกล้าที่จะเสี่ยง อ่านมาถึงตรงนี้ แฟนหงส์คงเคืองสุด ๆ แต่ผมอยากจะบอกว่า มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ -ทุ่มเงินซื้อนักเตะเกรดบี-เอ แบบไม่อั้น แต่ใช้จริงไม่กี่ตัว -สนามเหย้า ทีมอื่นเขาขยาย+สร้างใหม่ ความจุเพิ่มหลายเท่าตัว แต่ลิเวอร์พูลเมื่อไหร่จะเสร็จ รายได้ทั้งนั้น -ทีมแพทย์ห่วยสุดในอังกฤษ ทำนักเตะดี ๆ หมดอนาคตไปหลายคน -ความเป็น Global ลิเวอร์พูลมีแฟนบอลทั่วโลก แต่การตลาดกลับสู้ทีมระดับเดียวกันไม่ได้เลย -ถ้าผู้บริหารเก่งจริง คงไม่ต้องขายทีมแบบที่เห็นกันในข่าว นี่คือหลาย ๆ อย่าง ที่ทำให้เห็นว่าบอร์ดบริหาร ทำงานได้แค่ไหน ในเมื่องานที่ควรจะทำเพื่ออนาคตของทีม ยังทำได้แค่นี้ ตัวทีม-นักเตะ-สต๊าฟ-ผู้จัดการ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันต้องผ่านบอร์ดบริหารทั้งหมด ถ้าให้เปรียบเทียบก็คงเหมือนสมาคมฟุตบอลไทย บอร์ดบริหารห่วย ต่อให้จ้างสุดยอดโค้ช หรือมีนักเตะเวิลด์คลาสเต็มทีม มันก็ไปไม่ถึงฝั่งฝัน คืออาจจะดีอยู่แค่ช่วงนึง หรือพอเอาตัวรอดไปได้ แต่สุดท้ายก็กลับมาแย่ วนไปวนมาแบบนี้ การมีเงินจำนวนมากซื้อนักเตะ การจ้างยอดโค้ช-ผู้จัดการมาทำทีม สำหรับผม ผมมองว่ามันก็แค่ซื้อรถหรู ๆ  มาซิ่งบนถนน ระหว่างทาง ต้องเจอรถแข่งคันอื่น เจอทางขุรขระ เจออะไรมากมาย ในขณะที่คนอื่น เขาซื้อรถไม่หรูมาก แต่ "Skill" เขาดีกว่า เขาก็สามารถแซงรถหรู ๆ ได้สบาย ถึงเ้ส้นชัยก่อนอีกต่างหาก เจ้าของรถหรูก็ไม่เข็ด ยังหาคำตอบไม่เจอ ไปซื้อรถหรูคันใหม่ ยกเครื่อง เปลี่ยนยาง ติด nos เปลียนนักขับ บลา ๆ แล้วก็หวังว่าแข่งครั้งหน้าจะได้แชมป์กับเขาบ้าง จากคุณ : Nakharin เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 07:51:17

ความคิดเห็นที่ 52 ด้วยการที่ผมเป็นแฟนลิเวอร์พูลมาหลายสิบปีตั้งแต่ประถม จนกระทั้งแกรมซูเนสที่ทำให้ฝางเส้นสุดท้ายขาด และเปลี่ยนมาเชียร์ผี ทำให้ผมอยากตอบกระทู้นี้เหลือเกิน แต่ว่ามันไม่ว่างอ่ะดิ.... ผมว่าผมมองเห็นอะไรหลายๆอย่างของหงส์นะ เห็นการเปลี่ยนแปลงมากมาย ขอเขียนสั้นๆแล้วกันว่า ช่วงที่พีคสุดๆของหงส์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มันดิ่งลงเรื่อยๆครับ มีเด้งขึ้นมาหน่อยช่วงราฟา แต่ถ้าเฉพาะเรื่องแนวทางการทำทีม อันนี้ดิ่งลงมาตลอด และเพิ่งจะดีดกลับเมื่อคิงเข้ามานี่แหล่ะ.... ***** tex ***** จากคุณ : [[[tes]]] เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 10:29:11

ความคิดเห็นที่ 53 ผมหนุนหลัง KD ครับ... ชอบรูปแบบการเล่นแบบนี้ มันคุ้นตายังไงไม่รู้ และเชื่อว่า LFC จะดีขึ้นและกลับมาได้ครับ จากคุณ : พี่เจิด เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 10:59:45

ความคิดเห็นที่ 54 เอ่อ ผมสงสัยอย่างนึง ที่มีคนบอกว่า ลิเวอร์พูลยังขาดนักเตะพรสวรรค์ที่พลิกเกมได้เนี่ย แล้วหลุยส์ ซัวเรส ล่ะ ไม่ใช่คนๆนั้นเหรอ ไม่ว่ายุคไหน ตั้งแต่ แกรม ซูเนส เฮียโปน ราฟา มาจนถึง ยุคของ เคนนี่ รอบ2 ลิเวอร์พูลเคยมีทั้ง ร็อบบี้ ฟาวเลอร์, ไม่เคิ่ล โอเว่น, เฟอร์นาโด ตอเรส,  รวมถึงสตีเฟ่น เจอร์ราด ซึ่งมีช่วงท็อปฟอร์ม ในสมัยที่สวมเสื้อลิเวอร์พูลทั้งนั้น แต่กลับไม่เคยได้สัมผัสแชมป์ พรีเมียร์ลีก เลย ผมว่าที่ลิเวอร์พูลขาดไปจริงๆ  คือ ความสม่ำเสมอ ทีนี้ จะสร้างความสม่ำเสมอได้ยังไง นั่นคือโจทย์ที่ ดัลกลิช ต้องตีให้แตกครับ ถ้าให้เทียบเคียงกับแมนยู ตอนนี้จะเห็นได้ชัดเจนเลยครับ ในสถานการณ์ตอนนี้แมนยู ขาดนักเตะตัวหลักไปหลายคน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ วิดิช กองหลังตัวหลัก แต่ 4 นัดหลังสุด แมนยูกลับ ยิงได้ 16 ลูก และเสียไปเพียงลูกเดียว นัดล่าสุดยิ่งเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าบางครั้ง ผู้เล่นที่มีพรสวรรค์ ก็ไม่ได้มีความจำเป็นไปกว่า นักเตะธรรมดา อย่าง ปาร์ค คาร์ริค อีแวน หรือแม้กระทั่งกิ๊บสัน ที่ใช้ความขยัน อดทนเข้าสู้ ความอดทน ไม่ยอมแพ้ และคิดเสมอว่า ถ้าสวมเสื้อสีแดงตัวนี้เมื่อไหร่ ไม่มีอะไรต้องคิดมาก นอกจากคุณต้องชนะ ชนะ และ ชนะ เท่านั้น สิ่งนี้หรือไม่คือสิ่งที่ลิเวอร์พูลขาดไป จากคุณ : beckkeng_7 เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 11:23:28

