ความคิดเห็นที่ 1 คงมีไม่กี่คนที่มีโอกาสได้สร้างสนามกอล์ฟ เพราะทั้งประเทศ มีสนามกอล์ฟ แค่ 200 กว่าสนามเอง บุคลากรทางด้านนี้จึงมีไม่ค่อยมากนัก ผมโชคดี ที่มีโอกาสได้มีส่วนร่วม ถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตครับ (ไม่รวมการป้องกันน้ำท่วนสนาม ซึ่งเป็นอีกประสบการณ์หนึ่งเหมือนกัน) จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 16:45:02

ความคิดเห็นที่ 2 เกาะกระทู้หาความรู้หน่อยนะครับ จากคุณ : โย่ _เชียงใหม่ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 16:52:12

ความคิดเห็นที่ 3 มาเริ่มกันเลยดีกว่า สนามกอล์ฟ 18 หลุมมาตรฐาน ต้องใช้ที่ดินกี่ไร่เอ่ย riverdale golf club ใช้พื้นที่ประมาณ 360 ไร่ คิดว่าเป็นสนามที่ใช้ที่ดินน้อยมากสนามหนึ่งเลยทีเดียว เริ่มต้นก็ต้องออกแบบก่อนสิครับ designer แต่ละคนมีวิธีการออกแบบไม่เหมือนกัน เจ้าของสนามก็มีวิธีคิดไม่เหมือนกัน เช่นกัน บางคนออกแบบในกระดาษ 90% ปรับแก้หน้างาน 10% บางคนขึ้นโครงในกระดาษ แล้วไปว่าหน้างานเอา บางสนามเจ้าของรอจ่ายตังอย่างเดียว บางสนาม เจ้าของมาออกแบบด้วย โอ๊ย ปวดหัว ........ จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 16:57:09

ความคิดเห็นที่ 4 สวัสดีครับ คุณ โย่_เชียงใหม่ ความรู้เอามาแบ่งปันกันครับ ผมก็ได้หลายอย่างจากสังคมที่นี่เหมือนกัน สำหรับRDGC (ขออนุญาตใช้ตัวย่อนะครับ) เจ้าของและผู้ออกแบบเคยทำงานร่วมกันมาแล้วที่สนามred mountain ภูเก็ต เอาง่ายๆรู้ทางกันดีครับ RDGC เกิดจาก เจ้าของ MBK CENTER ต้องการจะพัฒนาที่ดินแปลงนี้ซึ่งถืออยู่นานแล้ว โดยคิดไว้หลายทางเลือก สุดท้ายจบที่ ทำสนามกอล์ฟ และพัฒนาที่ดินทำหมู่บ้านรอบสนาม โดยใช้สนามกอล์ฟ เป็น จุดเด่นของโครงการ แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 55 17:09:35 จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 17:07:45

ความคิดเห็นที่ 5 รอติดตามความรู้ใหม่ด้วยคนครับ จากคุณ : แพนด้าใจดี (แพนด้าใจดี) เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 17:12:42

ความคิดเห็นที่ 6 เคยมีโอกาสได้เข้าไปมีชีวิตอยู่่ท่ามกลางการสร้างสนามกอล์ฟครั้งหนึ่ง เป็นงานที่หินสุด ๆ มีปัญหาให้แก้กันทุกวัีนเลย ยิ่งมีเจ้าของหลายคน แล้วแต่ละคนความต้องการไม่เหมือนกัน แล้วดันมาไม่พร้อมกัน ยิ่งวุ่นเข้าไปอีก โดยเฉพาะคนออกแบบปวดหัวมาก จากคุณ : RadiS เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 17:14:37

ความคิดเห็นที่ 7 แนวคิดการออกแบบ คือ -ต้องเป็นสนามที่แตกต่างจากสนามในเมืองทั่วไป -เป็นสนามกอล์ฟเกรดเอ มีคุณภาพ และแน่นอนต้องเล่นสนุก -น้ำต้องไม่ท่วม (เห็นไหม ถูกคิดตั้งแต่ออกแบบ แล้วครับ ) เนื่องจาก สนามบางกอกและปทุมธานี ดังมากเมื่อเกิดน้ำท่วมคราวก่อนโน้น ที่ดินเดิมของสนาม ก็ต่ำกว่าพื้นที่รอบๆ อยู่หลายเมตร อย่าอย่างนั้นเลย ไหนๆก็ต่ำกว่าอยู่แล้ว ขุดมันเลยแล้วกัน แล้วเอาดินที่ได้มา ถมที่รอบๆสนามซะ แถมยังได้ลักษณะเป็นvalley อีกต่างหาก (ตอนแรกว่าจะชื่อ lotus valley เหมือนกัน แต่โดนแย่งไปก่อน 555) จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 17:18:09

ความคิดเห็นที่ 8 สวัสดี เพื่อนๆทุกคนครับ หลังจากเปิดหน้าดินแล้ว ก็มีการทำ survey คือ ตรวจสอบสภาพพื้นที่เพื่อเอามาคำนวนว่า จะต้องขุดดินเท่าไร และถมดินเท่าไร เพื่อให้ได้ตามแบบที่ต้องการ ตรงนี้ก็มีการปรับแก้แบบกับdesigner สนามกอล์ฟ และผู้ออกแบบโครงการบ้าน เพื่อให้ได้ระดับดินที่เหมาะสม และน้ำไม่ท่วมครับ จากการออกแบบ ต้องขนย้ายดินประมาณ 2,000,000 ลบม. ครับ เยอะแค่ไหน ...... ก็แค่รถบรรทุก 10 ล้อ แค่ 100,000 เที่ยว เอง จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 17:25:36

ความคิดเห็นที่ 9 แถมยังต้องขุดตามcontour สนามที่ออกแบบ เหมือนแกะสลักสนามนะครับ พื้นที่fairway ส่วนใหญ่จะเป็นดินเดิม แทบไม่มีการถมดินเลย มีเพียง tee off และ green บาง ตำแหน่งเท่านั้นที่มีการถมเล็กน้อย จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 17:31:29

