ความคิดเห็นที่ 1 เครดิต มารุมาระดอตคอม ปล.ไม่แปลกใจเท่าไรที่นักญี่ปุ่นได้รับการยอมรับในฝีเท้าทั้งในบ้านเราและแถบยุโรป จากคุณ : Uon เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 15:46:56

ความคิดเห็นที่ 2 จริงครับ ผมเคยเจอ นัดประชุม เพื่อนคนไทย  แฟน(ไม่ใช่เมีย) ไม่สบาย มันบอกว่า ขอไปส่งแฟนก่อน เข้าสายหน่อย ลูกค้าญี่ปุ่น เมีย ที่อยู่ที่คอนโดที่ไทย ไม่สบาย มัน โทร ให้รถโรงพยาบาลไปรับ เพราะ มันต้องมาประชุม เทียบกันเองแล้วกัน จากคุณ : เทพพิสดาร เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 16:05:03

ความคิดเห็นที่ 3 แต่เจ้านายญี่ปุ่นของผม เขาบอกว่า เขาเข้าใจวัฒนธรรมคนไทย เขาบอกให้ครอบครัวมาก่อน แต่ว่า ห้ามเลื่อนงาน เฝ้าเมียได้ แต่ต้องเอางานไปทำด้วย ต้องส่งงานตามกำหนด ประมาณ เมียคลอดแล้ว เอ๊งต้องตามมา  ด่วนเลย อยู่เลี้ยงลูกต่อไม่ได้ จากคุณ : นายสบายสบาย เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 16:22:00

ความคิดเห็นที่ 4 วัฒนธรรมต่างกัน ตำหนิใครไม่ได้ ถ้าคุณอยากให้คนไทยรับแนวคิดองค์กรสำคัญกว่าครอบครัวมาใข้ คุณก็ต้องยอมรับแนวโน้มการฆ่าตัวตายสูงปรี๊ด และโครงสร้างครอบครัวง่อนแง่นของเค้ามาด้วย จากคุณ : nookieman เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 16:29:39

ความคิดเห็นที่ 5 วัฒนธรรมต่างกันเอามาเทียบกันไม่ได้ครับ สังคมไทยยึดติดกับสถาบันครอบครัวมาก เคยดูหนังเรื่องหนึ่งบอกไว้ว่าพ่อทุกคนอยากเห็นหน้าลูกตอนเกิดด้วยกันทั้งนั้น ถ้าผมเป็นเจ้านายคนเรื่องนี้จะเป็นหนึ่งในเรื่องที่ผมไม่ห้ามลูกน้องอย่างแน่นอน จากคุณ : ต้อมติ้ว เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 16:36:49

ความคิดเห็นที่ 6 สุดยอดจริงครับญี่ปุ่นเรื่อง วินัย ของเค้า แต่ให้เลือก ผมโชคดีมากที่เกิดมาเป็นคนไทย 5555555555555555555 จากคุณ : เซอปิรุส เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 16:38:54

ความคิดเห็นที่ 7 วัฒนธรรมต่างกันครับ เทียบกันไม่ได้หรอกว่าใครถูกใครผิด ได้อย่างก็ต้องเสียอย่างครับ จากคุณ : FederFox เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 16:51:13

ความคิดเห็นที่ 8 ความคิดเห็นที่ 7     วัฒนธรรมต่างกันครับ เทียบกันไม่ได้หรอกว่าใครถูกใครผิด ได้อย่างก็ต้องเสียอย่างครับ จากคุณ : FederFox +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ประเทศที่เจริญแล้ว ความเป็นมืออาชีพ มีสูงกว่าไทย มันทำให้เราด้อย พัฒนา จนถึง ปัจจุบัน และจะเป็นแบบนี้ ตอลดไป ตราบใดที่คนไทย ไม่ยอมเปลี้ยนทัศนคติ เพราะทุกคน คำนึงถึงแต่เรื่องตัวเอง มากกว่า ประโยชน์ ส่วนรวม .. นิสัยของคนญี่ปุ่น จะคำนึง ถึงความพอใจ ของลูกค้า มากกว่าผลกำไร สมาชิกห้องบลู เคยรีวิวไว้นานแล้ว แค่ไปซื้อมันเผาข้างถนน แต่มันเผาที่คนไทยหยิบมา มีรอยไหม้ นิดหน่อย พ่อค้าข้างถนน คนขาย รีบขอโทษขอโพย และยืนยันจะเปลี่ยนอันใหม่ให้ ทั้งๆที่ คนซื้อ ไม่ได้เรียกร้องอะไร.. คนขายกลัวลูกค้า จะไม่อร่อย.... นี่คือทัศนคติของคน ญี่ปุ่น ที่คำนึงถึงคนอื่น เป็นหลัก จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 17:13:20

