ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนที่เคลฟเวอรี่จะเจ็บไป ผมว่าฟอร์มเจ๋งมากเลยนะครับ จากคุณ : shobajung เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 07:26:44

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่ลงไปแปะตอบกระทู้ด้านล่างที่มีอยู่แล้วล่ะครับ จากคุณ : PomVoy เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 07:29:11

ความคิดเห็นที่ 3 อธิบายหน้าที่ ของคาริกได้แหล่มเลยครับ นึกภาพตามได้เป็นฉากๆเลย จากคุณ : Eglewood เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 07:39:25

ความคิดเห็นที่ 4 เพราะว่าผมอยากแชร์ให้หลายๆคนได้อ่านด้วยหน่ะครับ คราวหลังผมจะไปโพสตอบกระทู้แทนละกันครับ ขอโทษด้วยครับ จากคุณ : phinixer เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 07:42:49

ความคิดเห็นที่ 5 สำคัญๆ เข้าใจว่าคาริคเป็นตัวประกอบอยู่ตั้งนาน จากคุณ : หนุ่มเหนือหนาวใจ เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 07:46:34

ความคิดเห็นที่ 6 ใช่แล้วครับ ตำแหน่งแกเป็นตัวเชื่อมเกมส์ ไม่ใช่มิดฟิลล์ตัวรุกโดยตรงเพราะแต่ละเกมส์แทบจะไม่เห็นคิลเลอร์พาส และแกก็ไม่ใช่พวกตัวรับด้วยเพราะแทบจะไม่เข้าเสียบสกัดบอลเลย เป็นตัวโฮลบอลแล้วจ่ายให้ตัวอื่นที่ตำแหน่งดีๆ เอาไปเล่นต่อ แกก็เลยเหมือนวิ่งเยอะๆ แถวๆ กลางสนาม สังเกตดูสิครับ พี่แกไม่ต้องวิ่งเป็นหน้าเป็นหลัง ได้บอลพี่แกก็นิ่งมาก แล้วแปะต่อง่ายๆ เพียงแต่เมื่อก่อนช่วงพีคๆ พี่แกยิงได้ด้วยแต่เด๋วนี้นานๆ ทีจึงจะยิง จากคุณ : Always Red เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 07:58:13

ความคิดเห็นที่ 7 ได้ความรู้เพิ่มแฮะ  เรา จากคุณ : หมู ชก.53 เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 07:58:36

ความคิดเห็นที่ 8 ผมเข้าใจบทบาทของคาร์ริกนะครับ เข้าใจด้วยว่าสำคัญยังไงในการขับเคลื่อนทีม แต่ผมว่าความสามารถของคาร์ริกมันยังไม่พอจะไปสู้ในเวทียุโรปครับ ถ้าเทียบกับนักเตะที่ จขกท. ยกตัวอย่างมา จะเห็นว่าพวกนั้นจะเอาตัวรอดได้ดีเวลาถูกเพรสซิ่งครับ จะด้วยความสามารถเฉพาะตัวที่ดีหรืออย่าไงก็ตาม แต่นักเตะเหล่านั้นจะสามารถพลิกบอลหลุดออกจากการโดนเพรสซิ่งได้ครับ ซึ่งเรื่องแบบนี้ผมไม่เห็นในตัวคาร์ริกหรือในกองกลางแมนยูสักคน (สโคลส์พอได้แต่แก่แล้วไม่ปราดเปรียวเหมือนหนุ่มๆ สังเกตุได้ว่าจะโดนฉกแย่งบอลให้เห็นเป็นระยะๆ) ทีมชุดนี้โดนเพรสซิ่งในเวทียุโรปทีไรเสียบอลทุกทีครับ เต็มที่ก็จ่ายคืนหลังสุดท้ายก็สาดโด่งไปให้คู่ต่อสู้เก็บบอลไปเล่น อีกประเด็นที่ผมอยากให้มีในตัวมิดฟิลด์เชื่อมเกมส์แบบคาร์ริกคือ ความคิดสร้างสรรค์ในการเล่น และลูกทีเด็ดทีขาดครับ ผมไม่ได้ต้องการเห็นการจ่ายทะลุช่องที่มหัศจรรย์ระดับ ซีดาน ชาบี้ หรือริเกลเม่ แต่มันควรจะมีคุณสมบัติเหล่านี้บ้างหรือไม่สำหรับกองกลางตัวกลางที่ต้องสู้ศึกระดับทวีป ทั้งนี้ผมชอบในตัวคาร์ริกนะครับไม่ใช่ไม่ชอบ เพียงแต่ผมมองว่าเค้าดีพอสำหรับยูไนเต็ดในประเทศ แต่ยังไม่ดีพอสำหรับยูไนเต็ดในเวทียุโรปครับ ปล.ความเห็นส่วนตัวผมยังต้องการกองกลางระดับโลกเข้าทีมเพิ่มครับ ผมหวังกับกองกลางดาวรุ่งของเราเอาไว้มากครับ เพียงแต่นักเตะระดับโลกจะช่วยเราได้มากในเวทียุโรป รวมถึงประสบการณ์และรูปแบบการเล่น ที่จะสามารถถ่ายทอดให้กับกองกลางดาวรุ่งของเราครับ เพราะผมเชื่อว่าไม่มีบทเรียนและหลักสูตรใดที่จะดีกว่าการได้ร่วมทีมและซึมซับวิธีการเล่นจากนักเตะที่เก่งกว่าตนครับ จากคุณ : ป้อแป้เป็นเยลลี่ปีโป้ เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 08:09:32