ความคิดเห็นที่ 55 เข้ามาอ่านครับ ผมเชียร์แมนยูช่วง 1993 เลยไม่ทันดูหงส์แดงยุครุ่งเรือง  ตอนยุค 90 เป็นยุคสไปซ์บอยแล้ว แต่ตอนนั้นหงส์ก็เล่นดีนะมี ฟาวเลอร์ เร้ดแนปป์ แม็คก้า แต่กองหลังกับโกล์มักพลาดง่ายๆ จากคุณ : SamuDi Knight เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 12:07:27

ความคิดเห็นที่ 56 เราเชียร์มาตั้งแต่ปี 90 ฤดูกาลสุดท้ายที่คิงเคนนี่คุมทีมรอบแรก ช่วงที่ตกต่ำ ก็พยายามวิเคราะห์หาเหตุผล เออ เราขาดตรงไหนยังไง แต่ตอนนี้ไม่ละ คิงเคนนี่กลับมาแล้ว เราเชื่อในแนวทางของเค้า จากคุณ : S77 เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 12:44:32

ความคิดเห็นที่ 57 ลิเวอร์พูลที่เห็นอยู่ในวันนี้ก็คือสัจธรรมสะท้อนความจริงอย่างหนึ่ง ไม่มีใครอยู่ค่ำฟ้า ปลายยุด 60 ต่อ 70 จนกระทั่งปลาย 80 หงส์แดงครองความยิ่งใหญ่ยาวนาน จนกระทั่งแมนยูของเฟอร์กี้เข้ามาแทน ผมอยากรอดูเหมือนกันว่าในวันที่เฟอร์กี้วางมือ แมนยูจะไปทางไหน ขึ้น หรือ ดิ่งลง ลิเวอร์พูลคือตัวอย่างนี้ครับ จากคุณ : Mesia_82 เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 12:58:26

ความคิดเห็นที่ 58 Log in เข้ามาให้  "ถูกใจ" จากคุณ : ละอ่อนชายแดน เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 13:40:22

ความคิดเห็นที่ 59 ลิเวอร์พูลเดินมาถูกทางเเล้วตอนนี้ อีกไม่นานหรอก สำหรับเเชมส์ จากคุณ : by iPhone (เบื่อคนดี) เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 14:17:00

ความคิดเห็นที่ 60 ดเ จากคุณ : by iPhone (เบื่อคนดี) เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 14:17:36

ความคิดเห็นที่ 61 ผมเริ่มดูลิเวอร์พูลยุค สไปร์บอยเหมือนกัน และก็ชอบยุคนั้นด้วย ผมว่าเล่นได้น่ากลัว มีสไตล์ชัดเจน แต่ไม่ประสพความสำเร็จ คล้ายอาร์เซนอลยุคนี้ ยังเสียดายฝีมือรอย อีแวน ไม่รู้หายไปไหน หลังจากนั้นมา ผมมองว่าลิเวอร์พูล สไตล์หายไป เรดแมชชีนหายไป กลายเป็นทีมธรรมดาไป ไม่ต่างจากแอสตันวิลล่า นิวคาลเซิล เอฟเวอร์ตัน จากคุณ : typeV เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 14:32:27

ความคิดเห็นที่ 62 ตอนนี้ดัลกลิช พยายามเปลี่ยนทีมสหประชาชาติในยุค ราฟาเอล เบนิเตซ มาเป็นบอลสไตล์ลิเวอร์พูลยุคเก่า โดยใช้นักเตะในสหราชอาณาจักรเป็นแกนนำใช่หรือไม่ครับ? ^ ผมเชื่อว่าเป็นแบบนั้นครับ ดูจากที่เค้าหาแต่ผู้เล่นสัญชาติอังกฤษหรือในราชอาณาจักรเป็นหลัก แถมยังดันเด็กสโมสรสัญชาตินี้ขึ้นมาอีกด้วย แล้วคุณเห็นด้วยกับแนวคิดนี้หรือเปล่าครับ? ^ เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ ผมเชื่อว่าดัลกริชเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในช่วงนี้แล้ว ที่จะมาคุมลิเวอร์พูล ถึงผมจะเกิดไม่ทันยุคหงส์รุ่งเรือง มาทันยุคผีรุ่งเรือง แต่ที่เลือกเชียร์ทีมนี้เพราะองค์ประกอบโดยรวม โดยเฉพาะสปิริตทีมหรือกองเชียร์ ดูจากแชมป์ที่ได้ต้องยอมรับว่าเป็นรองผีหลายขุม ยุคของเซอร์ก็คงไม่ต่างยุคของบิล แชงคลีย์ ลึกๆเชื่อว่าถ้าเซอร์ไม่วางมือ แมนยูก็คงได้ลุ้นแชมป์ต่อไปเรื่อยๆแหล่ะครับ ส่วนน้องหงส์ของผมก็คงใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะขึ้นมาทวงบัลลังค์แชมป์พรีเมียร์มาได้ ไม่รู้หรอกกี่ปี แต่ก็จะตามเชียร์กันต่อไป แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 14:49:18 จากคุณ : Batty_Bounce เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 14:47:39

ความคิดเห็นที่ 63 จากสายตาคนนอกอย่างผม นอกจากที่คห.บนๆ กล่าวๆมาแล้ว  ส่วนนึงที่มีปญหาผมว่าระบบการทำทีมของลิเวอร์ในยุคหลังๆเหมือนจะพึ่งความสามารถของนักเตะซุปตาร์ที่มีอยู่คนเดียวในทีมมากเกินไป ไล่มาตั้งแต่ โอเว่น เจอร์ราด ตอเรส จนมาถึง ซัวเรส จนนักเตะพวกนี้กรอบและหมดอายุเร็ว หรือถ้าวันที่เล่นไม่ออก หรือไม่ได้ลง ทั้งทีมก็แย่ไป  อาจจะเป็นเพราะรูปแบบการทำเกมส์ หรือว่าความสามารถเฉพาะตัวของคนอื่นๆมันไม่เอื้อด้วย จากคุณ : นัวร์ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 15:50:18

