ความคิดเห็นที่ 1 ตอบแบบเป็นกลางโคตรๆเลยนะ เป็นทีมใหญ่ของประเทศอังกฤษทั้งคู่ มีการแข่งขันมาโดยตลอดในช่วยหลายสิบปีที่ผ่านมา ความสำเร็จก็มากพอสมควรท้้งคู่ ไม่อยากพูดว่าทีมใหญ่ประสบความสำเร็จมากกว่าเดียวหาว่าเข้าข้าง แค่นี้แหละที่ผมรู้ จากคุณ : Kamar เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 14:23:55

ความคิดเห็นที่ 2 แข่งขันความยิ่งใหญ่ ในอังกฤษ อดีตลิเวอร์พูลยิ่งใหญ่ คับเกาะอังกฤษ ด้วยการเป็นแชมป์ ลีกสูงสุดขณะนั้น (ดิวิชั่น 1 ) 18 สมัย และมีนักเตะระดับตำนานมากมาย มีประวัติศาสตร์การสร้างทีม เหตุการณ์ที่เป็นประวัติศาสตร์ฟุตบอลอยู่มาก และแฟนฟุตบอลมากมายทั่วโลก แมนฯยูไนเต็ด  ก็เช่นเดียวกัน แชมป์ลีกสูงสุด (ดิวิชั่น 1 (เดิม) + พรีเมียร์ลีก) 19 สมัย มีนักเตะระดับตำนานมากมาย มีประวัติศาสตร์ เหตุการณ์ที่เป็นประวัติศาสตร์ฟุตบอลมากมาย และแฟนบอลจำนวนมาก และด้วยการตลาดในยุคใหม่ของแมนฯยูไนเต็ด ทำให้ทีมประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจนอกสนามด้วย จึงสร้างชื่อเสียงและแฟนบอลจำนวนมาก ประเทศไทย มีการถ่ายทอดฟุตบอลอังกฤษมานานแล้ว ด้วยการเล่นที่เร็วและดุดัน เอ็นเตอร์เทนแฟนบอล จึงทำให้ความนิยมในฟุตบอลอังกฤษในประเทศไทยนั้นมีมาก และเชียร์กันอยู่ 2 ทีมนี้เป็นจำนวนมากกว่าแฟนทีมอื่น จากคุณ : NuTtZ_P เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 14:30:13

ความคิดเห็นที่ 3 ทีมนึง ประสบความสำเร็จ ช่วง ยุค 80   อีกทีม ก็เริ่มต้นยุค 90 (ยุค60ก็เคยมาแรงอยู่พักนึง) ต่อยอด.. จนถึง ณ ตอนนี้ ... จริงๆหาเหตุผล การเกลียด นี่ไม่ออกเลยนะถ้าเอา ประโยคที่ผมเขียนมาวิเคราะห์ดู หรือว่า คิดกันไปเอง ว่ามันต้องกลียดกัน .. จากคุณ : พริบพรรณดาว เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 14:33:50

ความคิดเห็นที่ 4 เค้าแย่งสีแดงกันอะ จากคุณ : กร๊วกคุง เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 14:36:25

ความคิดเห็นที่ 5 เพราะ มาม่า อร่อย จากคุณ : My membery เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 14:45:53

ความคิดเห็นที่ 6 อธิบายยากพอๆกับทำไมเด็กช่างกลต้องตีกัน จากคุณ : แมวพุงป่องหูกาง เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 14:48:12

ความคิดเห็นที่ 7 การเป็นทีมใหญ่ ทางเหนือของอังกฤษ ช่วง ลิเวอร์ ยิ่งใหญ่ แต่ยอดสถิติ กองเชียร์ที่แยะสุดกลับ เป็น แมน ยู จากคุณ : Achaki Oddy เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 15:50:53

