ความคิดเห็นที่ 1 ลำดับสโมสรที่ป้องกันแชมป์ลีกสูงสุดได้สำเร็จในประวัติศาสตร์(ถ้วยก.และไทยพรีเมียร์ลีก) 1. มหาดเล็กหลวง (2460-2462) 2. โรงเรียนนายร้อยทหารบก (2564-2465) 3. โรงเรียนนายเรือ (2466-2467) 4. กองเดินรถ (2469-2470) 5. สวนกุหลาบวิทยาลัย (2471-2472) 6. ทหารอากาศ (2495-2496) 7. ราชประชา (2513-2514) 8. การท่าเรือฯ (2521-2522) 9. ธนาคารกรุงไทย (2531-2532) 10. ธนาคารกสิกรไทย (2534-2536) 11. บีอีซี เทโรศาสน (2543-2544) 12. เมืองทองฯ ยูไนเต็ด (2552-2553) จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:01:54

ความคิดเห็นที่ 2 อันดับที่ 10 (ร่วมกัน 2 ทีม) สโมสรฟุตบอลชลบุรี เอฟซี (ปัจจุบันแข่งขันในไทยพรีเมียร์ลีก) แต่เดิมเป็น ทีมสโมสรฟุตบอลของโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา และได้เข้าร่วมแข่งขัน ฟุตบอลสโมรสรชิงถ้วยพระราชทาน ต่อมาได้ถูกรวมเข้ากับทีม สโมสรสันนิบาตสมุทรปราการ โดยใช้ชื่อ สโมสรฟุตบอลชลบุรี-สันนิบาตสมุทรปราการ ได้เข้าแข่งขันใน ดิวิชัน 1 ต่อมาได้ย้ายไปเล่นใน โปรวินเชียลลีก ในชื่อ สโมรสรฟุตบอลชลบุรี และได้แยกทีม สโมสรฟุตบอลชลบุรี-สันนิบาตสมุทรปราการ ซึ่งเล่นในดิวิชัน 1 อยู่ โดยทีมสโมสรชลบุรีนั้นได้นำผู้เล่นจากโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา และโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ชลบุรี และได้ชนะเลิศโปรลีกในปี 2548 และได้เลื่อนมาเล่นใน ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกในปี 2549 เดือนเมษายน พ.ศ. 2551 สโมสรฟุตบอลชลบุรีเตรียมจดทะเบียนสโมสรให้อยู่ในรูปของบริษัทนิติบุคคล โดยใช้ชื่อ บริษัท สโมสรฟุตบอลชลบุรี จำกัด พร้อมกับจดลิขสิทธิ์ฉายา ฉลามชล และโลโก้ปลาฉลามของสโมสรด้วย ซึ่งบริษัทจะทำหน้าที่อย่างเต็มตัวในการแข่งขันไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ปัจจุบันได้รับการยอมรับว่าเป็นทีมที่มีการบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยม มีความเป็นมืออาชีพ และกองเชียร์ Blue Blood ที่เหนียวแน่น และเลื่องชื่อลือชาในลีลาการเชียร์ อดีตผู้เล่นคนสำคัญ เช่น ปิยพล บรรเทา, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, สุรัตน์ สุขะ,  โคเน่ โมฮาเม็ด, ไมเคิล เบิร์น จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:02:56

ความคิดเห็นที่ 3 เกียรติประวัติและสถิติ เกียรติประวัติ แชมป์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก  :  1  สมัย  (2550) แชมป์ฟุตบอลเอฟเอคัพ  :  1  สมัย  (2553) แชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ก.  :  3  สมัย  (2550,2551,2554) แชมป์ฟุตบอลโปรวินเชียลลีก  :  1  สมัย  (2548) รองแชมป์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก  :  3  สมัย  (2551,2552,2554) รองแชมป์ฟุตบอลโปรวินเชียลลีก  :  1  สมัย  (2545) รองแชมป์สิงคโปร์คัพ  :  1  สมัย  (2549) สถิติ สโมสรฟุตบอล"ต่างจังหวัด"(นอกกรุงเทพมหานคร)ทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลลีกสูงสุดของประเทศได้ จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:03:32

ความคิดเห็นที่ 4 อันดับที่ 10 (ร่วม) สโมสรฟุตบอลราชวิถี (ปัจจุบันแข่งขันในดิวิชั่น 2) สโมสรฟุตบอลราชวิถี ถือเป็นสโมสรแรกๆ ของทีมฟุตบอลในเมืองไทยที่มีระบบการเล่นฟุตบอลแบบ "โททัลฟุตบอล" อันสวยงามและเร้าใจ ในปี พ.ศ. 2511 สำเริง ไชยยงค์ ได้ยื่นจดทะเบียนก่อตั้งสโมสรฟุตบอลต่อกรมตำรวจ ในขณะนั้น (ปัจจุบันคือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ) โดยใช้ชื่อทีมว่า "สโมสรฟุตบอลราชวิถี" และเป็นชื่อทีมที่ใช้มาจนถึงปัจจุบัน ทีมราชวิถีประสบความสำเร็จกับการสร้างนักเตะระดับเยาวชนเป็นอย่างมาก โดยสามารถคว้าแชมป์ลูกหนังระดับเยาวชนชิงชนะเลิสแห่งประเทศไทย ถึง 6 ปีซ้อน ราชวิถีเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมณ์ สามารถความแชมป์ฟุตบอลฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ค. (ถ้วย ค.) ได้ในปี พ.ศ. 2515 โดยในปี พ.ศ. 2514 ทีมราชวิถีสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยใหญ่หรือฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ก. (ถ้วย ก.) ซึ่งถือว่าเป็นถ้วยฟุตบอลระดับสูงสุดของประเทศ ได้เป็นครั้งแรก ปัจจุบันสโมสรฟุตบอลราชวิถี อยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงการบริหารทีมภายใต้การนำของประธานสโมสร พล.ต. หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล ที่ต้องการเห็นสโมสรกลับไปโลดแล่นในระดับไทยลีกอีกครั้ง อดีตผู้เล่นที่โดดเด่น เช่น นิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์, อารมณ์ จันทร์กระจ่าง, สิทธิพร ผ่องศรี, อำนาจ เฉลิมชวลิต, จุฑา ติงศภัทิย์, ทรงไทย สหวัชรินทร์ เอกชัย สนธิขัณธ์, วีระยุทธ สวัสดี, ปรีชา กิจบุญ, แก้ว โตอดิเทพ,สุรินทร์ เข็มเงิน, เชิดศักดิ์ ชัยบุตร จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:04:28

ความคิดเห็นที่ 5 เกียรติประวัติและสถิติ เกียรติประวัติ แชมป์ฟุตบอลถ้วย ก.(เทียบเท่าไทยพรีเมียร์ลีก)  :  4  สมัย  (2514, 2516, 2518, 2520) แชมป์ฟุตบอลควีนส์คัพ  :  1  สมัย  (2516) แชมป์ฟุตบอลถ้วย ข.  :  1  สมัย  (2538) แชมป์ฟุตบอลถ้วย ค.  :  1  สมัย  (2515) จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:04:53

ความคิดเห็นที่ 6 อันดับที่ 9 สโมสรฟุตบอลเมืองทองฯ ยูไนเต็ด (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นสโมสรฟุตบอลเอสซีจี เมืองทองฯยูไนเต็ด แข่งขันในไทยพรีเมียร์ลีก) บุคคลที่เป็นผุ้ก่อตั้งสโมสรฟุตบอลเมืองทองหนองจอก ยูไนเต็ด คือ นายวรวีร์ มะกูดี ซึ่งปัจจุบันเป็นนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยเป็นการก่อตั้งหลังจากทีมโรงเรียนศาสนวิทยา หรือทีมบีอีซี เทโรศาสน ในปัจจุบันเพียง 3 ปี ชื่อแรกที่ขึ้นทะเบียนไว้กับสมาคมฟุตบอลเป็นชื่อทีมโรงเรียนหนองจอกพิทยานุสรณ์ ร.ร.หนองจอกพิทยานุสรณ์ เริ่มไต่เต้าจากถ้วยเล็กสุดอย่างถ้วยพระราชทานประเภท ง. กระทั่งในการแข่งขันฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 2545-2546 ทีม ร.ร.หนองจอกพิทยานุสรณ์ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็นหนแรกเป็นสโมสรฟุตบอลไข่มุกดำหนองจอก โดยได้วีระ มุสิกพงศ์ อดีตนักการเมืองเข้ามาทำทีม แต่แค่ฤดูกาลเดียวเมื่อไม่ประสบความสำเร็จนายวีระ ก็เลิกลาไปโดยที่ทีมยังคงอยู่ในลีกดิวิชั่น 1 ต่อไป จุดเริ่มต้นก่อนจะมายิ่งใหญ่เช่นทุกวันนี้นั้น น่าจะเป็นเพราะสมาคมฟุตบอลฯ ต้องการยกระดับลีกการแข่งขันในประเทศของไทย ให้เป็นสากลมากขึ้น จึงก่อตั้งลีกดิวิชั่น 2 ขึ้นมาโดยนำทีมจากถ้วยพระราชทาน ข และ ค มาผสมรวมกันเพื่อแข่งขันในลีกนี้ในฤดูกาล 2549 - 2550 ซึ่ง ร.ร.หนองจอกพิทยานุสรณ์ได้สิทธิ์เข้าแข่งขันด้วย และปีนั้นกับลีกดิวิชั่น 2 ของไทยครั้งแรกชื่อทีมเมืองทองหนองจอก ยูไนเต็ด โดยผู้สนับสนุนทีมคือ นายระวิ โหลทอง ที่รับตำแหน่งประธานสโมสร ไทยพรีเมียร์ลีก 2009 นับเป็นครั้งแรกของทีมเมืองทองหนองจอก ยูไนเต็ด ที่ได้ขึ้นมาเล่นลีกสูงสุดของประเทศได้เป็นครั้งแรก นับจากก่อตั้งสโมสรมา 20 ปีนั้น สุดท้ายประวัติศาสตร์ของวงการลูกหนังไทย ก็ต้องจารึกอีกครั้งเป็นตำนานบทใหม่ ว่าเมืองทองหนองจอก ยูไนเต็ด นั้นเป็นทีมแรกที่สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกของไทยไล่จากลีกดิวิชั่น 2,ดิวิชั่น 1 จนถึงลีกสูงสุดของไทยอย่าง ไทยพรีเมียร์ลีก แบบใช้เวลา 3 ปี ถ้วยต่อถ้วยได้สำเร็จเป็นทีมแรกที่ยังไม่เคยมีสโมสรไหนทำได้มาก่อน จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:05:43