ความคิดเห็นที่ 64 นั่งอ่านข้อมูลหลายๆท่านแล้วคิดย้อนไปตอนนั้น ทำไมผมคิดว่าระบบปีกของลิเวอร์พูลไม่ใช่แบบ แมน ยูไนเต็ด ก็ไม่รู้ ตอนนั้นปีกของหงส์แดงจะเน้นลากตัดเข้ามาแล้วคอยเสริมกับหน้าต่ำ สลับกันปาดเข้ากลางให้ศูนย์หน้าถล่มประตูมากกว่า ไม่ใช่อาศัยบอลโยนเลย แม้สนามจะเละเป็นปลักควายก็ตาม แต่การคอนโทรลและทำชิ่งก็เนียนตา นั่นคือความน่ากลัวที่ คิง เคนนี่ พยายามนำกลับมาอยู่ อีกไม่นานครับ ถ้า ตัวหลักสมบูรณ์ เด็กสร้างถูกดันขึ้นมาเรื่อยๆ รวมถึงหาคนที่พร้อมใช้ ซื้อมาแล้วลงระบบทีมได้  ลูกทีมได้รับความฮึกเหิมจากเจ้านายและแฟนบอล คู่แข่งตัวฉกาจของ ปีศาจแดงจะกลับมา ปล ผมแฟนผี ที่เคยตามเชียร์หงส์มาก่อน จนสายสัมพันธุ์มาขาดตอนเอา "เพชรฆาตหนวดจิ๋ม" ของผมไปตกระกำลำบากที่ ตูริน อารมณ์เด็ก ป.6 ตอนนั้นคือ เราขาดกัน แล้วมาลงเอยที่ปีศาจแดง เพราะ "เสื้อก๊อป" ตัวแรกที่ซื้อของทีมเนี้ย เลยย้ายค่ายมาตลอด แต่ติดตามห่างๆอย่างห่วงๆตามประสาคนเคยๆกัน จากคุณ : ชายน้อยมองเหม่อนั่งเอ๋อริมถนน เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 16:23:49

ความคิดเห็นที่ 65 ฤดูกาลนี้จริงๆดูดีขึ้นกว่าปีก่อน ทั้งที่บระเจ้าลูคิอัสเจ็บหนัก หอกก็สุดสากกะเบือ แถมบักเจิดก็เจ็บเรื้อรัง ความแน่นอนยังเป็นเรื่องที่หาไม่เจอ ความแน่นอน...ในการทำประตู กองหน้าอาชีพอย่างแครอท ประหนึ่งต้นโกงกางที่ขาดความมั่นใจ แถมช้าเป็นเรือเกลือ ส่วนพี่เหยิน มีส่วนร่วมดี แต่เรื่องอารมณ์มีปัญหา ความแน่นอน...ในการเล่นกับทีมเล็ก มันต้องสามแต้ม ไม่ใช่ไปยันอุจาระหด เพื่อเสมอ หรือไล่ตามจนเหงื่อซกเพื่อตีเสมอ  ถึงเวลามันต้องได้ เล่นห่วยแต่แต้มต้องครบ ไม่รู้จะได้แชมป์เมื่อไหร่ หากทรงบอลและใจยังเป็นแบบนี้...แต่ยังไงก็คงต้องเชียร์ หลวมตัวไปแล้ว ปีนี้ขอซักใบละกัน เอิ้กๆ จากคุณ : XabiRider เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 16:25:20

ความคิดเห็นที่ 66 ผมเชียร์หงส์แดงมา 20 กว่าปี ยอมรับว่าอยากเห็น Red Machine กลับมาอีกครั้ง  ซึ่งการที่จะทำได้เช่นนั้น ผมมองว่ามันมีหลายปัจจัยนะครับ 1. KD กำลังพยายามปรับทัศนคติของลูกทีม ให้เวลา KD เถอะครับ ผมเชื่อว่าไม่นาน เครื่องจักรสีแดงจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน 2. สถิติการยิงประตู เกือบทุกเกมส์จะมีโอกาสยิงเยอะมาก เหลือแค่เปลี่ยนโอกาสเหล่านั้นให้เป็นประตู 3. ชื่อชั้น ตอนนี้หงส์แดงถูกมองว่าเป็นทีมที่พร้อมจะแพ้ได้ทุกทีม ไม่ค่อยมีใครกลัวหรอกครับ ลองเปลี่ยนโอกาสเหล่านั้นให้เป็นประตูหลายๆ นัด รับรองครับ หลายๆ ทีมก็ต้องขยาดบ้างล่ะ 4. ผู้รักษาประตูฝ่ายตรงข้าม ทำไมจะต้องมาเทพ เวลาเจอหงส์แดงก็ไม่รู้ เซ็งครับ จากคุณ : Anfield_07 เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 16:38:50

ความคิดเห็นที่ 67 เชียร์หงส์มาเกิน 25ปีแน่นอน อยากจะบอกว่าสิ่งที่หายไปสำหรับหงา์ยุคนี้ก็คือ การเล่นจังหวะเดียวที่แน่นอนเท่านั้นครับ ลองกลับไปย้อนดูมนวันที่หงส์เล่นดีแล้วชนะถล่มทลายสิครับ คุณจะได้เห็นบอลจังหวะเดียวที่เล่นได้แน่นอนและเนียนตา ถ้านัดไหนทำไม่ได้ละก็..........ท่านๆจะเห็นเป็นหงส์แปลงร่างเป็นเป็ดทันที อีกอย่างถ้าหม่อมเหยินยังเล่นยอลชายเดียวอยู่ละก็......... คู่หูในแดนหน้าไม่ว่าใครมาก็ไม่สามารถเล่นเข้าขาได้หรอกครับ ตัวผู้เล่นในตอนนี้ผมว่าภาพรวมก็ OK แล้วละครับ รอแค่เล่นบอลจังหวะเดียวให้รู้ใจรู้ทิศทางการเคลื่อนที่ของกันและกันเท่านั้นละครับ ผมรับรองได้เลยว่า  หงส์จะสยายปีก บินได้แน่นอนครับ จากคุณ : ^vOlvO^ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 20:21:12

ความคิดเห็นที่ 68 ผมแฟนปืน ไม่ได้มาถกด้วย แต่แอบมาดูคนแก่เค้าคุยกัน ^^ จากคุณ : CC.mand เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 22:23:31

ความคิดเห็นที่ 69 อ่านกระทู้นี้ด้วยความสุข เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปหาอดีต สมัยเริ่มดูบอล หลายความเห็น ครอบคลุม ดีหมดแล้ว ฟุตบอลแบบ วันทัช เพรสซิ่งเป็นทีม บุกคือรับที่ดีที่สุด ไม่เคยตกยุค เพียงแต่ ลิเวอร์พูล ในตอนนี้ ยังทำไม่ได้ มาตรฐาน ที่ควรเป็น จากคุณ : 79ners เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 22:26:40

