 |
ขอบคุณจขกท.มากค่ะ และขออนุญาตพิมพ์นะคะ ผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยค่ะ
********
มันเป็นช่วงเวลาคริสต์มาส เป็นเวลาหนึ่งปีมาแล้ว ที่ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มผิดพลาดไปอย่างมหันต์ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ในวันที่ 21 ธันวาคม เราต้องเปิดบ้านต้อนรับความพ่ายแพ้อย่างไม่น่าเชื่อ เป็นครั้งแรกของฤดูกาลในนัดเจอกับอาร์เซนอล ชาร์ลี นิโคลัส เป็นผู้สร้างความหายนะแก่พวกเขาทั้งปวง ด้วยประตูเพียงประตูเดียวจากฝีเท้าของเขา
และในวันบอกซิ่ง เดย์ เราต้องมาพ่ายแก่อีเวอร์ตันอีก3 - 1 ...ความพลาดหวังจากสิ่งที่สวยสดงดงามตามที่เราได้คาดคิดกันเอาไว้ชักเริ่มส่อนัยให้เห็นกันบ้างแล้ว
แต่ในคริสต์มาสนี้ ทุกสิ่งกลับตาลปัตรเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้งหนึ่ง ตามที่ผมได้ทำนายทายทักไว้ก่อนหน้านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มที่จะเดินไปตามวิถีทางที่ควรจะเป็นสำหรับพวกเราชาวแมนฯยูฯ
อะไรที่เริ่มที่เข้าที่เข้าทางบ่งบอกถึงความสำเร็จของครึ่งหลังฤดูกาลอย่างไม่ต้องสงสัย ภายใต้การคุมทีมของผจก.ทีมคนใหม่ อเล็กซ์ เฟอร์กุสัน ที่เหยียบย่างเข้ามาอยู่ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นเดือนที่สองแล้ว
เขาเป็นคนทำให้เราเห็นข้อแตกต่างอย่างชัดแจ้งจากการทำงานอย่างบ้าคลั่ง ไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อยของเขา เพื่อบริหารทีมให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
เฟอร์กี้ปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเห็นผู้เล่นทุกคนมอบชีวิตจิตใจอุทิศให้แก่สโมสรอย่างเต็มเปี่ยม และจากนั้นเขาก็จะโดดเข้ามารวมพลังเป็นหนึ่งเดียว เพื่อนำทีมสู่ความยิ่งใหญ่อย่างที่เคยเป็นมาในอดีตอีกคราหนึ่ง
ผมต้องประหลาดใจเอาอย่างมากๆ ที่เขาสามารถลืมอเบอร์ดีนได้โดยง่าย เพราะจากสิ่งที่ผมได้รับรู้มานั้น มันเป็นความหลังที่แสนหอมหวานอบอวลไปด้วยความสุขไม่น้อยสำหรับเขา
พวกเราทั้งหมดทราบเป็นอย่างดีว่า แมนฯยูฯนั้น มีความหมายต่ออเล็กซ์มากมายขนาดไหน ก็ตอนที่เขานำเราออกเดินทาง ล่องใต้มาแข่งที่วิมเบิลดันนี่แหละ และข่าวร้ายก็มาถึงหูของพวกเราจนได้ คุณแม่ของเจ้านายของเราต้องมาเสียชีวิตลงเมื่อตอนเช้าของวันที่เราจะต้องลงสนามที่ฟลาว เลนพอดี ถึงแม้ว่าจิตใจของเขาจะหดหู่โศกเศร้าประการใดก็ตาม เมื่อได้ทราบข่าวนี้ แต่เขาก็ปฏิบัติหน้าที่ได้จนครบถ้วนกระบวนความ จนเกมการแข่งขันในวันนั้นสิ้นสุดลง ก่อนที่เขาจะออกเดินทางขึ้นเหนือสู่สก๊อตแลนด์เพื่อจัดการปลอบขวัญคลายเศร้าครอบครัวของเขาต่อไป
