ยลโฉมรองเท้าฟุตบอลยอดนิยมของนักเตะแข้งทอง
|
 |
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอบคุณภาพประกอบจาก adidas.co.th, nike.com, soccerevolution.com, facebook.com,mizuno.eu
สมัยนี้มีนักฟุตบอลฝีเท้าระดับพระกาฬไม่แพ้ยุคก่อน ๆ อยู่จำนวนมาก โดยลีลาของแต่ละคนเรียกได้ว่าไม่ธรรมดาจริง ๆ ซึ่งนอกจากจะเป็นพรสวรรค์ส่วนบุคคลและการฝึกฝนอย่างหนักแล้ว ส่วนสำคัญอีกอย่างที่นักเตะเหล่านี้ใส่ใจเป็นพิเศษก็คือ รองเท้าฟุตบอล (หรือเรียกกันติดปากว่า "สตั๊ด" นั่นเอง)
แต่คุณทราบกันหรือไม่ว่ารองเท้าฟุตบอลแบรนด์ใด รุ่นไหนบ้าง ที่นักเตะมักเลือกมาใส่กัน หากไม่แน่ใจ...วันนี้กระปุกดอทคอมจะมาแนะนำรองเท้าเหล่านั้นให้คุณได้รู้จักกันมากขึ้นครับ
- Adidas: F50 adiZero
อาดิดาส ไม่ค่อยทำให้แฟน ๆ ต้องผิดหวังอยู่แล้ว เกี่ยบกับเรื่องดีไซน์และคุณภาพของรองเท้า ซึ่งตอนนี้รุ่นที่กำลังได้รับความนิยมมากที่สุด คือ "F50 adiZero" รองเท้าฟุตบอลสายพันธุ์แห่งความเร็ว ที่นักเตะหลายคนต่างยกนิ้วให้กับความยอดเยี่ยมของมัน
โดยรุ่นล่าสุดนี้ นอกเหนือจากเฉดสี ลวดลายและอุปกรณ์ที่เปลี่ยนไปแล้ว อาดิดาสยังคงเลือกที่จะบุกตลาด ทั้งเวอร์ชั่นหนังสังเคราะห์ (Synthetic Leather) มีน้ำหนัก 165 กรัม และหนังวัวแท้ (Full-Grain Leather) มีน้ำหนัก 170 กรัม ให้ผู้เล่นได้เลือกใส่กันได้ตามใจชอบ โดยมาพร้อมกับ "Sprint Web" วัสดุที่จะช่วยให้การสัมผัสและควบคุมลูกฟุตบอล เป็นไปอย่างที่ใจต้องการ อีกทั้งยังช่วยพยุงโครงสร้างรองเท้าให้มีความแข็งแรง ซึ่งจังหวะการสปรินซ์ตัววิ่งด้วยความเร็ว จะทำได้อย่างมั่นคงขึ้นกว่าเดิม
ที่สำคัญทางอาดิดาสยังได้ใช้เทคโนโลยีในการเก็บข้อมูลทีเรียกว่า "Mi Coach" เข้ามาประยุกต์ใช้กับรองเท้า เพื่อให้ผู้สวมใส่ได้ทราบข้อมูลต่างๆ ในการลงสนามได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าผู้เล่นในสายสปีดจะต้องถูกอกถูกใจกับรองเท้ารุ่นนี้อย่างแน่นอน
- Nike: Mercurial Vapor VIII
ไนกี้ เอาใจนักฟุตบอลสายสปีดด้วยการปล่อยรองเท้าระดับท็อปอย่าง "Mercurial Vapor VIII" มาเขย่าวงการลูกหนังให้สั่นสะเทือน ด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยว เท่ ทันสมัย จึงทำให้รองเท้ารุ่นนี้เตะตาต้องใจหลาย ๆ คน อย่างง่ายดาย
ตัวรองเท้าทำด้วยหนังสังเคราะห์เทจิน ไมโครไฟเบอร์ (Tejin microfiber) ซึ่งคราวนี้มีการปรับเปลี่ยนหนังให้บางกว่าเดิม และมีผิวสัมผัสที่นุ่มขึ้น อีกทั้งตัวพื้นผิวรองเท้าก็จะมีลักษณะสาก ๆ ไม่มีการเคลือบผิวให้เงางามเหมือนรุ่นก่อน ๆ ส่วนรูปทรงรองเท้าก็ดูเรียวยาวกว่าเดิมเล็กน้อย ที่สำคัญรองเท้ารุ่นนี้มีน้ำหนักเพียงแค่ 187 กรัมเท่านั้นเอง เรียกได้ว่าเบาที่สุดเท่าที่ไนกี้เคยผลิตมา
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน คือ บริเวณปุ่มสตั๊ด จะมีการลดจำนวนปุ่มออกไปและมีการออกแบบแนววางปุ่มใหม่ทั้งหมด โดยไนกี้ยืนยันว่าแนววางปุ่มด้านหน้าแบบใหม่นี้ จะช่วยเพิ่มความเร็วและความแม่นยำของการเคลื่อนที่ ส่วนคู่ปุ่มด้านหลังก็ถูกลดจำนวนจาก 4 ปุ่ม เหลือเพียง 2 ปุ่มเท่านั้น และส่วนพื้นตรงหัวรองเท้าที่ขรุขระเป็นฟันปลา (Toe-off Traction Spikes ) จะช่วยทำให้การสปรินซ์ออกตัววิ่งด้วยปลายเท้าทำได้ดีขึ้นอีกด้วย
- Nike: CTR 360 Maestri
เป็นรองเท้าสายคลาสสิค ที่เน้นการคอนโทรลบอลและควบคุมบอลให้เคลื่อนไปไหนทิศทางที่ต้องการรุ่นหนึ่ง ที่บรรดาเพลย์เมคเกอร์ระดับโลกชอบใส่กัน ไม่ว่าจะเป็น เชส ฟาเบรกาส หรือ อันเดรียส อิเนียสต้า ต่างก็หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของ CTR 360 ซึ่งตัวท็อปของซีรี่ย์นี้มีชื่อว่า "Maestri"
ไนกี้เลือกใช้หนังสังเคราะห์ที่ทำเลียนแบบหนังจิงโจ้ เรียกว่า "Kanga-Lite Leather" โดยมีความนุ่มใกล้เคียงกัน แต่น้ำหนักเบากว่าเยอะ ส่วนบริเวณพื้นผิวรองเท้าที่มีลักษณะขรุขระ หรือที่เรียกกันว่า "Control Pad" นั้นจะทำหน้าที่เพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมบอล และยังมี "Pass Pad" อยู่บริเวณข้างเท้าด้านใน ซึ่งจะช่วยให้การจ่ายบอลแม่นยำและได้น้ำหนักตามที่ผู้เล่นต้องการ
ลักษณะเฉพาะตัวของ CTR 360 คือ การวางปุ่มรองเท้าเป็นวงกลม 3 ปุ่ม ซึ่งช่วยให้การกลับตัวเป็นไปด้วยความคล่อง และในส่วนของพื้นรองเท้ายังมี Poron ที่ช่วยลดแรงกระแทกจากพื้นสู่เท้าของผู้ใส่ ซึ่งมีผิวหน้าที่หยาบและเหนียวช่วยทำให้เท้าของผู้เล่นนั้นยึดเกาะกับตัวรองเท้าได้ดียิ่งขึ้น
http://men.kapook.com/view39986.html
จากคุณ |
:
jureeporn
|
เขียนเมื่อ |
:
25 เม.ย. 55 14:26:53
|
|
|
|