ความคิดเห็นที่ 15 จากคุณเกียรติ
ในหนังจะมีคนออกแบบท่าต่อสู้และมีคนกำกับคิวบู๊ ต้องมีการซ้อมคิวเพื่อให้สมจริง และไม่ผิดพลาด นักแสดงจะรู้คิวและรู้ว่าผู้ร่วมแสดงจะใช้ท่าไหนหรือออกอาวุธอะไร เพราะมีการซ้อมล่วงหน้าไว้แล้ว การหลบหลีกจึงดูง่ายและตอบโต้ได้เร็ว เพราะรู้ทางอยู่แล้ว
ครับ ภาพยนต์ส่วนใหญ่ก็เป็นเช่นนั้น แต่การกำกับวิชาการต่อสู้ไม่ใช่ไม่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในวิชานั้นมาชี้แนะเพื่อเดินตามโปรแกรมครับ ทราบไหมแม้แต่ดาราบู๊ภาพยนต์ไทยที่ทุกคนชื่นชอบก็ยังต้องมีอาจารย์ที่ชำนาญวิทยายุทธจีนเป็นที่ปรึกษาอยู่เบื้องหลัง ทำไมล่ะครับ ก็เพื่อให้การต่อสู้ร่ายรำได้ถูกต้องตามความเป็นจริง เมื่อเป็นเช่นนั้น ภาพยนต์ที่เราชมกันด้วยความบันเทิง มันคงไม่มีสาระเป็นแน่ เปรียบเหมือนภาพยนต์แนวต่อสู้บางเรื่องมักมีฉากโจมตีคู่ต่อสู้ด้วยฝ่ามือ(ทั้งๆที่ฝ่ามือไม่ได้แตะถูกตัว) คู่กรณีก็กระเด็นออกไปประหนึ่งมีแรงภายในที่สามารถปล่อยพลังออกมาอะไรปานนั้น ภาพยนต์แนวนี้สร้างมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น เราทั้งหลายคงเคยดูผ่านตามาบ้างแล้ว เราทั้งหลายยอมรับกันหรือ ผมคนหนึ่งละ ดูแล้วเสียเวลาเปล่าๆ
ถ้ามวยหย่งชุนสู้กับมวยไทยจริง ๆ แล้ว ผมว่าสู้ไม่ได้หรอก เพราะมวยไทยมีอาวุธหลากหลายกว่า
ถ้าบนเวทีที่มีกติกา คงใช่ครับ หรือหากจะสู้กันแบบฟรีสไตล์ น่าคิด.....
ทั้งอาวุธยาวคือการเตะ ระยะกลางการใช้หมัด และศอก ในระยะประชิดยังมีศอกสั้นและเข่า
แล้วคุณคิดว่า นอกจากมวยไทยแล้ว ท่าเหล่านี้ มวยอื่นเขาไม่มีหรือ?
นักมวยไทยเวลาเตะหรือถีบคู่ต่อสู้จะเห็นว่าสามารถยกขาเตะหรือถีบได้ทันที
และเตะถีบได้อย่างรุนแรงโดยไม่ต้องเกร็งขาหรือเงื้อ
การเตะถีบของผู้เชี่ยวชาญคงไม่มีใครเขาต้องใช้สองหรือสามจังหวะอย่างที่คิด ผมเคยฝึกคาราเต้ช่วงที่นักคาราเต้ญี่ปุ่นใส่เกี๊ยะเข้ามาเผยแพร่ในกรุงเทพรุ่นแรก ท่าเตะสองสามหรือสี่จังหวะนั้น เขาใช้ฝึกกับคนที่ไม่เคยเรียนคาราเต้มาก่อนครับ เอาหละท่าเตะของคาราเต้จังหวะอาจช้าอย่างที่คุณคิด เนื่องจากคาราเต้ได้รับการถ่ายทอดจากมวยเซ่าหลิน ซึ่งเป็นมวยนั่งม้าต่ำ ท่าเตะอาจจะไม่คล่องเหมือนท่าเตะของมวยไทยเราที่ยืนท่าสูงครับ แต่ท่าเตะของมวยจีน(เหนือ)ไม่ใช่อย่างที่เราเคยเห็นกันบ่อยๆทั่วไปครับ
การเตะของมวยไทยเป็นการเตะที่อันตรายมาก เพราะเป็นการเตะเข้าด้านข้างของร่างกาย
ครับ อย่างที่เรารู้กัน ท่าเตะของมวยไทยเตะด้วยท่ายืนสูง แต่เท่าที่คุยกันในกระทู้ต่างๆ มักไม่มีใครสังเกตุการเตะของมวยไทยโดยเปรียบเทียบการเตะของมวยจีนว่าต่างกันอย่างไร? มักจะลงความเห็นกันง่ายๆตามที่ตาเห็นกัน(เนื่องจากยังไม่ปรากฎมีใครสามารถรับลูกเตะไทยได้)
ดังนั้น เราจึงสรุปกันเสมอว่าท่าเตะของมวยไทยอันตราย! ผมว่าอย่างนี้ถูกไหมครับ? แล้วเราคิดกันไหมว่า ในโลกเรานี้ ไม่มีวิชาใดเลยหรือที่สามารถรับลูกเตะของมวยไทยได้? ในเมื่อท่อนขาของนักมวยไทยก็ไม่ได้ทำด้วยเหล็ก?