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องของการไม่ถูกกันของสองเมืองนี้มาจากการที่แมนเชสเตอร์ในตอนนั้นไกลายเป็นเมืองอุตสาหกรรมหลักของโลกไปแล้ว แต่การจะขนส่ง และนำเข้าสินค้า และวัตถุดิบนั้น จำเป็นจะต้องนำเข้าผ่านจากทางเมืองลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นเมืองท่าหลักของประเทศอังกฤษ เนื่องจากเมืองแมนเชสเตอรืไม่มีพื้นที่ติดทะเล เนื่องด้วยไม่มีทางเลือก เมืองลิเวอร์พูลจึงมักขึ้น และเก็บภาษีค่าผ่านทางแพงๆ อยู่เสมอ จึงทำให้คนแมนเชสเตอร์ไม่พอใจ คนแมนเชสเตอร์จึงได้ทำการขึดคลองลงทะเลขึ้นมาอีกอัน เพื่อเลี่ยงการเสียค่าผ่านทางและค่าท่าเรือ ทำให้คนลิเวอร์พูลไม่พอใจเช่นกัน จึงเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการหมั่นไส้กันของทั้งสองเมือง และเนื่องจากการค้า และการขนส่งอันรุ่งในช่วงยุคทองของทั้งสองเมืองนี้ ทางรถไฟสาธารณะแห่งแรกของโลกก้ได้ถือกำเนิดขึ้น โดยเดินทางจากลิเวอร์พูลมาเป็น แมนเชสเตอร์ เป็นเที่ยวแรกของโลก โดยได้มีการเถียงกันว่า ตกลง เมืองไหน ได้เป็นเมืองแรกที่มีทางรถไฟสายแรกของโลก โดยที่ลิเวอร์พูลอ้างว่าเป็นของตน เพราะเริ่มต้นเดินทางที่ลิเวอร์พูล แต่ ชานชลา อยู่ที่แมนเชสเตอร์ ซึ่งเหตุการณ์นี้ คนแมนเชสเตอร์ แซวคนลิเวอร์พูลว่า 'ที่เค้าเดินทางจากลิเวอร์พูลมาแมนเชสเตอร์เป็นเที่ยวแรก ก็เพราะเมืองลิเวอร์พูล"ห่วย"ใครๆก็อยากหนีจากเมืองมาอยู่แมนเชสเตอร์กันทั้งนั้น ' ในปี 1820 มีบริษัทอเมริกัน มาตั้งที่เมือง Trafford ในแมนเชสเตอร์กว่าสี่ร้อยบริษัท ในปี 1950 ผ้าฝ้ายกว่า 65% ของโลก ทอมาจากเมืองแมนเชสเตอร์ เมืองแมนเชสเตอร์มาพังครั้งแรกในช่วงสงคามโลกครั้งที่สอง สิ่งก่อสร้างเกือบ 70% ถูกทำลาย ในปี 1975 เมืองแมนเชสเตอร์ เป็นเมืองที่มีจำนวนนักศึกษามหาวิทยาลัยมากที่สุดในยุโรป และ เป็นเมืองอันดับต้นๆของอังกฤษในเรื่องการศึกษา ในช่วงนั้นเมือง Salford ได้สร้างท่าเรือสำหรับเรือสินค้าขนาดใหญ่ ซึ่งปัจจุบันคือ Salford Quey แหล่งท่องเที่ยวที่สวยที่สุดในเมือง Salford กลายเป็นย่านการค้าที่โดงดังที่สุด และกลายเป็นเมืองที่รวยที่สุดในอังกฤษในช่วงนั้น แมนเชสเตอร์มาตกต่ำเมื่ออังกฤษยกเลิกนโยบายการอุตสาหกรรม และ เมือง Salford ในช่วงนั้น กลายเป็นเมืองที่จนที่สุดในอังกฤษ และคนกว่าครึ่ง ย้ายถิ่นฐานออกจากแมนเชสเตอร์ ในปี 1996 แมนเชสเตอร์ถูกวางระเบิด โดยกลุ่ม IRA ทำให้สิ่งก่อสร้างตรงใจกลางเมืองหายไปแถบหนึ่ง (บางคนบอกว่าเทศมนตรีวางระเบิดเองหรือเปล่า เพราะหลังจากระเบิด ก็ได้ก่อสร้างเป็นย่านช๊อปปิ้งแทน ซึ่งทำให้เศรษฐกิจของเมืองดีขึ้นพอสมควร http:// lovevalley.มัลติply.com/journal/item/9?&show_interstitial=1&u=%2Fjournal%2Fitem จากคุณ : ผมเชียร์ลิเวอร์พูล เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 16:21:58