ความคิดเห็นที่ 10 สวัสดียามเย็นครับคุณโย่ง จากคุณ : Eddy_DT_545 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 17:37:54

ความคิดเห็นที่ 11 ทุกที่มีอุปสรรคในการทำสนามกอล์ฟทั้งนั้น เช่น บางสนาม ขาดแคลนน้ำ บางสนาม ดินไม่เหมาะในการทำสนาม ฯลฯ RDGC น้ำสมบูรณ์ดี เพราะใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา แต่เป็นดินเหนียว ข้อดีคือ เป็นดินที่ทึบน้ำ นั่นคือ ทะเลสาปสามารถเก็บน้ำไว้ได้ ไม่ซึมลงข้างล่าง ข้อเสีย คือ เวลาฝนตก ทำงานไม่ได้เลย เละมาก เสียเวลา ปลูกต้นไม้ไม่ค่อยดี จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 17:38:38

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีครับ คุณ Eddy_DT_545 หลังจากขุดดินเป็นรูปร่างใกล้เคียง แบบที่วาดไว้แล้ว เราเรียกว่า rough grade ก็จะส่งต่อไปให้ฝ่ายงานก่อสร้างสนามกอล์ฟดำเนินการ ซึ่งหัวหน้าก็คือ superintendent ที่อยู่ปัจจุบันนี้แหละครับ คราวนี้ก็จะถูกแบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนๆ มีวิธีก่อสร้างไม่เหมือนกัน เดี๋ยวเรามาดูกัน จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 17:44:01

ความคิดเห็นที่ 13 มาดู Fairway กันก่อน หลังจากได้พื้นที่มาแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ขับรถดันดิน เรียกว่า shaper จะปรับดินให้เรียบอีกครั้งหนึ่ง ในขั้นตอนนี้จะเริ่มดูว่า เนิน บังเกอร์ ต่างๆ เป็นอย่างไรบ้าง ต้องสูงต่ำเท่าไรจึงจะสวย เราเรียกขั้นตอนนี้ว่า fine shape จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 17:51:27

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณที่เอา ว. 5 มาเปิดเผยครับ ได้ความรู้เยอะเลย จากคุณ : ลุงแก่ (skavee) เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 17:53:07

ความคิดเห็นที่ 15 ในระหว่างนี้ก็จะมีการวางงานระบบระบายน้ำลงไปด้วย เช่น ท่อเชื่อมต่อระหว่างทะเลสาป เพื่อให้สามารถรวมน้ำไปในจุดที่จะระบายน้ำได้ บางสนามมีตำแหน่ง ระบายน้ำ หลายจุด เนื่องจากติดทางน้ำสาธารณะ เยอะ ซึ่งจะทำให้เครื่องสูบน้ำแต่ละที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก และไม่ต้องวางท่อเชื่อมระหว่างทะเลสาป ที่มีค่าใช้จ่ายสูง จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 17:55:44

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีครับพี่โย่ง เคยได้ดูบทสัมภาษณ์แล้วทึ่งจริงๆครับ... เป็นอีกสนามที่ได้เล่นอยากกลับไปเล่นอีกเรื่อยๆจริงๆครับ... จากคุณ : ผมชื่อต้น เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 17:57:31

ความคิดเห็นที่ 17 สวัสดีครับ ลุงแก่ รายละเอียดจริงๆเยอะมากครับ การจัดการไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย เอาแค่พอสังเขปแล้วกันนะครับ555 ระบบระบายน้ำใหญ่ที่วางใน fairway เพื่อนำน้ำมาลงทะเลสาป เราเรียกว่า storm drain ใช้ท่อคอนกรีตหรือ PVC วางอยู่ลึกที่สุด และปลายท่อจะต้องจมใต้ผิวน้ำ เดี๋ยวไม่สวย จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 18:01:09

ความคิดเห็นที่ 18 สวัสดีครับคุณต้น จาก storm drain จะมีบ่อขึ้นมา เพื่อระบน้ำจากระบบระบายน้ำย่อย และจะมีบ่อพักโผล่ขึ้นมาในสนามตามจุดต่างๆ เรียกว่า CB (catch basin) จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 18:05:02

ความคิดเห็นที่ 19 โดยจะวางไว้ในตำแหน่งที่ต่ำที่สุดของแต่ละพื้นที่ ด้านบนจะมีฝาตะแกรงเหล็ก เพื่อนๆลองสังเกตุในสนามดู จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 18:07:18

ความคิดเห็นที่ 20 คราวนี้มาถึงระบบระบายน้ำย่อย จะเป็นระบบที่รับน้ำจากพื้นผิวที่ซึมลงมา เราเรียก subdrain เมื่อก่อนจะใช้ท่อ pvc เจาะรูเหมือนรูปบน ขนาดประมาณ 4 นิ้ว ปัจจุบัน นิยมใช้ท่อ pe สีดำ ที่มีรูพรุนรอบ เราเรียกว่าท่อ perferate จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 18:11:31

ความคิดเห็นที่ 21 ปาด... เคยเป็น Executive Sales สนามกอล์ฟครับ ได้ความรู้เยอะเลย โดยเฉพาะระบบน้ำนี่ "มัน ใหญ่ มาก" จริงๆ จากคุณ : anthonoy เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 18:12:19

ความคิดเห็นที่ 22 รู้สึกว่าใช้ความยาวเป็น 10 กิโลเมตรเลยมั้งครับ ใช้เยอะมาก ยิ่งใช้มากเท่าไร สนามยิ่งระบายน้ำได้ดีเท่านั้น โดยขุดร่องเป็นก้างปลาแล้วหุ้มท่อด้วยกรวดกรองในรูปครับ แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 55 18:17:10 จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 18:15:17

