ความคิดเห็นที่ 1 เวกัลตะ เซนไดก้าวเข้ามาเป็นทีมชั้นนำของเจลีกทีมหนึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การแข่งขันโตโยต้าพรีเมียร์คัพในปีนี้ คงสนุกและสูสีกว่าเดิม รูปเกมคงออกมาสูสีกว่าปีที่แล้ว ที่ผู้จัดไปดึงเอาโชนัน เบลล์มาเร่ ทีมอันดับสุดท้ายมาเตะ แล้วสื่อบ้านเราก็ชูประเด็นที่ว่า “อ้า...เป็นทีมแข็งแกร่งมากนะ...และเป็นทีมที่ปลุกปั้นฮิเดโตชิ นากาตะขึ้นมา” โธ...ชีวิตช่างบัดซบ เอาตำนานเก่าๆมาทามม้ายย... ทำไมไม่เชิญทีมในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของนากาตะมาด้วยเล่า เป็นแกรนด์สปอนเซอร์ของนาโกย่า แกรมปัสทั้งที น่าจะเชิญมาเตะเป็นนัดพรีซีซั่นของแกรมปัสก็ได้ กลับมาที่เรื่องของเรากันต่อ เวกัลตะ เซนได ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1988 ภายใต้ชื่อของสโมสรฟุตบอล “โรงไฟฟ้าโตโฮขุ”...แหม เข้าทางเลยทีมโรงไฟฟ้ามาเจอกับอดีตทีมการไฟฟ้าฯ (ทีมนี้มีทีมฟุตบอลหญิงด้วยนะครับ ว้าวๆๆๆ) Tohoku Electric Power Soccer Club ลงเตะในย่านโตโฮขุ ได้ดิบได้ดีเป็นถึงแชมป์ภูมิภาคโตโฮขุ ซึ่งก็เหมือน Regional League บ้านเรานี่แหละครับ แล้วได้เลื่อนชั้นมาเล่น JFL เมื่อปี 1995 พร้อมทั้งแสดงถึงศักยภาพและความตั้งใจที่จะไปเป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพโดยในการนี้ สโมสรได้เปลี่ยนชื่อเป็น “บรัมเมลล์ เซนได” เวกัลตะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งต่อมาได้ร่วมลงนามเป็นภาคีสมาชิกเจลีกและก้าวเข้าสู่สถานะสมาชิกก่อตั้ง J2 เมื่อปี 1999 (เกร็ดความรู้ทั่วไป)สมัยที่โยชิคัตซึ คาวางูจิเข้ามาแย่งตำแหน่งผู้รักษาประตูมือหนึ่งในโยโกฮาม่า มารินอสกับทีมชาติญี่ปุ่นได้ เจ้าของตำแหน่งคนเดิมอย่างชิเงทัตซึ มัตซึนากะก็ย้ายมาร่วมทีมบรัมเมลล์ เซนไดนี่แหละครับ และยอดนักเตะอย่าง “ปีกขาโก่ง” ปิแอร์ “ลิตตี้” ลิตต์บาร์สกี้ หลังจากโกยเงินจากเจฟ ยูไนเต็ดมาได้สักพักก็ย้ายมาโกยเงินเยนกลับบ้านต่อที่เซนไดนี่แหละ (จริงก็ไม่ได้กลับไปไหนหรอก ลิตตี้ก็วนๆเวียนอยู่แถวญี่ปุ่น-ออสเตรเลียนี่แหละ) เวกัลตะได้รองแชมป์ J2 เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2001 ต้องขอบคุณฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมของมาร์คุส กองหน้าชาวบราซิล สัมผัสแรกในลีกสูงสุดของเวกัลตะช่างหอมหวาน ผมยังจำลูกที่เทรุโอะ อิวาโมโตะอัดฟรีคิกซ์ตูมเดียวในระยะกว่า 40 หลา ลูกพุ่งส่ายเป็นโคโยตี้เสียบตาข่ายอย่างสวยงามในนัดเปิดสนามเจลีกปี2002 ประตูนี้ถือเป็นลูกฟรีคิกซ์ที่ดีที่สุดลูกหนึ่งของเจลีก แต่ท้ายฤดูกาลเวกลัตะดันแผ่ว ฟอร์มดันตกกราวรูด โชคดีที่เวกัลตะเอาตัวรอดในปีแรกได้อย่างหวุดหวิด แต่ไม่ใช่สำหรับปีที่สองของเวกัลตะ เมื่อพวกเขาต้องรับรู้ว่าการอยู่ในลีกสุงสุดมันเป็นเรื่องโหดร้ายเพียงใด เมื่อเวกัลตะต้องจบฤดูกาล 2003ด้วยตำแหน่งรองบ๊วย เวกัลตะกลับไปตั้งต้นใหม่ใน J2 อีกครั้ง เตะไปเรื่อยๆจนกระทั่งปี 2008 เวกัลตะได้อันดับที่ 3 จริงๆแล้วเวกัลตะควรจะได้ขึ้นชั้นอย่างอัตโนมัติ แต่กฎการแข่งขันระบุว่าในปี 2008 ทีมที่ได้อันดับที่ 3 ของ J2 ต้องไปดวลเพลย์ออฟกับทีมที่ได้อันดับที่ 16 ของ J1 ซึ่งทีมที่ได้อันดับที่ 16 ของ J1 ในปีนั้น คือ จูบิโล่ อิวาตะ ยักษ์หลับทีมโปรดของ จขกท.นั่นเอง จขกท.จำได้ว่าตอนนั้นกลับไปเยี่ยมลูกสาวที่โคราช ไม่มีอินเตอร์เน็ต ต้องโทรเช็คผลบอลกับเพื่อนอย่างทุลักทุเล เพื่อนก็งง...ลีกอะไรว้า...ชื่อไม่คุ้นเลย นั่งอ่านทีละทีม ผมฟังไปก็ขำไป แต่พอรู้ว่าโตเกียว แวร์ดี้แพ้ด้วย ก็โล่งอกไปเปลาะนึง เอาล่ะจูบิโล่ตูไม่ตกชั้นแน่ๆ แต่พอมารู้ว่าเจฟ ยูไนเต็ดโกงความตายอย่างน่าด้านๆ โดนนำไปก่อน 0-2 แท้ๆ แต่ดันกลับมายิงคืน 4 ลูกรวดชนะเอฟซี โตเกียว ทีมชั้นนำในขณะนั้น 4-2 แทบช็อค... ...อเล็กซ์ มิลเลอร์ เด็กหงส์แดงที่ไปคุมเจฟ ยูไนเต็ดช่วงท้ายฤดูกาลนี่มันแน่จริงๆเว้ย... ทำให้จูบิโล่ลงมารั้งอันดับที่ 16 เมื่อจบนัดสุดท้าย ต้องมาเพลย์ออฟแย่งโควต้าสุดท้ายสำหรับเจลีก 2009 จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 17:00:22