เพื่อที่จะให้คุณได้เข้าใจแจ่มแจ้งว่าทำไมผมถึงต้องกลายเป็นคนที่มองอะไรในแง่ดีไปเสียหมด ผมอยากจะอธิบายถึงสิ่งต่างๆ ที่เจ้านายของเราคนนี้กำลังทำอยู่เบื้องหลังฉากเสียหน่อย
พูดกันตามตรงเลยล่ะ ว่ามือทั้งสองข้างของเฟอร์กี้นั้นป่ายเข้าไปจัดการงานทุกอย่างและทุกส่วนของสโมสรแห่งนี้ ชนิดที่ยากจะเห็นจากที่อื่นๆ
ตารางการฝึกซ้อมของเขามักจะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และต่อเนื่องมากกว่าที่เราเคยชินมาตั้งแต่ก่อน ที่เน้นหนักที่สุดก็คือเขาชอบจับพวกเราลงมาเล่นแบ่งข้างแบบห้าคนเป็นประจำมากกว่าผจก.ทีมทุกคนเท่าที่ผมได้สนิทชิดเชื้อมาเสียอีก
พวกเราต้องมารายงานตัวที่สนามฝึกซ้อมเวลา 10 โมงเช้า ซึ่งเร็วกว่าที่เราเคยทำ เมื่อสมัยที่ รอย แอ็ตกินสัน คุมทีมถึงครึ่งชั่วโมง
แต่ที่หนักไปกว่านั้นคือพวกเด็กฝึกหัดต้องมารายงานตัวก่อนหน้าพวกเราเสียอีก พวกเขาจะเริ่มมารวมกันเวลา 9 โมงเช้า และจะไม่อนุญาตให้กลับบ้านได้จนกว่าจะถึงบ่ายสี่โมงครึ่ง ซึ่งเป็นเวลาที่ยาวนานมากกว่าสมัยก่อนที่เฟอร์กี้เข้ามาถึงสามชั่วโมงเต็ม
แต่กำหนดการใหม่นี้มันเหมาะกับผมมากที่สุด เพราะทำให้ผมมีเวลาอย่างเพียงพอในการวอร์มอัพเพื่อเรียกเหงื่อ ผมแน่ใจอย่างมากเลยว่าไม่ว่าจะเป็นนักฟุตบอลหรือนักกีฬาคนใดก็ตามที ไม่มีใครหรอกที่อยากจะจมปลักอยู่กับการบาดเจ็บ ถ้าเขาจะต้องลงสนามในอีกไม่กี่วันข้างหน้าในสภาพที่สมบูรณ์สุดขีด
นอกจากนั้นเจ้านายของเรายังดูแลไปถึงเรื่องอาหารการกินในช่วงพักกลางวันด้วย อย่างเรมี่ โมเสส , มิกกี้ ดักซ์บิวรี่ และเควิน มอแรน นั้นชอบที่จะกินอาหารหนัก ๆ ประเภทสเต๊คทั้งหลายแหล่ก่อนที่จะลงสนามเสมอๆ
มาตอนนี้พวกเขาต้องเปลี่ยนเมนูตามใจเจ้านายของเราบ้างเสียแล้ว แทนที่จะตามใจปากอย่างเช่นแต่ก่อน มาเป็นเนื้อไก่และปลามากขึ้น แต่พวกเขาก็ไม่ปริปากบ่นเรื่องนี้แต่ประการใด พวกเขามีกระเพาะที่ใหญ่จริง ๆ กินอาหารได้ครั้งละมาก ๆนี่ถ้าจัดโต๊ะใหญ่ให้เขาซักคนละชุด ผมว่าไม่มีเหลือหลออย่างแน่นอน
เจ้านายมักจะตัดอาหารจำพวกสเต๊ค และเนื้อประเภทต่าง ๆ ออกไปจากรายการอาหารก่อนการแข่งขัน เพราะเขาเชื่อว่าเป็นการลำบากไม่น้อย ที่พวกผู้เล่นจะย่อยอาหารเหล่านี้ได้ทันเวลาแข่งขันพอดี ตอนแรกผมก็ไม่ได้นึกถึงมันเท่าใดนัก แต่การห้ามไม่ให้แตะอาหารจำพวกนี้ ทำให้ผมต้องหันมาสำรวจตัวเองอีกครั้งหนึ่ง