ความคิดเห็นที่ 23 มีข้อต่อสำเร็จมาให้เรียบร้อย จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 18:16:07

ความคิดเห็นที่ 24 สวัสดีครับคุณ anthonoy อยู่สนามไหนละครับ subdrain ที่วางไว้เห็นหลายท่านที่ทำสนามกอล์ฟ เคยบอกว่าต้องลงเพิ่ม หรือซ่อมแซมทุกปี เพราะเมื่ออยู่ไปนานๆอาจจะตัน หรือสนามบางที่อาจจะแฉะเพิ่มขึ้น เดี๋ยวพักกินข้าวก่อน ค่ำๆมาต่อนะครับ จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 18:21:46

ความคิดเห็นที่ 25 มาว่ากันต่อนะครับ ok หลังจาก fine shape แล้วก็ ลง subdrain ระหว่างนั้นก็ลงระบบสปริงเกอร์ ว่าด้วยท่อเมนก่อน ส่วนใหญ่จะวางนอก fairway เนื่องจาก หากต้องขุดซ่อม จะได้ไม่ขวางทางเล่น และโอกาสเสียหายน้อย ใช้ท่อpe รับแรงดันสูง รับแรงดันประมาณ 120 เมตร แรงขนาดไหน ส่งน้ำขึ้นตึก 30 ชั้น ได้ละครับ แรงไหมละ ในรูปเป็นเครื่องเชื่อมความร้อน ใช้สำหรับเชื่อมท่อ PE ครับ จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 19:12:50

ความคิดเห็นที่ 26 ในรูป จากท่อเมน จะต่อเข้าท่อย่อย และผ่านวาล์ว เข้าหัวสปริงเกอร์ บางสนามรุ่นเก่า ใช้ 1 วาล์ว คุมหัวสปริงเกอร์ 3-4 หัว RDGC ใช้ระบบ valae in head นั่นคือ มีวาล์วในหัวสปริงเกอร์ครับ เมื่อก่อน วาล์วถูกควบคุมโดยตู้คอนโทรลในสนาม ปัจจุบัน ระบบควบคุมถูกควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ ในสำนักงานสั่งการผ่านสายไฟฟ้าเล็กๆให้วาล์วที่หัวสปริงเกอร์เปิด บางท่านอาจไม่ทราบ ในสนามกอล์ฟ 18 หลุม ใช้หัวสปริงเกอร์ประมาณ 1,000 หัวครับ จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 19:21:03

ความคิดเห็นที่ 27 สวัสดีครับคุณโย่ง คนทำงานด้าน Sanitary มาเก็บเกี่ยวความรู้ครับ จากคุณ : ดำซ้าย เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 19:25:33

ความคิดเห็นที่ 28 งานก่อสร้างสนามกอล์ฟ ไม่ใช่มีแค่สนาม ไหนจะต้องสร้างคลับเฮ้าส์ ซุ้มน้ำ ถนน ซุ้มประตู รั้ว กำแพงกันดิน เตรียมเครื่องจักรดูแลสนาม  ระบบคอมพิวเตอร์ งานบริการในคลับเฮ้าส์ ฯลฯ สุดท้ายก็ต้องทดสอบระบบทั้งหมด โดย ก๊วนพันทิปที่ได้รับเชิญไปทดสอบสนามครับ จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 19:26:43

ความคิดเห็นที่ 29 ท่อ HDPE ใช้ PN16 หรือ 20 ครับ จากคุณ : ดำซ้าย เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 19:27:44

ความคิดเห็นที่ 30 เข้ามาหาความรู้ด้วยคนครับ ขอบคุณสำหรับความรู้นะครับ ปล.ว่าแต่สนามกอล์ฟสนามนึงนี่ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างนี่มันซักเท่าไหร่อ่ะครับ(ไม่รวมค่าที่ดินก็ได้ครับ) ตอนนี้เก็บตังค์อยู่555 จากคุณ : buktuck เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 19:31:30

ความคิดเห็นที่ 31 สวัสดีครับคุณดำซ้าย งานระบบใน RDGC ก็พื้นๆละครับ ถึงไหนแล้วเนี่ย อ้อ ตอนออกแบบก็วางconcept ว่าต้องใช้รถกอล์ฟ แล้วละครับ เพราะ เราสั่งรถกอล์ฟมาทีเดียว 160 คันเลย เห็นน้องๆบอกว่าช่วงนี้ เสาร์ อาทิตย์ รถเกือบไม่พอใช้ อาจต้องสั่งเพิ่ม 555  ในรูป เริ่มเททางรถกอล์ฟแล้ว จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 19:33:50

ความคิดเห็นที่ 32 จำไม่ได้แล้วครับว่า PN เท่าไร คุณดำซ้าย ปั้มที่ใช้ของกรุนฟอร์ส ครับ เป็น multistage 4 ตัวครับ เห็นบอกดีที่สุดต้อง vertical turbine ครับ แต่ราคาแพงกว่ากัน 4 เท่า สวัสดีครับ คุณ buktuck  ค่าก่อสร้างทั้งหมดก็ อุปไว้ก่อน เดี๋ยวสุดท้ายจะบอกว่าเท่าไร รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการดูแลสนามกอล์ฟด้วย คุณภาพสนามเนี่ยแลกมาด้วยเงินและความเอาใจใส่ จริงๆครับ ของถูกและดี หาไม่ง่ายครับ เฮ้อ จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 19:41:16

ความคิดเห็นที่ 33 ระหว่างนี้ เราไปเตรียมหญ้าที่จะปลูกกันดีกว่า เริ่มแรกสนามวางไว้ว่า จะใช้หญ้าดังนี้ครับ กรีนเป็น ทิปดร๊อฟ รัฟ และ fairway เป็นนวลน้อย เพราะดูแลง่าย และ ลูกในfairway ลอยดี ตีง่าย 555 tee off ใช้พาสพาลั่ม เนื่องจากฟื้นตัวเร็ว เริ่มแรกเตรียมพื้นที่ อนุบาลหญ้า ตามรูปครับ จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 19:46:08