ขอโทษนะครับ ผมคงไม่ได้ตั้งใจที่จะเปลี่ยนแนวคิดกัน แต่เรามาคุยกันที่ข้อเท็จจริงของโลกเรานี่แหละ......
***************
จากความคิดเห็นที่ 22 โดยคุณไทนาวี
จะหาเนื้อหาที่นำมาถกเถียงกันในเชิงวิชาการมันไม่เหมาะครับผมว่า
ก็อย่างที่ผมได้เรียนชี้แจงไปข้างต้นครับ ผมยังคงตั้งคำถามเดิมอยู่ดี ถึงแม้จะเป็นถาพยนต์เพื่อความบันเทิงก็จริง แต่...ภาพยนต์ชุดนี้ก็สร้างในแนวประวัติศาสตร์ เรื่องราวก็เป็นเรื่องที่มีการเล่าสู่กันมา อาจจะจริงบ้าง เติมแต่งบ้าง อย่างไรก็ตาม หากเราเป็นนัก Martial Art กัน ผมคิดว่าสามารถคุยตอบคำถามถามผมได้ โดยเฉพาะไม่จำเป็นต้องไปรบกวนถึงอาจารย์อนันต์ที่สวนลุม ซึ่งเป็นการมิบังควรอย่างยิ่ง อนึ่งอาจารย์อนันต์ท่านก็เผยแพร่วิทยายุทธสายนี้มานานแล้ว ท่านไม่เพียงแต่เป็นลูกศิษย์สายยิปมันเท่านั้น ท่านยังเป็นศิษย์ของอาจารย์ไท่จี๋สายต่อสู้แถววัดเกาะ ซึ่งอาจารย์ไท่จี๋ท่านนี้ยังเป็นหนึ่งในกรรมการให้คะแนนในสมาคมวูซูซึ่งผมเป็นผู้เชิญในฐานะผู้อาวุโสที่ผมนับถือท่านหนึ่งครับ
จากความคิดเห็นที่ 25 โดยคุณรักมวยไทย ครับ ผมได้ชี้แจงแล้วคงเข้าใจนะครับ...
จากความคิดเห็นที่ 26 โดยรักมวยไทย
ควรเล่าประสบการณ์ของตนเอง เพื่อเริ่มการถกครับ คงหาคนมาร่วมถกยาก
ครับ เหนือฟ้ายังมีฟ้า การต่อสู้ทุกชนิด เราไม่สามารถวัดกันที่วิชาใดโดดๆ แต่เราสามารถนำทริคของแต่ละสายวิชามาประยุกต์ใช้ต่อสู้กับมวยอะไรก็ได้ ถ้าเราเชื่อ/ศรัทธา,มองภาพการต่อสู้ออก,อดทนฝึกอย่างจริงจังเป็นอาชีพเช่นมวยไทย
ประสบการณ์การต่อสู้ด้วยกันปะทะจริงนั้น ผมยอมรับว่าไม่เคย เนื่องจากไม่เคยมีเรื่องกับใครครับ แต่ถ้าเป็นกันต่อสู้แบบกึ่งจริงกึ่งฝึก ผมผ่านมาทั้งยูโด มวยไทย คาราเต้ มวยจีน(เหนือ)ไท่จี๋ ครับ แต่ละวิชาล้วนต้องเข้าชาร์จทั้งนั้น ทำให้พอจะมองภาพการต่อสู้ของสายต่างๆได้ค่อนข้างชัดเจน เนื่องจากตัวผมเองถ้าไม่โดนเตะ-ต่อย-ทุ่ม...คงเป็นไปไม่ได้ครับ ขอยกตัวอย่างการฝึกมวยเหนือ ซึ่งเรามีการฝึกเหมือนดังการแสดงภาพยนต์ คือมีผังการฝึกที่คู่เรียนต้องท่องจำเพื่อเข้าปะทะกันจริงๆ (ให้ฝึกเฉพาะผู้ฝึกผ่านการเรียนรู้ท่ามวยเบสิคครบถ้วนแล้ว) ครับอย่างที่หลายคนเข้าใจ....ว่า เออนะก็มีการวางแผนแล้วนี้ มันง่าย ถ้าเอาเข้าจริงๆถ้าไม่มีรูปแบบ คงไม่เป็นอย่างนั้น....เข้าใจผิดครับ ผู้ฝึกที่ผ่านการฝึกชุดที่ว่านี้ หากฝึกกันตามท่าที่ให้ไว้ ฝึกกันถึงจุดหนึ่ง หากคู้ฝึกของเราเกิดพลาดพลั้งจำบทไม่ได้ เรายังสามารถป้องกันได้ตามสัญชาติญาณที่ฝึกมาได้ครับ ผมทำมาแล้ว แล้วทำไมเวลาเราต่อสู้นอกเวทีแบบไร้รูปแบบ เราจึงไม่สามารถรับลูกได้ล่ะ นั่นคงต้องตำหนิตัวเองมากกว่าที่การฝึกของเราไปไม่ถึงขั้น เราทั้งหลายคงเคยเล่นไพ่ ผู้ที่เก่งชนะเสมอ เขารู้ได้อย่างไรว่าไพ่ในมือของแต่ละคนมีตัวอะไร ฉันใดก็ฉันนั้น การต่อสู้ไร้รูปแบบนั้น หากผู้ฝึกฝึกไม่ถึงขั้น คงจะไม่สามารถป้องกันตัวได้อย่างสมบูรณ์ดังนักเล่นไพ่มืออาชีพครับ
มีประสบการณ์ เป็นระหว่างวิชาหรือครับ?
