ความคิดเห็นที่ 1 เนื่องจากเกม replay ระหว่างซันเดอร์แลนด์กับมิดเดิ้ลสเบรอนั้นเพิ่งจะเตะหาผู้ชนะได้ไปเมื่อแค่ราว 10 วันก่อนหน้านี้เท่านั้น ทำให้แฟนอาร์เซน่อลที่คิดจะตามขึ้นไปเชียร์ทีมนั้นต้องคิดหนักเล็กน้อย เพราะช่วงเวลามันกระชั้นชิดเหลือเกิน  ค่าเดินทางหากจะไปโดยทางรถไฟก็จะแพงพอสมควร เพราะรถไฟที่นี่ยิ่งจองล่วงหน้านานเท่าไหร่ ราคาก็จะยิ่งถูก แต่หากมาจองเอาตอนใกล้แข่งแบบนี้ ราคาก็จะสูงลิ่ว แถมซันเดอร์แลนด์กับลอนดอนก็ห่างกันแบบสุดขั้ว ผมลองเทียบระยะทางแล้วก็ได้ประมาณ กรุงเทพฯ-สุรินทร์ หรือ กรุงเทพฯ-ตาก ทางสโมสรงวดนี้เลยใจดีคิดค่ารถโค้ชไป-กลับให้แฟนบอลเพียงแค่ 5 ปอนด์ หรือราวๆ 250 บาทเท่านั้น ถูกกว่านครชัยร์แอร์อีก ไปขึ้นที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยมครับ จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 04:40:56

ความคิดเห็นที่ 2 ตามปกติเกมเยือนในประเทศสโมสรต่างๆก็จะมีการจัดรถโค้ชหรือรถทัวร์แบบนี้ไว้ให้บริการสำหรับแฟนบอลที่จะตามไปเชียร์ทีมอยู่แล้ว ซึ่งสะดวกสำหรับแฟนบอลเพราะรถส่งถึงที่หน้าสนามเลย บางสนามไม่ได้ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง ถ้าแฟนบอลเดินทางไปเองโดยรถไฟหรือโดยรถโค้ชระหว่างเมือง ไปถึงที่สถานีแล้วก็ต้องนั่งรถบัสต่อไปอีกทอด หรือไม่ก็ต้องเดินไป สำหรับอาร์เซน่อลนั้น เกมลีกปกติทางสโมสรจะจัดรถออกประมาณแค่ 4-5 คัน ราคาโดยสารก็จะตามระยะทางว่าที่หมายคือสนามไหน อย่างมาซันเดอร์แลนด์นี่ค่ารถปกติก็จะราวๆ 40 ปอนด์ ดังนั้น 5 ปอนด์นี่ถือว่าเป็นราคา bargain มากๆ จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 04:55:24

ความคิดเห็นที่ 3 เกมเมื่อวานเลยมีรถออกทั้งหมด 17 คันครับ ก็จะมีแบ่งกันไปรับแฟนบอลที่จุดนอกเมืองด้วยอีกสองจุด ออกจากเอมิเรตส์ราวๆ 9 โมงครึ่ง มีพักระหว่างทางเป็นจุด service บนมอเตอร์เวย์แถวๆเชฟฟิลด์ ชม.นึงให้แฟนบอลได้กินข้าวเที่ยงกัน ก็จะมีร้านแฟรนไชส์พวก Starbucks, Mcdonald's, KFC, Berger Kings พวกนั้น ตอนนั้นนี่ยังกะทัวร์ลงจริงๆ แฟนหลายร้อยคนลงไปต่อคิวซื้ออาหารกัน แถมต้องรีบกินรีบลุกด้วยเพราะที่นั่งไม่พอ 555+ ผมเข้าใจว่าเค้าแบ่งจุดลงคนละจุดกันนะครับ เพราะจุด service มันมีตลอดทาง ไม่งั้นลงที่เดียวกันคนท่วมแน่นอน เหยียบพันคน จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 05:04:12

ความคิดเห็นที่ 4 ในที่สุดก็มาถึงสนามตอนราวๆ 4 โมงเย็น (บอลเตะ 5 โมง 15) ถ้าใครยังจำกันได้ 2 ซีซั่นก่อนผมเคยใช้บริการรถโค้ชสโมสรตามไปเชียร์ทีมเกมลีกกับวีแกน ผลแพ้ 2-3 (กระทู้นั้นหลังตั้งระบบพันทิปดันเจ๊งพอดี รูปเลยหายหมดแล้วก็เลยไม่อยู่ในคลังด้วย) เกมนี้ก็ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิมอีกแล้ว ปกติไปเกมเยือนไกลๆแบบนี้ผมนิยมจะนั่งรถไฟไปมากกว่า เพราะนั่งรถโค้ชไป-กลับนี่สิริรวม 11 ชม.กว่า นั่งกันหลังขดหลังแข็งเบื่อกันไปข้าง แต่เพราะราคา 5 ปอนด์นี่มันเย้ายวนใจจริงๆเกินกว่าจะปฏิเสธได้ จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 05:10:36

ความคิดเห็นที่ 5 ตั๋วเกมนี้ครับ 20 ปอนด์ ราคาต่ำกว่าเกมลีกปกติ ได้นั่งแถว 7 ใกล้ๆขอบสนามซะด้วย จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 05:14:23

ความคิดเห็นที่ 6 หนังสือโปรแกรม 2 ปอนด์ ถูกกว่าปกติเพราะมันบางกว่าปกติ หน้าปก เคร็ก การ์ดเนอร์ จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 05:21:20

ความคิดเห็นที่ 7 ที่นั่งฝั่งทีมเยือนจะอยู่ตรง South Stand จะเห็นว่าตรงนี้ stand ตรงนี้จะไม่สูงมาก จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 05:23:47

ความคิดเห็นที่ 8 มีรูปปั้นของ Bob Stokoe อดีตผู้เล่นนิวคาสเซิ่ลที่ข้ามมาคุมทีมคู่ปรับและพาทีมได้แชมป์เอฟเอคัพปี 1973 จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 05:35:14

ความคิดเห็นที่ 9 วนมาดูหน้าสนามตรงฝั่ง West Stand บ้าง จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 05:38:41

ความคิดเห็นที่ 10 จะมีรูปปั้น `The Lads' ซึ่งประกอบไปด้วยผู้ชายผู้หญิงและเด็กชายเด็กหญิง หมายถึงการส่งต่อความเป็น `ซันเดอร์แลนด์' มาจากรุ่นสู่รุ่น ผ่านครอบครัวและผองเพื่อน ตรงท้ายของป้ายตรงรูปปั้นลงไว้ว่า `We share this vision and bond as one because Sunderland AFC is For Us All' จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 05:47:00

ความคิดเห็นที่ 11 ตัวสนามตั้งอยู่ริมแม่น้ำเวียร์เลยครับ หลายคนเคยจะได้ยินคำว่า Tyne & Wear Derby ซึ่งหมายถึงดาร์บี้ระหว่างแม่น้ำไทน์กับแม่น้ำเวียร์ ซึ่งหมายถึงนิวคาสเซิ่ลแห่ง Tyneside และซันเดอร์แลนด์แห่ง Wearside ที่มีแม่น้ำทั้งสองไหลผ่านตามลำดับ นอกจากนี้สะพานหลักที่ข้ามแม่น้ำทั้งสองก็มีชื่อว่า Tyne Bridge และ Wear Bridge อีกด้วย ส่วนมิดเดิ้ลสโปรช์ที่เมืองอยู่ด้านล่างลงมานั้น จะถูกเรียกว่า Teesside เพราะมีแม่น้ำทีส์ไหลผ่าน จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 06:01:13

ความคิดเห็นที่ 12 ตราสโมสรซันเดอร์แลนด์ครับ ซึ่งตรานี้เริ่มใช้มาเมื่อปี 1997 หลังจากที่ทีมย้ายมาจากสนามโรเกอร์ ปาร์ค (แฟนบอลรุ่นเก่าคงจะยังพอจำกันได้) ซึ่งการที่เปลี่ยนตราใหม่นี้ประกอบไปด้วยส่วนต่างๆดังนี้ครับ: - สิงโตสองตัวซึ่งมาจากตราประจำเมือง และสามารถตีความไปเป็น 'แมวดำแห่งซันเดอร์แลนด์' ได้อีกด้วย (จะกล่าวถึงเรื่องแมวดำต่อไป - สถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง 2 แห่ง คือ Penshaw Monument และ Wear Bridge (สำหรับเมืองซันเดอร์แลนด์นั้นเคยมีรีวิวอยู่ครั้งในคลังกระทู้ สามารถค้นดูได้) - ด้านบนเป็นล้อเฟืองที่ใช้ในการลำเลียงในการทำเหมืองถ่านหิน ซึ่งพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งของ Stadium of Light ในปัจจุบันนั้นเคยเป็นที่ที่ใช้ทำเหมืองถ่านหิน Wearmouth (ปากแม่น้ำเวียร์) มาก่อน วงล้อนี้จึงเป็นการรำลึกถึงประวัติศาสตร์ในอดีตของพื้นที่ตรงจุดนี้ - Motto ภาษาละตินของทีม `Consectatio Excellentiae' อันหมายความว่า `In pursuit of excellence' จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 06:21:50

ความคิดเห็นที่ 13 ด้วยประวัติศาสตร์การทำเหมืองตรงบริเวณ Wearmouth ตามที่ได้เล่าไปนี้ ทำให้ตรงหน้าสนามมีเจ้าล้อนี้ตั้งไว้อยู่ด้วย จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 06:27:19

ความคิดเห็นที่ 14 อีกทั้งยังมี `Men of Steel' ผลงาน Art sculpture เป็นรูปคนเข็นหินขึ้นเขา แสดงให้เห็นถึงการต่อสู้ต่อความยากลำบากของคนงานในเหมืองซันเดอร์แลนด์สมัยก่อน ก่อนที่จะถึงจุดหมายปลายทางที่ได้มานั่งชมพระอาทิตย์ตกยามอัสดง ณ แม่น้ำเวียร์ ถ้าความจำผมไม่ผิด ในหนังเรื่อง Billy Elliot ซึ่งพ่อกับพี่พระเอกนั้นเป็นคนงานเหมือง ในหนังกล่าวไว้ว่าครอบครัวพระเอกนั้นอาศัยอยู่ในเมือง Everington (ซึ่งไม่มีจริง) อันอยู่ในละแวกใกล้กับซันเดอร์แลนด์ด้วย จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 06:41:38

ความคิดเห็นที่ 15 ติดกับสนามยังมี Sunderland Aquatic Centre ซึ่งเป็นสปอร์ตคอมเพล็กซ์ มีทั้งยิมและสระว่ายน้ำ ให้ชาวเมืองได้มาใช้กัน จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 06:45:28

ความคิดเห็นที่ 16 สำหรับฉายา `แมวดำ' ของทีมนั้น เพิ่งจะมาเริ่มใช้ตอนที่ย้ายสนามมา หลังจากได้รับการโหวตฉายาจากแฟนบอลของทีม ทั้งนี้ฉายา `แมวดำ' มาจากประวัติศาสตร์อันแปลกประหลาดของทีมที่เกี่ยวข้องกับแมวดำ โดยในสมัยก่อนนั้นบริเวณฝั่งแม่น้ำเวียร์จะมีป้อมปืนใหญ่อยู่ซึ่งป้อมนี้ถูกขนานนามว่าป้อมแมวดำหลังจากที่มีเสียงแมวร้องลึกลับเป็นประจำ 100 ปีต่อมาแมวดำไปปรากฏตัวในภาพถ่ายของทีม และในเอฟเอคัพนัดชิงชนะเลิศปี 1937 มีเด็กชายคนหนึ่งนำลูกแมวดำใส่ในกระเป๋าเสื้อไปดูเกมที่เวมบลีย์ และทีมสามารถชนะเปรสตันคว้าแชมป์มาครองเป็นสมัยแรกได้ แฟนๆเลยเชื่อกันว่าแมวดำตัวนั้นเป็นตัวนำโชคทำให้ทีมชนะ จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 06:56:34

ความคิดเห็นที่ 17 มุมด้านนอกของ north Stand ซึ่งเป็นที่นั่งฝั่งแฟนเจ้าบ้านครับ จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 06:59:57

ความคิดเห็นที่ 18 สนามอีกมุมหนึ่ง เจ้าตุ้มๆนั่นน่าจะเป็นท่อระบายความร้อนหรืออะไรซักอย่าง จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 07:04:20

ความคิดเห็นที่ 19 สำหรับ ticket office ของทีมนั้นจะเป็นตึกแยกออกมาต่างหาก จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 07:11:46