ความคิดเห็นที่ 70 อยากเข้ามาบอกว่า เราดูบอลยุคเดียวกันเลย ยุคหงส์แดงครองเมือง ชอบกระทู้แบบนี้ มันค่อยดูเป็นห้องกีฬาหน่อย แก้ไข เพิ่มเติม ไหนๆ ก็เขียนละ ผมว่า หงส์ยุคนั้นมันลงตัวทั้งระบบ และ ผู้เล่นที่สืบทอดกันมา ประตู บรู๊ซ ก๊อปเบล่าร์ หลัง เกล็น ไฮเซ่น อลัน แฮนเซ่น รอนนี่ วีแลน กลางรับเป็น สตีฟ แมคมาน ตัวรุกเป็น ปีเตอร์ เบียดลี่ย์ ปีกมี จอห์น บาร์น กองหน้า มี เอียน รัช / จอห์น อัลดริจส์ (ผมโคตรชอบเลยคนนี้) ตัวเด็ดพลิกเกมส์มีเพียบเลย แต่ ยุคปัจจุบันนอกจาก เจอร์ราด แล้ว ผมยังมองไม่เห็นตัวพลิกเกมส์ในทีมหงส์ เลย แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 23:56:26 จากคุณ : ~CeZiiL of FlyingDutchMan~ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 23:50:31

ความคิดเห็นที่ 71 ผมว่าหงส์ยุคเคนนี่ตอนนี้แหละที่กำลังดูดีมีอนาคตเลย เมื่อก่อนหงส์เจอแมนยู ผมจะไม่ค่อยกลัวหงส์ครับ ยิ่งช่วงอุลิเย่หรือราฟาแมนยูชนะลิเวอร์บ่อยมาก แต่พอยุคเคนนี่กองกลางลิเวอร์พูลเล่นดีมากครับ บดกลางแมนยูได้บ่อยเลยคือถ้าเทียบแล้วลิเวอร์พูลมีดีที่กองกลาง แต่แมนยู มีดีที่กองหลังกลับกองหน้าอะครับ แต่สิ่งที่ลิเวอร์ยังขาดไปจริงๆผมคิดว่าคือระบบการทดแทนกันของนักเตะอะครับแบบแมนยู มีระบบแล้ว จะใส่ผู้เล่นคนไหนลงไปก็ได้ คือผลจะไม่แตกต่างกันมาก มีความสมดุล แต่ลิเวอร์พูลยังไม่เป็นแบบนั้นอย่างขาดเจิดก็หาคนแทนยากหรือขาดลูคัสกลางยวบอย่างเห็นได้ชัดเลย แต่ดูแมนยูเฟรชเชอร์เจ็บก็ยังมีคนแทนได้ ปีกคนไหนเจ็บก็มีตัวเล่นแทนได้ คืมาตรฐานนักเตะตัวจริงตัวสำรองไม่ห่างกันมาก คิดดูว่าเมื่อก่อนมีทั้งโอเชียทั้งบราวแมนยูยังเป็นแชมป์ได้เลย นั่นเพราะความสมดุลของผู้เล่นในทีมนี่แหละครับ จากคุณ : สุรีกรณ์ เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 00:03:22

ความคิดเห็นที่ 72 ตอนนี้ทีมต้องการเวลาครับ การที่นักฟุตบอล 11 คน จะเล่นบอลเท้าสู่เท้า ได้อย่างไม่ผิดพลาดจ่ายเสียน้อยมากเหมือนเมื่อก่อน มันใช้เวลาเพาะบ่ม เหมือนยุคเครื่องจักรสีแดง นั้น ส่วนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องเพราะมีการถ่ายเลือกนักเตะอย่างค่อยเป็นค่อยไปครับ ดังนั้นคนที่เข้ามาใหม่ก็จะพยายามปรับตัวเข้าระบบที่เพื่อนเล่นกันอยู่  ถ้าปรับไม่ได้ก็หลุดจากทีมไป แต่ปัจจุบัน ทีมซื้อนักเตะกันที 4-5 คนเปลี่ยนแกนหลักรวดเดียวหมด ถ้าคิดจะเล่นบอลเท้าสู่เท้าให้ดีคงต้องให้เวลาในการเล่นร่วมกันไม่น้อยกว่า 2 ปีละครับ และไม่ควรซื้อนักเตะใหม่เข้ามาร่วมทีมแบบปีละหลายคนเพื่อเปลี่ยนแกนอีก คงจะต้องเห็นการเข้ามาของนักเตะปีหน้าไม่เกิน 2 คนเพื่อพัฒนาทรงบอลให้กลับมาสู่สิ่งที่ เคนนี่  ต้องการ ซึ่งคงต้องรอดูกันต่อไปว่า แรงกดดันที่ถาโถมจนทำให้เคนนี่ลาออกไปนะเวลานั้น ยังจะส่งผลทำให้เคนนี่กดดันจนทำทีมไม่ได้หรือไม่ จากคุณ : et009 เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 09:34:57

ความคิดเห็นที่ 73 ชอบบรรยากาศกระทู้นี้จังครับ..^^ ในฐานะเด็กผี ผมเชื่อว่าลิเวอร์พูลจะต้องกลับมายิ่งใหญ่แน่นอนครับ ดูจากแนวทางการทำทีมของลุงเคนนี่ และระบบการเล่นของลิเวอร์ในฤดูกาลนี้ ผมว่ากำลังไปในทิศทางที่ดีเลยครับ (ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องการทำประตูก็ตาม) ...แต่สิ่งสำคัญคือ "เวลา" ที่ผู้บริหารจะให้กับเคนนี่ ครับ ว่าจะมีมากเพียงใด?? จากคุณ : Dune Wizard เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 11:36:31

ความคิดเห็นที่ 74 ไม่ทันดูหงส์แดงในยุคนั้นครับ ขอตามอ่านเพลินๆกันดีกว่า ^^! จากคุณ : นักเตะในตำนาน เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 14:32:35

ความคิดเห็นที่ 75 ผมว่ามาถูกทางแระ เช่น บาซ่าทีมต่างดาวเค้ายังมีแต่นักเตะสปน แต่ผมว่าน่าจะมีเทพไว้ด้านละคน ตัวรับตัวรุก อย่างละคน เรน่ายังต่างแดนเลย (แครอทผมว่ายากที่จะปั้น) แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 54 16:07:42 แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 54 16:04:09 จากคุณ : Jailbreaker เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 16:02:17

ความคิดเห็นที่ 76 กระทู้ดีครับ แต่คนตอบบางคนทำหยังกับว่าไม่เคยเกรียนแตก จากคุณ : เขยสันป่าตอง เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 19:49:32