ผมเคยตำหนิการนำต่างวิชาการต่อสู้มาเปรียบเทียบบ่อยๆครับ ผมจะเข้าต่อสู้เฉพาะแต่ละวิชาเท่านั้น เช่น ยูโดกับยูโด คาราเต้กับคาราเต้ มวยจีนกับมวยจีน ครับ
การนำแต่ละวิชาเพื่อมาประลองกันนั้น ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่ดูหมิ่นดูแคลนวิชานั้นๆ ยังก้าวไม่ถึงความเป็น Martial Art (ชาวยุทธ์)
จากคห.25 ผมก็ยังเข้าใจว่าคุณSURAWISHยังคงวนเวียนอยู่กับภาพยนต์ชุดนี้
ที่ผมยกตัวอย่างภาพยนต์ชุดนี้นั้น ไม่ใช่ผมวนเวียนอยู่แต่แค่คลิปต์ๆนี้ครับ เนื่องจากเราสามารถคุยถกกันในภาพยนต์ชุดนี้ได้อย่างเนื้อๆ เนื่องจากภาพยนต์ชุดนี้กำลังดัง และการถ่ายทำเยี่ยม ท่าต่อสู้เด่นชัด......... ตามที่ จขกท สงสัยนั้น ก็ถูกของเขาที่มีการเตือนถึงมวยไทยเราว่า หากพบการป้องกันตามที่เห็นในภาพยนต์ เรามวยไทยจะแก้กันอย่างไร? นั่นต่างหากที่เราทุกคนไม่ได้คิดกัน มีแต่เชื่อมั่นกันค่อนข้างจะร้อยเปอร์เซ็นต์(ฟันธง)ว่า มวยไทยเราที่หนึ่ง...ในโลก ใช่ไหมครับ ถ้าเราเชื่อกันเช่นนั้น เราคงคุยกันไม่ได้ต่อครับ ผมต้องขอโทษนะครับที่จำเป็นต้องพูดความจริง ผมเองก็ไม่ได้ฝึกมวยหย่งชุน แต่ก็เห็นอจ.อนันต์ สอนท่าต่างๆประจำ เนื่องจากช่วงนั้น ผมเข้าสวนลุมเพื่อพบปะชาวยุทธแลกเปลี่ยนความรู้กัน ประกอบกับผมเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสหพันธุ์วูซูช่วงนั้น จึงเข้าสวนลุมเพื่อเชิญชวนชาวยุทธทั้งหลายเข้าร่วมการรณรงค์วูซูให้เกิดในไทย
เพราะขนาดนักมวยไทยอาชีพบนกระดานนี้ ยังไม่ยอมชกนอกเวทีครับ
ครับ นักมวยอาชีพคงไม่มีใครเสี่ยงที่จะเข้าประลองกันนอกเวทีเป็นแน่ เหตุผลคงมีบ้างเช่น ไม่มีกติกาหนึ่ง ถ้าแพ้คงเข้าสู่เวทีอีกไม่ได้หนึ่ง ท่ามวยไทยมีการเข้าจู่โจมที่เร็วและแรง จากนั้นก็คอยหลีกหลบคู่ต่อสู่ด้วยการถอยหรือไม่ก็เบี่ยงหลบ (ส่วนใหญ่ถอยหนี) ไอ้ที่จะบล๊อคโดยที่ไม่ถอยแบบมวยจีนนั้น ถ้ามีก็ไม่คล่องตัวนัก อย่างมากก็ตั้งการ์ดรับกันอย่างที่เราเห็น......ครับถ้าคู่ต่อสู้ไม่มีท่าบล๊อค อย่างไรเสียมวยไทยก็นับเป็นมวยที่อันตรายอันดับต้นๆ.......