ความคิดเห็นที่ 2 สิ่งที่ผมเห็นในเกมการแข่งขันวันนั้น และทุกวันนี้เวกัลตะก็ยังเป็นเช่นนั้นอยู่ นั่นคือ 1.กองหน้าของเวกัลตะไม่มีความคมมากพอ ใช้โอกาสเปลือง แม้ตัวเลือกในแดนหน้าจะมีความหลากหลาย มีเร็ว มีสุง มีเทคนิค แต่นอกจากคุณสมบัติที่ตนเองมี กองหน้าคนนั้นก็ทำได้ไม่ดีสักอย่าง แดนหน้าจึงขาดๆเกินๆ 2. กองหลังเวกัลตะช้า และเป็นธรรมชาติของกองหลังญี่ปุ่นที่ช้า เอาตัวจี๊ดๆไม่อยู่ๆ วันนั้นมัตซึอุระในวัย 19 ปี ใช้ความคล่องและความเร็วของตัวเอง ฉีกกองหลังของเวกัลตะออกเป็นชิ้นๆ สิ่งนี้แหละที่ผมเห็นว่าโออองซ่าทำได้อย่างแน่นอน   การเสียประตูลูกแรกในนัดที่สอง จูบิโล่บุกเข้ามาตรงกลาง มาเอดะวิ่งไปพื้นที่ว่างทางกราบซ้าย ซึ่งมันว่างมากๆแบบไม่มีใครประกบ จนมาเอดะมีเวลาแต่งบอลไปจนสุดเส้นหลัง เวลานั้นเวกัลตะจึงค่อยกรูลงไปที่มาเอดะ แล้วไงต่อ?...พื้นที่ตรงกลางก็ว่างอ่ะดิ แล้วเป็นมัตซึอุระที่ดีดอกเอาบอลเข้าไปนอนก้นตาข่าย   3.เมื่อบุกเพลิน เวกัลตะมักดันแผงหลังหมดขึ้นทั้งแผง เข้าใจว่ากองหลังเหล่านี้ต้องถูกดันขึ้นมาเพื่อทำให้การเปิดเกมรุกมีความต่อเนื่อง การเสียประตูในลูกที่สองนัดที่สองที่ยามาฮ่า สเตเดี้ยมบ่บอกว่า ในขณะที่เวกัลตะดันเกมขึ้นสูง คือ การดันขึ้นหมดจริงๆ ทิ้งหลังไว้ไม่กี่ตัว วันนั้นจูบิโล่ใช้การวางบอลยาวโดยใช้จังหวะให้น้อยที่สุด สกัดลูกเตะมุมก็หวดตูม ไม่ต้องจับ หวดเอาบอลดันไปหน้าเร็วที่สุด โดยมีผู้เล่นที่มีความสามารถในการกระชากลากเลื้อยห้อยหน้าไว้ 1 คนและก็เป็นทาคุยะ มัตซึอุระยิงประตูสำคัญพาจูบิโล่ รอดตกชั้นไปได้ แม้จะพลาดโอกาสเลื่อนชั้นไปอย่างน่าเสียดาย แต่เวกัลตะก็พยายาม พยายาม และพยายามครั้งแล้วครั้งเล่า จนในปี 2009 เวกัลตะก็คว้าแชมป์ J2 มาครองได้อย่างสมใจ ชนิดที่ไม่ต้องไปลุ้นเพลย์ออฟบ้าบออะไรนั่นให้ใจหายใจคว่ำ เหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อปีที่ผ่าน ผมจำได้ว่าเกมนั้นนาโกย่า แกรมปัสมีโปรแกรมไปเยือนเวกัลตะ เซนไดนี่แหละ เวกัลตะ เซนไดจำใจเตะ จนได้อันดับที่ 4 มาครองก็นับว่าใจแข็งพอสมควร ในขณะที่สโมสรร่วมเมืองอย่างโซนี่ เซนไดในลีก JFL ซึ่งอยู่ในชั้นที่ 3 ของปิรามิดฟุตบอล ทางสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นให้หยุดพักไปเลยนะครับ หนึ่งปีเต็มๆ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 17:02:35