ความคิดเห็นที่ 34 วางระบบระบายน้ำ เสร็จแล้วก็ปูทราย วางหัวสปริงเกอร์ ไม่ต้องpop up แบบในสนามนะครับ มันแพงงงงงง จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 19:48:52

ความคิดเห็นที่ 35 หญ้า อนุบาล ใช้พันธ์ แบบเป็นข้อหญ้า ที่เห็นเป็นพาสพาลั่มครับ จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 19:50:05

ความคิดเห็นที่ 36 ปลูกหญ้า เหมือนห้องแล็ปวิทยาศาสตร์เลยครับ จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 19:51:01

ความคิดเห็นที่ 37 กลับมาที่สนาม ระบบเรียบร้อยแล้วก็ปูทรายครับ สำหรับRDGC แบ่งทรายที่ใช้ แยกจาก แย่ไปหาดีที่สุด ดังนี้ครับ ทรายรัฟ ปูไม่หนามาก 10-15 ซม. ใช้ทรายที่ขุดได้ในสนาม และซื้อบางส่วน ประหยัดงบได้เยอะมาก ทรายปูfairway คัดพิเศษ ขนาด 4 มม. ต้องมี silt (ฝุ่นในทราย) น้อยมาก จำปริมาณผ่านsive (ตะแกรงร่อน)ไม่ได้แล้ว ปูหนาไม่ต่ำกว่า 25 ซม. เพราะเวลา coring (เครื่องเจาะ)จะได้ไม่โดนท่อต่างๆในดิน จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 19:59:15

ความคิดเห็นที่ 38 ทรายที่ดีที่สุด ก็ ทรายgreen ครับ ขนาด 2 มม. แน่นอนsilt น้อยมากๆ เดี๋ยวไปดูการก่อสร้างกรีนกัน ทรายที่แพงที่สุดก็ ทรายบังเกอร์ ไงครับ  แพง มากๆๆๆๆๆๆ แถมต้องเติมทุกปีด้วยครับ เพราะเพื่อนๆชอบสาดทรายขึ้นgreen กันประจำ ทรายเลยหายไปจากบ่อ RDGC ใช้ทรายสีขาวอมชมพู น่าจะมาจากสระบุรีนะครับ หากมีดินลงไปปนมากๆสีจะไม่สวย ก็ต้องเปลี่ยนทรายทั้งบ่อ ส่วนใน waste bunker ใช้ทรายที่ปูfairway นั่นแหละครับ จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 20:06:49

ความคิดเห็นที่ 39 เวลาใครถามว่าสนาม riverdale เป็นไง ผมตอบทุกครั้งว่า "เป็นสนามที่ดีที่สุดที่ผมได้เล่นมาในช่วง 3-4 ปีนี้เลย" ครับ ดูกระทู้นี้แล้ว ผมคงยิ่งพูดได้เต็มปากยิ่งขึ้นครับ จากคุณ : fastserve เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 20:12:58

ความคิดเห็นที่ 40 ผมรู้สึกว่า 9 หลุมหลังนี่พื้นค่อนข้างแข็ง ตีแล้วมันกระดอนมือ สงสัยเกี่ยวกับดินเหนียว แต่ทำไมเป็นแค่ 9 หลุมหลังนะ .... จากคุณ : comoco เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 20:17:59

ความคิดเห็นที่ 41 พักเรื่องfairway ไว้ตรงปรับปูทรายก่อนแล้วกัน มาดูพระเอกในสนามกันก่อน    ใช่แล้วครับ เรามาสร้างgreen กัน mr allen teekanen เป็นผู้รับผิดชอบในการ shape เค้าเป็นศิลปินมากเลย ประสบการณ์เยอะมาก สนามดังๆในไทยหลายสนาม เค้าคนนี้ละเป็นคนปั้น ตรวจสอบระดับกันเป็นมิลลิเมตรละครับ  OH my god เจ้าตัวที่เห็นจอดในรูปข้างบน เรียกว่า sand pro เอาไว้เกลี่ยทราย เพื่อปรับเรียบ จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 20:26:17

ความคิดเห็นที่ 42 สุดยอดครับ ได้ความรู้เพียบ ^_^ จากคุณ : เม่าเริงร่า เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 20:36:53

ความคิดเห็นที่ 43 สวัสดีครับ คุณ fastserve  ขอบคุณครับ และผมหวังว่าRDGC จะคงรักษาคุณภาพสนามได้ตลอดไป เพราะ อุปสรรคในอนาคต มีเยอะมาก ตอนท้ายๆ จะเล่าให้ฟังครับ สวัสดีครับคุณcomoco ผมเข้าใจว่าอาจมี fairway บางหลุมนะครับ ที่ค่อนข้างกระด้าง ไม่ทราบสาเหตุเหมือนกัน วิธีปูและแหล่งที่มาของทราย ก็เหมือนกัน บางหลุมก็จะมีการทำเขตกรรมเพิ่มเติม เช่น coring หนักกว่าปกติ หรือ ใช้ดอกเข็ม (verti drain )  บางครั้งปริมาณการให้น้ำก็มีผลครับ กลับมาที่งานสร้าง green ต่อนะครับ หลังจากได้ระดับที่พอใจแล้ว ก็ทำการเก็บค่าระดับทั้งหมดเพื่อเอาไว้ตรวจสอบเมื่อลงทราย อีกครั้ง ด้านล่างจะมี CB เพื่อรับน้ำ และวางก้างปลาบางส่วน ก่อนที่จะปูทับด้วยกรวดกรอง จำไม่ได้ว่าหนาเท่าไร น่าจะ 30 ซม. รอบๆกันด้วย แผ่นพลาสติก จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 20:39:48

ความคิดเห็นที่ 44 หลังจากนั้นก็ปูทราย จะเห็นว่าเป็นทรายคนละชนิดกับใน fairway จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 20:43:27