ความคิดเห็นที่ 20 เข้ามาในสนาม ทางฝั่งแสตนด์เจ้าบ้านนั้นจะเขียนคำว่า Ha'way the lads ซึ่งเป็นศัพท์ของภาษาอีสานของอังกฤษแปลว่า `Come on the lads' นั่นเอง สำหรับชาวซันเดอร์แลนด์นั้นจะเรียกตัวเองว่า Mackems ส่วนชาวนิวคาสเซิ่ลนั้นจะเรียกว่า Geordies พวกนี้จะมีแสลงอีสานเป็นของตัวเองครับ หลายๆคำฟังไม่รู้เรื่อง เลยมักจะโดนแซว อย่างเกมที่ผมไปดูนี่แฟนปืนร้องแซวเลยว่า `You can't even speak English' อยู่อังกฤษมานานๆ ไปหลายๆที่จะพอแยกสำเนียงออกครับ ว่าพวกไหนอังกฤษกลาง พวกไหนสเกาเซอร์ จอร์ดี้ พวกไหนสก็อต ไอริช จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 07:35:16

ความคิดเห็นที่ 21 วิวมองไปยังฝั่ง West Stand ซึ่งเป็น Main Stand ครับ จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 07:37:09

ความคิดเห็นที่ 22 East stand จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 07:51:43

ความคิดเห็นที่ 23 มองไปจะเห็นโลโก้ทีม จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 07:53:43

ความคิดเห็นที่ 24 แฟนปืนวันนี้ตามมาเชียร์กันราว 4,000 คนครับ จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 07:56:42

ความคิดเห็นที่ 25 บิวท์อารมณ์กันก่อนเกมด้วยการร้องเพลงด่านาสรี่ จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 07:57:50

ความคิดเห็นที่ 26 มาสค็อตแมวเหมียว 2 ตัวของเจ้าบ้านออกมาเล่นกับเด็ก จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 08:01:35

ความคิดเห็นที่ 27 ทางแสตนด์ฝั่งเจ้าบ้านจะมีธงแสดงถึง supporters club ของทีมสาขาต่างๆไว้ด้วย Supporters club ก็คือกลุ่มแฟนบอลของทีมจากเมืองต่างๆที่รวมตัวกัน หรือแม้กระทั่งจากต่างประเทศ ในแต่ละเกมก็จะรวมตัวกันเหมารถโค้ชนั่งมาเชียร์ทีม ตอนขาไปรถผมก็สวนกับรถโค้ชแฟนซันเดอร์แลนด์จากเมืองอื่นคันนึง มีเด็กชูนิ้วกลางมาให้ด้วย เกรียนมันมีอยู่ทุกที่ในโลกจริงๆ ซันเดอร์แลนด์จริงๆแล้วก็ไม่ใช่สโมสรเล็กอะไร ออกจะเป็นทีมใหญ่ด้วยซ้ำหากมองจากประวัติศาสตร์ของทีม เกียรติประวัติก็มากมาย ได้แชมป์บอลลีกตั้ง 6 ครั้ง มากกว่าเชลซี นิวคาสเซิ่ล ลีดส์ สเปอร์สอีก แฟนบอลก็มีอยู่ค่อนข้างเยอะพอสมควรทุกสารทิศ จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 08:09:57

ความคิดเห็นที่ 28 วันนี้ฟ้าเบี่ยงลงมาเป็นโกล์ เชสนี่ย์เลยมาเป็นคู่ซ้อมให้ ด้วยฝีมืออันยอดเยี่ยม ผมเลยไม่เปิดเผยหน้าตาให้ชมครับ คหสต.ผม ฟาเบียนสกี้เป็นผู้รักษาประตูที่ห่วยที่สุดของทีมตั้งแต่เชียร์ทีมมา 18 ปี อันนี้พูดตรงๆจากใจเลยนะครับ (ทู้นี้ส่งท้ายแล้ว อยากที่ได้บอกไปว่าผมขอจริงใจสุดๆ) จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 08:17:01

ความคิดเห็นที่ 29 น้องวัวหน้าแก่ชอบกินโคอ่อนวันนี้ได้ลงเป็นตัวจริงด้วย แม้จะทำเข้าประตูตัวเองแต่ผมเชื่อว่าแฟนๆอาร์เซน่อลคงไม่ได้ติดใจเอาความอะไรกับเด็ก 18 คนนี้มาก (ลองลูกนั้นเป็นแรมซี่ย์รับรอง.....) จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 08:21:40

ความคิดเห็นที่ 30 คุณหมอประจำทีม แกรี่ โอดริสคอล วันนี้รับคนไข้เพิ่มไปอีก 2-3 ราย ส่วนตัวผมยังเชื่อว่าปัญหาอาการบาดเจ็บแบบล้นโรงพยาบาลของทีมนั้นมาจากระบบฟิตเนสที่ย่ำแย่มากกว่าความห่วยแตกของทีมแพทย์อาร์เซน่อล จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 08:33:50

ความคิดเห็นที่ 31 วันที่ไปนี่อากาศค่อนข้างหนาวมากและลมก็แรงสุดๆเลยทีเดียว RVP ยังถึงกับเอามือผลุบเข้าไปข้างใน พูดถึงเรื่องถุงมือแล้ว อ่าน comment รอย คีนแล้วก็ฮาเหมือนกัน พี่แกยังอุตส่าห์มาจับผิดว่าพวกใส่ถุงมือตอนอากาศหนาวเป็นพวกอ่อนแอ ผมอ่านแล้วก็เห็นด้วยประมาณ 1% แบบนี้ควรจะรวมพวกใส่แขนยาวเล่นด้วยเลยมั๊ย ไม่น่าเชื่อว่าแกสามารถเอามาเป็นประเด็นได้ แต่ผมก็เห็นด้วยกับแกอยู่เรื่องคืออาร์เซน่อลชุดนี้เป็นทีมที่ห่วยแตกที่สุดตั้งแต่เคยดูมา ความเห็นผมทีมนี้เป็นทีมที่ห่วยที่สุดจริงๆ ห่วยทั้งฝีเท้าและสภาพจิตใจที่ไม่มีความเป็นนักสู้แม้แต่น้อย ถ้ามองไปยังยุคที่ผมเริ่มเชียร์นั้น ฝีเท้านักเตะผมยอมรับว่าหลายๆคนตอนนั้นอย่างเอ็ดดี้ แม็คโกลดริก, สตีฟ มอร์โรว์, เดวิด ฮิลเลียร์, เอียน เซลลี่ พวกนี้ฝีเท้าด้อยกว่านักเตะชุดปัจจุบัน แต่ผมยังรู้สึกว่าทีมชุดนั้นยังเล่นแบบมี passion และมีจิตใจนักสู้มากกว่าทีมชุดนี้ 10 เท่าเห็นจะได้ ทีมที่ห่วยที่สุดในรอบ 18 ปี ตั้งแต่เชียร์มา และตัวเองดันได้มาอยู่อังกฤษดูทีมชุดนี้พอดี ผมถือว่าเป็นความโชคร้ายบนความโชคดีอย่างหาอะไรมาเปรียบมิได้ ถ้ามองในอีกมุมหนึ่งผมเองก็รู้สึกโล่งใจที่จะได้กลับเมืองไทยเสียที ไม่งั้นถ้าอยู่ต่อคงต้องตามไปร้องเพลงเชียร์เจ้าพวกนี้ให้เล่นให้ดีๆ แต่พอจบเกมก็ต้องมานั่งด่าเช้าด่าเย็นแบบนี้ตลอดทุกชาติไป จริงๆผมพูดให้ขำไปงั้นแหละ เพราะปกติผมจะไม่ตำหนินักเตะอยู่แล้วว่าห่วยหรืออะไร มันผิดหรือที่คุณไม่เก่ง? ผมว่าคนที่ผิดคือคนที่จับนักเตะเหล่านี้มาใส่เสื้ออาร์เซน่อลมากกว่า จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 08:57:05

ความคิดเห็นที่ 32 แพ็ท ไรซ์พาลูกทีมกราบขอขมาลาโทษหลังแพ้มิลาน ซานญ่าบอกกราบได้ตรูกราบไปแล้วววววว บางครั้งผมเองก็รู้สึกว่าตัวเองบ้าหรือเปล่า ทำไมตรูจะต้องมาควักตังค์ไปยืนร้องเพลงเชียร์ ให้กำลังใจพวกเศรษฐีในสนามบอลเหล่านี้ด้วย (รวมทั้งผจก.ทีม) ทั้งๆที่มันก็ไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อเรา เล่นห่วยบอลแพ้แฟนบอลได้อะไรบ้าง แต่ดันมีผจก.ทีมบางคนออกมาบอกบอลแพ้ผมนี่แหละเจ็บปวดที่สุด กดดัน เครียด นอนไม่หลับ แต่ตัวเองก็ยังกินดีอยู่ดี แถมดันขอเงินเดือนขึ้นซะด้วยแหนะ มันต้องเป็นงานที่แย่ที่สุดในสามโลกและไม่มีใครอยากทำแน่ๆ? ผมบังเอิญได้ไปอ่านเจอสัมภาษณ์ผจก.ทีมคนนี้ จาก The independent เมื่อสองปีที่แล้วมาเกี่ยวกับเรื่องเงินๆทองๆ มีอยู่ตอนนึงที่สะดุดใจผมมาก Does Wenger agree that footballers are generally over-paid? "That is not for me to decide. That is a society choice. My target is to make the players as rich as possible within the financial constraints of the club. My target is not to give them less money. I'm happy to make them rich." http://www.independent.co.uk/news/people/profiles/arsene-wenger-am-i-too-intelligent-to-be-a-football-manager-you-can-never-be-intelligent-enough-1919257.html ผมเลยซึ้งถึงพระเดชพระคุณเลยว่าใครมีความคิดยังไง ใครมีหัวคิดฟุตบอล ใครมีหัวคิดธุรกิจ ในโลกธุรกิจคุณคงจะรู้ว่าเงินเป็นพระเจ้า และมาเป็น priority อันดับหนึ่ง เรื่องอื่นเป็นเรื่องรอง ผมไม่แปลกใจเลยที่คนคนนึงได้รายได้เพิ่มขึ้นเพราะเขาคิดว่าตัวเองแน่ ตัวเองเก่ง และค่าตอบแทนที่ได้นั้นสมควรและเหมาะสมดีแล้ว `make someone as rich as possible within the financial constraints of the club' นั่นดูเป็นประโยคที่สวยหรู แต่ถ้าคุณมองลงไปรายได้เหล่านั้นมันมาจากไหน ถ้าไม่ใช่จากแฟนบอล จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 09:25:59

ความคิดเห็นที่ 33 คุณลองมองข้อดีของการสร้างทีมโดยใช้เด็กปั้นหรือไปสอยนักเตะโนเนมที่ฝีเท้าดีระดับหนึ่งมาร่วมทีม 1.สโมสรไม่ต้องลงทุนมากกับค่าตัว + ค่าเหนื่อย 2.โดยเบสิคนักเตะพวกนี้จะพอใจกับการก้าวกระโดดของสถานะตัวเอง จาก nobody สู่ somebody ในโลกฟุตบอล และจะรู้สึกขอบคุณบุคคลที่ทำให้ชีวิตของพวกเขาเปลี่ยนไป ไม่ว่าวันเวลาผ่านไปเขาก็จะไม่ให้สัมภาษณ์ในทางลบกับผู้มีอุปการะคุณเด็ดขาด คนพวกนี้ปกครองง่าย และมักจะไม่แข็งข้อ ถ้าเทียบกับการเซ็นต์ซุปเปอร์สตาร์ที่คิดว่าตัวเองแน่เข้ามาคนนึง 3.ถ้าเกิดพวกนี้เกิดเก่งในเวลาต่อมาแล้วอยากย้ายทีมไปหาทีมที่มีโอกาสประสบความสำเร็จสูงกว่า สามารถขายออกไปทำกำไรเพิ่มได้อีก นี่เป็นวัฏจักรที่เกิดขึ้นกับอาร์เซน่อลในทุกวันนี้ อุดมไปด้วยนักเตะภายใต้โอวาทของเวนเกอร์ กวาดสายตาไปดูจักเตะแต่ละคนในทีม ผมพูดตามตรง มีแต่พวกติ๋มๆทั้งนั้น อาจจะมีแค่แฟร์มาเล่นคนเดียวที่ดูจะมีเค้าเป็นผู้นำได้ แม้แต่วิลเชียร์หรือฟริมปง พวกนี้ก็เป็นเด็กในโอวาทของเวนเกอร์เหมือนกัน แล้วลักษณะก็จะออกแนวกร่างมากกว่าจะเป็นพวกที่เป็น natural born leader คำว่าเด็กในโอวาทของผมก็คือเป็นพวกที่ทำอะไรตามคำสั่งเจ้านายเท่านั้น แต่ไม่ได้คิดที่จะลุกขึ้นมาเริ่มต้นด้วยตัวเอง ผมมองแล้วพอจะรู้ได้เลยว่าบรรยากาศในห้องแต่งตัวมันเป็นยังไง แล้วแตกต่างกับสมัยก่อนที่มีพวกอดัมส์, ดิ๊กซั่นยังไง จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 10:06:08

