ความคิดเห็นที่ 1 อย่างแรกมาเข้าใจระบบการแข่งขันฟุตบอลลีกของอาร์เจนติน่ากันก่อน (ถ้าไม่อยากปวดหัวข้ามไปเลยนะครับ) ลีกอาร์เจนติน่าจะมีช่วงฤดูกาลอยู่ระหว่างเดือน สิงหาคม – มิถุนายน แต่จะแบ่งเป็นสองช่วง ช่วงครึ่งฤดูกาลแรกจะเรียกว่า “อเปอร์ตูล่า ลีก” มี 20 ทีมแข่งพบกันหมด 19 นัด แข่งกันระหว่างเดือนสิงหาคม – ธันวาคม ช่วงครึ่งฤดูกาลหลังจะเรียกว่า ”เคลาซูร่า ลีก ” โดยเจ้าบ้านในครึ่งฤดูกาลแรกจะสลับเป็นทีมเยือนบ้าง แข่งกันระหว่างเดือนมกราคม – มิถุนายน ตัวอย่างฤดูกาล 2010-2011 อเปอร์ตูล่า แปลว่า “เปิด”   เพราะฉะนั้น  อเปอร์ตูล่า 2010 หมายถึง เปิดฤดูกาล 2010-2011 แข่งระหว่างเดือนสิงหาคม 2010 – ธันวาคม 2010 เมื่อผ่านไป 19 นัดแรก ทีมอันดับหนึ่งหลังจบ 19 นัดจะเป็นแชมป์ ซึ่งก็ คือ “เอสตูเดนเตส” แข่ง  19 นัด ชนะ 14 เสมอ 3 แพ้ 2 มี 45 คะแนน เคลาซูร่า แปลว่า “ปิด” เพราะฉะนั้น เคลาซูร่า 2011 หมายถึง ปิดฤดูกาล 2010-2011 แข่งระหว่างเดือนมกราคม 2011 – มิถุนายน 2011 แข่งต่อ 19 นัดหลัง เริ่มคิดคะแนนใหม่ เมื่อครบ  19 นัด ทีมที่อยู่อันดับหนึ่งจะได้แชมป์ ซึ่งก็คือ “เบเลซ ซาร์สฟิลด์” แข่ง 19 นัด ชนะ 12 เสมอ 3 แพ้ 4 มี 39 คะแนน ปล. ซิลีกับโคลัมเบีย ฤดูกาลของพวกเขาจะจบในปีเดียวกัน เอาง่ายๆ  ให้นึกถึงระบบลีกของเอเซียแล้วกัน ตัวอย่าง อเปอร์ตูล่า 2010 กับ เคลาซูร่า 2010 ก็คือฤดูกาลเดียวกัน จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 07:08:38

ความคิดเห็นที่ 2 อย่างที่สองระบบการแข่งขันฟุตบอลระดับทวีปในอเมริกาใต้ ถ้วยเล็กมีชื่อว่า “โคปา ซูดาเมริกาน่า”  แข่งระหว่างเดือนสิงหาคม – ธันวาคม ทีมที่เข้ารวมเล่นจะเป็นทีมในทวีปอเมริกาใต้เท่านั้น โดยวิธีคัดเลือกไม่ขอกล่าวถึงเพราะมันขึ้นอยู่ว่าแต่ละประเทศมีเกณฑ์อย่างไร ถ้วยใหญ่ทีชื่อว่า “โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส” แข่งระหว่างเดือนมกราคม – กรกฎาคม   ทีมที่เข้าร่วมเอามาจากแชมป์ของทุกลีกในอเมริกาใต้ และบวกกับ 3 อันดับแรกของลีกเม็กซิโก้ รายการ “รีโคปา ซูดาเมริกาน่า ”   ซึ่งก็คือ ยูฟ่าซุปเอร์คัพของอเมริกาใต้ แชมป์ “โคปา ซูดาเมริกาน่า ”   กับ แชมป์ “โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส” จะนำมาแข่งสองนัดเหย้าเยือนในเดือนสิงหาคมปีถัดไป ตัวอย่าง แชมป์ “โคปา ซูดาเมริกาน่า 2010”  เอสตูเดนเตส แข่งกับ แชมป์ “โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส 2010” คือ อินเตอร์นาซิอองนาล นัดแรก 10 สิงหาคม 2011 : อินดิเพนเดนเต้ 2-1 อินเตอร์นาซิอองนาล นัดที่สอง 24 สิงหาคม 2011 : อินเตอร์นาซิอองนาล 3-1 อินดิเพนเดนเต้ รวมผลสองนัด อินเตอร์นาซิอองนาล ชนะที่ประตูรวม 4-3 ตัวอย่างโควตาของลีกบราซิล ทีมที่จะได้เข้าร่วม “โคปา ซูดาเมริกาน่า 2011”  ประกอบไปด้วย อันดับ 5, 6, 9, 10, 11, 12, 13 และ 14 ในปี ปฏิทินการแข่งขัน 2010 ทีมที่จะได้เข้าร่วม “โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส 2012”  ประกอบไปด้วย แชมป์ฟุตบอลลีก และแชมป์ฟุตบอลถ้วย พร้อมทั้งอันดับ 3, 4, 5 ในปีปฏิทินการแข่งขัน 2011 ปล.1 ทีมเดียวกันแข่งได้ทั้งสองรายการนะครับ “ฟลาเมงโก้” ได้สิทธิ์ทั้งสองรายการเลย ปล.2 อ่านจบแล้วไม่เข้าใจก็ปล่อยมันไป ตัวผมเองยังสับสนเลย ปล.3 ขอขอบคุณ la liga fan สำหรับคำอธิบายที่ตอบผม จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 07:09:30

ความคิดเห็นที่ 3 ปี 1988 เริ่มต้นชีวิตการเป็นนักเตะกับริเวอร์เพลท เครสโป เป็นเด็กที่ได้รับการฝึกจาก “สถาบันฝึกสอนฟุตบอลของริเวอร์เพลท”  ตั้งแต่อายุ 13 ปี ที่นั้นเขาได้ลงแข่งขันรายการยุวชนในกับริเวอร์เพลท  และช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ในระดับเยาวชน จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 07:10:26

ความคิดเห็นที่ 4 ฤดูกาล 1993-1994 ลงเล่นนัดแรกกับทีมริเวอร์เพลทชุดใหญ่ เครสโปในวัย 18 ปี ได้เลื่อนชั้นขึ้นทีมชุดใหญ่ภายใต้การคุมทีมของ “ดานิเอเล่ พาสซาเรลล่า” เครสโป ถูกส่งลงสนามเป็นครั้งแรกในเดือน พฤศจิกายน ในเกมที่ทีมพบกับ “นีเวลล์ โอลด์ บอยส์” พอเข้าปี 1994 เครสโปสามารถทำประตูแรกในชีวิตนักเตะอาชีพได้ในเดือนมีนาคม พอจบ “อเปอร์ตูล่า ลีก 1993”  ริเวอร์เพลทเป็นแชมป์ โดยที่เครสโปทำไปได้  2 ประตู ส่วนใน ”เคลาซูร่า ลีก 1994” เครสโปจบด้วนการเป็นดาวซัลโวที่ 11 ประตู   แต่ทีมจบอันดับ 5 ริเวอร์เพลทยุคนั้นมี “โรแบร์โต้ อยาล่า” ในแดนหลัง, มาติอัส อัลเมย์ด้า เป็นกลางรับ, อาเรียล ออร์เตก้า เป็นกลางรุก สถิติ ลงเล่นในลีกทั้งฤดูกาล 25 นัด ทำไป 13 ประตู ลงเล่นในบอลถ้วย  3 นัด สรุป: ลงเล่น 28 นัด ทำไป 13 ประตู จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 07:11:33