ความคิดเห็นที่ 45 สวัสดีครับ คุณเม่าเริงร่า แชร์ความรู้กันครับ tee off ก็เหมือน fairway ละครับ ไม่ต่างกัน ขอข้ามไปเลยละกัน ตอนนี้เราปูทรายแล้วทั้งสนามกอล์ฟ เดี๋ยวมาปูหญ้ากัน ตัดมาดูรายละเอียดอื่นกันก่อนนะครับ เอาเรื่องระบายน้ำก่อนละกัน ระหว่างก่อสร้างก็มีปัญหาเรื่องสูบน้ำขึ้นจากสนามแล้วครับ ฤดูฝนก่อสร้างสนามเหนื่อยมาก ต้องสูบน้ำขึ้นสูงกว่า 15 เมตร จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 20:49:34

ความคิดเห็นที่ 46 หัวใจของสนามครับ ปั้มไฟฟ้า 3 ตัว ขนาด 800 ลบม./ชม./ตัว ที่ความสูง 25 เมตร ใหญ่โคตร และมีปั้นดีเซลอีก 3 ตัว ขนาด เล็กกว่าไฟฟ้า ครึ่งหนึ่ง จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 20:53:44

ความคิดเห็นที่ 47 ปั้มทั้งหมดอยู่ที่หลุม 8 ครับ หากเพื่อนๆสังเกตุ ปั้มจะอยู่ใต้ถนนที่จะไปหลุม 8 นะครับ แต่เดิมจะทำเป็นอาคารโผล่ขึ้นมาครึ่งหนึ่งเพื่อให้สะดวกในการดูแล ตอนนั้นยังไม่มี island green เพราะมาคิดที่หลัง พอมีกรีนกลางน้ำ คราวนี้น่าเกลียดเลย จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 20:58:27

ความคิดเห็นที่ 48 สุดท้าย มันต้องหายไป . . . . . . . . ทุบสิครับ จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 21:00:11

ความคิดเห็นที่ 49 แต่สุดท้ายก็คุ้มค่าครับ อลังการงานสร้างมากเลย จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 21:01:33

ความคิดเห็นที่ 50 มาดูกรีนกลางน้ำกันบ้าง ในแนวคิดที่ต้องการให้ทุกหลุม ให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ตีหลุม par 3 หลุมนี้ เหมือนหลุมโน้น  ฯลฯ ไอเดีย 2 กรีน จึงบังเกิด จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 21:05:53

ความคิดเห็นที่ 51 ขุดเสร็จแล้ว ก็ต้องลงไปปั้นใหม่สิครับ 555 จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 21:07:52

ความคิดเห็นที่ 52 ชอบจังเลยครับ ได้ความรู้เพิ่มขึ้นแยะเลยครับ จากคุณ : jane (jane_sr20det) เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 21:08:13

ความคิดเห็นที่ 53 และแล้วเราก็มี signeture hole ถามผู้ออกแบบว่าหลุมไหน เค้าบอกทุกหลุมอ่ะ 55555 จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 21:11:05

ความคิดเห็นที่ 54 เป็นกระทู้ที่ยาวที่สุด เท่าที่เคยโพสเลยนะเนี่ย สุดท้ายแล้วครับ ทนอ่านกันนิดหนึ่ง มาปูหญ้ากัน ตอนนี้ ต้นไม้ใหญ่ ต่างๆต้องลงแล้วนะครับ ได้ความรู้ ว่า ต้นไม้ใหญ่ที่ลงบางต้นมีความหมายในเกมกอล์ฟด้วย เช่น เป็นจุดเล็งในการ tee off  ว่าง่ายๆ เป็นmarkingนะครับ บางส่วนลงเพื่อเป็นsafty บางส่วนเพื่อร่มเงา RDGC ตอนแรกแบบคล้ายๆจะเป็นlink course สุดท้ายเพิ่มต้นไม้ เลยดูร่มรื่นขึ้นเยอะ จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 21:20:20

ความคิดเห็นที่ 55 หญ้าสนามกอล์ฟ เท่าที่รู้ มีวิธีปลูก 2 วิธี คือ ปูหญ้าเป็นแผ่น กับ หว่านกิ่งหญ้า ส่วนการใช้เมล็ด ไม่รู้ว่าใช้กันรึป่าว ในรูป เป็นการปูหญ้านวลน้อย ครับ จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 21:25:08

ความคิดเห็นที่ 56 แต่สุดท้าย ก็ได้มีการตัดสินใจเปลี่ยนหญ้า fairway เป็นพาสพาลั่ม เนื่องจาก สภาพดินในสนามเป็นด่าง และมีเกลือ ทำให้คุณภาพน้ำไม่เหมาะกับหญ้านวลน้อย แต่พาสพาลั่มชอบ เนื่องจากพาสพาลั่มชอบเค็ม กว่านวลน้อยครับ ในรูปเป็นการปลูกพาสพาลั่มแบบหว่านครับ จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 21:29:11

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณคุณโย่ง2 มากๆ เลยครับที่มาให้ความรู้ จากคุณ : JoSho73 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 21:32:49

ความคิดเห็นที่ 58 สุดท้ายเราก็ได้fairway พาสพาลั่มที่สวยงามอย่างที่เห็นครับ วันนี้จบแค่นี้ก่อนละกันครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้กลับมาจากทำงานตอนค่ำๆ น่าจะจบละครับ มึนละ ใครอยากร่วมแชร์ หรือสอบถาม ก็ยินดีนะครับ จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 21:35:27

ความคิดเห็นที่ 59 ขออนุญาตโหวต เก็บเข้าคลังกระทู้ นะครับ ... ขอบคุณมากครับผม จากคุณ : Tiggy-ข้าวหอม เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 21:36:07

ความคิดเห็นที่ 60 ผมโหวตเก็บเข้าคลังกระทู้เรียบร้อยแล้ว ของดีๆ แบบนี้ ไม่อยากให้เลือนหายไป... จากคุณ : JoSho73 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 22:02:02