ความคิดเห็นที่ 3 ผู้จัดการทีมหรือคันโทขุ ของเวกัลป์ตะ เซนได คือ มาโคโตะ เทกูระโมริ เป็นกุนซือหนุ่มไฟแรงฝีมือดี พาทีมเล็กๆจากเซนไดฝ่าอุปสรรคนานัปการ จบตำแหน่งที่ 4 ของเจลีกได้ ย่อมเป้นเรื่องที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ถ้าจะนับกุนซือเชื้อสายญี่ปุ่นที่มีฝีมือจริงๆ นอกจากอากิระ นิชิโนะ เทกูระโมริก็นับว่าเป็นคนที่มีฝีมือเช่นกัน เทกูระโมริอยู่กับเวกัลป์ตะมาตั้งแต่ปี 2004 มาต่อกันที่การเสริมทีมในช่วงปรีซีวั่น 2012 ที่ผ่านมา เวกัลตะทำได้น่าสนใจมาก แต่ผมไม่มีเวลา เพราะต้องรีบไปรับลูกจากโรงเรียน คงสรุปเอาแต่ดาวเด่นของเวกัลตะ หมายเลข 29 ไทไค อุเอโมโต้ อดีตกองหลังของจูบิโล่ อิวาตะที่ไปได้ดิบได้ดีกับทีมอื่น เซ็นเตอร์แบ็คคนนี้ย้ายมาจากเซเรโซ่ โอซาก้า หมายเลข 6 มาโคโตะ คาคุดะ อดีตเพื่อนร่วมทีมของปาร์ค จีซองสมัยที่ค้าแข้งอยู่กับเกียวโต ซังกะ สมัยนั้นเป็นเซนเตอร์แบ็คฝีเท้าดีอนาคตไกล เติมเกม ขึ้นมาเล่นลูกตั้งเตะ หวังลูกโหม่งได้ดี พื้นเพเป็นคนเกียวโต จึงไปไหนไม่เคยพ้นเกียวโต เล่นบอลกี่ทีๆก็ต้องแวะไปข้องเกี่ยวกับเกียวโต ซังกะ มีประสบการณ์ระดับทีมชาติกับทีมชุดเอเธนเกมส์เช่นเดียวกับฮายาชิ ผู้รักษาประตู สมัยอยู่เกียวโต ช่วงปี 2002 คาคุดะมีฟอร์มการเล่นที่สุดยอดมากๆ คาคุดะผนึกกำลังกับเทรุอากิ คุโรเบะ ปาร์คจีซอง ไดสุเกะ มัตซึอิ พาทีมเกียวโต ซังกะของพิม เวอร์บีค (มั้ง) คว้าแชมป์เอ็มเพอร์เรอร์คัพ2002มาครองได้สำเร็จ แต่พอเกียวโตปล่อยปาร์คไปให้พีเอสวี เกียวโตผลงานตกต่ำลงอย่างชัดเจน และตกชั้นไปในที่สุด   หมายเลข 13 อัตซึชิ ยานางิซาว่า อดีตกองหน้าทีมชาติญี่ปุ่น และอดีตกองหน้าของ “กวางเขาเหล็ก” คาชิม่า แอนท์เลอร์ส กองหน้าดาวโรจน์แห่งทศวรรษที่ 2000s มีความคมและความเร็วอยู่พอตัว แต่จิตใจไม่มั่นคง มักจะทำหมูหก ยิงนกตกปลาเอาดื้อๆ (ถ้ายิงแม่นกว่านี้ ญี่ปุ่นจะชนะโครเอเชียในฟุตบอลโลก 2006) แต่ผมขอเรียนตามตรงว่าในพ.ศ.นี้ ยุคของกองหน้าอย่างยานางิซาว่ามันจบลงไปตั้งนานแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องกลัวอะไร ความมุ่งมั่นความทะเยอทะยานมันหมดไปตั้งแต่เขากลับมาจากอิตาลีแล้ว กลับมาอยู่เกียวโต ซังกะได้ 3 ปีก็ดันเท้าบอดพาทีมตกชั้นซะงั้น กองหน้าคนนี้ไม่ต้องกลัวครับ แค่ระวังอย่างเดียวก็พอ   หมายเลข 15 ชินโงะ อคามิเนะ เจ้าของฉายา The Jubilo Killer เพราะชอบยิงจูบิโล่เสียเหลือเกินกองหน้าดาวซัลโว 14 ประตูของทีมเมื่อปีที่แล้ว มีประสบการณ์ในนามทีมชาติชุดมหาวิทยาลัยโลกที่อิซเมียร์ ตุรกีเมื่อปี 2005 ย้ายไปอยู่เอฟซี โตเกียว ต่อมาถูกดันไปเป็นกองหน้าคู่กับลูคัส เซเวริโน่ แต่มักประสบกับปัญหาบาดเจ็บในช่วงเวลาสำคัญ ยังไม่มีโอกาสติดทีมชาติชุดใหญ่ ได้แต่เพียงซ้อมร่วมกันในแคมป์ทีมชาติเท่านั้น   หมายเลข 15 โยชิอากิ โอตะ อดีตเด็กเก่าจูบิโล่ อิวาตะเช่นกัน เป็นตัวริมเส้นฝีเท้าดี กระชากและไปกับบอลได้ดี มีความเร็ว สำหรับดาวเตะต่างชาติที่น่าสนใจ มีคนมาบอกไปแล้วมั้งครับ เดวิด ซัคโคนี่ ดาวเตะบราซิลที่ถือพาสปอร์ตอิตาลี่ จริงๆอยู่พาลเมรัส แต่โดนยืมตัวไปหลายที่มาก แต่ขึ้นชื่อว่าบราซิลยังไงก็น่ากลัวอยู่วันยันค่ำ วิลสัน โรดริเกวซ ฟอนเซก้า มีประสบการณ์ในระดับเอเชียกับลีกจีนมาแล้ว แต่แหม...ลงเล่น 21 นัด ยิงได้ 3 ประตู มันน้อยไปนิดนึงนะ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 17:12:47