ความคิดเห็นที่ 9 คิดอีกอย่าง ครอบครัวคนไทย กับ ครอบครัวคนญี่ปุ่น ครอบครัวประเทศไหนมีความสุขมากกว่ากัน ทุกอย่าง ในดีมีร้าย  ในร้ายมีดี จากคุณ : Prince Baro5 เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 17:18:47

ความคิดเห็นที่ 10 เวลาขึ้นรถไฟฟ้า รถทัวร์ หรือที่สาธารณะ โทรศัพท์ ของใครคนใดคนหนึ่ง ดังขึ้น คนญี่ปุ่น จะรีบปิดโทรศัพท์ทันที เพราะ ทุกคนหันหน้ามาทางต้นเสียง.. มารยาทในที่สาธารณะ แค่คนอื่นมอง เขาก็สำนึก คนไทย แม้แต่ในโรงหนัง มันยังคุยโทรศัพท์ เฉยเลย ยิ่งเป็นรถไฟฟ้า ยิ่งไม่ต้องพูดถึง คุ่ย ตั้งแต่ ต้นทางยัน ปลายทาง ไม่ยอมหยุด บางคน คุยเสียงดัง เหมือนอยากให้คนทั้งรถ รับรู้ ด้วยซ้ำไป... เคยมีคดี คนโรคจิต ข่มขืนเด็ก ... ประชาชนคนญี่ปุ่นออกมาเรียกร้อง ให้ประหารชีวิต เลยทีเดียว จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 17:19:29

ความคิดเห็นที่ 11 เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องของวัฒนธรรมครับ ไม่เกี่ยวว่ามืออาชีพไม่อาชีพ เซซาเร่ ปรันเดลลี่ ก็ลาออกจากโรม่า ไปดูแลภรรยาที่ป่วย แคร็ก เบลลามี่ ก็ขอไม่ลงสนาม ตอนได้ข่าวแกรี่ สปีดเสียชีวิต แล้วก็มีอีกหลายเคส ที่มีเหตุการณ์ที่มีุคุณค่าทางจิตใจจนทำให้นักเตะหลายคนลงสนามไม่ได้ อย่าเอา "ครอบครัว" มาเป็นประเด็นโจมตี นักกีฬาอาชีพ ครับ บางคนรับได้ แต่บางคนเค้ารับไม่ได้นะครับ จากคุณ : กิ่งกัลปพฤกษ์ เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 17:24:06

ความคิดเห็นที่ 12 คิดอีกอย่าง ครอบครัวคนไทย กับ ครอบครัวคนญี่ปุ่น ครอบครัวประเทศไหนมีความสุขมากกว่ากัน ทุกอย่าง ในดีมีร้าย  ในร้ายมีดี จากคุณ : Prince Baro5 +++++++++++++++++++++++++++++++++++ พื้นฐานการใช้ชีวิตของไทย ทรัพยากรธรรมชาติ ของไทย ทุกอย่างมีเพียบพร้อมอยู่แล้ว ครับ .. ขอแค่ให้รัฐบาล เอาจริงกับระเบียบวินัย ของคนในชาติ ประเทศไทยเราจะก้าวไกลกว่านี้ ... ไม่ต้องมาก ขอครึ่งหนึ่งของญี่ปุ่น ก็พอ เช่น ทางเท้า ทางเดิน ฟุตปาธ ................. อย่าขายของได้มั๊ย เทศกิจ กทม. ตั้งขึ้นมาเพื่อ อะไร ???? ไม่ได้ ตั้งขึ้นมา เพื่อรักษา กฏระเบียบ แต่ตั้งขึ้นมาเพื่อเก็บส่วย... ทางเท้ากลายเป็นที่ขายของ... คนลงมาเดินบนผิวจราจร ผิวจราจร กลายเป็นที่จอดรถ รถกรุงเทพ เลยติด.. ตำรวจบาง สน. ออกเวร มาเป็นเจ้ามือ ป๊อกเด้ง .. มองแล้วประเทศไทย มันสับสนวุ่นวายไปหมด เพียงเพราะเรา ไร้วินัย ทั้งหมดทั้งมวล เมื่อก่อนป่าไม้เมืองไทย มีเยอะ พอแต่งตั้งเจ้าหน้าที่รักษาป่า ... ป่าไม้กลับถูกทำลายมากกว่า 2 เท่า.. ขออภัยด้วยครับ นอกเรื่องกีฬา ไปเยอะ จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 17:28:46

ความคิดเห็นที่ 13 เรา prefer มีสามีเป็นคนไทยอ่ะ 5555 จากคุณ : Zestzy_Girlz เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 17:29:24

ความคิดเห็นที่ 14 เชื่อครับ ไม่งั้นการ์ตูนญี่ปุ่นไม่มีเล่นมุขนี้บ่อยๆหรอก ลูกชายโกรธแค้นพ่อที่ออกไปทำงานจนแม่ต้องตาย...เจอหลายเรื่องมาก //ฮ่า่ฮ่าฮ่า จากคุณ : รักเธออยู่แต่ก็รู้ว่าไม่ได้ เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 17:45:59