ความคิดเห็นที่ 77 >>54 >>ความอดทน ไม่ยอมแพ้ และคิดเสมอว่า ถ้าสวมเสื้อสีแดงตัวนี้เมื่อไหร่ ไม่มีอะไรต้องคิดมาก นอกจากคุณต้องชนะ ชนะ และ ชนะ เท่านั้น >>สิ่งนี้หรือไม่คือสิ่งที่ลิเวอร์พูลขาดไป ปีที่แล้วนั่นใช่ครับ แต่ไม่ใช่ในปีนี้ เปลี่ยนจากราฟามาเป็นรอยเพราะการเมืองในสโมสร พอเปิดฤดูกาลมาสิบกว่าเกมส์ อันดับรูดไปอยู่รองบ๊วย ใครจะบอกว่าลุงรอยทาถู มีฝีมือแต่แค่ไม่มีเวลา ผมขอค้านเลย คนถ้าเก่งจริง สิ่งหนึ่งที่ฟ้องในสนามได้ทันทีก็คือ ความทุ่มเทของผู้เล่นตอนลงสนาม ปีแล้วนี่ยอมรับเลยว่า ก่อนรอยออก 2-3นัดหลัง เป็นครั้งแรกในชีวิตที่มีโอกาสดูทีมแข่ง แต่เลือกที่จะไม่เปิดทีวีดูแล้วไปติดตามผลตอนเช้าแทน เพราะดูแล้วเซ็งกับการเล่นมาก ดูทีไรกระสับกระส่าย อยากลุกไปถีบทีวี นอนหลับยากทุกที กลัวตื่นไปทำงานไม่ทัน รูปแบบการเล่นไม่เข้าขา ผลงานไม่ดี หรือจะแพ้ก็ไม่ว่า ขอแค่อยากเห็นแต่อยากให้นักเตะเล่นให้เต็มที่ สมัยรอย โดยรวมไม่เห็นตรงนี้เลย คนที่เรียกสปิริตทีมไม่ได้ จะมาวางรูปแบบการเล่นได้ยังไง คงมีวิธีเดียวคือโล๊ะนักเตะซื้อใหม่ยกทีม แล้วมาเริ่มสร้างบารมี นับหนึ่งใหม่ แต่หงส์ไม่ใช่ทีมเงินถุงเงินถังถึงทำแบบนั้นได้ ฟอร์มนักเตะตอนนั้นให้ลงไปลุ้นจ่าฝูงแชมป์เปี้ยนชิพ เผลอๆโดนกระซวกไส้แตกกลับมาด้วยซ้ำ ส่วนนัดเตะกับผี คงเป็นเพราะเรื่องศักดิ์ศรีจำนวนแชมป์ ประกอบกับแมนยูฯเป็นทีมที่ใหญ่กว่า ถ้าชนะได้ก็จะเรียกกำลังใจทีมขึ้นมาได้เยอะ นักเตะเลยวิ่งสู้ฟัดทุกที ไม่ต่างอะไรกับเวลาหงส์โดนทีมเล็กกว่าวิ่งบี้ โชว์เทพ ใครฟอร์มบู่ๆ เข็นลงนัดหงส์ ได้กลับมาแจ้งเกิดตลอด แต่พอคิงเข้ามา ใช้ทีมชุดเดิมเล่น นักเตะวิ่งลืมตายสปิริตทีมกลับมาอย่างเห็นได้ชัด ตำแหน่งจากท้ายตารางก็กระเตื้องขึ้นมา จนจบแบบได้ลุ้นไปถ้วยยุโรป ใครจะไปนึกนักเตะเดิมๆแต่การเล่นเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนั้น ตอนนี้ถึงส่วนตัวจะเซ็งคิงเกี่ยวกับเรื่องอีโก้เล็กๆของการเข็นนักเตะลูกรักลง การเปลี่ยนตัวและแก้เกมส์เวลาที่เสียเปรียบ ถ้าไม่ทำมึนก็ต้องยอมรับสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปจากยุครอยแล้วอย่างชัดเจนคือ ผู้เล่นในทีมมีสปิริต และมีระบบการเล่นที่ไม่ต้องพึ่งผู้เล่นแค่คนสองคนเหมือนหลายๆปีหลังที่ผ่านมา หลายนัดหลังๆนี้ยิ่งเห็นชัดเจน ว่ามักจะไปเร่งทำเกมส์รุกเต็มอัตรา หลังนาที 90 เป็นต้นไป ตรงนี้ก็น่าจะเป็นตัวชี้วัดความอดทนผู้เล่น ไม่ยอมแพ้ในทีมชุดคิงนี้ จากคุณ : ZephyranthesFb เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 09:17:05

ความคิดเห็นที่ 78 ไม่น่าเชื่อว่า 70กว่าโพส  ยังไม่มีความเห็นเกรียนๆมาเลย  ดีใจครับ ใครบอกว่า กระทู้เชียร์บอลต้องบลัฟกัน เกรียนกัน ถึงจะสนุก ไม่จริงครับ กระทู้อย่างนี้ดีกว่ามาก จากคุณ : joeymydear เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 15:26:55

ความคิดเห็นที่ 79 เริ่มเป็นแฟนหงส์ยุคจอห์น บาร์นส เอียน รัช เบียดส์ลี่ย์ ยุคปลาย มาดูบอลรู้เรื่องจริงๆก็ยุคสไปซ์บอย รู้สึกว่าสิ่งที่หงส์ขาดไป คือ - "ปีก" ตั้งแต่จอห์น บาร์นส์เป็นต้นมา แล้วต่อด้วยสตีฟ แม็คมานามาน เราไม่มีปีกที่สร้างชื่อได้อีกเลย เจอร์ราดก็เป็นกลางรุก   -"เด็กปั้น" ที่อยู่กับทีมจนกลายเป็นขวัญใจของทีม มันเป็นเรื่องของสปิริตกับความรู้ใจในทีม ยุคสไปซ์บอย สตีฟ แมคฯ, เร้ดแนปป์,เดอะก็อด หรือแม้แต่กองหลังจอมเฟอะฟะ ฟีล บ๊าบ แผงกลางตอนนั้นรุ้ใจกันสุดๆ ยุคเริ่มต้นของพวกนี้ก็มีรุ่นน้าอย่างจอห์น บาร์นส คอยประคอง ตอนนี้เรามีเด็กปั้นของทีมที่อยู่มาจนเโลโก้แค่สองคน เจอร์ราด, คาราเกอร์ ซึ่ง 2 คนนี้มีอิทธิพลกับทีมมาก ถึงแม้คาร่าจะเป็นกองหลังที่พาคนดูลุ้นตลอดก็เถอะ ตรงนี้ได้แต่รอพวกน้องเจย์ สเปียร์ริ่งกับพ้องเพื่อนจะสร้างความยิ่งใหย่ตามตำนานพี่ๆ -"กองกลางตัวตัดเกมส์" จะบอกว่ากองหลังเหมือนจะเป็นจุดอ่อนของหงส์แดงมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ถ้างั้นก็ช่างมันเถอะ เอากลางตัวตัดเกมส์ที่ใช้ได้มาดีกว่า ยุคกก่อนเรามีสตีฟ แมคมาน(ดูไม่ค่อยทันเท่าไหร่ จำฝีเท้าไม่ได้รู้แต่ว่าเป็นตัวหลัก) ต่อด้วยฮามันน์ แล้วก็อลองโซ่  ซึ่งสองคนหลังมีคุณสมบัติที่เป็นตัว hold บอล จ่ายต่อแดนหน้าได้คม เชื่อมเกมส์ได้ ตรงนี้ลูคัสเพิ่งจะทำได้ดีฤดูกาลนี้ก็มาเจ็บอีก จากคุณ : สุริยาแก้มป่อง เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 15:57:40

ความคิดเห็นที่ 80 ผมว่าความเป็นระบบยังไม่เข้าสู่ทีมเท่าไหร่ครับ ตอนนี้ทีมมีดีหลายๆอย่างแล้วยกเว้นแดนหน้าคือ เราเล่นเกมส์รับกันได้ที่ที่สุดในลีกเสียไป14ประตู เสียประตูน้อยกว่าจ่าฝูง(แมนซิเสีย 15 ) และ เท่ากับรองจ่าฝูง (แมนยู 14 ) โกล์และกองหลัง สี่ตัวแน่น มากครับ เรน่า จอห์นสัน สเคอร์เทล แอกเกอร์ เอนริเก้  ผมว่าเล่นได้ไม่แพ้ใครในลีกนะ กองหน้า คือ แคร์โรล และซัวเรซ ไม่เข้ากับระบบทั้งคู่ครับ แคร์โรล มีการยืนตำแหน่งที่ไม่ดีและวิ่งน้อยครับถ้าเค้าสามารถวิ่งและพาบอลไปได้เหมือนดร็อกบาได้ เค้าจะแข็งแกร่งมากครับ ส่วน พี่เหยิน ตัวนี้ผมว่าความสามารถดีแต่เล่นไม่เข้ากับทีมอ่ะครับ เค้าพยายามพาบอลเข้าไปเองในหลายๆจังหวะที่ดูแล้วฝืนทำให้ทีมเสียโอกาสไปครับ แล้วพี่แกก็ยิงไม่คมด้วยคับ เห็นยิงเสร็จออกลูกแอ๊กชั่น หงุดหงิดตัวเอง ทำให้ระบบต่อบอลของหงส์เสียไปหมดครับ ทั้งคู่ยังต้องปรับปรุงอีกแยะครับ ส่วนมิดฟิลด์ ก็เป็นจุดแข็งอีกจุดของหงส์นะครับ ดาวนิ่ง ลูคัส อดัมส์ เฮนเดอร์เซ่น เบลลามี่ เจอร์ราด มักซ๊ เสปียริ่ง เคาท์ แต่ละคนก็มีจุดเด่นของตัวเองนะครับ อย่างเสปียริ่งนี่ก็มีจุดเด่นด้านเกมส์รับ เคาท์ก็วิ่งหาตำแหน่งดี มักซี่เล่นบอลฉลาดอยู่ในตำแหน่งที่สามารถยิงประตูได้เสมอ แต่ว่าทีมเวิร์คยังไม่ลงตัวประกอบกับกองหน้าเล่นไม่เข้าระบบ ทำให้ทีมขาดความเป็นเอกภาพไป คิงเคนนี่พยายามสร้างทีม โดยใช้นักเตะในสหราชอาณาจักร อาจเป็นเพราะกฎเรื่องhome grown หรืออาจจะเพื่อให้นักเตะมาจากวัมนธรรมเดียวกันจะได้มีความคิดใกล้เคียงกันปรับจูนกันง่าย และใช้นักเตะอายุน้อยซึ่งแนวทางนี้ผมก็เห็นด้วยร้อยเปอร์เซ้นเลยครับเพราะนักเตะเหล่านี้ยังพัฒนาฝีเท้าไปได้อีกไกลมาก สรุปแค่ทีมปรับปรุงการเล่นในแดนหน้าได้ก็จะเล่นได้ดีกว่านี้ครับ อันดับสี่ปีนี้ขึ้นกับแดนหน้าครับ จากคุณ : niab เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 19:43:06