ความคิดเห็นที่ 34 สุดยอดครับ จากคุณ : bank2511 เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 10:55:04

ความคิดเห็นที่ 35 ปกติแอบดูอยู่เงียบๆ แต่บอกตรงๆ วันนี้อยากติดตามกระทู้คุณนักมายากลฯ ที่สุด... อยากฟังความเห็นจากคนๆ หนึ่ง "ที่สามารถพูดได้อยากเต็มปากเต็มคำว่าแฟนบอล" อย่างคุณนักมายากลฯ อ่ะครับ ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆ นะครับ จากคุณ : nutaro_x เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 10:58:47

ความคิดเห็นที่ 36 ผมมีคลิปสองคลิปที่อยากให้ดู เป็นบทสัมภาษณ์ของลี ดิ๊กซั่น ต่อความเปลี่ยนแปลงของ mentality, บรรยากาศในห้องแต่งตัว, และความหมายของการสวมเสื้ออาร์เซน่อล ซึ่งนักเตะสมัยดิ๊กซั่นจะรู้ว่าการได้ลงเล่นให้กับอาร์เซน่อลมันมีความหมายแค่ไหน คุณลงไปเล่นให้อาร์เซน่อล หมายถึงคุณเป็นตัวแทนของทีม ตัวแทนของแฟนบอล เป็นทุกๆอย่าง แต่กับนักเตะในยุคปัจจุบันที่ลงเล่นเพื่อเงินมากกว่า แม้จะมีความเป็นมืออาชีพมากกว่าเมื่อก่อน (คือไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่ทำตัวนอกลู่นอกทาง) แต่นักเตะแต่ละคนรู้สึกถึงความเป็น `อาร์เซน่อล ' มากแค่ไหน หรือลงเล่นไปเหมือนกับลงเล่นให้สโมสรๆนึง รับตังค์เป็นมือปืนรับจ้างเท่านั้น ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะอธิบายคำว่า `อาร์เซน่อล' ออกมาเป็นคำพูดได้อย่างไร จากคลิปที่ดิ๊กซั่นกล่าวถึง tradition ของทีม ผมรู้ว่าแกหมายถึงอะไร และก็เชื่อว่าแก รวมทั้งนักเตะอย่างอดัมส์ ดิ๊กซั่น คีโอว์นได้รับการปลูกฝังมาอย่างไรจากจอร์จ เกรแฺฮม สำหรับแฟนบอลที่รุ่นเก่าหน่อย ผมเชื่อว่าเวลาที่พูดถึงอาร์เซน่อล ทุกคนน่าจะพูดถึง 3 ยุคทองของทีมคือ ปี 70-71, Graham Era, และ Wenger Era สามยุคนี้น่าจะเป็นคำนิยามของอาร์เซน่อลได้สมบูรณ์แบบที่สุด (ไม่นับไปถึงยุคเก่าของเฮอร์เบิร์ต แชปแมน) ยุค 70-71, Graham Era, และยุคต้นของ Wenger Era มีสิ่งนึงที่เชื่อมถึงกันคือ จอร์จ เกรแฮม และโดยส่วนตัวผมนั่นเป็นสิ่งที่ผมยึดถือมาตลอดว่านี่คือความเป็นอาร์เซน่อล คือ ความเป็นผู้นำและความแข็งแกร่งของสภาพจิตใจ เกรแฮมเองก็เป็นอดีตอาร์เซน่อลเหมือนกัน และแกเองก็อยู่ในทีมชุดเดียวกับกัปตันกระดูกเหล็กอย่างแฟร้ง แม็คลินท็อค ซึ่งว่ากันว่าเป็นต้นแบบของโทนี่ อดัมส์ จากคำบอกเล่าของนักเตะในยุคนั้นเองอย่างชาลี จอร์จ และ บ็อบ วิลสัน ผมฟังเรื่องเก่าๆมาจากสองคนนี้มาพอสมควรสมัยไปวัน members day เมื่อหลายปีก่อนหากจะจำกันได้ จริงๆที่บ้านผมมีวิดีโอของทีมซีซั่น 90-91 ที่ได้แชมป์ด้วยการแพ้แค่นัดเดียว ซึ่งผมเองตอนเด็กๆนั่งดูไปหลายรอบมาก มีบทสัมภาษณ์ของนักเตะในทีมที่กล่าวถึงจอร์จ เกรแฮมไว้มากว่าเป็นคนที่เคี่ยวมาก บางครั้งซ้อมเกมรับกันจนตายกันไปข้างเลย กลับถึงบ้านสลบเหมือด (ซึ่งต่างจากวิถีปัจจุบัน ที่ข่าวออกมาล่าสุดว่าเวนเกอร์เน้นซ้อมการจ่ายบอล ครองบอลมากกว่าเกมรับ) ทีมอื่นอาจจะมีนิยามของทีมที่แตกต่างกันออกไป อย่างแมนฯยูฯก็อาจจะเป็นพวกใจสู้ไม่ยอมแพ้ ลิเวอร์พูลก็อาจจะเป็นเราจะไม่มีวันเดินเดียวดาย วันไหนพ่ายเราจะกลับมาใหม่ ส่วนนิยามของอาร์เซน่อลส่วนตัวของผมคือความเป็นผู้นำและความเหนียวแน่น นั่นเป็นอาร์เซน่อลที่ผมเคยรู้จักเมื่อวันวาน ส่วนตัวผมไม่สนใจบอลสวยงามอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ผมยอมรับเลยว่ารู้สึกช็อคกับทีมชุดปัจจุบันมากเพราะมันไม่มีความเป็นอาร์เซน่อลที่ผมรู้จักหลงเหลืออยู่แม้แต่น้อย หากแมนฯยูฯคือการโดนนำ 1-0 แล้วพลิกกลับมาชนะ 2-1 หากลิเวอร์พูลคือการที่แพ้นัดนี้ เราจะกลับมาชนะคุณในนัดหน้า อาร์เซน่อลก็คือการที่หากเรานำคุณแล้ว เราจะไม่ยอมพลาดเสียประตูคืนให้เด็ดขาด นี่คือนิยามของคำว่าอาร์เซน่อลของผม ส่วนของคนอื่นจะเป็นยังไงผมไม่รู้ แต่ทุกวันนี้ ผมดูแล้วได้แต่ถอนหายใจ จ่ายกันไปล้านแปดรอบนอกเขตโทษ ได้จังหวะยิงก็ไม่ยิง นำ 4-0 ยังทำให้เสมอ 4-4 ได้ เล่นกันไม่ได้มีความกระตือรือร้นเลย นี่มันคือนิยามของพวกขี้แพ้ชัดๆ จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 11:04:09

ความคิดเห็นที่ 37 ไม่ง่วงหรือครับ หรือว่าหลับไปแล้ว รออ่านต่อนะครับ จากคุณ : TheKop78 เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 11:25:01

ความคิดเห็นที่ 38 มารออ่านด้วยครับ ความเห็นสุดสอดครับ จากคุณ : Good will hunting เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 11:41:29

ความคิดเห็นที่ 39 อันนี้เป็นคลิปที่แฟนบอลถ่ายมาตอนไปทัวร์สนามกับดิ๊กซั่น (ซึ่งนานทีปีหนแกจะว่างมาเป็นไกด์ทัวร์ให้ซักรอบนึง นี่ผมก็กำลังรออยู่ว่าแกจะนำทัวร์อีกเมื่อไหร่ จะได้ไปเจอส่งท้าย) ผมคิดว่า legends tour นั้นจะได้ประโยชน์สูงสุดคือเป็นการไปนั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับอดีตนักเตะทีม ซึ่งจะได้ความเห็นและมุมมองดีๆกลับออกมา ถ้าอยากไปทัวร์สนามไปทัวร์แบบธรรมดาก็ได้ --------------------------------------------------------------------------- ลีบอกเลยว่าบรรยากาศในห้องแต่งตัวสมัยเวนเกอร์นั้นแกเป็นคนที่เงียบๆ ลักษณะเป็นแบบโปรเฟสเซอร์กับนักเรียน ส่วนของทางเกรแฮมนั้นเข้ามาเจอกันจะฉะกันโช้งเช้งมากกว่า เวนเกอร์เวลาใส่ทีนักเตะต่างชาติหงอเลย ส่วนพวกแก็งค์แบ็คโฟร์ก็จะหัวเราะคิกคักเหมือนพวกเด็กหลังห้อง (ผมก็อดีตเด็กหลังห้อง) แต่พอถึงเวลาพวกนี้แหละที่เป็นตัวกระตุ้นทีมและเป็นส่วนเติมเต็มจุดที่เวนเกอร์ไม่มีและไม่เคยมี หลายคนบอกว่าอาร์เซน่อลไม่มีทางวันนี้หากไม่มีเวนเกอร์ ผมก็กล้าบอกเหมือนกันเลยว่าเวนเกอร์ก็ไม่มีทางมีวันนี้หากไม่มีแบ็คโฟร์ของเกรแฮม แม้กระทั่งปี Invincible ที่แบ็คโฟร์สลายไปเกือบหมดเหลือแต่คีโอว์นที่เป็นสำรอง บิ๊กโซลผมเชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่ได้รับคุณสมบัติผู้นำที่ดีติตัวมา แม้กระทั่งเกรแฮมก็เคยติวให้แคมป์เบลล์สมัยคุมสเปอร์ส 3 ปี จนกระทั่งเวนเกอร์เริ่มมาตั้งไข่ทำแบ็คโฟร์เวอร์ชั่นยูโรเปี้ยนของแกเองโดยที่ไม่มีอิงลิชแม้แต่คนเดียวเนี่ย เกมรับก็เริ่มเละไม่มีชิ้นดี นอกจากเกมรับห่วยแล้ว การที่เอานักเตะต่างชาติเข้ามายั๊วเยี้ยเต็มทีมไปหมด โดยเน้นแต่ฝีเท้า (ซึ่งหลายๆคนก็ไม่ได้ดีจริงอย่างที่ว่า) แต่ไม่ได้เน้น `ใจ' มันมีรอยต่อช่วงที่นักเตะดาวรุ่งหน้าใหม่เข้ามาเต็มไปหมด และไม่มีใครรู้ว่าคำว่า `อาร์เซน่อล' คืออะไร นักเตะคนสุดท้ายที่หายไปกับคำนี้ผมคิดว่าคือปาทริค วิเอร่าผู้ที่ชูถ้วยแชมป์สุดท้ายให้อาร์เซน่อล จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 11:42:36

ความคิดเห็นที่ 40 สวัสดีทุกท่านนะครับ เดี๋ยวผมขอตอบรวบตอนท้ายทีเดียว เฮัย หลงไปไกลละ กลับมาที่เกมหน่อย รองกัปตันกับกัปตันพาลูกทีมมาซ้อมวิ่ง จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 11:45:35

ความคิดเห็นที่ 41 มารออ่านความคิดเห็นของคุณนักมายากลฯต่อครับ ผมเชียร์อาร์เซน่อลมา 10 กว่าปี ปีนี้แหละครับที่ห่วยสุดๆ ตอนนี้เหมือนหมดแรงที่จะดูแล้วครับ แต่ละนัดที่ดูมันละเหี่ยใจปนสังเวชทีมตัวเองครับ ในใจก็คิดว่า ตรูจะเสียเงินค่าเสื้อให้สโมสรมันไปทำไมหลายๆตัว แล้วมันไม่เอาไปลงทุนทำอะไรเลยฟะ แม้เงินมันจะน้อยนิด แต่มันก็มาจากแรงใจ แรงกายที่ได้อุดหนุนทีมที่เรารัก แต่สโมสรกลับตอบแทนแฟนบอลกันอย่างงี้ ผมว่าอีกไม่นานครับ จะมีการประท้วงครั้งใหญ่จากเหล่ากูนเนอร์ทั่วโลกแน่นอน และผมก็จะร่วมเป็นส่วนนึงในนั้นด้วย ไม่ใช่ไม่รักทีมนะครับ ที่ทำแบบนี้เพราะต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นครับ จากคุณ : แต้วแว้ว เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 11:46:20

ความคิดเห็นที่ 42 ยังไงก็สัญญาว่าจะพยายามทยอยทำกระทู้ให้ครบก่อนที่ผมจะไปเริ่มงานใหม่ที่เมืองไทย ซึ่งหลังจากนั้นผมคงจะไม่ค่อยมีเวลาว่างเข้ามาตอบหรือตั้งกระทู้ในพันทิปนี้อีกแล้ว ^ ^ ^ หมายความว่า กลับมาเมืองไทย แล้วจะไม่ได้เล่นพันทิปแล้วเหรอครับ? จากคุณ : Anduril เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 11:47:25