ความคิดเห็นที่ 4 นี่คงจะเป็นการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษที่มีความสูสีอยู่พอสมควร เมื่อเจ้าพ่อเกมรับของลีกชั้นนำเอเชียมาเจอกัน ใครจะเป็นฝ่ายอยู่ต่อ และใครจะเป็นฝ่ายไป ว่าแต่ ผมอยากจะเห็นฝีเท้าของอคามิเนะ (คนในรูป) จริงๆว่า ฉายา Jubilo Killer ท่านได้แต่ใดมา ปีที่แล้ว เวกัลตะมีผลงานในลีกที่ไม่ธรรมดาเลย ลงเล่น 34 นัด ชนะ 14 เสมอ 14 แพ้ 6 ยิงได้ 39 เสีย 25 ประตู ได้อันดับที่ 4....ตัวเลขพวกนี้บอกอะไรเรา? มันกำลังบอกพวกเราว่า จุดเด่นของเวกัลตะอยู่ที่กองหลังครับ รองลงมาก็คือกองกลางที่มีเรียง ยองกีเป็นผู้บัญชาการทัพหลวงเซนได ส่วนกองหน้า แหม...ช่างมันเหอะ แข่ง 34 ยิงได้ 39 น้อยกว่าพวกเวนต์โฟเรต์ โคฟุที่มีไมค์ ฮาฟเนอร์เป็นตัวชูโรงแถม จำนวนการยิงประตูก็สูสีกับรองบ๊วยอย่างอวิสป้า ฟูกูโอกะด้วยซ้ำ ผู้รักษาประตู ศิวรักษ์ ชูมัคเกอร์ (ขอแซวหน่อย ในฐานะแฟนศรีราชา เอฟซีที่แอบเคืองหลังจากแทงเข่าใส่อารอน บาติสตองจนสลบเหมือด) มีประสบการณ์ในระดับนานาชาติน้อย อีกทั้งยังถูกมองว่าได้อานิสงฆ์ผลบุญของโจเซฟ โอบาม่ากับแอนเดอร์สัน ดอสซานโต้สช่วยทำให้สถิติการเสียประตูดูสวยหรู แต่นี่แหละจะเป็นบททดสอบที่ดีของศิวรักษ์ เพราะการต้องรับมือบรรดากองหน้าฝีเท้าฉกาจจากทีมเพื่อนร่วมกลุ่มใน ACL มันเป็นงานยากกว่านี้แน่ ส่วนทาคุโตะ ฮายาชิ มีประสบการณ์การเล่นในลีกอาชีพมาแล้วกว่า 200 นัด แม้จะแจ้งเกิดที่ซานเฟรช ฮิโรชิม่าไม่ได้ แค่ประตูดาวรุ่งคนนี้ฝีมือดีครับ ปฏิกริยาไว มีประสบการณ์ทีมชาติในระดับเยาวชน เคยลงเล่นในศึกปรีโอลิมปิคที่เอเธนส์ 2004 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย แต่พอรอบสุดท้ายที่กรีซ มาซาคุนิ ยามาโมโต้ทำร้ายจิตใจของฮายาชิอย่างเยือกเย็น ด้วยการเลือกทาคายะ คุโรคาว่ามาเป็นมือหนึ่งแทน ตรงนี้ ผมแอบให้ฮายาชิเหนือกว่า 0.5 ช่วงหมัดครับ กองหลัง แม้แผงหลังของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดจะได้ชื่อว่าเป็นกำแพงที่แข็งแกร่งเสียประตูยาก แต่ในการแข่งขันระดับนานาชาติมันเป็นเรื่องที่ยากกว่าอย่างแน่นอน เข้าไปดูในเว็บของเวกัลตะ ยังไม่มีโปรแกรมอุ่นเครื่องชัดเจน มองไม่ออกว่าจะมีใครลงเล่นบ้าง แต่ถ้ายืนพื้นชุดเดิมจากปีที่แล้วก็น่าหนักใจว่าบุรีรัมย์จะเจาะเวกัลตะอย่างไร...แต่ 2 นัดที่เจอกัน จูบิโล่ของผม ล่อเวกัลตะไป 4 ลูกเชียวน้า...อิอิอิ อ่า...สำหรับชินโนะสุเกะ ฮอนดะ กองหลังที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเซ็นสัญญามาจากจูบิโล่ อิวาตะนั้น ให้สัมภาษณ์ทางเว็บจูบิโล่ อิวาตะดังนี้ครับ http://www.jubilo-iwata.co.jp/newslist/detail/?nw_seq=2503 ....“บัดนี้ กระผมชินโนะสุเกะ ฮอนดะ ขอประกาศให้ทราบว่าผมได้ย้ายไปร่วมทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดของไทยพรีเมียร์ลีกเรียบร้อยแล้วครับ” ....“หลังจากหมดสัญญากับทางจูบิโล่มาได้ประมาณ 1 เดือนเศษ ช่วงเวลานั้นเป็นประสบการณ์ที่มีค่ามากครับ ที่ได้เรียนรู้ความแตกต่างและสัมผัสประสบการณ์เกี่ยวกับฟุตบอลต่างประเทศ การย้ายมาร่วมทีมบุรีรัมย์ซึ่งปีนี้ได้เข้าร่วม ACL และคาดหวังถึงการพัฒนาฝีเท้าให้มีความแข็งแกร่ง ขั้นตอนต่อไป ก็คาดหวังไปถึงการย้ายไปยังยุโรปในอนาคตอันใกล้ด้วย” ....“ประสบการณ์ที่จูบิโล่ เป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงครับ ผมจากลายามาฮ่า สเตเดี้ยมมาครั้งนี้ ก็เพื่อการแสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆครับ เหล่าบรรดาจูบิลิสต้าทุกท่านครับ ชินจังขอขอบคุณครับสำหรับความหวังดีตลอด 3 ปีที่ผ่านมา” (แปลมั่วๆ 555) กองกลาง...รังสรรค์ย้ายไปเทโรเรียบร้อยแล้ว บุรีรัมย์จะเอาใครมาแทนอ้นครับ แฟนบุรีรัมย์บอกกล่าวด้วย ผมอยากได้แฟนบุรีรัมย์สักคนมาชำแหละทีมของตนเองครับ แต่เท่าที่มีอยู่ ก็เป็นชุดที่ฝากความหวังไว้ได้ ลึกๆแอบมีใจให้จักรพันธ์ แก้วพรหมฉีกกองหลังญี่ปุ่นเป็นชิ้นๆ แต่การบงการเกมของเรียงยองกีก็ยังคงอันตรายอยู่ดี ตรงนี้ผมแอบให้เสมอกัน กองหน้าขี้เกียจพูดครับ เวกัลตะเป็นทีมที่เน้นตั้งรับจริงๆ ต่อให้มีกองหน้าที่เคยซ้อมในแคมป์ทีมชาติญี่ปุ่นมา แต่ก็เท่านั้นครับ ผมว่าความเร็วของโออองซ่าสร้างปัญหาได้แน่นอน ตรงนี้ผมให้บุรีรัมย์เหนือกว่า 0.5 หมัด สรุปเสมอกันครับ ฮ่าๆๆ คนชี้ชะตาของฝั่งเวกัลตะ เซนได คือ เรียง ยองกี ...เวกัลตะคงหวังว่าลูก killer pass ของเค้าจะไปถึงอคามิเนะได้แจ่มๆสักครั้งสองครั้ง คนชี้ชะตาของฝั่งบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คือ ฟรองค์ โออองซ่า ...แน่นอนว่าความคล่องตัวของเขาสร้างปัญหาให้เวกัลตะได้แน่ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 17:19:31