นอกเหนือไปจากเรื่องอาหารการกินแล้ว เขายังพิถีพิถันเกี่ยวกับที่พักอาศัยด้วย เมื่อทีมของเราต้องหาที่นอนค้างคืนที่ไหนซักแห่งหนึ่ง
ตัวอย่างเช่นปกติเรามักจะไปนอนค้างคืนกันที่โรงแรมรอแยล แลงคาสเตอร์ แถบแลงคาสเตอร์เกต ซึ่งเป็นโรงแรมที่หรูหรา ราคาแพงไม่น้อย ถ้ามีเราแม็ทซ์เล่นในลอนดอน
ตอนนี้เราต้องมาพักกันที่โรงแรมที่ใกล้สนามที่เราต้องไปเยือนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ดังนั้นพวกเราจำต้องหอบผ้าหอบผ่อนมาค้างคืนที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ ที่นั่งรถเพียงครึ่งชั่วโมงจาก ฟลาว เลน เมื่อเรามาเล่นที่วิมเบิลดัน
เคยสังเกตดูรูปทีมแมนฯยูฯใหม่ล่าสุดบ้างรึเปล่า ถ้าเคย คุณต้องเห็นความเปลี่ยนแปลงในนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อผู้เล่นของเราทุกคนพากันตัดผมเสียสั้นประณีตเรียบร้อย ตามแบบฉบับของริชาร์ด เกียร์ หรือ มาร์ติน ชีน อย่างไงอย่างงั้น
ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดนี่ผมบอกตามตรงเลยว่า เราไม่มีการบังคับใจกันเป็นอันขาด เจ้านายเพียงแต่ต้องการให้พวกเราออกไปพบปะกับผู้คนภายนอกด้วยลักษณะที่เรียบง่ายๆ ราวกับหน่วยคอมมานโดของราชนาวีอังกฤษ ที่เพียงแต่สั่งว่า ไอ้หนู...พวกคุณๆ ไปตัดผมกันบ้างซิไป... เท่านั้นแหละ พวกเราก็ทำตามกันเป็นทิวแถวแล้ว
นี่ไม่ใช่เรื่องหนักหนาสาหัสสากรรจ์แต่ประการใด แต่พวกเราพร้อมใจกันตัดผมสั้นก็ด้วยเหตุผลที่ว่าเฟอร์กี้มีทัศนคติอย่างแรงกล้าต่อการไว้ผมเอาอย่างมาก เพราะเขาเห็นว่า เมื่อเรามีลักษณะท่าทางที่ดูดีจะมีผลไปถึงการเล่นที่ดีไปด้วย
การปล่อยหนวดปล่อยเคราก็เช่นเดียวกันที่เจ้านายของเราไม่โปรดปรานซักนิดเดียว ดีนะที่ แกรี่ เบอร์เทิ่ลส์ ได้งานที่ดีที่ฟอเรสต์ไปเรียบร้อยแล้ว ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะเป็นคนตกงานก็ได้ที่แมนฯยูฯ เพราะเรื่องพรรณนี้
ผมได้รับการบอกเล่าเก้าสิบเกี่ยวกับเรื่องตำรวจภูเขาของแคนาดา หรือที่คนทั่วไปพากันขนานนามพวกเขาว่า เดอะ เมาส์ตี้ ดังนั้นเมื่อคุณได้รับมอบหมายการงานมา ผลงานที่ออกมาจะเพิ่มเป็นสองเท่าเสมอ จะไม่มีการเฉื่อยการอู้เป็นอันขาด .... นี่คือเจตนารมณ์ที่เฟอร์กี้ต้องการให้บรรจุอยู่ในจิตใจของพวกเรา
ใช่แน่นอน ! เมื่อถึงเวลาฝึกซ้อม จะไม่มีการเฉื่อยเดินทอดน่องกันเป็นอันขาด เพราะคุณได้รับการคาดหมายไว้แล้วว่า จะต้องจริงจังกับงานที่คุณต้องทำนับแต่วินาทีแรกที่คุณย่างก้าวเข้ามา