ความคิดเห็นที่ 7 เกียรติประวัติและสถิติ เกียรติประวัติ แชมป์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก  :  2  สมัย  (2552,2553) แชมป์ฟุตบอลดิวิชั่น 1  :  1  สมัย  (2551) แชมป์ฟุตบอลดิวิชั่น 2  :  1  สมัย  (2550) แชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ก.  :  1  สมัย  (2553) รองแชมป์ฟุตบอลเอฟเอคัพ  :  2  สมัย  (2553,2555) รองแชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ก.  :  1  สมัย  (2554) สถิติ สโมสรแรกและสโมสรเดียวในประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทยที่คว้าแชมป์ลีก 3 ลีกได้ติดต่อกัน (ดิวิชั่น 2 - ดิวิชั่น 1 - ไทยพรีเมียร์ลีก) พร้อมทั้งยังป้องกันแชมป์ลีกสูงสุดในปีต่อมาได้สำเร็จ (ทีมที่ 12 ซึ่งเป็นทีมสุดท้ายที่ป้องกันแชมป์ลีกสูงสุดของไทยได้สำเร็จ) จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:06:25

ความคิดเห็นที่ 8 อันดับที่ 8 สโมสรฟุตบอลธนาคารกรุงไทย (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นสโมสรฟุตบอลบางกอกกล๊าสเอฟซี แข่งขันในไทยพรีเมียร์ลีก) เป็นอดีตสโมสรฟุตบอลในประเทศไทย โดยมีธนาคารกรุงไทย เป็นผู้สนับสนุนหลักและเป็นเจ้าของสโมสร สโมสรฟุตบอลธนาคารกรุงไทยนั้นได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลกับทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยมาเป็นเวลาถึง 35 ปี โดยได้ไต่เต้าจากระดับถ้วยพระราชทาน ง. ขึ้นมาจนถึงถ้วยพระราชทาน ก ในช่วงเดือน มกราคม พ.ศ. 2552 สโมสรฟุตบอลธนาคารกรุงไทยจากศึกไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกได้ประกาศยุบทีม เนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขที่เอเอฟซีกำหนดในเรื่องการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลได้ สโมสรบางกอกกล๊าสจึงได้ทำการเทคโอเวอร์ สโมสรธนาคารกรุงไทย โดยได้ลงแข่งในไทยพรีเมียร์ลีก ปี 2552 แทนที่ของสโมสรฟุตบอลธนาคารกรุงไทยที่ยุบทีม อดีตผู้เล่นที่โดดเด่น เช่น พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, สมปอง นันทประภาศิลป์, ณรงค์ สุวรรณโชติ, สมชาย ทรัพย์เพิ่ม, อรรถพล บุษปาคม, เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, โกวิทย์ ฝอยทอง, รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค, ธีรศักดิ์ โพธิ์อ้น จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:08:16

ความคิดเห็นที่ 9 เกียรติประวัติและสถิติ เกียรติประวัติ แชมป์ลีกสูงสุดของไทยรวม  :  4  สมัย แชมป์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก  :  2  สมัย  (2545,2546) แชมป์ฟุตบอลถ้วย ก.(เทียบเท่าไทยพรีเมียร์ลีก)  :  2  สมัย  (2531, 2532)   แชมป์ฟุตบอลถ้วย ข.  :  1  สมัย  (2536) แชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ก.  :  2  สมัย  (2547,2548) รองแชมป์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก  :  1  สมัย  (2550) สถิติ ป้องกันแชมป์ฟุตบอลลีกสูงสุดได้สำเร็จ  :  ทีมที่ 9 จาก 12 ทีม จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:09:01

ความคิดเห็นที่ 10 อันดับที่ 7 สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (อดีตคือสโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ปัจจุบันแข่งขันในไทยพรีเมียร์ลีก) เป็นสโมสรใหม่ที่เปลี่ยนแปลงมาจากสโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2513 โดยดร.วีระ ปิตรชาติ มีเป้าหมายเพื่อให้พนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ออกกำลังกายและสร้างความสามัคคีร่วมกันในหมู่คณะ ต่อมาในปีพ.ศ. 2535 สโมสรได้เข้าร่วมการแข่งขันอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ง. โดยลงเล่น3ฤดูกาลก็ได้เลื่อนขึ้นไปเล่นในถ้วย ค. และลงเล่นอยู่2ฤดูกาลก็ได้เลื่อนขึ้นไปเล่นถ้วย ข. และอีก2ฤดูกาลสโมสรก็สามารถเลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในดิวิชั่น 1ได้สำเร็จ หลังจากลงเล่นในดิวิชั่น 1อยู่นานสโมสรก็ได้เลื่อนขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในฤดูกาล 2548 การเทคโอเวอร์สโมสร เกิดขึ้นในช่วงฤดูกาล 2552 จากความต้องการของนายเนวิน ชิดชอบ นักการเมืองของจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ต้องการซื้อหุ้นทีมฟุตบอลในไทยพรีเมียร์ลีก ให้ย้ายไปเล่นในนามจังหวัดบุรีรัมย์เป็นการชั่วคราว ในเบื้องต้นได้เจรจากับสโมสรฟุตบอลตำรวจ แต่ได้รับการปฏิเสธ นายเนวินได้มีการเจรจาในเบื้องต้นกับสโมสรฟุตบอลทีโอที และสโมสรฟุตบอลทหารบกแต่ตกลงกันไม่ได้ ในที่สุดจึงได้มีการซื้อขายหุ้นของสโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งมีผลงานสิ้นสุดฤดูกาลในอันดับที่ 9 ทางสโมสรได้ตกลงที่จะย้ายสนามแข่งจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไปอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ท่ามกลางการต่อต้านจากแฟนฟุตบอลชาวอยุธยา และพนักงานของการไฟฟ้าฯ ทางสโมสรได้เปลี่ยนแปลงชื่อทีมเป็น บุรีรัมย์-พีอีเอ พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงทีมผู้บริหารทั้งหมด และทีมผู้ฝึกสอนบางส่วน เมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2555 นายเนวินได้เปิดแถลงข่าวว่า ได้ซื้อหุ้นอีก 30% ของสโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มาบริหารจัดการเองทั้งหมด รวมทั้งสิทธิทั้งหมดในนามการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จากนั้นจะเปลี่ยนชื่อทีมเป็น "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:09:45

ความคิดเห็นที่ 11 เกียรติประวัติและสถิติ เกียรติประวัติ แชมป์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก  :  2  สมัย  (2551,2554) แชมป์ฟุตบอลเอฟเอคัพ  :  1  สมัย  (2554) แชมป์ฟุตบอลโตโยต้าลีกคัพ  :  1  สมัย  (2554) แชมป์ฟุตบอลโตโยต้าพรีเมียร์คัพ  :  1  สมัย  (2555) รองแชมป์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก  :  2  สมัย  (2548,2553) สถิติ ทริปเปิ้ลแชมป์(สโมสรที่ 2 ของไทย)  :  1  สมัย  (2554)  ***แชมป์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก + แชมป์ฟุตบอลเอฟเอคัพ + แชมป์โตโยต้าลีกคัพ*** จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:10:43

