ความคิดเห็นที่ 1 ยุคซิโก้เล่น รู้สึกว่าเปเล่จะไม่ได้เล่นแล้วนะ ถ้าจำไม่ผิด พูดถึงนาโปลี จะว่าไม่มีคนเก่งก็ไม่ได้ก็พอมีนะ แต่ไม่ได้เก่งมากมายอะไร ผมก็จำอะไรไม่ค่อยจะได้ละ ให้คุณ สารานุกรมกัลโซ่ มาตอบน่าจะดีกว่า จากคุณ : Raycer_X เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 17:45:01

ความคิดเห็นที่ 2 ปี 1989-1990 ที่คว้าแชมป์ครั้งที่ 2 นอกจากมาราโดน่า นักเตะดังรองลงมาของนาโปลีก็ต้องเป็น กาเรก้า เบอร์ 9 ของบราซิลในยุคนั้น ถือว่าดังอยู่นะ จำได้แค่นี้ ชิโร แฟร์ไรร่ากับโซล่าเองก็ขึ้นมาแล้วมั้งตอนนั้น แฟร์ไรร่ารู้สึกจะเป็นตัวหลักล่ะ จากคุณ : Renesis เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 17:51:20

ความคิดเห็นที่ 3 เทพเยอรมัน เต็มเวทีกัลโช่ เลยครับ ตอนนั้น อธิบายเพิ่มเติมนิดนึงครับ มาราโดน่า ออกแนวบอลชายเดี่ยว ส่วนเยอรมันมายกทีม แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 55 17:59:24 จากคุณ : MArs Volta เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 17:57:25

ความคิดเห็นที่ 4 มาราโดนา ขอให้สโมสรซื้อนักบอลมาช่วยเขา 2 คน ก่อนตกลงร่วมทีม นาโปลี คนแรก คือ กาเรก้า ศูนย์หน้าทีมชาติบราซิล คนที่2 คือ อเลเมา ในตำแหน่ง มิดฟีลด์ตัวรับ และ นาโปลียุคนั้น มีเซนเตอร์แบ็คดาวรุ่ง เด็กปั้นของสโมสร ชื่อ ชิโร่ แฟร์ราร่า จากคุณ : ใครสอน เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 17:58:31

ความคิดเห็นที่ 5 ก็มี กาเรก้า ของบราซิล ถ้าจำไม่ผิด มาราโดนาขอให้สโมสรซื้อตัวนี้มาด้วย อีกคนก็ อเลเมา ที่หน้าตาดูเกินอายุไปเยอะอยู่ นี่อ่ะครับ 3 ประสาน , มาราโดนา. , คาเรก้า และ อเลเมา ต่อสู้กับมิลาน ที่ผมเชียรในยุคนั้น ที่มี 3 ประสาน แวน(ฟาน)บาสเท่น , กุลลิต และ ไรการ์ด สุดยอดมากครับ บอลอิตาลียุคนั้น จากคุณ : iii เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 17:59:11

ความคิดเห็นที่ 6 Zola มาตอนช่วงปลายยุคมาราโดน่าแล้วครับ ช่วงนั้นที่แจ้งเกิดขึ้นมาในทีมชาติก็มี บาติโกล์ ที่ดังเป็นคู่กับแกก็ คานิกเกียร์ แต่ในนาโปลีนี่จำไม่ได้จริงๆ ครับ จากคุณ : กิ่งกัลปพฤกษ์ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 17:59:43

ความคิดเห็นที่ 7 ...ส่วนอินเตอร์ ก็มี 3 ประสาน เป็น แพ็คเยอรมัน  ประกอบด้วย มัธเธอุส , เบรเมห์. และ อืมมม ใครอีกคนหว่า??? ไม่แน่ใจว่า. คลินสมัน ป่ะ? แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 55 18:04:51 จากคุณ : iii เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 18:03:05