ความคิดเห็นที่ 5 ฤดูกาล 1994-1995 รวมงานกับเจ้าชายลูกหนัง “เอ็นโซ ฟรานเชสโคลี่” ใน “อเปอร์ตูล่าลีก 1994”  เอ็นโซ่ ฟรานเชสโคลี่ ได้กลับมาจากการค้าแข่งที่ยุโรป  โดยย้ายมาจากสโมสรโตริโน่ในอิตาลี เริ่มต้นฤดูกาลเครสโปยังคงรักษาฟอร์มการเล่นจากครึ่งฤดูกาลก่อน   ลงเล่น 4 นัดแรกทำไป 3 ประตู แต่ต่อมาได้รับบาดเจ็บ ด้วยฟอร์มอันร้อนแรงของเจ้าชายลูกหนัง สังหารไป 12 ประตู ทำให้ทีมริเวอร์เพลท คว้าแชมป์ “อเปอร์ตูล่าลีก 1994”  มาครอง ใน “เคลาซูร่า ลีก 1995”   การขาดฟรานเชสโคลี่กับเครสโปไปช่วงหนึ่งจากอาการบาดเจ็บทำให้ทีมจบแค่ที่  10 เครสโปกลับมาได้ในช่วงท้ายของ “เคลาซูร่า ลีก 1995”  ยิงได้อีก  2 ประตู สถิติ ลงเล่นในลีกทั้งหมด  18 นัด  ทำไป  5 ประตู จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 07:12:50

ความคิดเห็นที่ 6 ฤดูกาล 1995-1996 พาทีมคว้าแชมป์ “ลิเบอร์ตาดอเรส” ในรายการโคปา ลิเบอร์คาตอเรส  เครสโบรวมพลังกับฟรานเชสโคลี่พาทีมไปถึงตำแหน่งแชมป์ โดยฟรานเชสโคลี่ ลงเล่น 13 นัด ทำไป  6 ประตู  ส่วนเครสโปลงเล่น 13 นัด ทำไป  10 ประตู นัดชิงรายการ “โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส” แข่งแบบสองนัดเหย้า-เยือน นัดแรกริเวอร์เพลทไปแพ้ทีม “อเมริกา” จากโคลัมเบียก่อน 1-0 นัดที่สองที่ “เมืองบูเอโนสไอเรส” ออเตก้า เปิดให้เครสโปยิงประตู 1-0 ตีเสมอในประตูรวมก่อน และในนาทีที่ 14 ของครึ่งหลัง เครสโปก็โหม่งประตูที่ 2 พาทีมชนะประตูรวมไป 2-1 แต่ผลงานในลีกของริเวอร์เพลทไม่ดีนัก “อเปอร์ตูล่าลีก 1995”   จบอันดับ 7 ส่วน “เคลาซูร่า ลีก 1995”  จบอันดับ 14 สถิติ ลงเล่นในลีก  19 นัด  ยิงไป  6 ประตู ลงเล่นในโคปา ลิเบอร์ตาดอเรส  13 นัด ยิงไป  10 ประตู สรุป: ลงเล่นทั้งหมด 32 นัด ทำไป 16 ประตู จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 07:13:36

ความคิดเห็นที่ 7 ฤดูกาล 1996-1997 ฤดูกาลแรกในอิตาลีกับปาร์ม่า ชีวิตในการค้าแข้งหกเดือนแรกในอิตาลีเครสโปยิงไม่ได้เลย แต่ “ค าร์โล่ อันเชลอตติ” ก็ได้ให้โอกาสเขามาตลอด จนกระทั้งวันที่ 2 มีนาคม 1997 เครสโปยิงประตูแรกได้ในเกมที่ทีมเปิดบ้านชนะ กายารี่ 3-2 โดนเกมนัดนี้เขายิง  2 ลูก โดยต่อจากนั้น 13 นั้นเครสโปยิงได้ 10 ลูก ในนั้นมีหนึ่งแฮตทริกในเกมเปิดบ้านพบวิเซ่นซ่า ฤดูกาล 1996-1997 ปาร์ม่าที่ต้องเสีย “จิอันฟรังโก้ โซล่า” ไปให้เชลซีในเดือนพฤศจิกายนจบอันดับ 2 สถิติ ลงเล่นในเซเรีย อา  27 นัด ทำไป  12 ประตู ลงเล่นในโคปปา อิตาเลีย 1 นัด สรุป: ลงเล่นทั้งหมด 28 นัด ทำไป 12 ประตู จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 07:18:23

ความคิดเห็นที่ 8 ฤดูกาล 1997-1998  สู้ศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก เพียงแค่ฤดูกาลที่สองในยุโรป “เครสโป” ได้มีโอกาสลงเล่นรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีป  โดยเครสโปทำได้  2 ประตู ประตูแรกเป็นลูกที่ยิงตอกย้ำชัยชนะเหนือกาลาตาซาราย 2-0 ในนัดที่สองของรอบแบ่งกลุ่มใน “เอ็นนิโอ ตาร์ดินี่” สนามของทีม อีกประตูเครสโปยิงประตูชัย 1-0 เหนือ “โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์” แชมป์ลีกเยอรมันในเกมที่ปาร์ม่าเล่นในบ้านรอบแบ่งกลุ่ม จบรอบแบ่งกลุ่ม “ปาร์ม่า” จบที่สองของตารางเพราะเก็บชัยชนะนอกบ้านไม่ได้ทำได้แค่ เสมอ 2 นัด  แพ้ 1 นัด มีคะแนนตามหลัง “ดอร์ทมุนด์” แชมป์เก่าถึง 6 คะแนน แถมยูเวนตุสเป็นที่สองที่ดีที่สุดมี 12 คะแนน  ปาร์ม่าเลยตกรอบไป ส่วนผลงานในลีกปาร์ม่าจบได้แค่อันดับที่ 5 ของตาราง ฤดูกาลต่อไปได้ไปแค่ยูฟ่า คัพ สถิติ ลงเล่นในเซเรีย อา  25 นัด ทำไป  12 ประตู ลงเล่นในโคปปาอิตาเลีย 2 นัด ลงเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก 8 นัด ทำไป 2 ประตู สรุป: ลงเล่นทั้งหมด 35 นัด ทำไป 14 ประตู จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 07:19:21