ความคิดเห็นที่ 43 ฟางเส้นสุดท้ายจริงๆ จากคุณ : Vladio V Velmoth เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 11:48:14

ความคิดเห็นที่ 44 เห็นด้วยทุกประโยค  เฮ้อออออ!!!!! จากคุณ : Mangpor number 14 เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 11:49:58

ความคิดเห็นที่ 45 นกหงอย นี่ถ้าปิดซีซั่นนี้ เพอร์ซี่ไม่ต่อสัญญา แล้วทีมตัดสินใจขายออกไปนี่ ผมเชื่อว่าซีซั่นหน้าจะเป็นฤดูกาลที่หนักหนาของทีมอย่างที่อาจจะคาดไม่ถึงมาก่อน หลายคนบอกตอนอองรีไป ทีมยังไม่เห็นเป็นอะไร ตอนนั้นอองรีไป ยังมีอเดบายอร์กับเพอร์ซี่ ซึ่งทั้งคู่พิสูจน์ตัวเองมาระยะนึงแล้ว อเดไป ทีมมาเล่นหน้าตัวเดียวใช้เพอร์ซี่ แต่ถ้าเพอร์ซี่ไปตอนนี้คือไม่เหลือใครเลยนะครับ ต้องเริ่มจาก 0 เลยคือไปหากองหน้ามาใหม่ (ยังมีใครหวังกับชามัคห์หรือปาร์คอีกมั๊ย?) แล้ว RVP นี่ก็ถือเป็นกองหน้าระดับท็อป 10 ของโลก ณ เวลานี้แล้ว ปีนี้ทีมก็พึ่งพากับ RVP มากเหลือเกิน ชนิดที่ว่าถ้าแกเจ็บทั้งปี อาร์เซน่อลตอนนี้ลงไปนอนกองท้ายตารางแล้ว การจะหาตัวแทนมาแบบสมน้ำสมเนื้อแถมใช้งานได้ทันทีและผลิตสกอร์ได้แน่นอนไม่ใช่เรื่องง่าย คุณอาจจะไปได้นิวชามัคห์มาแทนก็ได้ ยิ่งปีหน้าจะไม่ได้ว่าจะได้ไป UCL หรือเปล่าก็ยิ่งทำให้โอกาสได้ตัวดีๆก็ยิ่งยากไปอีก แล้วไหนจะ option ทางเลือกกองหน้าตัวที่สองที่จะมาแทนชามัคห์อีก แล้วตำแหน่งอื่นๆอีกล่ะ? จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 11:56:18

ความคิดเห็นที่ 46 จะมีกองเชียร์เวนเกอร์มาค้านอะไรคุณนักมายากลในกระทู้นี้ป่าวหว่า จากคุณ : RedPizza เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 12:01:13

ความคิดเห็นที่ 47 คุณเชื่อหรือไม่กัปตันทีมจากสามชาติชั้นนำได้แค่นั่งเป็นตัวสำรองเตะฝุ่น ผจก.ทีมคนอื่นเห็นแบบนี้คงได้แต่บอกว่าเอ็งบ้าแน่ๆ ใช้งานนักเตะไม่เป็น จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 12:04:58

ความคิดเห็นที่ 48 ออกตัวก่อนนะครับ ผมแฟนไก่ครับ ก็เชียร์ไก่มาแม้ว่าจน้อยกว่า คุณมายากลแต่ก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของหลายๆทีม อาเซน่อลเป็น1ในนั้น ผมอยากไห้มองภาพรวมก่อนอ่ะครับ คือ ถ้าปัจจุบันนี้ ไม่มีเวนเกอร์ผมเองก็ไม่แน่ใจว่า อาเซน่อลจะไกลถึงขนาดนี้หรือไม่ ผมเข้าใจดีครับ ทีมล้มเหลวมันเป็นยังไง เพราะคลับไก่ผมเมื่อก่อนก็ไม่ได้เรื่องได้ราว พึ่งมาดีๆตอน56ปีนี้เอง แต่ถ้าเทียบกับอาเซน่อลแล้วผมมองว่าแค่ปีนี้เท่านั้นเองล่ะครับที่ผลงานไม่ดีเท่าไหร่ อีกอย่างทีมในลีคพรีเมียร์หลายๆทีมก็เก่งขึ้นมาด้วย ใช้เงินซื้อนักเตะ ดีดีมาเล่น ผมว่าแกก็เก่งแล้วนะครับ ด้วยนักเตะชุดนี้ยังมีลุ้นไปยุโรปทุกปี การแพ้ มิลานผมว่าไม่อยากไห้มาเป็นประเด็น เพราะมิลานช่วงนี้แกขาขึ้นจริงๆ แต่อย่าลืมนะครับว่า ปืนก็เคยบุกไปสอยมิลานมาแล้ว ผมเองก็ตามข่าวทีมอาเซน่อลมาแม้ว่าจะไม่เยอะแต่ก็ได้ตามอ่านเพราะคุณพ่อผมชอบอาเซน่อล ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่อยากแสดงความคิดเห็นว่า ลองจบปีนี้ก่อน แล้วค่อยมานั่งคิดดีกว่าว่าถึงเวลาที่เวนเกอร์สมควรไปหรือยัง แล้วถ้าแกไป ใครจะมาคุมต่อ ตรงนี้หล่ะครับคือปัญหา ตัวอย่างง่ายเชลซีมีทุกอย่างพร้อม อะไรพร้อมแต่เปลี่ยน ผจก บ่อยมาก ปล.ถ้าอันไหนผมพูดเกินไปก็ว่ากล่าวตักเตือนได้นะครับ ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนความรู้กับแฟนปืนไหญ่ครับ ปล.2 ผมตามอ่านกระทู้คุณนักมายากล ผมชอบมากเวลาลงรายละเอียดปลีกย่อยทำไห้อ่านเพลินดี ทำแบบนี้ผมยิ่งอยากไป สนาม ไวท์ฮาร์ทเลนส์มั้ง ขอบคุณมากครับ จากคุณ : ลิงบ้า เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 12:12:05

ความคิดเห็นที่ 49 สวัสดีค่ะพี่นักมายากล ^^ รอตามอ่าน กระทู้ดีๆและความเห็นของแฟนบอลที่โน้นกับของพี่ กระแสเป็นยังไงบ้าง Together จากคุณ : koy_onair เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 12:18:24

ความคิดเห็นที่ 50 เกมนี้แฟนๆเจ้าบ้านมากันไม่เต็มความจุ ในหนังสือโปรแกรมแจ้งไว้ว่าหากเกมนี้จบลงด้วยการเสมอ เกม replay จะมีขึ้นในกับ 3 วันให้หลังคือวันอังคารพรุ่งนี้น่ะแหละครับ เพราะตารางอาร์เซน่อลนั้นแน่นเอี้ยดไปหมดแล้ว แถมจะชาร์ตค่าตั๋วราคาปกติซะด้วย เหลือเชื่อจริงๆ มีเวลาขายตั๋วแค่ 3 วันยังกะเก็บเต็มแบบนี้ เคี่ยวสุดๆจริงๆ ผมมั่นใจว่าถ้าทีมต้องไป replay จริง ยอดผู้ชมเกมนั้นจะต่ำที่สุดเป็นสถิติแน่นอน ผมให้เลยไม่เกิน 40,000 จะแย่ยิ่งกว่าเกมเจอชรูวส์บิวรี่ที่ขายใบละ 10 ปอนด์ซะอีก จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 12:18:53

ความคิดเห็นที่ 51 ลงสนามครับ แม้แฟนๆแมวดำจะมาไม่เต็มสนาม แต่เท่าที่เหลือนี่ก็ส่งเสียงเชียร์สู้กับแฟนปืนได้อย่างเมามัน โดนไปดอกแรก "Champions League, You're having a laugh" ฝันไปเหอะแชมเปี้ยนส์ลีก โดนมิลานอัดมา 4-0 แฟนปืนสวนไป "Your ground is too big for you" ที่ว่างเพียบ จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 12:23:49

ความคิดเห็นที่ 52 เขี่ยเริ่มเกมครับ แพ้เกมนี้อาร์เซน่อลหมดลุ้นทุกถ้วย สถานการณ์นี้คุ้นๆสำหรับผม เพราะช่วงเวลาเดียวกันนี้เมื่อปีก่อนก็เคยตามไปเชียร์ทีมตกรอบ 3 ถ้วยซ้อนในหนึ่งสัปดาห์ สุดยอดจริงๆ 2 ปีก่อน ก็ไปเกมเยือนเอฟเอ คัพเนี่ยแหละ ตกรอบเกมกับสโต๊ค เอ๊ะ หรือเราจะเป็นตัวซวย ขอพูดย้อนกลับไปคาร์ลิ่งคัพปีที่แล้วหน่อยนึง ตัวผู้เล่นเป็นต่อเบอร์มิ่งแฮมก็เยอะ แต่ดันแพ้ได้เพราะอีกทีมเค้าเอา 'ใจ' ลงมาเล่นมากกว่า เลยยันเสมอได้ใน 90 นาที เวนเกอร์เอ๋ย โอกาสมีตั้งกี่ครั้งไม่รู้แต่คุณโยนมันทิ้งไป จริงๆผมเริ่มไม่ถูกชะตาแกมาตั้งแต่นัดชิงคาร์ลิ่งคัพกับเชลซีปี 2007 แล้ว เจอสุดยอดทีมเชลซีของมูรินโญ่แต่คุณกลับเอาเด็กลง เพียงเพราะมันเป็นถ้วยของเด็กที่เด็กๆอุตส่าห์ฝ่าฟันกันมา ดร็อปทั้งอองรี เคล็ป อเดบายอร์ ผมเรียกเกมนั้นว่าเดินลงสนามไปฆ่าตัวตาย เพราะลำพัง 11 ตัวจริงที่ดีที่สุดของทีมลงไปยังไม่รู้ว่าจะสู้ได้หรือเปล่า นับประสาอะไรกับตัวสำรองและเด็กไม่รู้เดียงสา สุดท้ายแม้ทีมจะเล่นดีสู้ได้สูสี แต่แพ้ก็คือแพ้ นั่นคือความจริง ความเคี่ยวของนักเตะประสบการณ์และนักเตะวัยรุ่นมันต่างกัน ยังจำได้ตอนนั้นมีแต่คนยกยอกันใหญ่ว่าเป็นทีมแห่งอนาคต จากวันนั้นที่คุณฆ่าตัวตายโยนถ้วยทิ้งไปตั้งแต่เกมยังไม่เริ่มจนถึงวันนี้ ผมก็ได้แต่นึกสมน้ำหน้าตัวเองว่า เป็นไงล่ะ mung ถ้าวันนั้นชนะขึ้นมา วันนี้เอ็งคงไม่โดนหนักขนาดนี้ ลองมองย้อนไปดู 11 ตัวจริงวันนั้นที่ว่ากันว่าเป็นทีมแห้งอนาคต แล้วลองมองมาดูวันนี้ว่าทีมได้อะไรกลับมาบ้าง ได้ธีโอ `ไม่ผ่าน' วัลค็อตต์มาหนึ่งคน ได้อาบู `เปลืองค่าหมอ' เดียบี้มาหนึ่งคน, ได้เชส `มันหนีไปแล้ว' ฟาเบรกัสมาหนึ่งคน, และได้ `ใครๆก็ไม่เอา' เดนิลสัน มาอีกหนึ่งคน ผลของการทำเป็นเท่ คิดถึงแต่เด็ก กลัวไม่ได้เกิด โดยไม่นึกถึงแฟนบอล ไม่นึกถึงความสำเร็จเป็นที่ตั้ง ผลลัพธ์สุดท้ายมันก็เป็นแบบนี้แหละ ผมยังจำได้ว่ามีแฟนบอลไม่กี่คนหรอกทั้งในพันทิปและเมืองนอกที่ไม่เห็นด้วยกับการจัดเด็กลง เพราะช่วงนั้นยังเป็นช่วง honeymoon period `In Arsene, we trust' กันอยู่ แต่ผมไม่เคยเห็นด้วยกับการที่ไม่จัดทีมที่ดีที่สุดลงในนัดชิง มันเป็นการไม่ให้เกียรติแฟนบอล คุณแค่อยากจะทำตามแบบของวิธีคุณ คุณอยากจะชนะแบบมีสไตล์ ผมยังจำได้ครั้งนึงคุณเคยบอกไว้ว่าทีมใหญ่ควรจะชนะแชมเปี้ยนส์ลีกแบบมีสไตล์ คือเล่นฟุตบอลเกมรุกที่สวยงาม จวบจนวันนี้คุณไม่เคยได้แม้แต่มีโอกาสกระทั่งสัมผัสถ้วยแชมป์ใบเล็กที่สุดของยุโรป ก็เพราะการจำกัดกรอบตัวเองของคุณ อีโก้ของคุณ ในขณะที่ `คนที่ชนะแบบไม่มีสไตล์' ตามนิยามของคุณอย่างมูรินโญ่ เค้าได้แชมป์ไปสองรอบแล้ว แถมคุณเจอกับเค้าก็ยังไม่เคยเอาชนะได้แม้แต่นัดเดียวอีกด้วย มันแปลว่าอะไร? มันแปลว่าใครบางคนไม่ยอมรับศาสตร์แห่งเกมรับ มองว่ามันเป็นเรื่องน่าเบื่อ ไม่ให้ความใส่ใจ เอาเวลาไปมัวแต่ใส่ใจกับการจ่ายบอลเล่นเกมรุก พอคู่แข่งมาอุดก็ใบ้กินทำอะไรไม่ได้ พอไม่ชนะก็ไปตีโพยตีพายว่าเล่นอุดบ้าง เล่นโยนบอมบ์ใส่เหมือนรักบี้บ้าง มันเป็นคำแก้ตัวของพวกขี้แพ้ที่พอเห็นอะไรไม่ได้ดั่งใจก็โวยวาย อาร์แซน เวนเกอร์ไม่มีทางคุมทีมชาติกรีซได้แชมป์เพราะคุณไม่รู้จักยืดหยุ่นว่าทรัพยากรที่มีเป็นแบบนี้ควรจะเล่นยังไง คุณตั้งกรอบขึ้นมาให้ตัวเองว่าฉันอยากจะชนะแบบมีสไตล์ สุดท้ายคุณก็เป็นเหยื่อของกรอบที่ตั้งขึ้นมาเอง และลงเอยด้วยการไม่ได้อะไรเลย มันมีแค่เส้นบางๆคั่นระหว่างอุดมการณ์กับอีโก้โง่ๆ อาร์แซน เวนเกอร์ชายผู้เดียวที่ทำทีมเข้าชิงบอลถ้วยยุโรปครบ 3 ถ้วยและแพ้รวด ใครว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือดวงซวย ผมว่าไม่ใช่ จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 13:17:01