ความคิดเห็นที่ 9 ตอบแบบเป็นกองเชียร์ทั้งสองทีมเลยนะ..(ไม่ถูกใจใครก็ขออภัยด้วย) หงส์แดงกำลังตกอยู่ใน "กับดักความสำเร็จ" จากที่เคยเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอังกฤษ แต่ห่างหายจากความสำเร็จมานาน ทำให้หิวโหย และต้องการจะกลับสู่ความยิ่งใหญ่ และความยิ่งใหญ่ในอดีต มันทำให้ไม่เคยรู้สึกตัวว่า "ไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาดูถูกก็ได้" ความรู้สึกนี้ก็เลยทำให้เด็กหงส์ส่วนใหญ่ "ไม่ยอม" เวลามีใครมาเยาะเย้ย ดูถูกทีม และมักวาดฝันถึงการเป็นแชมป์เสมอ ๆ ซึ่งก็อาจสร้างความ "หมั่นไส้" ให้กับแฟนบางทีม ก็เลยหันมา "หยอกล้อ" เด็กหงส์ด้วยความขบขัน ผีแดงยิ่งใหญ่มาก ๆ ตลอดเวลายี่สิบกว่าปี กลายเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่กว่าหงส์แดงไปแล้ว แฟน ๆ รุ่นใหม่และรุ่นเก่าก็เลยผยอง หลังจากถูกกดอยู่นาน พอเป็นฝ่ายอยู่เหนือบ้าง ก็เลยวางกล้ามใหญ่โต แขวะไม่เลือกหน้า แซวไม่เลือกเพศและวัย ..ยิ่งเห็นเด็กหงส์ไม่ยอมเวลาโดนแซว ก็เลยยิ่งสนุก จากที่อาจจะเฉย ๆ ไม่เกรียน พอเห็นแซวแล้วออกอาการ ก็เลย "จัดให้" สาสมใจกันไป.. อันนี้วิเคราะห์จากแฟนบอลในพันทิปนะ... แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 55 17:19:12 จากคุณ : เพียงแค่เปิดใจ เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 17:17:29

ความคิดเห็นที่ 10 กิ๊ฟท์เหลือน้อย ยกนิ้วให้แล้วกันนะ คห.9 จากคุณ : ผีกรุแตก เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 18:35:29

ความคิดเห็นที่ 11 ที่ #8 พูดมานั้น ถ้าเป็นเรื่องจริง ก็เป็นข้อมูลใหม่ที่ไม่ทราบมาก่อน แต่มันก็ดูจะเป็นเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของคนที่อาศัยในเมือง และความเจริญของ 2 เมืองนี้มากกว่า อาจจะยังไม่ใช่ชนวนเหตุซะทีเดียว เพราะอันที่จริงคนที่อาศัยอยู่ในเมืองทั้ง 2 ก็ไม่ได้เป็นแฟนบอล แมนฯยูฯ หรือ ลิเวอร์พูล ไปซะทั้งหมด ยังมีหลายคนที่เชียร์ แมนฯซิตี้ เอฟเวอร์ตัน หรือ ทีมอื่นอีกหลายทีม บางคนอาจจะเชียร์ทีมจากลอนดอนก็มี สำหรับผม เท่าที่ทราบ จุดเริ่มต้นมันมาจากตอนที่ แมนฯยูฯ สร้างสนามโอลด์แทรฟฟอร์ดเสร็จใหม่ๆ แล้วก็เชิญทีม ลิเวอร์พูล มาเป็นคู่แข่งขัน ในนัดฉลองเปิดสนามใหม่ เมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 1910 แต่แทนที่ แมนฯยูฯ จะชนะเพื่อฉลองสนามใหม่ หรือเสมอกันไปแบบกระชับมิตร กลับกลายเป็นว่า ลิเวอร์พูล ชนะไป 3-4 ตั้งแต่นั้นมา เวลา แมนฯยูฯ แข่งกับ ลิเวอร์พูล ทีไรก็จะเตะกันไฟแล่บใส่กันไม่ยั้งทุกที รวมทั้งแฟนบอลทั้งสองก็จะเยาะเย้ยถากถางกันด้วย นานๆเข้ามันก็กลายเป็น แดงเดือด อย่างที่เห็น จากคุณ : คืนอาจารย์ไปหมดแล้ว เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 18:45:29

ความคิดเห็นที่ 12 ผมว่า จริงๆ ไม่ถึงกับเกลียดกันมากมาย ตอนเครื่องบินตกที่มิวนิค ลิเวอร์พูลยังให้ยืมนักเตะตั้งหลายคน เป็นเรื่องของ ความยิ่งใหญ่ในอดีต ปะทะ ปัจจุบันมากกว่า จากคุณ : Sifer2002 เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 18:59:03

ความคิดเห็นที่ 13 #11 แต่พูดอีกมุมหนึ่ง ถึงแม้ว่าไม่ใช่คนแมนเชสเตอร์ทั้งหมดจะเป็นแฟนแมนยู แต่แฟนแมนยูเป็นคนแมนเชสเตอร์ เข้าใจไหมครับ แต่ที่ผมไม่เข้าใจคือ คนอีกซีกโลกทำไมต้องมาเกลียดกัน ด้วยเหตุผลอะไร จากคุณ : Lotchan เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 20:18:20

ความคิดเห็นที่ 14 ^ ^ ^ วุฒิภาวะด้านอารมณ์และการใช้เหตุผลครับ จากคุณ : กระต่ายน้อยเล่นโยคะ เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 21:56:26