ความคิดเห็นที่ 9 ฤดูกาล 1998-1999  คว้าดับเบิ้ลแชมป์ ปีนี้เครสโปได้ผู้ช่วยชั้นดีอย่าง “ฮวน เซบาสเตียน เวรอน” ย้ายมาปั้นเกมให้กับทีมจากชามพ์โดเรีย เมื่อบวกกับกองหน้าฝีเท้าดีอย่าง “เอ็นริโก้ เคียซ่า” ทีมปาร์ม่าได้กลายเป็นทีมที่มีเกมรุกดุดัน และน่ากลัว   ส่วนในเกมรับพวกเขามี “บุฟฟ่อน” เป็นประตู แผงหลังมี “ฟาบิโอ คันนาวาโร่” กับ “ตูราม” คอยเป็นกำแพงเหล็ก ในการแข่งขันยูฟ่า คัพ ถึงแม้ปาร์ม่าจะออกนอกบ้านแล้วชนะใครไม่ได้  แต่พวกเขายามลงเล่นใน “เอ็นนิโอ ตาร์ดินี่” จะชนะด้วยสกอร์ขาดลอยตลอด เครปโป ยิงได้  6 ประตู โดยที่สามประตูยิงในรอบรองชนะเลิศสองนัดกับ บอร์กโดซ”“ และลูก 1-0 ในนัดชิงยูฟ่าคัพกับมาร์กเซย สุดท้ายทีมชนะมาร์กเซย 3-0 แบบสบายๆ ถ้วยโคปปา อิตาเลีย เครสโปทำสองประตูในเกมทั้งสองนัดที่เจอกับฟิออเรนติน่าให้ทีมคว้าแชมป์โคปปา อิตาเลียด้วยกฎประตูทีมเยือน เสมอในบ้านปาร์ม่า 1-1 เครสโปยิงประตู 1-0 เสมอในนัดไปเยือนฟิออเรนติน่า 2-2 เครสโปยิงประตู 1-1 ทางด้านผลงานในลีกจบอันดับ 4 ได้ไปยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก รอบคัดเลือกรอบสาม สถิติ ลงเล่นในเซเรีย อา  30 นัด ทำไป  16 ประตู ลงเล่นในโคปปาอิตาเลีย 7 นัด ทำไป 6 ประตู ลงเล่นยูฟ่า คัพ  8 นัด ทำไป 6 ประตู สรุป: ลงเล่นทั้งหมด 45 นัด ทำไป 28 ประตู จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 07:29:03

ความคิดเห็นที่ 10 ฤดูกาล 1999-2000 ทำลายสถิติดาวยิงปาร์ม่า ปาร์ม่าเริ่มต้นฤดูกาลโดยเสีย “เวรอน” ไปให้ลาซิโอ  คนที่มาแทนอย่าง “อาเรียล ออร์เตก้า” ก็แทนกันไม่ได้ ถึงแม้พวกเขาจะคว้าแชมป์ซูเปอร์ โคปปา อิตาเลียมาได้ โดยที่ “เครสโป”  ยิงตีเสมอมิลาน 1-1 ในชัยชนะ 2-1 แต่พวกเขาตกรอบโคปปา อิตาเลียในรอบ 16 ทีม ด้วยการแพ้กายารี่ประตูรวม 3-2 แถมยังไม่ผ่านรอบคัดเลือกแชมเปี้ยนลีก เพราะไปแพ้เรนเจอร์ด้วยประตูรวม 2-1 ทางด้านถ้วยยูฟ่าคัพไปแพ้ทีม “เบรเมน” จากเยอรมันในรอบสี่ โดยเครสโปยิงประตูชัย 1-0 ให้ทีมชนะในบ้านก่อน  แต่ในการไปเยือนดันแพ้ 1-3 ผลงานในลีกก็ไม่สม่ำเสมอจบฤดูกาลที่อันดับ 4 ร่วม  จึงต้องเพลย์-ออฟหาที่ไปยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกรอบคัดเลือก สุดท้ายก็แพ้อินเตอร์ไป 3-1 ในสนามเป็นกลางจากสองประตูสุดสวย และสุดยอดของ “โรแบร์โต้ บาจโจ” แต่ถ้าไปมองผลงงานส่วนตัวของ “เครสโป” นั้นเข้าขั้นสุดยอด เขาทำสถิติเป็นผู้เล่นปาร์ม่าคนแรกที่ยิงในลีกเกิน 20 ประตู และยังทำลายสถิติยิงประตูสูงสุดในลีกของ “จิอันฟรังโก้ โซล่า” ในหนึ่งฤดูกาลที่เคยทำไว้ 19 ประตูในฤดูกาล 1994-1995 สถิติ ลงเล่นในเซเรีย อา  34 นัด ทำไป  22 ประตู ลงเล่นในโคปปาอิตาเลีย 2 นัด ลงเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกรอบคัดเลือก 2 นัด ลงเล่นยูฟ่า คัพ  3 นัด ทำไป 3 ประตู ลงเล่นซูเปอร์ โคปปา อิตาเลีย 1 นัด ทำไป 1 ประตู สรุป: ลงเล่นทั้งหมด 42 นัด ทำไป 26 ประตู จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 07:29:41

ความคิดเห็นที่ 11 ฤดูกาล 2000-2001 มิสเตอร์แสนล้าน (ลีร์) ด้วยผลงานยอดเยี่ยมในฤดูกาลที่แล้วสโมสรลาซิโอเลยทุ่มเงินซื้อเครสโปในมูลค่า 110,000 ล้านลีร์ (35 ล้านปอนด์) โดยตอนแรกปาร์ม่าซื้อเครสโปมาแค่ 6,000 ล้านลีร์เอง แต่จากผลงานลงเล่น 150 นัด ทำไป 80 ประตู แถมยังขายได้ราคาขนาดนี้ถือว่าคุ้มค่ามาก ผลงานของลาซิโอในฤดูกาลนี้ถือว่าไม่ดีนัก เมือ “สเวน โกรัน อิริคสัน” ได้ประกาศว่าจะไปคุมทีมชาติอังกฤษ สเวนก็ไม่ทุ่มเทเหมือนเดิม  และไม่มีสมาธิอยู่กับทีม จนในเดือนเมษายนลาซิโอจึงต้องแยกทางกับสเวน เริ่มต้นฤดูกาลลาซิโอได้แชมป์ซูเปอร์ โคปปาอิตาเลีย ผ่านรอบแบ่งกลุ่มรอบแรกแชมเปี้ยนลีก กับเข้าไปถึงรอบ 8 ทีมโคปปา อิตาเลีย เดือนพฤศจิกายนผลงานสุดเลวร้ายไม่ชนะใครในรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนลีกรอบสอง ส่วนผลงานในลีกก็ไม่ชนะใครสามนัดติด เดือนธันวาคมตกรอบ 8 ทีม โคปาอิตาเลีย จากการแพ้อูดิเนเซ่ 1-4 ในนัดที่สอง หลังจากชนะในบ้าน 2-1 ทางด้านผลงานส่วนตัวของเครสโปยังคงรักษาความร้อนแรงเอาไว้ได้  ฤดูกาลนี้เครสโปเป็นดาวซัลโวเซเรีย อาที่ 26 ประตู สถิติ ลงเล่นในเซเรีย อา  32 นัด ทำไป  26 ประตู ลงเล่นในโคปปาอิตาเลีย 1 นัด ลงเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก  6 นัด ทำไป 2 ประตู ลงเล่นซูเปอร์ โคปปา อิตาเลีย 1 นัด สรุป: ลงเล่นทั้งหมด 40 นัด ทำไป 28 ประตู จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 07:30:59