ความคิดเห็นที่ 12 อันดับที่ 6 สโมสรฟุตบอลบีอีซี เทโรศาสน (ปัจจุบันแข่งขันอยู่ในไทยพรีเมียร์ลีก) ก่อตั้ง เมื่อปี พ.ศ. 2535 โดย นายวรวีร์ มะกูดี ในชื่อ โรงเรียนศาสนวิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียน ในเขตหนองจอก กรุงเทพฯ และได้เริ่มเข้าแข่งขันใน ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ง ทำผลงานได้ดี จนเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นใน ถ้วย ก ต่อมา ได้รับเงินสนับสนุนจาก บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตเบียร์สิงห์ และ บริษัท เทโร เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (บจก.เทโร) จึงได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น สิงห์-เทโรศาสน แต่อีกช่วงหนึ่ง เบียร์สิงห์ ได้ถอนตัวจากการเป็นผู้สนับสนุน ในเวลาใกล้เคียงกัน บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ได้เข้าซื้อกิจการของ บจก.เทโร และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) จึงเปลี่ยนชื่ออีกครั้ง เป็น บีอีซี-เทโรศาสน จนถึงปัจจุบัน สโมสร บีอีซี เทโรศาสน ได้ลงนามในสัญญา ร่วมกับ สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล ใน เอฟเอ พรีเมียร์ลีก ก่อตั้งบริษัทที่ทำธุรกิจด้านฟุตบอลโดยเฉพาะขึ้นมา ซึ่งมี ร้านขายของที่ระลึก ที่ เซ็นทรัลเวิลด์พลาซา อดีตผู้เล่นคนสำคัญ เช่น ดุสิต เฉลิมแสน, อนุรักษ์ ศรีเกิด, เทิดศักดิ์ ใจมั่น, วรวุฒิ ศรีมะฆะ, อเดบาโย่ กาเดโบ้, วิทยา นับทอง, สะสม พบประเสริฐ, พรรษา มีสัตย์ธรรม, ศักดิ์ชาย ยันตระศรี, ดัสกร ทองเหลา, นิรุตต์ สุระเสียง จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:11:32

ความคิดเห็นที่ 13 เกียรติประวัติและสถิติ เกียรติประวัติ แชมป์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก  :  2  สมัย  (2543 , 2544) แชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ก.  :  1  สมัย  (2543) รองแชมป์ฟุตบอลเอเอฟซีแชมป์เปียนส์ลีก  :  1  สมัย  (2545/46) รองแชมป์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก  :  2  สมัย  (2545,2546) สถิติ ป้องกันแชมป์ฟุตบอลลีกสูงสุดได้สำเร็จ  :  ทีมที่ 11 จาก 12 ทีม แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 55 15:53:13 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:12:17

ความคิดเห็นที่ 14 อันดับที่ 5 สโมสรฟุตบอลราชประชา (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นสโมสรฟุตบอลราชประชานนทบุรี แข่งขันในดิวิชั่น 1) ก่อตั้งอย่างเป็นทางการครั้งแรกในชื่อ "ทีมราชประชานุเคราะห์ดับเพลิง" โดย พล.ต.ต.ม.ร.ว.เจตจันทร์ ประวิตร สโมสรลงเล่นอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2511 กับสโมสรทหารอากาศ และได้ขับเคี่ยวยืนหยัดในวงการฟุตบอลไทยมาอย่างยาวนานจะถึงปัจจุบัน ในปี พ.ศ. 2514 ราชประชาฯ ทำในสิ่งที่ไม่มีสโมสรไหนในประเทศไทยเคยทำมาก่อน คือการส่งนักฟุตบอลไปฝึกที่ประเทศเยอรมันตะวันตกเป็นเวลา 2 เดือนเต็ม ซึ่งเป็นการลงทุนที่ได้ผลทันตาเห็นเมื่อราชประชาฯ กลับมาคว้าแชมป์ถ้วยพระราชทานประเภท ก. ในต้นปี พ.ศ. 2515 ในทันที นักเตะดังของราชประชาฯในชุดประวัติศาสตร์นี้ ได้แก่ ณรงค์ สังข์สุวรรณ, ประพนธ์ ตันตริยานนท์, ทินกร แพทย์เจริญ, สัมฤทธิ์ เสชนะ, เชิดศักดิ์ ชัยบุตร, โรจนะ สมุนไพร, เพ็ญพัฒน์ วงษ์สวรรค์ โดยมีผู้ฝึกสอนคือ ยรรยง ณ หนองคาย และ กุนเธ่อร์ กลอมบ์ ในปี พ.ศ. 2541 หลังจากที่ฟุตบอลระดับสูงสุดของประเทศ เปลี่ยนรูปแบบจาก ถ้วย ก. มาเป็น ไทยลีก ได้เพียง 3 ปี ราชประชาก็มีเหตุต้องตกชั้น เนื่องด้วยถูกโปรแกรมการฝึกซ้อมของทีมชาติรบกวนตลอดฤดูกาลแข่งขัน ราชประชาลงเล่นในระดับ ดิวิชั่น 1 และได้สร้างดาวรุ่งประดับวงการฟุตบอลไทยในยุคนี้ ได้แก่ พิพัฒน์ ต้นกันยา, อภิเชษฐ์ พุฒตาล, สถิติ แพงมา, ไพรัช ทับเกตุแก้ว, อนุชา กิจพงษ์ศรี, ดัสกร ทองเหลา, ยุทธจักร ก้อนจันทร์ แต่กระนั้นก็ไม่สามารถพาทีมกลับขึ้นไปเล่นไทยลีกได้ จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:13:05

ความคิดเห็นที่ 15 เกียรติประวัติและสถิติ เกียรติประวัติ แชมป์ฟุตบอลถ้วย ก.  :  4  สมัย  (2515, 2516, 2523, 2525) แชมป์ฟุตบอลเอฟเอคัพ  :  5  สมัย  (2518, 2519, 2527, 2535, 2537) แชมป์ฟุตบอลควีนส์คัพ  :  2  สมัย  (2515, 2524) แชมป์ฟุตบอลดิวิชั่น 2  :  1  สมัย  (2552) แชมป์ฟุตบอลถ้วย ข.  :  1  สมัย  (2550) สถิติ ป้องกันแชมป์ฟุตบอลลีกสูงสุดได้สำเร็จ  :  ทีมที่ 7 จาก 12 ทีม จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:13:39

ความคิดเห็นที่ 16 อันดับที่ 4 สโมสรฟุตบอลการท่าเรือแห่งประเทศไทย (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นสโมสรฟุตบอลการท่าเรือไทย เอฟซี แข่งขันในไทยพรีเมียร์ลีก) ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2510 โดยมี พลตรี ประจวบ สุนทรางกูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (ตำแหน่งในขณะนั้น) เป็นประธานสโมสรฟุตบอลการท่าเรือแห่งประเทศไทยคนแรก และเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญ ในการสนับสนุนกีฬาฟุตบอลของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ภายหลังจากปี พ.ศ. 2533 สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ปรับเปลี่ยนระบบการแข่งขันฟุตบอลถ้วยสูงสุดของประเทศ เป็นระบบอาชีพ โดยให้ทีมระดับถ้วย ก. แต่ละสโมสรเป็นทีมยืนในการแข่งขันครั้งแรกในปี พ.ศ. 2534 โดยให้สโมสรที่ได้สิทธิเล่นในระบบอาชีพ (เซมิโปรลีก) ต้องมีเพียงทีมเดียว เป็นผลให้สโมสรฟุตบอลการท่าเรือแห่งประเทศไทย ต้องยกเลิกฟุตบอลถ้วย ก. ข. ค. และ ง. ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ต่อมา ในปี 2552 มีการก่อตั้งเป็นนิติบุคคล จึงเปลี่ยนชื่อเป็น สโมสรฟุตบอลการท่าเรือไทย เอฟ. ซี. โดยมี นายพิเชฐ มั่นคง เป็นประธานสโมสรการท่าเรือไทย เอฟ. ซี. คนแรก นักเตะระดับตำนาน การท่าเรือไทย เช่น นิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์, เจษฎาภรณ์ ณ พัทลุง, ดาวยศ ดารา, รณชัย สยมชัย, ศรายุทธ ชัยคำดี จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:14:32

ความคิดเห็นที่ 17 เกียรติประวัติและสถิติ เกียรติประวัติ แชมป์ฟุตบอลถ้วย ก.(เทียบเท่าไทยพรีเมียร์ลีก)  :  8  สมัย  (2511, 2515, 2517, 2519, 2521, 2522, 2528, 2533) แชมป์ฟุตบอลเอฟเอคัพ  :  1  สมัย  (2552) แชมป์ฟุตบอลควีนส์คัพ  :  6  สมัย  (2520, 2521, 2522, 2523, 2530, 2536) แชมป์ฟุตบอลโตโยต้าลีกคัพ  :  1  สมัย  (2553) แชมป์ฟุตบอลโตโยต้าพรีเมียร์คัพ  :  1  สมัย  (2553) แชมป์ฟุตบอลถ้วย ข.  :  5  สมัย  (2513, 2519, 2522, 2526, 2535) แชมป์ฟุตบอลถ้วย ค.  :  4  สมัย  (2512, 2517, 2520, 2521) แชมป์ฟุตบอลถ้วย ง.  :  3  สมัย  (2510, 2511, 2512) รองแชมป์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก  :  1  สมัย (2542) สถิติ ป้องกันแชมป์ฟุตบอลลีกสูงสุดได้สำเร็จ  :  ทีมที่ 8 จาก 12 ทีม แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 55 11:15:51 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:15:07