ความคิดเห็นที่ 5 จากคลิปในลิงค์นี้ เราจะพบว่า ลักษณะการทำประตูของเวกัลตะ เซนไดในปี 2011 ที่ผ่านมานั้น... ลูกครอสจากด้านข้าง 24 ประตู (ทั้งลูกโหม่งและรอชาร์จ) ลูกยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษ 5 ประตู ลูกชาร์จเผาขน 3 ประตู ลูกจุดโทษ 2 ประตู ลูกจากการต่อบอลเข้ากลาง 2 ประตู ลูกหมูหกจากคู่ต่อสู้ 2 ประตู ลูกจากความสามารถเฉพาะตัว 1 ประตู ถ้าแผงหลังปิดการทำเกมริมเส้นของเวกัลตะได้ รวมทั้งระวังการเปิดพื้นที่หน้ากรอบเขตโทษได้ ปิดเกมแพ้สำหรับบุรีรัมย์ครับ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 17:20:38

ความคิดเห็นที่ 6 คำเตือนทั่วๆไป.... 1. อย่าคิดที่จะโยนบอมบ์ใส่เวกัลตะ กองหลังพวกนี้จะสกัดขาด ถ้าคู่ต่อสู้เก็บบอลได้ เวกัลตะจะรุมทึ้งทันที ถ้าโดนคู่ต่อสู้เลี้ยงจี้ กองหลังจะมีความคล่องตัวช้า ไปไม่เป็น ชอบถอยหลัง ถอยไปจนสุดทางนั่นแหละ ถึงตรงนั้น มุมก็กว้างพอดี (แปลว่าเวกัลตะแพ้ทางตัวที่มีความคล่อง ซึ่งก็จริง) 2. แบ็คทั้งสองข้างอ่อนเกมรับ ชอบเปิดพื้นที่ว่าง หลุดตำแหน่งบ่อย ความคล่องตัวส่วนบุคคลไม่ค่อยมี จะช้า แต่เล่นลูกกลางอากาศดี โยนไป โดนโหม่งเคลียร์ออกมาได้หมด (ตรงนี้จึงทำให้มองว่า กองหลังเวกัลตะส่วนมาก ตัวจะใหญ่ พอสกัดมาได้ ไม่มีคนเก็บ ต้องกรูเข้ามาแย่งบอลโดยมีกลางรับลงมาช่วย) 3. การเปิดบอลจากริมเส้นทำได้อันตรายและได้ลุ้นตลอด 4. แผงหลังของเวกัลตะไม่ถนัดกับการรับมือลูกโต้กลับ ถ้าคู่ต่อสู้สาดบอลยาวจังหวะเดียว แล้วให้ตัวจี๊ดลากเลื้อย เล่น acrobatic ได้ดี เวกัลตะมักจะแพ้ทาง 5. แผงหลังชอบรุมกรูเข้ามา ทำให้เกิดพื้นที่ว่าง (อันนี้ชัดเจนมาก เวกัลตะชอบเปิดพื้นที่ว่าง จูบิโล่ได้กินเวกัลตะก็ตรงนี้ตลอด จำพวกลูกเปิดครอสมา แล้วตั้งหรือชงไปให้พื้นที่ว่าง ให้เพื่อนเข้าทำ) 6. ลูกตั้งเตะอันตราย และเรียงยองกีจ่ายลูกประเภท killer pass ได้ดีมาก จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 17:22:00

ความคิดเห็นที่ 7 เดี๋ยวมาต่อครับ ขอไปรับลูกจากโรงเรียนก่อน จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 17:25:37

ความคิดเห็นที่ 8 สุดยอดมากครับ...ละเอียดมาก ขอโหวตก่อน เดี๋ยวกลับมาอ่านต่อ ขออนุญาตปาดครับ... จากคุณ : archparty เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 17:32:35

ความคิดเห็นที่ 9 นี่โค้ชรึเปล่าครับเนี่ย ลึกล้ำๆ ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ อ่านสนุกมาก จากคุณ : g9hp เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 17:48:02

ความคิดเห็นที่ 10 สงสัยพี่เฮงปลอมตัวมาแน่ๆ เอ้า!!!!ยูไนเตรด(เตร่)สู้ๆๆ จากคุณ : Zero_C เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 18:33:06

ความคิดเห็นที่ 11 ข้อมูลแน่นมาก จากคุณ : ArtBu เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 18:35:02

ความคิดเห็นที่ 12 โอ้โห สุดยอดกระทู้โหวตให้ครับ : ) จากคุณ : itislove เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 18:36:55

ความคิดเห็นที่ 13 กำลังรออยู่เลย อิอิ จากคุณ : ยัยกำปุ๊ง เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 18:39:33

ความคิดเห็นที่ 14 ข้อมูลสุดยอด รู้ลึกรู้จริง จากคุณ : The_hill เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 19:13:57