ผมโปรดปรานเอาอย่างมากทีเดียว ที่พวกเราถูกหนุนเนื่องเพื่อสรรค์สร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โดยเน้นความพยายามความมุมานะเป็นพิเศษ หลายคนคงจะลืมไปแล้วว่า ผมเคยทำงานภายใต้การคุมทีมของ ดอน ฮาว สมัยที่ผมเพิ่งมาอยู่ที่เวสต์บอรมฯใหม่ ๆ และผมยังต้องมาฝึกกันดอนต่ออีกเมื่อก้าวเข้ามาเล่นทีมชาติอังกฤษ สำหรับ อเล็กซ์นั้นก็มีแนวการฝึกซ้อมไม่แตกต่างไปจากที่ผมเคยชินมาแล้วเท่าใดนัก
ระดับการเตรียมทีมที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถ้าใครมาเห็นจะต้องตะลึงงันด้วยความไม่เชื่อ
สมาชิกรุ่นใหญ่ของเราอย่าง แฟร้งค์ สเตเปิลตัน, เควิน มอแรน และ ปีเตอร์ บาร์นส์ นั้น เราไม่ค่อยได้เห็นพวกเขาบ่อยครั้งนัก กับการที่ต้องมานั่งเตรียมแผนการอย่างละเอียดที่อเล็กซ์ได้คิดค้นขึ้นมาก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น
ผมเองก็ต้องงงงวยเอาไม่น้อย เมื่อได้เห็นเขาพูดถึงบรรดาผู้เล่นในดิวิชั่น 1 ในการที่เฟอร์กี้ไปขลุกอยู่กับอเบอร์ดีนเป็นเวลานานนั้น ผมอาจจะคาดคิดไปเองว่าเขาคงมีความรู้เกี่ยวกับบรรดายอดนักเตะของอังกฤษน้อยเต็มทน
ผมต้องกลายมาเป็นคนที่มองอะไรแคบ ๆ ไปจนได้ เมื่อได้ทราบว่าเขาใช้เวลาว่างที่มีอยู่ออกไปนั่งสังเกตการณ์ ตามสนามต่าง ๆ เป็นประจำ และอาจจะถึงวันละสามแม็ทซ์ ถ้าโปรแกรมการแข่งขันวันนั้นมีถึง
เขามีเวลาอย่างเพียงพอในการที่จะพูดถึงฝ่ายตรงข้ามมากกว่าที่ รอน แอ็ตกินสัน เคยทำเสียอีก ผมอาจพูดได้เลยว่า อเล็กซ์นั้นมีความจำเป็นเลิศ เขาสามารถจดจำแม็ทซ์แข่งขันที่สำคัญ ๆ เมื่อครั้งสอง, ห้า ถึงสิบปีก่อนได้อย่างสบาย ๆ
การได้มาจับคู่ร่วมงานกับผู้ช่วยรวยฝีมืออย่าง อาร์ซี น็อกซ์ ทำให้โอกาสที่ทีมของเราจะไปได้ไกลมีมากขึ้นเป็นสองเท่าเลยทีเดียว
ผมประทับใจเป็นอย่างมากเกี่ยวกับระเบียบปฏิบัติของอาร์ซีที่มีต่อเกมการแข่งขัน เมื่อเขานำพวกเราลงฝึกซ้อม ขณะที่อเล็กซ์ต้องดิ่งขึ้นเหนือกลับไปสก๊อตแลนด์เพื่อดูแลครอบครัว
เขาเล่นให้กับดันดี, บริหารทีมให้กับดันดีอีก และทำงานหนักอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดแก่เหนื่อย มีหลายคนพยายามที่จะให้ผมเปรียบเทียบคู่ระหว่าง เฟอร์กี้ น็อกซ์ กับคู่ของ ร็อบสัน ฮาว ในทีมชาติอังกฤษด้วยเหมือนกัน
ผมขอกล่าวไว้ตรงนี้เลยว่า บ๊อบบี้ ร็อบสันนั้น จะเน้นหนักไปที่ลูกเซ็ตพีซ หรือลูกฟรีคิก อะไรทำนองนั้น เขาต้องการเน้นหนักการเล่นแบบนี้ โดยบรรจุเข้าไปในแผนการเล่นของทีมด้วย