ความคิดเห็นที่ 18 อันดับที่ 3 สโมสรฟุตบอลธนาคารกรุงเทพ (ปัจจุบันยุบทีมไปแล้ว) สโมสรฟุตบอลธนาคารกรุงเทพ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2498 ในชื่อสโมสรธนาคารรวม มีที่ตั้งสโมสรอยู่หลังตึกกลางของธนาคารกรุงเทพสาขาใหญ่ จากนั้นในเดือนธันวาคม 2506 ได้ย้ายไปที่ซอยอุดมสุขพร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็นสโมสรฟุตบอลธนาคารกรุงเทพ มีประธานสโมสรคนแรกคือนายบุญชู โรจนเสถียร สโมสรฟุตบอลธนาคารกรุงเทพส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลระหว่างธนาคาร ในปี 2502 เป็นรายการแรก จากนั้นเข้าร่วมกิจกรรมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เริ่มจากเข้าแข่งขันถ้วยน้อย (ถ้วย ข ในปัจจุบัน) เมื่อปี 2505 สโมสรฟุตบอลธนาคารกรุงเทพ ถือเป็นสโมสรฟุตบอลที่มีชื่อเสียงในอันดับต้นๆของวงการฟุตบอลไทย มาจนกระทั่งในปี พ.ศ. 2551 หลังการตกชั้นได้ร่วมกับการที่สโมสรฟุตบอลธนาคารกรุงเทพไม่มีสิทธิจดทะเบียนนิติบุคคล เพราะขัดระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย จึงต้องประกาศยุบสโมสร กลายเป็นเพียงตำนานไปในที่สุด จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:15:55

ความคิดเห็นที่ 19 เกียรติประวัติและสถิติ เกียรติประวัติ แชมป์ลีกสูงสุดของไทยรวม  :  10  สมัย แชมป์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก  :  1  สมัย  (พ.ศ.2539) แชมป์ฟุตบอลถ้วย ก. (เทียบเท่าไทยพรีเมียร์ลีก)  :  9  สมัย  ( 2507, 2509, 2510, 2512, 2524, 2527, 2529, 2532, 2537) แชมป์ฟุตบอลเอฟเอคัพ  :  3  สมัย  (2523, 2524, 2541) แชมป์ฟุตบอลควีนส์คัพ  :  3  สมัย  (2513, 2526, 2543) แชมป์ฟุตบอลถ้วย ข.  :  1  สมัย  (2506) แชมป์ฟุตบอลถ้วย ค.  :  1  สมัย  (2522) แชมป์ฟุตบอลถ้วย ง.  :  2  สมัย  (2513, 2519) สถิติ คว้าดับเบิ้ลแชมป์  :  1  สมัย  (2524)  **แชมป์ฟุตบอลถ้วย ก. + แชมป์เอฟเอคัพ** จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:16:57

ความคิดเห็นที่ 20 อันดับที่ 2 สโมสรฟุตบอลทหารอากาศ (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด แข่งขันในระดับดิวิชั่น 1) สโมสรเก่าแก่นี้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ.2489 (66 ปีที่แล้ว)  ในสมัยของท่านจอมพลอากาศ เฉลิมพระเกียรติวัฒนางกูล เป็นผู้บัญชาการทหารอากาศ สโมสรฟุตบอลทหารอากาศในยุครุ่งเรืองนั้นเรียกได้ว่าเป็นทีมแข็งแกร่งไร้เทียมทานเลยทีเดียว คู่แข่งร่วมยุคอย่างเช่น ทีมธนาคารรวม ทีมมุสลิม ทีมชายสด ทีมมหรสพ ไม่มีทีมไหนหยุดความยิ่งใหญ่ของทหารอากาศในยุครุ่งเรืองได้ และถือได้ว่าเป็นความโชคดีของทีมฟุตบอลทหารอากาศที่ได้รับความเมตตาจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงที่ให้ความสนใจ ดูแล และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีตลอดมาจนปัจจุบัน ในปี พ.ศ. 2500 พลอากาศโท เฉลิมเกียรติ  วัฒนางกูร เป็นผู้บัญชาการทหารอากาศที่ให้ความสำคัญต่อการกีฬาของกองทัพอากาศ และมีส่วนสนับสนุนสโมสรฟุตบอลทหารอากาศ จนทำให้เหล่าบรรดานักเตะกองทัพจรวดลูกทัพฟ้าจากทุ่งดอนเมือง เช่น เล็ก อมฤตานนท์, ปราณีต ปราณีตบุตร, ล้วน พันธ์งาม, ประกอบ รัศมีมาลา, นักรบ โพธิ์แสง, ทองหล่อ เจริญเดช, ยรรยง นิลภิรมย์ ฯลฯ เริ่มสร้างปฐมบทสถิติที่กล่าวได้ว่า “ไม่มีวันถูกทำลาย” และเป็นที่เล่าขานจากรุ่นสู่รุ่น จวบจนปัจจุบัน ตลอดระยะเวลายาวนานที่ผ่านมาสโมสรฟุตบอลทหารอากาศแห่งนี้ ได้หล่อหลอมขัดเกลา และบ่มเพาะนักฟุตบอลของสโมสรออกมาอย่างมากมาย และมีนักเตะจำนวนไม่น้อยจากสโมสรฟุตบอลทหารอากาศที่ก้าวไปเป็นกำลังสำคัญให้ กับทีมชาติ รวมไปถึงระตับดาราเอเชียอีกหลายคน คงจะไม่มีใครกล้าที่จะปฏิเสธชื่อของ ปิยะพงษ ผิวอ่อน เพชรฆาตหน้าหยกผู้เป็นตำนานที่ยังไม่มีใครมาทาบรัศมีของนักเตะแห่งกองทัพ อากาศคนนี้ได้เลย นอกจากนั้นยังมีนราศักดิ์ บุญเกลี้ยง , ประทีป ปานขาว , ชลอ หงษ์ขจร , วีระพงษ์ เพ็งลี , วิชิต เสชนะไพโรจน์ พ่วงจันทร์ และอีกมากมาย แม้ว่าปัจจุบัน กาลเวลาพิสูจน์ให้เห็นถึงสัจจธรรมที่ว่า “สูงสุดสู่สามัญ” แต่ตำนานสงครามแข้งของ “สโมสรทหารอากาศ” คงไม่อาจถูกลบเลือนไปจากสารบบยอดทีมของวงการฟุตบอลเมืองไทย เมื่อ 5 ทศวรรษที่ผ่านมา ดังคำกล่าวคอลูกหนังสนามศุภฯ ยุคเก่าที่ว่า “ฟุตบอล คือเกมของสุภาพบุรุษนักกีฬา” และชัยชนะที่ไร้มลทินควรค่าแห่งความทรงจำ...ตลอดกาล. จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:17:44

ความคิดเห็นที่ 21 เกียรติประวัติและสถิติ เกียรติประวัติ แชมป์ฟุตบอลลีกสูงสุดของไทยรวม  :  14  สมัย แชมป์ฟุตบอลถ้วย ก. (เทียบเท่าไทยพรีเมียร์ลีก)  :  12 สมัย (2494, 2495, 2500, 2501, 2502, 2503, 2504, 2505, 2506, 2530) แชมป์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก  :  2  สมัย  (2540,2542) แชมป์ฟุตบอลเอฟเอคัพ  :  3  สมัย (2538, 2539, 2544) แชมป์ฟุตบอลควีนส์คัพ  :  3  สมัย  (2513 (แชมป์ร่วมกับสโมสรธนาคารกรุงเทพ), 2517, 2525) แชมป์ฟุตบอลถ้วย ข.  :  16  สมัย  (2492, 2493, 2494, 2504, 2505, 2507, 2508, 2510, 2516, 2520, 2525, 2528, 2529, 2530, 2532, 2534) แชมป์ฟุตบอลถ้วย ค.  :  8  สมัย  (2509, 2513, 2514, 2526, 2528, 2529, 2530, 2533) แชมป์ฟุตบอลถ้วย ง.  :  4  สมัย  (2509, 2527, 2529, 2531) แชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ก.  :  2  สมัย  (2539, 2542) รองแชมป์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก  :  2  สมัย  (2541,2543) สถิติ สถิติแชมป์ฟุตบอลถ้วย ก. ติดต่อกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์  :  7  สมัยติดต่อกัน ( 2500, 2501, 2502, 2503, 2504, 2505, 2506) สถิติแชมป์ฟุตบอลถ้วย ข. ติดต่อกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์  :  3  สมัยติดต่อกัน  (2492, 2493, 2494) สถิติสโมสรเดียวในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วย ก.-ข.-ค. 3 รายการในปีเดียวกัน  :  พ.ศ.2530 ป้องกันแชมป์ฟุตบอลลีกสูงสุดได้สำเร็จ   :  ทีมที่ 6 จาก 12 ทีม แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 55 11:11:37 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:18:44

ความคิดเห็นที่ 22 อันดับที่ 1 สโมสรฟุตบอลธนาคารกสิกรไทย (ปัจจุบันยุบทีมไปแล้ว) ก่อตั้งเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2530 โดยส่งเข้าร่วมแข่งขันครั้งแรกในรายการไกลกังวลคัพ เป็นสโมสรฟุตบอลในประเทศไทย และ เป็นหน่วยงานในธนาคารกสิกรไทย ปัจจุบันสโมสรนี้ได้ถูกยุบไปแล้วตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2543 ทีมกสิกรไทยในอดีตเป็นสโมสรฟุตบอลไทยที่ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติมากที่สุดในประวัติศาสตร์ อดีตผู้เล่นที่โดดเด่น สุธี สุขสมกิจ, เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์, สุรชัย จตุรภัทรพงศ์, สะสม พบประเสริฐ, จเร นุ่มสุวรรณ, ครรชิต ดอกไม้คลี่, วรวุฒ ศรีมะฆะ, ธีรศักดิ์ โพธิ์อ้น โดยโค้ชหรั่ง" ชาญวิทย์ ผลชีวิน ผู้จัดการทีมสโมสรกสิกรไทยในสมัยนั้นถือเป็นผู้จัดการทีมของไทยที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งเลยทีเดียว ทีมกสิกรไทยได้ถูกยุบไปพร้อมกับสโมสรกีฬาอื่นในธนาคารกสิกรไทยในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำในประเทศไทย จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:19:36