ความคิดเห็นที่ 53 เพิ่มนิดนึงคลิปของดิ๊กซั่นนั้นมีเยอะมากนะครับ และมีหลายคำถามที่น่าสนใจมาก ลอง search `lee dixon questions' จะออกมาอื้อเลย อาจจะมีบางคำถามซ้ำๆกันบ้างเพราะแกตอบให้หลายเว็บ จริงๆเกมผมนี้ผมยอมรับว่าเตรียมตัวแพ้มาตั้งแต่บ้านแล้ว แต่ก็ยังตามไปเชียร์ส่วนนึงเพราะค่าตั๋ว+ค่าเดินทางไม่ได้แพงมากมาย สองคือช่วงเวลาที่เหลือผมคงจะไม่มีเวลามากนักที่จะได้ตามไปเชียร์ทีมอีก และส่วนตัวคิดว่าเกมนี้เหมาะสมที่สุดแล้วที่จะเป็นเกมอำลาของผม และแสดงจุดยืนของผมในฐานะแฟนบอลคนนึง ทำให้สาม เกมนี้ผมเลยเตรียมอุปกรณ์ไปด้วย ซึ่งก็กะว่าจะได้ใช้หลังเกมจบหากทีมแพ้ น่าเสียดายที่ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่ผมคาดการณ์เอาไว้ เพราะยังมีองครักษ์พิทักษ์เวนเกอร์อยู่นั่นเอง (ไม่ได้ต่างอะไรกับที่เมืองไทยหรอก) ผมจะเล่าตอนท้ายให้ฟังว่ามันคืออะไร อย่างไร จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 13:40:41

ความคิดเห็นที่ 54 กระทู้ดีมีประโยขน์อีกครั้ง ขอบคุณมากๆครับ เห็นด้วยทุกประการ ใครว่าปีนี้เละแล้ว อยากให้รอดูปีหน้า 55 จากคุณ : ปืนคุง เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 13:43:33

ความคิดเห็นที่ 55 แฟนๆเจ้าบ้าน วันนี้รวมฮิตแฟนตาซีจริงๆ จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 13:45:15

ความคิดเห็นที่ 56 มีใครพอจะทราบบ้างว่าอาร์เตต้ายิงฟรีคิกเข้าครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่? จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 13:49:31

ความคิดเห็นที่ 57 เซบ ลาร์สสัน ที่แฟนปืนร้องแซวว่า `Arsenal reject' แต่ผมว่าแกคงไม่แคร์อะไรแล้ว (เพลงนี้ผมไม่ได้ร้อง เพราะคิดว่าแกให้เกียรติทีมพอสมควร ต้นฤดูกาลยิงฟรีคิกเข้า ไม่ดีใจ) ปีที่แล้วได้แชมป์คาร์ลิ่งคัพกับเบอร์มิ่งแฮม ปีนี้มาเขี่ยอดีตต้นสังกัดตกรอบได้อีก Arsenal reject.....Who cares? จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 13:57:48

ความคิดเห็นที่ 58 ลองมองย้อนไปดู 11 ตัวจริงวันนั้นที่ว่ากันว่าเป็นทีมแห้งอนาคต แล้วลองมองมาดูวันนี้ว่าทีมได้อะไรกลับมาบ้าง ได้ธีโอ.............. ขอแซว....ครับ ถ้าพิมพ์ผิดก็ยังให้ความหมายได้ชัดเจนดีครับ แต่หากตั้งใจก็ตามนั้นเลยครับ 555..ทีมแห่งอนาคตที่กลายเป็นทีมแห้งอนาคตไปแล้ว...เหอๆๆๆๆ จากคุณ : Zithromax เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 13:58:55

ความคิดเห็นที่ 59 Ramsey: เฮีย ทำไมแฟนปืนไม่มีใครรักผมเลย Webb: เอ็งยังดีแค่แฟนปืนไม่รัก แต่กรูนี่แฟนทีมอื่นที่ไม่ใช่แฟนผีแม่มเกลียดกรูหมด แฟนปืน: Fergie's Fat Boy, Fergie's Fat Boy (เพลงของฮาวเวิร์ด เว็บบ์) จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 14:02:14

ความคิดเห็นที่ 60 James McClean ปีกซ้ายดาวรุ่งพุ่งแรงของเจ้าบ้าน น่าจับตามองมากครับคนนี้ จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 14:04:40

ความคิดเห็นที่ 61 ท่าเอามือไพล่หลังที่เป็นการแสดงว่าตรูไม่ได้ถูกตัวเอ็งนะเว้ย ผมจำได้ว่าดิ๊กซั่นกับอลัน แฮนเซ่นเคยด่าใน MOtD ตอนที่ชูรูทำท่านี้ในเกมกับแมนฯยูฯเพราะกลัวบอลมาโดนจะโดนเป่าแฮนด์บอล บอกว่าเป็นท่าที่ปัญญาอ่อนมาก เพราะเอามือไปไว้แบบนั้นมันจะวิ่ง หรือกระโดดถนัดได้ยังไง ผลคือเกมนั้นชูรูโดนนานี่พาทัวร์ Arsenal Only จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 14:17:26

ความคิดเห็นที่ 62 ครึ่งแรกโดนไป 1-0 จากผลพวงของลูกเซ็ตพีซ (อีกแล้ว) วันที่ไปนี่หนาวและลมแรงมากครับ พักครึ่งคนเลยพากันอัดกลับเข้าไปในโถงด้านในซึ่งมันแคบและที่ไม่พอ สุดท้ายเลยต้องทยอยกันออกมารับลมหนาวข้างนอกเช่นเดิม จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 14:21:10

ความคิดเห็นที่ 63 ท้าวแชร์ อีกหนึ่งการซื้อตัวแบบ Wenger's style เทคนิคดี เร็ว เลี้ยงดี แต่ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน งึกๆงักๆ มันเป็นงึกๆงักๆตลอด จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 14:27:39

ความคิดเห็นที่ 64 เซอร์ไพรซ์เล็กน้อยที่ทีมเปลี่ยนตัวแต่หัววัน แถมเล่น 4-4-2 เลยซะด้วย เอาธีโอ `ไม่ผ่าน' วัลค็อตต์มาเล่นหน้าคู่ แต่ปรากฏเงียบกริบ เอาสกิลลาชี่ที่เล่นได้ชูรูมากออก เสียดายโควต้าเปลี่ยนตัวสุดๆ ถ้าเอาซงไปเล่นหลังตั้งแต่แรกคงได้เห็นเบนายูนไม่ก็พี่ม้าลงมาเปลี่ยนเกมช่วงท้ายแล้ว จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 14:37:52

ความคิดเห็นที่ 65 พี่กี้ลงมาก็ช่วยอะไรไม่ได้ ได้แต่ร้อง... ~ แฟนด่าเอาไว้กี่หนกันเล่า แต่เธอก็ทำเหมือนเก่า แฟนด่าเอาไว้กี่หนกันเล่า ใยไม่หลาบไม่จำ ใจหมดลาน หมดแล้วไม่ยอมไขต่อ ทนเจ็บพอ มันท้อมันแท้มากมาย เหนื่อยมานาน เหนื่อยกายนั้นไม่เท่าไหร่ เชื่อเวนเกอร์เหนื่อยใจ....หมดลาน ~ จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 14:45:43

ความคิดเห็นที่ 66 .. กระทู้นี้ขอแบบ "จัดหนัก" และ ยาวๆ เลยนะครับ.... จากคุณ : Zithromax เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 15:01:19

ความคิดเห็นที่ 67 สุดท้ายโดนประตูตอกฝาโลง 2-0 ตกรอบสนิทศิษย์ส่ายหน้า หมายังเมิน ที่น่าผิดหวังยิ่งกว่าสกอร์ก็คือ `ความใจสู้' ของทีม เกมนี้เรียกได้ว่าไม่ได้ลุ้นเลยด้วยซ้ำ เป็นอีกเกมที่อาร์เซน่อลแพ้ไปด้วยอาการ `หด' พร้อมกับ ฟุตบอลสวยงาม ในนิยามของเวนเกอร์ แต่สำหรับใครอีกหลายๆคนรวมทั้งเดนนิส เบิร์กแคมป์มันคือ predictable football ไร้ซึ่งจินตนาการ บอลเจาะไม่เข้าคืนหลัง ต่อกันไปถึงกรอบเขตโทษก็ได้แต่ป้ายไปป้ายมา ดึงแบ็คขึ้นมาเติม เปิดโหม่ง ก็ไม่มีใครโหม่งได้ เพราะไม่รู้วันๆเคยซ้อมโหม่งทำประตูกันบ้างหรือเปล่า ยิงไกลก็แทบไม่เคยยิง ได้ยิงก็ไม่เคยเข้า เพราะวันๆซ้อมแต่ต่อบอลไปมา อยากจะชนะแบบมีสไตล์ สุดท้ายแพ้แบบหมดรูป สุดท้ายก็ไปลงเอยโทษสนาม โทษสภาพร่างกาย โทษดวงทำไมไม่ได้จุดโทษ ปล่อยคนอื่นวิจารณ์ไป เราต้องโชว์ว่าเราสภาพจิตใจแข็งแกร่ง (ซึ่งไม่เคยเห็นจะทำได้) และสู้กลับมา อาเมน จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 15:07:50