ส่วนอเล็กซ์นั้นสนใจเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการเล่นโดยทั่วไป ไม่เน้นหนักด้านใดโดยเฉพาะ,พัฒนาด้านความสามารถของผู้เล่นและทีมเวิร์คไปเรื่อย ๆ และพยายามที่จะให้บอลไหลไปตามเกม มากกว่าที่จะเน้นการเล่นแบบนิ่งอย่างที่ร็อบสันนำมาเน้นในทีมชาติอังกฤษ
และการฝึกสอนที่พวกเราได้รับรู้มานั้น ได้มาออกผลอย่างเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ ในการสร้างเกมรุกเมื่อเราต้องไปเจอกับสเปอร์ ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อไม่นานมานี้
ผมเสียใจเป็นอย่างมากกับผลการแข่งขันในวันนั้น ทั้งๆที่เรานำอยู่ตั้ง 2-0 โดยที่เราเป็นฝ่ายที่สร้างความหนักใจให้แก่สเปอร์เสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นจาก ปีเตอร์ ดาเวนปอร์ต ที่กำลังเข้าฝักเต็มที่, นอร์แมน ไวท์ไซต์ , การ์ดอน สตรั๊คคั่น หรือแม้กระทั่ง เจสเปอร์ โอลเซ่น
มันเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากเลยทีเดียวสำหรับผมในฐานะที่เป็นกัปตันทีม ที่เห็นผู้เล่นของเรามีปฏิกิริยาสนองตอบในทางที่ดีต่อเจ้านายคนใหม่ของเรา
การ์ดอน สตรั๊คคั่น กำลังคืนฟอร์มฉกาจอย่างเมื่อครั้งบอลโลกที่ผ่านมาอีกครั้งหนึ่ง และความฟิตเริ่มมีเต็มที่แล้ว เขาเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวข้องกับฟุตบอลจากอเล็กซ์สมัยอยู่ที่อเบอร์ดีน และเขาทั้งสองก็ไปด้วยกันได้ดี แสดงให้เห็นถึงหนทางการคืนฟอร์มสุดยอดของสตรั๊คคั่นต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในไม่ช้านี้
ผมดีใจที่ แฟร้งค์ สเตเปิลตัน จับปากกาเซ็นสัญญาใหม่อยู่กับพวกเราต่อไปอีก มันเป็นการดีสำหรับสโมสรและสำหรับตัวเขาเองที่รู้สึกมั่นคงเมื่ออยู่ที่โอลด์ แอฟฟรอ์ดนี่ และที่วิเศษสุดก็คือดีเยี่ยมสำหรับครอบครัวของเขา
ผมเองก็รู้สึกดีใจ โล่งอกโล่งใจอักโขเลยทีเดียว แม้ว่าคริสต์มาสกับปีใหม่นี้ ผมอาจจะ แห้งเหี่ยวไปบ้างจากสุขภาพของตัวเอง ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะได้พรอะไรซักอย่าง เนื่องในวันสำคัญทั้งสอง เพื่อมาปัดเป่าให้ผมกลับมาฟิตเหมือนเดิม และขอให้แมนฯยูฯหวนคืนสู่การเป็นทีมนำของดิวิชั่น 1 เสียที
สุดท้ายนี้ แม้ว่าปีใหม่และคริสต์มาสจะล่วงเลยมานานแล้ว แต่คงไม่สายเกินไปที่ผมจะขออวยพรให้ผู้อ่านทั้งหลายจงมีสุขภาพดี, มีความสุขและสมหวังสิ่งใดก็ได้ตามใจปรารถนา ในปี 1987 นี้
*************
แก้ไขปรับระยะบรรทัดค่ะ
แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 55 18:44:28
จากคุณ |
:
ข้าวเรียงเม็ด
|
เขียนเมื่อ |
:
วันจักรี 55 18:40:01
|
|
|
|
 |