ความคิดเห็นที่ 23 เกียรติประวัติและสถิติ เกียรติประวัติ แชมป์ฟุตบอลเอเชียนแชมป์เปียนส์คัพ (เทียบเท่าเอเอฟซีแชมป์เปียนส์ลีก)  :  2  สมัย  (2537, 2538) แชมป์ฟุตบอลแอโฟร-เอเชียนคลับแชมเปียนชิพ  :  1  สมัย  (2537) แชมป์ฟุตบอลถ้วย ก. (เทียบเท่าไทยพรีเมียร์ลีก)  :  4  สมัย  (2534, 2535, 2536, 2538) แชมป์ฟุตบอลเอฟเอคัพ  :  1  สมัย  (2542) แชมป์ฟุตบอลควีนส์คัพ  :  4  สมัย  (2537, 2538, 2539, 2540) แชมป์ฟุตบอลถ้วย ข.  :  1  สมัย  (2533) แชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ก.  :  1  สมัย  (2542) รองแชมป์ฟุตบอลเอเชียนซูเปอร์คัพ  :  1  สมัย  (2538) -- แข่งในฐานะแชมป์เอเชียนแชมป์เปียนส์คัพพบกับแชมป์เอเชียนคัพวินเนอร์สคัพ สถิติ ทริปเปิ้ลแชมป์(สโมสรแรกของไทย)  :  1  สมัย  (2538)  ***แชมป์ฟุตบอลเอเชียนแชมป์เปียนส์คัพ + แชมป์ฟุตบอลถ้วย ก. + แชมป์ฟุตบอลควีนส์คัพ*** ***สโมสรธนาคารกสิกรไทย"เกือบจะ"กลายเป็นสโมสรแรกและสโมสรเดียวในประวัติศาสตร์ที่คว้า Tripple Champs (สากล)ได้ในปี 2538 แต่พวกเขาพลาดแชมป์เอฟเอคัพไปรายการเดียวเท่านั้น*** ป้องกันแชมป์ฟุตบอลลีกสูงสุดได้สำเร็จ  :  ทีมที่ 10 จาก 12 ทีม แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 55 15:54:12 แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 55 15:50:36 แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 55 11:19:05 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:21:15

ความคิดเห็นที่ 24 จบกระทู้แล้วครับ จขกท.ต้องขออภัยด้วยถ้าการจัดอันดับนี้ไม่ถูกใจท่านไหนนะครับ แต่ขอยืนยันตรงนี้เลยว่าจขกท.จัดด้วยความเป็นกลางและชั่งน้ำหนักจากผลงานเท่านั้น และอย่าลืมว่า  "สถิติมีไว้ทำลาย" ดังนั้นสโมสรในปัจจุบันที่กำลังเริ่มกอบโกยความสำเร็จ ก็อาจจะก้าวขึ้นไปอยู่ในอันดับที่สูงขึ้นได้อีกในอนาคตครับ จขกท.ขออนุญาตฝาก blog ของผมหน่อยนะครับ เผื่อว่าเพื่อนห้องบอลไทยคนไหนอยากอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ"ยาเสพติด"แบบเจาะลึก ทั้งยาไอซ์-ยาบ้า หรือยาอี-ยาเค (ใหม่ล่าสุด) และกลไกการออกฤทธิ์เสพติดแบบอ่านเข้าใจง่าย สามารถเข้าไปชมได้ที่ blog ของผม(หลังอมยิ้ม) หรือตามลิค์ด้านล่างนี้ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=pinspin และถ้าหากว่าถูกใจท่านก็กรุณาช่วยกดโหวตให้ด้วยจะเป็นพระคุณยิ่งเลยครับ ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบครับ Reference Links : http://th.wikipedia.org/wiki http://www.siamfootball.com/dev/index.php?option=com_content&view=article&id=281:-qq-&catid=17:-2501-2520&Itemid=19 http://www.airforceunited.com/main_th.htm http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?topic=23116.0 http://www.thaiportfc.com/the-club/profile-club.html http://www.rajprachafc.com/aboutrajpracha.php จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:22:35

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ จากคุณ : Garfield&T-Rex เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:30:30

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณครับ จากคุณ : Galapagos_Offshore Guy เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 07:21:01

ความคิดเห็นที่ 27 อ่านมาอย่างชื่นชมในผลงานของแต่ละสโมสร พอเห็นรูปใน #24 อยู่ ๆ ก็จิตตกอย่างแรง ลบรูปออกเถอะครับ ผมกราบล่ะ!!! จากคุณ : .พูดอีกก็ถูกอีก. เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 07:42:43

ความคิดเห็นที่ 28 กดโหวตให้ครับ จากคุณ : Jelly&Kiwi เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 07:48:56

ความคิดเห็นที่ 29 ู^ ^ ^ ชี้ไปที่ คคห.27 555+ ท่านวีวี่แกเป็น"บุคคลในตำนาน"ของบอลไทยเลยนะครับ แต่ตำนานแย่หรือดีนี่เดี๋ยวว่ากันอีกที อิอิ จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 07:51:22

ความคิดเห็นที่ 30 ดูมาด้วยความชื่นชม มาตายด้วยรูปสุดท้าย จากคุณ : pastman เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 07:52:20

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณจขกทสำหรับกระทู้ดีๆครับ จากคุณ : Shark_Bangsai เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 08:17:12

ความคิดเห็นที่ 32 เยี่ยมครับ จากคุณ : tonky96 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 08:32:43

ความคิดเห็นที่ 33 สุดยอดค่ะ จากคุณ : Eastiny I เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 08:42:06

ความคิดเห็นที่ 34 แล้วแชมป์ อัฟฟาโร่-เอเชีย นับไหมครับ อันนี้ จากคุณ : เดลปิเอโร เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 08:49:47

ความคิดเห็นที่ 35 เยี่ยม จากคุณ : hookman13 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 08:59:20

ความคิดเห็นที่ 36 ู^ ^ ^ คคห.34 คุณ เดลปิเอโร นับครับ แต่ผมนับรวมไปเลยกับถ้วยใหญ่คือเอเชียนแชมป์เปียนส์คัพครับ จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 09:11:13

ความคิดเห็นที่ 37 เจอรูปเทพถึงกผงะเลยผม ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆครับ จากคุณ : ในกรณีชื่อที่ 1 ไม่ผ่าน เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 09:20:17

ความคิดเห็นที่ 38 ปี 2515 ใครเป็นแชมป์ถ้วย ก ครับ เห็นลงทั้ง ราชประชา และ ท่าเรือ หรือปีนั้นเป็นแชมป์ร่วมครับ จากคุณ : allura red เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 09:20:42

ความคิดเห็นที่ 39 ^ ^ ^ คคห.38 คุณ allura red ตามข้อมูลจาก wiki ปี 2515 เป็นการท่าเรือฯ ที่ได้แชมป์ถ้วย ก.ครับ แต่พอผมเข้าไปดูข้อมูลของราชประชา เค้านับแชมป์ถ้วย ก.เป็น 4 สมัย รวม 2515 เข้าไปด้วย ผมก็งงเหมือนกัน????? จะแก้ข้อมูลก็ไม่กล้าแก้ หรือจะเป็นแชมป์ร่วม แต่ก็น่าจะระบุไว้เป็นชื่อคู่กันในปีนั้นนะครับ แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 55 09:35:17 แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 55 09:34:42 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 09:33:51

ความคิดเห็นที่ 40 จัดอันดับได้เหมาะสมแล้วครับ กระทู้ทรงคุณค่ามากมาย โหวตและเก็บเข้าคลังกระทู้ ขอบคุณสหายpinมากครับ ที่ทุ่มเทสละเวลา ค้นคว้าหาข้อมูล ผมเชื่อว่ามันทำออกมาไม่ได้ง่ายๆ เลย และเป็นประโยชน์ต่อแฟนฟุตบอลไทยมาก ขอชื่นชมจากใจครับ จากคุณ : ณัฐกร เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 10:28:26

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณครับ จากคุณ : ชื่อนี้มีคนใช้แล้ว เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 10:30:36

ความคิดเห็นที่ 42 ผมชอบชื่อ ถ้วยพระราชทาน ก. สมัยก่อน มากกว่า ถ้วยพรีเมียร์ลีก เยอะเลย ทั้งที่ลีกรอง ๆ ก็มีถ้วย ข. ค. ง. ไม่เห็นจำเป็นต้องไปใช้ดิวิชั่น 1 2 3 ตามฝรั่งหมดทุกอย่าง คนไทยเข้าใจกันได้อยู่แล้ว แถมยังชอบชื่อทีมอะไรก็แล้วแต่ที่มีคำว่า "สโมสรฟุตบอล" แต่มากกว่าคำว่า "ยูไนเต็ล" ในสมัยนี้อีก จากคุณ : longde เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 10:31:28

ความคิดเห็นที่ 43 เลื่อนมาเจอรูปสุดท้าย ตกใจ เกือบตกเก้าอี้ นึกว่าผีหลอกตอนเช้า ซะแล้ว จากคุณ : Eye of Sauron เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 10:34:16

ความคิดเห็นที่ 44 มาตายตอนจบ เพราะเอาคนหน้าด้าน โดยแท้ ฮี่ๆๆๆ ขอบคุณ จขกท มากมายครับ จากคุณ : t_bunny2007 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 10:45:52