ความคิดเห็นที่ 15 ผมยังยึดติดกับ ความเป็นไทยครับ ไม่ว่าจะอย่างไร ยกเว้น หนังญี่ปุ่น นี่เค้าดีจริง จากคุณ : chee-win4 เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 17:49:20

ความคิดเห็นที่ 16 ถึงว่าทำไมใครๆก็ชอบผู้หญิงไทย 5 5 5 จากคุณ : A.R.T. เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 18:41:27

ความคิดเห็นที่ 17 ชาบี อลองโซ่ ตอนเมียคลอดลูกยังขอลาการแข่งนัดสำคัญเพื่อไปเฝ้าเมียเลย ผมว่าญี่ปุ่นนั่นแหละแปลกครับ งานจะสำคัญไปกว่าครอบครัวได้ยังไง มันไม่เกี่ยวกับเรื่องวินัย แต่มันเป็นเรื่องความเหมาะสมครับ ว่าในแต่ละกรณีควรเลือกสิ่งไหนก่อน การแข่งบอล ถึงอลองโซ่ไม่เล่น คนอื่นที่พร้อมลงแทนก็มีสแตนบายรออยู่แล้ว แต่เมียของอลองโซ่กำลังคลอดลูกคนแรก ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตลูกผู้หญิง ตอนนั้นคนที่เธออยากให้อยู่เคียงข้างให้กำลังใจเธอมากที่สุด หนึ่งในนั้นก็ต้องเป็นอลองโซ่ คนอื่นมาทำแทนไม่ได้ แค่นี้ก็พอจะคิดกันได้อยู่แล้วครับว่าเรื่องไหนที่มันเหมาะสมมากกว่า โอเคถ้าเป็นงานที่ต้องรับผิดชอบเพื่อคนจำนวนมาก หากเราไม่ทำ ก็ไม่มีใครทำแทนเลย แบบนั้นเราคงต้องทำ หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การเล่นบอลทีมชาติ คนที่พร้อมจะเล่นแทนเรามีอีกเป็น100คน ในเมื่อจิตใจเราจดจ่ออยู่กับชีวิตลูกเมียมากกว่าการแข่งขัน ก็ให้คนอื่นที่ใจพร้อมกว่าลงเล่นแทน ย่อมได้ผลงานที่ดีกว่า มันก็เหมาะสมแล้ว จากกรณี คห.ที่2ยกมา ของแบบนี้มันอยู่ที่สถานการณ์และความเหมาะสมครับ บางคนก็มองว่าไปส่งเมียหาหมอก่อน แล้วค่อยไปนัดช้าไปนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร ถือว่าสุดท้ายแล้วก็ทำหน้าที่ได้สำเร็จเรียบร้อยทั้ง2ด้านอยู่ดี แต่ลูกค้าญี่ปุ่นโยนหน้าที่รับผิดชอบด้านหนึ่งให้คนอื่นทำแทน ตัวเองเลือกรับผิดชอบอีกด้านหนึ่งเท่านั้น แบบนี้มันก็ตรงแหน๋วเกินไป ทั้งที่หากยืดหยุ่นนิดหน่อยเราก็สามารถรับผิดชอบหน้าที่ทั้ง2ด้านได้สำเร็จเรียบร้อยอยู่แล้ว และผมว่าหากเปลี่ยนเป็นเมียของลูกค้าญี่ปุ่นคนนั้นถูกคนเมายาบ้าจี้จับเป็นตัวประกันอยู่ล่ะครับ ผมเชื่อว่าลูกค้าญี่ปุ่นคนนั้นย่อมต้องขอเลิกนัดเพื่อไปช่วยเมียก่อนอยู่แล้ว แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 55 19:10:57 จากคุณ : ซาโนสุเกะ เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 19:07:10

ความคิดเห็นที่ 18 บางคนบอกว่าสังคมครอบครัวญี่ปุ่นไม่มีความสุข ถามหน่อยคุณรู้ได้ไง??(ครอบครัวคนไทย มีความสุขกว่ายุ่นใช้อะไรวัดครับ) ความจริงไม่ต้องยกตัวอย่างญี่ปุ่นหรอกครับ.....ตัวอย่างในประเทศนี่แหละ  วิทยา เลาหกุลเคยเจอเคสนี้เต็มๆตอนแข่งบอลถ้วยเอเชียปีที่แล้ว วิทยา เลือกหน้าที่ก่อนครับ จริงๆแล้ว ถ้าเจ็บป่วยธรรมดาๆ(ไม่ถึงตาย) หรือ เมียคลอดไม่ร้ายแรงเลยครับ.......ควรเลือกเล่นทีมชาติมากกว่า ถ้าเจ็บป่วยหนักเป็นตายเท่ากันก็อีกเรื่องหนึ่ง..........ส่วนใหญ่โค้ชจะให้เป็นการตัดสินใจของนักบอลเอง ว่าจะกลับบ้านหรือไม่.............ถ้าอยู่อาจไม่มีประโยชน์ก็ได้เพราะนักบอลส่วนใหญ่สูญเสียสมาธิไปแน่ๆ(เป็นห่วงคนที่บ้าน)........โค้ชหลายคนอาจแนะนำให้กลับบ้าน แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 55 19:15:22 แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 55 19:13:59 จากคุณ : atk เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 19:13:02

