 |
อ่ะ ยังไม่จบก็ได้...
คืออย่างนี้ครับ ผมทราบมาว่า เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางผู้บริหารของสโมสรจูบิโล่ อิวาตะได้เข้าพบผู้บริหารของเอสซีจี เมืองทอง และหารือถึงความเป็นไปได้ถึงการพัฒนาสู่การเป็นสโมสรพันธมิตร
ก่อนหน้านี้ จูบิโล่มีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างดีกับเวียดนาม อย่างที่รู้ๆอยู่ว่าตลาดจักรยานยนต์เวียดนามนั้นใหญ่มาก ความสัมพันธ์ที่ว่า มีการพูดกันว่าอาจรวมถึงการส่งนักฟุตบอลเยาวชนเวียดนามไปร่วมซ้อมกับจูบิโล่ด้วย ตอนที่ออกข่าว ผมค่อนข้างตกใจนะครับ แต่มันจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อทัศนคติของผู้บริหารของจูบิโล่ตอนนั้น คิดถึงการเอาสตาร์ตัวเก่าๆลากเล่นอย่างเดียวจนหมดสภาพ นักฟุตบอลฝีเท้าดีที่ขึ้นทีมชุดใหญ่ไม่ได้ กระจัดกระจายไปตามสโมสรต่างๆ แล้วก็มาเป็นหอกทำร้ายตัวเองอีกที ดีลนั้นมันเป็นเรื่องของธุรกิจล้วนๆ
คุณคงเห็นว่า สปอนเซอร์คาดหน้าอกของทั้งเมืองทองและจูบิโล่ มีคำว่า Yamaha เหมือนกัน เอาน่า...จับแพะชนแกะอีกครั้งหนึ่ง อ่านแล้วก็ดีใจปนเสียใจ แหม...จับคู่ให้ตรงสเปคเราหน่อยก็ไม่ได้ เพราะทีมที่ผมชอบในไทย...ดั้น...มีซูซูกิแปะหราอยู่กลางหน้าอก...เขาต้องเอายามาฮ่าโน่น เพราะรากฐานของทีมนี้ คือ ทีมฟุตบอลสันทนาการของพนักงานบริษัทยามาฮ่า แต่ก็เอาเถอะ หากได้เป็นพันธมิตรกันแล้วมีเสื้อจูบิโล่ขายที่สนามธันเดอร์โดม ทำให้ผมไม่ต้องถ่อสังขารไปซื้อเสื้อไกลถึงฮามามัตซึหรืออิวาตะ ก็นับว่าคุ้มอยู่
การจับคู่หรือดีล ระหว่างจูบิโล่กับเมืองทอง รายละเอียดผมคงไม่ลงไปลึก เพราะผมไม่ใช่คนวงใน แต่ผมเข้าใจว่ายามาฮ่าอ่านตรงนี้ออก ก็แหม...สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งมันกำลังหอมหวาน แถมตัวเองก็กำลัง Do Innovative กำลังสร้างแบรนด์ของตัวเองให้เข้มแข็ง เอาฟุตบอลมาจับยัดลงการทำตลาดนี่แหละ ยามาฮ่ากำลังรุกคืบอยู่ ถึงได้เอาชื่อตัวเองไปใส่ไว้ในการแข่งขันดิวิชั่นหนึ่ง (ที่ศรีราชา ซูซูกิกำลังคั่วแชมป์อยู่...ว้าวๆๆๆ)
เผลอๆในอนาคต เมื่อคุณซื้อรถฟีโน่ คุณอาจได้รับหางบัตร ส่งชิงโชคลุ้นชมจูบิโล่เตะกับเมืองทองที่ขอบสนามเอโคปาก็เป็นได้ กรณีนี้ บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นอาจจะเห็นดีเห็นงามด้วย
แนวทางนี้กำลังได้รับความนิยม ที่เห็นได้ชัดก่อนหน้านี้ คือ กรณีของบริษัทผลิตเครื่องจักรทางการเกษตรสัญชาติญี่ปุ่นอย่างยันมาร์ ดีเซล ก็แหม...ยันมาร์เคยมาจับงานฟุตบอลซะที่ไหน แต่พอบริษัทแม่เป็นผู้สนับสนุนถ้วยบิ๊กเอียร์เวอร์ชั่นเอเชีย คุณก็จะเห็นว่าหน้าสุดท้ายของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐเมื่อตอนต้นๆปี จะมียันมาร์นี่แหละ พูดถึงการที่ตนเองเป็นสปอนเซอร์หลักของการแข่งขัน โดยมีรูปเจ้าหนูนักเตะใส่ชุดม่วงชมพูของเซเรโซ่ โอซาก้าโผล่มาเลี้ยงบอลแบบอาร์ทๆ
เผลอๆคนที่ยันมาร์ประเทศไทย ยังไม่รู้เลยม้าง...ว่าจะเอาเซเรโซ่ โอซาก้ามาต่อยอดการตลาดยังไง...เดี่ยวคงมีแบบคูโบต้า...อ่ะเฮ้ย (ทำเสียงหล่อ) ซื้อรถยันมาร์ ได้เที่ยวโอซาก้า ดูฟุตบอลเจลีกที่สนามนางาอิกับซุปตาร์