ความคิดเห็นที่ 12 ฤดูกาล 2001-2002 ปีที่แสนเลวร้าย เริ่มต้นฤดูกาลลาซิโอเสียหัวใจในเกมรุกอย่าง “เวรอน” ไปให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับเสีย “เนดเวด” ไปให้ยูเวนตุส ส่วน “เมนดิเอต้า” ที่ซื้อมาถึง 48 ล้านยูโร จากบาเลนเซียก็เล่นไม่ได้อย่างที่ตั้งความหวังไว้ ทางด้านเครสโปเองก็มีอาการบาดเจ็บรบกวนทำให้ลงเล่นได้แค่ช่วงต้นฤดูกาล แต่ก็มีผลงงานที่ดี เดือนสิงหาคมในยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกรอบเพลย์-ออฟ เครสโปยิง 2 ประตูในเลกสองที่ชนะในโรม 4-1 บวกกับหนึ่งลูกในการไปเยือนโคเปนเฮเก้นในการแพ้ 1-2 ในนัดแรก ทำให้ทีมเข้ารอบแบ่งกลุ่มได้สำเร็จ พอเข้ารอบแบ่งกลุ่มลาซิโอที่ชนะได้แค่ 2 นัด แพ้ถึง 4 นัด จึงตกรอบด้วยอันดับ 4 ของกลุ่ม ส่วนในโคปปา อิตาเลีย เครสโป เหมาสามลูกจากสองนัดให้ทีมชนะเซียน่าด้วยประตูรวม 3-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายพวกเขาแพ้มิลานตกรอบไป ก่อนฟุตบอลโลก 2002 จะเริ่มขึ้นมีการถกเถียงกันว่าใครควรเป็นกองหน้าตัวจริงของอาร์เจนติน่าในฟุตบอลโลกปี 2002 ระหว่าง “กาเบียล บาติสตูต้า” กับ เฮอร์นัน เครสโป” ดาวซัลโวรอบคัดเลือก  สุดท้าย “บาติโกล” ก็เป็นคนที่ถูกเลือก สถิติ ลงเล่นในเซเรีย อา  22 นัด ทำไป  13 ประตู ลงเล่นในโคปปาอิตาเลีย  4 นัด ทำไป  4 ประตู ลงเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก  7 นัด ทำไป 3 ประตู สรุป: ลงเล่นทั้งหมด 33 นัด ทำไป 20 ประตู จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 07:32:27

ความคิดเห็นที่ 13 ฤดูกาล 2002-2003 ย้ายสู่อินเตอร์ มิลาน เมื่อลาซิโอประสบปัญหาทางด้านการเงินก็ต้องขายนักเตะเพื่อหาเงิน “เครสโป”ก็เป็นหนึ่งในนั้น อินเตอร์ มิลาน จึงทุ่มเงิน 26 ล้านยูโรบวกกับ “แบร์นาโด้ คอร์ราดี้” ให้ลาซิโอแลกกับเครสโป เครสโประเบิดฟอร์มการเล่นในยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกรอบแบ่งกลุ่มรอบแรกโดยทำไป 8 ประตู แต่โชคร้ายเมื่อเข้าสู่ปี 2003 เขาต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บถึงเกือบ 4 เดือน ก่อนที่จะกลับมาช่วยทีมในช่วงท้ายฤดูกาล ทางด้านผลงานของสโมสรอินเตอร์ มิลาน ด้วยปัญหาในเกมรับทำให้อินเตอร์ไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลย สถิติ ลงเล่นในเซเรีย อา  18 นัด ทำไป  7 ประตู ลงเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก  12 นัด ทำไป 9 ประตู สรุป: ลงเล่นทั้งหมด 30 นัด ทำไป 16 ประตู จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 07:33:30

ความคิดเห็นที่ 14 ฤดูกาล 2003-2004 ไปร่วมทัพเชลซียุคใหม่ หลังจาก “โรมัน อับราโมวิช” เข้าซื้อทีมเชลซี เสี่ยหมีก็กว้านซื้อนักเตะระดับโลก และเครสโปเป็นหนึ่งในนั้น เครสโปย้ายไปเชลซีด้วยค่าตัว 32 ล้านยูโร ซึ่งมีนักเตะระดับโลกอย่างเวรอน, มูตู และมาเกเลเล่ ถูกดึงเข้ามาเชลซีเหมือกัน เครสโปเป็นตัวเลือกหลักในเกมแชมเปี้ยนลีก เขาได้ลงเล่น 10 นัดจากที่ทีมลงเล่น 12 นัด เป็นตัวจริง 7 นัด แต่ในพรีเมียร์ลีก เครสโปได้ลงเล่นแค่ 19 นัด  โดยเป็นตัวจริงแค่ 13 นัด เมื่อมองในภาพรวมผลงานส่วนตัวถือว่าไม่ค่อยดีนัก สถิติ ลงเล่นในพรีเมียร์ ลีก  19 นัด ทำไป  10 ประตู ลงเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก  10 นัด ทำไป 2 ประตู ลงเล่นในลีกคัพ  2 นัด   สรุป: ลงเล่นทั้งหมด 31 นัด ทำไป 12 ประตู จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 07:34:11

ความคิดเห็นที่ 15 ฤดูกาล 2004-2005 กลับไปยังเมืองมิลาน ภายหลังการเข้ามาคุมทีมของมูริญโญ่ ตัวเครสโปไม่อยู่ในแผนการทำทีม และปรับตัวเข้ากับชีวิตในอังกฤษไม่ได้ เมื่อมิลานภายใต้การคุมทีมของ “อันเชลอตติ” ได้เสนอความจำนงที่จะยืมตัวเขาไป ซึ่งทางเชลซีก็เห็นด้วยจึงให้ยืม เครสโป เมื่อมาถึงก็ได้เป็นตัวหลักในแดนหน้ายืนคู่กัน “อังเดร เชฟเชนโก้” ในเกมเซเรีย อา และแชมเปี้ยนลีก ผลงานชิ้นโบแดงของเครสโปในฤดูกาลนี้คือการยิงให้ทีมชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ในรอบ 16 ทีมแชมเปี้ยนลีก ทั้งนัดเหย้าและนัดเยือน พอถึงนัดชิงกับลิเวอร์พูล เครสโปยิงสองลูกให้ทีมนำลิเวอร์พูล 3-0 ก็ถูกตีเสมอ 3-3 แล้วแพ้ในการดวลจุดโทษ สถิติ ลงเล่นในเซเรีย อา  28 นัด ทำไป  11 ประตู ลงเล่นในโคปปาอิตาเลีย  1 นัด ทำไป  1 ประตู ลงเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก  10 นัด ทำไป 6 ประตู ลงเล่นซูเปอร์ โคปปา อิตาเลีย 1 นัด สรุป: ลงเล่นทั้งหมด 40 นัด ทำไป 18 ประตู จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 07:34:53

ความคิดเห็นที่ 16 ฤดูกาล 2005-2006 คว้าแชมป์ลีกในยุโรปเป็นครั้งแรก เมื่อมูริญโญ่ต้องการกองหน้าระดับโลกมาเป็นคู่แข่งกับดร็อกบา  เครสโปจึงได้มาอยู่ในแผนการทำทีมของมูริญโญ่ เครสโปได้รับโอกาสมากกว่าฤดูกาล 2003-2004 โดยลงเล่นในลีก 30 นัด เป็นตัวจริงถึง 20 นัดเท่ากับดร็อกบา ในที่สุดเครสโปก็ประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ลีกจนได้ ในยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกเครสโปเป็นตัวสำรองลงเล่นแค่ 5 นัด  โดยได้เป็นตัวจริงแค่ 2 นัดเท่านั้น แต่ก็ยิงลูก 1-0 ในนัดที่ทีมบุกเอาชนะอันเดอร์เลชท์ 2-0 การันตีการเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายให้เชลซี สถิติ ลงเล่นในพรีเมียร์ ลีก  30 นัด ทำไป  10 ประตู ลงเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก  5 นัด ทำไป 2 ประตู ลงเล่นในเอฟ.เอ.คัพ  5 นัด  ทำไป  1 ประตู ลงเล่นในลีกคัพ  1 นัด   ลงเล่นในแชร์ริตี้ ชิลด์  1 นัด สรุป: ลงเล่นทั้งหมด 42 นัด ทำไป 13 ประตู จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 07:35:28