ความคิดเห็นที่ 19 ผมว่าสังคมไทยยังน่าอยู่และปลอดภัยกว่าญี่ปุ่นเยอะ เมืองไทยผู้หญิงสาวๆ ขึ้นรถเมล์ รถไฟฟ้า ยังปลอดภัย ที่ญี่ปุ่นนี่อะไรไม่รู้ ลวนลามมั่ง ข่มขืนมั่ง ราดหน้า คาพาร์ค บลาๆๆ จากคุณ : จอมโจรกัสเนอร์ เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 19:29:11

ความคิดเห็นที่ 20 เบื่อคนที่ชอบอ้างว่า ญี่ปุ่นมีอัตราการฆ่าตัวตายสูง ไม่รู้หรือไงว่า ประเทศอื่นเค้าก็รับรู้เหมือนกันว่า ประเทศไทยมีอัตราการทำแท้ง และท้องในวัยเรียนสูงเหมือนกัน ผมไม่ได้เข้าข้างญี่ปุ่นหรอกนะครับ แค่ไม่อยากให้คนไทยหลงมัวเมากับคำพูดหรูๆว่า ไทยมีวัฒนธรรมที่ดีงาม จนเอาไปข่มวัฒนธรรมอื่น จากคุณ : koolaka2 เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 19:31:24

ความคิดเห็นที่ 21 ผมว่าของเราหย่อนไป ของเค้าตึงไปมากกว่าครับ ของเราอะไรก็ได้ขอให้ตัวเองสบายใจไว้ก่อน ของเค้าอะไรก็ได้ขอให้คนอื่นสบายใจไว้ก่อน อย่างไหนก็ไม่น่าจะดีร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกครับ แต่ผมว่าของเราควรตึงขึ้นอีกหน่อยน่าจะดี ของเค้าจะหย่อนไม่หย่อนลงน่ะช่้างเหอะ ของเค้าผมว่าไม่เสียหายอะไร จากคุณ : Sunnicof เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 19:36:03

ความคิดเห็นที่ 22 ทุกอย่างเป็๋นเรื่องของจิตใจนะผมว่า เจริญหรือไม่เจริญไม่เกี่ยวถ้าจะให้พัฒนาก็ต้อง พัฒนาที่คนไม่ต้องไปพัฒนาที่ไหนหรือดูตัวอย่างใครประเทศเราเป็นของเรา มนุษย์มีสิทธิที่จะเลือกสิ่งที่ตัวเองคิดว่าสำคัญคัญที่สุดในชีวิต ยกตัวอย่างถ้าคุณไม่ไปหาแฟนวันที่เธอจะคลอกหลังจากเหตุการณ์นั้นทำให้ แฟนคุณเลิกกับคุณลูกคุณโตขึ้นมาไม่รักคุณจะเป็นอย่างไร หรือ คุณไม่ไปช่วยชาติ แล้วทำให้ชาติพ่ายแพ้ (แล้วไอ้10คนที่อยู่ในสนามมันช่วยไม่ได้หรือไง) มันเป็นคุณค่าทางจิตใจครับไม่ได้เกี่ยวกับความเป็นมืออาชีพอะไรเลย เลิกเอาประเทศอื่นมาเทียบซักที ควรมีความภูมิใจในความเป็นชาติของตัวเองบ้าง อยากจะรู้ประเทศอื่นมันมีดีอะไรนักหนา "เงินทองของมายา ข้าวปลาสิของจริง" จากคุณ : Retrojazz60s เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 19:36:39

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้าจะอวยก็อวยไปครับ แต่อย่าเอามาเปรียบกับชาติเรามากเลยครับ ถ้าจะเอามาเปรีบก็เอามาทุกด้าน  ความสุข ความเป็นอยู่ ความเจริญทางวัตถุ ความเจริญทางจิตใจ จากคุณ : ผมเชียร์ลิเวอร์พูล เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 19:55:42

ความคิดเห็นที่ 24 ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ปลอดภัยอันดับต้นๆของโลกนะ ลองเทียบอัตราจำนวน ประชากรกับจำนวนอาชญากรรมกันดูสิ ยิ่งอาชญากรรมที่มีคนตายด้วยแล้ว มีไม่กี่ประเทศหรอกที่ชนะญี่ปุ่นได้ ที่เห็นในการ์ตูนหรือหนังเอวงเอวีอะไร มันก็แค่นั้นแหละ จากคุณ : S.A.Y.A. เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 20:00:56