ความคิดเห็นที่ 9 #5 ก็ตัวประกอบนั่นแหละครับ เข้าใจได้ถูกต้องแล้ว แต่ตัวประกอบก็สำคัญพอๆกับตัวเอก ลองหนังที่ไม่มีตัวประกอบสิ จะรู้ว่ามันไม่สนุกเลย จากคุณ : IceRose เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 08:36:42

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นด้วยกับ คห บนครับ ตำแหน่งที่พอพาบอลไปได้ด้วย เล่นง่ายและเร็ว ผมคิดว่า เคลฟ กับ ปอกบาพอทำได้ครับ อาจจะไม่ใช่ ปีสองปี แต่สองคนนี้มีโอกาสพัฒนาเป็นมิดฟิลดิ์เวิลคลาสได้ แต่คนเดียวทำทุกอย่างคงไม่ได้ครับ แต่ผมเชื่อว่า พอหมดยุค คาริคหรือ สโคลล์เองป๋าอาจจะเปลี่ยนสไตล์เป็นกลางฉาบฉวยเหลือปีกตัวเดียวก็ได้ หรืออาจะหน้าสาม หรือหลางห้า ก็ว่ากันไปครับ ผมว่านี่คือสิ่งที่ป๋าทำมาตลอด ไม่ได้เล่นแผนเดิมๆตลอดทุกๆปี ป๋าจะปรับสไตล์ตามตัวที่มีตลอดครับ จากคุณ : แข้งบวม เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 08:41:12

ความคิดเห็นที่ 11 อธิบายได้เห็นภาพมากครับ สโคลส์ + คาร์ริก เป็นอะไรที่ลงตัวที่สุดแล้วครับเมื่อ 1-2 ฤดูกาลก่อน จากคุณ : CHAMP19NS เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 08:46:09

ความคิดเห็นที่ 12 ชอบกระทู้แบบนี้จังครับ :) รูปแบบการเล่นเมื่อตอนช่วงต้นฤดูกาล ที่เรา ได้เห็น เคลฟเวอรี่ เล่นกะ แอนเดอสัน มันคือ รูปแบบการเล่นใหม่ที่ ป๋ากี้ พยายามจะสร้างใหม่ มันรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนที่ ที่เยอะกว่าเวลามี คาร์ริค ลงคุมแดนกลาง แต่หลังจาก น้องเคลฟ แกเจ็บไป ทรงบอลเร็วแบบนั้นเลยหายไป เลยกลายเป็นช่วงฟอร์มสะดุด T__T แล้วเหมือนผม เคยได้ยินความเห็นของ ป๋ากี้ แกพูดเกี่ยวกับคาร์ริค อย่างนึงว่า จะเป็นคนที่เริ่มเล่นดี ก็เมื่อตอน กลางๆไปถึงปลายๆฤดูกาล ช่วงต้นๆฤดูกาล ลุ่มๆดอนๆ ตลอดศก 555+ จะว่าไปแล้ว ก็อยากเห็น กองกลางระดับโลก กะเค้าบ้างนะเนี่ย จะได้เข้ามาช่วย ยกระดับให้ น้องเคลฟ ให้เก่งขึ้นอีก จากคุณ : gifie เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 08:49:07