ความคิดเห็นที่ 15 คุณเนวิน มาเอาคนนี้ไปทำงานให้กับทีมเลยครับ ผมเชื่อว่า จขกท มีดีกว่าที่ถ่ายทอดมาในนี้แน่ๆ จากคุณ : buranart เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 19:41:43

ความคิดเห็นที่ 16 ผมเชื่อว่า จขกท. บ้าบอลไม่แพ้ใครจริงๆ และเชื่อว่า เขาเป็นคัมภีร์ลูกหนังญี่ปุ่นคนต้นๆของเมืองไทยเลย จากคุณ : ToyZHardy เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 19:52:42

ความคิดเห็นที่ 17 สุดยอดอ่ะค่ะ จากคุณ : Arisajung เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 20:26:12

ความคิดเห็นที่ 18 เข้ามาอึ้ง ไม่ใช่แค่ข้อมูลที่แน่น แต่ยังมีอารมณ์ขันได้ดีด้วย จากคุณ : sungiko เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 20:47:09

ความคิดเห็นที่ 19 อ่านเพลินเลยครับ จากคุณ : คปท61 เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 21:36:35

ความคิดเห็นที่ 20 สุดยอดยังน้อยไปสำหรับกระทู้นี้ จากคุณ : joinyoy เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 21:38:11

ความคิดเห็นที่ 21 กระทู้ดีๆแบบนี้ควรโหวต รำคาญกระทู้บอลนอกเกรียนๆที่เป็นกระทู้แนะนำมาก จากคุณ : C h u N g เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 21:46:53

ความคิดเห็นที่ 22 โอ้   อ่านยังไม่หมด  แต่ขอบอกว่า สุดยอด จากคุณ : SIWARAK เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 21:50:43

ความคิดเห็นที่ 23 รู้แต่ว่า เซนได  เกมรับแน่นปึ้กมากครับ และเล่นเกมโต้กลับได้ดี ถ้าเผลอ มีสิทธิ์โดน แน่นอนครับ จากคุณ : ElMinZeed เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 21:57:31

ความคิดเห็นที่ 24 คนพันทิป นี่ขยันอ่านกันจริงๆ จากคุณ : บร๊ะแล้วๆ อ๊อดๆ จั๊กกลิ้งแกลสๆ เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 22:12:19

ความคิดเห็นที่ 25 สวดยอดไปเลยครับ จากคุณ : NaziX (Nazix) เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 22:44:11

ความคิดเห็นที่ 26 สุดยอดมากครับ. จากคุณ : ake_jiew เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 22:49:25

ความคิดเห็นที่ 27 สุดยอดครับ จากคุณ : เจ 11 เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 22:58:42

ความคิดเห็นที่ 28 ไปค้นหาข้อมูลดูครับ อิงข้อมูลจากช่วงท้ายฤดูกาลที่จูบิโล่เปิดบ้านพบกับเวกัลตะ ผลจบลงด้วยการเสมอ 1-1 เพิ่งทราบมาว่า ชินโง อคามิเนะได้รับฉายาว่า Jubilo Killer เพราะว่าสมัยค้าแข้งให้เอฟซี โตเกียว พี่แกล่อกดจูบิโล่ไป 8 เม็ด...เหมือนฟาวเลอร์กับอาร์เซน่อลยังไงอย่างงั้นเลย วันนั้น ทาคุโตะ ฮายาชิเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีม กองหลัง 4 ตัวประกอบไปด้วย จิโร่ คามาตะ นาโอยะ ทามุระ และปาร์คจูซุง โดยที่คู่เซนเตอร์แบ็คที่มาแทนโชบุงกุ๊กที่ปีนี้ย้ายไปจูบิโล่ก็คือไทไค อูเอโมโต้จากเซเรโซ่นี่เอง คนนึงตัวทีมชาติเกาหลีใต้ คนนึงเคยเก้บตัวทีมชาติญี่ปุ่น...เอาน่าแทนกันได้ๆ กองกลางตัวรับเป็นมาโคโตะ คาคุดะ...คือ ถ้าเกมโอเพ่นเพลย์คงเป็น DMC แต่ถ้าทีมนำเมื่อไหร่ หมอนี่โดนจับเป็นเล่นเป็น CB แน่ๆ เรียงยองกีเป็นตัวทำเกม...อันนี้แน่นอนอยู่แร้น คุนิมิตซึ เซคิงูจิ ตัวนี้ติดทีมชาติในยุคของซัคเคโรนี่ครับ เป็นกองหน้ากึ่งปีก ชินโง โทมิตะ เป็นกองกลางตัวรับ...อ่ะ หมอนี่เคยเมาแล้วขับรถไปเกิดอุบัติเหตุระหว่างเก็บตัวในค่ายด้วย....แต่ได้รับโอกาสให้แก้ตัวครับ อ่า...เวกัลตะดึงโตชิฮิโร่ มัตซึบาระมาจากเอฟซี โตเกียว ตัวนี้เล่นได้ทั้งวิงแบ็คและตัวริมเส้นฝั่งขวา เป็นเพื่อนสนิทกับนาโอทาเกะ ฮานิวที่เคยมีข่าวกับบุรีรัมย์ ล่าสุดฮานิวยังมีสถานะเป็นผู้เล่นเอฟซี โตเกียวอยู่...เอ บุรีรัมย์ไปดึงฮานิวมายังหว่า (เค้าชื่อฮานิว Ha-nyu ครับ ไม่ใช่ฮันยู...ในการ์ตูนเรื่องอิตโต้ คุณเรียกกองหน้าตัวโย่งฝีเท้าหนักแต่ยิงไม่ตรงกรอบว่า ไดสุเกะ ฮานิวใช่ไหม...คงไม่ใช่ฮันยูนะ) มัตซึบาระสามารถวิ่งขึ้นลงได้ไม่มีหยุดตลอด 90 นาที สามารถเล่นลูก setpiece ได้ กองหน้าคู่ในวันนั้น คือ โยชิอากิ โอตะกับชินโง อคามิเนะ คนนึงเร็ว คนนึงครบเครื่องนะครับ ดาวเตะน่าจะเปล่าจากนี้ไปบ้าง แต่คงไม่มาก และคิดว่าโอตะน่าจะเป็นหน้าต่ำหรือริมเส้นมากกว่า ถ้าได้ลง เทกุระโมรินิยมเล่นในระบบ 4-2-2-2 นิยมดันแผงหลังขึ้นสูง กองกลางสามารถทำได้ทั้งรับและรุก จะมาเป็น MC แบบพิชิตพงศ์คงไม่เอามาแน่ แกนรุกนิยมใช้ผู้เล่นที่มีความแข็งแกร่งและมีความคล่องตัวสูง พยายามเน้นแฟร์เพลย์ (จะเชื่อนะ) กับลูกทีม พอแล้วง่วงนอน อิอิ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 23:23:26