ความคิดเห็นที่ 25 ครอบครัวต้องมา่ก่อนค่ะ ดูแลครอบครัวยังไม่ได้ อย่างอื่นก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว ดูนักเตะทางยุโรปเป็นตัวอย่าง ถ้าภรรยาคลอดลูก หรือญาติเป็นอะไร ส่วนใหญ่เขาเลือกครอบครัวก่อนแทบทั้งนั้นแหละค่ะ โจทย์ข้อนี้ไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง ความรักงานของคนญี่ปุ่นที่คุณว่าน่าชื่นชม อาจเป็นแค่การบ้างานในสายตาคนอื่นได้เหมือนกันนะคะ จากคุณ : Wadoiji เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 20:14:37

ความคิดเห็นที่ 26 ผมชื่นชมคนญี่ปุ่นนะไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องบ้าบอ เค้าแค่ต้องการรับผิดชอบหน้าที่ของเค้าให้สูงที่สุดเท่าที่เค้าทำได้  ส่วนคนชาติอื่นจะมองว่าบ้างานจนไม่ห่วงครอบครัวก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกก็เถอะ ยังไงจิตสำนึกคนบ้านเค้า  ก็สูงกว่าคนไทยมากๆ ดูได้ที่เกิดสึนามิ  ไม่เคยเห็นมีข่าวเรื่องพวกคนเห็นแก่ตัว   หรือพวกเลวๆฉวยโอกาสทำเรื่องแย่ๆตอนคนอื่นเดือดร้อนเลย  แต่บ้านเรานี่เพียบ พวกน้ำใจดีๆก็มีเยอะ แต่พวกเลวๆก็มาก คือความเคร่งครัด และการบ้างาน มันก็ทำให้คนประเทศนี้หลายคนเครียด แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมด  เรื่องฆ่าตัวตายคือเค้ารับสภาพตัวเองด้วยครับ  บ้านเราพอไม่มีกินมีใช้ บางคนไปปล้นไปฆ่าคนอื่นเค้าอ่ะ  บ้านเค้าคดีแบบนี้ไม่ค่อยมีแบบบ้านเรา ก็ต่างมุมกันอีกแบบนึง จากคุณ : Angelus เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 20:25:10

ความคิดเห็นที่ 27 #19 อย่าเอาAV มารวมกับชีวิตจริงดิ ญี่ปุ่นมีอัตราความปลอดภัยจากอาชญากรรมสูงมากๆ เเถมไอ้พวกที่รอดคดี(ส่วนมากอายุไม่ถึง) ก็เจอมาตรการทางสังคมเเบบเเทบจะอยู่ในประเทศไม่ได้เลยทีเดียวนะ กรุณาอย่าเทียบกับบ้านเราเลย ก็เห็นๆกันอยู่ เฮ้อ จากคุณ : ไล่ฮก เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 20:46:31

ความคิดเห็นที่ 28 จขกท. เขาหมายถึง ทีมชาติ ไม่ใช่หรือ  ถ้านัดแบบสโมสร เขาก็คงจะลากันหรอก เหมือนนักเตะ บราซิล ตอนเล่น แชมป์โลก ชุดที่ได้แชมป์โลกไง (จำชื่อไม่ได้)  ยังไม่ได้อยู่เฝ้าเมียคลอดลูกเลย  ที่ทำท่าอุ้มลูกไง ไม่เกี่ยวกับชาติหรอก  น่าจะเป็นที่แมตช์นั้นสำคัญแค่ไหน แล้วหากคลอดลูกปกติ แบบเมียเป็นปกติ แข็งแรง มันก็คงจะอยู่ช่วยชาติได้ไม่ยากหรอก  หากชนะขึ้นมา ก็เอาแชมป์กลับไปฝากลูกเมีย ก็ยังได้ แต่หาก ประเภท คนสำคัญ ไม่ปกติ ป่วยหนัก สาหัส อันนั้นสิ ค่อยว่าไปอีกเรื่องนึง เพราะถึงจะฝืนเล่น ก็ไม่มีสมาธิ ไม่มีกะจิตกะใจจะเล่นหรอก จากคุณ : EviLveRstaRsHio เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 21:01:23

ความคิดเห็นที่ 29 อย่าเห็นแต่ข้อดีของคนอื่น เอามาทับถมตัวเองครับ ส่วนดีที่เรามีแต่เขาขาด ยังมีอีกมาก จะบอกว่าญี่ปุ่นขยันขันแข็งเจริญก้าวหน้าดีเลิศไปหมด ทำไมเขาเศรษฐกิจซบเซามากี่ทศวรรษแล้ว รับผิดชอบสูงอะไรปัญหาใหญ่ภัยพิบัติระดับชาติ บริษัทที่รับผิดชอบยังโกหกปกปิดความจริง เรื่องปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีจากเตาปฏิกรณ์ทิ้งทะเลดื้อๆ นั่น มีชาติไหนกล้าทำบ้างครับ จากคุณ : โอ๊ยเจ็บ เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 21:30:54