ความคิดเห็นที่ 8 สามทหารเสือดัตช์แห่งมิลาน... สามทหารเสือเยอรมันแห่งอินเตอร์... ฤาจะหาญกล้า...ต่อกรกับสามทหารเสือแห่งอเมริกาใต้แห่งนาโปลี มาราโดน่า-กาเรก้า-อเลเมา...ยุคนั้นนาโปลีไม่ธรรมดาเลยนะครับ แต่มาราโดน่าเด่นเจิดจรัสจริงๆ กองหน้ามีผู้ช่วยชั้นดีอย่างอันเดรีย การ์นาวาเร่... มีอะไหล่ชั้นดีอย่างดีเซลพลังจิ๋ว...จิอันฟรังโก้ โซล่า กองหลังมีเฟอร์นันโด้ เด นาโปลี...ชิโร่ แฟร์ราร่า...ชื่อชั้นถือว่าไม่เลวครับ เพียงแต่สมัยนั้น คู่ต่อกรของนาโปลีมันเขี้ยวลากดินเสียจริงๆ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 18:03:28

ความคิดเห็นที่ 9 คคห 7 อีกคน ก็ เจอเก้น คลินส์มัน ไงครับ จากคุณ : The God Fowler เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 18:06:31

ความคิดเห็นที่ 10 ... ตอนนั้น โรเบอร์โต้ บั๊กโจ้.  ยังอยู่ฟิออ อยู่มั้ง โรม่า ก็มีจอมทัพ. เอนโซ่ ฟานเชสโคลี่ ยืนอย่างเดียว ก็เท่แล้ว ลาซิโอ ก็มี เทพอุรุกวัย คนนั้น ?? ใครหว่า ดูบอลอิตาลีตอนนั้นนี่. มันลีครวมดาราโลกจริงๆ โดยดูจากเทป ช่อง 7 คืนวันอังคาร ... ผมว่าความเห็นผมอันนี้มัน มึนๆ นะ เหมือนสลับอะไรสักอย่าง 55 แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 55 18:14:14 จากคุณ : iii เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 18:12:29

ความคิดเห็นที่ 11 ใช่รูเบน โซซ่า หรือเปล่า เทพอุรุกวัย (รองจากฟรานเชสโคลี่) จากคุณ : เวลาในขวดเหล้า เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 18:41:07

ความคิดเห็นที่ 12 จริงๆ ยุค มาราโดน่าครองกัลโช่สั้นจุ๊ดจู๋แค่ปีเดียว ถ้าตามยุค ตั้งแต่ปี 1982 พลาตินี่และจูเวนตุส ครอบครอง กัลโช่อยู่ 4 ปี ต่อด้วย มาราโดน่าและนาโปลี 1 ปี ตามมาด้วย  รุด กุทลิทของมิลาน อีก 1 ปี จากนั้นถึงจะเป็นยุคสามทหารเสือมิลาน โดยมี สามทหารเสือเยอรมัน แทรกแซมขึ้นมาในช่วงสั้นๆอยู่ 1 ปี จากนั้นก็เป็นยุคมิลาน ของคาเปลโล่ ครอบครองกัลโช่ต่ออยู่อีกหลายปี (เป็นแชมป์กัลโช่ 4 ปีหรือเปล่าไม่แน่ใจ?) จากคุณ : นายเบื่อบอลอุด เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 18:49:14

ความคิดเห็นที่ 13 จอมทัพของ โรมา คือ จุยเซปเป้ เจียนนินี่ เจ้าชายหมาป่าครับ แล้วก็มี ฟัลเกา ของบราซิล จากคุณ : ใครสอน เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 18:55:13

ความคิดเห็นที่ 14 จำได้ว่าพอหมดมาราโดน่า มีโซล่า มาแทนที่...ลีลาแบบ เหมือนถอดพิมพ์มาเดียวกันเลย ทักษะสุดยอด ประมาณเป็นอาวุธลับที่นาโปลี เพาะบ่มมาเนิ่นนาน...เยส จากคุณ : archparty เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 19:05:07

ความคิดเห็นที่ 15 ผมว่ายุคนั้นทีมเล็กยังไม่ห่างกับทีมใหญ่มากเท่าชุดปัจจุบัน  เพราะกำหนดโควต้านักเตะต่างชาติได้แค่ 3 คน ที่เหลือก็เป็นนักเตะในประเทศหมด  ทีมใหญ่ๆ ก็ไม่ได้เปรียบมากเหมือนในยุคปัจจุบัน  เพราะมีเงินยังไงก็ส่งตัวต่างชาติลงได้แค่ 3 คน ผมว่าเอามาเปรียบเทียบกับทีมเล็กๆ ยุคนี้ไม่ได้  เพราะสมัยนี้กฎบอสแมนทำให้ทีมใหญ่กับทีมเล็กเกิดช่องว่างมากกว่าเดิมเยอะ จากคุณ : the gooner เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 19:37:13