ความคิดเห็นที่ 45 จำได้ว่า ทอ. เคยได้แชมป์ลีค นี่ครับ ในข้อมูลของ จขกท เห็นแต่ ถ้วย ก :) จากคุณ : หินร้อน เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 11:02:55

ความคิดเห็นที่ 46 #4 ถ้าสมัยนี้ให้นั่งท่านี้ ... คงฮ่า จากคุณ : moooilza เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 11:05:43

ความคิดเห็นที่ 47 สุดยอดครับ ที่ไม่เคยได้รู้ ก็ได้รู้จากกระทู้นี้เลยครับ จากคุณ : CutTy-Flam เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 11:10:30

ความคิดเห็นที่ 48 ^ ^ ^ คคห.45 คุณ หินร้อน ขอบคุณมากๆครับ จขกท.เบลอจัด ลืมบวกแชมป์ให้ทอ.ไปซะงั้น ยังไงก็ขอบคุณอีกทีนะครับท่าน จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 11:12:40

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณครับ แวะมาโหวต จากคุณ : debby the gunner เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 11:13:11

ความคิดเห็นที่ 50 สวดยอดไปเลยลวดเพ่ จากคุณ : กำนันเชียร เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 11:29:22

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณมากๆ ครับ ชอบมากๆ ครับ กระทู้แบบนี้ กดโหวตให้แล้วครับ จากคุณ : paul_pipat เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 12:05:19

ความคิดเห็นที่ 52 กดโหวตให้เลยครับ สำหรับกระทู้ดีๆนี้ จากคุณ : Mr.Thirty-one เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 12:19:50

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณมากมายครับ ผมว่า เดี๋ยวมีสื่อ นำไปเผยแพร่ต่ออีก น่าจะบอกว่า สงวนลิขสิทธิ์ บทความนะครับ ใครนำไปเผยแพร่ต่อ ต้องจ่ายค่าสมองด้วย จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 12:45:48

ความคิดเห็นที่ 54 สุดยอดเลย จขกท จากคุณ : AOF_HTTP เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 12:46:42

ความคิดเห็นที่ 55 ถ้าผมมีเงิน อยากเทกโอเวอร์ทหารอากาศจริงๆ มีเอกลักษณ์ ประวัติศาสตร์ และตำนานให้เล่าขาน เหมาะที่สุดสำหรับทำทีมอาชีพแล้ว ^.^ จากคุณ : paoninho เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 13:09:10

ความคิดเห็นที่ 56 เห็นรูปนายกสมาคมถึงกับผงะ    ลบออกเถอะคะ หนูขอร้อง  มันไม่เป็นมงคลกับกระทู้เล้ยยยยย จากคุณ : บ่าบี๋ เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 13:16:20

ความคิดเห็นที่ 57 อย่าลืมเก็บกระทู้เข้าคลังกันนะครับ กระทู้ดีๆแบบนี้ ถ้านับทีมที่ยังอยู่ ทอ. เป็นทีมอันดับ 1 เลย ^^ ปล.เสื้อทอ. ปีนี้สวยมากก จากคุณ : Aprendido เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 13:16:28

ความคิดเห็นที่ 58 ^ ^ ^ ^ คคห.#53  คุณ น้าลีโอ ขอบคุณนะครับ ใจจริงผมก็คิดอยู่นะ แต่ว่าไม่กล้าพิมพ์ 555+ ประมาณปีกว่าๆ ผมเคยตั้งกระทู้ในห้องบอลไทยนี่แหละครับ เนื้อหาเรื่อง การคิดคะแบบอันดับโลกของฟีฟ่า ไปแปลมา (ภาษาอังกฤษผมก็ไม่ใช่เก่งกล้าอะไร แค่พอถูไถครับ) แล้วเอามาโพสต์แบ่งปันให้เพื่อนๆในนี้อ่าน ปรากฎมีสมาชิกในห้องบอลไทยมาบอกในกระทู้ว่ากระทู้คุณออกทีวีนะ ช่อง T Sport ผมยังไม่รู้เรื่องไรเลย จะดีใจดีมั้ยเนี่ย   แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 55 13:27:23 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 13:24:18

ความคิดเห็นที่ 59 ขอเอาไปให้เพื่อนอ่านน่ะครับ  ที่ีเวปนี้ครับ http://www.kwangfc.com/index.php/topic,57.0.html เป็นเวปที่แฟนคลับ เชียงรายยูไนเต็ดตั่งกันเอง ออกตังค์กันเองครับ จากคุณ : bank2511 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 14:18:04

ความคิดเห็นที่ 60 ใจจริงแอบ อยากให้มี สโมสรกรุงเทพคริสเตียน  เพราะเคยได้ถ้วย ง ค ข จนขึ้นไทยพรีเมียร์ แล้วก็หายไปเลย ผมชอบสโมสร กสิกรมากๆครับ ตอนที่เนติพงษ์เล่นเป็นหน้ากับวรวุฒินั้นสวดยวดครับ ผมเคยไปดูที่สนามศุภคอน อายุ สิบขวบ ทำให้ชื่นชอบฟุตบอล แล้วก็อยากเป็นนักบอล จนทำให้เป็นลูกหม้อของทีมอัสสัมชัญ จนได้ ทุกวันนี้ อยากให้ มีสโมสร แบบ ในเครือจตุรมิตร ขึ้นมาเล่นบ้างจัง จะได้ตามไปเชียร์ทุกนัดเลย จากคุณ : manmomin เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 14:19:29

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณครับ จากคุณ : 0000 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 15:45:17

ความคิดเห็นที่ 62 ทีมในตำนานอย่าง ธ.กสิกรไทย เนี่ย ถ้ามีคนทำเหมือนฟิออ คือไปซื้อชื่อทีมและเกียรติประวัติมา แต่เริ่มไต่เต้าใหม่เนี่ย จะได้มั้ยน๊า อิอิ จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 16:00:27

ความคิดเห็นที่ 63 เยี่ยมไปเลยครับ จากคุณ : Sylphs เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 16:09:04

ความคิดเห็นที่ 64 ข้อมูลทีม ทหารอากาศ ตกหล่นไปครับ ทหารอากาศได้แชมป์ ไทยลีก 2 ครั้ง ปี 2540 กับ 2542 ครับ จากคุณ : RsRobot เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 16:47:03

ความคิดเห็นที่ 65 คิดถึง อัลเฟรด กสิกรช่วงเวลานั้นยิ่งใหญ่มากๆครับ ฟุตบอลไทยเพียว สามารถผงาดอยู่ในเอเซียได้อย่างไม่อายใคร จากคุณ : ปกตั้งหมายเลขเจ็ด เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 17:01:02

ความคิดเห็นที่ 66 ยอดเยี่ยมมากๆครับ เห็นด้วยกับทุกอันดับด้วยประการทั้งปวงครับ จากคุณ : 80's nova เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 17:25:16

ความคิดเห็นที่ 67 ขอบคุณข้อมูลดีๆอย่างนี้นะครับ จากคุณ : HIRUI เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 17:49:06

ความคิดเห็นที่ 68 ผมอ่านประวัติของแอร์ฟอรซ  แล้วขนลุกเลยอ่ะ จากคุณ : rotero เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 19:40:46

ความคิดเห็นที่ 69 ประวัติศาสตร์ท่าเรือเรา เป็นรองแค่ ทอ ตำนานที่ยังมีชีวิต เจ๋งงงงงง จากคุณ : เขียนบน iPad (ake_survey) เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 19:52:54

ความคิดเห็นที่ 70 บ้านผมอยู่อุดมสุขพอจะเริ่มเชียร์บอลไทย กะว่าจะเชียร์ทีมใกล้ๆบ้าน สโมสรธนาคารกรุงเทพยุบปีนั้นเลย เซ็งเป็ด -.- จากคุณ : โฮล่า เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 20:07:08

ความคิดเห็นที่ 71 ทำไงดี พอเลื่อนมาถึงคห. 24 คอมผมก็ติดไวรัสเลยครับ จากคุณ : ศูนย์หน้าหมายเลข9 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 20:11:18

ความคิดเห็นที่ 72 แอบงอน ว่าทำไม? ฉลามชลอยู่อันดับ 10 พออ่านเรื่อยๆ อันดับ 1 คือกสิกรยอมเลยค่ะ ขอบคุณกระทู้ดีๆ อยากให้กิ๊ฟ คห.24 เห็นรูปประกอบ เลยขอไว้ให้ คห.อื่นก็แล้วกัน จากคุณ : B_Xavi4ever เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 20:22:06

ความคิดเห็นที่ 73 log in มาให้กิ๊ฟ แฟนเก่า ทอ. นี่มีมากมายไม่แพ้ใครนะเนี่ย จากคุณ : ข้าวแดงแห่งลาดยาว เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 20:22:08

ความคิดเห็นที่ 74 พ่อผมเป็นทหารอากาศ สมัยก่อนได้ไปเชียร์บ่อยมากคนนี่แบบเยอะมาก ยิ่งนัดไหน เจอกับท่าเรือสนามแทบแตก คนนี่ลงไปนั่งตรงขอบสนามกลังโกลล์สนุกมากๆ พอบอลจบพ่อกับพวก อาตุ๊ก อาประทีป อาชลอ และอีกหลายคน ไปนั่งกินข้าว สังสรรค์กันประจำเมื่อก่อนกลัว อากัมปนาศ เพราะแกตัวถึกๆใหญ่ๆแต่ใจดีกับผมมาก พอเมาทีไรผมจะได้เสื้อพวกอาเค้าคนละตัวทุกที มีเกือบทั้งทีม พูดแล้วก็นึกถึงการ ดูบอลสมัยก่อน มันสุดยอดมากๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : Retrojazz60s เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 20:22:35