ความคิดเห็นที่ 13 ก็เก่งครับในลีคตัวเองนะ จำได้เลยเคยมีคนวิเคราะห์ไว้ว่าในตัวแบบนี้ของเรานี่ในประเทศพอไหวแต่นอกประเทศจะเน่า ซึ่งมันก็เป็นดังคาด จากคุณ : qerlic เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 09:27:14

ความคิดเห็นที่ 14 วิเคราะห์ได้ดีครับ  กองกลางที่ดีไม่จำเป็นต้องวิ่งไล่บี้ ไล่เสียบคู่แข่ง หรือเลี้ยงบอลเทพๆ ก็ได้  เล่นง่ายๆ แต่มีประสิทธิภาพกับทีมก็พอแล้ว เป็นคนที่ออกบอลได้เร็วไม่ต้องครองบอลนาน ทำให้เกมไหลลื่น   บางครั้งยังเห็นแฟนแมนยูหลายคนบ่นคาริคว่าไม่วิ่งไล่บอล  ก็สไตล์การเล่นเค้าเป็นแบบนี้จะให้ไปเล่นในแบบที่ไม่ถนัดผลมันก็คงไม่ดีเท่าไหร่ จากคุณ : the gooner เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 09:29:24

ความคิดเห็นที่ 15 ผมว่าจริงๆเนี่ย ผมว่ามันเป็นเรื่องของวิธีการเล่นแล้วก็รูปแบบของเกมมากกว่านะครับ ตอนได้เเชมป์ยุโรปล่าสุดก็มีคาริคอยู่ในทีมด้วย แถมเป็นตัวหลักอีกต่างหาก คู่กับฮากรีฟ แล้วผลงานที่ผานมา ก็เล่นยุโรปได้ดี ถ้าดูจากผลงานของทีมโดยรวม แต่ปีนี้ที่ดูดรอปไป ก็อย่างที่บอก เพราะว่าฟอร์มการเล่น ของทีมโดยรวมมันตกลง แล้วสโคลก็ไม่อยู่ ดังนั้นแดนกลาง แกก็ต้องรับภาระหนักขึ้น เป็นธรรมดา ถามว่าเคลฟเวอรี่ กับแอนเดอสัน แทนสโคลได้หรือเปล่า ผมคิดว่าไม่น่าได้เพราะว่าเป็นคนละแนวกับสโคล สองคนนั้นมันจะเป็นสใตล์  box to box มากกว่า เป็นพวกที่ใช้การเคลื่อนที่เข้าเชื่อมเกม แต่ไม่ใช่ ครอสบอลเปลี่ยนเกม หรือบงการเกมจากด้านหลังครับ เวลาโดนสวนเนี่ยคาริคก็ต้องรับภาระหนักกว่าที่จำเป็น เพราะว่าอย่างที่บอกคือ ทีมที่ใช้ box to box midfield เนี่ย เกมจะทะลุไปข้างหน้าเร็วครับ โอกาสโดนสวนก็มีได้ตลอดเหมือนกัน แล้วตรงกลางก็จะเหลือแค่คนเดียว คือตัวรับหรือตัวโฮลบอล ถามว่าฟอร์มขณะนี้ ถือว่าดีหรือเปล่า ฟอร์มตอนนี้ ผมว่าดาวไปเยอะครับ อย่าลืมว่าแกก็31 แล้วนะครับ ไม่สดเหมือนแต่ก่อนแล้ว แมนยูยังต้องการมิดฟิลอีกตัวแน่นอนครับ ถ้าได้โมดริชมาเนี่ย จะดีมากมากเลยครับ จากคุณ : phinixer เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 10:08:39