ความคิดเห็นที่ 68 จบเกม ผมหยิบป้ายกระดาษขนาดประมาณ 4 เท่าของ A4 ออกมา เขียนไว้ด้วยเมจิกตัวโตๆว่า Arsène, We don't want you anymore ชูไปยังสนาม ผมไม่ได้อยากจะดังหรืออะไร และก็ไม่ได้หวังว่าเวนเกอร์จะลาออก หรือบอร์ดจะปลดด้วย เพราะผมรู้ว่ามันไม่มีทางเกิดขึ้น สิ่งที่ผมได้แต่หวังก็คือ หวังว่าจะช่วยสร้างแรงกดดันต่อบอร์ดบริหารและเวนเกอร์มากขึ้น รวมทั้งแฟนบอลอาร์เซน่อลที่ไม่พอใจผลงานของทีมและยังเงียบเสียงอยู่ด้วย แต่ก็เป็นไปตามที่ผมคาดเอาไว้ หลังจากนั้นไม่ถึง 3 นาที ยังไม่ทันที่จะมีสื่อไหนจับภาพได้ ก็มีเด็กวัยรุ่นแฟนอาร์เซน่อลเนี่ยแหละเห็น และวิ่งมาฉีกป้ายผมทิ้งไป ผมก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรเพราะผมก็คาดไว้อยู่แล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ ระหว่างเกมยังมีเสียงแฟนบางคนร้อง One Arsene Wenger อยู่เลย ส่วนผมเพลงนี้ผมเลิกร้องไปตั้งแต่สองปีก่อนแล้ว ลุงข้างหลังผมที่ก่อนหน้านี้สะกิดให้ผมหันป้ายมาให้ดูเพราะอยากรู้ว่าผมเขียนว่าอะไร ตบไหล่ผมเบาๆพร้อมพยักหน้าทำท่าเข้าใจ หลายคนคงจะเคยเห็นป้ายผ้า Thanks for memories but it's time to say good bye กันไปแล้ว ป้ายนั้นผมเองก็ช่วยบริจาคออกเงินให้ด้วย แต่มันไม่เคยได้ใช้งานจริง หลายคนคงจะไม่รู้ว่ามีแฟนที่ถือตั๋วปีพยายามที่จะเอาป้ายนี้ไปชูในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เคยเขียนไปถามสโมสรว่าสามารถเอาเข้าไปได้มั๊ย คำตอบที่ได้รับคือไม่ได้ หากมีใครเอาป้ายต่อต้านผจก.ทีมเข้าไปจะถูกปลดลงทันที รวมทั้งอาจจะส่งผลต่อสถานภาพสมาชิกของแฟนคนนั้นด้วย ในขณะที่แฟนแบล็คเบิร์นสามารถแสดงความคิดเห็นของตัวเองต่อทีมได้อย่างเสรีในดินแดนแห่ง freedom of speech แฟนบอลอาร์เซน่อลกลับไม่สามารถทำได้ เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่แฟนบอลชูป้าย `Wenger Out' ในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม หลังจากนั้ันก็โดนการ์ดสโมสรปลดลงทันที และยังมีอีกครั้งหลังเกมกับแมนฯยูฯที่แฟนบอลอาร์เซน่อลมีเรื่องกันหลังเกมเพราะความเห็นที่ไม่ตรงกันต่อสถานภาพผจก.ทีมคนปัจจุบัน ทุกครั้งเริ่มต้นเหมือนๆกับครั้งนี้ก็คือแฟนที่ไม่พอใจกับเวนเกอร์พยายามแสดงความเห็นของตัวเองออกมา ก่อนที่จะโดนกลุ่ม `pro-Wenger' ต่อต้านไม่อยากให้เกิดขึ้น แฟนบอลแบ่งเป็นสองฝ่ายชัดเจน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ผมไม่ชอบมากที่สุด แฟนบอลแตกคอกันเอง แฟนบอลกลุ่มโปรเวนเกอร์ก็ไม่ได้พอใจผลงานทีมเท่าไหร่นักหรอก แต่ในความเห็นของพวกเค้าคนที่ผิดจริงๆคือบอร์ดบริหารที่ไม่ให้งบทำทีมเวนเกอร์มาต่างหาก คนมักจะชอบมองภาพรวมแบบนี้ว่า เวนเกอร์ทำทีมได้ดีแล้วด้วยงบประมาณจำกัด และแฟนบอลไม่พอใจเพราะทำทีมไม่ได้แชมป์มา 7 ปี คุณควรจะไปด่าบอร์ดบริหารมากกว่า ผมอยากจะขอแสดงทัศนะส่วนตัวต่อกรณีดังกล่าวดังต่อไปนี้ จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 15:40:00

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆครับ จากคุณ : chomin เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 15:44:32

ความคิดเห็นที่ 70 โอ...จัดหนักจริงๆ ครับ ถ้าสาวกเวนเกอร์มาอ่านนี่ สะอึกแน่ๆ โดยส่วนตัว ผมเองก็ยังคงนิยมชมชอบในตัวเวนเกอร์อยู่บ้างครับ (ในด้านความผูกพันกับสโมสร และผลงานในอดีตที่ทำไว้) เพียงแต่ว่า ผมไม่ได้ยึดติดขนาดที่ว่า แตะต้องไม่ได้ หรือเปลี่ยนผู้จัดการทีมไม่ได้ หากจบฤดูกาลนี้ ทีมเราไม่ได้แม้กระทั่งโควต้า UCL ผมคนหนึ่งล่ะ ที่จะไม่ทนใจเย็นกับเวนเกอร์อีกต่อไป (จริงๆ ฤดูกาลนี้ ผมก็ตามด่าเวนเกอร์มาตลอดแล้วนะ 55) ผมขอค้านนิดหน่อย ที่ว่า ยุคต้นๆ ของเวนเกอร์ ได้รับอิทธิพลจาก จอร์จ เกรแฮม ผมก็ไม่เถียงครับ เพราะเวนเกอร์ได้รับมรดกสุดยอดอย่างแบ็คโฟร์ระดับตำนานมาอยู่ในมือ แต่ยุค invincible ก็ต้องให้เครดิตเวนเกอร์เหมือนกันนะครับ เพราะชุดนั้น รู้สึกจะเหลือแค่ คีโอว์น กับ พาร์เลอร์ ที่อยู่มาตั้งแต่ยุคเกรแฮม แต่ทั้งคู่ก็เป็นตัวสำรองแล้วในยุคไร้พ่าย ดังนั้นถ้ายุคไร้พ่าย จะไม่ให้เครดิตเวนเกอร์เลย ก็ดูจะเป็นการดูแคลนเวนเกอร์ไปหน่อยนะครับ ที่ผมแปลกใจคือ ความสามารถในอดีตของเวนเกอร์หายไปไหน? การปั้นนักเตะเกรด B ให้เป็นนักเตะระดับโลก (เปอตีต์, อองรี, ปิแรส, ลุงเบิร์ก) หรือแม้แต่การปั้นนักเตะโนเนม ให้เป็นระดับโลก (อเนลก้า, วิเอร่า) ผมชักจะสงสัยเหมือนกันครับว่ามันเป็นแค่ความบังเอิญ หรือเกิดจากสายตาอันแหลมคมของเวนเกอร์กันแน่? แม้กระทั่งการพาทีมเป็นแชมป์ไร้พ่ายเนี่ย ถ้าจะบอกว่า มีโชคช่วยอยู่บ้างมันก็จริง แต่ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่า ต้องมีฝีมือ (อย่างมาก) ด้วยเหมือนกัน ผมไม่เข้าใจว่า เวนเกอร์ เคยทำแบบนั้นมาแล้ว ทำไมถึงทำอีกไม่ได้ หรือตาแก่คนนี้ตาบอดและหมดไฟไปแล้ว? จากคุณ : Anduril เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 15:45:22

ความคิดเห็นที่ 71 ติดตามอ่านความคิดเห็นของคุณ นักมายากลฯ ต่อนะครับ รู้สึกดีที่ยังมีกูนเนอร์พันธุ์แท้ที่มีใจรักสโมสรจริงๆแบบคุณนักมายากลฯครับ ส่วนกูนเนอร์บางกลุ่ม ผมไม่แน่ใจว่าเค้าจะเรียกตัวเองได้เต็มปากมั้ยว่าเป็น Arsenal Supporter เพราะแท้จริงแล้วพวกเค้าคือ Wenger Supporter มากกว่าครับ จากคุณ : แต้วแว้ว เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 16:17:16

ความคิดเห็นที่ 72 อ้อ คนอีกจำพวกนึงที่ผมเบื่อมากๆเลยคือพวกที่ชอบบอกว่า 1.) ถ้าไล่เวนเกอร์แล้วจะเอาใครมาแทน 2.) ไม่มีใครแทนเวนเกอร์ได้แล้ว เอาใครมาก็ไม่ดีเท่าหรอก 3.) เวนเกอร์ทำทีมได้แชมป์ ไร้พ่าย ไม่เคยคิดถึงกันเหรอไง ผมอยากจะตะโกนกรอกหูคนกลุ่มนี้จริงๆครับ ว่าถ้าอยากยึดติดกับความสำเร็จในอดีต พวกมรึงก็จงจมปลักต่อไปเถอะ สถานภาพทีมในปัจจุบันถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ทีมเราคงได้แค่ลุ้นพื้นที่กลางตารางไปวันๆ และเป็นอีกทีมที่จะจารึกไว่ว่า เคยมีอดีตอันยิ่งใหญ่ แต่ตอนนี้ความยิ่งใหญ่มันหายไปหมดแล้ว จากคุณ : แต้วแว้ว เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 16:22:00

ความคิดเห็นที่ 73 ชอบประโยคที่ว่า "นำ 4-0 แล้วมาเสมอ 4-4 นี้มันฟอร์มขี้แพ้ชัดๆ" เมื่อยุคไร้พ่าย เราก็โดนยิงเหมือนกัน เพียงแต่เกมบุกของเรามันกดดันจนทีมอื่น ทำอะไรไม่เป็น ต้องรอจังหวะสวนกลับ แต่ตอนนี้ สิ่งที่ดีที่สุด จุดเด่นที่สุดของเวงเกอร์ ก็คือเกมรุกออกปีก จี๊ดจ๊าด...มันหายไปแล้ว เห็นด้วยเรื่องอีโก้ ทำให้ผลงานปืนเป็นเพราะแบบนี้ อีกเรื่องนะ นักเตะเยาวชน ที่บอกว่ามีอนาคต ที่เวงเกอร์ซื้อมายุคหลังๆ นอกจากนาสรี่กับเซส ผมไม่เห็นตัวใหน ที่ฟอร์มมันจะได้เรื่องกับทีมใหม่ๆเลย ขายไปไม่ได้ราคา แถมฟอร์มแย่ลงทั้งนั้น ท้ายสุด โคตรเจ็บใจเลย ที่ ผจก. ที่เราโคตรชอบในวิถีเกมส์รุก ทำทีมเล่นสนุก...กลายเป็นตาแก่ ดื้อรั้นกับอีโก้ของตัวเอง พาทีมไร้แชมป์ใดๆ มา7ปี...เหมือนรักคนๆนึงมาก แล้วเขามาเสียคนตอนหลัง ด้วยตัวเขาเอง... จากคุณ : ห้องนี้มีรักให้พักพิง เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 16:23:06

ความคิดเห็นที่ 74 ขอบคุณสำหรับกระทู้นี้นะครับ อย่าให้ arsenal เป็นแบบ ฟอเรสต์ ของไบรอัน คลัฟ เลยครับ จากคุณ : nit_2722 เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 16:27:58