ความคิดเห็นที่ 16 #12 มาราโดน่าได้แชมป์กัลโช่2ปีครับ คือปี 1986-1987 กับ 1989-1990 ซึ่งครั้งแรกือปี 1986-87 นี่แหละที่เค้ายกย่องมาราโดน่ามากว่าแบกทีมสุดๆ เนื่องจากทีมนาโปลีตอนนั้นยังไม่มีตัวดังๆเทพๆมากนัก พวกกาเรก้ากับอเลเมานั้นเข้าทีมมาหลังจากนั้นครับ โดยในปี1986-87 นี้มาราโดน่าแบกทีมพานาโปลีคว้าดับเบิ้ลแชมป์ทั้งสคูเด็ตโต้กับโคปปาอิตาเลียเลยทีเดียว มีอีกครั้งคือในปี 1987-1988 ที่เกือบจะได้แชมป์อยู่แล้ว เพราะทำคะแนนนำมาตลอด แต่มาราโดน่าดันมาเจ็บช่วง3-4นัดสุดท้าย ทีมชนะใครไม่ได้เลย เลยโดนมิลานแซงเข้าป้ายไปเฉย ซึ่งในปี 1987-88 นี่แหละ คือปีที่สุดยอดที่สุดของนักเตะที่ชื่อมาราโดน่า ฟอร์มโดยส่วนตัวเหนือกว่าทั้ง2ปีที่ได้แชมป์ด้วยซ้ำ แต่กลับพลาดแชมป์ลีก (ให้เปรียบเทียบก็คล้ายๆเมสซี่กับบาร์ซ่าปีนี้ ที่เมสซี่เล่นได้สุดยอดที่สุดในอาชีพค้าแข้งของเขา แต่กำลังจะพลาดแชมป์ลีกเช่นกัน) ส่วนปี 1988-1989 นาโปลีก็ยังได้ที่2ในลีกแพ้อินเตอร์ไป แต่ก็ได้แชมป์ยูฟ่าคัพปลอบใจ ตอบคำถาม จขกท. ช่วงเวลาที่มาราโดน่าร่ายมนต์ช่วงแรกๆ นาโปลีแทบไม่มีใครเก่งเลยครับ ในปีที่ได้แชมป์สคูเด็ตโต้ครั้งแรก นาโปลีมีนักเตะระดับทีมชาติแค่1คนเท่านั้นนอกจากมาราโดน่า เทียบแล้วยังสู้พวกทีมท้ายๆตารางในพรีเมียร์ตอนนี้ยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เพราะทีมเหล่านั้นยังมีตัวทีมชาติต่างๆอยู่ในทีมมากมาย แต่ตอนหลังๆ นักเตะดังๆหลายคนก็เข้าทีมนาโปลีมาเพราะแรงดึงดูดของมาราโดน่า สรุปคือ มาราโดน่าปั้นนาโปลีจากจากเริ่มเป็นทีมที่ไม่มีอะไรเลย ให้กลายเป็นยอดทีมได้ ภายในช่วงเวลาหลายปีที่เขาอยู่กับทีมครับ จากคุณ : ซาโนสุเกะ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 19:40:11

ความคิดเห็นที่ 17 กาเรก้า นี่ถือว่าเป็น ความหวังอันดับหนึ่งของ แซมบ้าบราซิล และเป็นศูนย์หน้าอันดับสองของโลกในยุคนั้น รองจากแวนบาสเท่นนะครับ เพียงแต่ความดีความชอบ อะไรๆ คนก็โยนให้ มาราโดน่า หมด ไม่ได้เห็นหัวนักเตะคนอื่นเลย เรื่องนี้ สาธยายไปก็เท่านั้น ถือว่าเป็นความพอใจที่จะเชื่อของคน ว่ามาราโดน่า แบกนโปลีทั้งทีม สู้กับ มิลาน แต่ลองเอารายชื่อ นักเตะนโปลี ยุคเฟื่องฟูมาไล่รายชื่อดู แล้วถอดมาราโดน่าออกไป จะเห็นเองนั่นล่ะ ว่านโปลี ทีมนั้น ก็ยังเป็นทีมละดับท๊อปของโลกอยู่ดี จากคุณ : ประมุขเฉียว เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 20:01:52