ความคิดเห็นที่ 29 เจ๋งหว่ะ จขกท จากคุณ : Boyerz เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 23:44:17

ความคิดเห็นที่ 30 แน่นปึ๊ก แน่นปึ๊ก จัดโหวตอย่างไว ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ จากคุณ : ต้อมติ้ว เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 00:54:51

ความคิดเห็นที่ 31 มายเนมอิส ฮอนดะ จากคุณ : รอนนี่ โอเพ่น เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 01:12:53

ความคิดเห็นที่ 32 อ่านเพลินเลยครับ ชอบนะครับ บทวิเคราะห์ของ จขกท ทีึ่ได้ทั้งสาระ ทั้งความฮา ทั้งมุขตลกร้าย (ศิวรักษ์ ชูมัคเกอร์ กับ อารอน บาติสตอง นี่คิดได้ไงครับ ผมอ่านผ่านนี่ ก๊ากแตกทันที) ไหนจะลูกส่ายเป็นโคโยตี้อีก ผมคิดว่าคู่นี้เจอกัน ความอันตรายของบุรีรัมย์ จะอยู่ที่ อาเชียมปง มากกว่าครับ เพราะเ้ข้าสูตรเลยทั้ง 1) ไปกับบอลดี จะำทำเซนไดหลังหักได้ง่ายๆ 2) เล่นจังหวะสวนกลับ + กองหลังเซนไดชอบลอยสูง แต่ถ้าพูดถึงระบบทีม การครองบอล และความแข็งแกร่งแล้ว ยังไงๆเซนไดเหนือกว่าแน่นอนครับ อคามิเนะอาจจะไม่คมในจังหวะหลุดเดีั่่ยว แต่เรื่องเข้าชาร์จในกรอบเขตโทษ ผมว่าคนนี้เหนือกว่าโจ้ 5 หลาด้วยนะ บุรีรัมย์คู่กลางแน่นก็จริง แต่ผมมีคำถามที่แบ็คสองข้างครับ ทั้งกัปตัน ทั้งลูกเลี้ยงประธาน ไม่ีชอบบอล 1-2 (ถ้าเลี้ยงอย่าหวังผ่าน แต่ถ้าทำชิ่งล่ะ) แต่รวมๆ ผมว่าน่าออกเสมอกันครับ ปล: อสุจิ เอ๊ย อัตสึชิ ยานากิซาวะ ทำไมหมดสภาพไำวจัง ขนาดคาซู หรือ มาซาชิ นากายามะ ที่ 40 กว่าแล้ว ก็ยังเล่นได้ดีอยู่นะ พูดแล้ว จขกท พอทราบหรือเปล่าว่ากองหน้าญี่ปุ่นยุคนั้น โชจิ โจ , มาซายูกิ โอกาโนะ , โยชิกะ มัตสุบาระ หรือ ยาซูโตชิ มาซูดะ มีใครยังเล่นอยู่บ้าง จากคุณ : Ahura เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 02:47:09

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณข้อมูลดีๆๆครับ มาเป็นแฟน บุรีรัมย์ ครอบครัวสายฟ้าด้วยกันครับ ทุกท่านจะไม่ผิดหวัง ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้ากลุ่มแฟนบอลบุรีรัมย์ ครับ http://www.facebook.com/groups/BuriramUTD/ แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 55 05:28:44 จากคุณ : AOF_HTTP เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 04:32:28

ความคิดเห็นที่ 34 เพิ่งรู้นะเนี่ยว่า ยานางิซาว่า ยังเล่นอยู่ สมัยก่อน เล่นวินนิ่งใช้ทีมชาติญี่ปุ่น ยังไงก็ต้องเอาตัวนี้ลง จากคุณ : ToyZHardy เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 08:19:40

ความคิดเห็นที่ 35 ชูมัคเกอร์ กับบาติสตองนี่ บอกเลยว่า 40+ จากคุณ : bbiggy เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 09:16:02

ความคิดเห็นที่ 36 ข้อมูลแน่นมาก ขอบคุณครับ จากคุณ : Sinbad-IT เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 09:20:18

ความคิดเห็นที่ 37 สุดๆครับ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : debby the gunner เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 10:54:49

ความคิดเห็นที่ 38 กระทู้เยี่ยมครับ นับถือ จากคุณ : เตียวกงจื้อ เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 11:01:06

ความคิดเห็นที่ 39 ขอกดโหวตให้เป็นกระทู้แนะนำไปนานๆเลยครับ .. จากคุณ : Mr.Thirty-one เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 11:01:08

ความคิดเห็นที่ 40 บอกได้คำเดียวครับว่า สุดยอดจริงๆ จากคุณ : Macutd เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 12:08:52

ความคิดเห็นที่ 41 สุดยอดมากครับ จากคุณ : my name is outschool เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 12:08:52

ความคิดเห็นที่ 42 ชอบๆ ครับ จากคุณ : BK-Monkey เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 12:51:00

ความคิดเห็นที่ 43 โอ้ย  คิดถึง นากายาม่า T^T ช่วงนั้นเป็นช่วงที่สนุกจริงๆ ... .. . จากคุณ : แง่มๆ น้องหมา 2 ปี เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 15:59:54

