***รายละเอียดการเสียชีวิตของ "โค้ชเหม่ง" ประพล พงษ์พานิช***
|
 |
ช็อก! "น้าเหม่ง" ประพล พงษ์พานิช กุนซือทีมซีเกมส์ เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลว โดยศพตั้งอยู่ที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ศาลา 6 กำหนดสวดอภิธรรม เวลา 16.00 น.
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา "น้าเหม่ง" ประพล พงษ์พานิช อดีตกุนซือทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่ประเทศอินโดนีเซีย เสียชีวิต ด้วยอาการหัวใจล้มเหลว
นางธิพดา พงษ์พานิช ภรรยา เผยว่า "น้าเหม่งมีอาการแน่นหน้าอกตั้งแต่เมื่อคืน แต่ไม่ยอมไปหาหมอ เพราะเข้าใจว่าเป็นเพราะกรดไหลย้อน จนถึง 8 โมง พี่พยายามเรียกให้น้าเหม่งไปหาหมอแต่น้าเหม่งไม่ยอมไป จากนั้นอาการก็เริ่มทรุดหนักจนเพื่อนบ้าน และรปภ.หมู่บ้านเข้ามาช่วยกันปั้มหัวใจ และเรียกรถพยาบาล เมื่อรถพยาบาลมาถึงทีมแพทย์ฉีดยากระตุ้นหัวใจให้ พร้อมกับช่วยกันปั้มหัวใจนานกว่า 1 ชม. แต่ไม่เป็นผล เมื่อถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ์ หมอบอกว่าน้าเหม่งเสียชีวิตตั้งแต่อยู่บนรถ ด้วยอาการหัวใจล้มเหลว"
ภรรยาน้าเหม่งกล่าวต่อว่า ตนรู้สึกเสียใจมาก ไม่คิดว่าน้าเหม่งจะไปเร็วขนาดนี้ ซึ่งตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ ส่วนเรื่องการสวดอภิธรรมศพ ตนให้ทีมงานของน้าเหม่งจัดการ โดยศพจะไว้ที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ศาลา 6 กำหนดสวดอภิธรรม เวลา 16.00 น.
ด้าน "บิ๊กกาเซ็ม" เกษม จริยวัฒน์วงศ์ อดีตผู้จัดการทีมชุดซีเกมส์ครั้งที่ 26 ที่ประเทศอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ครั้งสุดท้ายที่ตนได้โทรศัพท์พูดคุยกับ น้าเหม่ง คือประมาณวันพฤหัสที่ผ่านมา ซึ่ง น้าเหม่ง กล่าวกับตนเองว่ามีสโมสรราชประชา ไทยแลนด์ เอฟซี ในลีกดิวิชั่น 1 ทาบทามให้ไปคุมทีม และตนกับ น้าเหม่ง ได้มีการปรึกษาพูดคุยกันมาตลอด ขณะเดียวกันตนเห็นว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่ น้าเหม่ง จะกลับมารับตำแหน่งกุนซืออีกครั้ง หลังจากหยุดพักไปนานตั้งแต่จบซีเกมส์ ทั้งนี้ตนรู้สึกช็อกและเสียใจเป็นอย่างมาก ทั้งๆ ที่เห็นว่า น้าเหม่ง เป็นคนแข็งแรงแต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะจากไปเร็วเช่นนี้ ส่วนจะเป็นเรื่องความเครียดจากการพาทีมตกรอบแรกซีเกมส์หรือไม่ตนคิดว่า เป็นเพียงเสี้ยวเล็กๆ เพราะตนกับ น้าเหม่ง คุยกันมาตลอดหลังจบซีเกมส์ และเข้าใจทั้งคู่ว่าหากทำทีมประสบความสำเร็จก็ถือว่าเป็นเรื่องดีไป แต่หากพลาดก็ต้องยอมรับมัน ที่ผ่านมาต่างคนต่างให้กำลังใจกันทั้งคู่เพราะต่างคนต่างก็เครียดไม่แพ้กัน
สำหรับประวัติของ "น้าเหม่ง" ประพล พงษ์พานิช นั้น เคยพาการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคคว้าเเชมป์ไทยลีก 1 สมัย ก่อนจะมาคุมทีมเเบงคีอก ยูไนเต็ด ในการเเข่งขันไทยพรีเมียร์ลีกเเละล่วงไปสู่ดิวิชั่นหนึ่ง เเละงานสุดท้ายคือการคุมทีมชาติไทยชุดลุยซีเกมส์ที่อินโดนีเซีย
Credit:
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1328249171&grpid=&catid=07&subcatid=0702
| จากคุณ |
:
Field Marshal 
|
| เขียนเมื่อ |
:
3 ก.พ. 55 14:42:11
|
|
|
| 