ความคิดเห็นที่ 17 ฤดูกาล 2006-2007 ย้ายกลับมาสู่อินเตอร์ มิลาน เครสโปอยากย้ายกลับไปเล่นมิลาน แต่เชลซีต้องการข้อเสนอดีๆ อินเตอร์จึงยืนสัญญายืมตัวสองปี เชลซีเลยรับข้อเสนอนี้ เมื่อมาถึงเครสโปยิงได้หนึ่งลูกในชัยชนะ 4-3 เหนือโรม่าในอิตาลีซูเปอร์คัพ ในเซเรีย อา เครสโปจับคู่กับอิบราฮิโมวิชในแดนหน้าช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีกได้อย่างสบายๆ นัดที่ 36 เครสโปทำแฮตทริกได้อีกครั้งในชัยชนะเหนือลาซิโอ 4-3   รอบชิงโคปปา อิตาเลีย “เครสโป”  ยิงได้ 3 ประตูทั้งในนัดเยือน  2 ประตู และนัดเหย้า 1 ประตู   แต่โรม่ายิงถล่มอินเตอร์สองนัด 7 ประตู โดยเป็น โรม่าชนะ 6-2 ในโรม และมาแพ้ 1-2 ที่มิลาน สถิติ ลงเล่นในเซเรีย อา  30 นัด ทำไป  14 ประตู ลงเล่นในโคปปาอิตาเลีย  5 นัด ทำไป  4 ประตู ลงเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก  6 นัด ทำไป 1 ประตู ลงเล่นซูเปอร์ โคปปา อิตาเลีย 1 นัด  ทำไป 1 ประตู สรุป: ลงเล่นทั้งหมด 42 นัด ทำไป 20 ประตู จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 07:36:21

ความคิดเห็นที่ 18 ฤดูกาล 2007-2008 เสียตำแหน่งให้ฮูลิโอ ครูซ และบาโลเตลลี่ ในฤดูกาลนี้ช่วงต้นฤดูกาลมันชินี่ได้ให้ “ฮูลิโอ ครูซ” เป็นตัวหลักคู่กับอิบราฮิโมวิชในลีก แถมซัวโซ่ที่ซื้อมาจากายารี่ก็เป็นสำรองตัวเลือกแรกๆ เครสโปจึงเป็นได้แค่ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนามเท่านั้น  แถมช่วงท้ายฤดูกาลมีบาโลเตลลี่ขึ้นมาอีก   เครสโปเลยได้เล่นในเซเรีย อาแค่ 19 นัด เป็นตัวจริงแค่ 12 นัด ยิงได้แค่  4 ประตู ส่วนในแชมเปี้ยนลีก ตอนรอบแบ่งกลุ่มเป็นตัวหลักเป็นตัวจริง 4 จาก 6 นัด ยิงได้  1 ประตูในเกมที่บุกชนะ CSKA มอสโคว 2-1 แต่รอบ 16 ทีมกับลิเวอร์พูลที่อินเตอร์แพ้ไปทั้งสองนัดเหย้าเยือนไม่ได้ลงเล่นเลย ในโคปปา อิตาเลียได้ยืนเป็นตัวจริงถึง 4 นัดจากการแข่งขันทั้งหมดเจ็ดนัด ทำได้ 2 ประตู โดยในรอบแรกที่เล่นกับเรจจิน่าสองนัดเหย้าเยือน เขายืนคู่กับบาโลเตลลี่ในแดนหน้า  และยิงได้ทั้งสองนัด แต่ในรอบชิงอินเตอร์ไปแพ้โรม่า 1-2 โดยที่เครสโปนั่งสำรองถูกเปลี่ยนลงนาทีที่ 90 แทนซาเน็ตติ สถิติ ลงเล่นในเซเรีย อา  19 นัด ทำไป  4 ประตู ลงเล่นในโคปปาอิตาเลีย  5 นัด ทำไป  2 ประตู ลงเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก  5 นัด ทำไป 1 ประตู สรุป: ลงเล่นทั้งหมด 29 นัด ทำไป 7 ประตู จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 07:37:15

ความคิดเห็นที่ 19 ฤดูกาล 2008-2009 ร่วมงานกันอีกครั้งกับมูริญโญ่ เมื่อหมดสัญญากับเชลซี เครสโปในวัย  33 ปี จึงเซ็นสัญญากับอินเตอร์  1ฤดูกาล ในฤดูกาลนี้เครสโปเป็นแค่กองหน้าตัวเลือกอันดับสุดท้ายเท่านั้น  คู่กองหน้าตัวหลัก คือ อิบราฮิโมวิชกับบาโลเตลลี่ ทั้งฤดูกาลเครสโปได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแค่  3 นัด 2 นัดในเซเรีย อา  1 นัดในโคปปา อิตาเลีย ในรายกายยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก  เครสโปไม่ได้ถูกส่งลงสนามเลย สถิติ ลงเล่นในเซเรีย อา  14 นัด ทำไป  2 ประตู ลงเล่นในโคปปาอิตาเลีย  3 นัด สรุป: ลงเล่นทั้งหมด 17 นัด ทำไป 2 ประตู จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 07:38:09

ความคิดเห็นที่ 20 ฤดูกาล 2009-2010  ย้ายสลับกับมิลิโต้ เมื่อหมดสัญญากับอินเตอร์  เจนัวได้ติดต่อเครสโปให้ย้ายไปรวมทีมเพื่อเป็นตัวแทนมิลิโต้ที่ย้ายไปอินเตอร์ ถึงแม้นัดแรกจะได้เป็นตัวจริง แต่ก็ไม่สามารถโชว์ฟอร์มเอาชนะใจกาสเปรินี่ได้  สุดท้ายก็ตกเป็นตัวสำรอง แต่ก็ทำได้ถึง 5 ประตูโดยมีเหยื่อเป็นนาโปลี, ยูเวนตุส, เซียน่า และอตาลันต้าในนัดสุดท้ายที่เล่นให้เจนัว สถิติ ลงเล่นในเซเรีย อา  16 นัด ทำไป  5 ประตู ลงเล่นในโคปปาอิตาเลีย  1 นัด ลงเล่นในยูโรปา ลีก  4 นัด ทำไป  2 ประตู สรุป: ลงเล่นทั้งหมด 21 นัด ทำไป 7 ประตู จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 07:38:47

ความคิดเห็นที่ 21 มกราคม 2010 กลับไปยังทีมแรกในอิตาลี การย้ายทีมครั้งนี้พันกันเป็นลูกโซ่ โดยทั้งสามทีมทำสัญญาในเวลาเดียวกัน เริ่มจากนิโกล่า อโมรูโซ่ย้ายจากปาร์ม่าไปอตาลันต้า จึงทำให้โรเบิร์ต อัคควาเฟสก้าย้ายจากอตาลันต้ามาเจนัว ปิดท้ายที่เครสโปย้ายจากเจนัวไปปาร์ม่า   เมื่อเครสโปมาถึงก็ได้ยืนเป็นหน้าเป้า  ถึงแม้เขาจะยิงได้แค่หนึ่งประตู  แต่ก็ทำถึง  3 แอสซิสต์ให้ทีมเก็บคะแนนสำคัญในการหนีตกชั้น สถิติ ลงเล่นในเซเรีย อา  13 นัด ทำไป  1 ประตู จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 07:39:37