ความคิดเห็นที่ 44 ดูในคลิป อกามิเนะ เป็นกองหน้าที่ครบเครื่องจริงๆ และที่อันตรายอีกอย่างก็ลูกตั้งเตะ โยนไปให้โหม่ง ได้ประตูบ่อยมาก จากคุณ : jengchai เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 16:04:38

ความคิดเห็นที่ 45 ควรค่าแก่การเป็นกระทู้แนะนำ ด้วยประการทั้งปวง มากกว่าอันอื่นๆข้างบนเยอะ จากคุณ : เมื่อไหร่จะอ้วน เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 20:49:19

ความคิดเห็นที่ 46 "ลูกพุ่งส่ายเป็นโคโยตี้เสียบตาข่ายอย่างสวยงาม" ผมชอบ ปย. นี้ มั่กๆ คับ อย่างฮา จากคุณ : oatbita เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 12:55:27

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณ จขกท ครับ ที่ทำให้เห็นอะไรที่มีคุณภาพในห้องนี้บ้าง ถึงจะไม่ได้เป็นแฟนบุรีรัมย์ แต่เชียร์ให้เอาชนะให้ได้ครับ เพื่อยกระดับภาพรวมมาตรฐานไทยพรีเมียร์ลีก จากคุณ : หมูผีตีลังกา เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 14:55:40

ความคิดเห็นที่ 48 น่าไปดูขึ้นมาเลย.. จากคุณ : nokun เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 16:48:06

ความคิดเห็นที่ 49 สุดยอดครับ  คัมภีร์ลูกหนังญี่ปุ่น  อิอิ จากคุณ : The Chew เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 17:08:04

ความคิดเห็นที่ 50 ไม่มีคนไทยคนไหนที่ผมรู้จัก ที่มีความรู้เกี่ยวกับเจลีคขนาดคุณเลยนะเนี่ย สมควรจ้างเป็นทีมงานพิเศษสำหรับเวลาที่ต้องแข่งกับทีมจากญี่ปุ่นจริง ๆ จากคุณ : macenjoy เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 17:11:34

ความคิดเห็นที่ 51  ขอบคุณมากๆค่ะ จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 02:20:41

ความคิดเห็นที่ 52 พรุ่งนี้ยอดทีมเซราะกราวจากประเทศไทย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะลงฟาดแข้งกับทีมแกร่งจากญี่ปุ่น วากัลตะ เซนได วันที่ 18 ก.พ. 2555 ที่สนามศุภชลาศัย เวลา 17.30น. ผู้ชนะได้เงินรางวัล 1 ล้านบาทพร้อมรถโตโยต้าพรีอุสหนึ่งคัน ขอเชิญแฟนบอลชาวไทยไปร่วมชมกันเยอะๆนะครับ และขอเชิญชวนกดถูกใจแฟนเพจ BURIRAM UNITED ด้วยครับเรามีภาพสวยๆ ข่าวสารจากสโมสร ส่งตรงถึงหน้าจอทุกท่านครับผม ลิงค์แฟนเพจอยู่ที่นี่ครับ โดยแมทช์พรุ่งนี้ภาพสดๆ คลิ๊ปสดๆจากขอบสนามจะส่งมาให้ดูถึงที่เลยครับ http://www.facebook.com/BuriramUTD?sk=info จากคุณ : my aurora เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 07:02:06

ความคิดเห็นที่ 53 ตอนนี้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กำลังซุ่มซ้อมหนักอยู่เหมือนกันครับ โดยนักเตะญี่ปุ่นอย่าง ชินจัง ชินโนสุเกะ ฮอนดะ ที่ย้ายมาจาก จูบิโล่ อิวาตะ ก็กำลังปรับตัวเข้ากับจังหวะทีมและอากาศอันร้อนระอุของไทย เกมส์พรุ่งนี้คงเป็นเกมส์ที่สนุกครับ ขอเชิญแฟนบอลไปชมกันเยอะๆนะครับ แล้วก็ติดตามภาพสวยๆและข่าวสารของทีมได้จากแฟนเพจ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นะครับที่ http://www.facebook.com/BuriramUTD?sk=info ครับผม จากคุณ : my aurora เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 07:07:39

ความคิดเห็นที่ 54 Mr.MoMo ท่าจะเป็นคนญี่ปุ่นนะ รู้เรื่องเจลีกดีมากๆเลย ชาบู ชาบู จากคุณ : nessuzzura เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 13:58:46

ความคิดเห็นที่ 55 ชินจัง ชินโนสุเกะ ฮอนดะ ท่านหล่อขั้นเทพจริงๆครับ จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 21:23:40

ความคิดเห็นที่ 56 โอเคๆ ตกลงพรุ่งนี้ผมไปเชียร์ทีมเซนไดด้วยคน..ดูท่าแล้วจะเข้าทางกว่าไปเข้าทีมเชียร์กีฬาสี ฮี่ๆ แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 55 00:21:26 จากคุณ : Service Guy เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 55 00:20:03

ความคิดเห็นที่ 57 เหลืออีก 1 ชั่วโมง ท่าจะไปดูที่สนามไม่ทันแล้วล่ะ ฝากสาวกปราสาทสายฟ้าขาประจำ ขาจร และเฉพาะกิจช่วยให้กำลังใจเหล่า Neville's Babes ทีนะครับ เซร็งๆๆ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 55 16:49:47

ความคิดเห็นที่ 58 นายก อบจ.บุรีรัมย์นามกรุณา  ชิดชอบ  นั่ง PRIUS กลับ Buriram Utd. แล้วครับ  ส่วนเงินรางวัล 1,000,000  บาท กำลังปันส่วนกันอยู่ครับ  บางคู่ฉลองแชมป์กันจนแก้มช้ำ.........ครับ จากคุณ : bigm.pantip เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 55 06:34:39