ความคิดเห็นที่ 30 วัฒนธรรมไม่เหมือนกันจะด่าเราด่าเขาไม่ได้หรอกครับ จากคุณ : ต้อมติ้ว เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 22:00:05

ความคิดเห็นที่ 31 2ชาตินี้..   เรื่องระเบียบวินัย   ฟ้ากะเหวชัดๆ.. จากคุณ : nokun เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 22:11:10

ความคิดเห็นที่ 32 #12 เมื่อก่อนป่าไม้เมืองไทย มีเยอะ พอแต่งตั้งเจ้าหน้าที่รักษาป่า ... ป่าไม้กลับถูกทำลายมากกว่า 2 เท่า... ----------------------------------- อืมม ถ้าผมเป็น จนท รักษาป่า ผมคงเศร้าใจกับคำกล่าวนี้นะครับ ประเด็นมันน่าจะอยู่ที่เดี๋ยวนี้มีนายทุนจ้างตัดและลักลอบทำลายป่ามากขึ้น มากกว่าจะโทษ จนท ที่เค้าตั้งใจทำงานนะครับ ส่วนวัฒนธรรมแต่ละที่ มันก็ต่างกันแหละครับ มองในมุมคนไทย หมอนั่นก็บ้างานเกิน มองในมุมคนญุ่ปุ่น คนไทยก็เห็นแก่ตัว ทำเพื่อตัวเองก่อน อย่างในเคสล่าวาฬ คนทั้งโลกมองว่าโหดร้าย แต่ญุ่ปุ่นเค้าก็มองเป็นเรื่องปกติ จากคุณ : Blackbox เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 23:01:35

ความคิดเห็นที่ 33 อย่าทำเป็นคนออกข้อสอบ O-net สิครับ เอาคำถามที่คำตอบมันไม่ตายตัว ขึ้นกับคนตอบ มาเป็นโจทย์วัดว่าต้องตอบให้ถูก........... ถูกใคร??? แล้วยิ่งเลือกมาถกเรื่องวัฒนธรรมด้วยนะ ญี่ปุ่นก็เจริญ อเมริกาก็เจริญ ยุโรปก็เจริญ ทีนี้จะตามก้นใครดีล่ะ เพราะแต่ละโซนมันคิดไม่เหมือนกันเลย กรณีนี้ก็เหมือนกันเจ้าตัวเองก็มีโจทย์ของตัวเอง ทางเลือกมันก็จะมีผลต่อเขาเอง เขาเลือก A นั่นเพราะเขาต้องการเห็นความสำเร็จของทีมชาติโดยยอมทิ้งครอบครัวไว้ข้างหลัง เขาเลือก B นั่นเพราะเขาเลือกที่จะมีปัญหากับทีมชาติเพื่อเลือกชีวิตครอบครัวที่จะอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต... เหมือนจะจบนะ แต่หากชีวิตจริงคนเรามันไม่ได้มีแค่นั้นล่ะ A เพราะเธอยังมีญาติคนอื่น B เพราะเขาไม่ใช่ตัวจริง A เพราะเธอบอกเขาให้ไปเอง B เพราะโค้ชให้เขาตามไปทีหลังได้ A เพราะเขาไว้ใจหมอพอ B เพราะเธอยังมีโรคแทรกซ้อนอื่นๆที่เสี่ยงต่อชีวิต A... B... A... B... A... B... A... B... พูดไปก็ไม่จบเรื่องเพราะคนเราไม่ใช่คนอื่นไง ต่างคนก็ต่างเหตุผลกันไป และในหนึ่งคนยังจะมีได้มากว่าเหตุผลเดียวอีกต่างหาก อย่าไปปิดคำถามปลายเปิดด้วยคำตอบของตัวเองเลย จะจบแบบไหนเจ้าตัวก็ได้เลือกเอง ถ้ามันผิดก็มีผลกับเขาเอง A จบแบบเธอเครียดจนแท้งเขาเสียลูก B จบแบบทีมตกรอบเขาถูกขับไล่จากทีม เขาก็โดนเองทั้งนั้น อย่าโยงประเด็นไปที่เรื่องวัฒนธรรมครับเดี๋ยวไม่จบ วัฒนธรรมไม่ใช่สิ่งที่จะตอบคำถาม เพียงแค่เป็นตัวหล่อหลอมแนวโน้มในการตอบคำถามของคนๆนั้น การเลือกถูกผิดอยู่ที่เจ้าตัว ปล.นึกถึงฮันเตอร์xฮันเตอร์ที่มันให้เลือกว่าช่วยได้คนเดียวจะเลือกใคร แม่หรือคนรัก จากคุณ : ก็แค่ชื่อสมมุติในเน็ต เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 23:03:06

