 |
 
ความคิดเห็นที่ 53 |
"บังยี" นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เป็นประธานแถลงข่าวชี้แจงเรื่องสิทธิประโยชน์ “ไทยพรีเมียร์ลีก” เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลฯ พร้อมด้วย นายอดิศัย วารินทร์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ที่เข้ามาดูแลเรื่องสิทธิประโยชน์ให้กับการแข่งขัน ซึ่งนายอดิศักดิ์ ได้ชี้แจงว่า บริษัทสยามสปอร์ตฯ ได้เข้ามาบริหารเรื่องสิทธิประโยชน์การแข่งขันฟุตบอล ”ไทยพรีเมียร์ลีก” ร่วมกับสมาคมฟุตบอลฯ และบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก โดยลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอล “ไทยพรีเมียร์ลีก” ฤดูกาล 2554-2556 ได้ขายล่วงหน้าไป 3 ปี ซึ่งมี บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ซื้อไป ส่วนลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด “ลีก ดิวิชั่น 1” หรือ “ยามาฮ่า ลีกวัน” มีจานเอทีพี และไอพีเอ็ม เป็นผู้ซื้อไป ทำให้มีรายได้จาการขายลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด 80,400,000 บาท
สำหรับรายได้จากการหาสปอนเซอร์นั้น ได้ขายสปอนเซอร์ล่วงหน้า 3 ปี ให้กับเครื่องดื่มสปอนเซอร์, เอไอเอส มูลค่ารวม 83,000,000 บาท นอกจากนี้ยังมี ยามาฮ่า, ไทยน้ำทิพย์ (โค้ก), ปตท., เบียร์ช้าง ร่วมสนับสนุนการถ่ายทอดสดผ่านทางฟรีทีวี ซึ่งขายแบบปีต่อปีอีก เป็นเงิน 55,000,000 บาท ทำให้ปี 2554 หาสิทธิประโยชน์ เข้ามาสนับสนุนการแข่งขันได้ 218,400,000 บาท
อย่างไรก็ตามยอดเงินจำนวนนี้ได้มีการนำไปใช้จ่ายในเรื่องต่างๆ ที่เรียกว่าส่วนของต้นทุน คือ 1. ค่าใช้ จ่ายด้านการผลิต (เงินสนับสนุนสโมสร, เบี้ยเลี้ยงผู้ตัดสิน, ค่าเช่าเวลา, ค่ารถโอบี, ค่าสัญญาณ), 2. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (ค่าใช้จ่าย ไทยพรีเมียร์ลีก, ลีก ดิวิชั่น 1, ลีก ดิวิชั่น 2, ค่าจัดงานแถลงข่าว, ค่าป้าย, ค่าพิมพ์), 3. ค่าใช้จ่ายทางการตลาด (ค่านายหน้า) รวม 96.10 เปอร์เซ็นต์ ทำให้เหลือกำไรในปีนี้ 3.90 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นเงินประมาณ 8,000,000 บาท ซึ่งบริษัทสยามสปอร์ตฯ แบ่งคนละครึ่งกับ สมาคมฟุตบอลฯ และหลังจากปี 2556 จะมีการเปิดประมูลครั้งใหม่ คาดว่าปี 2557 มูลค่าของลิขสิทธิ์ต่างๆน่าจะได้มากกว่าเดิม และจะแบ่งรายได้ให้กับสโมสรต่างๆได้มากกว่าในปัจจุบัน
นายระวิ โหลทอง ประธานคณะกรรมการที่รึกษา บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในเดือน ม.ค.ปี 2556 จะมีการเปิดประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด “ไทยพรีเมียร์ลีก” ปี 2557-2559 ซึ่งตอนนี้มีบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน), บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) รวมถึงผู้ไม่ประสงค์ออกนามอีก 2 ค่ายติดต่อเข้ามาแล้ว โดยในอนาคตอีกไม่เกิน 5-6 ปี บริษัทสยามสปอร์ตฯ คงไม่เข้ามาดูแลเรื่องสิทธิประโยชน์ให้กับการแข่งขัน “ไทยพรีเมียร์ลีก” อีกต่อไป เพราะไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ซึ่งหากมีบริษัทไหนอยากจะเข้ามาทำก็ติดต่อกับ สมาคมฟุตบอลฯ หรือ บริษัทไทยพรีเมียร์ลีก ได้เลย ทางบริษัทสยามสปอร์ต ฯ พร้อมหลีกทางให้ เนื่องจากที่เข้ามาทำเรื่องนี้ก็ต้องการให้ฟุตบอลไทยเติบโต ไม่ได้จ้องจะเข้ามาหากินกับนักฟุตบอล
http://www.dailynews.co.th/sports/20909
จากคุณ |
:
high_voltage_XL
|
เขียนเมื่อ |
:
วันจักรี 55 13:36:00
|
|
|
|
 |