ความคิดเห็นที่ 81 ตั้งแต่ผมดูบอลมาสิ่งนึงที่ผมเชื่อ คือ สถิติ ลิเวอร์พูล ในช่วงหลังจากสไปซ์บอย ของรอย อีเเวนส์ สถิติครองบอล เฉลี่ย น้อยมาก โอกาสเข้าทำก็น้อย แต่มีในช่วงของ ราฟา เบนิเตซ ที่เข้าทำน้อย แต่เป็นประตูสูง เพราะการจบสกอร์ จากเกมสวน อันน่าทึ่งของ เจอร์ราร์ด ตอเรส แต่ไหนแต่ไร ในช่วง 20 ขวบปีหลัง ที่ดูลิเวอร์พูลมา จุดอ่อนหลักๆ ที่แสดงให้เห็นอยู่ในลิเวอร์พูล ทุกรุ่น คือ การครองบอล ขนาดทีมยุคราฟา ที่หลายๆคนให้ความเห็นว่ามีกองกลางที่ดีที่สุดในโลก 3 คนเล่นด้วยกันอย่าง เจอร์ราร์ด อลอนโซ่ มาสเชราโน่ ยังไม่เคยเห็นครองบอล เปอร์เซ็นต์เข้าหลัก เฉลี่ย 60 70 % เลย หรือเทียบ จำนวนการเข้าทำประตูเฉลี่ยต่อนัด แบบให้เห็นภาพ ในปีนี้ทีมของ ดัลกลิช มีสถิติการเข้าทำเฉลี่ย 20 ครั้ง ทุกนัด บางนัดปาไป 30 ครั้ง เข้ากรอบ เกินครึ่ง แต่ ในยุคก่อนหน้า นี้สถิติเข้าทำเท่าที่เห็นเฉลี่ยได้ไม่เกิน 12 ครั้ง จากการดู หงส์มากว่า 20 ปี ผมบอกได้สั้นๆคำเดียวว่า แผนการเล่นของ ดัลกลิช ดูดี มีอนาคต และดูสนุก ที่สุดตั้งแต่ดูฟุตบอลของ ลิเวอร์พูลมา ศักยภาพของทีมมันอยู่ที่ี เรามีสถิติ เข้าทำเยอะ บุกเยอะ ยิงเยอะ ครองบอลเยอะ แต่ เรากลับเสียประตูน้อยที่สุด ที่ 14 ประตู ซึ่งหมายความว่า แผนการเล่น และระบบ มันเวิร์ค แต่ ขาดความเฉียบคม ในแดนหน้า ทั้งในเ้รื่องเปิดบอลจังหวะสุดท้าย และการเข้าทำประตู อาจบอกได้ว่า แดนหน้ายังจูนกันไม่ติด ยังเล่นไม่เข้าขา ยังไม่ฟิต ยังไม่ชินกับระบบในการเข้าทำ แต่ถ้ามันเกิดจูนกันติดล่ะ ใน เปอร์เซ็นต์ ของการเข้าทำประตู ขนาดบาร์ซ่า ขนาดนี้ มันจะตกได้นัดละกี่ลูก 2 สิ่งที่ผมกังวลกับ ลิเวอร์พูลชุดนี้ นอกเหนือ จากปัญหาความเฉียบคมในแดนหน้าแล้ว คือปัญหาการขาดมิดฟิลด์ตัวโฮลบอล และตัดเกม อย่างลูคัส ไป ในช่วง 5 เกมหลังจากขาดลูคัสไป ทีมเริ่มส่งผลให้เห็นชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่มีตัวเก็บบอล คอยเซ็ทจังหวะบอล กลายเป็นว่า ลิเวอร์พูล เล่นพาสแอนด์มูฟ รันแอนกัน แบบบาสเกตบอลไปซะแล้ว พอได้บอลมาก็รีบออกบอล จ่ายออกปีก ออกแบ็ค แล้วก็รีบๆลากไปจนสุดเส้น แล้วก็ก้มหน้าก้มตา ตะบันโยน โดยที่กองหน้ายังไม่เข้าตำแหน่งโพส หรือบางที ไลน์กองหลังคู่ต่อสู้ยังไม่แตกเลย ตรงนี้ผมว่าเป็นปัญหาใหญ่จริงๆ เพราะไม่มีตัวคุมเกม อีกสิ่งคือ ตัวพลิกเกม ตัวทำเกม ลิเวอร์พูลยังขาดคนที่มีศักยภาพ ตรงนี้อย่างสูง คนที่คอยเปลี่ยนจากรับเป็นรุก คนที่คอยดึงกองหลังฝ่ายตรงข้ามให้ไลน์แตก คนที่คอยจ่ายบอลแบบคิลเลอร์พาส คนที่คอยยิงแถวสองในนาทีฉุกเฉิน คนที่คอยปั่นฟรีคิกในนาทีสำคัญ คนที่ยิงจุดโทษแบบไว้ใจได้ ตรงนี้ลิเวอร์พูลมี เจอร์ราร์ด แต่ด้วยอายุ และอาการบาดเจ็บ เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก พูดถึง การทำทีม ตามความเห็นผมบอกได้คำเดียวว่า การทำทีมหมายถึงการสร้าง จิตวิญญาณ ให้กับมัน เป็นระบบการเล่นเอกลักษณ์ของทีม โดยที่รุ่นพี่ชุดใหญ่เล่นระบบไหน รุ่นน้องเยาวชนก็เล่นระบบนั้น พอถึงเวลา ทีมชุดเยาวชนขึ้นมาทดแทน ตัวผู้เล่นที่ขาดหายไป ก็สามารถเล่นเข้าระบบ ได้เลยในทันที ตัวอย่างที่เห็นชัดๆ คือ บาร์เซโลน่า แมนยู อาเซนอล พูดง่ายๆมันคือการปูทาง เพื่อการพัฒนาแบบยั่งยืน เพราะฉะนั้นการที่จะเห็นระบบ แบบนี้เกิดขึ้นมาได้ ต้องใช้เวลาวางรากฐานกันหลายปี กว่าจะเริ่มเห็นผล แต่เนื่องด้วย การทำทีมฟุตบอลในระยะช่วง 10 ปีหลังเป็นระบบนายทุน ทุ่มซื้อสตาร์มาซะเยอะ แฟนบอลต้องการความสำเร็จแบบ สำเร็จรูป ก็เลยไปลงเอย กันที่ บรรดา โค้ชบิ๊กเนม เสมอๆ ซึ่งพวกมือปืนรับจ้าง ที่เก่งๆในโลกนี้หลายๆคน อย่าง คาเปลโล่ มักจะวางเเทคติคเก่ง แต่เล่นบอลไม่สนุก ไม่ได้เข้ามาวางรากฐาน มาถึงก็เบิกงบซื้อนักเตะที่เล่นได้ตามแผนตัวเอง จบแล้วก็จบกัน  พอโค้ชคนใหม่เข้ามา ก็ขายนักเตะเก่าออกไป เบิกงบมาซื้อคนใหม่ ก็วนเวียน เป็นวัฏจักร แบบนี้ ผมยกตัวอย่างทีม โปรดของผมอย่าง รีลมาดริด ก็แล้วกัน ถามว่าได้ถ้วยไหม มันก็ได้ แต่ มาดริด ในช่วงหลัง ผมไม่ภูมิใจเลย ดูก็ไม่สนุก มันไปสนุกเอาที่ ฟอร์มของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เมซุต โอซิล แต่รูปแบบ จิตวิญาณ ระบบการเล่นของมาริด มันตายไปแล้ว ผมกลับชอบ มาดริด ในยุคของ เอียร์โร่ ราอูล มอริเอนเตส กูตี เอลเกรร่า มากว่า เพราะดูแล้ว มันรับรู้ได้ว่า นี่คือ มาดริดฟอร์เมชั่น ไม่ใช่ มูริญโญ่ฟอร์เมชั่น พอปีหน้าไม่ได้แชมป์ มูริญโญ่จากไป ก็กลายเป็นรูปแบบอื่นต่อ สำหรับผมมันดูไม่สนุก แต่เหมือนเล่นแค่เพื่อตัวเอง ผู้จัดการก็ทำเพื่อตัวเอง จากคุณ : turnontable เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 21:44:07

ความคิดเห็นที่ 82 ผมว่ายุคราฟาไม่ดีตรงไหนได้5ถ้วยมีนักเตะอย่างตอเรสเป็นเทพแต่ความคาดหวังของแฟนบอลต่างหากที่ทำให้ผู้บริหารเขว/การซื้อตัวเกรดบีเยอะกรณีคีนก็ไม่ค่อยได้ลงขายตัวขาดทุนต้องโทษผ่ายบริหารที่ไม่วางใจผู้จัดการไม่เหมื่อนผีแดง/รูปแบบการเล่นขาดตัวเชื่อมเกมแถมหลังรั่วได้ใจ จากคุณ : Dr.pareto เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 22:01:57