ความคิดเห็นที่ 34 กระแสตีกลับเว้ยเฮ้ย แต่คนญี่ปุ่นก็เกินไป แหมไล่ออกเลยเหรอ ชีวิตมันจะไปมีความสุขได้ยังไง แต่ก็นะ ต่างคนต่างวัฒนธรรม เราไม่เคยไปอยู่ไม่รู้หรอก ปล.มีเนื้อหาเกี่ยวกับกีฬาอยู่ 1 % -*- แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 55 23:09:05 แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 55 23:08:49 จากคุณ : พรายกระซิบ เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 23:07:28

ความคิดเห็นที่ 35 คนไทย เมียก็ไม่เอา ชาติก็ไม่เอา (ขี้เกียจ) จากคุณ : ชอบกินหมูน้ำตก เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 23:26:02

ความคิดเห็นที่ 36 เห็นด้วยกับคำว่าทุกสิ่งมีดีมีแย่ในตัวของมันเอง ขึ้นอยู่กับคุณจะเลือกเสพและมองมุมไหน เอาเป็นถ้าคุณมีเงินซัก 5 ล้านในเมืองไทย คุณจะได้อะไรที่เงิน 5 ล้านในเมืองนอกไม่ได้บ้าง คุณจะได้เป็นคนชนชั้นสูงที่มีอภิสิทธิ์ต่าง ๆ มากมาย คุณจะจ่ายเงินไปใช้จ่ายได้ในหลายสิ่งที่ประเทศอื่นไม่มี ถ้าคุณว่าคุณภาพชีวิตบ้านเราต่ำ เราก็ต้องถีบตัวเองให้สูงสิครับ แล้วคุณจะพบว่าไม่มีที่ไหนสุขใจเท่าบ้านเราครับ จากคุณ : mayerboss เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 00:06:06

ความคิดเห็นที่ 37 เอาเมียไปทำคลอด หลังโกลล์ เลยสิ  ได้ทั้งงานได้ทั้งเมีย จากคุณ : H-vichaiyut เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 03:21:00

ความคิดเห็นที่ 38 แบบว่าโรงบนโรงบาลไรไม่ต้องใช้มันหละ  ขอใช้หมอตำแย  หุหุ จากคุณ : H-vichaiyut เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 03:22:41

ความคิดเห็นที่ 39 เรื่องแบบนี้คงบอกไม่ได้หรอกครับว่าใครถูกใครผิด เพราะเป็นเรื่องของวัฒนธรรมของแต่ละชนชาติที่แตกต่างกัน หรือแม้แต่ชนชาติเดียวกัน ก็ใช่ว่าทุกคนต้องตัดสินใจเหมือนกัน เพราะนิสัยใจคอตลอดจนเงื่อนไขในชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าคนไหนมีครอบครัวหรือเพื่อนฝูงที่พอจะฝากผีฝากไข้ได้ และสามารถคุยกับภรรยาได้รู้เรื่อง จะไปทำหน้าที่ของตัวเองไม่อยู่รอภรรยาคลอด ก็คงทำได้ แต่ตรงข้ามถ้าเขาอยู่กันตามลำพังสองคน ไม่มีคนในครอบครัวหรือเพื่อนฝูงที่จะสะดวกมาดูแลให้ แบบนี้ถ้าเขาจะขอลาเพื่อดูแลภรรยาตอนคลอด ก็คงไม่ใช่เรื่องผิดกระมังครับ จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 06:35:36

ความคิดเห็นที่ 40 ผมว่าไม่ผิดทั้งคู่ครับ  แล้วแต่ตัดสินใจ แต่กลัวว่านักเตะจะลาทีมชาติ แล้วไปกินเหล้าเข้าผับกับอีหนู แล้วทิ้งให้เมียคลอดลูกคนเดียวนะสิ จากคุณ : joeymydear เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 08:03:37

ความคิดเห็นที่ 41 คำถามนี้ถามคนญี่ปุ่นคำตอบมันก็ออกมาแบบญี่ปุ่นๆ แต่ถ้าเอาคำถามที่ถามคนญี่ปุ่นมาถามคนไทยคำตอบมันก็ออกมาแบบไทยๆ จากคุณ : kodindy เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 08:48:42