ความคิดเห็นที่ 18 คนยุคนี้ ยก-มาราโดน่า-ผีเท้าปานเทพยดา แต่ในยุคที่ผมดูบอล ผมยอมรับว่า มาราโดน่า เก่ง แต่ถ้าผมเป็นกุนซือ ผมไม่ยอมแลกกับ แวนบาสเท่น แน่นอน น่าแปลกใจมาก ที่คนยกนี้ ยกมาราโดน่า เหนือว่า มาร์โก้ แวนบาสเท่น จนสูงสุดขอบฟ้า จากคุณ : เล็กเรียว เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 20:14:27

ความคิดเห็นที่ 19 เฮ้อ คนเฒ่ามานั่งเล่าความหลัง จากคุณ : tauhoo เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 20:19:34

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่ได้ตามบอลอิตาลี จำได้แต่สปอนเซอร์ คือ Mars อร่อยดี คู่ขาเปเล่ต้องนู่นเลยครับ ทอสเทา ซิโก้น่าจะรุ่นโซเครติส จากคุณ : TheKop78 เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 20:30:19

ความคิดเห็นที่ 21 ซิโก้ ก็เคยดึงทีมด๋อยๆ อย่างอูดิเนเซ่ ขึ้นมาลุ้นแชมป์กับทีมที่มี สตาร์คับคั่งอย่าง จู๊ฟ ของพลาตินี่ เหมือนกันครับ เพียงแค่โชคร้าย ตรงทีมาขาหักในช่วงท้าย จนโดนพลาตินี่นำจู๊ฟแซงได้ทั้งแชมป์ และดาวซัลโว ฟัลเกา ด้วยความสามารถของเขาเป็นหลัก ก็เคยพาโรม่าเป็นแชมป์ นักเตะอย่าง รุมเมนิกเก้ ฟานเซสโค่ลี่ จูเนียร์ ก็เคยวูบวาบพาทีมขึ้นมาลุ้นแชมป์ ทันทีที่ย้ายมาร่วมทีมเหมือนกัน เพราะในยุคสมัยนั้น ทีมฟุตบอลเ่ล่นบอลสไตส์จอมทัพกันเป็นส่วนใหญ่ นักเตะเทพสามารถโชว์พาว์ออกมาได้เต็มกำลัง ซุปเปอร์สตาร์ของทีม สามารถชี้เป็นชี้ตายให้กับฟอร์มโดยรวมของทีมได้ คนมาติดตาบอลโลกปี 86 ที่ มาราโดน่า มาท๋อปฟอร์มจัด เอาตอนนั้นพอดี ในขณะที่ ซิโก้ และพลาตินี่ อยุ่ในช่วงโรย และไม่สมบรูณ์ สไตส์การเล่นของมาราโดน่าจึงถูกจดจำมาตลอด มาราโดน่า อาจจะเก่งจริง แต่ไม่ได้เลอเลิศ หรือเหนือชั้นจนเทียบกันไม่ได้ มากกว่ายอดนักเตะในยุคไล่ๆ กัน อย่าง พลาตินี่ ซิโก้ หรือ พวก แวนบาสเท่น มัสธีอุส แม้แต่ กาเรก้า ในทีมเดียวกัน จากคุณ : ป่วนกระโทก เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 20:55:00

ความคิดเห็นที่ 22 http://topicstock.pantip.com/supachalasai/topicstock/2011/06/S10674982/S10674982.html อ่านครับว่านาโบลียิ่งใหญ่เพราะมาราโดน่ารึไม่ จากคุณ : et009 เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 21:15:29

ความคิดเห็นที่ 23 ที่เค้ายกย่องมาราโดน่าเพราะ เลี้ยง ยิง จ่าย การยกระดับเพื่อนร่วมทีมสุดยอดทุกด้าน   พูดยังไงดีล่ะ คนอื่นๆที่ยกตัวอย่างมาก็เทพแค่บางด้าน  ยังมีใครที่ครบเครื่องเหมือนมาราโดน่าไหมครับ เอาใกล้เคียงหน่อยเรื่องครบเครื่องก็ซีดานกับพลาตินี่มั้ง แต่ยงไงก็ไม่ถึงขั้นมาราโดน่าอยู่ดี ผมแฟนอินเตอร์ เยอรมัน  แน่นอนว่าไม่อยากอวยมาราโดน่า แต่ความจริงก็คือความจริงครับ   ลองเอาคนที่คิดว่าเจ๋งๆไปใส่แทนมาราโดน่าในทีมชาติอาร์เจนติน่าและนาโปลีเถอะครับ รับรองว่าผลออกมาไม่ถึงที่เสือเตี้ยทำไว้แน่ๆ จากคุณ : ice-gooner เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 21:19:48