ความคิดเห็นที่ 83 มาถกตอนนี้คงจะช้าไปหน่อย 555+ อีกอย่าง เพื่อนๆก็คงจะเตรียมไปเคาดาวน์กันแล้ว แต่ก็ขอแสดงความเห็นนิดนึงแล้วกันนะคะ ส่วนตัวไม่ทันดูหงส์ยุคเรดแมชชีนอะไรเลย เพิ่งจะมาเชียร์ในยุคราฟานี่เอง แต่ก็เคยคลิปเก่าๆมาบ้าง ซึ่งจากที่เห็นทีมของคิง เคนนี่ ตอนนี้ มันก็ชัดเจนว่าเขากำลังพยายามปั้นทีมให้กลับไปเป็นเหมือนสมัยที่เค้าเล่นและคุมทีมครั้งแรก ซึ่งต้องใช้เวลาไม่น้อย เรื่องเห็นด้วยหรือไม่ คิดว่าแฟนหงส์กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ต้องเห็นด้วยแน่นอน เพราะมันดูมันส์ น่าเชียร์ แต่ปัญหาตอนนี้ เราคิดว่า มันเกิดจากความไม่มั่นใจมากกว่า เรื่องชื่อชั้นนักเตะ มันเป็นสิ่งที่สร้างกันได้ มีนักเตะมากมายที่ดูธรรมดา แต่เล่นไปเล่นมากลายเป็นเทพ ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้เวลาในการพัฒนานานแค่ไหน โดยเฉพาะการปรับตัวให้เข้ากับระบบ บางทีมันอาจง่ายกว่า ถ้าเราไปซื้อนักเตะที่เข้ากับระบบได้เลย แต่สำหรับลิเวอร์พูล ปัญหามันมากกว่านั้น เพราะแม้แต่ระบบยังเพิ่งเริ่มสร้างขึ้นมาใหม่เลย แถมเรายังมีข้อจำกัดเรื่องการซื้อนักเตะในประเด็นของความดึงดูด ...เราไม่ได้ไปเล่นบอลยุโรป มันมีผลมากนะคะ บางที มีเงินจ่ายให้ แต่นักเตะเค้าไม่อยากมาก็มี เราก็ต้องมองหาตัวเลือกอื่นแทน ซึ่งแน่นอนว่าตัวเลือกเบอร์ 2 ไม่มีทางดีไปกว่าเบอร์ 1 หรอก แต่เราก็ทำได้แค่นี้ และเรื่องของวิถีทางของสโมสรบางอย่างที่เราคิดว่ามันอาจทำให้ประสบความสำเร็จช้าลง แต่เราเห็นด้วยแล้วที่ทำแบบนี้ อาจจะงง เอาเป็นว่า สมมติลิเวอร์พูลรวยเท่าแมนซิ ลิเวอร์พูลจะไม่มีวันยอมจ่ายค่าเหนื่อยนักเตะแพงเกินจริงเป็นอันขาด หรือกระทั่งการซื้อนักเตะก็ตาม ถ้าไม่จำเป็น เราจะไม่จ่ายเกินจริง จะไม่ทุ่มเงินซื้อ ไม่ได้ว่าแนวทางของเชลซีและแมนซิไม่ดีนะคะ มันดีแหละ เพราะจะทำให้ทีมประสบความสำเร็จได้เร็ว แต่ลิเวอร์พูลจะไม่ทำแบบนั้นแน่ๆ ราฟาเป็นคนริเริ่มสร้างระบบอคาเดมี่ของทีมขึ้นมาใหม่ และมันก็กำลังไปได้สวย อีกไม่นาน เราจะได้เห็นนักเตะดาวรุ่งพุ่งขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่มากกว่าที่เป็นอยู่ และฝีเท้าจะดีกว่ารุ่งก่อนๆ ซึ่งตอนนี้ทีมชุดใหญ่ ชุดสำรอง และเยาวชน ต่างก็เล่นในรูปแบบไม่ต่างกัน เคนนี่เคยเป็นผู้อำนวยการอคาเดมี่ เขารู้จักเด็กทุกคน เขาจะรู้แน่ว่าใครดีพอและพร้อมแค่ไหน เมื่อก่อน ดาวรุ่งของทีมเรา ถ้าให้ยืมตัว มันต้องไปทีมระดับแชมเปี้ยนชิพ ตอนนี้เริ่มมีข่าวว่าโบลตันอยากได้เด็กหงส์ 2 คนไปช่วยแบบยืมตัวแล้ว สิ่งเล็กๆเหล่านี้มันเป็นพัฒนาการที่น่ายินดีมาก และเราก็เชื่อว่า อีกไม่นาน ระบบอคาเดมี่ของทีมจะดีพอสำหรับทีมชุดใหญ่ ส่วนเรื่องการเล่นในทีมชุดใหญ่ เราคิดว่า การกลับมาของเจอร์ราร์ด จะช่วยให้ทุกคนมีความมั่นใจมากขึ้น ไม่ได้คิดจะพึ่งแต่กัปตันนะคะ แต่มันจะมีความเชื่อมั่น เราเป็นแค่แฟนบอล เวลาทีมลงเล่นโดยมีกัปตัน มีนมักรู้สึกอุ่นใจเสมอ และด้วยการเล่นของเขา มันส่งเสริมให้เพื่อนเชื่อมั่นได้ อย่างเกมกับนิวฯ เมื่อคืนนี้ กัปตันตั้งใจลงไปปั้นแคร์โรลล์โดยเฉพาะ เปิดลูกให้ได้ลุ้นมาก ถ้ามีเวลามากกว่านี้อีกซักหน่อย บางทีแคร์โรลล์อาจทำประตูได้ไปแล้วก็ได้ ทั้งหมดมันจะทำให้ลูกทีมเชื่อมั่นมากขึ้น ว่าเด๋วมีโอกาส เด๋วยิงได้ เด๋วยิงเข้า จากคุณ : howk_ky เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 19:32:47

ความคิดเห็นที่ 84 ยุคนั้น เกลียด จอห์นบรานส์ มาก ออกบอลทางปีกโยนเข้าหัวกองหน้ายังกะจับวาง เริ่มเชียร์บอลเหมือน จขกท. แมนยู มิลวอลล์ ไบเออร์ ฟิออ 4 ทีมนี้มวยรองหมด แล้วมวยรองก็มีตั้งหลายทีม ทำไมต้อง 3 ทีมนี้ ? ดูเทป(ยุคนั้นเรียกกันยังงี้จริงๆ...เทป) ในทีวีเห็น 4 ทีมนี้ เวลาที่เจอทีมใหญ่ไม่เคยติ๊ดชึ่งเหมือนมวยไทยยก 5 เล่นเหมือนแรมบ้าชกมวย ใครเป๋ รึหมดแรงแค่คนเดียวจากจาก 11 คน โดน! ตอนนี้ก็เหลือแต่มิลวอลล์ที่ยังไม่ยอมโผล่มาเวทีใหญ่ซักกะที แถมรูดมหาราชไปจนจะออกนอกลีกก็เคยมาแล้ว ตอนนี้ก็ขยับจ่อจะขึ้นมาหลายเพลา แต่ยังไม่มีปัญญาซักกะที เฮ่อ! จากคุณ : kwwcy เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 55 10:40:25

ความคิดเห็นที่ 85 KD ยุค 80 ลืมกองหลังสารพัดประโยชน์ไปคนนึงนะครับ ไม่เห็นกล่าวถึงเลย ผมคิดถึง สตีฟ นิโคล ครับ รับยอด บุกเยี่ยม ยิงแจ่ม แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 55 11:26:21 จากคุณ : lotteryKitchen เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 55 11:25:16