ความคิดเห็นที่ 75 อ่านแล้วได้ความรู้มากเลยครับ Vote จากคุณ : Pandoraemon เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 20:54:38

ความคิดเห็นที่ 76 ตอนแรกดูไปเรื่อย ๆ ก็นึก จะมีกษิกรไหมนะ  มาโผล่ อันดับ 1 เลย ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆ ครับ จากคุณ : puneverdie เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:07:42

ความคิดเห็นที่ 77 สิทธิในการแข่ง แอฟโร่ คัพ ปัจจุบัน คือ สิทธิในการได้แข่ง World Club เพราะตอนนั้น Champ Europe จะ พบกับ South America ในรายการ  Toyota Cup ส่วน Champ African ก็จะพบกับ Champ Asia ในรายการ Afro Cup ผมได้ดูสองแชมป์ ของกสิกร แต่ในการไล่ล่า แชมป์เอเชียหนสาม เล่นนอกบ้าน ก็ทำได้ดีพอควร ตอนนั้นสถาปนาตัวเอง เป็นแฟน ทีม กสิกรไทย ด้วยเลย ได้ดู BEC TERO ชิงกับ อัล-ไอล์ นัดชิงที่สองด้วย ผมว่า กองเชียร์ TERO น่าจะยังข้องใจอยู่ด้วยซ้ำ Score รวม ควรเป็น 2-2 แต่ก็นั่นหละ ฟุตบอล ผิดหวังสมหวัง เอาไว้ให้พูดถึง   ขอบคุณเจ้าของกระทู้ จริงๆ ขออนุญาต นำไปแชร์นะครับ ปล.ตอนนี้กองเชียร์ หลายๆ ทีมคงทราบว่า เป้าหมายแรกคือ การได้ แชมป์ พรีเมียร์ ให้ได้ 3 ครั้ง และ รวม 14 ครั้ง และ แชมป์ เอเชีย AFC Champion League นั่นคือ เป้าหมาย โอ้ ฟุตบอลไทย ตำนาน ช่างยาวไกล จากคุณ : รักน้องนก เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 22:02:24

ความคิดเห็นที่ 78 ในรูป 24 คือ คนที่ทำให้วงการบอลไทยไม่เจริญ อันดับ 1 จากคุณ : dabodabo55 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 22:58:35

ความคิดเห็นที่ 79 เด็กๆยังจำใด้เลยไปเชียร์ทหารอากาศกับเพือนๆเกือบทุกนัดค่าบัตรแต่ก่อนถูกมากฝั่งคบเพลิง40-ฝั่งมีหลังคา60เราเด็กตังไม่มีก็ไปยืนหน้าประตูบางครั้งมีผู้ใหญ่ใจดีพาเข้าบางบอกพาหลานมาก็ใด้ดูบางครั้งหน้าประตูบางคนใจดีบอกให้เข้าไปเลยบางคนเคี่ยวหน่อยก็อดมาน่ังคุยกันกับเพื่อนตอนเข้าสนามศุภทุกวันนี้ยังขำกันเลยเป็นประสบการณ์ชีวิตท่คุ้มค่ามาก.                     ทอ.สู้ๆ จากคุณ : รักนะแต่ไม่มีตังออก เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 23:11:21

ความคิดเห็นที่ 80 กระทู้ทรงคุณค่า โหวตให้เลยครับ จากคุณ : gopop06 เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 01:48:43

ความคิดเห็นที่ 81 ขอบคุณมากค่ะ โหวตกระทู้ด้วยคน จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 07:47:45

ความคิดเห็นที่ 82 สุดยอดมากครับ สำหรับการจัดอันดับ.. ผมคนเป็นแฟนบอล ราชประชา ชอบมาก ยุคนั้น ที่มี มาด๊าด ทองท้วม ศักรินทร์ ทองมี ภักดี โชยะสิทธิ์ วรวรรณ ชิตะวนิช และอีกคนที่ลืมไม่ได้ วิทยา เลาหกุล พวกนี้ลูกหม้อ ราชประชาเลย ขอบคุณ จขกท ครับที่ทำให้นึกถึงอดีต .. แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 55 09:54:19 จากคุณ : ศรณ์ คอนหวัน เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 08:45:04

ความคิดเห็นที่ 83 ทอ. GOODDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDddddd จากคุณ : เม่าเริงร่า เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 09:10:50

ความคิดเห็นที่ 84 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ คุณ pinspin จริงๆแล้ว ถ้ามีเวลา อยากให้ลองตัดยุึคฟุตบอลลีกออกมาเป็นสถิติอีกแบบหนึ่งนะครับ เพราะเชื่อว่าหลายๆคนก็อยากรู้ว่า ถ้าตั้งแต่ช่วงปี 2540's ที่เราเริ่มมีเซมิโปรลีก มาแทนที่ถ้วย ก. (แบบดั้งเดิม) ที่แข่งแบบทัวร์นาเม้นต์ คล้ายๆบอลโลกแล้ว ทีมไหนที่ประสบความสำเร็จสูงสุด เพราะการเตะเป็นลีกนี่ ความอึด ความฟิต มันต้องเยอะจริงๆ แต่ความขลัง มันลดลงไปจากที่แข่งเป็นบอลถ้วย ก. เยอะเลย ส่วนตัวผม สมัยก่อนชอบทัพบกมาก ถึงแม้จะไม่ประสบความสำเร็จอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน (ได้แชมป์เอฟเอ หรือ โตโยต้า คัพ แค่ 1 สมัยล่ะมั้ง) แต่การเล่นเป็นเอกลักษณ์ ไม่มีใครเหมือนกับการใช้ความฟิต และลูกโด่งเข้าบดคู่แข่ง พร้อมสมญา "วิมเบิลดันเมืองไทย" และมรดกทางพันธุกรรม เอ้ย ทางการฝึกสอนเรื่องลูกกลางอากาศของทหารบก ก็ยังสืบต่อมาจนถึง อาร์มี่ ยูไนเต็ตในปัจจุบัน จังหวะการเทคตัว การเกร็งคอรอบอล หรือการเกร็งหน้าท้องในจังหวะดีดตัว จากรุ่น กฤติขจร วงศ์รัตนะ, พิสิทธิ์ ฟูเผ่า, บุญร่วม ศรีสังข์ ส่งต่อมาถึง ธาตรี สีหา, กีรติ เขียวสมบัติ, มงคล ทศไกร, ตระกูลฉัตร ทองใบ หรือ ธนากร แดงทอง เป็นเทคนิคที่ผมไม่เคยเห็นที่อื่นเลยจริงๆ จากคุณ : Ahura เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 10:02:34

ความคิดเห็นที่ 85 สุดยอดครับ บ้านไกล้ท่าเรือเลยได้ดูทีมนีมาตลอด แต่สมัยก่อนกับสมัยนีมันคนละเรืองกันเลย สมัยก่อนไปดูบอล เอาเสื่อไปปูนอนได้เลย เดียวนีบางนัดต้องยืนดูตลอด90นาที่ สงใส่เหมื่อนกันครับ ว่า ทีมอย่าง กสิกร กับ กรุงเทพ จะกลับมา ตั้งทีมใหม่ได้ไหม จากคุณ : LIBERAL เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 11:58:57

ความคิดเห็นที่ 86 อันดับจัดดีแล้วจ้าาา ขอบคุณสำหรับกระทู้เยี่ยมๆแบบนี้นะครับ จากคุณ : หัตถาครองพิภพ เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 12:45:26

ความคิดเห็นที่ 87 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆ นะคะ ช่วยโหวต แล้ว กดเก็บเข้าคลังกระทู้กันด้วยน๊า จากคุณ : แม่ให้มาเยอะก็ไม่รู้จะทำไง เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 13:42:42

ความคิดเห็นที่ 88 ยอดเยี่ยมมากครับ พอเห็นหน้าวีวี่ ฮาแตกเลยครับ จากคุณ : ball_stc เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 15:31:56

ความคิดเห็นที่ 89 คิดถึงทีมรัก..."กสิกรไทย".... ทุกวันนี้  เลยยังไม่มีทีมในดวงใจอย่างแท้จริงเลย จากคุณ : super_giggs เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 15:57:53

ความคิดเห็นที่ 90 # manmomin กท. ยังไม่หายไปไหนครับ เล่นอยู่ D2 โซนกรุงเทพและตะวันออก # Ahura ลืม บรรหาร สมประสงค์, สวาท ขอนแก้ว, แมน จันทนาม , อภิชาติ ทวีเฉลิมดิษฐ์ (น้ามัน) ก่อนที่แกจะย้ายไปดังกับ ธ.กรุงเทพ จากคุณ : ผ้าพับไว้ เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 20:51:24

ความคิดเห็นที่ 91 #74 แล้วเสื้อยังเหลือในสภาพดีไหม๊ครับ ลองเอาออกมาให้นักสะสมประมูลก็ได้นะครับ จากคุณ : kongo6 เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 21:59:45