ความคิดเห็นที่ 22 ฤดูกาล 2010-2011  ยิงเพื่อปาร์ม่า เครสโปในวัย  35 ปี  ถึงแม้จะไม่ฟิตเหมือนเมื่อก่อน  แต่ประสบการณ์ของเขาก็ช่วยปาร์ม่ารอดตกชั้นได้สบายๆ ผลงานเด่นคือเหมาสองประตูให้ทีมชนะอูดิเนเซ่ใน “เอ็นนิโอ ตาร์ดินี่”  จบฤดูกาลเครสโปเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีม ในถ้วยโคปปา อิตาเลีย เครสโปลงมาเป็นสำรองยิงสองลูกในช่วงต่อเวลาพิเศษ ส่งผลให้ปาร์ม่าผ่านเข้ารอบต่อไปเจอปาแลร์โม่  ซึ่งสุดท้ายทีมปาร์ม่าแพ้ไปในการยิงลูกที่จุดโทษ สถิติ ลงเล่นในเซเรีย อา  29 นัด ทำไป  9 ประตู ลงเล่นในโคปปาอิตาเลีย  2 นัด ทำไป 2 ประตู สรุป: ลงเล่นทั้งหมด 31 นัด ทำไป 11 ประตู จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 07:40:12

ความคิดเห็นที่ 23 ฤดูกาล 2011-2012 ลาก่อนอิตาลี ในวัย 36 ปีเครสโปมีสภาพร่างกายที่ไม่สามารถเล่นฟุตบอลระดับสูงได้อีกแล้ว เมื่อถึงเดือนมกราคมเครสโปได้กล่าวอำลาทีมเพื่อไปเล่นที่ลีกอินเดีย ซึ่งตอนนี้เลื่อนการเปิดฤดูกาลออกไปอย่างไม่มีกำหนด แต่อย่างไรก็ตามในฤดูกาลสุดท้ายนี้เครสโปยังไว้ลายทำสองประตูในโคปปา อิตาเลียที่ทีมพบกับทีมกรอสเซโต้จากเซเรีย บี สถิติ ลงเล่นในเซเรีย อา  4 นัด ลงเล่นในโคปปาอิตาเลีย  2 นัด ทำไป 2 ประตู สรุป: ลงเล่นทั้งหมด 6 นัด ทำไป 2 ประตู จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 07:40:53

ความคิดเห็นที่ 24 ทีมชาติอาร์เจนติน่า ปี 1995 เครสโปในวัย 19 ปี ได้รับโอกาสลงเล่นทีมชาตินัดแรกในเกมอุ่นเครื่องกับบัลแกเรีย ปี 1996 เครสโปไปลงเล่นในฟุตบอลโอลิมปิก  เขายิงได้ถึง 6 ประตูจาก 6 นัด แต่ได้เหรียญเงินเพราะแพ้ไนจีเรียในนัดชิง ปี 1997 ได้ลงเล่นศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ 9 นัด ทำไป 3 ประตู ปี 1998 ร่วมทำศึกฟุตบอลโลก โดยได้เล่นหนึ่งนัดในเกมรอบ 16 ทีมกับอังกฤษแต่ทำประตูไม่ได้ ปี 2000-2001 ได้ลงเล่นศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ 13 นัด ทำไป  9 ประตู ปี 2002 ได้ไปบอลโลก แต่ลงเป็นตัวสำรองทั้งสามนัดในรอบแบ่งกลุ่ม ยิงได้ในนัดที่สามที่ทีมเสมอสวีเดน 1-1 แต่ทีมก็ตกรอบแรกไป จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 07:42:03

ความคิดเห็นที่ 25 ปี 2003-2005 ได้ลงเล่นศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ 11 นัด ทำไป  7 ประตู ปี 2006 ได้เป็นตัวจริงในฟุตบอลโลกหนนี้ ลงเล่น 4 นัด ทำได้ 3 ประตู แพ้การดวลจุดโทษกับเยอรมันในรอบ 8 ทีม ปี 2007 ลงเล่นโคปา อเมริกา 2 นัดแรกยิงไป 3 ประตู แต่ได้รับบาดเจ็บจนอดช่วยทีมในนัดที่เหลือ สุดท้ายอาร์เจนติน่าก็แพ้บราซิล 0-3 ในนัดชิง เครสโป ลงเล่นให้ทีมชาติทั้งหมด 64 นัด ทำได้ 35 ประตู จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 07:42:54

ความคิดเห็นที่ 26 จบแล้วครับ หลังยูโร 2012 ผมจะมาอำลานักเตะทั้งหลายที่เลิกเล่นในยุโรปต่อนะครับ ที่แน่นอนแล้วมีราอูลที่ไปตะวันออกกลาง กับรุด ฟาน นิสเตอรอยที่เลิกเล่นแล้ว   ส่วนบรรดานักเตะอิตาลีทั้งหลายยังไม่มีใครกำหนดอนาคตแน่นอนซักคน อาทิตย์หน้าเข้าสู่โหมดยูโร 2012 เดียวจะหาเรื่องอะไรมาเล่นกำลังคิดอยู่ จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 07:43:56

ความคิดเห็นที่ 27 น่าจะเกิดหลังจากยุคของกาเบรียล บาติสูต้า 2002 - 2010 นะ จากคุณ : mrsorn เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 07:55:20

ความคิดเห็นที่ 28 ขวัญใจผมคนนึงเลย เสียดายที่มิลานไม่ซื้อขาด จากคุณ : LiTtLe miLAnEllO เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 09:26:15

ความคิดเห็นที่ 29 ยังจำฤดูกาลแรกของเครสโปในปาร์ม่าได้เลย ตอนน้ันพี่แจ้กล้ามากที่ขายโซล่าให้เชลซี แล้วกะพึ่งเครสโป กับเคียซ่าแทน แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าปาร์ม่าจบฤดูกาลได้ที่สาม คุณพระ!! >_< เราคงจะจำทีมชุดนั้นไปอีกนานเท่านาน เพราะเป็นปาร์ม่าที่ดีที่สุดในความทรงจำของเรา (ไม่ทันดูตอนโซล่า-อัสปริญ่ายุครุ่งๆง่ะ) แต่ละคน เคียซ่า เครสโป คันนาวาโร่ ตูราม บุฟฟ่อน เวรอน คลาสสิคจริงๆให้ดิ้นตาย โดยเฉพาะเครสโป ที่โป้งปิดบัญชี เล่นได้แน่นอน ไม่ค่อยพลาดง่ายๆ (แบบกองหน้ายุคนี้ -_-) ขอให้โชคดี กินโรตีที่อินเดียอย่างมีความสุขนะก๊า T^T จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 10:28:08

ความคิดเห็นที่ 30 แสดงว่าคุณฮะมิ้ว เริ่มเชียร์ปาร์ม่ารุ่นเดียวกับผม สมัยนั้นดูอะไรไม่รู้เรื่องหรอกรู้แต่ ผมชอบพี่จี้ (ฮา) หลังๆ เลยรู้ว่าโหวเคียซ่าเจ๋งอ่ะ เครสโปเท่ห์อ่ะ (หน้าพี่แกอย่างกะแรมโบ้) จากคุณ : กิ่งกัลปพฤกษ์ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 10:44:33

