จริงๆ นึกๆ อยู่ว่าจะยอกย้อนตอกกลับคห.บนๆ เพราะคงรู้ๆ กันดีว่ามันตอกกลับกันได้ง่ายมาก แหม แต่ละทีมก็เหวอะหวะกันทั้งนั้นอยู่แล้ว แต่เชื่อหนมกินได้เลยว่าถ้าผมจวกออกไปตอนนี้ ก็ไม่แคล้วก็ต้องมีคนย้อนว่า เนี่ย มีแฟนผีเกรียนก่อน เห่า เจือกเรื่องของทีมผมก่อน บลาๆ ๆ สรุป หากเจอเกรียน ไร้ประโยชน์จะรื้อฟื้นอะไร ก้มๆ หน้าไป เดี๋ยวอาทิตย์หน้าก็มีทู้ใหม่เอง ไม่งั้นจบฤดูกาลก็ตัวใครตัวมัน เออ แต่ว่าไปทู้แบบนี้ก็ดีอย่าง ดูกิ๊ฟที่แต่ละคนให้ก็ช่วยให้รู้จักกันเย้อออขึ้น ;-) ส่วนผม เซ็ง เสียดาย ที่ตกรอบครับ แต่ทำไงได้ ตอนนี้ต้องคิดถึงโปรแกรมต่อไปแล้ว มีเมื่อวานก็มีพรุ่งนี้ ก็ต้องพยายามหาข้อผิดพลาดแล้วไม่ทำซ้ำ แต่ตอนนี้ก็ต้องมองโลกในแง่ดีไว้ก่อน เรื่องที่ว่าอย่างน้อยก็ได้หันมามุ่งมั่นในเกมลีกให้เต็มที่ อันนี้ถึงได้พูดกัน ไม่ใช่ว่าเลือกได้จะอยากตกรอบเพื่อลีค โถ ไม่ใช่ เพียงแต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ชีวิตไม่ก้าวเดินต่อไปก็จมอยู่กับประวัติศาสตร์พระเจ้าเหาอยู่นั่นแหละ ส่วนที่ว่า "ไม่เน้น" ก็คงไม่ถึงขนาดนั้น เพียงแต่มันมีให้ใช้เท่านี้ กล้าๆ บอกกันมั้ยว่า ราฟาเอล, ปาร์ค, เคลฟเวอร์ลี่ย์ นี่ตัวจริง? ซึ่งถ้วยยุโรปปีนี้ผีก็มาชุดนี้ตลอด และก็ห่วยเกือบตลอด เอาสถิติมาลงนานแล้ว ขี้เกียจขุด ก็อย่างที่บอก ไม่ใช่ไม่เน้น แต่มันจำเป็นต้องเวียน และถามว่าการเล่นเก้าอี้ดนตรีแบบนี้มีผลต่อฟอร์มไหม? ลองถามทีมตัวเองถ้าเปลี่ยนตัวสำรอง 3-4 คนลงดูก็แล้วกัน ก็ไม่รู้ครับ ทีมอื่นเขาอาจจะถือว่าสำรองลงก็คือจัดเต็ม ต้องส่งเด็กอคาเดมี่โน่นถึงค่อยมีผลต่อฟอร์ม เอาสักหน่อยก็ได้ จาก 10 เกมในถ้วยยุโรป (UCL 6, UEL 4) ของแมนฯยูปีนี้ นักเตะกลุ่มเด็ก&สำรอง ที่ลง (จำนวนนัด) โจนส์ 9 เด เคอา, อีวานส์ 8 ฟาบิโอ, สมอลลิ่ง, ปาร์ค, ชิชาริโต้ 7 เวลเบ็ค 6 เบิร์บ 4 ราฟาเอล, เคลฟเวอร์ลี่ย์, แอนเดอร์สัน 3 ลินเดการ์ด 2 โอเว่น, ป๊อกบา, ฟรายเออส์, มาเคด้า 1 ทีนี้กลุ่มหลักๆ บ้าง ก็ลงกันเยอะเหมือนกัน นานี่ 8 รูนี่ย์, เอฟร่า, ยัง 7 วาเลนเซีย, เฟอร์ดินานดิ์, คาริค 6 กิ๊กส์ 5 วีดิช, สโคลส์, เฟลทเชอร์ 2 ก็คงพอจะเห็นภาพคร่าวๆ ได้ว่ามีก๊วนแถวสองลงไปมีส่วนร่วมในถ้วยยุโรปของยูไนเต็ดไม่น้อย ซึ่งก็มีหลายเหตุผล ไม่ว่าตัวจริงเจ็บ-ไม่ฟิต, หลีกทางให้เกมลีก, หรือต้องการเปิดโอกาสให้พวกดาวรุ่ง-สำรอง แต่คงไม่ใช่เพราะประโยคเด็ดตอนนี้อย่าง "ไม่เน้น" อะไรนั่นหรอกครับ ถามว่าเป็นเหตุผลทั้งหมดของความห่วยมั้ย ไม่หรอกครับ มีหลายปัจจัย แต่ถามว่ามีผลมั้ย มี ไหนๆ พูดแล้วปีนี้ที่เกมรับยูไนเต็ดห่วยบรมในทุกรายการทั้งในบ้านนอกบ้าน ผมว่าการเสีย วีดิช กับ ฟานเดอร์ซาร์ ไปมีผลมากเลย แถมริโอก็โรยราแถมเจ็บซะเยอะอีก รุ่นใหม่ๆ ก็ได้แค่สีสัน วูบวาบเป็นพักๆ ที่ชมๆ โจนส์ หรือ สมอลลิ่ง นี่ไม่ใช่ว่าไม่มีช่วงบ่อนะ ออกทะเลกันหนุกหนานเลย ยิ่งราฟาเอลนี่หาฝั่งแทบไม่เจอแล้วมั้ง สุดท้ายสำหรับแฟนผีผู้ช้ำชอกด้วยกัน ผมเอาบทความที่แปลไว้ก่อนหน้านี้มาฉายซ้ำอีกครั้ง ผมว่ามันมีประโยชน์และให้ข้อคิด แกรี่ เนวิลล์ "เรียนรู้บทเรียนอันล้ำค่า" หลังจากประสบการณ์กว่าเกือบ 2 ทศวรรษในฟุตบอลยุโรปของ แกรี่ เนวิลล์ ตอนนี้เจ้าตัวได้รำลึกถึงบทเรียนคุ้นตาที่บรรดาเด็กๆ ของอดีตต้นสังกัดกำลังเรียนรู้อยู่ในขณะนี้ พร้อมแนะให้เก็บเกี่ยวไว้เป็นประโยชน์ในระยะยาว "ผมคิดว่าพวกบรรดาดาวรุ่งทั้งหลายจะพัฒนาขึ้นมาอีกเยอะเลยจากฤดูกาลนี้" "นักเตะอย่าง สมอลลิ่ง, โจนส์, ราฟาเอล, ฟาบิโอ, เคลฟเวอร์ลี่ย์ และ เด เคอา จะได้เรียนรู้ประสบการณ์ต่างๆ ที่ประเมินค่าไม่ได้ ตอนสมัยที่ผมและดาวรุ่งคนอื่นๆ ในยุคนั้นเริ่มเดินทางตระเวนแข่งทั่วยุโรป เราก็เป็นเหมือนพวกเค้า" "เกมแรกที่ผมได้ลง เราต้องตกรอบถ้วยยุโรปด้วยฝีมือของ ตอร์ปีโด มอสโคว์!" "มันมีรายละเอียดและเรื่องที่คุณต้องใส่ใจในเกมยุโรป คุณกำลังพูดถึงฟุตบอลที่ความผิดพลาดแค่ไม่กี่นิ้วก็สำคัญ หลุดตำแหน่งแค่ไม่กี่หลาก็เสียหายได้ ในขณะที่ในพรีเมียร์ลีกคุณอาจจะรอดตัวไปได้บ้าง" "ในถ้วยยุโรปนั้นคู่แข่งจะไร้ความปราณีและเฉียบคมมากหน้ากรอบเขตโทษ และคุณอาจจะต้องพบว่าไม่สามารถจะประกบตัวใครได้เลยเกือบตลอดทั้งเกมเพราะพวกเขาจะพยายามสอดแทรกหาที่ว่างระหว่างคุณเสมอ ดังนั้นมันเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก" "ผมเองก็จำสมัยที่ผมยังเป็นดาวรุ่งได้ มันเป็นอะไรที่คุณจะเป็นต้องฟันฝ่ามันไปให้ได้ เราก็ถูกพาไป "เข้าโรงเรียน" ด้วยการเล่นเกมถ้วยยุโรปอยู่ 3 ปี ระหว่าง 1996 ถึง 1999 ซึ่งส่วนมาก "ครู" ในตอนนั้นมักจะเป็น ยูเวนตุส และประสบการณ์แบบนี้แหละที่กำลังถูกสอนให้พวกดาวรุ่งของเราในตอนนี้อยู่" "เรามีดาวรุ่งหลายคนในทีมชุดนี้ ลองดู 11 ตัวจริงที่ได้ลงเจอกับ อาแจ็กซ์ ที่ โอล แทร็ฟฟอร์ด ดูก็ได้ ซึ่งนี่ถือเป็นการเรียนรู้ก้าวใหญ่ของพวกเด็กๆ จริงๆ ตัวผู้จัดการทีมเองเคยพูดประโยคที่ผมกำลังจะพูดนี้ในห้องต้องตัวมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ว่า" "เมื่อไหร่ก็ตามที่นายคิดว่านายทำได้โอเคแล้วในเกมยุโรป เมื่อนั้นแหละคือเวลาที่นายต้องเริ่มเดินเครื่อง เพราะนายอาจจะคิดว่าตัวเองทำได้ดีแล้ว แต่แล้วจู่ๆ จากที่นำอยู่ 1-0 ก็อาจต้องกลับมาแพ้ 1-2 ได้ภายใน 5 นาที" "ซึ่งแม้กระทั่งในช่วงท้ายของชีวิตค้าแข้งของผมแล้วผมก็ยังได้พบสัจธรรมข้อนี้อยู่เลย ผมเคยลงแข่งกับ บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงอายุกลางๆ 30 แล้ว และเรากำลังจะชนะ แล้วจากนั้นผมก็ทำเสียฟรีคิกจากแฮนด์บอลโง่ๆ ของผมที่กรอบเขตโทษ แล้วพวกเขาก็ได้ประตูจากฟรีคิก ก่อนที่อีก 5 นาทีต่อมาพวกเขาจะทำประตูเพิ่มได้อีกและทำให้เราแพ้ในเกมเล่นได้สบายมาตลอด" "แม้จะอายุ 30 กลางๆ เข้าไปแล้วพวกเขาก็ยังทำให้คุณผิดพลาดได้อยู่ ลองนึกถึง บาเยิร์น มิวนิค ที่พวกเราเอาชนะและคว้าทริปเปิ้ลแชมป์เมื่อปี 1999 ดู พวกเขาคือหนึ่งในทีมที่มีประสบการณ์มากที่สุดในเวทียุโรป แต่แล้วโลกของพวกเขาก็พังทลายลงในเวลาแค่ 3 นาที" "ต้องถือว่ามันเป็นความล้มเหลว กับการที่ได้เข้าชิงมา 3 ครั้งในรอบ 4 ปีแล้วต่อมากลับตกแค่ที่รอบแบ่งกลุ่ม แต่เรื่องนี้จะเป็นประสบการณ์ล้ำค่าสำหรับพวกดาวรุ่ง ผมจะไม่แปลกใจเลยถ้าผู้จัดการทีมจะเลือกพวกเด็กๆ อีกครั้งในการพบกับ บิลเบา เพราะพวกเด็กๆ กำลังต้องการประสบการณ์ และยังเพราะว่า พรีเมียร์ลีก คือเป้าหมายที่สำคัญเป็นอันดับหนึ่งอีกด้วย บางทีผู้จัดการทีมอาจจะคิดว่าควรให้พวกดาวรุ่งไปเรียนรู้จากเกมยุโรปทุกปีๆ เพื่อให้พวกเขาได้พัฒนาประสบกาณ์จริง" "ทางเดียวที่คุณจะเรียนรู้เกี่ยวกับฟุตบอลยุโรปได้คือต้องลงเล่นจนไปถึงจุดที่คุณเริ่มซึมซับเอาบทเรียนต่างๆ เหล่านั้นมาได้" "ผู้จัดการทีมรู้ดีว่าเขามีดาวรุ่งที่ฉายแววโรจอยู่หลายคน ที่ซึ่งจะได้อยู่กับสโมสรไปอีกหลายปี และผมคิดว่าปีนี้แทบจะเปรียบได้เหมือนการก้าวถอยหลังหนึ่งก้าวเพื่อก้าวหน้าต่อไปในถ้วยยุโรป ในที่สุดแล้วคุณก็จะได้ผลตอบแทนจากน้ำพักน้ำแรงของคุณ และเด็กๆ พวกนี้ก็มีแววรุ่งมากๆ แต่ตอนนี้มันยังเป็นเรื่องของการเรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปก่อน" เกมหน้าถ้าไม่ชนะวูลฟ์นี่มีงานงอกหนักๆ เลยนะเนี่ยแฟนผีเรา 
จากคุณ |
:
art_sarawut
|
เขียนเมื่อ |
:
16 มี.ค. 55 14:13:25
|
|
|
|