ความคิดเห็นที่ 92 http://sport.mthai.com/sport-variety/77723.html อ้าง Credit แค่ Pantip เสื่อมจริงๆ จากคุณ : หมี่ขาวน้ำใส เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 23:16:45

ความคิดเห็นที่ 93 ^ ^ ^ ^ #คคห.92 คุณ หมี่ขาวน้ำใส ขอบคุณนะครับ จขกท.ยังไม่รู้เลยอะ 555+ แก้ไขเมื่อ 29 ก.พ. 55 11:31:44 แก้ไขเมื่อ 29 ก.พ. 55 10:11:09 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 09:51:00

ความคิดเห็นที่ 94 #92 เค้าให้เครดิตชื่อคุณ pinspin อยู่นะครับ ไม่ใช่ pantip แต่จริงๆน่าจะมีคำว่า pantip ต่อท้ายชื่อด้วยนะ อ่อ..ขอบคุณบทความดีๆครับ สมัยก่อนนู้นผมเชียร์องค์การโทรศัพท์ ชอบ พงศธร เทียบทอง จากคุณ : ยืม iPhone เขามาเขียน (สาเล็ก) เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 12:49:02

ความคิดเห็นที่ 95 ^ ^ ^ ^ #คคห.94 คุณ สาเล็ก จริงๆตอนแรก Mthai เค้าอ้างอิงที่มาแค่จาก pantip.com เฉยๆน่ะครับ แล้วผม Mail ไปหาเค้า ทาง Mthai เค้าเลยเปลี่ยนเครดิตตอนท้ายมาเป็นชื่อจขกท. ถ้าไม่ท้วงไปก็คงจะไม่เปลี่ยน จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 13:12:04

ความคิดเห็นที่ 96 เห็นในรายชื่อทีมที่ป้องกันแชมป์ได้นี่มีทีมโรงเรียนอยู่ด้วยนิครับ ไม่ทราบว่าเดี๋ยวนี้ยังมีทีมโรงเรียนเล่นอยู่ในลีกอีกป่าวครับ จากคุณ : มีหลายใจแต่ไร้แฟน เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 14:27:12

ความคิดเห็นที่ 97 ^ ^ ^ ^ คคห.96 คุณ มีหลายใจแต่ไร้แฟน เท่าที่จขกท.ทราบ ปัจจุบันมีสโมสรกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย แข่งขันอยู่ในลีกภูมิภาคดิวิชั่น 2 ครับ ส่วนโรงเรียนอื่นๆอย่างเช่น ร.ร.นายเรือ นั้น ปัจจุบันไม่มีสโมสรแข่งในลีกระดับประเทศของไทยครับ แต่ถ้ารวม ร.ร.นายเรือ เป็น สโมสรราชนาวี-ระยอง ก็ถือว่ายังแข่งอยู่ เพิ่งตกชั้นไปเล่นดิวิชั่น 1 ฤดูกาลนี้เอง ส่วน ร.ร.นายร้อยทหารบก ถ้าเอาไปรวมเป็นสโมสรอาร์มี่ ยูไนเต็ด ก็แข่งขันอยู่ในไทยพรีเมียร์ลีกครับ ปล.ปัจจุบันสโมสรฟุตบอลอาชีพต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลอย่างชัดเจน การแยกกันเป็นหลายๆทีมแบบเมื่อก่อนนั้นทำไม่ได้แล้ว และไม่เป็นผลดีด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 29 ก.พ. 55 15:28:26 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 15:27:49

ความคิดเห็นที่ 98 กสิกรไทยนี่สุดยอดสุดๆแล้วครับ แชมป์เอเชีย 2 สมัยซ้อน ไม่มีตัวต่างชาติเลย จากคุณ : tottui เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 15:58:07

ความคิดเห็นที่ 99 #95 เหรอครับ ถ้างั้นก็แสดงว่าชุบมือเปิบสิ จากคุณ : ยืม iPhone เขามาเขียน (สาเล็ก) เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 16:26:45

ความคิดเห็นที่ 100 ผมนึกแล้วว่าตำแหน่งที่ 1 ต้องเป็นส.กสิกร  เป็นตำนานที่จารึกไว้เลยครับ จากคุณ : joejo99 เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 16:53:12

ความคิดเห็นที่ 101 ขอบคุณครับ สุดยอดกระทู้อีกแล้ว... สมัยเด็กๆ ต้องทหารอากาศกับท่าเรือ  จำได้ว่าคนดูเยอะมากๆ  (ปิยะพงษ์ ประทีป รณชัย) ส่วน ธ.กสิกร มาดัง(สำหรับผม)  ในยุคแชมป์เอเชีย  คู่หน้าชอบเนติพงษ์กับภาณุวัตร (ใช่มั้ยหว่า?) ..แต่ส่วนตัวผมให้ ทอ.เป็นอันดับหนึ่ง โทษฐานประสบความสำเร็จในระยะที่ยาวนานกว่า  อิอิ คิดแล้วเสียดายช่วงที่ฟุตบอลอาชีพตกต่ำ  ถ้ามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง  เปลี่ยนแปลงให้เป็นสากล มีการสร้างทีมจากภูมิภาคเข้ามาแข่งแบบทุกวันนี้ ไม่รู้ใครจะเป็นมหาอำนาจในยุคปัจจุบัน (แต่คิดว่าฐานคนดูน่าจะขยายกว่าตอนนี้มาก) ปล.1  ผมเห็นด้วยกับคุณ longde (#42) ใช้ชื่อถ้วย ก. ข. ค. ง.  มันก็ดูดี  เป็นไทยๆแบบสากล!!  อยู่แล้วนะ เพราะลีคในประเทศอื่นอย่างฝรั่งเศส อิตาลี สเปน ก็ใช้ภาษาตัวเอง  (ลีคเอิง, ลีคเดอ, กัลโช, เซกุนดา) ปล.2  ตามไปดูลิงค์ของ Mthai   เห็นในย่อหน้าแรก.. "ทำให้ผมรู้สึกขึ้นมาทันทีว่าแล้วแต่ก่อนมีสโมสรไทยที่ยิ่งใหญ่แบบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อีกหรือไม่ และผมก็ได้รวบรวมมาแล้ว 10 อันดับ" คำว่า "ผม" คงไม่ใช่คุณ pinspin แน่ๆ  เพราะมาอ้างขอบคุณตอนจบ   (แล้วบอก "ผม"  เป็นคนรวบรวม??) จากคุณ : The Chew เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 17:09:39

ความคิดเห็นที่ 102 อ่านแล้วนึกถึงอดีตขึ้นมาเลย เป็นแฟนลูกทัพฟ้า เพราะตอนนั้นเดอะ ตุ๊กแกสุดตรีนจริงๆ บวกกับชลอ หงษ์ขจร และแน่นอนจรวดใบ้ประทีป ปานขาวเกมรุกนี่เล่นกันอย่างมัน เจอกับท่าเรือนี่สนามแตก สมัยก่อนซื้อฟุตบอลสยามอ่านทุกเสาร์เก็ฐเงินค่าขนมมาทั้งอาทิตย์ เคยเขียนจดหมายไปหาซ้ง บางพุทรา(เทพพิทักษ์ จันทรสุเทพ) ด้วย ได้ลงเอาไปอวดเพื่อนใหญ่ อารมณ์ประมาณเขียนไปหาย.โย่ง เอกชัย นพจินดาในซ้อคเก้อร์รายสัปดาห์ สมัยก่อนฉายาทีมยังไม่ดูอลังการ อินเตอร์เหมือนอย่างทุกวันนี้ ทหารอากาศก็ "ลูกทัพฟ้า" ท่าเรือก็ยังเป็น "สิงห์เจ้าท่า" เหมือนตอนนี้ สมัยก่อนเป็นปลาสมกับเป็นทีมท่าเรือ พอตอนหลังเปลี่ยนเป็นสิงโตตามฉายาซะเลย ราชวิถีก็ "ชาววัง" ธ.กรุงเทพ "บัวหลวง" ธ.กรุงไทย "นกวายุภักษ์" กสิกรก็ "รวงข้าว" ทหารบก "ทีมตรากงจักร" ราชนาวี "ลูกประดู่" ตำรวจ "โปสิศ"อ้อ เกือบลืม ราชประชา "ตราชฎา" เด็กยุคนี้ฟังดูคงว่าเชย ไม่น่าเกรงขาม แต่สมัยก่อนก็เรียกกันอย่างนี้แหละ ไม่มีหรอกสุภาพบุรุษวงจักร อินทรีทัพฟ้า ลาวาเพลิง กิเลนผยอง ฯลฯ ให้เท่ๆ เหมือนอย่างตอนนี้ แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 55 01:40:48 จากคุณ : sexy Boy of London เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 55 01:37:35

ความคิดเห็นที่ 103 ^ ครับสมัยก่อนเป็นยังไงครับ เป็นยุคที่บอลไทยบูมระดับหนึ่ง แต่กระแสบอลนอกมันแรงกว่า บางคนแทบไม้เคยดูบอลไทยเลย ยุคนั้น ย.โยง กับกลุ่มสยามสปอตเอา บอลดิวีชั้นหนึ่งอังกฤษ(ยังไม้เป็นEnglish Premier League) มาแรงกว่าบอลไทยเยอะ บางคนดูบอลไม้รู้จัก ฉายาพวกนีเลย แต่บอลอังกฤษรู้จักหมด จากคุณ : LIBERAL เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 55 08:53:25