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณมากครับพี่ ที่ให้ความรู้ จากคุณ : dr.por เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 22:30:12

ความคิดเห็นที่ 62 โหวตด้วยครับ จากคุณ : นายมาร์ช เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 22:32:53

ความคิดเห็นที่ 63 ยอดเยี่ยมครับพี่โย่ง จากคุณ : Eddy_DT_545 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 22:48:54

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณครับ พี่ ได้ความรู้ เพียบบบบบบบบบ เลย   สนามริเวอร์เดลล์  สมบูรณ์ และตีสนุก จริงๆ ครับ จากคุณ : กล้าชามู เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 22:53:58

ความคิดเห็นที่ 65 ขอบคุณมากครับ ได้ความรู้เยอะเลย มารอต่อภาคสองครับ จากคุณ : ...LaZeR... เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 23:30:13

ความคิดเห็นที่ 66 ขอบคุณมากครับ มาคอยติิดตามครับ จากคุณ : Phak Phoom เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 00:10:17

ความคิดเห็นที่ 67 ขอบคุณมากครับคุณโย่ง ได้ความรู้ขึ้นเยอะเลยครับ จากคุณ : Lion_Stones เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:37:57

ความคิดเห็นที่ 68 ขอบคุณมากๆเลยสำหรับความรู้ครับ ตั้งแต่คุณโย่งไปทำอาชีพใหม่ RDGC ก็ "สมบูรณ์" น้อยลงไป "หนึ่ง" เหลืออยู่แค่สมบูรณ์เดียว หลังจากได้มีโอกาสเข้าไปทดสอบระบบในวันที่ 24 พ.ค. 2553 แล้ว ผมก็ยังได้มีโอกาสไปเยือนที่นั่นอีกทั้งสิ้น 11 ครั้ง แต่ละครั้งที่ไปก็มีความประทับใจกลับมาทุกครั้งและเล่นได้ดีทุกครั้ง เรียกว่าที่นี่เป็นสนามชอบของผมเลย ถ้าไปเล่นในการแข่งขันผมก็มักจะได้รางวัลใหญ่สุดติดไม้ติดมือมา ยกเว้นครั้งก่อนครั้งล่าสุดที่ออกสตาร์ทที่หลุมเจ็ด ผมตีออก O.B. ซ้ายมือถึงสองครั้งออก 8 หรือ 9 นี่แหละครับก็เลยหมดลุ้นตั้งแต่หลุมแรกกันเลย แต่ครั้งล่าสุดก็กู้ชื่อกลับคืนมาได้เป็นผลสำเร็จ ไม่ให้เสียชื่อหนึ่งในกลุ่มผู้ได้มีโอกาสร่วมทดสอบสนามแห่งนี้เป็นกลุ่มแรกๆครับ จากคุณ : GumpzZ เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 08:42:23

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณครับ โหวตครับ จากคุณ : Rachy Noom เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 08:51:44

ความคิดเห็นที่ 70 โหวตให้นะครับ นานๆจะได้เห็นกระทู้กอฟขึ้นแนะนำซักที จากคุณ : ในกรณีชื่อที่ 1 ไม่ผ่าน เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 09:23:14

ความคิดเห็นที่ 71 โหวตๆครับ จากคุณ : ArM-ApA เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 09:32:59

ความคิดเห็นที่ 72 เยี่ยมมากครับ อย่างนี้ต้องโหวต จากคุณ : เขียนบน iPad (ProPrin) เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 09:39:44

ความคิดเห็นที่ 73 ขอบคุณที่สละเวลาและแรงมาแบ่งปันความรู้ครับ จากคุณ : Near Pin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 10:33:34

ความคิดเห็นที่ 74 ขอบคุณครับ อ่านสนุก ได้ความรู้ครับ ...... จากคุณ : Golf Only เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 11:17:14

ความคิดเห็นที่ 75 โห้ มันไม่ง่ายเลยนะครับ เพิ่งรู้ว่าทำยากขนาดนี้ จากคุณ : bantabaton เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 11:23:47

ความคิดเห็นที่ 76 ได้ความรู้มากมาย ขอสอบถามครับ ประเทศไทยมีมหาวิทยาลัยไหนบ้างครับ ที่เปิดสอนด้านการสร้าง/จัดการสนามกอล์ฟ ผมว่าประเทศไทยน่าจะยังขาดแคลนบุคลากรด้านนี้อยู่นะครับ จากคุณ : jojoe in japan เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 12:25:55

ความคิดเห็นที่ 77 อยากทราบมูลค่า ของสนามจริงๆ.. จากคุณ : นายโอ้นโต้น เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 12:48:21

ความคิดเห็นที่ 78 ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันความรู้ครับผม จากคุณ : RadiusRoof เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 13:07:33

ความคิดเห็นที่ 79 โอ้สสสส กว่าจะสร้างเสร็จ การสร้างว่ายากแล้ว การครีเอท ออกแบบแต่ละหลุมว่ายากกว่า เห็นแบบนี้แล้วนึกถึงสนามแห่งหนึ่ง ผมจำชื่อไม่ได้ ที่อยู่ใกล้โรงงานเบียร์ซานมิเกล ตรงถนนติวานนท์ก่อนถึงทางเข้าวัดบางกุฎีทอง ผมผ่านบ่อยเพราะไปไหว้พระที่นั่น แต่เมื่อไม่นานมานี้หลังจากน้ำท่วมผมได้ไปวัดอีกครั้ง และก็ผ่านสนามนี้ แม่เจ้า !! หญ้าที่เขียวโดนน้ำท่วมขังหมดทั้งสนาม เน่าทั้งสนาม ทั้งหญ้า ต้นไม้ คลับ โอ้วววว...เป็นสีน้ำตาลหมดเลยครับ เพราะน้ำที่ท่วมแถวนั้นสูงเมตรกว่า ๆ บริเวณถนนใหญ่ และ ประมาณสองเมตร บริเวณภายในชุมชน รอบๆสนามกอล์ฟ เห็นแล้วก็สงสารเจ้าของสนามครับ ใครที่เคยไปสนามนั้่นน่าจะพอเห็นภาพก่อนและหลัง ของที่นั่น ขอให้สนามกลับมาสวยเหมือนเดิมไวไวครับ จากคุณ : Hokkaido_H เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 13:39:35