เอาล่ะ...จากที่เคยเป็นสาวกรถซูซูกิตัวพ่อ ผมคงได้ย้ายค่ายมาอยู่ค่ายหอกทะลวงไส้ในเร็ววันนี้
เกร็ดความรู้ทั่วไป...คุณเคยทราบไหมครับ ว่าครั้งหนึ่งเมื่อปี 2003 ปีนั้น รองแชมป์สโมสรเอเชียหมาดๆอย่างบีอีซี เทโรโคจรมาอยู่สายเดียวกับจูบิโล่ อิวาตะ นัดสุดท้ายของการแข่งขันรอบแรกของเอเอฟซี แชมเปี้ยนลีก ซึ่งทั้งคู่กอดคอตกรอบไปแล้วนั้น เกมนี้เป็นเกมแห่งศักดิ์ศรีท่ามกลางสายฝน ณ สนามไทย-ญี่ปุ่น ตัวผมเองไม่ได้ไปครับ เสียดายมากๆ
การแข่งขันในวันนั้นสูสีมาก แล้วจูบิโล่ก็เอาชนะไปได้ 3 ประตูต่อ 2 คนดูเยอะพอสมควร เพราะอย่างน้อยๆทางไทยยามาฮ่า มอเตอร์ได้เกณฑ์ (หรือจับสลากหาตัวแทนจำหน่ายผู้โชคดีก็ไม่รู้ล่ะ) แฟนบอลจูบิโล่ เชื้อสายไทยมาให้กำลังใจทีมด้วย คิดว่าเรื่องนี้บริษัทแม่คงอยู่เบื้องหลังด้วย
เหอๆ นึกแล้วก็ขำดี...เอาคนไทย มาเชียร์ทีมญี่ปุ่น ที่เตะกับทีมไทย เหอๆ... แต่ก็เป็นภาพที่ดีนะครับ ผมก็หวังว่าบทสรุปและการแถลงข่าวคงเสร็จสิ้นในเร็ววัน ร้อนวิชา อยากเขียนแนะนำจูบิโล่ใจจะขาด...มั่นใจว่าเขียนได้ดีกว่าท่านประธานที่ยามาฮ่า มอเตอร์ส่งมาด้วย เพราะคุณต้องเข้าใจก่อนนะ ว่าท่านประธานเขาไม่ได้ชอบฟุตบอลอะไรขนาดนั้นหรอก แต่ทีมฟุตบอลที่ชื่อจูบิโล่ อิวาตะเป็นส่วนหนึ่งของทางบริษัท ยามาฮ่า มอเตอร์ ที่ญี่ปุ่น เขาให้ตำแหน่งนี้มา ก็เหมือนกับการที่คุณลุงคนหนึ่งในที่ทำงานของคุณ เขาทำงานดี ทำงานมานาน ชอบจัดกิจกรรม แต่ไม่ได้บ้าบอลเข้าเส้น ต่อมา ได้มารับตำแหน่ง ผอ.งานสันทนาการของบริษัทคุณนั่นแหละ แถมยังต้องมาดูทีมรักบี้ชายด้วย (ทีมรักบี้จูบิโล่ยามาฮ่า เป็นทีมรักบี้ระดับหัวแถวเชียวนะครับ) งานหนักเลยทีนี้ ถ้าอยากรู้ตื้นลึกหนาบางของทีมฟุตบอลทีมนี้...โน่น คุณต้องไปถามพวกสตาฟโค้ชที่อยู่กับทีมมาตั้งแต่เป็นเด็กฝึกหัดยันแขวนรองเท้า อย่างพวกชินอิจิ โมริชิตะ - โทโมอากิ โอกามิ - หรือฮิโรชิ นานามินั่นแหละ
แล้วก็อยากขอร้องไปยังสื่อกีฬายักษ์ใหญ่แห่งสยามประเทศ ว่าจะลงอะไรก็ตรวจสอบความถูกต้องนิดส์นึง อย่าคิดว่าผู้อ่านไม่รู้ เอาอะไรมาเขียนก็ได้เฟ้ย...อย่างเช่น
http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/120423_292.html
สำหรับประวัติโดยย่อ จูบิโล่ อิวาตะ ถือเป็น 1 ในสโมสรที่ประสบความสำเร็จที่สุดในดิวิชั่น 1 เจลีก ญี่ปุ่น ก่อตั้งเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2544 ตั้งอยุ่ในจัวหวัดชิสุโอกะ ใช้ชื่อสนาม ECOPA Stadium ความจุสนามสามารถรับแฟนบอลได้ถึง 51,349 ที่นั่ง ได้แชมป์ลีกมาแล้วหลายสมัย ปัจจุบันผลงานแข่งไปแล้ว 6 นัด อยู่อันดับ 7 ของตารางดิวิชั่น 1 เจลีก มี 11 แต้มตามหลังเวกัลตา เซนได ทีมจ่าฝูงที่มีอยู่ 16 แต้มอยู่ 5 คะแนน
...เอิ่ม...ทีมนี้ก่อตั้งเมื่อปี 1972 นะครับ ไม่ใช่ปี 2001 ...
...สนามหลัก คือ ยามาฮ่า สเตเดี้ยม เหมือนของเมืองทองเมื่อปีที่แล้วนี่แหละครับ สนามเอโคปานี่ของจังหวัดนะครับ เช่าร่วมกับเอสพัลส์ เอาไว้แข่งกับทีมใหญ่ๆ ที่คาดว่าแฟนบอลจะเกินความจุของสนามยามาฮ่าหรือสนามนิฮงไดระครับ...
...ถ้าเขียนอะไรเกี่ยวกับจูบิลิสต้าผิดอีก...ผมจะคอยจับผิดคุณ...หุหุ
จากคุณ |
:
MoMo says
|
เขียนเมื่อ |
:
27 พ.ค. 55 00:28:58
|
|
|
|
 |