ความคิดเห็นที่ 42 ระบบความคิด และวัฒนธรรมไม่เหมือนกันครับ เท่าที่สัมผัส ญี่ปุ่น ทั้งส่วนตัวและครอบครัว จะถูกปลูกฝังให้ทำตามฝันให้เต็มที่ ครอบครัวจะสนับสนุนและไม่เหนี่ยวรั้ง  บางทีถึงขนาด "ถ้าแกทำไม่สำเร็จก็ไม่ต้องกลับมา ทำความฝันของแกให้สำเร็จ"  และคนเป็นพ่อเป็นแม่ของบ้านเขาก็ไม่พยายามทำตัวเป็นภาระให้กับลูกๆ  มองอีกแง่ เราจะเห็นสถานบ้านพักคนชราของบ้านเขาเยอะมาก ลูกๆส่งพ่อแม่ไปอยู่บ้านพักคนชรา  และคนชราก็ไม่เรียกร้องอะไรมาก เข้าใจ   ถ้ามองในมุมเราแม้กระทั่งมุมผมเองคงรับไม่ได้ แต่ในสภาพความเป็นจริง สังคมเขา การบีบคั้นในหน้าที่การงาน การที่ต้องทุ่มเทดูแลครอบครัวตัวเอง ภรรยา ลูกๆ   บางทีเรื่องนี้มันตอบลำบากว่าอะไรถูก อะไรผิด อย่างเรา คงไม่ต้องสุดโต่งขนาดบ้านเขา ขอแค่ซักครึ่งก็พอ เพราะสังคมบ้านเรา ครอบครัวมาก่อน  เพียงแต่บ้านเราก็ยังมีคนที่ทอดทิ้งคนชราให้อยู่คนเดียว แถมหน่วยงานรัฐ หรือเอกชนเอง ก็หาที่จะมาดูแลน้อยซะอีก  เพียงแต่บ้านเขา คนชราโดนทอดทิ้งน่าจะมากกว่าเรา เพียงแต่ ทางบ้านเขาทั้งรัฐ เอกชน ยังมีที่พักพิงให้กับคนชราเหล่านั้น เขียนไปเขียนมา สรุป เราดีกว่าเขาป่าวเนี่ยในเรื่องนี้ ปล.  ถึงตรงนี้ พวกเราดูแลครอบครัว ภรรยา ลูก แม้กระทั่ง พ่อแม่เรา เป็นอย่างดีแล้วหรือยัง  สงกรานต์นี้กลับไปรดน้ำดำหัวพวกท่านด้วยนะครับ จากคุณ : jedijoke เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 11:33:15

ความคิดเห็นที่ 43 เรื่องไปเฝ้าเมียคลอดลูก นี่พวกฝรั่งก็เป็นกันนะ โค้ชเค้าอนุญาตนะครับ ผมได้ยินเสมอๆเพราะผมดูบอล บางทีนักเตะบางคนไม่ได้ไปเตะนัดนั้นเพราะพ่อ แม่ ลูก เมีย ป่วย หรือเมียคลอดลูก นักเตะอาชีพทั่วไปนี่แหละ ดังนั้นที่ไม่เหมือนชาวโลกเค้า ผมว่าคือคนญี่ปุ่นมากกว่า จากคุณ : seven-elephant เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 13:50:22

ความคิดเห็นที่ 44 เห็นด้วยกับ@17&43ค่ะ คุณญี่ปุ่นต่างหากที่แปลก เรามีลูกค้าเกือบทุกชาติ คนญี่ปุ่นค่อนข้างเห็นความสำคัญของครอบครัวน้อย ถือว่าทำมาหากินมาเลี้ยงแล้ว..มั้ง จนผู้หญิงรุ่นใหม่ไม่อยากแต่งงาน ส่วนฝรั่งจะเห็นครอบครอบตรัวมาอันดับหนึ่ง(พระคัมภีร์มีสอน) สมัยน้องสาวเราคลอดลูกคนแรกให้บังเอิญสามีต้องบินไปจ้ดงานอีกเกาะ(ตอนนั้นเขาอยู่ฮาวาย)เจ้านายอนุญาตให้หยุดแม้จะหาคนแทนไม่ได้ แต่น้องเราขอให้ไปเพราะตอนนั้นมีแม่บินไปเฝ้าและยังได้รับอนุญาตให้เข้าไปอยู่ในห้องคลอดด้วย แม้จะคิดถีงสามีตลอดเวลาแต่ก็ยังอุ่นใจ ซึ่งน้องบอกว่าตอนนั้นถ้าไม่มีแม่มาอยู่เป็นเพื่อนเธอก็คงตัดสินใจลำบาก อย่าไปวิจารย์เรื่องใครผิดใครถูกเลยค่ะคุณญี่ปุ่นกดดันมามากและต้องกาพิสูจน์ตัวเองหลังสงครามจนบางทีก็ลืม..บางอย่างที่สำคัญกว่าไป มีลูกค้าเราคนที่มีเมียเป็นคนไทยก็ไม่เห็นเมียเธอจะมีความสุขเท่าไรนอกจากมีกิน จากคุณ : nancya9 เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 20:17:28

ความคิดเห็นที่ 46 แก้ไขเมื่อ 29 ก.พ. 55 20:20:12 จากคุณ : nancya9 เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 20:18:17