ความคิดเห็นที่ 80 เป็นความรู้มากครับ จากคุณ : greatdent เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 13:57:14

ความคิดเห็นที่ 81 ขอบคุณมาก ๆ ครับได้รับความรู้มากเลยครับ รอภาคจบครับ จากคุณ : นายปลาทอง เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 14:09:37

ความคิดเห็นที่ 82 มหาวิทยาลัยรามคำแหงครับ เปิดสอนคณะ บริหารจัดการกอร์ฟ เปิดได้หลานรุ่นแล้วครับ โปร ธงชัย ก็เป็นจบที่นี่ครับ จากคุณ : ไม่เอาไหน เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 14:20:48

ความคิดเห็นที่ 83   เจ๋งครับ   จากคุณ : หน้าต่างไร้กลอน เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 16:32:55

ความคิดเห็นที่ 84 เมื่อก่อนผมก็ชอบไป ริเวอร์เดล แต่เดี๋ยวนี้ ต้องเดล ออกจาก list เรียบร้อยแล้ว เพราะใจไม่ถึงพอที่จะออกรอบ ในราคาค่อนข้างสูง แบบปัจจุบันครับ เสียดายมาก ที่โอกาสไปสนามดี ๆ แบบนี้น้อยลงไปอีกครั้งหนึ่ง ... ตั้งแต่หลังน้ำท่วม สนามบังคับรถ .. ก็ต้องเปลืองน้ำมันไปไกลขึ้น ถึง บางไทร โน่นแน่ะครับ ... ประหยัดกว่ากัน เกินครึ่ง! จากคุณ : pwit เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 17:04:32

ความคิดเห็นที่ 85 จขกท อย่าลืมเอากระทู้ไปแปะที่ห้องหว้าก้อด้วยนะครับ วิศวกรรมโยธาล้วนๆเลยนะครับเนี่ย เอาเรื่องนี้ไปออกรายการ กบนอกกะลาก็ดีนะครับ 555 ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ จากคุณ : ชายหลอน เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 17:54:42

ความคิดเห็นที่ 86 อยากให้เอาจากเกมปังย่ามาออกแบบบ้าง อิอิ จากคุณ : FFK-KZ@Fiesta เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 18:57:18

ความคิดเห็นที่ 87 มูลค่าสนามจริงๆก็ไม่เท่าไรครับ บางแห่งก็แค่ ที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าไม่กี่ไร่ จากคุณ : เมาฟรีออริจินั่ล เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 20:02:36

ความคิดเห็นที่ 88 สวัสดี เพื่อนๆพันทิปกอล์ฟทุกท่าน อีกครั้งครับ เอาละ วันนี้มาต่อให้จบดีกว่า เหลืออะไรบ้างเนี่ย ปูหญ้า , คลับเฮ้าส์ , วิธีบริหารสนาม , ค่าใช้จ่ายก่อสร้าง , ค่าดูแลสนาม , ฯลฯ มาปูหญ้าต่อครับ ถ้าจำได้ผมเล่าไว้ข้างบนว่า RDGC เปลี่ยนหญ้า fairway จากนวลน้อย เป็นพาสพาลั่ม เนื่องจากไม่เหมาะสมกับน้ำ เห็นผู้รู้บางท่าน บอกว่าการเลือกชนิดของหญ้า ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น พื้นที่ขาดแคลนน้ำ หญ้านวลน้อยจะเหมาะสมกว่าพาสพาลั่ม เนื่องจากใช้น้ำน้อยกว่า พาสพาลั่ม ถ้าน็อคน้ำ คือขาดน้ำมากถึงขนาดหนึ่ง จะฟื้นตัวยากกว่า แต่พาสพาลั่มมีข้อดีคือ หากน้ำเพียงพอ จะโตเร็ว ทำให้แผลดิวอท หายเร็ว และสามารถตัดfairway ให้ขึ้นลายสวยงามได้ง่ายกว่านวลน้อยครับ แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 55 20:50:38 จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 20:49:50

ความคิดเห็นที่ 89 RDGC ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี ถือว่านานมากสำหรับสนามกอล์ฟ แต่เราไม่เร่งครับ ค่อยๆสร้าง  และสร้างแบบเงียบๆ ขนาดลูกค้ามาตีกอล์ฟที่สนามบางกอก ยังไม่รู้เลยว่ามีสนามกอล์ฟอยู่ข้างๆ 555  หลังจากเราได้กิ่งหรือข้อพันธ์ ของหญ้ามาแล้ว ก็มาทำแปลงปลูกตามกระทู้ข้างบน สุดท้าย จะปล่อยให้ยาวแล้วตัดเป็นข้อ นำไปหว่านในสนาม ด้านล่าง เป็นแปลงอนุบาลหญ้า กรีน สายพันธ์ทิปดร๊อฟ ครับ จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:00:07

ความคิดเห็นที่ 90 แปลงหญ้าอนุบาล จะปล่อยให้หญ้ายาวมากๆ พาสพาลั่มก็มีแปลงอนุบาลนะครับ แต่จุดประสงค์ไม่เหมือนกัน หญ้า fairway ส่วนใหญ่จะหว่าน แต่บางพื้นที่ มีความลาดเอียงมาก จำเป็นต้องใช้หญ้าแผ่น (sod grass) ก็ต้องเอามาจากแปลงอนุบาลแหละครับ ส่วนบนgreen ต้องหว่านอย่างเดียวเท่านั้น เพราะเราปรับทรายไว้เรียบมาก ถ้าใช้หญ้าแผ่นวาง จะทำให้เนินที่ออกมาไม่ได้ตามแบบ ทำไมทำgreen ถึงยากจังเลยเนอะ จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:08:08