ความคิดเห็นที่ 75 กรณีร้างแชมป์ 7 ปี ทำไมแฟนอาร์เซน่อลบางคนไม่อดทน แฟนทีม XXX ก็ไม่เคยได้แชมป์มานานยังทนกันได้ ทุกอย่างมีขึ้นมีลงเป็นวัฎจักร ผมว่าผมจะเขียนถึงกรณีนี้เป็นครั้งสุดท้ายเพราะเคยพูดไปหลายรอบแล้ว ถูกต้องที่แฟนอาร์เซน่อลไม่พอใจกับการไร้แชมป์ 7 ปี แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่สำคัญที่สุด สิ่งที่ทำให้แฟนหงุดหงิดมากที่สุดคือ ช่วง 7 ปีนั้น คุณได้ทำอะไรลงไปเพื่อเป็นการพัฒนาทีมบ้างมากกว่า แฟนทีมอื่นไม่รู้จะจำได้หรือเปล่าว่า สมัยนึงอาร์เซน่อลเคยมีปัญหาเรื่องโกล์และกองหลังเป็นอย่างมาก เป็นจุดอ่อนชัดเจนของทีมที่ไม่ว่าแฟนบอลหรือนักวิจารณ์ก็เห็นตรงกันหมดว่าทีมควรจะต้องเสริมทัพตรงจุดนี้ ปิดซีซั่น นิ่ง ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปิดซีซั่นที่สอง เซ็นคนใกล้หมดสภาพอย่างมิคาเอล ซิลแวสตร์เข้ามา ส่วนโกล์ก็ยังไม่ซื้อเหมือนเดิม ทั้งๆที่อัลมูเนียและฟาเบียนสกี้ก็ผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ปิดซีซั่นที่สาม ถึงจะได้แฟร์มาเล่นมา ส่วนโกล์ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ช่วงปิดซีซั่นที่ผ่านมานี่ยิ่งหนักเข้าไปอีก เพราะรู้ตั้งนานแล้วว่าเซสกับนาสรี่อยากจะย้าย และก็ปล่อยให้ย้ายโดยไม่มีการซื้อตัวทดแทนที่เหมาะสม แถมปล่อยเอบูเอ้แล้วไปเอาแบ็คอ่อนประสบการณ์จากลีกวันมาแทน แบ็คซ้ายก็ปล่อยกลิชี่ไป เหลือแค่กิ๊บส์ ก่อนที่จะมาทำทุกอย่างเอาวินาทีสุดท้ายหลังพ่ายแมนฯยูฯยับเยินเป็นประวัติศาสตร์ ประเด็นเรื่องการซื้อตัวบางคนอาจจะโทษว่าเป็นความผิดของบอร์ดบริหารมากกว่า อันนี้ผมเองก็ยอมรับว่ามันมีส่วนที่จริงอย่างไม่ต้องสงสัย ในความเห็นของผมต่อกรณีเวนเกอร์ & บอร์ดบริหารนี้คือ ฝนตกขี้หมูไหล หลังจากที่สโมสรทุบกระปุกสร้างสนามใหม่ มันก็เป็นสถานการณ์ที่บอร์ดบริหารและเวนเกอร์หาทางออกร่วมกันว่าจะทำยังไงที่จะทำให้ทีมอยู่ได้ด้วยการใช้เงินให้น้อยที่สุด คำตอบคือไปเซ็นต์สัญญาดาวรุ่งอนาคตไกลแทน พวกตัวที่ดูดีมีอนาคตแต่ยังไม่ดังทั้งหลาย สามสี่ปีแรกผมว่าแฟนบอลอดทนและเข้าใจสถานการณ์พอสมควร และก็ไม่ได้เอ่ยปากขอร้องให้ทีมจะต้องทุ่มทุนซื้อตัวเพิ่มมากมายแต่อย่างใด แต่มาสองสามปีหลังนี่มันเริ่มที่จะไม่ใช่แล้ว ทีมขายตัวหลักทิ้งมากมายทั้งตูเร่ อเดบายอร์ กลิชี่ เซสก์ นาสรี่ แต่การลงทุนซื้อกลับมานั้นน้อยนิดเหลือเกิน แฟนบอลต้องจ่ายค่าตั๋วแพงขึ้นแต่การ reinvest นักเตะกลับลดลง ที่แปลกคือบอร์ดบริหารได้กำไรต่อปีเพิ่มขึ้น รวมทั้งผจก.ทีมได้ค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้นทั้งๆที่ไม่มีผลงานในสนามอะไร ผมถึงบอกว่ามันเป็นกรณีฝนตกขี้หมูไหล อย่าลืมคำพูดของเวนเกอร์ที่ว่า ผมต้องการให้ทุกๆคนได้เงินมากที่สุด (รวมทั้งตัวเองด้วย) บอร์ดบริหารแฮปปี้เวนเกอร์ทำกำไรให้ตัวเองได้ เวนเกอร์แฮปปี้ได้เงินเดือนมหาศาลและสถานะตัวเองเซฟเพราะบอร์ดชอบแบบนี้ยังไงก็ไม่ไล่ ทำทีมจบ even par ไม่ต้องแชมป์ก็ได้ (ใครจะลืมวลีเด็ด ผมแฮปปี้หากจะจบอันดับสองในลีกไปอีก 20 ปี) นักเตะก็แฮปปี้เพราะได้รายรับเกินความสามารถตัวเอง (ไปอยู่ทีมอื่นก็คงไม่ได้มากเท่านี้ - อันนี้ไม่รวมพวกเก่งจริงเลือกได้นะ) เป็นสถาณการณ์แบบ triple-wins situation แต่อย่าลืมว่า แฟนบอลน่ะสิเป็นตัว lost ตัวเดียวของเกม แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 55 16:49:15 จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 16:32:36

ความคิดเห็นที่ 76 @73 นั่นแหละครับ ที่ผมเจ็บใจเหมือนกัน จากกุนซือตาเหยี่ยว กลายเป็น กุนซือตาบอด จากทีมไร้พ่าย กลายเป็น ทีมไร้แชมป์ จากคุณ : Anduril เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 16:41:46

ความคิดเห็นที่ 77 ตั้งแต่เล่นพันทิปมา กระทู้นี้ เป็นกระทู้ที่ดูดสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่า " กิ๊ฟท์ " มากที่สุดแล้วครับ 555+ ปล. อ่านซ้ำไปซ้ำมา น้ำตาพาลจะไหล - -" จากคุณ : nutaro_x เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 16:43:22

ความคิดเห็นที่ 78 โลกมันหมุนไปทุกวันทุกสิ้งต้องมีการเปลี่ยน ชื่นชม จขกท คับ จากคุณ : เขียนบน3310 (TheSmileOhho) เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 16:46:52

ความคิดเห็นที่ 79 หลายปีที่แล้วเคยอ่านเจอบทความหนึ่ง เกี่ยวกับ Bertie Mee ผู้จัดการทีมเมื่อปี 66-76 เคยให้สัมภาษณ์ ถ้าจำไม่ผิดเป็นหลังเกมที่ได้แชมป์เอฟเอคัพปี 71 นะครับ ซึ่งก็คือวันที่ได้ดับเบิ้ลแชมป์ เขาพูดประโยคหนึ่งว่า "Players are the most important part,I am not" สื่อความหมายอย่างถ่อมตัวว่า ถึงแม้ว่าเขาเป็นคนจัดทีมลงไปเล่นก็จริง แต่ในผู้เล่นในสนามนั่นล่ะที่สำคัญที่สุด เพราะตอนนั้นสภาพทีมโดยรวมปืนก็ไม่ได้ถือว่าเหนือกว่าทีมหัวตารางเลย แต่ด้วยมันสมองของกุนซือล้วนๆ ทำให้มองต่อไปได้อีกเหมือนกันว่า ไม่ว่าผู้เล่นจะเหนือหรือด้อยกว่าคู่ต่อสู้ก็ตาม ถ้าคุณมีผู้จัดการที่เก่งจริง ต่อให้ทีมคุณจะสู้ไม่ได้แต่จะไม่แพ้โดยไม่สู้ อาจจะเปลี่ยนผลจากแพ้มากเป็นแพ้น้อย แพ้น้อยเป็นเสมอ หรือเสมอเป็นชนะได้เลยทีเดียว คุณสมบัติข้อนี้แทบไม่มีอยู่ในตัวของผู้จัดการทีมอย่างเวนเกอร์เลยครับ ขอบคุณคุณนักมายากลสำหรับกระทู้ดีๆครับ [ ตามอ่านต่อ ] จากคุณ : < h r i s t i A n Vi e ri >> เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 16:55:36

ความคิดเห็นที่ 80 ผมกำลังรอดูว่าแฟนบอลทีอังกฤษจะทำยังไงถ้าฟอร์มของทีมเป็นแบบนี้ อยากเห็นออกมาประท้วงกดดันบอร์ดหนักๆบ้างจังเลย ที่จริงบอร์ดบริหารก็เป็นส่วนหนึ่งในด้านนโยบาย แต่ด้านการวางแทคติคน่ะบอร์ดบริหารคงไม่ได้สั่งให้เอาแรมซี่ลงตัวจริงทุกนัดหรอกมั้งครับ แฟนปืนที่ตามดูกันมาถ้าเปิดตารับความจริงบ้างคงจะเห็นว่าแผนการเล่นน่ะมีแบบเดียวเลย วันไหนดีก็ดีไป วันไหนแย่น่ะหรือ บอสก็จะส่งชามัคลงมาไง จัดไปหน้าสี่คน แต่การแก้เกมอย่างนี้มันเคยได้ผลไหม ? หรือถ้าจะมีใครค้านว่า ในสถานการณ์ที่ทีมรัดเข็มขัดแบบนี้จะมีโค้ชคนไหนทำได้ดีบ้าง ลองหันไปดูเดวิด มอยส์ ณ เอฟเวอร์ตันสิครับ กรณีนั้นน่ะไม่มีเงินจริงๆ ยังพยุงทีมอยู่ได้ ใช้เงินในการซื้อตัวปีนึงซักเท่าไหร่เอง แทคติคก็หลากหลาย หรือไม่ก็หันไปมองมาติน โอนีลซักหน่อย เกมเมื่อวานยังไม่แสดงให้คุณเห็นกันอีกหรือว่าโค้ชที่วางแทคติคมาดีน่ะมันเป็นยังไง ด้านการบริหาร การซื้อตัวน่ะผมไม่โทษเวนเกอร์ทั้งหมดหรอกครับ แต่ด้านแทคติคแผนการเล่นน่ะ ผมไม่รู้ว่าจะหาใครมาหารความผิดกับเวนเกอร์ดี จากคุณ : RedPizza เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 16:57:46

ความคิดเห็นที่ 81 เห็นด้วยกับความเห็นของคุณนักมายากลเรื่องใจของนักเตะครับ ผมดูบอลมาตั้งเเต่สมัยขับเคี่ยวกันระหว่างสองทีมหงส์กับปืน อดัม โบลด์ คีโอวน์ ดิ๊กซั่น พาร์เลอร์ พวกนี้ใจสู้มากๆครับ เล่นหนักเเต่อยู่ในเกม โขกกันเลือดสาด - - ทีมไร้พ่ายถ้าขาดนักสู้เเบบนี้ไม่มีทางทำได้หรอกครับ ปัญหาหลักของปืนเท่าที่ดูนักเตะเเกนหลักไม่มีตัวบู๊เลย ตัวหนักตัวชนหายหมด ถึงผมจะเชียร์หงส์เเต่เห็นด้วยที่เฟอร์กูสันพยายามปั้นเด็กในเกาะไม่จำเป็นไม่ซื้อนักเตะต่างชาติเพราะการปะทะ ใจนักเตะมันผิดกันจริงๆ เหมือนตอนนนี้ดัลกริชก็ซื้อนักเตะอังกฤษเต็มทีมอาจโดนเเฟนบอลวิจารณ์ราคาเเพงอะไรยังไงเเต่ระยะยาวคุ้มค่าเเน่นอนครับ บอลอังกฤษมันต้องวิ่งสู้ฟัดครับ จากคุณ : ปลายธันวา เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 17:04:00

ความคิดเห็นที่ 82 ปัญหามันไปติดอยู่ที่ภาพลักษณ์ของอาร์เซน่อลที่เวนเกอร์สร้างขึ้นมา รวมทั้งบุญเก่าที่แกสร้างเอาไว้ มันยังติดตราตรึงใจแฟนบอลรุ่นเก่าส่วนหนึ่ง รวมทั้งแฟนบอลรุ่นใหม่ที่เกิดมาก็เจอเวนเกอร์แล้วอย่างไอ้เด็กคนที่มาฉีก banner ของผมด้วย Play the Arsenal way แคมเปญของอาร์เซน่อล ซอคเกอร์ สคูลที่มีอยู่ทั่วโลก ผมถามหน่อยอะไรคือ the Arsenal way ใช่สไตล์ที่ต่อบอลกันไปเรื่อยจนเข้าประตูหรือเปล่า ใช่สไตล์ที่พอบอลโดนโยนมาก็โหม่งแพ้เค้าหรือเปล่า อาร์เซน่อลสร้างกรอบให้ตัวเองด้วยการขายภาพลักษณ์ของการเป็นทีมที่เล่นบอลบนพื้นไปเรียบร้อยแล้ว โดยมีมร.อาแซน เวนเกอร์เป็นพรีเซนเตอร์ ต่อจากนี้ไปใครที่จะมาสืบทอดเวนเกอร์จะต้องเป็นกุนซือที่คุมทีมด้วยสไตล์เล่นฟุตบอลบนพื้นสวยงามเท่านั้น ผมไม่เห็นสโมสรอื่นเค้าจะสร้างกรอบให้ตัวเองมากขนาดนี้ ทีมอื่นเค้าสนใจแค่เล่นยังไงให้ชนะเท่านั้น แต่อาร์เซน่อลของเวนเกอร์จะต้องชนะแบบมีสไตล์เท่านั้นนะจ๊ะ หนึ่งในคำถามที่คนยกกันมาถกกันมากที่สุด เวนเกอร์ไปแล้วใครจะมาทำได้ดีเท่า ในสถานการณ์งบประมาณจำกัดจำเขี่ยแบบนี้ ไม่มีแล้ว เวนเกอร์เนี่ยแหละดีที่สุด เป็นหนึ่งในคำถามที่ผมคิดว่าไม่สร้างสรรมากที่สุด เพราะคุณลองคิดดู แม่เจ้า โลกนี้มันไม่มีใครมีความสามารถกันแล้วหรืออย่างไร บางระจันสิ้นนักรบ อยุธยาสิ้นคนดีแล้วหรือ หากเวนเกอร์ออกไป อาร์เซน่อล ทีมที่ประวัติศาสตร์ยาวนาน 125 ปีจะต้องถึงคราวล่มสลาย โลกนี้มันบ้าไปแล้ว มันบ้าไปแล้ว เวนเกอร์พระเจ้าของอาร์เซน่อลผู้ที่เวลาแพ้โทษสนาม ดวง และฟ้าดิน จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 17:11:11

ความคิดเห็นที่ 83 ผมมองในแง่ว่าการที่มีแฟนบอลที่สนับสนุนเวงเกอร์อย่างหน้ามืดตามัว  ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนพิเศษ  เพราะเขารู้ดีว่าต่อให้เขาทำทีมห่วยๆต่อไปอีกสิบปี  ก็ไม่มีใครที่จะทำอะไรเขาได้  ถึงเขาจะจัดผู้เล่นห่วยๆ  จะมีแทคติกห่วยๆ  แต่ยังไงซะก็จะมีคนออกมาปกป้องเขาด้วยการใช้เหตุผล(ที่ไม่เข้าท่า) ยกตัวอย่างในประเทศไทยที่เห็นชัดๆเลยก็ เอ็ม เชียงใหม่ จากคุณ : ตัวนากหมายเลข11 เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 17:45:34