ความคิดเห็นที่ 16 ไบรอัน ร็อบสัน สมัยก่อนก็แบบนี้แหล่ะครับ วิ่งหาตำแหน่ง คอยเชื่อมเกม ช่วยแปะบอลไปมา แต่ร็อบสันจะมีลูกทะลุทะลวง ขึ้นไปสอดยิงแดนหน้า หรือขึ้นไปยิงแถวสองได้ด้วย จากคุณ : PEDestrain เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 10:11:46

ความคิดเห็นที่ 17 แกเป็นมิดฟิลด์คุมจังหวะเกมด้วยครับ คือดูโมเมนตัมการเล่นว่าควรบุกทางฝั่งไหน ควรช้าควรเร็ว เป็นมันสมองของทีม หน้าที่แกไม่ใช่รุกเต็มสูบ หรือ รับเต็มที่ ดังนั้นอย่าไปคาดหวังกับสิ่งที่แกไม่ได้เป็นเลยครับ เรื่องการเอาตัวรอดผมว่าแกดีนะ เจอไล่บี้แกก็บังบอลพลิกบอลได้ดี แต่ไม่มีลูกกล้าเลี้ยงกล้าล็อค ซึ่งตรงนี้ต่างจากนักฟุตบอลระดับท็อปพอสมควร ซึ่งตรงนี้ทำให้เกมเกิดความต่างได้ เนื่องจากจะดึงตัวประกบได้คนถึงสองคนเป็นอย่างต่ำ ทำให้มีพื้นที่ว่างให้นักเตะคนอื่นทำเกมได้ง่ายขึ้น การเล่นสไตล์นี้ของคาร์ริกคงจะเล่นได้อีกนาน รวมถึงสภาพร่างกายน่าจะเจ็บน้อย อยู่ประคองรุ่นน้องได้อีกนานครับ จากคุณ : mayerboss เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 10:53:12

ความคิดเห็นที่ 18 นึกถึงจังหวะที่กองหลังตัดบอล  มาเข้าทางคาริค คาริคดึงจังหวะเล็กน้อย  แล้วส่งให้กองหลังเปิดเกม ถ้าได้กองหลังที่เปิดเกมได้ดี  ทีมจะได้ประโยชน์จากคาริคเต็มที่ จากคุณ : ชาวบางนา เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 11:04:58

ความคิดเห็นที่ 19 ทักษะการเป็น มิดฟิลด์โฮสบอล คาร์ริค ผมว่า มีทุกอย่างเลยนะ อย่างที่หลายๆคนบอก คาร์ริค อาจไม่ใช่คนที่มีทักษะ ในการเอาตัวรอด 1-1 มากนัก แต่ จังหวะที่ต้องเน้นเกมส์รับ เค้าทำได้ดีนะครับ ทั้งโหม่ง ทั้งทางบอล แกเล่นเข้ากับกองหลังได้ดี แต่จะไม่ค่อยเห็นการเข้าไปบล๊อคลูกยิงไกล เพราะเค้าค่อนข้างช้า อีกอย่างที่ไม่เห็นคือ ลูกยิงไกล ถ้าถามว่า อยากได้คนที่ดีกว่าคาร์ริค ...ผมอยากได้ บาสเตียน ชไวนสไตรเกอร ครับ ที่เยอรมัน ถล่ม อาร์เจน ผมว่า ก็เพราะคนนี้แหละ จากคุณ : สักวันฉันจะอ้วนกลม เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 11:34:54

ความคิดเห็นที่ 20 วิเคราะห์ได้เด็ดขาดมากครับ ผมว่า คาร์ริคเป็นคนที่จ่ายบอลจากแถวลึก ได้ดีเป็นอันดับต้น ๆ ของลีคเลยนะ คาร์ริค เป็นคนที่ไม่เด่น แต่ทีมก็ขาดเค้าไม่ได้ จากคุณ : air007 เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 12:56:39

ความคิดเห็นที่ 21 อ่านเพลิน จนขอเป็นแฟนคลับคาร์ริกเลยทีเดียว แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 55 13:25:52 จากคุณ : คาร์ริคพระเอกตัวจริง (โทโมะจัง) เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 13:25:38

ความคิดเห็นที่ 22 ครับพี่ จากคุณ : WiseChocolate เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 55 15:28:55