ความคิดเห็นที่ 24 ความจริงเป็นไงไม่รู้ รู้แต่ผมไม่ลืมที่มาราโดน่า เลี้ยงแหวกตรีนทีมชาติอังกฤษตั้งแต่ครึ่งสนาม บุ๊ทเชอร์หัวทิ่มหัวตำยิงผ่านมือชิลตั้น...อย่างเทพ นี่เป็นภาพที่ทำให้ผมชอบฟุตบอล จากคุณ : archparty เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 22:38:35

ความคิดเห็นที่ 25 ภาพที่ติดตา  หรือภาพจำของ มาราโดน่า คือ นักเตะที่ตัวไม่ได้สูงใหญ่ เป็นนักเตะตัวเตี้ย ป้อม ๆ  ตัน ๆ  ที่โดนเขาไล่เตะ กลิ้งไป กลิ้งมา แต่ก็ยังครองบอลเอาไว้ได้   เป็นนักเตะที่่สามารถเลี้ยงบอลได้หลายสปีด  และวางบอลได้แม่นมาก  ไม่ว่าจะโยน หรือ เรียกตรีนมารุม เพื่อเปิดบอลให้เพื่อนหลุดเดียว  หรือ ยิงฟรีคิกเข้าสามเหลี่ยม เขาทำได้จริง ๆ ซึ่งก่อนหน้านั้น และจนบัดนี้ ยังหาใครทำแบบเจ้าเตี้ยคนนั้นไม่ได้จริง ๆ โซล่าที่ว่าเทพ ถอดแบบมาก็  ยังเรียกว่าห่างอีกเยอะ  หรือจะเป็นเมสซี่ ที่ว่าเก่ง คล่อง ทักษะดี แต่ถ้าเคยได้ดู มาราโดน่าแล้ว ก็เหมือนเอาเด็ก ม. 4 ไปเทียบกับ ป โท บางทักษะเมสซี่อาจจะเหนือกว่า มาราโดน่าด้วยซ้ำ แต่ที่ทำให้แตกต่างและเหนือชั้่นกว่ากันเยอะ คือ สมอง และความเจ้าเล่ห์ ที่เห็นด่าซัวเรสกัน บอร์ดแทบแตก  ขอโทษครับ  ยังไม่ได้ขี้เล็บของมาราโดน่าเลยนะจะบอกให้ จากคุณ : llwu เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 23:35:27

ความคิดเห็นที่ 26 ตอบ จขกท  ถามว่า"สมัยนั้นไม่มีคู่ขาเลยหรอครับ" ที่พอจะนับเป็นคู่ขา  น่าจะเป็น คานิเกีย  เพราะจะเหมาะกับ นักเตะแบบมาราโดน่าเป็นอย่างมาก มาราโดน่าที่มีคานิกเกีย ก็เหมือนเสือติดปีก    เพราะ เป็นนักเตะที่มีความเร็วสูง และรู้วิธีวิ่งทะลุช่อง ตัดกองหลังเป็นอย่างดี แต่จริง ๆ นะ  ต่อให้กองหน้า ควายแค่ไหน ถ้าได้เล่นกับมาราโดน่า ก็เป็นเทพได้ทั้งนั้นแระ จากคุณ : llwu เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 23:44:49

ความคิดเห็นที่ 27 ^ เห็นด้วยครับ มาราโดน่าเป็นคนที่สร้างความต่างให้กับทีมได้ ครั้งที่อาร์เจนชนะบราซิลในบอลโลก นัดนั้นผมจำได้ว่าบราซิลเป็นต่อเยอะมาก และตอนแข่งก็แทบพับสนามเลย ในขณะที่อาร์เจนก็ตั้งรับวิ่งไล่อย่างเดียว แต่สุดท้ายมาราโดน่านี่แหละที่เลี้ยงหลอกพากองหลังมารุมแก 3 คน แล้วแกก็จ่ายทะลุให้คานิกเกียเข้าไปยิง เขี่ยบราซิลตกรอบเฉย โอกาสเดียว จังหวะเดียวเลยจริงๆครับ สุดยอดมาก จากคุณ : Mea Culpa เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 02:11:11