ความคิดเห็นที่ 91 หลังจากหญ้าfairway แล้วคราวนี้ก็มาหญ้าgreen บ้างละ ปรากฎว่า ทิปดร๊อฟที่ปลูกไปแล้วหลายกรีน ไม่ OK ครับ เนื่องจากเกิดการmultation หรือกลายพันธ์นั่นเอง หญ้านี้เดิมถูกbreeding มาจากพันธ์เบอร์มิวด้า ว่าง่ายๆเป็นเบอร์มิวด้าแคระละครับ แต่เพราะใช้กันมานานแล้วจึงมีการกลายพันธ์ คือพยายามจะไม่แคระแหละครับ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของสิ่งมีชีวิต คราวนี้ปัญหาคืออะไรละครับ ตอนแรกผมก็ไม่รู้เรื่องหรอกครับ หญ้าอะไรก็เหมือนกันหมดแหละ เข้มบ้าง อ่อนบ้าง ขอให้มันเขียวๆเต็มสนามก็โอเคแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นคือ สีหญ้าบนกรีนไม่สม่ำเสมอ ความหนาแน่นไม่เท่ากันเนื่องจาก ใบหญ้าขนาดไม่เท่ากัน สิ่งที่ตามมาคือ สปีดบนกรีนก็จะไม่สม่ำเสมอ ทำไงดีละทีนี้    ท่าทางพระเอกจะไม่หล่อซะแล้ว จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:20:38

ความคิดเห็นที่ 92 แวะมาชมครับ จากคุณ : anurak_jun เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:21:58

ความคิดเห็นที่ 93 ทราบไหมครับ สนามกอล์ฟตัดหญ้าสูงเท่าไร วัดสปรีดกันอย่างไร รัฟจะยาวที่สุด 4-15 ซม. มั้งครับ fairway 14 มม.  Tee off 10 มม. green 3 มม. ขึ้นอยู่กับชนิดและการดูแลหญ้า ของแต่ละสนามครับ หลังจากปรึกษากันอยู่พักใหญ่ สุดท้ายเห็นควรเปลี่ยนพันธ์หญ้ากรีนใหม่ ตัวเลือกมีอะไรบ้างเอ่ย ทิปดร๊อฟ , ทิปอีเกิ้ล , โนโวเท็ค , ฯลฯ   ทิปอีเกิ้ล ทำสปีดได้ดีที่สุด สนามดีๆหลายสนามก็ใช้ แต่ดูแลยาก และด้วยสโลปของกรีน แค่สปีด 9-10 ก็ตายแล้ว โนโวเท็ค ใช้ที่red mountain ก็ยังไม่โดนใจ เอาไงดีน้า จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:37:19

ความคิดเห็นที่ 94 สวัสดัครับ คุณanurak_jun สุดท้าย เราเลือกสั่งหญ้า miniverde มาจากอเมริกาครับ RDGC เป็นสนามที่ 2 ในประเทศไทยที่ใช้หญ้าพันธ์นี้ สุวรรณคันทรี่คลับ ใช้ก่อนเราครับ คือหญ้าเค้ามาก่อนเราแค่สัปดาห์เดียวนะครับ555 ค่าใช้จ่ายเป็นล้านครับ ใส่กล่องมาทางเครื่องบินเลยครับ เป็นเศษหญ้ามาในกล่องนะครับ555 แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 55 23:51:59 จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:42:51

ความคิดเห็นที่ 95 แช่เย็นมาเลยครับ แถมมีการตรวจสอบรับรองคุณภาพ เสียด้วย จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:46:15

ความคิดเห็นที่ 96 เจ้ากล่องสีเหลืองที่เห็นจะถูกใส่มาในกล่องหญ้า จะเป็นตัวบันทึกอุณหภูมิ ของกล่องหญ้าตลอดการจัดส่ง เพื่อเป็นการยืนยันว่าหญ้าจะไม่ตายนึ่งเมื่อมาถึงมือลูกค้าครับ แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 55 07:24:28 จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:48:41

ความคิดเห็นที่ 97 มาถึงก็ต้องรีบหว่านเลยครับ ต้องพยายามปลูกให้เร็วที่สุด ยิ่งสดยิ่งมีโอกาสรอดเยอะ จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:50:46

ความคิดเห็นที่ 98 รอยที่เห็นเกิดจากจานกดที่อยู่ท้าย sand pro คันนี้ครับ จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:51:35

ความคิดเห็นที่ 99 ทำกันยันมืดเลยครับ จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:52:16

ความคิดเห็นที่ 100 สุดท้ายเราก็ได้หญ้าอย่างที่เห็นครับ สีสวยมากเลย หนานุ่มมาก แต่เมื่อเราตัดเหลือแค่3มม. หญ้าจะเครียด สีเลยไม่สวยเหมือนในรูป จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:54:37

ความคิดเห็นที่ 101 สำหรับงานก่อสร้างสนามกอล์ฟ คงจบแค่นี้นะครับ เป็นไงครับ กว่าจะได้สนามกอล์ฟมาให้พวกเราเล่นกัน ไม่ง่ายเลยนะครับ มีอุปสรรคตลอดการก่อสร้าง มากมาย ปรับทรายแล้ว ฝนตก ต้องมาปรับใหม่ บางที่ปรับอยู่เป็นอาทิตย์ไม่ได้ปูหญ้าสักที ทำแล้วรื้อก็ไม่น้อย มีการปรับแก้กันตลอด กว่าจะมาเป็นสนามกอล์ฟสวยๆ ตีสนุกอย่างRDGC ผมเองก็รู้สึกภูมิใจเหมือนกัน ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสนามนี้ จากคุณ : โย่ง2 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 22:04:13