ความคิดเห็นที่ 84 แน่นอนว่าเวนเกอร์เองก็ใช่ว่าจะเป็นตัวปัญหาแต่ฝ่ายเดียว บอร์ดบริหารก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงด้วย ผมเริ่มคิดได้มาซักพักแล้วว่าการที่แสตน ครองเก้ เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรนั้นเป็นเรื่องที่ผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง แยงก์สยังไงก็ยังเป็นแยงก์สเหมือนเดิม เคยรู้เรื่องเคยใส่ใจฟุตบอลกับเค้าซะที่ไหน คุณคาดหวังอะไรจากผู้ที่ไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับฟุตบอลอังกฤษ และหนึ่งชาติถึงจะบินมาที่ลอนดอนซักทีนึง??? อาร์เซน่อลจะกลับมายิ่งใหญ่ ไม่ใช่สโมสรที่ขายนักเตะและสูบเลือดจากแฟนบอลกินได้ต้องตัดวงจรเหลือบขี้หมูไหลอุบาทว์นี้ให้ได้ ซึ่งก็คงจะพึ่งใครไม่ได้นอกจากตัวแฟนบอลเอง แมนฯยูฯก็ประท้วงไปแล้วแต่เนื่องจากทีมยังประสบความสำเร็จได้เรื่อยๆเลยยังไม่มี action ชัดเจน ลิเวอร์พูลเป็นตัวอย่างที่ดี และผมขอนับถือแฟนบอลลิเวอร์พูลในจุดนี้ ผมได้แต่หวังว่าแฟนบอลอาร์เซน่อลจะออกมาประท้วงซักวันหนึ่งเร็วๆนี้ และนอกจากบอร์ดแล้วผมก็อยากให้เอาเวนเกอร์ออกไปด้วย เวนเกอร์พาอาร์เซน่อลมาได้ไกลแค่นี้แหละ ผมไม่คิดว่าทีมภายใต้เวนเกอร์จะไปได้ไกลกว่านี้แล้ว อาร์เซน่อลถ้าต้องการจะอัพเกรดตัวเองให้ไปถึงระดับที่ควรจะเป็นเหมาะสมกับค่าตั๋ว ได้แชมป์สม่ำเสมอกว่านี้ ได้แชมป์ถ้วยใหญ่ยุโรปครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ต้องเปลี่ยนผจก.ทีม แล้วเอาคนที่มีไอเดียสดใหม่กว่านี้มาทำทีม ทู้ซี้อยู่กับก๋งแบบก่งก๊งไปแบบนี้อีก 10 ปีก็เหมือนเดิม ส่วนตัวผมคิดว่าตัวเองได้ทำหน้าที่ของตัวเองแล้ว อาจจะไม่ได้ดีที่สุด แต่ก็ถือว่าได้พยายามแล้ว เมื่อวานพูดตามตรงผมตัดสินใจอยู่ตั้งนานว่าจะโชว์ banner ก่อนหรือหลังเกมดี เพราะถ้าโชว์ก่อนเกม โอกาสเกิด friction ต่อบรรยากาศตรงนั้นจะสูงมาก แถมยังต้องอยู่ด้วยกันไปอีกตลอดทั้งเกม แต่ถ้าไปโชว์หลังเกมถ้าทีมชนะขึ้นมา คนก็จะมาหาอีกว่าเอ็งเป็นไรมากไหม ชนะแลัวยังไล่ ถ้าแพ้แล้วโชว์ แม่มก็หาว่าพวกแพ้แล้วไล่มาอีกแล้ว สุดท้ายตัดสินใจไปโชว์หลังเกมเพราะอย่างที่คาดไว้ มีเผชิญหน้ากับแฟนปืนบางคนแน่ แต่มันเกิดแล้วก็จะได้จบๆกันไปเลยแยกย้ายกันกลับบ้าน (โชคดีที่ไอ้เด็กนั่นไม่ได้นั่งรถคันเดียวกับผม เหอๆ) สุดท้ายนี้ผมคงทำอะไร ช่วยอะไรไม่ได้อีกแล้ว ไอ้ที่อยากให้ออกสื่อก็ดันโดนฆ่าตัดตอนไปซะก่อนนี่ ก็ได้แต่ภาวนาว่าแฟนปืนที่จะลุกขึ้นมาทำอะไรบ้าง ASAP ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม AST (Arsenal Supporters Trust) หรือ BSM (Black Scarf Movement) อย่างน้อยผมว่าแฟนอาร์เซน่อลเกือบทั้งหมดก็เห็นเหมือนกันว่าบอร์ดบริหารนั้นไม่ได้ทำงานได้ดีแม้แต่น้อย ถึงจุดนี้ ขอพักก่อน แล้วเดี๋ยวผมคิดอะไรดีๆออกจะมาใส่ใหม่ สำหรับท่านที่เข้ามาในกระทู้นี้ไม่ว่าจะเชียร์เวนเกอร์หรือไล่เวนเกอร์อย่างไรก็ขอเชิญใส่ให้ได้เต็มที่เลย ผมเปิดกว้างรับฟังความเห็นทั้งสองข้าง (ส่วนจะเห็นด้วยมั๊ยก็อีกเรื่องนึง) เต็มที่ตามสบาย กระทู้นี้ผมอยากให้คุยกันแบบ Freedom of Speech (อย่างสุภาพชน) เต็มที่ ส่วนความเห็นทุกๆท่านเดี๋ยวคืนนี้ผมจะทยอยตอบให้นะครับ :) แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 55 18:30:02 จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 17:51:19

ความคิดเห็นที่ 85 สำหรับนัดชิงคาร์ลิ่งปี 2007 รู้สึกแย่มาก ถึงเวนเกอร์จะอ้างว่าทีมเด็กทำให้เข้าถึงรอบชิง เลยให้ลง แต่มันเป็นความคิดที่แย่ที่สุดเพราะผจก.ให้ความสำคัญกับความรู้สึกแฟนบอล เป็นลำดับสุดท้าย ทั้งยังดูถูกถ้วยและดูถูกเชลซีอย่างมาก และยังทำอะไรประหลาดๆ อีกหลายครั้งเลย อย่างการดร็อปอาชาวินที่ฟอร์มตอนนั้นยังฮอตสุดๆในเกมเจอเชลซี #47 จะเป็นกัปตันทีมชาติไหนก็ต้องนั่งครับเมื่อเจอกัปตันทีมชาติเวลส์ 55555 แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 55 18:03:05 จากคุณ : < h r i s t i A n Vi e ri >> เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 17:55:38

ความคิดเห็นที่ 86 นี่คือกระทู้ที่ดีที่สุด ตั้งแต่เคยเล่นพันทิพมา..... อีกอย่างขอนับถือความอดทนจริงๆค่ะ โพสตั้งแต่ตีสี่จนถึง 5 โมงเย็น 13 ชั่วโมงรวด สุดๆไปเลยลวกเพ่!!!!!!!!!!!!!! แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 55 18:24:53 จากคุณ : หมอ_คับ เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 18:13:36

ความคิดเห็นที่ 87 จัดมาเต็มๆเลยครับ รออ่านอยู่ จากคุณ : ตัวตัดเกมส์ เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 18:19:17

ความคิดเห็นที่ 88 เราเคยอ่านๆมาแล้วรู้ว่าทาง Blackburn ก็ห้ามป้ายผ้า หรือ กระดาษ หรืออะไรก็ตามที่เป็นการต่อต้านผู้จัดการทีม ซึ่งท้ายๆมาคือ มีคนรวมเงินกัน จ้างเครื่องบินไปบินวนรอบๆสนามตอนที่มีแมทช์แข่งขัน นี่มันอาจจะไมทำให้สตีฟคีนออกไป แต่ช่วยสร้างกระแสได้ดีทีเดียว จากคุณ : หมอ_คับ เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 18:21:28

ความคิดเห็นที่ 89 อีกเรื่องคือ หลังจากจบเกมส์กับซันเดอร์แลนด์ เราก็เข้าไปใน Twitter ของ Piers Morgan ทันที (คนนี้เค้าเป็นนักข่าวทาง CNN เป็น Gooner พันธ์แท้ และดูเหมือนแกจะดูอาร์เซน่อลทุกแมทช์ด้วย) ซึ่งเค้าก็มาตามเดิมคือ ออกมาบ่นเรื่อง performance ของทีม บ่นเรื่องที่ RVP อาจจะตัดสินใจไม่เซ็นสัญญา บ่นเรื่องที่ว่าเวนเกอร์ต้องออกไป ซึ่งเค้าพูดเรื่องนี้มาตั้งแต่ 2 ปีก่อนแล้วใน นสพ.เดลิเมล์ของอังกฤษ ไปตามอ่านดูได้ แต่ที่เรื่องนี้ไม่ใหม่คือ คนที่มาโต้แย้งเค้าคือ Emmanuel Frimpong ซึ่งออกมาบอกว่า Piers ไม่ได้เข้าสนามมากี่ปี Piers ไม่ใช่ Gooner พันธ์แท้ โต้ตอบกันยาวพอสมควร เราอ่านไปก็ได้แต่ยิ้มและขำในใจ "โถ ไอ้น้องขา ออกมาปกป้องผู้จัดการทีม ปากบอกรักผู้จัดการทีมโน่นนี่ แต่ผลงานของทีมดิ่งลงเหว เล่นเแบบขอไปที ป้ายบอลไปมาหาช่องเจาะไม่ได้ เจอสวนกลับดอกเดียวหงอกันไปเป็นแถบแบบนี่ เป็นพี่พี่จะรูดซิบปาก ไม่ไปต่อล้อต่อเถียงกับแฟนบอลที่เค้าจ่ายเงินเพื่อเอามาเป็นเงินเดือนให้พวกแกหรอค่ะ" แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 55 20:52:12 จากคุณ : หมอ_คับ เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 18:33:13

ความคิดเห็นที่ 90 วิเคราะห์ได้มันส์จริง ๆ ... จากคุณ : โก๋หลวง เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 18:39:39

ความคิดเห็นที่ 91 โหวตให้คะ กระทู้นี้ดีมากๆๆๆ คุยกันด้วยเหตุด้วยผล ชอบๆๆ อยากให้มีกระทู้แบบนี้อีกเยอะๆๆๆ จากคุณ : Get only me เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 18:42:08

ความคิดเห็นที่ 92 บอลสวยงามตอนนี้มันไม่ใช่แล้วครับ เคาะๆๆๆแล้วแบ็คโยน บ้ารึเปล่า ผมว่าควรจะมีการเปลี่ยนแปลงได้แล้ว ถึงผมไม่รู้ว่าถ้าเวนเกอร์ออกไปแล้ว ผลงานจะแย่หรือดีกว่าเดิมก็ตาม แต่ที่เป็นอยู่ตอนนี้เวลาดูอาร์เซน่อลเล่นมันอึดอัดเป็นส่วนมาก ผมอยากให้แฟนบอลที่นู่นทำเหมือนที่ คุณนักมายากลแห่งรัสเซีย บอก คือการออกมาประท้วงหนักๆ จนเปลี่ยนบอร์ดบริหารไปเลย ส่วนเวนเกอร์ผมว่าคงหมดแล้วจริงๆ ขอบคุณสำหรับกระทู้ครับ จากคุณ : คาวาจิ เท็ตโช เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 18:57:20

ความคิดเห็นที่ 93 ผมเซ็งในพันทิปอีกอย่างนึงนะ ทั้งแฟนปืนและก็แฟนทีมอื่นๆ ที่มาบอกว่า พอเล่นดีก็ชม เล่นแย่ก็ไล่ ไม่มีจุดยืนเป็นของตัวเองเลยหรือไง อยากจะบอกว่าจุดยืนของผมคือสโมสรอาร์เซน่อลครับ ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่ง แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 55 19:27:43 จากคุณ : RedPizza เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 19:26:40

ความคิดเห็นที่ 94 อาร์แซน เวนเกอร์ไม่มีทางคุมทีมชาติกรีซได้แชมป์เพราะคุณไม่รู้จักยืดหยุ่นว่าทรัพยากรที่มีเป็นแบบนี้ควรจะเล่นยังไง Q ... สุดยอดมากครับ ผมเป็นแฟนอีกทีม ยังชื่นชมแนวคิด มันไม่ไหว ถ้า... สู้ไม่ได้ แต่ขอให้ได้สู้  แฟนบอลก็มีสุข ยอดมาก.... จากคุณ : MAD Magazine เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 20:20:02