ความคิดเห็นที่ 15 ในเมืองลิเวอร์พูล แฟนลิเวอร์พูลเอฟซีก็ไม่ได้เยอะไปกว่าแฟนเอฟเวอร์ตันเท่าไรนัก ส่วนในเมืองแมนเชสเตอร์ แฟนยูไนเต็ดอาจจะน้อยกว่าชนชาวซิตี้ด้วยซ้ำ แต่ด้วยความสำเร็จและการตลาดของทั้งสองทีมทำให้มีแฟนทั่วโลกมากมาย ฉะนั้นการแข่งขันจึงเกิดขึ้นโดยเฉพาะยุค 80 เป็นต้นมาที่การสื่อสารทั่วโลกเริ่มแคบลงทำให้แต่ละทีมสร้างชื่อและประสบความสำเร็จ เราอาจะเห็นว่าทีมชาติอังกฤษไม่เคยประสบความสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันมาตั้งแต่ยุค 80  แต่อังกฤษก็สร้างทีมสโมสรให้โลกติดตามและจดจำได้เป็นอย่างดี สังเกตุว่าแฟนบอลเอาแค่ประเทศไทยส่วนใหญ่ก็จะเริ่มเป็นแฟนทีมต่างๆตั้งแต่ยุค 80 เป็นต้นมาซะส่วนใหญ่โดยเฉพาะทีมจากอังกฤษร้อยละกว่า80 เลยก็ได้ และสองทีมดังก็เป็นที่เลือกเชียร์ของกองเชียร์ซะส่วนใหญ่อีกด้วย ดังนั้นเวลาสองทีมนี้เตะกันมันถึงเป็นอะไรมากกว่าเกมฟุตบอลนัดนึง แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 55 22:21:58 จากคุณ : Petshop boy เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 22:20:54

ความคิดเห็นที่ 16 #13 ผมกำลังพยายามจะวิเคราะห์ว่า ข้อมูลที่ #8 บอกมานั้นมันจริงหรือไม่จริง ซึ่งผมคิดว่าไม่น่าจะจริง เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงไม่ใช่แค่ทีมฟุตบอลหรือแฟนบอลที่จะไม่ชอบกัน แต่น่าจะเป็นทุกคนในเมืองทั้งสองมากกว่า ซึ่งผมไม่เคยได้ยินข่าวว่าคนในเมืองทั้งสองไม่ชอบหรือมีเรื่องวิวาทกัน เห็นมีแต่ข่าวแฟนบอล 2 ทีม เท่านั้น ผมพยายามจะเข้าไปดูข้อมูลที่ #8 ใช้อ้างอิงตามลิ้งค์ที่โพสไว้ ก็ไม่มีเว็บนั้น (ลองด้วย Firefox และ Chrome) ตรงนี้ถ้ามีก็รบกวน #8 บอกลิ้งปรืออ้างอิงอีกที ผมก็อยากทราบเหมือนกัน ส่วนที่คุณว่า "แต่แฟนแมนยูเป็นคนแมนเชสเตอร์" ก็ดูจะไม่ครบถ้วนและยังสนับสนุนสิ่งที่ผมบอกไว้อีกด้วย! เพราะแฟนแมนฯยูฯไม่ได้มีแค่คนแมนเชสเตอร์เมืองเดียว ยังมีคนเมืองอื่นด้วย ดังนั้นมันยิ่งไม่น่าจะเป็นเหตุผลตามที่ #8 ว่า และผมก็ได้บอกไปแล้วว่า "ถ้าจริงก็ถือเป็นความรู้ใหม่" ซึ่งผมก็บอกไว้ใน #11 ลองอ่านดีๆครับ อ้อ สุดท้าย ที่ผมบอกไปทั้งหมดก็แค่พยายามจะตอบคำถาม จขกท ว่ามันเริ่มมาจากไหน โดยมองไปที่ทีมและแฟนบอลทั้งสองทีมในอังกฤษในอดีต ไม่เกี่ยวกับแฟนบอลที่ประเทศอื่น หรือบ้านเราที่พึ่งจะมารู้จัก 2 ทีมนี้มากขึ้นเมื่อราวยุค 80 เหมือนกับที่ #15 บอกนะครับ จากคุณ : คืนอาจารย์ไปหมดแล้ว เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 23:20:40

ความคิดเห็นที่ 17 เข้ามาอ่าน จากคุณ : เกลียดคนไทยและเยอรมัน (swedishNO.1) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 04:57:28

ความคิดเห็นที่ 18 กระทู้มีสาระนะครับเนี่ย จากคุณ : tuwattua เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 15:40:08