ความคิดเห็นที่ 31 ชอบมากครับ ตอนอยู่อินเตอร์ ก่อนมาเชลซี จากคุณ : อีกออินึนเด เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 12:52:30

ความคิดเห็นที่ 32 แอบชอบปาร์ม่าเพราะเคสโปนี่แหละ ช่วงนั้นปาร์ม่าอันดับดีจริงๆ จากคุณ : ในกรณีชื่อที่ 1 ไม่ผ่าน เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 13:12:33

ความคิดเห็นที่ 33   tks krab จากคุณ : samsam เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 13:39:09

ความคิดเห็นที่ 34 สุดยอดเหมือนเดิมครับท่าน คารวะ 1 จอก จากคุณ : zuka1 เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 14:25:38

ความคิดเห็นที่ 35 อีกอย่างนะ ถ้าชั้นจำไม่ผิดเคยอ่าน เครสโป ย้ายทีค่าตัวติดอันดับโลก สูงสุด หนึ่งในสิบนี่ติด 1-2 อันดับเลยนะ แกย้ายทีเงินไหลที จากคุณ : ป้าหนอน เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 14:31:46

ความคิดเห็นที่ 36 เป็นอีกเคสนึงที่ทำให้ผมหงุดหงิดกับความงกมหางกของมิลานอย่างสุดๆเลย จากคุณ : HaoMaRu เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 14:40:43

ความคิดเห็นที่ 37 เอ้อ ขอถามนิดนึงครับ ไอ้เจ้าแชมป์อปอร์ตูล่ากะแชมป์เคลาซูร่า เค้ามีการจับมาดวลหาแชมป์ประจำฤดูกาลแบบที่เม็กซิโกมั้ยครับ รึว่านับเป็นแชมป์ไปเลย งั้นปีนึงก็มีแชมป์สองทีมน่ะสิ แปลกจริงๆระบบนี้ (- -") จากคุณ : FireLion เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 14:46:33

ความคิดเห็นที่ 38 ขอให้เครสโปโชคดีจร้าาาา ผึ้งน้อยกับยุครุ่งเรือง ปีหน้ากลับมาสู่เส้นทางท่องถ้วยยุโรปให้ได้นะ ^___^ แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 55 14:48:41 จากคุณ : เขามะกอก เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 14:47:04

ความคิดเห็นที่ 39 ตัวจริงว่าสุดยอดแล้วในวินนิ่งสุดยอดเลย จากคุณ : son_gohan เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 17:00:43

ความคิดเห็นที่ 40 คุณ FireLion ฤดูกาลนี้ไม่มีครับ แต่ฤดูกาลหน้าอาจจะมีจากการอ่านข่าวล่าสุดนะครับ จากคุณ : สารานุกรมกัลโช่ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 17:56:47

ความคิดเห็นที่ 41 จำได้ติดตาคือลูกยิงใส่ยูเว่ตอนทดเวลาเจ็บ ยิงด้วยซ้ายเรียดไปเข้าเสาสอง แล้วปีนั้นยูเว่ก็ชวดแชมป์โดยแต้มห่างจากลาซิโอที่เป็นแชมป์แต้มเดียว จากคุณ : yongzaa เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 19:06:27

ความคิดเห็นที่ 42 ขออนุญาตคุณสารานุกรมฯ เสริมนิดนึงค่ะ ตามระบบเดิม แชมป์อปอร์ตูล่ากับแชมป์เคลาซูร่าของอาร์เจนติน่า ไม่มีการมาดวลหาแชมป์ประจำปีแบบเม็กซิโก จะมีสองแชมป์ค่ะ หมดอปอร์ตูล่าลีก พอได้แชมป์ก็จบไปเลย พักเบรค แล้วก็เริ่มเคลาซูร่าลีก ตั้งต้นนับหนึ่งกันใหม่ พอได้แชมป์ก็จบ จะมีดวลกันก็ต่อเมื่อใกล้จบแต่ละมินิลีก แล้วทีมจ่าฝูงมีคะแนนเท่ากัน ไม่ว่าจะกี่ทีม จะมีเพลย์ออฟ เพื่อหาทีมแชมป์ แต่ก็อาจจะมีดวลหาแชมป์ลีกเมื่อเริ่มระบบใหม่ในฤดูกาลหน้า แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 55 19:26:40 จากคุณ : la liga fan เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 19:25:01

ความคิดเห็นที่ 43 กิฟฟ์หมดตัวกันเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะมีกระทู้โหวตที่นี่ เพราะเครสโปคือขวัญใจอันดับหนึ่งตลอดกาลของผมเลยครับ ยังจำช่วงปีแรกๆกับปาร์ม่าได้ดี มันติดตาเพราะเป็นช่วงดูบอลใหม่ๆ ตอนนั้นปาร์ม่ายังมีพวกสตานิช โบรลิน สคอยคอฟอยู่เลยมั้ง น่าจะประมาณปี 96 (เคียซ่าย้ายมาปีถัดไป) ชุดแข่งลายนี้แหละ จากคุณ : Mesia_82 เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 20:26:50

ความคิดเห็นที่ 44 ส่วนในทีมชาติ สถิติยิงประตูของเครสโปสูงเป็นอันดับ 2  เหนือมาราโดน่าและเป็นรองบาตี้ 1 Gabriel Batistuta (78 นัด ยิง 56) 2 Hernán Crespo (63 นัด ยิง 35) 3 Diego Maradona (91 นัด ยิง 34) โดยประตูที่ 35 ที่แซงสถืติของมาราโดน่าได้มาจากจุดโทษในเกมส์โคปปา 2007 กับโคลัมเบีย ซึ่งหลังเครสโปยิงได้ เจ้าตัวก็เจ็บจะต้องเปลี่ยนออก และมันเป็นเกมส์สุดท้ายในนามทีมชาติอีกด้วย (อาถรรพ์มาราโดน่ามันแรง ขอบอก) ส่วนในอนาคต คาดว่าเมสซี่คงแซงเครสโปได้แน่นอน แต่บาติสตูต้าอาจจะยากหน่อย (เมสซี่ลง 69 ยิงไป 23 แล้ว) จากคุณ : Mesia_82 เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 20:41:21

ความคิดเห็นที่ 45 อันนี้จังหวะของประตูสุดท้ายในทีมชาติครับ (วินาทีที่ 20) ยิงแล้วโดดเหยงๆเลย ป.ล. ริเคลเม่ ยิงฟรีคิกสวยมากๆ แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 55 20:49:01 จากคุณ : Mesia_82 เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 20:47:55

ความคิดเห็นที่ 46 #35 ป้าหนอนครับ ค่าตัวของเครสโปตอนมาลาซิโอ้คือ 35 ล้านปอนด์ ในตอนนั้นคือแพงที่่สุดในโลก แต่สถิตินี้อยู่ได้แค่อาทิตย์เดียว เพราะรีลมาดริดซื้อFigoจากบาร์ซ่า 37 ล้าน ทุบสถิติกันไป อ้างอิง http://en.wikipedia.org/wiki/World_football_transfer_record แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 55 20:58:29 จากคุณ : Mesia_82 เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 20:55:50

ความคิดเห็นที่ 47 อันนี้คลิปเล่นเทนนิวด้วยทีนกับ มาราโดน่า เมสซี่ เตเบส ฮาดี จากคุณ : Mesia_82 เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 21:06:12

ความคิดเห็นที่ 48 ลืมคลิป จากคุณ : Mesia_82 เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 21:06:45

