 |
คุณซาโนสุเกะ ผมขอถกกันฉันท์มิตรนะครับ ถ้า โอเค เราก็จะคุยกันได้ยาว ๆ โดยใช้เหตุผลกัน ถ้าคุณไม่ชอบใจผมก็จะหยุดอยุ่ที่คอมเมนท์นี้ครับ จะได้ไม่เคืองกัน
อย่างที่ผมบอกไว้ใน #48 คือผมคิดว่าตามรายงานที่อ่าน เอฟเอน่าจะใช้แนวทางการตัดสินอย่างนี้ ใช่หรือเปล่า? เลยอยากถามความเห็นท่านอื่น มากกว่าจะบอกว่าเอฟเอทำถูกครับ
กรณีนี้ต่างฝ่ายต่างให้การปรักปรำกัน ซัวเรซว่าเอฟร่าด่าก่อน และ มีคำว่าจิ๋มน้องสาว และ ไอ้แอฟริกาใต้ ส่วนเอฟร่าก็ให้การว่าไม่ได้พูดอย่างนั้น แต่ให้การว่าซัวเรซเป็นฝ่ายด่าเค้าว่า นิโกร หลายคำ สรุปคือ ทั้งคู่ต้องมีคนโกหก
การที่คุณให้ความเห็นใน #56 นั่นคือคุณเชื่อว่าเอฟร่าด่าซัวเรซก่อนว่าไอ้แอฟริกาใต้ แต่เอฟร่าให้การกับเอฟเอว่าไม่ได้พูด ดังนั้นจะเอาตรงนั้นมาใช้ตัดสินเหตุการณ์คงไม่ได้เพราะตราบใดที่ยังไม่มีการตัดสิน คำพูดของซัวเรซก็เป็นแค่ข้อกล่าวหา ตามรายงานที่เอฟร่าให้การดังนี้
5. The FA's case, in short, was as follows. In the goalmouth, Mr Evra and Mr Suarez spoke to
each other in Spanish. Mr Evra asked Mr Suarez why he had kicked him, referring to the
foul five minutes previously. Mr Suarez replied "Porque tu eres negro", meaning "Because
you are black". Mr Evra then said to Mr Suarez say it to me again, Im going to punch
you. Mr Suarez replied "No hablo con los negros", meaning "I don't speak to blacks". Mr
Evra continued by saying that he now thought he was going to punch Mr Suarez. Mr
Suarez replied "Dale, negro, negro, negro", which meant "okay, blackie, blackie, blackie".
As Mr Suarez said this, he reached out to touch Mr Evra's arm, gesturing at his skin. Mr
Kuyt then intervened. When the referee blew his whistle and called the players over to
him shortly after the exchanges in the goalmouth, Mr Evra said to the referee "ref, ref, he
just called me a fvcking black".
เพราะฉะนั้นถือว่าคำให้การของทั้งคู่ไม่เหมือนกันสำหรับเอฟเอ เอฟเอต้องหาคนที่น่าจะโกหกมากที่สุด ถ้าใครมีพิรุธหรือให้การขัดกับความเป็นจริงของเอฟเอ ทีนี้เอฟเอไปฟันธงว่าซัวเรซโกหก ดังนั้นเอฟเอจึงเชื่อว่าคำให้การของเอฟร่าเป็นจริงส่วนใหญ่ จึงได้ลงโทษซัวเรซไงครับ แถมน่าจะเชื่อคำให้การของเอฟร่ามากทำให้ซัวเรซโดนแบนเยอะ เพราะที่เอฟร่าให้การไปซัวเรซด่าแรงมากเลย
ส่วนประเด็นอื่นที่ซัวเรซให้การไม่ว่าจะเป็น เอฟร่าด่าจิ๋มน้องสาว หรือ ด่าซัวเรซไอ้แอฟริกาใต้ เอฟเอคงไม่เชื่อละครับ ไม่งั้นเอฟร่าคงต้องโดนแบนบ้างแล้ว เหมือนคนสองคนมาฟ้อง พอจับได้ว่าคนนึงโกหกเค้าก็จะเชื่อคำพูดอีกคนทั้งหมด แต่คนที่เค้าคิดว่าโกหกก็จะไม่เชื่อเลย
อันนี้เป็นการวิเคราะห์ว่าเอฟเอน่าจะทำงานอย่างนี้นะครับ ไม่ใช่ว่าเป็นความคิดผมที่ตัดสินว่าใครถูกผิด เรื่องนี้ทั้งคู่ต้องมีคนโกหกเพียงแต่เป็นใครผมไม่รู้ และผมก็ให้ความเห็นไม่ได้เพราะผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เพียงแต่เอฟเอคิดว่าเป็นซัวเรซ ผมจึงคิดว่าน่าจะเป็นกระบวนการเช่นนี้ ผมอาจจะผิดก็ได้ที่คิดว่าเอฟเอคิดอย่างนี้ เอฟเอก็อาจจะผิดก็ได้ที่ไปเชื่อเอฟร่า เพราะโดยส่วนตัวผมก็ไม่ได้มองว่า เอฟเอ จะเป็นหน่วยงานที่มีมาตรฐานเหมือนศาล หรือ ผู้พิพากษา แค่กลุ่มคนที่เข้าเพราะชื่อเสียงและผลประโยชน์เท่านั้น
แต่ก็เห็นด้วยกับคุณซาโนสุเกะ ตรงที่ถ้าซัวเรซบอกว่าไม่ได้พูดคำว่า นิโกร การสืบเรื่องราวคงจะยากกว่านี้เพราะไม่มีพยานหลักฐานอะไร แต่พอยอมรับออกมาว่าพูด ซัวเรซก็เลยเป็นรองเอฟร่าละครับ
| จากคุณ |
:
mayerboss 
|
| เขียนเมื่อ |
:
วันปีใหม่ 55 16:43:38
|
|
|
|
|
ผมอ่านรายงานคดีเหยียดผิวของซัวเรสจบแล้วครับ มาคุยกัน