ความคิดเห็นที่ 49 สุดยอดครับ จากคุณ : Makelele เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 21:15:08

ความคิดเห็นที่ 50 กระจ่างเลยครับ ขอบคุณมั่กๆ แบบนี้มิกลายเป็น หนึ่งแผ่นดินสองราชันย์ เลยรึไงเนี่ย แต่คิดอีกแง่ แบบนี้ทีมเล็กๆมีสิทธิ์เป็นแชมป์ได้ง่ายนะครับ เพราะจำนวนนัดที่เตะมีน้อยลีกแบบปกติ จากคุณ : FireLion เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 22:05:20

ความคิดเห็นที่ 51 ไม่ใช่ตอนแพงที่สุดอ่ะค่ะ แต่ว่าติด 1 ใน 10 หรือ 20 เนี่ย อยู 1-2 อันดับ เพราะว่าปีที่ไปจากลาซิโอ้ ค่าตัวที่ 35 ล้าน ปอนด์ หรือ 51 ล้านยูโร (2000) พอปีที่ไปอินเตอร์มิลาน (2002) เครสโป ราคา 26 ล้าน + คอร์ราดี้ 5.5 ล้าน = 31.5 (แต่เป็นยูโร)   เมื่อสองสามปีก่อน แกยังเป็นสถิติโลก อันดับ 10+ อีกที ที่ราคานี้ แต่ตอนนี้ โดนพวกที่ราคาแรงๆ ปี 2009 ไล่ลงไปหมดแล้ว อย่างเบนเซม่า ต่ำสุด ยังที่ 35 ล้านยูโร (อันดับ 25) คนที่ขายแล้ว ขายอีก จะยังได้ราคาดี และมีคนอยากสอย ฝีเท้าต้องดีมากๆ จากคุณ : ป้าหนอน เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 22:10:58

ความคิดเห็นที่ 52 อ่านดูประวัติเต็มๆแล้ว รู้สึกว่าเครสโปกับเวรอนนี่ดวงสมพงศ์กันนะครับ ย้ายตามมาเจอกันบ่อยเลย ปล.จำลูกที่เครสโปยิงลิเวอร์พูลได้ติดตา ตอนยิงลูก 3-0 นี่แทบจะปิดไฟนอนแล้วครับ จากคุณ : หมูขี้เซา เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 23:51:55

ความคิดเห็นที่ 53 เฮ้อ ทำ/มรู้สึกแก่ลง ทั้งๆที่เพิ่ง 20 กลางๆเอง นักฟุตบอลที่เราติดตามดูตั้งแต่เด็ก ทั้งที่ชอบและเฉยๆ ทยอยเลิกเล่นไปเรื่อยๆ ต่อไป มีคลื่นลูกใหม่เข้ามาแทน หวังว่าคงจะสร้างผลงานให้เราได้กล่าวถุงตลอดไปนะ เครสโปในความคิดของผม เป็นกองหน้าระดับโลกได้เลย เสียดายที่กองหน้าอาร์เจนตอนนั้น ทั้งเครสโป โลเปซ ปาแลร์โม่ บัลโบ้ โดนเอาไปเทียบกับ บาติโกล มันเลยดูไม่เก่งเลยสะงั้น จากคุณ : ชายหลอน เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 55 01:08:45

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบคุณมากครับ นี่คือนักเตะขวัญใจอันดับ 1 ตลอดกาลของผมเลย เสียดายที่เกิดมายุคเดียวกับบาติโกล ไม่งั้นสถิติในทีมชาติคงถล่มทลายกว่านี้ จากคุณ : via iPhone (บ้าแพะ) เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 55 01:41:09

ความคิดเห็นที่ 55 สุดยอดครับ ถ้าจำไม่ผิด จับบอลให้เชลซีทีแรกก็ทำประตูเลย นัดเยือนวูลฟ์ 5-0 ยิงอาเซน่อลแบบ ซีแมนบินสุดตัวเลย  สวยมากยิง curve แบบ ยิงในเกมยังยาก นัดนั้นแพ้ 2-1 โหม่งในเกมเจอฟูแล่ม-โบโร่-ยิงโมนาโก ผมชอบนะกองหน้าแบบนี้ยิงไกลมันมัน เข้าฮอสเป็น กลางอากาศได้ลุ้นตลอด ตัวตัวเอาอยู่ยาก ตอนนั้นเสียดายไม่ค่อยได้คู่เบงค์เพราะทางเดียวกัน  ผจก.เลยไม่ส่งลง ส่วนมากจะเป็กุ๊ดมากกว่า ยังจำจังหวะหลอกหลังวิลล่า นัดที่แพ้วิลล่า 4-2 ได้เลย สวยมาก พลิก 2 รอบ ปีแรกกับเชลซีผมว่าผ่านเลยนะ กลับมาอีกทีตอนมูปีที่ 2 ผมก็ถือว่าเล่นดี จำได้มีจังหวะนึง ชิฟท์ข้ามหัวประตูหงส์จำไม่ได้ว่าใคร กรรมการยกล้ำเฉยเลย นัดนั้นเล่นในบ้านชนะ2-0  ไม่นั้นลูกนั้นสวยมาก แต่ดรอกบ้ามันเข้าแทคติคกว่า(ปีต่อมาเชว่าคือเหยื่อรายต่อไป5555) โชคดีครับพี่เครสโป จากคุณ : chelsit เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 55 02:03:29

ความคิดเห็นที่ 56 คิดถึงเครสโป แล้วชอบไปจำสลับกับ เคลาดิโอ โลเปซ ทุกที ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ จากคุณ : MiniLee เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 55 08:58:42

ความคิดเห็นที่ 57 ยุคนั้นเล่นวินนิ่งลาซิโอ ...สุดยอดแระ คู่กับโลเปซ จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 55 09:45:10

ความคิดเห็นที่ 58 เคียซ่า เครสโป คันนาวาโร่ ตูราม บุฟฟ่อน เวรอน  เข้าขั้นคลาสสิกแล้วหละสิ สรุก เราแก่แล้ว ใช่ไหมเนี้ย T-T จากคุณ : คนผิดชื่อก้อง เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 55 11:19:18

ความคิดเห็นที่ 59 ปาร์ม่า ยุคนั้นสุดยอดมาก เครสโปนี่กองหน้าในดวงใจเลยครับ ปล. กองหน้าอาเจน นี่ต้องผมยาวเท่านั้นถึงจะเท่ห์ บาติสตูต้า เคลาดิโอ โลเปซ เครสโป คานิคเกีย เมสซี่ ตอนไว้ผมยาวก็เท่ห์ดีนะ ปล. 2 คันนาวาโร่ ตอนอยู่ปาร์ม่า หล่อโคตร จากคุณ : VOLVOB12B เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 55 12:47:22

ความคิดเห็นที่ 60 ชอบครับ กระทุ้มีสาระ จากคุณ : niab เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 55 09:50:26

ความคิดเห็นที่ 61 เดี๋ยวนี้หากองหน้าคลาสแบบนี้ยากจัง เครสโป ราอูล รุด วิเอรี่ จากคุณ : via iPhone (บ้าแพะ) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 55 17:02:44

ความคิดเห็นที่ 62 ค่าตัวรวมกันนี่ทะลุร้อยล้านปอนด์เลยมั้งเนี่ยยยย จากคุณ : hyden เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 55 20:39:49

ความคิดเห็นที่ 63 สุดยอด จากคุณ : dabodabo55 เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 55 00:38:55